หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ระหว่างรอเรียบเรียงรายการ ผมขอ upload รูปให้ชมไปพลางๆก่อนละกันนะครับ
เพราะนักรบธรรมบางท่านตอนนี้ยังไม่ถึงบ้านเลย เช่น คุณสันติที่ซึ่งเมื่อคืนถึงโคราชราวๆตี 1
พอส่งคุณภูเบศวร์ขึ้นรถทัวร์เสร็จก็มานอนที่บ้านท่าน ดร.นนต์ ราวๆ 10 โมงเศษจึงน่าจะเดินทางไปต่อที่เมืองจันทร์ครับ

 

มาดูคู่พระพุทธปฐวีธาตุคู่เหมือนซ้ายองค์เล็ก (IT Man) ขวาองค์ใหญ่ (ดร.นนต์) 2 ใน 16 องค์
ถวายพระนาม(ถามโดยท่านนนต์)ว่า...องค์เอตทัคคะบารมี (พระแก้วขวัญคู่บารมี)​

 

​

คู่เหมือนชฎิล (พระฤาษี)

ปล: ไม่มีความบังเอิญ...มีแต่การจัดสรรค์ หุหุ

 

องค์ที่ 16 ผู้ที่เป็นเจ้าของ มีลักษณะผิวคล้ำรูปร่างท้วม.... ในวาระต่อๆไป อาจมี....ก็ได้

 

รายงานตัวครับ เดินทางกลับถึงบ้านตั้งแต่เมื่อว่านปลอดภัยดีครับ สวัสดีครับนักรบธรรมทุกๆท่านผมขออนุโทนาบูญทุกๆๆประการกับการได้รับฟังธรรมจากพ่อแม่ครูอาจารย์

 

ภาพพิเศษที่ส่งตรงมาจากครูร่วมชาติ เป็นภาพพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
ขณะพานักรบธรรมธุดงค์ศึกษาสภาวะธรรมจากการขึ้นเขาหลังภูดานไห 25 กันยายน 2554 ​

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สาวกธรรม1
โมทนาสาธุกับนักรบธรรมทุกประการ แม้ว่าผมที่ไม่ใช่ 16 ท่านที่จะ........ ก็ตาม :'(

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ข้อความเดิมของ IT Man

น้องชายอย่าพึ่งกังวลไปครับ
ที่จริงพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านกะจะทำเพียง 13 องค์ ตามธุดงควัตร 13 แต่มีแถมมาอีก 3 มีเจ้าของแล้ว ตอนนี้รับไปแล้ว 15 ส่วนอีก 1 ยังไม่มา และหินลักษณะนี้หาได้ยาก จึงจำต้องมอบให้วงในแรกสุดก่อน แเต่เชื่อว่าหากท่านได้พบได้เจอ ท่านคงต้องมีถึงน้องแน่...และมีของปลอบใจตั้งหลายรายการนะ ตรวจดูซี...

พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเกี่ยวข้องกับเลข 1 กับเลข 3 ด้วยครับ ไว้จะเล่าสู่กันฟัง

............................................................................................

ดร.นนต์

นักรบธรรมทั้งหลาย ในสมัยพุทธกาล พระสารีบุตรและพระโมคัลลานะ ต่างมีบริวารฝ่ายละ 500 คน เมื่อได้พบและฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าแล้ว ปรากฏว่า บริวารที่ตามท่านทั้งสองไปด้วย ได้บรรลุอรหันตผลในวันเดียวกันทั้ง 1,000 คน แต่พระโมคัลลานะท่านบรรลุอรหันตผลหลังจากนั้น 7 วัน และพระสารีบุตรหลังจากในวันนั้นอีก 14 วัน (ถ้าจำไม่ผิด) นอกจากนั้น ยังมีชฎิลสามพี่น้องที่มีบริวารรวมกันนับพันคน ต่างก็บรรลุพระอรหันต์ในวันเดียวกัน ดังนั้น แม้ท่านจะเป็นผู้นำหรือบริวาร สุดท้ายก็บรรลุอรหันต์เช่นเดียวกัน มิหนำซ้ำบริวารยังบรรลุอรหันต์ก่อนผู้นำเสียอีก

