ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

พายุฤดูร้อน

ศรีสะเกษ ต้นไม้ล้ม บาดเจ็บ 3 คน อุตุฯ เตือน 24-25 ระวังอีก
24 เม.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่กรุงเทพฯช่วงเที่ยงวันที่ 23เม.ย. เป็นเพราะพายุฤดูร้อนพัดผ่านเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลทำให้มีหลายจุดที่มีน้ำท่วมขัง อาทิ บริเวณตลาดห้วยขวาง ถนนรัชดา หน้าวังสวนผักกาด ถนนพระราม 6 ช่วงทางด่วน ถนนนิคมมักกะสัน ช่วงถนนราชปรารภ ปากซอยสุทธิพร 2 เขตดินแดง ถนนเกษตร-นวมินทร์ ถนนพหลโยธิน ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรัชดาภิเษก ถนนรังสิต และถนนงามวงศ์วาน
ทั้งนี้ หลายพื้นที่ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ไฟดับ น้ำท่วมถนน ต้นไม้หักโค่น และเกิดลมพัดแรงจนเกิดปัญหาการจราจรติดขัดในหลายเส้นทาง
ส่วนที่จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ หลังถูกพายุฤดูร้อนพัดจนหักโค่นล้มขวางถนนสายบ้านเดียง-สังเม็ก ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แต่ขณะนั้นมีรถจักรยานยนต์พุ่งชนต้นไม้อย่างแรง ทำให้นางหนูเหวี่ยง จันทมั่น นางเคียง ศรีด้วง และ ด.ญ.เกษราภรณ์ หัสโต อายุ 4 ปี บาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย พายุฤดูร้อน ฉบับที่ 6 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 24-25 เม.ย.นี้
Mthai News
<LI class=news_src_item>

​

ทั่วประเทศไทย มีพายุฤดูร้อน เตือนระวังอันตราย จากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้(24เม.ย.) บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 24-25 เมษายน นี้ไว้ด้วย
ภาคเหนือ มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และ ตาก อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา

ภาคกลาง มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา

ภาคตะวันออก มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา

 

เพื่อนซี้จากต่างดาว
(ข้อมูลจากทางกลุ่มเขากะลา)

​

juksawat

• ฝ่ายประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
• ระบบสมบูรณ์

เพื่อนซี้ต่างดาว

ผมมีเรื่องแปลกๆที่จะเล่าให้ฟังอีกแล้วครับ รู้สึกว่าผมจะเป็นคนที่ชีวิตมีแต่เรื่องแปลกๆเข้ามา ความรู้ทางด้านปริยัติก็ไม่ได้ร่ำได้เรียนมา เพราะไม่ได้บวชได้เรียนกับเขา ส่วนใหญ่จะได้จากการปฎิบัติธรรมเสียมากกว่า ได้รู้ ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังมามาก ชีวิตที่สุขสบายก็เคย ชีวิตที่ยากจนแสนสาหัสก็เคย เกิดแก่เจ็บก็เคย แต่ตายยังไม่เคย แต่เคยเห็น เคยเป็นเด็กวัดแล้วพัฒนาตนเองมาเป็นสัปเหร่อ ทำให้ชีวิตรู้สึกปลงและปล่อยวาง ลด ละ เลิก และไม่ยึดติด แต่ครั้นพอถูกเลือกให้ไปเชื่อมระบบและได้ศึกษาธรรมจากการขยายระบบ บอกตรงๆว่าถูกจริตกับตัวตนของเราเองมาก ทำให้การลด ละ เลิก ปล่อยวางและไม่ยึดติดเพิ่มมากขึ้น

ด้วย เหตุนี้เองกระมัง ทำให้เราได้ญาณรักษาจากระบบ และได้มีโอกาสได้ไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยากที่ จ.ตราด ..........

ตัวผมนั้นพึงระลึกอยู่เสมอว่า ผมไม่ใช่ผู้วิเศษที่มีพลังไปรักษาใครได้ ผมยังคงเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ในการรักษา และเป็นผู้ใช้อุปกรณ์นั้นในการรักษา ความดีทั้งหมดที่ได้กระทำมาผมขอยกให้ผู้ที่มาขอรักษา เป็นบุญกุศลของเขาแท้ๆที่ได้มาพบเรา เพราะถ้าไม่มีพวกเขา ก็ไม่มีพวกเรา อุปกรณ์ที่ติดตั้งในตัวผมเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงจากนอกพิภพ ประสิทธิภาพของอุปกรณ์จะใช้ได้ดีหรือไม่อย่างไร อยู่ที่ผู้ที่ได้รับการติดตั้งว่า ได้ลด ละ เลิก ปล่อยวาง และไม่ยึดติดได้มากน้อยแค่ไหน

ผมก็มีเรื่องแปลกๆที่จะเล่าให้ฟังอีกเรื่อง ทีแรกก็ไม่กล้าเล่าให้ฟังหรอก ได้แต่โทรไปปรึกษากับพี่สุดใจ พี่สุดใจบอกกับผมว่า ท่านทราบอยู่แล้วว่าเหตุการณ์นี้จะต้องเกิดขึ้นกับตัวผมซักวันหนึ่ง เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับหลายๆท่าน เมื่อตอนที่ได้รับญาณรักษาใหม่ๆ เพียงแต่ว่าท่านเหล่านั้น ยังไม่ได้เล่าให้ผมฟังเท่านั้นเอง แต่จะให้ผมรู้ได้ด้วยตัวเองเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม.....

เช้าวันหนึ่ง ขณะที่ผมนั่งรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร ขณะเคลิ้มๆ ภาพมนุษย์ต่างดาวได้แว๊ปเข้ามาในจิตผม ลักษณะรูปร่างผอมเพรียว หัวโต ตาสีแดง สวมใส่ชุดสีบรอนท์เงิน ผมรีบลืมตาและคิดว่า เอ....ผมฝันไปหรือนี่ แต่เปล่าภาพนั้นก็ยังคงฝังอยู่ในจิตของผม ผมพยายามหลับตาและลิมตาหลายครั้ง ภาพก็ยังคงอยู่เช่นเดิม ผมก็เลยกำหนดจิตถามเขาไปว่า ท่านมาจากไหน เขาตอบว่ามาจากดาวโลกุตะระ....อะไรเนี่ยผมจำไม่ได้ ชื่อเรียกยากและยาวด้วย ผมถามต่อว่า ท่านชื่ออะไร เขาตอบว่า ชื่อ โลกุตะปากิ แล้วยังบอกต่ออีกว่า เวลาจะทำอะไรหรือให้ช่วยเหลืออะไร ให้เอ่ยนามของเขา แล้วเขาจะมาช่วย

ผม เก็บเรื่องนี้ไว้ไม่กล้าบอกใคร กลัวเขาจะคิดว่าเราบ้า คิดไปเอง ครั้นจะโทรไปบอกี่สุดใจ ก็โทรไม่ติด พอตกกลางคืน ผมนั่งสมาธิและส่งพลังไปรักษาญาติพี่น้องของผมที่ จ.อุตรดิตถ์ ก็เลยลองเอ่ยนามของท่านให้ช่วยส่งพลังไปรักษาให้ ปรากฎว่า พลังที่ไดรับกลับมานั้นแรงมากอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน........

เช้าวันต่อมา ระหว่างที่ผมนั่งรถไฟไปทำงาน จิตก็สัมผัสกับมนุษย์ต่าวดาวอีกครั้ง คราวนี้มาในชุดสีเขียวปีกแมลงทับ ผมก็เลยถามไปว่า ท่านมาจากไหน ชื่ออะไร คำตอบที่ได้รับก็เหมือนเดิม ผมเลยถามไปว่า วันนี้ทำไมท่านมาในชุดสีเขียวปีกแมลงทับ เขาตอบว่า มนุษย์ยังมีหลายชุดได้ จงอย่ายึดติดในสีของชุดที่สวมใส่ ไม่ว่าเราจะสวมใส่ชุดสีอะไร เราก็ยังคงเป็นเราอยู่เช่นเดิม

ผมครุ่น คิดอยู่พักใหญ่......... เราไม่ได้คิดไปเองแน่ ทำไมจิตเราจึงสัมผัสกับมนุษย์ต่าวดาวถึงสองวันติดต่อกัน คิดได้ดังนั้นจึงรีบโทรศัพท์ไปหาพี่สุดใจ ผมรีบเล่าในเรื่องที่ผมประสบมาให้ท่านฟัง ท่านหัวเราะและบอกกับผมว่า ท่านทราบแล้วว่าสักวันหนึ่ง ผมจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เช่นเดียวกันกับที่ผู้อาวุโสหลายๆท่าน ได้เจอมาก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ว่าท่านยังไม่ได้บอกให้ผมทราบ ท่านจะให้ผมทราบด้วยตนเองเมื่อจิตของผมลด ละ เลิก ปล่อยวาง และไม่ยึดติดได้ในระดับหนึ่ง ยิ่งทำได้มากเท่าไรอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาที่ติดตั้งในตัวผม ก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเท่านั้น...........สำหรับท่านโลกุตะปากินั้น ท่านน่าจะชื่อว่า ปากิ มาจากดาวโลกุกะตาปะกาติกอง และท่านเป็นมนุษย์ต่างดาวประจำตัวผม มาช่วยในการดำรงชีวิตและปฎิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมาย.........

