ไม่รู้จักกัน

นำภาพแก้วเสด็จมาให้ชมค่ะ มีทั้งเสด็จมาเองที่บ้านและมีคนส่งเสด็จมาให้ รวมๆ กันไปนะ

 

นำภาพสวยๆ มาฝากกันค่ะ
ท้องฟ้าบ้านเราในวันนี้

 

เริ่มเหมันตฤดู บนภูหนาว
โอ้ผู้บ่าว เจ้าจะหนาวเพียงใดหนอ
หากหนาวลม หนาวเนื้อ เสื้ออุ่นพอ
แต่หนาวรอคู่ใจหาใดเทียม
.
.
.
อ้าว...ผิดฤดู นี่มันฤดูฝนจ้า 555

 

ก๊อปมาฝากจากเฟสบุคค่ะ

"อัปสรา" นางฟ้าแห่งสรวงสวรรค์ตามปราสาทวิมานเทวาลัย
.
ในภาษาบาลีจะเรียกนางอัปสราว่า "อัจฉรา" แปลว่า "นางฟ้า" คงด้วยเพราะเห็นว่านางอัปสราอาศัยอยู่บนสวรรค์ ทำหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้ เทวสภาของอินทราเทพในชั้นดุสิต จึงยกให้เธอเป็นนางฟ้า เพราะอยู่ (อาศัย)บนฟ้า (สวรรค์) …
.
นางอัปสรามีสองแบบ แบบแรกคือ “ไทวิกา” (Daivika) หรือจะเรียกให้เต็มปากว่า “นาง (ที่อยู่บน) ฟ้า(สวรรค์)” ก็คงไม่ผิดนัก นางอัปสราประเภทแรกนี้จะเป็นข้ารับใช้ในวิมานของ “พระอินทราเทพ” มีหน้าที่ ร้อง เล่น เต้นระบำ ยั่วยวน บำเรอกามไปจนถึงทำกับข้าว และด้วยเพราะมีคนธรรพ์เป็นผู้บรรเลงดนตรีประกอบการแสดง พวกนางจึงถือโอกาสบำเรอคนธรรพ์ไปด้วยพร้อม ๆ กัน อึ๋ยส์ !!!
.
หลายครั้งนางอัปสราจะได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปล่อลวง ยั่วยวนและบำเรอกามให้มีผู้มีตบะแรงกล้า ให้ลุ่มหลงมัวเมาจนตบะแตก ตามคำสั่งของพระอินทร์ที่ไม่ค่อยอยากให้ใครมีพลังอำนาจมากเกินกว่าตน อย่างเช่นการส่งนางเมนกาและนางรัมภา ไปยั่วยวนพระวิศวามิตรฤๅษี….

 

~ปู่นิลกาฬ~

.....นิชปาลกาฬกัณหามณีนิล.....

.....นาภีทองมณีทาทั่ว.....

.....ปราศกศิลป์ดั่งแร่มณีแดง.....

......แสงไตรมาทาบทั่วแผ่นผืนธารา.....

 

เขาโง่ ไม่ได้แปลว่าเขาตาบอด
เขาดี ไม่ได้แปลว่าจะยอมให้เธอรังแก
...
คนเรา บางครั้งอาจคล้ายพริก สีสวยแต่มีโทสะ

เหมือนผักกาดขาว ซับซ้อนกว่าจะเข้าถึงใจ

เหมือนดอกบัว กว่าจะเห็นเม็ดได้ก็ต้องรอให้กลีบร่วงหมดเสียก่อน

บางครั้ง แสร้งโง่บ้าง แสร้งงงบ้าง แสร้งไม่รู้เรื่องบ้างก็ไม่เป็นไร อยู่ง่ายคิดง่ายอาจสบายกว่าคิดลึก

บางครั้ง รู้มาก เค้นมาก เข้าใจมาก อาจทำให้ยิ่งเจ็บปวด เสียใจ ท้อแท้

ไม่มีใครโง่มากกว่าใคร และไม่มีใครฉลาดไปมากกว่าใคร

☻เพราะบางครั้งที่เขาแสร้งโง่ เพราะเขาไม่อยากให้เรื่องบานปลาย

☻เพราะบางครั้งที่เขาแสร้งโง่ เพราะเขาไม่อยากบอกความจริงให้คุณอับอาย

☻เพราะบางครั้งที่เขาแสร้งโง่ เพราะเขาไม่อยากถือสาหาความ

☻เพราะบางครั้งที่เขาแสร้งโง่ เพราะเขายังอยากถนอมความรู้สึกดีๆที่มีต่อกัน

☻เพราะบางครั้งที่เขาแสร้งโง่ เพราะเขายังอยากให้อภัย ยังมีเยื่อใย
...
คนทำดีย่อมได้ดี
คนโง่มักมีวาสนา!