ท่านทั้งหลาย ผู้นำ ผู้ตาม ก็ล้วนเป็นสิ่งสมมุติ เมื่อเข้าสู่วิมุติได้แล้ว ความเป็นผู้นำ ผู้ตาม ก็มิได้มีความหมาย เพราะเป็นการเข้าสู่สภาวะความว่างเปล่าที่บริสุทธิ์ อยู่เหนือสภาวะของรูปสมมุติและนามสมมุติ..... พุทธปวีธาตุทั้ง 16 องค์ ก็เช่นกัน เป็นเพียงสิ่งสมมุติ เพื่อให้เข้าใจในสภาวะของผู้ที่ยังอยู่ในสภาวะของโลกสมมุติอยู่.... นักรบธรรมทั้งหลาย แม้ท่านจะไม่ได้อยู่ใน 16 แต่จงภูมิใจเถิดว่า ท่านต่างก็ล้วนอยู่ในวงคลื่นขององค์พุทธะ จะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกหนอ.....ดั่งเช่นบริวารของพระสารีบุตร พระโมคัลลานะ และชฎิลทั้งสามนั้น นับเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด

สภาวะของความจริง ก็ต้องเป็นความจริง
สภาวะของจิตนั้นต่างหากที่อยู่เหนือวัตถุมงคลทั้งหลาย พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านก็แสดงธรรมออกมาชัดเจนแล้ว..... จงทำใจให้เห็นธรรม เมื่อเห็นธรรมแล้ว พระเครื่องหรือสิ่งมงคลทั้งหลาย จะแขวนหรือไม่แขวนก็ไม่มีปัญหา เพราะจิตและกายของเราเป็นพระแล้ว<!-- google_ad_section_end -->

 

พระทศพลญาณ

ผมบูชามาประมาณ 10 ปีแล้ว
สมัยก่อนสวดมนต์เกือบทุกวันที่ห้องพระ
ปัจจุบันพักคนละแห่ง เลยไม่ค่อยได้เข้าไปสวดมนต์ที่ห้องพระ

 

พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ท่านสร้างพุทธปฐวีธาตุขึ้นมา เพื่อแสดงถึงน้ำจิตน้ำใจและความมีเมตตาต่อเหล่านักรบธรรม เพราะท่านเห็นว่า จริตของนักรบธรรมต่างชื่นชอบและสร้างบารมีมาทางนี้ ท่านจึงมีเมตตาสงเคราะห์ในการสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ด้วยความเพียร ด้วยหัวจิตหัวใจ ท่านย้ำเสมอว่า พระพุทธปฐวีธาตุ มีไว้เพื่อระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า เพื่อเป็นพุทธานุสสติ ไม่ให้เราทำสิ่งที่ไม่ดีในขณะที่เราแขวนพระอยู่ และไม่ได้ให้มีไว้เพื่ออวดกัน หรือแข่งกัน (แต่เพื่อแบ่งปันให้ชื่นชมกันได้) ท่านขอให้พวกเราใช้เพื่อการเจริญภาวนาสมาธิ และเพื่อเป็นพุทธานุสสติ...

 

พระบูชา(พระทศพลญาณ)

พระบูชาที่บ้าน

บุูามาแล้วประมาณ 10 ปี

 

พระพุทธปฐวีธาตุ "องค์เอตทัคคะบารมี" องค์เบื้องขวา
ปล. ทั้ง 16 องค์ ให้ใช้ชื่อเดียวกันนี้ เพื่อเป็นนัยสำคัญให้ท่านระลึกถึงสิ่งที่ท่านเคยปรารถนาไว้ ขอให้ผู้ที่ได้ครอบครองจงจดจำให้ดีๆนะครับ
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์

 

พระพุทธปฐวี "องค์เอตทัคคะบารมี" องค์เบื้องขวา และองค์เบื้องซ้าย

ปล. นักรบธรรมผู้อยู่ในวงคลื่นแห่งองค์พุทธะ.....ยังเหลือผู้ที่ยังไม่ได้แสดงตัวอีกจำนวนมาก..... ทั้งที่รู้ตัวแล้วและยังไม่รู้ตัว..... เมื่อถึงเวลาฟ้าก็ปิดไม่อยู่

 

พระกริ่ง จปร

เรียนท่านนนต์

ขอความรู้ด้วยครับ
ใต้ฐานเป็นอักษร จปร (มีลายเส้นในตัว จปร)

ใช่หรือไม่ใช่ครับ?