3 มีนาคม 2010, 12:39:27 pm

ที่มา http://ufokaokala.com/index.php?topic=49.75

 

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม (Case Study)
ประธานาธิบดีกับมนุษย์ต่างดาว
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา​

​

คำถามข้อที่ 5.เรื่องถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป

ก่อนจะตอบคำถามในส่วนที่ท่านคีร์ซานอยากรู้ในเรื่องที่ถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า โลก และคำว่า มนุษย์ต่างดาว ตามหลักพระพุทธศาสนากันก่อน ซึ่งข้อมูลทั้งหมด ล้วนมีปรากฏอยู่ในตำราอรรถกถาต่างๆ เช่น อรรถกถาพระวินัย สมันตปาสาทิกาแปล อรรถกถามหาทานสูตร อรรถกถาขุททกนิกาย สุตตนิบาต รวมถึงคัมภีร์พระอภิธรรม เป็นต้น สำหรับคำว่า โลก หรือที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ตามหลักพระพุทธศาสนานั้น เราจะเรียกว่า ทวีป (คำว่าทวีปตามหลักพุทธศาสนานั้น ไม่ได้หมายถึงทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป หรือทวีปเอเชีย ตามที่พวกเราเข้าใจ)-โดยจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดสี่ทวีป ซึ่งแต่ละทวีปจะประกอบด้วยทวีปน้อยเป็นบริวารอีกห้าร้อย (ซึ่งคนที่อาศัยอยู่ในทวีปน้อย จะมีรูปร่างลักษณะ รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่คล้ายๆกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในทวีปใหญ่)
​

​

<DIVE />
สำหรับตำแหน่งที่ตั้งของทวีปทั้งสี่นั้น จะตั้งอยู่ระดับเดียวกันกับไหล่เขาพระสุเมรุ ซึ่งถือเป็นแกนกลางของจักรวาลตามหลักพระพุทธศาสนา โดยจะตั้งอยู่ในทิศทั้งสี่ คือ ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อมีการสะท้อนแสงของรัตนะ (หรืออัญมณี)-จากไหล่เขาพระสุเมรุไปยังทวีปทั้งสี่ จึงทำให้สีของต้นไม้ ใบไม้ น้ำในทะเล รวมถึงมหาสมุทรและท้องฟ้าในแต่ละทวีป มีสีที่แตกต่างกันตามสีของรัตนะที่เกาะอยู่ตามไหล่เขาพระสุเมรุ
​

​

<DIVE />
นอกจากนั้น ลักษณะใบหน้าของมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทวีปทั้งสี่ ยังมีลักษณะที่แตกต่างกันตามสัณฐานของทวีปนั้นๆ ดังต่อไปนี้ คือ

1.อุตตรกุรุทวีป จะตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเขาพระสุเมรุ ซึ่งพื้นของทวีปนี้จะมีสีเหมือนทองคำ เนื่องจากมีแสงสีทองของอัญมณีจากไหล่เขาพระสุเมรุทางด้านทิศเหนือ สะท้อนไปยังอุตตรกุรุทวีป สำหรับมนุษย์ในทวีปนี้ จะมีใบหน้าเป็นรูปสี่เหลี่ยม โดยจะมีอายุยืนถึง 1,000-ปีเป็นปกติ ซึ่งมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในอุตตรกุรุทวีปนั้น จะมีคุณสมบัติที่พิเศษกว่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ในชมพูทวีป (โลกของเรา)-อยู่สามประการ ได้แก่

​

​

<DIVE />
1.ผู้คนในอุตตรกุรุทวีป จะไม่ยึดถือหรือยึดติดเงินทองและทรัพย์สมบัติต่างๆของตัวเองว่าเป็นของตน(คือ ไม่ยินดียินร้ายในทรัพย์ที่มี)

2.ผู้คนในอุตตรกุรุทวีป จะไม่หวงแหนหรือยึดถือผู้นั้นผู้นี้ว่าเป็นบุตร เป็นภรรยา หรือเป็นสามีของตน (ประมาณว่า ถ้ามีผู้ใดมาขอบุตร ภรรยา หรือสามีของตนเอง แล้วผู้นั้นมาขอแบบถูกต้อง กล่าวคือ ไม่ได้ไปแย่งชิงใครมาหรือกระทำผิดศีลข้อที่สาม ก็จะยินดียกให้ด้วยความเต็มใจโดยไม่มีอาการหึงหวง คงอารมณ์คล้ายๆกับตอนที่พระเวสสันดรยกบุตรและภรรยาของตนเองให้กับผู้อื่นเป็นทาน)

3.ผู้คนในอุตตรกุรุทวีป จะมีอายุยืนยาวถึง 1,000 ปี เป็นปกติ

​

​

​

<DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify><DIVE />2.ปุพพวิเทหทวีป จะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมรุ ซึ่งพื้นของทวีปนี้จะมีสีเงิน เนื่องจากมีแสงสีเงินของอัญมณีจากไหล่เขาพระสุเมรุทางด้านทิศตะวันออก สะท้อนไปยังปุพพวิเทหทวีป สำหรับมนุษย์ในทวีปนี้ จะมีใบหน้าเหมือนมะนาวตัดครึ่งหรือพระจันทร์ครึ่งซีก โดยจะมีอายุยืน 700 ปีเป็นปกติ</DIV>

​

<DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=center><DIVE /></DIV>

​

​

3.อปรโคยานทวีป จะตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาพระสุเมรุ ซึ่งพื้นของทวีปนี้จะมีสีดังแก้วผลึก เนื่องจากมีแสงสีใสๆของอัญมณีจากไหล่เขาพระสุเมรุทางด้านทิศตะวันตก สะท้อนไปยังอปรโคยานทวีป สำหรับมนุษย์ในทวีปนี้ จะมีใบหน้ากลมเหมือนดวงจันทร์วันเพ็ญ โดยจะมีอายุยืน 500 ปีเป็นปกติ
​

​

<DIVE />
4.ชมพูทวีป คือ โลกที่พวกเราอาศัยอยู่ จะตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุ ซึ่งพื้นของทวีปนี้จะมีสีดังมรกต เนื่องจากมีแสงสีเขียวของอัญมณีจากไหล่เขาพระสุเมรุทางด้านทิศใต้ สะท้อนไปยังชมพูทวีป สำหรับมนุษย์ในทวีปนี้ จะมีใบหน้าเป็นรูปไข่ โดยอายุของมนุษย์ในชมพูทวีปนี้จะมีอายุไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับศีลธรรมของมนุษย์ในยุคสมัยนั้นๆ
​

​

<DIVE />
หมายเหตุ:ในยุคสมัยใดมนุษย์มีกาย วาจา ใจ ประกอบด้วยศีลธรรม อายุขัยของมนุษย์ในยุคสมัยนั้นก็จะยืนยาวเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ โดยจะมีอายุยืนยาวที่สุดถึงหนึ่งอสงไขยปี แต่ถ้าในยุคสมัยใดมนุษย์มีกาย วาจา ใจ ไม่ประกอบด้วยศีลธรรม อายุขัยของมนุษย์ในยุคสมัยนั้นก็จะลดน้อยถอยลงมาตามลำดับ จนกระทั่งมนุษย์มีอายุเพียงแค่สิบปี นอกจากอายุขัยยังไม่แน่นอนเหมือนมนุษย์ในทวีปอื่นๆแล้ว รูปร่างลักษณะของมนุษย์ในชมพูทวีป ยังมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลแห่งกุศลกรรมและอกุศลกรรมที่แต่ละคนได้กระทำเอาไว้มาส่งผล ส่วนมนุษย์ในอีกสามทวีปที่เหลือนั้น มนุษย์แต่ละคนจะมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามดูดีไม่แตกต่างกันมากนัก ที่เป็นแบบนี้ก็เนื่องมาจากมนุษย์ในสามทวีปนั้น จะรักษาศีลและมีคุณธรรมในจิตใจเสมอกัน
​