นุสนธิ์บุคส์

 

เราเกิดมาเพื่อเกื้อกูลกัน แนะนำ ให้ ช่วยเหลือสนับสนุนส่งเสริมเรื่องดีๆ อะไรก็ตามเราทำด้วยจิตด้วยใจ ด้วยความรักด้วยศรัทธา มันมีพลังส่งถึงกันหมด

พลังจักรวาลคือพลังหนุนนำสิ่งดีมาสู่สัมมาทิฏฐิ

 

ฟ้าๆๆ งามตาเมื่อยามเย็น

 

เราทุกคนมาพบกันเพื่อจากลา...

ต่อให้รักกัน ห่วงกัน เกลียดชังกันแค่ไหน สุดท้ายเราล้วนต้องร่ำลาจากกัน...ต่างกันแค่ จากเป็น จากตาย จากร้าย จากดี...และไม่มีใครรู้แน่ว่า วันนั้นถูกกำหนดไว้เมื่อใด...

ดังนั้นสำหรับคนรักกันหวังดี ควรมุ่งทำสิ่งดีมีความหมายต่อกันให้มีค่าควรแก่การจดจำ...

เช่นเดียวกับคนชิงชังหวังร้าย ต้องรีบอโหสิ ให้อภัยหรือแผ่เมตตา อย่าให้ความรุ่มร้อนเผาใจตนเองมอดไหม้จนถึงวันนั้น

 

ในโลกนี้มีสิ่งใดเป็นของเราบ้างเล่า แม้ร่างกายนี้ยังไม่ใช่ของเรา แล้วของที่อยู่นอกกายจะเป็นของเราได้อย่างใด

 

นำเรื่องดีๆ มาฝากค่ะ
จากเพจ...หลวงปู่ฝากไว้ ศิษย์พรหมปัญโญ

กระดูกของยายเจือน คนป่วยธรรมดาๆที่หลานสาวเอาเทปธรรมะของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง มาเปิดให้ยายฟังอยู่ตลอด และเอาสมเด็จองค์ปฐมปางพระนิพพานมาตั้งไว้ให้ยายดูอยู่ตลอดเพื่อให้เป็นพุทธานุสติ

แม้นว่ายายจะพูดไม่ได้ขยับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีอาการของคนที่เป็นอัลไซเมอร์ และมีอาการของคนที่เป็นอัมพฤกษ์ จริงๆแล้วมากกว่าอัมพฤกษ์ จริงๆแล้วน่าจะเป็นอัมพาต แต่ที่ไม่เป็นอัมพาตเพราะว่ายายสามารถขยับมือทั้งสองข้างได้

แต่ด้วยความอุตสาหะของหลานสาวก็ยังเอาเทปธรรมะของหลวงพ่อใส่หูฟังให้ยายฟังอยู่ทุกวี่ทุกวัน ไม่ว่ายายจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ก็ตามไม่ว่าประสาทรับรู้ของยายจะใช้ได้ผลเหมือนคนปกติทั่วไปหรือไม่ก็ตาม แต่ปรากฏว่าเมื่อยายเจือนได้ถึงแก่มรณาของชีวิต เมื่อฌาปนกิจศพของยาย ปรากฏว่ากระดูกของยายกลายเป็นพระธาตุ1องค์ และกระดูกชิ้นอื่นๆที่เป็นกระดูกธรรมดาก็มาแปรสภาพเป็นพระธาตุในภายหลัง ค่อยๆแปรอย่างเป็นธรรมชาติ

