แจกฟรี CD ธรรมะ ของท่านพุทโธ ว.ญาณ มีทั้งหมด 19 ตอน

อนุโมทนาด้วยค่ะ
ขอรับ 1 ชุดค่ะ

นางสาว กนกวรรณ อรุณศรีโสภณ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​

ที่อยู่ สองพระอพ๊าตเม้นท์ 240 ซอยสองพระ ถนนสี่พระยา<o></o>​

แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก<o></o>​

จังหวัดกรุงเทพฯ (ห้อง 403)<o></o>​

รหัสไปรษณีย์ 10500<o></o>​

 

ขออนุโมทนาบุญกับท่าน ที่ท่านได้กระทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ บุญกุศลที่ท่านได้ทำในครั้งนี้ขอให้ท่านเจริญในศีลในธรรม ทั้งทางโลกและทางธรรม ขอให้มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ และขอให้เข้าถึงพระนิพพานโดยเร็วไวด้วยเทอญ

ชื่อ นาย ปริญญา กันทะโน
ที่อยู่ 73 หมู่ 6 ต.บงตัน อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ รหัส 50260

ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้อย่างสูงนะครับท่าน

 

ขอรบกวนรับด้วย 1 ชุดค่ะ

วรรณชนก บุณยรัตพันธุ์
219/167 หมู่บ้านอักษรา ซอย 24 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย
ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง นนทบุรี
11110

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 

ขอแจ้งเรื่องการจัดส่ง CD ไปให้ทุกท่าน ทางเราส่ง CD บรรยายธรรม ของ ท่านพุทโธ ว.ญาณ ให้ทุกท่านหมดแล้วทุกท่าน ทั้งหมด 55 แผ่นค่ะ หากไม่ได้รับประการใดกรุณาแจ้งมาที่นี่ หรือ PM มาหา MayBuddhaBlessYou ได้ค่ะ ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยค่ะ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป ขอให้ได้พระนิพพานในชาตินี้ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเทอญ สาธุ สาธุ

PS : สำหรับท่านต่อไป หากขอมา ทางเราขอดำเนินการจัดส่งให้เมื่อถึงวาระอันควรค่ะ ขอให้ลงชื่อไว้ได้เลยค่ะ รับรองได้รับทุกท่านค่ะ

 

อนุโมทนาครับขอรับ 1 ชุดครับ
นาย ศิวพงศ์ ปิ่นทองพันธุ์
102 ม.2 ต.หานโพธิ์
อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง
93130

 

อนุโมทนาค่ะ
ขอรับ ๑ ชุด
กรุณาส่ง
คุณรจนา พุ่มจันทร์
โรงเรียนเลิงนกทา
อำเภอเลิงนกทา
จังหวัดยโสธร
๓๕๑๒๐
ขอบพระคุณมากค่ะ

 

ขออนุโมทนาค่ะ ขอรับ CD ธรรมะ 1 ชุด ค่ะ

พรรณี เกิดบัณฑิต

96/11 ถนนงามวงศ์วาน

ตำบลบางเขน อำเภอ เมือง

จังหวัดนนทบุรี 11000

ขอบคุณค่ะ

 

ขออนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนาบุญครับ ขอรับ 1ชุดครับ

นาย ดุลยพงษ์ ดวงทาทอน 61 มหาวิทยาลัยศรีปทุม สำนักงานอาคารสถานที่ ถ.พหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขต จตุจักร กรุงเททพมหานคร 10900

ขอบคุณและอนุโมทนาครับ

 

ขออนุโมทนาครับ

กรุณาส่งมาที่ สมาคมพุทธเมตตาเทวาสงเคราะห์

100/3 ถนนคีรีรัฐ ตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย 42000

 

ได้รับ cd เรียบร้อยแล้วครับ
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
และขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