​

<DIVE />
ดังนั้น คำว่า มนุษย์ต่างดาว ตามหลักพระพุทธศาสนา จึงหมายถึงมนุษย์ที่อาศัยอยู่นอกชมพูทวีป อันได้แก่ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในอุตตรกุรุทวีป ปุพพวิเทหทวีป และ อปรโคยานทวีป นั่นเอง ซึ่งมนุษย์ในทวีปทั้งสามนี้ เราสามารถเรียกสั้นๆตามหลักวิทยาศาสตร์และหลักดาราศาสตร์ว่า มนุษย์ต่างดาว ก็ได้ เพียงแต่รูปร่างลักษณะและที่อยู่อาศัยของมนุษย์ต่างดาวตามหลักพระพุทธศาสนา อาจจะมีความแตกต่างจากความเชื่อและหลักการตามหลักวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ เพราะฉะนั้น ถ้ามีใครถามว่า มนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริงหรือไม่ คุณครูไม่ใหญ่ก็คงตอบไปตามหลักพระพุทธศาสนาที่มีบันทึกในตำราว่า...มีอยู่จริง แล้วมันก็มีอยู่จริงๆ เสียด้วย

ข้อมูลมนุษย์ต่างดาวจากประสบการณ์จริงของท่านคีร์ซาน

สำหรับเรื่องราวที่ท่านคีร์ซานได้ประสบพบเจอกับมนุษย์ต่างดาวนั้น ไม่ใช่มีเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะท่านคีร์ซานเคยเจอถึงสามครั้ง โดยสองครั้งแรกเป็นการพบเจอแบบผ่านๆ กล่าวคือ เห็นแค่ยานยูเอฟโอบินผ่าน แต่ในครั้งที่สามซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสิบสี่ปีที่แล้ว หรือประมาณปี พ.ศ.2540 ท่านคีร์ซานได้ประสบพบเจอกับมนุษย์ต่างดาวแบบเผชิญหน้า1 ซึ่งเรื่องราวที่ท่านคีร์ซานได้เล่าให้ฟังจากปากของท่านคีร์ซานเอง ในช่วงที่ถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป ดังนี้...

เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ.2540 ในขณะนั้น ตัวผมอายุ 35 ปี ในช่วงเวลาประมาณสักสี่ ห้าทุ่ม ผมได้อยู่ในห้องพักกลางกรุงมอสโค ซึ่งผมมีแผนว่าเวลาเที่ยงตรงของวันรุ่งขึ้นผมจะเดินทางไปคาลมิเกีย และในขณะที่ผมกำลังดื่มชาและพักผ่อนดูโทรทัศน์อยู่ในห้องพักซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของตึก ผมก็ได้เผลอหลับไปในช่วงนั้น ทันใดนั้นเอง...ผมรู้สึกเหมือนมีคนมาผลักข้างหลัง พอผมลืมตามองไปที่ระเบียงหน้าห้องก็เห็นหน้าต่างเปิดอยู่ ผมจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่หน้าต่าง ซึ่งตรงบริเวณหน้าต่าง ผมได้เห็นปล่องแสงที่มีลักษณะเหมือนท่อกลมใสอยู่ตรงหน้าต่าง จากนั้น ผมได้เดินไปตามปล่องแสงนั้น ซึ่งผมมองไม่เห็นใครแต่ก็เหมือนได้ยินคนเรียกชื่อของผม พอผมเดินไปจนสุดปล่อง ผมก็ได้พบกับมนุษย์ต่างดาวที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ และใส่ชุดคล้ายๆกับอุบาสก เพียงแต่เป็นชุดสีส้ม

เมื่อผมไปอยู่บนยานอวกาศแล้ว ผมสังเกตเห็นว่าตัวยานมีขนาดใหญ่พอๆกับสนามฟุตบอลถึงสามสนาม และมีมนุษย์ต่างดาวที่ใส่ชุดเหมือนๆกันอยู่เยอะมาก เท่าที่จำได้...บนยานมีสิ่งประดิษฐ์รูปทรงเรขาคณิตที่มีลักษณะและสีสันแตกต่างกันไป นอกจากนั้น ผมยังเห็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเหมือนมอนิเตอร์หรือจอภาพที่ฉายภาพมนุษย์บนโลกว่ากำลังทำอะไรอยู่ และในช่วงที่ผมอยู่บนยานนั้น มนุษย์ต่างดาวแต่ละคนก็กำลังพูดคุยกัน แต่ก็ไม่ได้สนใจผมมากนัก จากนั้น มนุษย์ต่างดาวคนหนึ่งได้พูดกับผมว่า “เราน่าจะไปด้วยกัน”

แต่ผมบอกไปว่า “ผมไม่อยากไป เพราะพรุ่งนี้ผมต้องเดินทางไปที่เมืองอลิสตา (เมืองหลวงของคาลมิเกีย)”

แต่เขากลับตอบว่า “เรากลับมาทันไม่ต้องเป็นห่วง”
ผมก็ตอบเขาไปว่า “ผมกลัวกลับมาแล้วทุกอย่างเปลี่ยนไป เพราะเวลาของคุณแตกต่างจากเรามาก เพราะหนึ่งชั่วโมงของคุณจะเท่ากับ 1,000 ปีของเรา”

จากนั้น ผมก็ถามเขากลับไปว่า “ทำไม คุณถึงไม่เปิดเผยตัว แล้วทำไม คุณถึงไม่ออกโทรทัศน์ถ่ายทอดบีบีซีไปทั่วโลก”
เขาก็ตอบมาว่า “มันยังไม่ถึงเวลา เพราะคนบนโลกยังเด็ก ความคิดยังไม่ถึงขั้น”
ผมก็ถามเขากลับไปอีกว่า “คุณรู้ได้อย่างไรว่า ความรู้ของพวกเราไม่ถึงขั้น เพราะเราก็มีเครื่องบิน มียานอวกาศ แล้วทำไมคุณถึงว่าเรายังเป็นเด็ก”

เขาก็ตอบมาว่า “มนุษย์บนโลกยังเป็นเหมือนเด็ก เพราะความรู้ที่คุณมีเป็นอะไรที่เล็กน้อยมาก นอกจากนั้น พวกคุณยังชอบฆ่าฟันกันเอง แถมยังชอบฆ่าสัตว์ต่างๆเพื่อกินเป็นอาหาร แล้วพวกคุณยังชอบกินเนื้อกันเองอีกด้วย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ความคิดของพวกคุณยังคงดูป่าเถื่อน และยังไม่พร้อมที่จะรับรู้เรื่องราวแบบนี้”

แล้วผมก็ถามเขาไปอีกว่า “แล้วจะทำอย่างไรล่ะ มนุษย์โลกถึงจะพัฒนาความคิดได้เร็วขึ้น”

เขาก็ตอบว่า “พวกคุณต้องพัฒนาความดีขึ้นมา เพราะมนุษย์โลกในตอนนี้เหมือนเด็กห้าขวบที่ยังขับเครื่องบินเองไม่ได้” เขาเปรียบเทียบว่า มนุษย์โลกเป็นเหมือนเด็กเล็กที่ต้องค่อยๆโต ค่อยๆฝึก

ในช่วงที่ผมสนทนากับมนุษย์ต่างดาวนั้น ผมไม่ได้ใช้ภาษาอะไรเลย แต่ผมใช้วิธีส่งใจถึงกันแทน เมื่อถึงเวลาที่ผมจะต้องเดินทางกลับ เขาก็นำยานมาส่งผมที่ห้องพัก โดยใช้ปล่องแสงกลมๆส่งผมเหมือนตอนขามา คือ มาอย่างไรก็กลับอย่างนั้น ผมได้มาถึงที่ห้องพักในเวลา 11:00 น.ของวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2540 รวมเวลาที่หายไป ประมาณสิบสองชั่วโมง เวลาที่หายไปคืนวันเสาร์ ประมาณช่วง 22.00 น.‐23.00 น.กลับมาเวลา 11.00 น.ของวันอาทิตย์