 

เหล็กไหล หลวงปู่หวล?

ท่าน Somlatri ครับ

ใช่เหล็กไหลของหลวงปู่หวลหรือเปล่าครับ ?

 

ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนากับท่านศรีทองด้วยนะครับ พระของท่านมีพระธาตุเสด็จมาเกาะตามผิวองค์พระในลักษณะเป็นผงก้อนสีขาว ถ้าจิตของท่านบอกว่าเป็นพระธาตุ สิ่งนั้นก็จะเป็นพระธาตุ หากจิตของท่านบอกว่าไม่ใช่ สิ่งเหล่านั้นก็จะไม่ใช่ เรื่องของอจินไตยนั้น มันเกินวิสัยของผู้คนทั่วไป แต่ผู้มีบุญและสัมผัสได้ย่อมไม่ลังเลสงสัย ใช่ไหมครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์

 

สร้างในสมัย ร.5 พลังพุทธานุภาพและรายละเอียดต้องให้ท่านสมาชิกธรรมช่วยตอบอีกทีครับ

 

เอตทัคคะ

<!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
<!-- /tagline --><!-- subtitle -->
<!-- /subtitle --><!-- jumpto -->ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
<!-- /jumpto --><!-- bodytext --><TABLE style="BORDER-BOTTOM: #060 1px solid; TEXT-ALIGN: center; BORDER-LEFT: #060 1px solid; MARGIN: 0px 0px 1em 1em; FLOAT: right; BORDER-TOP: #060 1px solid; BORDER-RIGHT: #060 1px solid" id=WSerie_Buddhism class=toccolours cellSpacing=0 cellPadding=1 width=170><TBODY><TR><TD style="FONT-SIZE: 100%" colSpan=2><SMALL>ส่วนหนึ่งของ</SMALL>
ศาสนาพุทธ

สถานีย่อย
<HR>
ประวัติศาสนาพุทธ
</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>ศาสดา</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>พระโคตมพุทธเจ้า
(พระพุทธเจ้า)
</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>จุดมุ่งหมาย</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>นิพพาน</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>ไตรรัตน์</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>พระพุทธ · พระธรรม · พระสงฆ์
</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>ความเชื่อและการปฏิบัติ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>ศีล (ศีลห้า) · ธรรม (เบญจธรรม)
สมถะ · วิปัสสนา
บทสวดมนต์และพระคาถา</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>คัมภีร์และหนังสือ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>พระไตรปิฎก
พระวินัยปิฎก · พระสุตตันตปิฎก · พระอภิธรรมปิฎก</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>หลักธรรมที่น่าสนใจ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>ไตรลักษณ์
อริยสัจ ๔ · มรรค ๘ · อิทัปปัจจยตา</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>นิกาย</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>เถรวาท · อาจริยวาท (มหายาน) · วัชรยาน · เซน</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>สังคมศาสนาพุทธ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%">ปฏิทิน · บุคคล · วันสำคัญ · ศาสนสถาน · วัตถุมงคล</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>การจาริกแสวงบุญ</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%">พุทธสังเวชนียสถาน ·
การแสวงบุญในพุทธภูมิ</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND-COLOR: #8a9e49; COLOR: #ffffff; FONT-SIZE: 95%" colSpan=2>ดูเพิ่มเติม</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>อภิธานศัพท์ศาสนาพุทธ
หมวดหมู่ศาสนาพุทธ</TD></TR></TBODY></TABLE>เอตทัคคะ หมายถึงผู้ประเสริฐสุดในทางใดทางหนึ่ง เป็นตำแหน่งทางพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าได้ประทานแต่งตั้งให้พุทธบริษัท คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้มีความรู้ความสามารถเด่นกว่าท่านอื่นๆในด้านนั้นๆ และแต่ละตำแหน่ง พระพุทธองค์ประทานแต่งตั้งเพียง รูปเดียว ท่านเดียวเท่านั้น (พระสาวกผู้เป็นเลิศ)
<TABLE id=toc class=toc><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