และยายก็ได้มาเข้าฝันหลานสาวแนะนำในการปฏิบัติตรงจุดเดียวคือตัดสักกายทิฐิแค่ตัวเดียวคือหัวใจของพระพุทธศาสนา และยายก็ได้มาเข้าฝันบอกหลานสาวเพื่อรับรองว่ายายไปนิพพานแล้ว ยายบอกกับหลานสาวในฝันว่ายายบรรลุเข้าอรหัตตผลจนทำให้สังขารร่างกายของยายไม่สามารถรองรับพระสมณะธรรมอันยิ่งใหญ่ได้ จึงต้องทิ้งสังขารเอาไว้ให้โลกนี้ส่วนดวงจิตที่วิสุทธิก็ไปอยู่แดนบรมสุขที่พระพุทธเจ้า หลวงพ่อพระราชพรหมยาน และพระอรหันต์ทั้งหมดเสด็จไปอยู่ดีแล้ว

เรื่องนี้เป็นกำลังใจให้ลูกหลานหลวงพ่อเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเรายิ่งมั่นใจและมั่นคงในคำสอนของหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง เราจะทำตามคำสอนของหลวงพ่ออย่างสุดชีวิต ชีวิตนี้ขออุทิศเพื่อพระนิพพานในชาติปัจจุบันตายจากชาตินี้เมื่อไหร่สิ้นลมหายใจเมื่อไหร่ขอไปพระนิพพานที่เดียวเท่านั้น เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าคำสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุงว่าท่านสอนได้ตรง ว่าท่านสอนได้ถูกต้องตามคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนิพพานมีจริง คนธรรมดาๆสามัญสามารถเข้าสู่พระอริยเจ้าได้และไปพระนิพพานได้จริง

การปฏิบัติไม่ได้ยากอย่างที่เราคิด เพียงแค่เราอุทิศทั้งชีวิตก็พอ

_/|\_

 

นำภาพสวยๆ มาฝากค่ะ

"พญานาคเผือก" แลนด์มาร์คใหม่ อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ จ. สกลนคร

ที่ตั้ง : อุทยาน หนองหารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร เลขที่ 59 หมู่ 1 ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร

การเดินทาง : อุทยานอยู่ห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 20 กิโลเมตร ถนนหมายเลขที่ 22 ถนนสายสกลนคร-นครพนม ตัดผ่าน ระหว่างหลัก กม.ที่ 167-168 และห่างจากกรุงเทพฯ 650 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้ด้วยเส้นทาง

เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30–16.30 น., วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-18.00 น. (ยกเว้นห้องนิทรรศการบัว ปิดวันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์)

ขอบคุณเครดิตจากเพจ มหัศจรรย์สกลนคร

 

ชีวิตคนเราไม่ได้ง่าย เหมือนในละคร...

อย่าหัวเราะเยาะคนอื่น เพราะต่างคนต่างก็มี สิ่งที่ต้องข้ามผ่าน

ในความง่ายของเรา เขากลับมองเป็นเรื่องยาก

ในความยากของเรา เขากลับมองเป็นเรื่องง่าย

คนที่โดดเด่นเป็นสง่าในปัจจุบัน เบื้องหลังเขาเหล่านั้นต้องหวานอมขมกลืนมาสักเท่าไหร่

ต่อให้ดูเหมือนมีความสุขและมีวาสนา ในจิตใจของเขาอาจมีสิ่งที่ยากจะอธิบายให้ใครฟังได้

ไม่ว่าเป็นชีวิตของใคร ต่างก็ไม่ได้ง่ายเลย

หัวเราะเยาะคนอื่น ก็เหมือนหัวเราะเยาะตัวเอง

เคารพคนอื่น ก็คือการเคารพตัวเอง

ชีวิตใครเพียบพร้อมสมบูรณ์ ชีวิตใครไม่เคยเหน็บหนาว

ใครรับประกันว่า..ชีวิตนี้จะสมหวังเสมอไป!

เป็นมนุษย์ ควรมีความจริงใจ มีไมตรี

คนเรา มีชีวิตเพื่อพิสูจน์ตัวเอง อย่าหวังให้ใครมาเข้าใจตัวเรา เพราะบางครั้ง แม้แต่ตัวเรา ก็ยังไม่เข้าใจตัวเราเองเลย