อนุโมทนาด้วยครับ ขอ2ชุดครับจะเอาไปให้คนต่างจังหวัด
มรกต เอี่ยมสอาด
37แยก8 ถ.เพชรเกษม69 เขตหนองแขม แขวงหนองค้างพลู กรุงเทพ 10160

 

ได้รับแล้วค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

 

ได้รับซีดีแล้วนะคะ
ขออนุโมทนาบุญกุศล และขอบพระคุณมากค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขอรับ 2 ชุดค่ะ
ษุภกาล สุวรรณล้ำสกุล
58/99 หมู่บ้านลีลาวดี ซ.พหลโยธิน 54/1
ถ.พหลโยธิน สายไหม กทม.10220
ขอบคุณค่ะ

 

ขออนุโมทนาครับ ขอรับ 2 ชุดครับ

ที่อยู่.นายกันต์ภัสสรณ์ อังคเมธากร ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขาตรัง(เขต32)
35-37 ถ.ราชดำเนิน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง 92000

 

ขออนุโมทนาบุญ 1 ชุดคับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
นาย ชวโรจน์<o></o>
พีที เฮ้าส์ ห้อง 103<o></o>
155/1 หมู่ 1 ซ.อ่าวอุดม5<o></o>
ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา <o></o>
จ.ชลบุรี<o></o>
20230

 

ขออนุโมทนา...
ด.ต.วีระศักดิ์ ศักดิ์ธนภักดี
สภ.บ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา 24140

 

ตัวอย่างถอดเทปธรรมะบรรยาย จากท่านพุทโธ ว.ญาน ตอนหนึ่งค่ะ


ธรรมะบรรยาย เรื่องอนิิจจัง ทุกขัง อนััตตา โดยท่านพุทโธ ว.ญาณ



ขอเชิญดาวน์โหลดไฟล์เสียงโดยคลิ๊กด้านล่างนี้ค่ะ

อบรม " อนิจจัง ทุกขัง อนััตตา " - Buddhism Audio

ธรรมะบรรยาย : เรื่อง อนิจจังทุกขัง อนัตตา
ผู้บรรยาย : ท่านพุทโธ ว.ญาณ
ถอดเทปบรรยาย : เจน (MayBuddhaBlessYou)


อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ด้วยกันถ้วนหน้า หากไปสนใจหรือเอะใจขึ้นมาแล้ว ความเพียรก็จะสะดุดเช่นเดียวกัน เพราะว่ามันไปเอะใจ มาศัพท์แสงของบาลี เราจึงจำเป็นที่จะต้องรู้เท่าทันมัน หากไม่รู้เท่าทันมันแล้วเราก็พยายามที่จะกระโจนเข้าไป พยายามที่จะรู้ถึงความหมายของมัน อยากจะจับเอาข้อความ จำเอาข้อความเหล่านั้นมา มันเลยทิ้งพุทโธแล้วไปจับเอาศัพท์แสงของบาลีนั้น กิเลสมันก็ ทำให้เราทิ้งความเพียร ทิ้งพุทโธ แล้วไปให้ความสนใจกับมัน เพราะเมื่อก่อนนี้มันเคยได้รับความสนใจจากเราเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าเรื่องอะไรเราจะสนใจกระโจนข้าไปหามันทันที อันนี้ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่เป็นมารยาของกิเลศทั้งหลาย ขอให้รู้เท่าทันมันให้ได้ การรู้เท่าทันมันนั่นแหล่ะ ก็คือเพียงแต่รู้ไม่ให้เข้าไปยึดไปเกาะมัน อันนี้เป็นวิธีการที่ถูกต้อง ห้ามใส่ใจห้ามสนใจ


