เรื่องเด่น เพ่งพินิจ "..ความตาย.."(มรณานุสสติ)

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 26 พฤษภาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    JMKg_zPAtjLH23wxnBHIf5IYyAiEvnB82FtWnedFaiTM&_nc_ohc=FRFYLijhrCAAX9-BV8C&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    58-1-jpg.jpg

    การตั้งอารมณ์ก่อนตายทุกๆวัน…

    “ที่ท่านเรียกว่า เอกัคคตารมณ์ คืออารมณ์อันเดียว คือทำอารมณ์ที่เป็นกุศลให้มันเป็นอย่างเดียวโดยเฉพาะ ที่เขาเรียกว่า เอกัคคตารมณ์ และจิตมันมีสภาพจำ เราจะสังเกตได้จุดหนึ่ง ถ้าว่าเราเคยเจริญสมาธิจิต แต่ว่าไม่เคยฝึกกรรมฐานโดยตรง ถ้าจิตมันมีอารมณ์โปร่งสบาย บางทีภาพเดิมมันขึ้นมา นี่ล่ะจิตมันมีสภาพจำ

    ..ฉะนั้น ถ้าหากว่าเราให้มันจำในของกุศล มันก็จำตลอด บางขณะเราอาจจะพูดไม่ดีกับเพื่อนบ้าง ไม่พอใจเพื่อนบ้าง ท่านบอกว่าก็ช่างมัน คือถืออารมณ์เดิม เช้าน่ะตั้งอารมณ์ให้ดี เพราะช่วงนั้นจิตมันสะอาด ตื่นมาตอนเช้า

    ๑.ได้พักผ่อนดีแล้ว
    ๒.อารมณ์สบาย
    ก็ให้ตั้งอารมณ์ไว้เฉพาะกิจ มันจะจำตลอดวัน ถ้าตูมตามขึ้นมามันก็ไปจุดนั้นเลย

    ฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงสอนให้เราใช้ อนุสสติ ซึ่งมี ๑๐ แต่ ๑๐ นี้ความหมายก็ดีทั้งหมด แต่ที่ดีจริงๆ ก็คือ อุปสมานุสสติ คือ นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์ แต่เราอย่าลืมนะว่า คนที่จะนึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์จริงๆ คนประเภทนี้จะต้องมีนิสัยเป็น พุทธจริต

    พุทธจริตนี่เขาเป็นคนฉลาด ถ้าคนไม่ฉลาดก็ไม่เอา สอนเท่าไรก็ไม่เอา แม้แต่อยู่กับพระพุทธเจ้าก็ยังไม่เอาเลย นิพพานัง หรือ นิพพานะ สุขัง ก็ว่ามันไป

    …ตอนเช้ามืด ไม่ต้องภาวนาก็ได้ ตั้งจิตไปเลย นึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระธรรม นึกถึงพระอริยสงฆ์ พรหมและเทวดาทั้งหมด ตลอดจนท่านผู้มีคุณ ขอจงเป็นพยานแก่ข้าพเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาแล้วทั้งหมด หรือจะทำในกาลข้างหน้าก็ตาม ไม่ต้องการอย่างอื่น ต้องการอย่างเดียวคือพระนิพพาน จิตจับพระนิพพานเป็นอารมณ์ เพียงเท่านี้แหละ

    ..ตอนที่ภาวนา เราจะภาวนาว่าอะไรก็ได้ ที่เราคล่องตัว ใช่ไหม…ง่ายไหมล่ะ…ไอ้ที่ว่าง่ายน่ะ ฉันไม่ได้สร้างขึ้นมาเองนะ ในพระสูตรจากพระไตรปิฎกมีเยอะ..”
    .
    .
    .จาก..หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๑๐๓-๑๐๔ โดยหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี



    ที่มา บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    c_oc=AQnvqigYYG2v3uSuAqe2OSmV0-LD4vn6OivY5UG39_sXwt3YzrEypWwyv71GQu8D4Gc&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    ?temp_hash=10ee5df85dc2403bdcbd7bc9b728beb0.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    VDhaiE1uXaCnwHnfasBP-eu_sNZ6rdR3HoCb7271iDA&_nc_ohc=1FAkaNjtqcoAX9xzXQI&_nc_ht=scontent.fbkk22-4.jpg
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    TjaDCNZU_xKEr6NgIUhvM3J1aF7Klxr3c79xijfq9Pp&_nc_ohc=X1xadrh6B_QAX_lRULT&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    U2YnqaRh7Y671bTQ31qzI57q8mKEkqGz3GF0bBczqTW&_nc_ohc=6wAKZd3a_-YAX8O92e_&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    จิตสุดท้าย ก่อนออกจากร่าง "


    เมื่อเวลา คนใกล้จะตายน่ะ ตามันก็ชำรุด หูมันก็รุด จมูกก็ชำรุดไปหมดเลย ไม่สามารถ จะสูดกลิ่นอะไรได้แล้วลิ้นมันก็ชำรุด ไม่รู้จักรสอาหารอะไรได้เลย
    วิญญาณทางตา เป็นต้น อันนี้ก็ดับไป ดับไป ดับไป ตลอดถึงวิญญาณทางกาย บัดนี้..กายนี้ เมื่อมันชำรุดมากแล้ว วิญญาณก็ไปอาศัยอยู่ไม่ได้ ก็ต้อง ดับลง ดับลง มันก็มาเหลืออยู่แต่ "มโนวิญญาณ"
    ก็น้อยเข้า น้อยเข้า มันไม่สามารถจะรับรู้ ภายนอกได้เลยบัดนี้ วิญญาณมันดับลง ดับลงน่ะ นั่นล่ะ ให้สังเกตดู เป็นอย่างนั้น บัดนี้เมื่อวิญญาณ คือ "มโนวิญญาณ" วิญญาณทางใจนี้ มันดับลงแล้ว
    ความรู้สึกเกี่ยวกับ "ชีวิต" นี้ มันก็ไม่มีแล้ว ท่านเรียกว่า "จิตเข้าภวังค์"จิตของคนธรรมดาสามัญนี่ เมื่อเวลาจนจะตายนี่ มันจะเข้าภวังค์คือ มันเคลื้ม หลับไป..มันลืมตัวไป ว่างั้นเถอะ
    ไม่รู้สึกตัวแล้วบัดนี้ มันเคลิ้มไปเหมือนอย่าง คนเคลื้มหลับไปนี่ พอว่ารู้สึกตัวขึ้นมาอย่างนี้ มันเป็นอย่างอื่นไปแล้วบัดนี้ มันไม่ได้อยู่ในร่างอันนี้แล้ว มันเป็นหน้าที่ของ "กรรมใหม่" จะพี่งนำไปแล้วบัดนี้
    จะถึงตกแต่งละ ตกแต่งรูปทิพย์ให้อยู่..ให้อาศัยแล้วบัดนี้นะ รูปทิพย์นี่ มันเป็นฝ่ายกุศล ถ้าเป็นรูปเปรต รูปสัตว์นรก รูปอสูรกายอย่างนี้ มันก็เป็นฝ่ายอกุศล มันสุดแล้วแต่จิตใจยึดเอาอะไรเป็นอารมณ์มากกว่ากัน
    ในขณะเวลาจิต มันจะลงภวังค์นั่นน่ะ เมื่อมันยึดบาปไว้มากกว่าบุญอย่างนี้น่ะ ปาบมันก็มีหน้าที่ตกแต่งเรือนร่าง ดวงจิตนี้อาศัยใหม่ต่อไปเออ..มันเป็นอย่างนั้น ถ้าจิตมันยึดเอาบุญกุศลไว้ มากกว่าปาบอย่างนี้
    บุญมันมีกำลังเหนือบาปมันก็ตกแต่งที่อยู่อาศัย ให้ดวงจิตนี้เรียกว่า ตกแต่งรูปร่างให้ดวงจิตนี้ ได้อาศัยดีประณีตบรรจง ที่ท่านเรียกว่า เทวดา นั่นแหละ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ พอจิตนี้ออกจากร่างนี้แล้ว ก็มันก็เกิดเป็นร่างใหม่ขึ้นทันที ก็ด้วยอำนาจบุญมันตกแต่งให้ หรือ ด้วยอำนาจแห่งบาปมันตกแต่งให้
    โอวาทธรรม หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    ขออนุโมทนาบุญท่านผู้เผยแพร่โอวาทธรรมและเจ้าของภาพขอให้ท่านและครอบครัวเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลก ทางธรรม สาธุ สาธุ สาธุ
    ySoOy7cV290BGCxPucslm1MFNsvR2yFFBI&_nc_ohc=e3uqd31gVDEAX8BbKAq&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    ?temp_hash=23e61a8c4e061a0fc0fcb6d89e147be1.jpg