เมื่อผมกลับมาถึงห้องพักของผมแล้ว ผมก็รีบล้างหน้าล้างตา อาบน้ำแต่งตัว เพราะเวลาเที่ยงตรงผมต้องรีบเดินทางไปที่สนามบิน และในระหว่างที่ผมเดินผ่านห้องครัว ผมก็ได้พบกับผู้ช่วยของผมสองคน และคนขับรถอีกหนึ่งคน ผมจึงได้สั่งให้พวกเขาไปเตรียมชาและบอกคนขับให้ไปเตรียมรถ พอผมพูดจบเท่านั้นแหละ ทุกคนต่างอยู่ในอาการตกใจมากว่า...ผมโผล่มาจากไหน เพราะก่อนหน้านี้ ทุกคนต่างเข้ามาตามหาตัวผมในห้องพักแต่กลับไม่พบ ทันทีที่ผู้ช่วยของผมเห็นตัวผม เขาก็รีบเดินมาจับตัวผมดูว่าเป็นตัวจริงหรือเปล่า เพราะอยู่ดีๆผมก็ดันหายไปอย่างไร้ร่องรอย แล้วเขาก็ถามผมว่า “นี่ใช่คีร์ซานหรือนี่ คุณยังมีชีวิตอยู่หรือ คุณหายไปไหนมา”

ผมก็ตอบเขาว่า “ผมไปอยู่บนยานอวกาศ”
ผู้ช่วยของผมก็พูดกับผมว่า “คุณอย่ามาล้อเล่นสิ บอกมาซิว่าคุณไปอยู่ที่ไหนมา”

ในตอนนั้น เขาดูแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ไขกุญแจเข้ามาในห้องพักของผม แต่กลับไม่เจอตัวผม เมื่อหาผมไม่เจอเขาก็คิดว่าเขาคงจะต้องโทรศัพท์ไปแจ้งท่านประธานาธิบดีรัสเซียว่าผมหายตัวไป แต่ยังไม่ทันจะโทรก็กลับมาเจอตัวผมอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งทำให้เขารู้สึกแปลกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้ทุกคนแปลกใจมากที่อยู่ดีๆผมก็หายตัวไป เพราะในระหว่างที่ผมพักอยู่ที่ห้อง ผมล็อคห้องเอาไว้ตลอด แถมหน้าต่างของห้องพักก็ห่างจากดาดฟ้าถึงห้าเมตร และในช่วงที่ผมหายตัวไปทีมงานทุกคนต่างก็เข้ามาช่วยกันค้นหาตัวผมในห้องพักตอนเวลา 10:30 น.แต่ก็ไม่พบ แต่อยู่ดีๆผมก็โผล่มาตอน 11:00 น.ในตอนนั้น ทุกคนโกรธผมมาก เพราะทุกคนคิดว่าผมเล่นซ่อนหา นึกว่าผมล้อพวกเขาเล่น ขนาดคนขับรถของผมยังโกรธ และไม่ยอมคุยกับผมถึงหนึ่งเดือน

แต่เมื่อผมเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ท่านปูติน (ประธานาธิบดีรัสเซีย วาลาดิเมียปูติน) ฟัง ท่านกลับเชื่อในสิ่งที่ผมเล่าว่าเป็นเรื่องจริง นอกจากนั้น ลูกสาวของท่านปูตินยังได้เชิญให้ผมมาเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังหลังจากนั้นอีกสามปี และในปีพ.ศ. 2542 ผมก็ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับสำนักข่าวบีบีซี ซึ่งทำการออกอากาศไปทั่วรัสเซีย นอกจากผมจะเล่าเรื่องนี้ให้ท่านปูตินฟังแล้ว ผมยังได้เล่าเรื่องนี้ให้กับท่านบอริส เยลซิน ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีรัสเซียฟังอีกด้วย ซึ่งท่านเยลซินบอกว่า ท่านทราบแล้วให้ไปทำงานต่อ (แสดงว่าท่านเยลซินไม่ค่อยเชื่อ ซึ่งผิดกับท่านปูตินที่จดทุกคำพูดของผมเลย)

นับตั้งแต่วันที่ผมเจอมนุษย์ต่างดาวในครั้งนั้น ผมก็ไม่สูบบุหรี่และดื่มเหล้าอีกเลย อีกทั้งผมมีโครงการที่จะสร้างวัดที่ใหญ่ที่สุดในคาลมิเกียอีกด้วย และในช่วงสิบปีที่ผ่านมา หลังจากที่ได้พบกับมนุษย์ต่างดาว ผมได้สร้างวัดพุทธไปแล้ว 46 วัด สร้างโบสถ์คริสต์ไปแล้ว 20 โบสถ์

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว จากองค์การนาซา (NASA) มีสถิติว่า ในหนึ่งปีจะมีคนเห็นยานอวกาศ หรือสิ่งที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวประมาณ 4,000 ครั้ง อีกทั้งประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน แห่งสหรัฐอเมริกา กับ ประธานาธิบดีเบรสเนฟ แห่งรัสเซีย เคยปรึกษากันว่าจะไม่ส่งยานอวกาศไปดวงจันทร์ เพราะทราบว่าบนดวงจันทร์ไม่มีมนุษย์ต่างดาว แต่ผมคิดว่าดาวที่ผมไปกับยานอวกาศเมื่อปี พ.ศ.2540 เป็นดวงจันทร์ ตั้งแต่ผมเจอยานอวกาศครั้งแรก หลังจากนั้นอีกสามสิบปี ผมไม่เคยเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ใครฟังเลย

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้เล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้แชมป์หมากรุกคนหนึ่งซึ่งเป็นศาสตราจารย์ฟัง ภรรยาของแชมป์หมากรุกคนนั้นก็บอกผมว่า ตัวเธอก็เคยเห็นยานอวกาศเหมือนกัน จากจุดนี้ทำให้ผมคิดว่า คงมีคนเคยเห็นยานอวกาศมากมาย แต่ไม่กล้าพูดให้ใครฟัง

หมายเหตุ ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมด เรียบเรียงมาจากคำบอกเล่าของท่านประธานาธิบดีคีร์ซานโดยตรง เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2553

ที่มา Dhamma Meditation Peace Buddha กฎแห่งกรรม การนั่งสมาธิ สันติภาพ พระพุทธเจ้า​

 

มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เผยเหมือนฉากในหนังภัยพิบัติ
24 เม.ย. รายงานจากสำนักข่าวสหรัฐฯแจ้งว่า พายุทอร์นาโดหลายลูกได้พัดกระหน่ำใส่ เมืองเซนต์หลุยส์ ในรัฐมิสซู ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้กระจกหน้าต่างของอาคารสนามบินแตก ร้านค้าภาพในเสียหาย และทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ในอาคารได้รับบาดเจ็บหลายคน
ทั้งนี้ พายุทอร์นาโดกำลังแรงหลายลูกยังคงพัดถล่มหลายรัฐทางตอนใต้ และตอนกลางของสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 44 คน ก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก โดยภาพความเสียหายในเซนต์หลุยส์ล่าสุด หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนภาพในหนังภัยพิบัติ
Mthai News










<LI class=news_src_item>

รถบรรทุกแก๊สควํ่า

ประจวบคีรีขันธ์ 24 เม.ย. – รถบรรทุกก๊าซ NGV แหกโค้งคว่ำกลางทางตัดถนนบายพาส หัวหิน-ห้วยมงคล ทำให้ก๊าซ 3.5 ตัน พุ่งฟุ้งกระจาย การจราจรติดขัดเป็นทางยาว
ตำรวจเข้าตรวจสอบอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกก๊าซ NGV พลิกคว่ำ โดยมีก๊าซจำนวนมากรั่วไหลออกจากถัง เหตุเกิดบริเวณทางโค้ง ซึ่งกำลังก่อสร้างทางยกระดับ ตัดถนนบายพาส หัวหิน-ห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ แรงกระแทกทำให้เกิดรอยรั่วที่วาล์วถังก๊าซ และมีก๊าซพุ่งออกมาส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว เจ้าหน้าที่พยายามควบคุมวาล์วก๊าซ และประสานขอรถดับเพลิงนำน้ำมาฉีด เพื่อป้องกันการเกิดประกายไฟหรือเพลิงลุกไหม้ ส่วนก๊าซที่รั่วไหล คาดว่าต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง จึงจะระบายออกจากถังได้หมด
นอกจากนี้ อุบัติเหตุดังกล่าวยังทำให้การจราจรบนถนนสายบายพาสติดเป็นระยะทางยาวกว่า 30 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายรถไปใช้เส้นทางอื่น.
<LI class=news_src_item>

 