หน้าที่ของเราคือคุมพุทโธคุมจิตของเราให้ได้ตลอดเวลา เพราะการปฏิบัติปฏิบัติเพื่อการปล่อยวางไม่ใช่หรือ จะมายึดมาเกาะอะไรไม่ได้เลย ทำไปวันต่อวัน วันต่อวัน มันไม่หนัก แต่ถ้าทำไปยึดไป ทำไปยึดไป มีแต่หนัก นี่เขาเรียกว่าทำความเพียรเพื่อการปล่อยวางไม่ใช่เพียรเพื่อการยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งทั้งหลายทั้งมวล ชาวโลกเขาทำทุกสิ่งทุกอย่างเอการยึดมั่นถือมั่นเพื่อแสดงตัวเป็นเจ้าข้างเจ้าของ แต่กระทำธรรมนั้นมีแต่เบายางมีแต่วาง เพราะไม่ได้เข้าไปยึดถือ ปฏิบัติเพื่อการรู้แจ้งในธรรม เมื่อถึงที่สุดก็ต้องวางธรรม เป็นอันดับสุดท้ายเพื่อที่จะได้เข้าไปสู่กระแสพระนิพพาน เข้าไปบรรลุธรรมในขั้นสุดท้ายก็คือต้องวางธรรมนั่นเอง เขาวางกันเป็นทอด ๆ ตลอดเวลาเขาวางกันอยู่แล้ว วางอยู่เรื่อยไป ไม่ปฏิบัติด้วยความหนัก แต่ปฏิบัติด้วยการวางจึงมีความรู้สึกเบากายเบาใจอยู่ตลอดเวลา ถ้าการปฏิบัติถ้าปฏิบัติแล้วรู้สึกเบากายเบาใจ ไม่มีความหนักความหน่วงเกิดขึ้นในจิตใจ ได้ชื่อว่าปฏิบัติได้ถูกต้อง ดีงาม ไฟโลภะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ ย่อมทุเลาเบาบาง เบาบางลงไปเป็นลำดับอย่างไม่ต้องสงสัย


เมื่อไฟ 3 กองนี้ลดกำแรงลงของไฟไปแล้ว จึงจะได้เห็นความสุข เบากาย เบาใจ เกิดขึ้น อย่างเห็นได้ชัด เราปฏิบัติเพื่อวางไฟ 3 กองนี้ เพราะไฟ 3 กองนี่แหล่ะที่ทำให้เราเดือดเนื้อร้อนใจ อยู่ตลอดเวลา แม้นดุภายนอกดูเหมือนได้รับความสุขสงบสบาย แต่ข้างในอาจจะคลุกกรุ่นก็ได้ ร่างกายเหมือนเตาอบ ความร้อนในจิตในใจ ที่มันคลุกกรุ่นด้วยความร้อนของไฟโลภะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ คอยประทุอยู่ตลอดเวลาเมื่อมันมีความอยากขึ้นมา ไฟเหล่านี้ย่อมกระพือความรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น อำนาจของมันมีมากมาย สามารถทำลายตนยังไม่พอ สามารถทำรายทำลายผู้อื่นได้อีกมากหน้าหลายตาหากเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะจึงสามารถดุแลไฟ 3 กองนี้ ไม่ให้ทำร้านทำลายเผาใจตน และทำร้ายทำลายเผาใจผู้อื่น ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ไฟในจำนวน 3 กองนี้ คือไฟโลภะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ ไฟที่ร้ายแรงมีความรุนแรงมาก คือไฟโมหะ คือความหลง แม้ว่าจะตกสู้กระแสพระนิพพานแล้ว ไฟโมหะก็จะติดตามไปสู่ภูมิของอริยะเจ้าเบื้องต้น ส่วนไฟไฟโลภะ ไฟโทสะ ยังมีเชื้อเล็ก ๆ น้อยๆ ของไฟโมหะคือความหลงอยู่ ยังไม่สามารถทำให้มันดับสนิทราบคาบไปได้ เพราะไฟโมหะนี่แหล่ะมันเข้าไปได้ทุกอนูขุมขน คำว่าหลงตัวเองก็คืออำนาจของความหลงตัวกูตัวมานะ มันเข้าไปได้ ทั้งมด หลงเข้าไปกระทำผิด หลงเข้าไปกระทำสิ่งไม่ดีที่เราไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน แม้กระทั่งทำความดีเข้าไปก็ยังมีความหลงเช่นเดียวกัน ทั้งดีและชั่วทั้งหยาบและละเอียดแต่เมื่อมาถึงขั้นของผู้ตกกระแสพระนิพพานมีความบางเบา แต่ยังคงหลงเหลืออยู่ จึงบอกว่าไฟโมหะนี่ดับได้ยาก