    " รอยแตกบนแก้ว "

    ธรรมะ จาก หลวงปู่ชา สุภัทโท เล่าโดย ท่านพรหมวังโส



    หลวงพ่อชา ยกแก้ว แล้วถามอาจารย์พรหมว่า “เธอเห็นรอยแตกในแก้วใบนี้ไม๊ พรหมวังโส?”

    อาจารย์พรหมคิดว่า “แก้วก็ดูปรกติ ไม่มีร้อยราว”

    ... หลวงพ่อชาพูดต่อว่า “ดูให้ดีๆซิ มันมีรอยแตกเล็กๆบนแก้วใบนี้

    สักวันแก้วใบนี้มันต้องแตก ” ในตัวเราทุกคน ล้วนแต่มีรอยแตกเล็กๆ

    นับตั้งแต่เราเกิด มันบอกให้เรารู้ว่า สักวัน ชีวิตของเราทุกคนต้องจบสิ้น มันจะจบแน่นอน

    เรารู้ดี แต่เพราะเราโดน อวิชชาครอบงำเอาไว้ทำให้เราไม่ได้คิดถึงมัน

    สักวันเราต้องจากกัน ความจริงข้อนี้ที่พระบอกให้เราตระหนัก มิได้ให้เรากลัว

    หรือ คิดว่าฉันจะไม่รักใครอีกแล้ว!!ฉันจะได้ไม่ต้องเสียใจ

    ตอนฉันต้องสูญเสีย เขาหรือจากเขาไป แต่ท่านบอกเพื่อที่ว่า

    เราจะได้รู้เท่าทันความเป็นจริงของโลกและชีวิตว่า ทุกสิ่งที่อยู่ตอนนี้มันไม่เที่ยง

    มันจะเปลี่ยนแปลง
    เพราะฉะนั้น ถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่เรามีเราอยู่

    มันจะไม่อยู่กับเราชั่วนิรันดร์ เวลาของเรามีจำกัด

    เราจะได้ มีท่าทีที่ถูกต้องกับสิ่งที่เรามีอยู่ ณ เวลานี้ เราจะมีเมตตา

    ต่อคนที่อยู่ด้วยในทุกวันนี้มากขึ้น เพราะเรารู้ว่าเราอยู่ด้วยกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ

    เราจะหยุดความใจร้าย หยุดทำร้าย หยุดความเอาชนะ หยุดการกดดัน

    หรือบังคับให้ทุกอย่างเป็นดั่งใจของเรา เราจะผ่อนปรน เราจะใจเย็น

    และรับฟังมากขึ้น เราจะเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ และ ให้อภัยมากขึ้น

    เพราะเรารู้ว่าเวลาที่เราจะอยู่ด้วยกัน มันหมดลงไปทุกวัน

    เวลาติดปีกบิน และพรุ่งนี้อาจจะไม่มีอีกแล้วสำหรับเรา

    เมื่อถึงวันที่เราต้องจากกัน เราจะไม่ต้องเสียใจว่า ทำไมเราถึงไม่ทำดีกับเขา

    เราจะเก็บความทรงจำที่ดีต่อกันเหลือไว้ให้คิดถึง ยามเมื่อเขา หรือ เรา ไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้แล้ว