ภัยธรรมชาติไม่เท่าไร ที่นี่จะเจอเบากว่าที่อื่นเยอะ แต่ภัยคน จากข้างบ้าน อย่างลูกหลานพระยาละแวก ที่อยากยึดแผ่นดินไทย กับภัยจากคนไทยใจต่างด้าว ที่ชอบบ่อนทำลายบ้านเกิดเมืองนอนนี่แหละ

ทางใต้ก็เย้วๆ อยากจะแยก ทางเหนือบางจังหวัด ก็อยากจะแยกมั่ง สรุป หรือว่าจะเหลือกลมๆ แค่ตรงกลาง ในอีก 50 ปีข้างหน้า

เอ้า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป โลกนี้ไม่มีอะไรยั่งยืน


<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เขมรมามุขใหม่ กล่าวหาไทย ถล่มด้วยปืนใหญ่บรรจุแก๊สพิษ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>24 เมษายน 2554 12:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD vAlign=top width=650 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ไร้วี่แวว SAM3 -- ภาพวันที่ 23 เม.ย.2554 ทหารกัมพูชากำลังรถบรรทุกจรวดหมู่ BM21 "GRAD" ที่ทำในอดีตสหภาพโซเวียตออกจากที่ตั้งใกล้ชายแดนไทยด้าน จ.อุดรมีชัย ขณะเกิดการปะทะรอบใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่สองในวันเสาร์ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เ

มื่อต้นเดือนนี้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซนเคยขู่ว่า หากเครื่องบินไทยล้ำแดนจะยิงด้วยขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน ในการปะทะรอบใหม่วันศุกร์-เสาร์นี้ กัมพูชาอ้างว่าเครื่องบินรบของไทยบินล้ำแดนลึกเข้าไปในกัมพูชาและโจมตีทำความเสียหายหนักให้แก่ฝ่ายกัมพูชา แต่ยังไม่มีการใช้ขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน SAM3 ตอบโต้ตามราคาคุย

ฝ่ายไทยกล่าวว่า กัมพูชาเร่งยั่วยุ และ กำลังโหมรณรงค์ลวงโลกอย่างหนักเพื่อให้สหประชาชาติส่งกำลังรักษาสันติภาพเข้าชายแดนไทยให้ได้.--AFP PHOTO. </B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
ASTVผู้จัดการออนไลน์-- รัฐบาลฮุนเซนได้โหมรณรงค์ทางการทูตอย่างหนัก และล่าสุดโยนข้อหาใหม่ ไทยยิงด้วยปืนใหญ่กระสุน DK75 บรรจุแก๊สพิษ และใช้เครื่องบินรบถล่มอีกรอบในวันเสาร์ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมในกรุงพนมเปญกล่าวหาเรื่องนี้ในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกในบ่ายวันเดียวกัน ในความพยายามดึงความสนใจของประชาคมระหว่างประเทศ

นับเป็นการกล่าวอ้างที่ทำให้ดูเหมือนว่า สถานการณ์ความรุนแรงจนถึงขีดสุด หลังจากกัมพูชาเคยร้องเรียนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UB Security Council) ในเดือน ก.พ. กล่าวอ้างว่า ฝ่ายไทยใช้ปืนใหญ่ 155 มม. บรรจุกระสุนแบบ “ดาวกระจาย” หรือ CMC (Cluster Munitions Coalition) โจมตีใน “สงคราม” ช่วงต้นเดือนเดียวกันที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร

การปะทะเมื่อวันเสาร์นี้เกิดขึ้นที่ในอีกบริเวณหนึ่งห่างจากเดิมไปทางทิศตะวันตกกว่า 100 กม. ที่บริเวณปราสาทตาควายกับตาเมือน ชายแดน จ.อุดรมีชัย กับ จ.สุรินทร์ของไทย ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า “สงคราม” ได้แผ่ลามออกไปอย่างกว้างขวาง

“นับเป็นการการโจมตีครั้งที่ 3 ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และเป็นการรุกรานทางทหารต่อกัมพูชาครั้งที่ 5 โดยกองกำลังฝ่ายกองทัพไทยนับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ในระหว่างการรุกรานครั้งก่อนจากวันที่ 4-7 กุมภาพันธ์ กองทัพไทยได้ใช้ระเบิดดาวกระจาย

ซึ่งได้ทำให้มีชาวกัมพูชาเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ในการโจมตีวันนี้ไทยได้ใช้ DK75 และปืนใหญ่ขนาดหนัก 155 มม. บรรจุแก๊สพิษ”

ข้อความดังกล่าวระบุอยู่ในคำแถลงของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งกล่าวหาด้วยว่า “การโจมตี” ครั้งล่าสุดนี้ดูเหมือนว่า ฝ่ายไทยหวังวจะยึดและครอบครองประสาทตาเมือนและตาควาย

“การโจมตีในวันนี้ทหารราบของไทยได้รับการสนับสนุนจากเครื่องบินทหารและเครื่องบินลาดตระเวนซึ่งบินล้ำแดนลึกเข้าไปในกัมพูชา และ ใช้ปืนใหญ่ 130 มม. 105 มม. และ 155 มม.ในปฏิบัติการโจมตีทำลาย” คำแถลงของกระทรวงกลาโหมกล่าว

ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ 22 เม.ย. รัฐมนตรีต่างประเทศฮอนัมฮอง ได้ทำหนังสือฉบับหนึ่งถึงประธานการประชุม UNSC ในนครนิวยอร์ก กล่าวหาว่าไทยได้อาวุธที่ทันสมัยต่างๆ รวมทั้งปืนใหญ่ 105 มม. 106 มม. และ ใช้เครื่องบินในการโจมตีกัมพูชาเป็นครั้งแรกอีกด้วย ซึ่งทำให้ฝ่ายกัมพูชาล้มตายและได้รับความเสียหายหนัก

ในวันเดียวกัน นายบันคีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติได้ออกเรียกร้องให้ไทยและกัมพูชายุติการปะทะ และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงอีกครั้งหนึ่ง และขอให้ไทยกับกัมพูชาเริ่มเจรจากันอีกรอบเพื่อแก้ไขข้อยัดแย้งอย่างสันติ

“เลขาธิการองค์การสหประชาชาติขอเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด และออกมาตรการเพื่อให้มีการหยุดยิงที่ได้ผล และสามารถตรวจสอบได้ในทันที” มาร์ติน เนซีร์กี โฆษกของนายบันกล่าว

“นายบันยังเชื่อว่าข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีทางทหาร และขอให้ไทยและกัมพูชาเริ่มเจรจาอย่างจริงจัง เพื่อหาหนทางยุติความขัดแย้งอย่างยั่งยืน” โฆษกของนายบันระบุ

โฆษกของกองทัพไทยกล่าวว่าฝ่ายกัมพูชาได้พยายามยั่วยุสร้าวสถานการณ์ขึ้นมา นำไปสู่การปะทะ และ ไทยได้ตอบโต้ "อย่างสมน้ำสมเนื้อ" และ แยกแยะโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น

การปะทะปะทุขึ้นอีกรอบหนึ่งในเช้าวันอาทิตย์ 24 เม.ย.นี้ ในอาณาบริเวณเดิม ซึ่งเป็นวันที่สามติดต่อกัน

สถานการณ์ชายแดนกัมพูชาปะทุขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง กำลังเยือนกัมพูชาอีกด้วย

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กวานโดยเญินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) หรือ "กองทัพประชาชน" ของเวียดนาม ระหว่างการเยือนครั้งนี้กำลังจะมีการเซ็นความตกลงกับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวหลายฉบับ

คณะกรรมการอีกชุดหนึ่งของสองฝ่ายจะประชุมเจรจาเกี่ยวกับการปักปันเขตแดน ที่ดำเนินมาจนถึงขั้นตอนสำคัญในปัจจุบัน

เวียดนามและกัมพูชากำลังเร่งปักปันเขตแดนตั้งแต่ชายแดน จ.รัตนคีรี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงไปจนถึง จ.แก๊บ ติดทะเลอ่าวไทยทางใต้สุด พรรคฝ่ายค้านสมรังสี ซึ่งส่งคณะไปตรวจชายแดนหลายครั้งตั้งแต่ปีที่แล้ว กล่าหาว่ารัฐบาลฮุนเซนยอมสูญเสียดินแดนให้แก่เวียดนาม ไปอย่างมากมาย

การปักปันเขตแดนมีกำหนดจะให้แล้วเสร็จในปี 2555 และปลายปีที่แล้วเวียดนามและกัมพูชาได้ตกลงว่าจ้างบริษัทเอกชนของเดนมาร์ก ให้จัดทำแผนที่ชายแดนขึ้นใหม่ (ใช้แทนแผนอินโดจีนที่ฝรั่งเศสทำขึ้นกว่า 100 ปีก่อน) โดยจะเผยแพร่ในปีหน้าเช่นกัน.


