ภาพบรรยากาศ หลวงพ่อและคณะไปอินเดีย - สิกขิม - ดาร์จีลิงก์

ของจริงประทับใจกว่าเยอะ..!


ยอมใจพี่ที่อุตส่าห์มานะมาจนถึง












ไม่ต้องกลัวฝุ่น ตั้งแต่วิ่งมายังไม่เจอเลย..!
​

หลงเข้าเมืองลับแลแล้วมั้ง ?
​

 

เวลา ๑๕.๕๐ น. (อินเดีย) ออกจากราวังกลาไปกังต็อก อีก ๓ ชั่วโมงถึง








ฝนตก ถนนลื่น โปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง

ทดสอบตับ..ถ้าแข็งแรงก็ไม่ทรุด..!

ถนนดีขึ้นมาหน่อย

ถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก ช้ำทั้งนอกทั้งใน..!

ดาวไม่ยอม..คุณหลอกดาว..!

ในที่สุดความจริงก็ปรากฏ..!

https://youtu.be/Y_Bz5e5c2ZU
วีรบุรุษผู้กอบกู้สถานการณ์

https://youtu.be/LSTLdMTyjrg
จะผ่านได้ไหมหนอ ? เหมือนกับโดนทับมิดไปแล้ว


หลงดีใจว่าถึงแล้ว แต่คุณก็หลอกดาวจนได้






ขอรับรองด้วยเกียรติของลูกเสือ ว่าถนนดีไม่มีฝุ่นเลย





[yt]https://youtu.be/s4ZGd4Zrhuo[/yt]
มีผู้เมตตาชี้ทางลัดให้ เขาบอกว่าสภาพถนนดีกว่า

https://youtu.be/F5Ym-WvdpcA
ดีกว่าโลกพระจันทร์ตั้งเยอะ..!




มีรถสวนมาบ้างค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย


หลังจากเขย่าตับไตไส้พุงรวมกันดีแล้ว ก็มาเจอถนนสายเดิมที่เลี่ยงมา

https://youtu.be/ybTK0qP-MUY
เป็นที่น่ายินดีว่าไม่หลงทาง




จอดรออีก ๒ คันว่าหลงทางหรือเปล่า ?
​

 

หกโมงเย็นจะครึ่งแล้ว ถ้าหลงเราก็ไม่ได้หลงคนเดียวแน่นอน


มีอุโมงค์กับเขาเหมือนกัน แต่สั้นนิดเดียว

เข้าอุโมงค์หน่อย จะได้ทันสมัย

เกือบโดนฝังทั้งคันไปแล้ว..!


ทุ่มกว่าแล้วเพิ่งเข้าเขตเมืองกังต็อก


ถึงโรงแรมแล้ว เย้..เรารอด..!
​

 

วันศุกร์ที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๙.๐๕ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) พาคณะเข้าที่พัก ณ โรงแรม เดอะ เมเปิล เรสิเดนซี่ เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย














ห้องน้ำพอทน ที่เห็นบนหัวคือหม้อต้มน้ำร้อน
​

 

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๓.๓๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ประธานชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีแห่งที่ ๒๓ (วัดท่าขนุน) บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเพื่อออกอากาศผ่านช่อง YouTube ณ ห้องพักหมายเลข ๔๐๕ โรงแรม The Maple Residency เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย




บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ณ ห้องพักหมายเลข ๔๐๕
โรงแรม The Maple Residency เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย


เวลา ๐๖.๑๐ น. (๐๗.๔๐ น.บ้านเรา) หมอกท่วมเมือง
อากาศ ๑๙ องศาเซลเซียส


สวัสดีค่ะ (รูปสาวไทยในล็อบบี้โรงแรม)


ออกมาก็เจอคำเตือนให้ไปทางนี้ อีกด้านลื่นมาก






เพิ่งเห็นหน้าตาโรงแรมและป้ายชัด ๆ ตอนนี้เอง








ถนนด้านหน้าโรงแรมเกือบจะเป็นป่าธรรมชาติ สงบเงียบดีมาก


ตั้งชื่อถนนเพื่อเป็นเกียรติแก่ด็อกเตอร์พิมราว รามจี เอ็มเบ็ดการ์ ผู้ฟื้นฟูศาสนาพุทธในอินเดียยุคใหม่


แท็กซี่จะมาวันละครั้ง แปลว่าผิดเวลาโปรดเดินเอง..!