    ในวันสุดท้าย เราจะเช็ดน้ำตา และพูดกับตัวเองว่า

    “ฉันรู้อยู่แล้ว ว่าวันนี้ต้องมาถึง
    เพราะฉันเห็นรอยแตกเล็กๆ ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว.....”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    ?temp_hash=2fbda74cb076bdd508983adc593c810b.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    temp_hash-dd3fa6b67f9ea1c0d1bb66ac61d7a57a-jpg.jpg


    ต้องฝึกอย่างไร...ตายไปถึงจะฝึกสติปัฏฐาน 4 ต่อได้?

    .
    .
    ถ้าท่านทั้งหลายฝึกหัดปฏิบัติธรรมอยู่เนืองๆ
    ท่านทั้งหลายก็จะสามารถเปลี่ยน
    จากใจที่เศร้าหมอง เป็นใจที่ผ่องใสได้
    เมื่อต้องจากโลกนี้ไปด้วยใจที่ผ่องใส
    อย่างน้อยก็ไปสบาย...สุคติภูมิ
    แล้วถ้าเราฝึกหัดปฏิบัติได้ดี
    ถึงแม้ว่าเราต้องจากโลกนี้ไป
    เราก็สามารถฝึกปฏิบัติต่อได้
    เบื้องต้นต้องมีกายหยาบๆ
    อยู่ๆเราจะไปรู้จิตรู้ใจทำได้ไหม?
    มันยังทำไม่เป็น
    เป็นสภาวะละเอียดเลยต้องใช้กาย
    #เพราะฉะนั้นจุดแข็งของความเป็นมนุษย์
    #คือการมีกายหยาบเพื่อฝึกสติปัฏฐาน
    แต่พอเราฝึกไปจนจิตมันตื่นแล้ว
    แม้กระทั่งวางกายแล้ว รู้จิตรู้ใจได้ไหม?
    เข้าถึงสภาวะที่ประณีตกว่าได้ไหม?
    ....มันทำได้
    เพราะฉะนั้นตรงนี้
    ถึงแม้ว่าเราต้องจากโลกนี้ไป
    เราก็สามารถฝึกปฏิบัติต่อได้ในภพภูมิต่อๆไป
    ตรงนี้นะ ถ้าใครฝึกจนกายใน
    หรือนามกายมันเคลื่อนออกมา
    แล้วเราจะพบว่า ความเป็นสติสัมปชัญญะ
    มันอยู่ที่นามกาย มันไม่ได้อยู่ที่กายหยาบ
    นั่นแหละมันสามารถฝึกสติปัฏฐานต่อได้
    เดินสภาวธรรมได้
    ปกติถ้าสอนบางคน
    ลูกศิษย์หัวดีๆหน่อยเดินสภาวะ
    พวกที่ชอบถอดกายมันมีอยู่
    แล้วจะพบว่าเวลาถอดมา เดินสภาวะ
    มันจะละเอียดกว่าตอนที่เรา
    เดินสภาวะอยู่ในกายหยาบ ละเอียดกว่ามาก
    ความคมชัดความอะไรละเอียดกว่ามาก
    เพราะกายหยาบมันเหมือนตัวดึง
    แต่พอเราถอดปลั๊กออกแล้ว
    มันเหลือเพียงพลังงาน
    เหลือแต่กระแสเพียวๆ
    การเดินสภาวะจะเฉียบคมมาก
    ก็มีลูกศิษย์ที่เก่งในเรื่องของการถอดตัวนี้
    แล้วถอดมาเดินสภาวะ
    ตอนอยู่ในกายหยาบยังเดินไม่เก่ง
    แต่หลุดปุ๊บเดินเก่งกว่า
    เพราะว่ามันไม่มีตัวดึง
    แต่พูดแบบนี้ก็ไม่ใช่ต้องพยายามไปถอด
    แล้วเดินสภาวะนะโยม
    คือให้เป็นเรื่องอัธยาศัยของแต่ละคน
    แต่ให้รู้ว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งจิตมีความตั้งมั่น
    อยู่ที่ไหนก็ฝึกสติปัฏฐาน 4 ได้
    ถึงแม้ไม่มีกายหยาบก็ฝึกสติปัฏฐาน 4 ต่อได้
    เป็นเรื่องของนามกาย
    เป็นเรื่องของจิตตั้งมั่นข้างใน
    เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่า
    ถ้าเราต้องตายตอนนี้ไปเราจะหมดโอกาส
    ไม่ต้องไปกังวลแบบนั้น
    #ถ้าปัจจุบันโยมสามารถฝึกจนมีสติที่ตั้งมั่นได้
    #ต่อให้โยมต้องล้มตัวลงตรงนี้
    #โยมก็ไปฝึกสติปัฏฐานสี่ต่อได้
    แต่ถ้าโยมไม่ฝึกตอนนี้
    ตายไปหวังจะไปฝึกจะทำได้ไหม?
    ก็หลงภพ หลงภูมิไปเรื่อย
    เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปมองอนาคต
    ว่าบางคนเราบุญน้อย
    กว่าจะได้พบพระพุทธศาสนา
    ก็ตอนแก่เฒ่าแล้ว
    สำคัญที่ปัจจุบัน...
    ถ้าปัจจุบันโยมทำได้ดี
    ผลอนาคต ก็เกิดจากปัจจุบันนั่นเอง
    ถ้าเราฝึกปัจจุบัน เรามีสติตั้งมั่น
    ตายไปโยมก็จะมีสติต่อได้
    โดยเฉพาะคนที่ถอดกายก็จะพบว่า
    จริงๆแล้วความตายคือการเคลื่อน
    จากภพหนึ่งไปสู่ภพหนึ่งเท่านั้นเอง
    มันคือการเปลี่ยนภาชนะ
    หรือแม้กระทั่งเวลาความฝัน
    ถ้าเรามีสติทรงตัวในฝัน
    มันจะรู้สึกตัวในความฝันได้
    เดินสภาวะต่อได้
    ไปลองฝึกกันดูว่า...
    ไม่ว่ามันจะถอดกายก็ดี
    หรือแม้กระทั่งเวลาฝันแล้วเรามีสติก็ดี
    เดินสภาวะต่อได้ ทั้งในระดับของสมาธิ
    แล้วก็ระดับของวิปัสสนาญาณ
    พลิกมาเป็นแยกรูปแยกนามของละเอียด
    แล้วสลัดคืนสู่ความบริสุทธิ์ได้
    .
    .
    โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
    11 พฤศจิกายน 2563
     