[ซ่อน]

• 1 ประวัติ
• 2 ผู้ที่เป็นเอตทัคคะ
• 3 พระภิกษุสงฆ์ที่เป็นเอตทัคคะ
• 4 พระภิกษุณีที่เป็นเอตทัคคะ
• 5 อุบาสกที่เป็นเอตทัคคะ
• 6 อุบาสิกาที่เป็นเอตทัคคะ
• 7 อ้างอิง
• 8 แหล่งข้อมูลอื่น

</TD></TR></TBODY></TABLE>[แก้] ประวัติ

เอตทัคคะ นั้น คือ ตำแหน่งที่พระพุทธเจ้ายกย่องพุทธสาวก ว่า เป็นผู้ยอดเยี่ยมในทางใดทางใดหนึ่ง เป็นผู้ประเสริฐสุด ตำแหน่ง เอตทัคคะ นี้ ย่อมได้โดย เหตุ 4 ประการคือ

1. โดยเหตุเกิดเรื่อง (อัตถุปปัตติโต) คือ ได้แสดงความสามารถออกมาให้ปรากฏโดยสอดคล้องในเหตุการณ์หรือสถานการณ์นั้นๆ ที่เกิดขึ้น
2. โดยการมาก่อน (อาคมันโต) คือได้สร้างบุญสะสมในด้านนั้นมาตั้งแต่อดีตชาติพร้อมทั้งได้ตั้งจิตปรารถนาเพื่อบรรลุได้ตำแหน่งเอตทัคคะนี้ด้วย
3. โดยเป็นผู้ช่ำชองชำนาญ (จิณณวสิโต) คือได้เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องนั้นๆ เป็นพิเศษ
4. โดยเป็นผู้ยิ่งด้วยคุณ (คุณาติเรกโต) คือมีความสามารถในเรื่องที่ทำให้ ได้รับตำแหน่งเอตทัคคะเหนือกว่าผู้อื่นที่มีความสามารถอย่างเดียวกัน

[แก้] ผู้ที่เป็นเอตทัคคะ

1. เอตทัคคะ ที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ มีทั้งหมด 41 ท่าน เป็นพระอสีติมหาสาวกทั้งหมด
2. เอตทัคคะ ที่เป็นพระภิกษุณี มีทั้งหมด 13 ท่าน
3. เอตทัคคะ ที่เป็นอุบาสกมีทั้งหมด 10 ท่าน
4. เอตทัคคะ ที่เป็นอุบาสิกามีทั้งหมด 10 ท่าน