คนแถวนี้น่าจะมีนิสัยแบ่งชนชั้น เพราะว่าสร้างบ้านไปตามไหล่เขา สูงต่ำตามความชอบใจ


เหวลึกข้างถนน มีน้ำตกด้วย


กลับมารอเวลากิน เจอถังที่ร้องเรียกให้ใช้ผมด้วย
​

 

การตกแต่งในล็อบบี้โรงแรมที่เน้นศาสนาพุทธ












มีพระพุทธศาสนามหายานและความเชื่อแบบจีนแทรกมาด้วย


มีแนวฝรั่งมังค่า ๑ ชิ้น


ชิ้นนี้คือฮินดูที่ออกแบบได้เท่มาก


เพิ่งมีโอกาสขอถ่ายรูปกับนายสุเรศวร์ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น​

 

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) และคณะ รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร โรงแรมเดอะเมเปิล เรสิเดนซี่ เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย






การตกแต่งในห้องอาหาร เข้ามาก็เจอพระพุทธรูปเลย




ด้านซ้ายมือของห้องอาหาร




ด้านขวามือของห้องอาหาร




ห้องน้ำชายเก่างั่กเชียว..!




ใครจะกินอะไรเลือกกันเอาเอง


เมื่อเช้าสำหรับวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๕
​

 

แปดโมงเช้าเราก็เข้าห้องเรียน เอ๊ย..เดินทางไปไหว้พระ

ขึ้นรถแล้ว ฝนตกได้แล้วจ้าาาา..!

การจลาจล เอ๊ยย..การจราจรติดขัด


ผีเสื้อยักษ์บนสะพานลอย ฝนตกเลยเห็นแค่เงา


ขาไปก็ติด ขามาก็มาก

ออกนอกเมืองแล้ว ฝนหยุด แต่ก็ขับไม่ง่ายอย่างที่คิด

ใครเมารถอย่าดูคลิปนี้ เพราะว่าถ่ายตามจังหวะขับโดยไม่ได้ฝืนไว้เลย

นึกเสียว่ามาสร้างบ้านพักตากอากาศ

https://youtu.be/q6rscrhGV0w
กว่าจะถึงวัดรุมเต็กธรรมจักร


รูปหมู่หน้าวัด ๕๕๕ คนถ่ายน่าจะเมารถ

https://youtu.be/eyaReyEet9w
ห้ามถ่ายรูป ไม่ได้ห้ามถ่ายคลิป ๕๕๕

https://youtu.be/0tUJ5_vFzjQ
พอพวกเราหมดธุระฟ้าก็ปิด คนอื่นจะได้ชมหรือไม่ก็ช่าง ลำเอียงอย่างสุด ๆ
​

 

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๕ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) นำคณะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมสถานที่ ณ วัดรุมเต็กธัมมจักรา เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย










ตำรวจเฝ้าวัดให้ไปช้อปปิ้งก่อน ในขณะที่รอออกใบอนุญาตเข้าชมวัด


เส้นไม่ใหญ่พอ..ห้ามเอารถเข้า


ไม่ไกลหรอก..วันนี้ถึงแน่


ใกล้แล้วครับ รถคันนั้นเป็นของบ้านที่เห็น


ภัตตาคารก่อนขึ้นถึงวัด


ป้ายประวัติตรงทางขึ้นวัด


ตกนกเอี้ยงสาลิกาได้ ๑ ตัวตรงป้ายวัด








รูปท้าวจตุโลกบาลหน้าวิหารใหญ่ ห้ามถ่ายรูปนะจ๊ะ


รูปท่านกรรมาปะที่ ๑๖ มหาเถระอันดับ ๓ ของนิกายวัชรญาณ รองจากทะไลลามะและปันเชนลามะ


จากขวามาซ้าย กรรมาปะองค์ที่ ๑ ท่านมาระ ท่านมิลาเรปะ มหาเถระองค์สำคัญของนิกายกาคิวปะ


อาสนะท่านกรรมาปะที่ ๑๖ พลังงานเพียบเลย..!




บรรจงถ่ายให้คุ้มกับที่เขาห้าม


ไม่เสียยี่ห้อ "แม่น้ำพริกสละ"


ไปไหว้พระสถูปทองคำบรรจุรูปหล่อท่านกรรมาปะ ที่สถาบันกรรมานาลันทาภายในวัด


ห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาด..!


หมดธุระก็ฟ้าปิด หุ..หุ..!
​

 

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) และคณะ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านขายยาข้างวัดรุมเต็กธัมมจักรา เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย




จานใหญ่มาก จานเดียวก็อิ่มไป ๓ วันแล้ว..!






ยังมีตามมาอีก


สุดยอดผู้ช่วย ทำหน้าที่ได้เข้มแข็งมาก..!