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    2LhLT6lNiV8cP5fNGt7-i3BIcMUbNjvKh&_nc_ohc=pymU79uf62AAX9ePCDf&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    ชีวิตนี้น้อยนัก
    (video with English subtitle)


    ความไม่ประมาท ชุดพิเศษ
    ชราสูตร

    พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
    เล่มที่ ๒๕ ข้อ ๔๑๓


    ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
    ก่อนจะฟัง
    พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
    เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
    ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
    น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
    ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
    เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง
    ความยาววีดีโอ: 5:54 นาที
    เวลาปฏิบัติ:15 นาที

    ---------
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
    ชีวิตนี้น้อยนัก สัตว์ย่อมตายภายใน ๑๐๐ ปี ถึงแม้อยู่เกินกว่านี้ ก็ต้องตายเพราะชรา สิ่งที่ยึดถือว่าเป็นของเราเป็นของไม่เที่ยง จะต้องละสิ่งนั้นไปเพราะความตาย
    บุคคลย่อมกล่าวขวัญถึงชื่อของคนทั้งหลายผู้อันตนได้เห็นแล้วบ้าง ได้ฟังแล้วบ้าง ชื่อเท่านั้นที่ควรกล่าวขวัญถึงของบุคคลผู้ล่วงไปแล้วที่ยังคงเหลืออยู่
    บุคคลผู้ยินดีในสิ่งที่ยึดถือว่าเป็นของเรา ย่อมละความโศก ความร่ำไรและความตระหนี่ไม่ได้
    บัณฑิตกล่าวการไม่แสดงตนในภพของภิกษุผู้ประพฤติหลีกเร้น ผู้เสพที่นั่งอันสงัด ว่าเป็นการสมควร
    มุนีผู้ไม่อาศัยแล้วในอายตนะทั้งปวง ย่อมไม่กระทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รักหรือเป็นที่เกลียดชัง ย่อมไม่ติดความร่ำไรและความตระหนี่ ในสัตว์หรือสังขารนั้น
    ผู้มีปัญญาย่อมไม่สำคัญในรูปที่ได้เห็น เสียงที่ได้ฟัง หรืออารมณ์ที่ได้ทราบ ย่อมไม่ปรารถนาความบริสุทธิ์ด้วยทางอื่น ย่อมไม่ยินดี ไม่ยินร้าย




    ?d=AQFokxoHgBNc2yZW&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fi.ytimg.com%2Fvi%2FgjPSz2n-Gs0%2Fmaxresdefault.jpg
     
  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    7cfS6r8r5Zi9c4GxqVAVhBU4k2ybO_YF2&_nc_ohc=8C6F_8b9QiAAX9jYKvj&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk29-1.jpg
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    เคยได้ยินเรื่อง "จิตดวงสุดท้าย" ไหม?
    ก่อนที่จะวูบดับจากโลกนี้ไป
    จิตมันยึดอยู่กับอะไร
    ก็หลงติดอยู่กับสิ่งนั้นแหละ
    ปัจจุบันเห็นคนฆ่าตัวตายกันมาก
    มีข่าวกันทุกวันเรื่อยๆ เยอะมากเลย