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=542><TBODY><TR><TD vAlign=top width=542 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
คำแถลงของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกคำแถลงเป็นครั้งแรกและเผยแพร่ผ่านสำนักข่าวเอเคพีของทางการในบ่ายวันเสาร์ 23 เม.ย.2554 เป็นคำแถลงฉบับแรกของกระทรวงฯ นับแต่เกิดการปะทะที่ชายแดนในปีนี้

อ้างว่าไทยใช้ปืนใหญ่ 155 มม. บรรจุกระสุนแก๊สพิษ ยิงถล่ม เป็นการเสริมการกล่าวหาครั้งก่อนในเดือน ก.พ. ที่เคยอ้างว่า ไทยได้ใช้ปืนใหญ่ "บิ๊กกัน" แบบเดียวกันนี้บรรจุกระสุนดาวกระจาย CMC ยิงถล่มที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร.</B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=399><TBODY><TR><TD vAlign=top width=399 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ไร้วี่แวว SAM3 -- ภาพวันที่ 23 เม.ย.2554 ทหารกัมพูชากำลังรถบรรทุกจรวดหมู่ BM21 "GRAD" ที่ทำในอดีตสหภาพโซเวียตออกจากที่ตั้งใกล้ชายแดนไทยด้าน จ.อุดรมีชัย ขณะเกิดการปะทะรอบใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่สองใ นวันเสาร์ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา

เมื่อต้นเดือนนี้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซนเคยขู่ว่า หากเครื่องบินไทยล้ำแดนจะยิงด้วยขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน ในการปะทะรอบใหม่วันศุกร์-เสาร์นี้ กัมพูชาอ้างว่า เครื่องบินรบของไทยบินล้ำแดนลึกเข้าไปและโจมตีทำความเสียหายหนักให้แก่ฝ่ายกัมพูชา

แต่ยังไม่มีการใช้ขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน SAM3 ตอบโต้ตามราคาคุย ฝ่ายไทยกล่าวว่ากัมพูชาเร่งยั่วยุ และ กำลังโหมรณรงค์ลวงโลกอย่างหนักเพื่อให้สหประชาชาติส่งกำลังรักษาสันติภาพเข้าชายแดนไทยให้ได้.--AFP PHOTO. </B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ภาพวันที่ 6 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาในชุดออกศึกเต็มขั้นขณะไปขึ้นรถบัสในที่ตั้งแห่งหนึ่งใกล้ชายแดนด้าน จ.พระวิหาร เพื่อไปยังสู่แนวหน้า พวกเขาหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสราวกับจะไปเที่ยวงานเทศกาล แต่ "ทหารตุ๊กตา" พวกนี้ดูจะไม่เคยได้ลั่นกระสุนแม้แต่นัดเดียว

มีการเผยแพร่ภาพเช่นนี้ออกสู่สายตาประชาคมระหว่างประเทศจำนวนมาก นั่นคือช่วงที่กัมพูชาพยายามสร้างภาพว่า กำลัง "ทำสงครามชายแดน" กับไทย และ ขอให้สหประชาชาติส่งกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปควบคุมพื้นที่ชายแดนที่กัมพูชายึดครองอยู่

รัฐบาลฮุนเซนกำลังยายามเรื่องนี้อย่างหนักอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ที่ชายแดน จ.สุรินทร์. --AFP PHOTO/Khem Sovannara.</B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เขมรเดินแผน ยิงปุ๊บฟ้องปั๊บ ทั้งยูเอ็น-อาเซียน กล่าวหาไทย ใช้เครื่องบินถล่ม</TD><TD vAlign=baseline width=102 align=right></TD><TD vAlign=baseline width=102 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>22 เมษายน 2554 18:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
พล.ต.ฮุนมาเนต บุตรชายของฮุนเซน กำลังสนทนากับ พล.ท.ชุมสุชาติ โฆษกกระทรวงกลาโหม หลังการแถลงข่าวที่สำนักนายกรัฐมนตรีในวันศุกร์ 22 เม.ย.นี้ เกี่ยวกับการปะทะที่ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนและตาควาย จ..อุดรมีชัย

และ ยังเป็นครั้งแรกที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้เครื่องบินในการโจมตี อันเป็นความพยายามทำให้ดูเหมือนว่าสองฝ่ายกำลังทำสงครามชายแดนกัน หลังจากได้พยายามมาครั้งหนึ่งในการปะทะทางด้านปราสาทพระวิหาร แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาคมระหว่างประเทศ.--REUTERS/Samrang Pring.</B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กัมพูชากำลังรณรงค์ทางการทูตครั้งใหม่ เพื่อให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาจัดการปัญหาความขัดแย้งชายแดนกับไทย หลังการปะทะในวันศุกร์ 22 เม.ย.นี้ ไม่กี่ชั่วโมง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ได้ส่งสาส์นถึงคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ และประธานกลุ่มอาเซียน กล่าวหาว่า ไทยรุกรานกัมพูชาอีกครั้งโดยยิงถล่มด้วยปืนใหญ่หลายขนาด

​

ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่กัมพูชา กล่าวหาว่า ไทยได้ใช้เครื่องบินในการโจมตีกัมพูชาด้วย ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่การปะทะด้วยกำลังทหารธรรมดาอีกต่อไป หากเป็น “สงคราม” ซึ่งกัมพูชาได้พยายามใช้คำนี้แจ้งต่อสหประชาชาติ มาตั้งแต่เดือน ก.พ.หลังการปะทะที่ชายแดนปราสาทพระวิหาร แต่ไม่มีฝ่ายใดเชื่อถือ

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย เปิดแถลงข่าวในกรุงเทพฯ เวลาบ่ายวันเดียวกัน ระบุว่า ทหารฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลง และรุกล้ำเข้ามาในแดนไทยอย่างชัดเจน ทำให้ไทยต้องป้องกันอธิปไตยและปกป้องประชาชนตามหน้าที่ และ กระทรวงการต่างประเทศกำลังจะทำหนังสือประท้วงเช่นกัน

ดูเหมือนว่า การปะทะในวันศุกร์นี้ เป็นสิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาจงใจจะให้เกิดขึ้น เพื่อดึงความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศอีกครั้งหนึ่ง หลังจากการประชุมที่เมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย ของคณะกรรมการชายแดนสองฝ่ายล้มเหลว การประชุมในระดับรัฐมนตรีกลาโหมไม่อาจจะจัดขึ้นได้ และคณะสังเกตการณ์การหยุดยิงจากอินโดนีเซีย ยังไม่สามารถเข้าประจำการตามแนวชายแดนได้

นายฮอร์ นัม ฮง รมว.กัมพูชา ได้แสดงความโกรธแค้นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน ในการแถลงข่าวที่เมืองโบกอร์

ในสาสน์ลงวันที่ 22 เม.ย.2554 ที่ นายฮง ส่งถึง นายเนสตอร์ โอซอริโอ (Nestor Osorio) ประธานคณะมนตรีความมั่นคงประจำเดือน เม.ย.นี้ ได้กล่าวหาว่า ทหารไทยได้ใช้ปืนใหญ่ 105, 106 และ 155 มม.ยิงถล่มดินแดนกัมพูชาในเขตปราสาทตาเมือน (Ta Mone) กับตาควาย (Ta Krabey)

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชาถึง 21 กม.ในเขตบ้านโคกมอน จ.อุดรมีชัย และ “เครื่องบินไทยได้บินล้ำน่านฟ้ากัมพูชา และกัมพูชาได้รับความเสียหาย เสียชีวิตและบาดเจ็บ เป็นจำนวนมากจากการโจมตี”

สาส์นอีกฉบับหนึ่งที่มีเนื้อหาคล้ายกันนี้ส่งถึง นายมาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ผู้นำกลุ่มอาเซียนปีนี้
.