ในยามทุกข์ ในยามเหนื่อยล้า จงรู้จักปลอบตัวเอง ต่อให้ไม่มีใครรัก ก็ต้องเข้มแข็ง

ไม่มีใครปรบมือให้ ก็ต้องยืดอกแสดงให้เต็มที่

ไม่มีใครชื่นชม ก็ต้องรักษาความดีงามนั้นไว้

บุพเพฯ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ต้องมีใจต่อกัน

มิตรสหาย ไม่ใช่คบตามอำเภอใจ แต่ต้องศรัทธาต่อกัน

ที่ทำดีกับคุณ..ก็เพราะใส่ใจ มิใช่ติดหนี้คุณ

คนบางคน คบมาตั้งนาน แต่ไม่เคยได้ความจริงใจ
~จงเลิกคบแล้วเดินจากไป~
.
.
.
เครดิต....เฟสบุคชื่นศิริ

 

27 มิย. 2017

เมื่อสองคืนก่อนนอนเที่ยงคืน หลับตาสวดมนต์ในสมาธิเหมือนเคย แล้วจู่ๆ ก็แว้บภาพของหญิงงามนางหนึ่ง พร้อมบริวารหญิงนั่งขนาบข้างละคน หญิงนางนี้ดูสูงศักดิ์ ที่จำได้ติดตาคือผ้าที่นุ่งนั้นเป็นลวดลายนูนสูงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดสีเขียวมรกต ลวดลายเหมือนเกล็ดพญานาค มีผ้าคาดอกสีเปลือกมุก ใบหน้ารูปไข่ ผิวขาวนวลละเอียด ผมสีดำเกล้าสูงมีเครื่องประดับทองคำ มือขวาท้าวสะเอว ส่วนมือซ้ายปล่อยข้างลำตัว รูปร่างท่านไม่อ้วนไม่ผอม เอวคอด สะโพกกลมผาย ท่านยิ้มให้

เห็นแค่แว้บเดียวจริงๆ แต่ภาพยังติดตา งดงามตรึงใจ ก็เลยไปถามคนๆ หนึ่ง ได้รับสื่อมาว่าคือ ท่านย่าศรีปทุมมา แล้วท่านก็เอ่ยนาม...มณีจันทร์ แค่นั้น ไม่บอกอะไรอีก บอกแค่ว่าเราจะรู้เองต่อไป....งงซิ

ไปเกี่ยวกันท่าไหน ท่านจึงมาปรากฏในนิมิตสมาธิ

ท่านงามจริงๆ ทั้งผ้าที่นุ่งห่มก็งดงาม สีเขียวมรกตเป็นประกายเรืองรอง ไม่เหมือนตามภาพที่วาดๆ กัน
.
.
.
ขอบคุณภาพจาก....พิพิธภัณฑ์เทพศรียันตรา

 

วัดถ้ำป่าไผ่ ลี้ ลำพูน มีคนบอกให้ไป เพราะที่นี่มีของๆ เราอยู่ งงเด้

ที่ถ้ำนี้มีคูหาที่เหมือนห้อง เป็นห้องอภิญญาใหญ่ ใครที่ไปนั่งสมาธิบริเวณนี้ หากเคยได้อภิญญามาจากอดีตชาติ ของเก่าจะคืนกลับมาทั้งหมด

เสียดายตอนที่ไปไม่มีกล้องไปด้วย ก็เลยไม่ได้ถ่ายภาพภายในถ้ำมาให้ชมกัน สวยงามมาก มีหินงอกเป็นพระมาลาของพระนเรศวรที่ถูกข้าศึกฟัน เป็นพระมาลาเบี่ยงด้วยหนอ

รอยพระพุทธบาทจะอยู่เลยถ้ำขึ้นไป ประทับไว้บนยอดภู

ถ้ามีโอกาสได้ไปอีกครั้ง จะเก็บภาพมาให้ชมกันค่ะ

 

~คติจีน~

จะพูดจะจาใช้ความคิด ทำงานให้ดี พูดให้ระวังปาก หลากเรื่องราวจะดีจะร้ายล้วนเพราะปาก อย่าพูดเพียงเพื่อสะใจ ท้ายที่สุดจะเป็นที่เย้ยหยัน

ในโลกนี้ไม่มีการรักที่ไร้เหตุผล และไม่มีการเกลียดที่ไร้เหตุผล อย่าเข้าร่วมการวิพากษ์วิจารณ์คน เพียงรู้ดีในใจเป็นพอ ไม่มีใครสามารถตัดสินว่าใครดีใครเลวได้ง่ายๆ พูดถึงที่สุดแล้วก็ล้วนผลประโยชน์ พึงอย่าโดดลงไปคลุก