    หลายคนมีความเจ็บปวด
    มีความทุกข์มาก จนอยากจะหนีปัญหา
    แล้วเลือกที่จะจบชีวิตก่อนวัยอันควร
    เพื่อหนีปัญหา
    ... แต่ปัญหาไม่ได้จบหรอกโยม
    #ดวงจิตดวงสุดท้ายยึดโยงอยู่กับอารมณ์ใด
    #เมื่อละจากโลกนั้นไป
    #จิตก็จะติดอยู่กับอารมณ์นั้นเอง
    ถ้าตายไปกับความเศร้า...
    จิตก็อยู่กับความเศร้า
    แต่ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่
    เรายังมีโอกาสหลุดออกมา
    แต่ถ้าตายแบบนั้น
    โยมจะติดอารมณ์อยู่อย่างนั้นไปนานเลย
    ภพภูมิสัมภเวสี...
    ก็เหมือนความฝัน ติดอยู่อย่างนั้น
    จนกว่าจะตื่นขึ้นมาแล้วหลุดออกไป
    ยังไม่ได้ไปวงจรสุคติภูมิ หรือทุคติภูมิด้วย
    มันติดค้าง เป็นมิติที่ซ้อนเหลื่อม
    อยู่กับภพภูมิมนุษย์ ..ใกล้เคียงกันมาก
    ซึ่งตรงนี้ จะเกี่ยวกับเรื่องพันธะยึดโยงต่างๆมาก
    คือจิตที่ติดอยู่ ไม่ได้ผุด ไม่ได้ไปเกิดนั่นแหละ
    แต่ติดอยู่ตรงนี้ มันจะเยอะมาก
    อย่างสนามรบ หรืออะไรก็ตามที่จิตมันยึดติดอยู่
    ก็ติดอยู่อย่างนั้นแหละโยม
    ... แล้วติดกันมานาน
    โยมเคยฝันร้ายไหม? แต่มันไม่ตื่นสักที
    ติดอยู่อย่างนั้นไปตลอด
    กว่าจะได้หลุดมาก็ไม่รู้เมื่อไหร่
    นั่นคือสภาวะของมิติ ในภพสัมภเวสี
    แต่ถ้าคนฝึกสติปัฏฐานน่ะโยม
    มันหลุดได้.. มันตื่นได้
    โยมว่าสำคัญไหมล่ะ ดวงจิตดวงสุดท้าย?
    #แต่ถ้าโยมฝึกสติปัฏฐานมันพลิกได้เลย
    #พลิกเป็นวิหารธรรมที่ตื่นรู้ได้เลย
    เพราะฉะนั้นการฝึกสติปัฏฐาน
    จะเปลี่ยนจากจิตที่เศร้าหมอง
    เป็นจิตที่ผ่องใสได้
    ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
    "เมื่อจิตเศร้าหมอง ทุคติเป็นอันหวังได้
    เมื่อจิตผ่องใส สุคติเป็นอันหวังได้"
    แล้วในแต่ละวัน ถ้าโยมไม่ฝึกสติปัฏฐาน
    เรื่องเยอะไหมในชีวิต?
    ถ้าโยมปล่อยใจให้เศร้าหมอง
    แล้วถ้าเราตายในขณะนั้นน่ะ
    มันคุ้มกันไหมโยม ?
    ชีวิตหลังความตายหนักกว่ามาก
    ถ้าเราปล่อยใจให้เศร้าหมอง
    และมันยาวนานกว่ามาก
    แต่ถ้าเราฝึกสติปัฏฐาน สามารถพลิกได้โยม
    เปลี่ยนจิตเศร้าหมอง
    กลายไปเป็นใจที่ผ่องใสได้
    เพราะฉะนั้น...
    เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรให้ความสำคัญ
    จะเป็นประโยชน์เกื้อกูล
    ทั้งในภพปัจจุบัน และสัมปรายภพนะ
    .
    .
    โดย พระมหาวรพรต กิตติวโร
    8 พฤศจิกายน 2563
    l4_z2i2u_9TuNqrY2843troFIoKoqL_Tr&_nc_ohc=7UPU7l6qD0IAX8V9Alb&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    r54sMAyQP5XOaBLduT-KgDcx65i_ZqgwMj&_nc_ohc=hRt5ghYNWWEAX_XoXFm&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg
     