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศของไทยแถลงข่าวในกรุงเทพฯ วันเดียวกัน ระบุว่าทหารกัมพูชาละเมิดข้อตกลงและรุกล้ำแดนไทยอย่างชัดเจน ทำให้ไทยต้องป้องกันอธิปไตยและปกป้องประชาชน นายกษิตกล่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศจะทำหนังสือประท้วงกัมพูชาเช่นกัน.--REUTERS/Chaiwat Subprasom.</B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>.
เป็นที่ชัดเจนว่า กัมพูชากำลังพยายามที่จะให้สหประชาชาติเห็นความรุนแรงของสถานการณ์และส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าประจำการตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย หลังจากได้พยายามอย่างยิ่ง ทำให้การปะทะที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร ในช่วงต้นเดือน ก.พ.ปีนี้ ให้ดูมีความรุนแรงใหญ่โต แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

รมว.ต่างประเทศกัมพูชา กล่าวหาว่า การกระทำของฝ่ายไทยขัดต่อเอกสารและคำแถลงต่างๆ ที่ออกโดย นางมาเรีย ลูยซา ริเบโร วิออตติ ผู้ทำหน้าที่ประธานคณะมนตรีความมั่นคง (UN Security Council) ในเดือน ก.พ.รวมทั้งคำแถลงของประธานอาเซียนที่ออกหลังการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนวันที่ 22 เดือนเดียวกัน ในกรุงจาการ์ตา

นายฮง ยังกล่าวหาฝ่ายไทยในอีกหลายเรื่อง รวมทั้งการหลบเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของ UNSC ที่มอบหมายให้อินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนจัดประชุมหลายฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ ขณะที่ไทยพยายามแก้ไขความขัดแย้งแบบทวิภาคี ซึ่งไม่เคยได้ผล

ความพยายามของรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ยังได้สะท้อนออกมาทางสื่อของรัฐ ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ สำนักข่าวเอเคพี ซึ่งเป็นของกระทรวงแถลงข่าว ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ความคิดเห็นและงานเขียนของบรรดานักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ของกัมพูชาหลายคน ที่ออกกล่าวหาไทยต่างๆ นานา และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศช่วยจัดการกับ “การก้าวร้าวรุกราน” ของไทย

การปะทะซึ่งดูเหมือนว่า ฝ่ายกัมพูชาประสงค์จะให้เกิดขึ้นนี้ ยังเกิดขึ้นเพียง 1 วันก่อนที่นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) จะเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 23-24 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่สื่อออนไลน์ของประชาคมชาวเขมรในต่างแดน ได้โหมกดดันให้รัฐบาลฮุนเซนแข็งขืน ไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามเวียดนามในการปักปันเขตแดนทางด้านตะวันออก

พรรคฝ่ายค้านในกัมพูชา คือ พรรคสมรังสี กล่าวว่า รัฐบาลฮุนเซนทำให้ประเทศสูญเสียดินแดนให้แก่เวียดนามไปอย่างมากมายในช่วงหลายปีมานี้ และในเดือน ก.พ.กัมพูชายังได้ตกลงตามความต้องการของเวียดนาม ใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ในการปักปันเขตแดนสองประเทศ ขณะที่ยืนกรานใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ในการปักปันเขตแดนกับไทย ที่เป็นปัญหา

การสูญเสียดินแดนทางชายแดนตะวันออกเป็นสิ่งที่รัฐบาลฮุนเซน ได้พยายามปิดบัง และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดแก่สาธารณชนมาโดยตลอด

การปะทะที่ชายแดนไทยในวันศุกร์นี้ กำลังจะทำให้ปัญหาที่ชายแดนด้านเวียดนามไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป อย่างน้อยก็ในขณะผู้นำจากกรุงฮานอยอยู่เยือนกรุงพนมเปญ
.

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
พล.ต.ฮุนมาเนต บุตรชายของฮุนเซน กำลังสนทนากับ พล.ท.ชุมสุชาติ โฆษกกระทรวงกลาโหม หลังการแถลงข่าวที่สำนักนายกรัฐมนตรีในวันศุกร์ 22 เม.ย.นี้ คราวนี้ได้เห็นบทบาทของบุตรชายผู้นำชัดเจนยิ่งขึ้น ต่อสถานการณ์ชายแดนไทย ขณะที่กัมพูชากำลังพยายามเรียกความสนใจของชาวเขมร มาที่ชายแดนไทยอีกครั้งหนึ่ง

ระหว่านายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋งไปเยือนในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ฝ่ายค้านกล่าวว่า รัฐบาลฮุนเซนยอมสูญเสียดินแดนให้เวียดนามมากมายในช่วงกลายปีมานี้.-- REUTERS/Samrang Pring.</B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นายพายสิพาน กับ พล.ท.ชุมสุชาติ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดแถลงข่าวการปะทะรอบใหม่ที่ชายแดนตาเมือน-ตาควาย ทหารสองฝ่ายยิงต่อสู้กันด้วยปืนเล็กและระเบิดอาร์พีจี

ขณะที่กัมพูชาฟ้องยูเอ็นว่า ไทยยิงถล่มด้วยปืนใหญ่หลายขนาดและยังใช้เครื่องบินในการโจมตีเป็นครั้งแรกซึ่งทำให้กัมพูชได้รับความเสียหายหนัก อันเป็นความพยายามทำให้ประชาคมระหว่างประเทศมองว่า ขณะนี้ไทยและกัมพูชาได้เข้าสู่สงคราม.-- REUTERS/Samrang Pring.</B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
พล.ท.ชุมสุชาติ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดแถลงข่าวการปะทะรอบใหม่ที่ชายแดนตาเมือน-ตาควาย ทหารสองฝ่ายยิงต่อสู้กันด้วยปืนเล็กและระเบิดอาร์พีจี ขณะที่กัมพูชาฟ้องยูเอ็นว่า ไทยยิงถล่มด้วยปืนใหญ่หลายขนาด และยังใช้เครื่องบินในการโจมตีเป็นครั้งแรกอีกด้วย

ซึ่งทำให้กัมพูชได้รับความเสียหายหนัก อันเป็นความพยายามทำให้ประชาคมระหว่างประเทศมองว่า ขณะนี้ไทยและกัมพูชาได้เข้าสู่ภาวะสงคราม.-- REUTERS/Samrang Pring.</B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>.
ระหว่างการเยือนครั้งนี้ นายกฯ เวียดนามจะเป็นประธานการประชุมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนของเวียดนามในกัมพูชาด้วย หนังสือพิมพ์กวานโดยเญินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) หรือ "กองทัพประชาชน" ของเวียดนามรายงาน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีทหารไทยเสียชีวิตอย่างน้อย 2 นายจากการปะทะที่บริเวณปราสาทตาควาย อีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับ "ความสูญเสีย" ที่กัมพูชาระบุในสาส์นที่ส่งถึงประธาน UNSC

ในขณะเดียวกัน การปะทะที่ชายแดนครั้งนี้ยังอาจจะมี พล.ต.ฮุนมาเนต บุตรชายคนโต นายพลวัย 33 ปี เข้าไปมีบทบาทด้วยเช่นเคย ในภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ และ เอเอฟพี ฮุนมาเนตได้เข้าร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในกรุงพนมเปญ

ฮุนมาเนตสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยเวสท์พอยต์ สหรัฐฯ และ สำเร็จปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ ได้รับการประดับดาวบนบ่าดวงที่ 2 ในเดือน ม.ค.ปีนี้ ขึ้นเป็นนายพลตรีอายุน้อยที่สุดของกองทัพ

นอกจากนั้นยังได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ผู้นำคือ บิดากับคณะบุคคลที่กุมอำนาจในประเทศนี้มานานเกือบ 30 ปีจนถึงปัจจุบัน

หลังการปะทะที่ชายแดนพระวิหารในเดือน ก.พ. นายกฯ กัมพูชาฮุนเซน กล่าวว่าบุตรชาย ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสถานการณ์ต่างๆ ตามแนวชายแดนไทยด้วย.