ทำทุกเรื่องควรเคารพกติกา แม้ขโมยก็ยังรู้ว่ามีบางอย่างขโมยไม่ได้ ดังนั้น ทำอะไรอย่าขึงจนสุด เหลือทางถอยไว้บ้าง ให้คนอื่นมีทางถอยนั้นคือการกวาดอุปสรรคให้พ้นทางเราเองด้วยเช่นกัน

ต่อคนที่มักชอบหาเรื่องหรือกระทั่งข่มเหงรังควานคุณ ทนได้ก็ทน ไม่จำเป็นต้องไปมีเรื่องกับคนพาลสันดานหยาบ แต่ต้องมองอย่างเข้าใจ เก็บข้อมูลหลักฐาน มีโอกาสก็ให้บทเรียนทางกฎหมาย สอนให้เขารู้ว่า “นอกจากพ่อเอ็งแล้ว ไม่มีใครจะตามใจเอ็งในนิสัยเลวๆ นี้”

มีบางคนชอบเอาเปรียบ คนกระจอกไส้เล็ก คนยิ่งใหญ่ใจใหญ่ สั่งสอนเมื่อทำได้ ให้เขารู้ว่า ในโลกนี้ไม่มีใครให้เอาเปรียบกันได้ง่ายๆ

กระสุนมาข้างหน้าหลบหลีกง่าย ธนูซุ่มยิงป้องกันยาก คนที่จ้องทำร้ายคุณลับหลังนั้นไม่มีวันหมดไป คนพาลคนกระจอกพวกนั้นหลีกได้เป็นหลีก ถอยสักก้าวฟ้ากว้างทางไกล มีเรื่องกับคนกระจอกงอกง่อยรำคาญใจ จนถูกล่วงเกินมากๆ จึงตอบโต้อย่างมีหลักการ ให้เขารู้ว่าการเอาเปรียบรังแกคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องทำได้ตามใจ

หาเงินเพื่อใช้ ใช้เงินให้เป็น อย่าขี้ตืดขี้งกจนขี้โกง สุดท้ายโลภมากก็ไม่เหลืออะไร

คนที่ชมคุณลับหลัง หากรู้แล้วให้ตรึงไว้ในใจ คนที่ชมคุณต่อหน้าเรียกว่าประจบ ถ้าหนักๆ คือสอพลอ เพียงยิ้มแล้วผ่านเลย คนที่ชมคุณต่อหน้าธารกำนัลต้องระวัง เป็นไปได้สูงว่าพอคุณหันหลัง เขาก็ชี้นิ้วว่าร้ายคุณ ยึดหลักการข้อหนึ่งคือ "ถ่อมตน~ ไม่ประจบ"

คนที่ป่วยทางจิตไม่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย อาจจะกัดคุณโดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น ต้องหลีกให้ห่างจากคนที่มีนิสัยเหมือนหมาบ้า ไม่ไปมาหาสู่

ทำตัวเป็นคนเฝ้าดูชีวิต กล่าวให้ถึงที่สุดคือ ทำดีกับคน ชนะใจคนด้วยคุณธรรม หลีกให้ห่างจากการว่าร้าย ใส่ใจคนในครอบครัว มองคนมองโลกด้วยใจกว้าง มองในแง่ดี ไม่ร่วมคลุกคลีในความวุ่นวายของโลก

อย่าให้หน้าที่การงานกระทบคนในครอบครัว ยิ่งต้องไม่ให้ปัญหาในครอบครัวกระทบการงาน จะเสียหายหมดทั้งสองทาง

คนที่เคยหลอกคุณสักครั้งได้ ย่อมไม่ละทิ้งครั้งที่สอง อย่าฝันหวานกับคนหลอกลวง ต้องมีความรู้และรู้ทัน สงบนิ่ง เพื่อคนลวงไม่กล้าเข้าใกล้คุณ

โหดกับตัวเองสักหน่อย สิ่งใดควรลืมก็ลืมให้สิ้น สิ่งใดควรตัดให้ขาดก็ตัดให้ขาด ใช่ว่าคนทุกคนจะเป็นมิตรแท้ที่จริงใจได้ คนโกหกหลอกลวงไม่จริงใจนั้นไม่อาจเป็นเพื่อนแท้ได้ ควรจะตัดให้ขาด ไม่เช่นนั้นอาจบาดเจ็บซ้ำซาก และจะได้แต่คำว่า “สมน้ำหน้า”