เวลา ๑๑.๓๕ น. เดินทางมาวัดรุมเต็กธัมมจักราเก่า

ทางไปวัดรุมเต็กธัมมจักราเก่า
​

 

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๑.๔๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) นำคณะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมสถานที่ ณ วัดรุมเต็กธัมมจักรา (วัดดั้งเดิม) เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย









​

 

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๒.๔๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) นำคณะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมแนวทางปฏิบัติของแม่ชี ณ สำนักแม่ชีกรรมา โชเกล เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย








​

 

ณ สำนักแม่ชีกรรมา โชเกล มืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย


ไปเยี่ยมสำนักแม่ชีกรรมา โชเกล มีหมามาต้อนรับ ฮ่า..ฮ่า..!










อย่าไปห้ามเรื่องถ่ายรูปเลย "แม่น้ำพริกสละ" แกเป็นคนอนุญาตเอง..!


พระแก้วองค์นี้รับถวายไปจากเมืองไทย อยู่ในตู้กระจกจึงถ่ายได้แค่นี้




ของส่วนตัวซึ่งหัวหน้าแม่ชีใช้สวดมนต์




เกือบอุ้มกลับไปทำวัวธนูแล้ว..!


ชุดนี้ตั้งถวายอยู่หน้ารูปกรรมาปะที่ ๑๖


เวลา ๑๒.๕๕ น. (อินเดีย) เดินทางกลับเข้าเมืองกังต็อก






ใช้เวลาเดินทางเกือบ ๕๐ นาที

ถึงเข้าเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
​

 

มาที่สถาบันทิเบตศึกษานัมเกล เพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์


โอ้โฮเว้ย..มากันขนาดนี้..!


นายสุเรศวร์รีบซื้อตั๋วก่อนที่จะโดนเหยียบตาย..!


พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์ทิเบต




หลังเล็กหน้าพิพิธภัณฑ์เป็นศาลท้าวมหาราช
​

 

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๔๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) นำคณะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ธิเบตศึกษา
ณ สถาบันทิเบตศึกษานัมเกล เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย








คนเข้าชมเป็นร้อย คอยดูฝีมือ "แม่น้ำพริกสละ"


แม่เจ้าประคุณเล่นองค์ประธานกลางพิพิธภัณฑ์ก่อนเลย..!




















ให้สัญญาณว่าถ่ายได้เมื่อไหร่ ถึงคนเป็นร้อยก็จะมีจังหวะว่างพอดี


คัมภีร์พระไตรปิฎกสารพัดรูปแบบ


แหวนและกำไลงาช้างเก่าแก่มาก


กปาละสำหรับใช้ในพิธีกรรม ทำจากกะโหลกศีรษะคนจริง ๆ..!


เครื่องดนตรีในศาสนพิธีทำจากกระดูกคน


หลายคนเล็งชุดนี้กันตาเป็นมัน ฮ่า..ฮ่า..!




ซื้อวัชระแกะจากหินเขี้ยวหนุมาน ๑ อัน ราคา ๑๕,๐๐๐ รูปี




ก้อนอิฐที่องค์ทะไลลามะวางศิลาฤกษ์พิพิธภัณฑ์หลังนี้


อาคารหลังพิพิธภัณฑ์ห้ามคนนอกเข้า
​

 

วันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๑๕ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) นำคณะเข้าสักการะพระเจดีย์แห่งสันติภาพ
ณ สถาบันทิเบตศึกษานัมเกล เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย








งานนี้ย่ำต๊อกไปนะจ๊ะ










เลี้ยวขวาหน้าสถาบันทิเบตศึกษา แล้วเดินขึ้นเนินไปประมาณ ๕ นาที


รูปหมู่ฝีมือมัคคุเทศก์สุเรศวร์


เดินจงกรมรอบพระเจดีย์ เสกวัชระแก้วผลึกไปด้วย








เข้าไปชมการสวดมนต์ทำวัตรของพระทิเบตในหอสวดมนต์




เดินกลับมาขึ้นรถที่ลานจอดรถข้างล่าง


เดินทางกลับที่พัก ขึ้นรถฝนก็ตกตามธรรมเนียม

ลำเอียงขนานแท้เบยแม่คุณ..!


ถนนปิดรถเข้าไม่ได้ ต้องลงตรงนี้แล้วเดินเข้าไป


ขออภัย..เขาเขียนว่าอะไรหรือครับ ?


ที่พักอยู่ข้างหน้าแล้ว..สู้..สู้..!


ถึงห้องพักแล้ว..รอดตายไปที..!
​

 

วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๒.๐๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ประธานชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีแห่งที่ ๒๓ (วัดท่าขนุน) บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเพื่อออกอากาศผ่านช่อง YouTube ณ ห้องพักหมายเลข ๔๐๕ โรงแรม The Maple Residency เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย








พืชตระกูลหานช้างร้อง หรือ ตำแยดง ที่ข้างอาคาร ๓๐๐ ปี วัดรุมเต็กเก่า เมื่อวานลืมลงให้ดู




สองต้นนี้ก็อยู่ที่เดียวกัน มัคคุเทศก์เรียกว่าต้นดอกงูเห่า ไม่รู้ว่าบ้านเรามีหรือเปล่า ?


๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๕ เวลา ๐๕.๐๐ น. (อินเดีย) ถ่ายจากหน้าต่างที่พัก


อากาศชื้นมาก ฝนตกทั้งวัน ห้องพักไม่มีเครื่องปรับอากาศ จึงเห็นประโยชน์ของเครื่องเป่าผม ๕๕๕






เขาใช้พระพุทธรูปเป็นเครื่องประดับโรงแรมเท่านั้น


เคาน์เตอร์รีเซฟชั่น รออยู่นานกว่าที่จะว่างให้ถ่ายรูปได้


ช่างดูหรูหราหมาเห่าเสียเหลือเกิน..!

ยามเช้าจากหน้าต่างห้องที่พักมา ๒ วัน


รถมารอขนกระเป๋าไปโรงแรมใหม่


วันนี้กระเป๋าจะเดินทางไปโรงแรมแห่งใหม่ก่อน ตัวคนไปตามโปรแกรมแล้วถึงตามกระเป๋าไป


ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ชางกู อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ๓,๗๕๓ เมตร ต้องตรวจสอบออกซิเจนก่อนไป

​

 

วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. (อินเดีย)
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) และคณะ รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม The Maple Residency เมืองกังต็อก นครรัฐสิกขิม ประเทศอินเดีย










รสชาติเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ? พวกเรามาเร็วเกินไปเขาทำให้ไม่ทัน อิ่มแล้วถึงได้มา
​

 

รถยนต์ของวันนี้เป็นยี่ห้อ Toyota Crysta ป้ายทะเบียนนครรัฐสิกขิม


เป็นนโยบายบังคับของนครรัฐสิกขิม ที่จะหางานหาเงินให้คนของเขา


ได้อารมณ์เดียวกับนั่งรถในเมืองไทย


มีการ "แหกตา" ระบบอัตโนมัติด้วย


เวลา ๐๘.๓๐ น. ออกเดินทางตรงเวลาเป๊ะ


ไปทาง Tsomgo ๓๕ กิโลเมตร

อากาศควรจะดีครึ่งวัน ไม่อย่างนั้น "แม่น้ำพริกสละ" อาจจะโดนยำเป็นน้ำพริกกะปิแทน..!


วันนี้ต้องมักใหญ่ใฝ่สูง หนทางมีแต่ขึ้นกับขึ้น


ตะกายฟ้าหาดาวไปเรื่อย ๆ


มีแต่ชนชั้นสูง


เข้าเมืองลับแลอีกแล้ว


มาติดที่ด่านตรวจชายแดน


ใช้รถพื้นเมือง แต่ไม่มีไกด์พื้นเมือง (นายสุเรศวร์เป็นอินเดียน) จนต้องใช้กำลังภายในช่วยถึงผ่านได้..!


โฉมหน้าคณะผู้ก่อการดี..!

ผ่านด่านมาก็เหมือนกับเข้าเมืองลับแล
​

 

รถยนต์ของวันนี้เป็นยี่ห้อ Toyota Crysta ป้ายทะเบียนนครรัฐสิกขิม


เป็นนโยบายบังคับของนครรัฐสิกขิม ที่จะหางานหาเงินให้คนของเขา


ได้อารมณ์เดียวกับนั่งรถในเมืองไทย


มีการ "แหกตา" ระบบอัตโนมัติด้วย


เวลา ๐๘.๓๐ น. ออกเดินทางตรงเวลาเป๊ะ


ไปทาง Tsomgo ๓๕ กิโลเมตร

อากาศควรจะดีครึ่งวัน ไม่อย่างนั้น "แม่น้ำพริกสละ" อาจจะโดนยำเป็นน้ำพริกกะปิแทน..!


วันนี้ต้องมักใหญ่ใฝ่สูง หนทางมีแต่ขึ้นกับขึ้น


ตะกายฟ้าหาดาวไปเรื่อย ๆ


มีแต่ชนชั้นสูง


เข้าเมืองลับแลอีกแล้ว


มาติดที่ด่านตรวจชายแดน


ใช้รถพื้นเมือง แต่ไม่มีไกด์พื้นเมือง (นายสุเรศวร์เป็นอินเดียน) จนต้องใช้กำลังภายในช่วยถึงผ่านได้..!


โฉมหน้าคณะผู้ก่อการดี..!

ผ่านด่านมาก็เหมือนกับเข้าเมืองลับแล
​