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462
    IlNlzpF8gZI5knv_2AvwygAVGdRC7Xfxp&_nc_ohc=S1xSWHO3GKoAX9gKx0V&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,337
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +70,462


    อ้างอิง อภยสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ ข้อที่ ๑๘๔ https://84000.org/tipitaka/read/byite...

    อุทิศแด่คุณพ่อคุณแม่ และผู้มีคุณูปการแก่โลกทั้งหลาย

    กดติดตามมูลนิธิอุทยานธรรม http://bit.ly/2VRwhuZ


    มูลนิธิอุทยานธรรมสร้างและเผยแผ่พระไตรปิฎกเสียงสมจริงและวีดิทัศน์ต่าง ๆ เป็นธรรมทานแก่ทุกสรรพจิตในสากลโลก เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ถวายแด่พระศาสนา ท่านที่ประสงค์จะเผยแผ่สื่อธรรมต่อเป็นธรรมทาน สามารถเผยแผ่ได้ตามประสงค์โดยไม่ต้องขออนุญาตแต่อย่างใด เพียงกรุณาอ้างถึงที่มา (มูลนิธิอุทยานธรรม) ตามหลักสากล เพื่อความเจริญงอกงามและประโยชน์สุขของผู้เผยแผ่เองทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า หากท่านผู้ใดประสงค์จะเผยแผ่เพื่อประโยชน์ตนหรือประโยชน์ทางการค้า มูลนิธิฯ ขอสงวนสิทธิ์โดยชอบตามกฎแห่งกรรมและกฎแห่งธรรม

    มูลนิธิอุทยานธรรม Website : http://www.uttayarndham.org
    YouTube : http://www.youtube.com/c/Uttayarndham...
    SoundCloud : http://www.soundcloud.com/uttayarndham
    Facebook : https://www.facebook.com/uttayarndham
    Instagram : https://www.instagram.com/uttayarndham
    Twitter : https://twitter.com/uttayarndham
    Line @ : @uttayarndham หรือ http://line.me/ti/p/@uttayarndham
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...