 

๐ ขอสิทธิ์ชิดใกล้..แค่ในฝัน ๐

๐ แห่งห้วงฝันบันดาลแต่หวานชื่น
แผ่วสะอื้นปวดปร่าก็หาไม่
รอยยิ้ม อบอุ่นละมุนละไม-
ขึ้นโน้มน้าวเหนี่ยวใจ ให้ผูกพัน

๐ เพียงลอบสื่อส่งจิตความคิดถึง
ลอบรําพึงคําหอมเพื่อจอมขวัญ
วิสาสะทึกทักว่ารักกัน
แม้ผู้เดียวต้องทัณฑ์ก็ยินยอม

๐ รู้ทั้งรู้ ความจริงมิเป็นจริง
รู้ คงถูกทอดทิ้ง ทั้งถนอม
ถ้วนห้องใจภิรมย์ในตรมตรอม
ทว่าพร้อมเจ็บลึกรู้สึกนี้

๐ ขอเพียงสิทธิ์ชิดใกล้แค่ในฝัน
มิอาจหาญดื้อรั้นร่วมวิถี
เธอคือแสงส่องผ่านมานานปี
รู้ไว้เถิดคนดี ที่ศรัทธา

๐ เสมือนสุขทั้งปวงนั้นลวงจิต
แต่นั้นคือชีวิตอันปรารถนา
มิอาจเอื้อมหมายใจจะไขว่คว้า
กลัวแววตาเฉยนิ่งแลชิงชัง

๐ จะซ่อนรักภักดีถึงที่สุด
สานสมมุติชื่นชมว่าสมหวัง
ขอปราบปลื้มดื่มดํ่าโดยลําพัง
สบรอยยิ้มในภวังค์ ก็เพียงพอ
.
.
.
ก๊อปเค้ามาซิคะ...คริคริ

 

เอาภาพสวยๆ มาฝากกันค่ะ
วัดอโศการาม สมุทรปราการ

 

...เล่าสู่กันฟัง...

เพิ่งรู้ว่าคนห่างวัดกับคนใกล้วัดแตกต่างกันอย่างไรก็วันนี้ ผู้ภาวนาเนืองๆ กับผู้ขาดภาวนา ต่างกันจริงๆ

ตอนที่ไปถึงวัดฟ้าครึ้มทีเดียวเชียว คล้ายฝนจะตก
พอเดินเวียนประทักษิณรอบพระธุตังคเจดีย์สามรอบ ประกอบด้วยคำบริกรรมบทอิติปิโสฯ 3 ห้อง

รอบแรกจิตไม่อินกับคำบริกรรม เหงื่อไหลเป็นน้ำ ธาตุไฟพลุ่งพล่าน พอรอบที่สอง พยศของจิตก็ค่อยสงบลง รอบที่สามจิตนิ่งสนิท สงบราบคาบ พร้อมๆ กับสายลมพัดแผ่วกระทบผิวหนัง ความร้อนมลายหายสิ้น เดินครบสามรอบ ฟ้าสว่าง....กายสังวร จิตสังวร

ไปคนเดียว กลับคนเดียว เดี๋ยวนี้มีผู้ไปปฏิบัติธรรมเยอะ สัปปายะ 4

จิตตภาวนาเป็นจิตที่สงบ แต่ใช่ว่ากายจะไม่เคลื่อนไหว

 

เรื่องของชาวบ้านมีอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง เรื่องของกายจิตตนทั้งชีวิตยังไม่แจ้ง เวลาของชีวิตไม่ได้มีมากมาย เอาเวลาที่เหลือไปเตรียมตัวตายดีกว่า

ศีลเป็นฐานของสมาธิ นิวรณ์เป็นข้าศึกของสมาธิ สมาธิเป็นฐานของสติ สติเป็นฐานของปัญญา ปัญญาพาล่วงพ้นทุกข์

กิเลสเปรียบได้ดั่งไฟ มันร้อน ทุกพื้นที่บนโลกไม่มีที่ใดเลยที่ไม่มีไฟไหม้ ถ้าไม่อยากถูกเผา อย่าเอาไฟมาใส่ใจ