 

ดังนั้นจึงบอกให้เราเพิ่มความเพียรพยายามให้มากขึ้น มากขึ้น ต้องสอดส่องดูแลดูซิว่าจะมีไฟอะไรที่มาเผากายเผาใจ จะได้เพียรเข้าไปดับด้วยความมีสติสัมปชัญญะ อย่ายอมให้มันเผาใจเราอยู่ตลอดเวลา คนที่เดือดร้อนก็คือตัวของเราเอง หาใช่คนอื่นไม่ ดังนั้นจึงเพียรมีสติให้สืบทอดต่อเนื่องตลอดเวลาต้องอาศัยอำนาจสติเท่านั้นที่จะสามารถดับไฟโมหะ ได้อย่างราบคาบ ดังนั้นจึงพยายามบอกให้พวกเราเข้าใจว่า เราเป็นปุถุชนคนธรรมดา การที่จะดับไฟ 3 กองนี้ แม้มันดับไม่ได้ต้องให้เข้าใจว่ามันสามารถดับได้ยาก แม้กระทั่งภูมิของพระอริยะเจ้าเบื้องต้นนี้ก็สามารถดับมันได้ยากสนิท นับประสาอะไรกับปุถุชนเช่นเดียวกับพวกเรานี่ เราดับไม่ได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นต้องเข้าใจว่า แม้จะพยายามอย่างไรก็ยังมี ไฟโลภะ ไฟโทสะ ไฟโมหะอยู่ และจะมาคิดว่าเราปฏิบัติแล้ว หาความคืบหน้าของการประพฤติปฏิบัติอยู่ ว่าทำไมไฟสามกองนี้มันยังดำเนินขึ้นอยู่ในใจของเราได้ ทั้งๆ ที่พยายามทำความเพียรอยู่ตลอกเวลาดังนั้นก็ให้พยายามทำความเข้าใจด้วย ฉะนั้นการมานั่งอยู่ในสถานที่นี้ก็ได้ชื่อว่าเรามีความเพียรที่จะปฏิบัติให้ถูกทิศถูกแนวทางเพื่อมรรคผลนิพพาน


อันนี้เป็นความดีของเราทุกคนที่พยายามศึกษาค้นคว้า หาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เป็นเหมือนแสงเทียนส่องปัญญา เพื่อจะได้ประพฤติปฏิบัติไม่ให้ผิดพลาดเพื่อไม่ให้เสียเวลาในการประพฤติปฏิบัติจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ อันนี้ก็เป็นความฉลาดของพวกเรา เมื่อเรากำลังมันน้อย แต่ก็ค่อยๆ สะสมสติปัญญาของเราโดยการได้รับการชี้แนะจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์นำไปประพฤติปฏิบัติฝึกฝนอบรม จนมีกำลังสติปัญญาสว่างไสวจากการประพฤติปฏิบัติ เราจึงจะเห็นแนวทางว่าการประพฤติปฏิบัติก้าวหน้ามากน้อยขนาดไหน ย่อมเห็นได้จากในจิตในใจของเรานั่นเอง แม้นบางครั้งดูเหมือนจะไม่พัฒนาแต่เป็นเพราะความอยากที่ยากเข้าถึงมรรคผลนิพพานอย่างมาก แม้นว่ากิเลสมันได้เบาบางลงไปพอควรแล้ว แต่เราก็ไม่รู้ว่ากิเลสนั้นมันได้ถูกบั่นทอนอำนาจตัวกูของกูไปได้เป็นบางส่วนแล้ว แต่เนื่องจากกิเลสก็ได้ชื่อว่าเป็นนามตัวหนึ่งเป็นนามธรรม ที่เรากำจัดมันออกไปจากจิตจากใจ มันจึงไม่ค่อยมีความรู้สึกว่ามันได้ลดน้อยถอยลงไปบ้างเลย นี่เป็นเรื่องของนาม กิเลสเป็นนามตัวหนึ่ง มีหมื่นตัวแสนตัวก็เต็มหัวใจหัวใจ มีหนึ่งตัวก็เต็มจิตเต็มใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะมาอาศัยความรู้สึกว่ามันคงเส้นคงว่านั้นย่อมเป็นไม่ได้ แต่ถ้าเราปฏิบัติแล้วเรามีความเย็นการเย็นใจ มีความนิ่งของจิตให้เห็น มีความสุขสงบในการปฏิบัติ มีสติสัมปชัญญะที่คอยควบคุมดูแลกาย วาจา ใจ ของเรา นั่นแหล่ะคือความถูกต้องแม่นยำที่ราได้ วางหลักจิตของเราได้อย่างถูกต้อง สิ่งเหล่านี้จึงปรากฏขึ้นมีเป็นขณะที่ได้ประพฤติปฏิบัติไป