[แก้] พระภิกษุสงฆ์ที่เป็นเอตทัคคะ

1. พระอัญญาโกณฑัญญะเถระ เอตทัคคะในทางรัตตัญญู (รู้ราตรีนาน)
2. พระอุรุเวลกัสสปะเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีบริวารมาก
3. พระสารีบุตรเถระ (อัครสาวกฝ่ายขวา) เอตทัคคะในทางผู้มีปัญญา
4. พระมหาโมคคัลลานะเถระ (อัครสาวกฝ่ายซ้าย) เอตทัคคะในทางผู้มีฤทธิ์
5. พระปุณณมันตานีบุตรเถระ เอตทัคคะในทางผู้เป็นพระธรรมกถึก
6. พระกาฬุทายีเถระ เอตทัคคะในทางผู้นำตระกูลให้เลื่อมใส
7. พระนันทเถระ เอตทัคคะในทางผู้สำรวมอินทรีย์
8. พระราหุลเถระ เอตทัคคะในทางผู้ใคร่ในการศึกษา
9. พระอุบาลีเถระ เอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัย
10. พระภัททิยเถระ เอตทัคคะในทางผู้เกิดในตระกูลสูง
11. พระอนุรุทธเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีทิพยจักษุญาณ
12. พระอานนท์เถระ เอตทัคคะในทางผู้เป็นพหูสูต ผู้มีสติ ผู้มีคติ ผู้มีความเพียร และเป็นพุทธอุปัฏฐาก
13. พระโมฆราชเถระ เอตทัคคะในทางผู้ยินดีในจีวรเศร้าหมอง
14. พระปิณโฑลภารทวาชเถระ เอตทัคคะในทางผู้บันลือสีหนาท
15. พระมหากัจจายนเถระ เอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร
16. พระสีวลีเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก
17. พระโสณกุฏิกัณณเถระ เอตทัคคะในทางผู้แสดงธรรมด้วยถ้อยคำอันไพเราะ
18. พระมหากัสสปะเถระ เอตทัคคะในทางผู้ทรงธุดงค์
19. พระราธเถระ เอตทัคคะในทางผู้ทรงปฏิภาณ (ญาณแจ่มแจ้งในพระพุทธศาสนา)
20. พระลกุณฏกภัททิยเถระ เอตทัคคะในทางผู้พูดเสียงไพเราะ
21. พระทัพพมัลลบุตรเถระ เอตทัคคะในทางผู้จัดเสนาสนะ
22. พระพากุลเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีโรคาพยาธน้อย
23. พระวักกลิเถระ เอตทัคคะในทางผู้สัทธาธิมุต(หลุดพ้นกิเลสด้วยศรัทธา)
24. พระมหากัปปินเถระ เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาทภิกษุบริษัท
25. พระอุปเสนเถระ เอตทัคคะในทางผู้นำซึ่งความเลื่อมใสโดยรอบในหมู่ชนทั้งชั้นสูงและชั้นต่ำ
26. พระขทิรวนิยเรวตเถระ เอตทัคคะในทางผู้อยู่ป่า
27. พระสุภูติเถระ เอตทัคคะในทางผู้อรณวิหาร(เจริญฌานประกอบด้วยเมตตา)และทักขิไณยบุคคล
28. พระพาหิยทารุจีริยเถระ เอตทัคคะในทางขิปปาภิญญา (ตรัสรู้เร็วพลัน)
29. พระวังคีสเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีปัญญาปฏิภาณฉลาดในการผูกเป็นบทบาทคาถา
30. พระโสณโกฬิวิสเถระ เอตทัคคะในทางผู้ปรารภความเพียร
31. พระโสภิตเถระ เอตทัคคะในทางระลึกปุพเพนิวาสานุสติญาณ
32. พระนันทกเถระ เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาสภิกษุณี
33. พระกังขาเรวตเถระ เอตทัคคะในทางผู้ยินดีในฌาณสมบัติ
34. พระมหาปันถกเถระ เอตทัคคะในทางผู้เจริญวิปัสสนา
35. พระจูฬปันถกเถระ เอตทัคคะในทางผู้ชำนาญในมโนมยิทธิ
36. พระกุณฑธานเถระ เอตทัคคะในทางผู้จับสลากเป็นปฐม
37. พระรัฐบาลเถระ เอตทัคคะในทางผู้บวชด้วยศรัทธา
38. พระกุมารกัสสปเถระ เอตทัคคะในทางผู้แสดงธรรมอันวิจิตร
39. พระมหาโกฏฐิตเถระ เอตทัคคะในทางผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทา ๔
40. พระสาคตเถระ เอตทัคคะในทางผู้ฉลาดในเตโชกสิณสมาบัติ
41. พระปิลินทวัจฉเถระ เอตทัคคะในทางผู้เป็นที่รักใคร่ของเทพยดา

[แก้] พระภิกษุณีที่เป็นเอตทัคคะ

1. พระมหาปชาบดีเถรี เอตทัคคะในฝ่ายผู้รัตตัญญู
2. พระมหาเขมาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้มีปัญญา
3. พระมหาอุบลวรรณาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้มีฤทธิ์
4. พระมหาปฏาจาราเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ทรงพระวินัย
5. พระมหานันทาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ยินดีในฌาน
6. พระมหาธรรมทินนาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้เป็นธรรมกถึก
7. พระมหาโสณาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ปรารภความเพียร
8. พระมหาสกุลาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้มีทิพยจักษุ
9. พระมหาภัททากุณฑลเกสีเถรี (พระนางยโสธรา) เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ตรัสรู้เร็วพลัน
10. พระมหาภัททกาปิลานีเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้มีปุพเพนิวาสานุสสติญาณ (ระลึกชาติได้)
11. พระนางยโสธรา เอตทัคคะในฝ่าย ผู้บรรลุมหาภิญญา
12. พระมหากีสาโคตมีเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง
13. พระมหาสิงคาลมาตาเถรี เอตทัคคะในฝ่าย ผู้พ้นกิเลสด้วยศรัทธา