 

การประพฤติปฏิบัตินี้มีได้ทุกกาลเวลาสถานที่ กิเลศมันก็ทำงานบนหัวใจของเรามันไม่ได้เลือกกาลเวลาสถานที่ มันต้องให้มีความรู้สึกว่าประพฤติปฏิบัติต้องให้ทันกิเลสที่มันคอยย่ำยี่หัวใจเรา ไม่มีการ เวลาสถานที่ เราก็ของตนนั่นเอง ควรจะปฏิบัติไม่มีกาลเวลาสถานที่เช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นไม่สามารถต้านทานกิเลศ แม้แต่ตัวเดียวได้ ตัวเราเองเป็นเจ้าของใจต้องใช้สตินี่แหล่ะมาคุ้มครองใจคุ้มครองจิต จึงจะได้รู้ว่าตัวของเรามีจุดแข็งจุดอ่อนตรงไหน จงคิดทบทวนพิจารณาดูที่จิตของตนนั่นเอง ดูที่จิตว่ามีสุขหรือมีทุกข์หากมันมีสุขนี่ก็ได้ชื่อว่าหลงไปยึดเอาสุขอันเป็นเหยื่อล่อของกิเลศเข้าไปแล้ว หากจิตนี้มีความทุกข์ ก็เชื่อว่าหลงเหยื่อล่อของกิเลศเข้าไปแล้วเช่นเดียวกัน สุขกับทุกข์ก็คือเหยื่อล่อของกิเลศดีๆ นี่เอง ตลอดเวลานี้เราพยายามออกจากทุกข์ พยายามที่จะไขว่คว้าเรื่องสุข แม้จะไม่ตะครุบเอาทุกข์แต่ไปตะครุบเอาสุข แม้จะสุขแต่ก็จะสุขไม่นานแปรปรวนไปเป็นทุกข์เช่นเดียวกัน จึงได้ชื่อว่าตัวของเราไม่ได้ห่างจากทุกข์เลย แต่เราไม่รู้จักทุกข์ที่แท้จริง ก็เพียรตะครุบเอาตะครุบเอา นี่เค้าเรียกว่าโมหะครอบงำจิตใจของมนุษย์ ที่เรียกว่าโมหะ มันไม่หนีไม่พ้นเลย คำว่าโมหะ คำว่าหลงนี่ มันยิ่งใหญ่มีฤทธานุภาพมากที่สุดในบรรดาไฟ 3 กองนี้ หลงในรูป ในกลิ่น ในรส ในสียง ดูซินั่น มันสำคัญขนาดไหนไฟโมหะ แม้มันจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน อันตรายขนาดไหน แต่ก็ยังมีบุคคลที่สามารถขจัดมันออกจากจิตจากใจได้โดยสมบูรณ์ เช่นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา และพระอริยะเจ้าทั้งหลายก็ คือพระอรหันต์ ในเรื่องของความเพียรพยายาม ที่พยายามที่จะมีชัยชนะกิเลศ กำลังที่จะใช้ประหัตถ์ ประหารกิเลศนั้นแต่ละคนจะใช้ไม่เท่ากัน บางคนทำในปัจจุบันนี้ทำไม่มากนี้แต่ก็สามารถบรรลุธรรมได้ บางคนทำแทบตายจนคิดว่าชาตินี้อาจจะไม่มีหวัง แต่ท้ายที่สุดก็สมหวังมันมีความแตกต่างกันอยู่มากในการที่จะบรรลุธรรมแต่ละครั้งแต่ละครั้งนั่นหมายความว่าการปฏิบัติของเราได้มีการสร้างสมบารมีของเราแต่ละภพแต่ละชาติมันไม่ได้กระทำแต่เพียงชาตินี้ชาติเดียว แต่ทำสืบทอดต่อเนื่องตลอดเวลา เขาเรียกว่าได้สร้างอริยะทรัพย์หรือทรัพย์ภายในตลอดเวลานั่นเอง