[แก้] อุบาสกที่เป็นเอตทัคคะ

1. ตปุสสะและภัลลิกะ เอตทัคคะในฝ่ายผู้ถึงสรณะก่อน
2. อนาถปิณฑิกเศรษฐี เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นทายก
3. จิตตคฤหบดี เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นธรรมกถึก
4. หัตถกอาฬวกอานาคามี เอตทัคคะในฝ่ายผู้สงเคราะห์บริษัทด้วยสังคหวัตถุ ๔
5. พระเจ้ามหานามะ เอตทัคคะในฝ่ายผู้ถวายปัจจัย ๔ อันประณีต
6. อุคคคฤหบดี เอตทัคคะในฝ่ายผู้ถวายโภชนะเป็นที่ชอบใจ
7. อุคคตคฤหบดี เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นสังฆอุปัฏฐาก
8. สูรัมพัฏฐเศรษฐี เอตทัคคะในฝ่ายผู้เลื่อมใสอย่างมั่นคง
9. ชีวกโกมารภัจจ์ เอตทัคคะในฝ่ายผู้เลื่อมใสในบุคคล
10. นกุลปิตาคฤหบดี เอตทัคคะในฝ่ายผู้มีความคุ้นเคยในพระพุทธเจ้า

[แก้] อุบาสิกาที่เป็นเอตทัคคะ

1. นางสุชาดา เอตทัคคะในฝ่ายผู้ถึงพระรัตนตรัยก่อน
2. นางวิสาขา เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นทายิกา
3. นางขุชชุตตรา เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นพหูสูต
4. นางสามาวดี เอตทัคคะในฝ่ายผู้มีปกติอยู่ด้วยเมตตา
5. นางอุตตรา (นันทมาตา) เอตทัคคะในฝ่ายผู้ยินดีในฌาน
6. นางสุปปวาสา เอตทัคคะในฝ่ายผู้ถวายรสอันประณีต
7. นางสุปปิยา เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นคิลานุปัฏฐาก
8. นางกาติยานี เอตทัคคะในฝ่ายผู้เลื่อมใสมั่นคง
9. นางกาฬี (อุบาสิกาชาวกุรุรฆริกา) เอตทะคคะในฝ่ายผู้เลื่อมใสโดยได้ยินได้ฟังตาม
10. นางนกุลมาตาคหปตานี เอตทัคคะในฝ่ายผู้มีความคุ้นเคยในพระพุทธเจ้า

[แก้] อ้างอิง

• ชีวประวัติพุทธสาวก ประวัติพระอัจฉริยะมหาเถระเมื่อครั้งพุทธกาล เล่ม 1 จำเนียร ทรงฤกษ์ , 2542 , พิมพ์โดยสำนักปฏิบัติธรรมสวนแก้ว (สาขาวัดปากน้ำ), สำนักพิมพ์ธรรมสภา ISBN 974-7276-30-5

 