นี่แหล่ะที่บอกว่าอริยะทรัพย์ นี้ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ มันรอเวลาที่ภพชาตินั้นเปิด ให้มันสำหรับที่จะให้ได้เสวยให้ได้เสวยอริยะทรัพย์ตัวนั้น ก็คือการส่งตัวเราให้ได้เข้าสู่มรรคผลนิพพานให้ได้ โดยง่ายนั่นเอง เป็นกองหนุนอย่างดี ดังนั้นไม่ว่ามันจะยุ่งยากลำบากทรมานตนขนาดไหนก็ตาม แต่ก็เป็นการเจ็บปวดการทรมานที่คุ้มค่าคุ้มราคา เพราะไม่ว่ามันจะมีค่ามีราคาน้อยเพียงไร มันก็คุ้มค่าเพราะว่าเป็นสมบัติที่มาสูญสลายหายไปไหน นี่แหล่ะจึงได้ชื่อว่าทำไปมองเห็นกำลังใจ เพราะว่าอะไร เพราะว่ามันเก็บสะสม ให้เราทีละเล็กทีละน้อย ละเล็กทีละน้อย ๆ ไม่มีคำว่าเสื่อม ไม่เหมือนสมบัติทางโลกหาได้มากได้น้อยทิ้งทั้งหมด ตังค์แม้แต่สลึงเดียวก็เอาติดตัวไปไม่ได้ มันแตกต่างกันอย่างมากมายเลยทีเดียว แต่ถ้าผู้มีทรัพย์สินเงินทองทางโลกรู้จักใช้สมบัติทางโลกให้เกิดประโยชน์ส่วนตนนั้น ย่อมสามารถทำได้มากกว่าผู้ที่มีความอัตคัดเรื่องทรัพย์สินเงินทอง นี่เค้าเรียกว่า ปัจจัยเกื้อหนุนทางโลก หากไม่รู้จักนำมาเกื้อหนุนทางธรรมได้ แล้ว ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นไม่สามารถทำประโยชน์ให้กับชีวิตของตนได้เลยแม้จะมีโอกาสกระทำ ก็ตามเถอะ นี่เค้าเรียกว่ามีการตระหนี่ถี่เหนียว นี่เค้าเรียกว่าไม่รู้จักบุญ ไม่รู้จักบาป ไม่รู้จักการสะสมบุญ เมื่อมีโอกาสมากกว่าเขา แต่มองไม่เห็นนี้เป็นที่น่าเสียดาย แต่ถ้าคนนั้นมองเห็นทางบุญเค้าก็สามารถทำวัตถุหรือทรัพย์สินเงินทองที่เขามีอยู่นั้น