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน
ขอคุณท่าน ดร.นนต์และพี่สันติด้วยครับที่ได้มอบวัตถุอันเป็นมงคลยิ่งให้กับผม
ไม่รู้จะกล่าวขอบคุณด้วยคำใดได้จึงจะเหมาะสมกับความเมตตาที่ได้รับจากพี่ทั้งสอง
มีบทสนทนาเล็กน้อยกับพ่อแม่ครูอาจารย์มาเล่าสู่กันฟังครับ
อาจไม่ถูกต้องทุกถ้อยคำแต่ความหมายไม่เปลี่ยนแปลงครับ
พ่อแม่ครูอาจารย์ : เป็นยังไงโยมเก๋เคยพบกับพี่ๆเขามาก่อนหรือเปล่า
ผม : ไม่ครับเคยเห็นแต่ในภาพ
พ่อแม่ครูอาจารย์ : พบแล้วรู้สึกเป็นอย่างไร
ผม : เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อนครับ
พ่อแม่ครูอาจารย์ : คิดว่า ดร.นนต์เป็นอย่างไร
ผม : มีความเมตตาต่อหมู่เพื่อนครับ
พ่อแม่ครูอาจารย์ : รู้มาก่อนหรือเปล่าว่าจะได้รับสร้อยประคำจาก ดร.นนต์
ผม : ไม่รู้มาก่อนครับและยังไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรจึงได้รับ
พ่อแม่ครูอาจารย์ : แม่ชมเฉลยให้โยมเก๋ฟังซิ ว่าเพราะอะไร
แม่ชม : เพราะท่านเล็งเห็นแล้วว่าหมู่คณะของเราจะเป็นหมู่คณะที่ได้เดินทางตามรอยพ่อแม่ครูอาจารย์เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งใจเอาไว้
ดังสัญลักษณ์พิเศษที่พ่อแม่ครูอาจารย์ได้รับรองให้กับลูกศิษย์ไว้

เป็นบทสนทนาช่วงสั้นๆจากโรงครัวครับ
เหตุผลที่แท้จริงคงต้องเฉลยจากผู้ให้ครับ

ความเมตตาของพ่อแม่ครูอาจารย์ต่อศิษย์นั้นไม่มีประมาณจริงๆครับ
อยู่ใกล์กับท่านได้เห็นปฏิปทาของท่านเดินตามรอยท่านก็ได้รับแต่สิ่งที่ดี
แต่เมื่อกลับเข้าสู่ทางโลกผมก็หลงไหลไปกับเรื่องของโลก
พ่อแม่ครูอาจารย์ก็ยังเมตตาฝากผู้ที่รู้จักมาเตือนผม"โยมเก๋อย่าหลงทางเด้อ"
แม้จะอยู่ไกลแสนไกล
อยู่ที่นี่ผมก็ติดอยู่กับโลกไม่ได้มีการปฏิบัติอันใดให้เกิดผล
เมื่อครั้งนี้ได้ไปกราบพ่อแม่ครูอาจารย์อีกครั้งท่านก็ได้เมตตาอบรมสั่งสอนให้ชุดใหญ่(ตามลำพัง)ทำให้ผมมีกำลังใจเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล
ก่อนหน้านี้ไม่กล้าพูดว่าเป็นศิษย์ของท่านจนได้รับการรับรองจากท่านจนไม่มีอันไดจะกล่าว
ทำให้ตอนนี้กำลังใจเปี่ยมล้นมุ่งสู่เป้าหมายในสิ่งเดียวเท่านั้น

สุดท้ายยังขอขอบคุณท่าน ดร.นนต์ กับพี่สันติที่ได้มอบวัตถุอันเป็นมงคลยิ่งให้กับผมจากใจจริงครับ
ผมได้สวมประคำตั้งแต่ออกจากวัดแล้วครับ(ถ้าอยู่ที่วัดกับพ่อแม่ครูอาจารย์ผมจะไม่สวมวัตถุอันเป็นมงคลอันใด)ต้องบอกว่าผมไม่รู้สึกถึงผลกระทบจากการสวมประคำครับอาจมีสาเหตุมาจากสองประการ
1.เวทนาอื่นมาบดบัง ผมถูกพิษของสัตว์บางอย่างกัดที่ท้องแขนก่อนไปวัดครับทำให้ปวดแขนตลอดเวลา
2.ผมยังไม่รู้จักสมาธิครับ ยังไม่รู้จักฌาณอันใด
แต่ความตั้งใจยังเหมือนเดิมครับ
ยังมีอีกเรื่องหากมีเวลามากอยากชวนพี่ๆทุกๆท่านร่วมปฏิบัติธรรมตามข้อวัตรที่พ่อแม่ครูอาจารย์ได้มอบให้ครับ เรื่องข้อวัตรต่างๆ ครูชาติจะรู้ครับผมจะเอามาลงให้คราวหน้าครับ
ขอให้พี่ๆทุกๆคนเจริญในธรรมครับ

 

" องค์เอตทัคคะบารมี " เป็นอีกองค์หนึ่งใน 16 องค์ ที่ได้รับจากพ่อแม่ครูอาจารย์ มีความปิติมากครับที่ได้รับความเมตตาจากท่าน ทำให้มีกำลังใจที่จะมุ่งมั่นปฏิบัติต่อไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของกลุ่มนักรบธรรมให้จงได้ครับ

สมาชิกธรรม

 

ขออนุโมทนากับท่านมานพ(เก๋) เป็นอย่างยิ่ง
พ่อแม่ครูอาจารย์ ได้กล่าวชื่นชมคุณเก๋และยกเป็นตัวอย่างการปฏิบัติของท่านที่มีต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ ซึ่งเกิดจากหัวจิตหัวใจของศิษย์ที่มีต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ ความนอบน้อมถ่อมตน การรู้กาละ เทศะ การเคารพต่อผู้อาวุโส ความมีน้ำใจ ความใส่ใจเล็กๆน้อยๆ ล้วนเป็นจริยวัตรของผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่หายากในยุคปัจจุบันนี้ ผมนั่งฟังพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ได้ให้โอวาทแก่พวกผมในเช้าวันต่อมาหลังจากคุณเก๋ได้กลับแล้ว ผมได้พิจารณาย้อนกลับมาถึงตัวเองที่ยังปฏิบัติต่อแม่ครูอาจารย์ ต่อคุณแม่ชม ต่อเพื่อนธรรม ต่อผู้ติดตาม ยังไม่ได้ครึ่งหัวจิตหัวใจของคุณเก๋เลย และยิ่งนึกพิจารณาถึงความเมตตาของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่มีต่อทุกคนแล้ว ผมถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความละอายใจไม่ได้.....โอ้เราหนอ ทำไมยังมีความเขลาอยู่มากมายหนอ ทำไมเราไม่วางตัวลงไปสู่ที่ต่ำเพื่อจะได้โน้มรับเอาคำสอน โน้มนำเอาปฏิปทาของพ่อแม่ครูอาจารย์มาปฏิบัติให้ถูกต้อง โอ้หนอ...ใจเราน้อมรับเอาคำสอนแล้ว แต่ทำไมการกระทำภาคกาย ภาคปฏิบัติ ยังไม่ตรงกับใจหนอ.... เมื่อพิจารณามาถึงข้อบกพร่อง(ประมาท)ของตัวเอง และโอวาทของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่แสดงออกมาในเช้าวันที่ 26 กย. 2554 ช่างเป็นความจริงแท้แน่นอน ลูกศิษย์คนนี้ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ น้ำตาแห่งความสำนึกระลึกรู้ในจุดนี้ ทำให้ผมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ แม้จะฝึกวางอุเบกขาและวางความปีติมาได้แล้วก่อนหน้านี้ แต่สิ่งเหล่านี้มันกลั้นไม่อยู่ คุณแม่ชมและเพื่อนธรรมก็รับรู้ร่วมกัน เพียงแต่ผมมิได้เอ่ยปากให้ใครๆได้รู้ว่า ผมหลั่งน้ำตาในเรื่องใด

การที่ผมมอบสิ่งที่เป็นมงคล ให้กับผู้ที่มีความเป็นมงคลนั้น แม้ผมจะมอบให้กี่คน กี่ครั้ง จนไม่เหลืออะไรเลย ผมก็ยังมีความยินดีที่จะกระทำเช่นนั้น ความดี กระแสบุญ ความเป็นมงคลของบุคคลนั้น ปิดกั้นกันไม่อยู่สำหรับนักปฏิบัติธรรม คุณเก๋เองก็เป็นบุคคลที่ผมสมควรจะมอบสิ่งมงคลให้อย่างไม่ลังเล นั่นเป็นเพราะกระแสภายในของคุณเก๋เองที่เปล่งออกมา

ผมขออนุโมทนาบุญกับคุณเก๋ และคงเป็นกันอย่างนี้มาหลายภพแล้วนะครับ

ดร.นนต์