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
รถลำเลียงพลของทหารไทยแล่นไปตามถนนเลียบชายแดนในวันที่ 22 เม.ย.2554 เพื่อเสริมกำลังหลังการปะทะกับทหารกัมพูชาซึ่งทำให้ทหารไทยเสียชีวิตอย่างน้อย 3 นาย บาดเจ็บอีกกว่า 10 คน กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระบุในสาส์นที่ส่งถึงคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติว่า ได้รับความเสียหายหนักและมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของเครื่องบินฝ่ายไทย.-- REUTERS/Reuters TV.</B> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะถูกนำกส่งโรงพยาบาลใน จ.สุรินทร์ ในวันศุกร์ 22 เม.ย.นี้่ ฝ่ายไทยเสียชีวิตอย่างน้อย 3 คนในเหตุการณ์ดังกล่าว กว่า 10 คนได้รับบาดเจ็บ

กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาแจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในวันเดียวกันอ้างว่า ได้รับความเสียหายอย่างหนักและมีการสูญเสียจากการโจมตีด้วยเครื่องบินของฝ่ายไทยด้วยเช่นกัน.-- REUTERS/Reuters.</B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ชาวไทยนับหมื่นที่อาศัยตามแนวชายแดนถูกนำไปยังแหล่งพักพิงชั่วคราวที่มีความปลอดภัยใน จ.สุรินทร์ รายงานล่าสุดระบุว่ามีทหารไทยเสียชีวิตอย่างน้อย 3 นายในการปะทะที่เกิดขึ้นตอนเช้าตรู่วันศุกร์ 22 เม.ย.ศกนี้

ฝ่ายกัมพูชาแจ้งต่อสหประชาชาติว่า ได้รับความเสียหายหนักและมีการสูญเสียจากการยิงถล่มด้วยปืนใหญ่และการโจมตีด้วยเครื่องบินของไทย. --REUTERS/Stringer.</B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=center> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left></B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พี่สาวบอกว่า บ้านที่บางเขนย้ายมาอยู่ 2 ปี ไม่เคยมีมดขึ้นบ้านเพราะระบบอัดน้ำยากันปลวกแต่เมื่อวานนี้มีมดขึ้นมาจากในท่อน้ำทิ้งห้องน้ำชั้น 3 เลย ชั้นอื่นก็ไม่ขึ้น ระดับน้ำคงสูงน่าดูนะ

 

สงสารมนุษย์

เฮ้อ...ทำไปหนอมนุษย์:''(

ภัยธรรมชาติที่เข้ามา ก็ฆ่าชีวิตมากพออยู่แล้ว

ทำไมยังจะมาทำสงคราม ฆ่าชีวิตกันเองอีก

 

จับตาภูเขาไฟที่ปลายแหลมญวน​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ดูที่จิต<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4489124", true); </SCRIPT> สมาชิก

เมื่อคืนฝันแผ่นดินไหวประมาณ 8.6 ริกเตอร์ห่างจาก จังหวัดตราดไปในทะเลเฉียงไปทางเขมร น่ากลัวมาก<!-- google_ad_section_end -->

17-03-2011, 01:48 AM

คลิป ภูเขาไฟใกล้ไทยรอวันปะทุ

ในประเทศไทย พบว่าภูเขาไฟส่วนใหญ่มักเกิดบริเวณภาคเหนือ กระจายตัวและตำแหน่งที่ไม่แน่นอน สันนิษฐานว่าเป็นภูเขาไฟเมื่อประมาณ 2-4 ล้านปีที่แล้ว จากรายงานทางธรณีวิทยาและแผนที่ทางธรณีวิทยา พบบริเวณที่เป็นหินภูเขาไฟ หรือหินบะซอลต์อยู่ 5 บริเวณ ได้แก่

บริเวณที่ 1 ทางภาคเหนือ ได้แก่ อำเภอแม่ทา อำเภอสบปราบ และอำเภอเมืองลำปาง ทางด้านทิศตะวันตกของจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก และสุโขทัย เป็นหินบะซอลต์ ไรโอไลต์ แอนดีไซต์ และแอกโกเมอเรต (ศิลาแลง)

บริเวณที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเขากระโดง เขาพนมรุ้ง และภูอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และทางทิศใต้ของจังหวัดศรีสะเกษ

บริเวณที่ 3 ที่ราบสูงภาคกลาง พบที่จังหวัดสระบุรี โคกสำโรง หล่มเก่า ท่าลี่ และทางด้านทิศตะวันตกของภูกระดึง จังหวัดเลย อำเภอเดิมบางนางบวช อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

บริเวณที่ 4 ภาคตะวันตก พบที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

บริเวณที่ 5 ภาคตะวันออก พบที่บ้านบ่อไร่ จังหวัดตราด บ้านบ่อพลอย จังหวัดจันทบุรี

ภูเขาไฟที่พบในประเทศไทยทั้งหมดเป็นภูเขาไฟที่สิ้นพลังแล้วทั้งสิ้น อายุอย่างน้อยที่สุดประมาณ 7 แสนปี

ส่วนใหญ่มีสัณฐานแบบรูปโล่ (Shield Volcanoes) คือสัณฐานไม่สูงมากนักมีความลาดเอียงไม่เกิน 10 องศา ส่วนความเอียงที่ฐานไม่เกิน 2 องศา และมีแร่รัตนชาติอยู่มาก เช่น ทับทิม บุษราคัม และเขียวส่อง เป็นต้น ส่วนภูเขาโคลนที่พบในทะเลอันดามัน มีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นภูเขาไฟ แต่ยังต้องรอการพิสูจน์ที่ชัดเจนต่อไป

วรวุฒิ ตันติวนิช" ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี ซึ่งระบุว่าภูเขาไฟลูกนี้เคยระเบิดมาแล้วเมื่อครั้งอดีต แต่เป็นภูเขาไฟขนาดเล็กไม่ค่อยมีความสำคัญในสายตาของนักวิทยาศาสตร์โลก แต่บังเอิญว่าเป็นภูเขาไฟที่อยู่ใกล้ประเทศไทย

วรวุฒิอธิบายว่า ภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรนตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากหมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ไปทางทิศตะวันออก มีประวัติการปะทุและระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้เป็นระยะๆ แต่ไม่รุนแรง ล่าสุดปี 2538 มีรายงานการปะทุและมีรายงานการพ่นลาวาออกมา

อย่างไรก็ตามวรวุฒิ บอกว่า บนเกาะบาร์เรนไม่มีคนอยู่อาศัย จึงไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดมากเท่าไรนัก แต่ภูเขาไฟลูกนี้ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กังวลว่าหากเกิดการระเบิดอาจจะเกิดสึนามิ ซึ่งประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟลูกนี้ เพราะอยู่ใกล้ประเทศไทยมากกว่าภูเขาไฟลูกอื่นๆ

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 มีรายงานการปะทุและระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรนที่อยู่ห่างจากเกาะนิโคบาร์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 135 กิโลเมตร ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟระเบิดจากประเทศอินเดีย ลงไปสำรวจร่องรอยการระเบิดครั้งใหม่ในรอบ 10 ปี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบลาวาและหินระเบิดพุ่งออกมาอย่างรุนแรงจากปล่องภูเขาไฟ มีอุณหภูมิตั้งแต่ 900 ถึงมากกว่า 1,200 องศาเซลเซียส พร้อมด้วยฝุ่นหินของลาวาที่ร้อนแรงพุ่งออกมาจากปล่องสูงถึง 100 เมตร นานกว่า 15-30 วินาที หมอกควันที่ระเบิดออกมา มีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดใหญ่ๆ ที่มีทิศทางพุ่งไปทางเหนือ

นอกจากนี้วรวุฒิ ยังระบุถึง ภูเขาไฟอีกลูกที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิชายฝั่งอ่าวไทย นั่นคือ ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณปลายแหลมญวน หากระเบิดขึ้นมาอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ แต่ตอนนี้ยังสบายใจได้ เพราะภูเขาไฟลูกนี้ยังสงบเงียบอยู่

แต่ขณะเดียวกันภูเขาไฟกรากะตัวที่ยังคุกรุ่นอยู่ด้วย ยังเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะหากภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดอีกครั้งอาจทำให้เกิดสึนามิได้เช่นกัน
ภูเขาหินยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยแมกม่าจากหินหลอมละลายใต้พิภพเกือบ 200 แห่งทั่วโลกอาจกำลังถูกปลุกด้วยการขยับตัวของแผ่นเปลือกโลก ฤา...ใกล้ถึงวงรอบการระเบิดของภูเขาไฟครั้งประวัติศาสตร์ที่จะย้อนมากลืนอารยธรรมของมนุษย์อีกครั้ง!

ที่มา http://atcloud.com/stories/21326

 

<TABLE id=post4444913 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>04-03-2011, 06:34 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2972 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ระกาจันทร์<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4444913", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Apr 2010
สถานที่: ทุกหนแห่ง
ข้อความ: 135
พลังการให้คะแนน: 76


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4444913 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ฝันถึงภูเขาไฟค่ะ ภาพที่เห็นเหมือนมองแผนที่ จากบนฟ้า เห็นรูปร่างขวานของประเทศไทย ทะเล มีภูเขาไฟเยื้องทางใต้ ฝั่งซ้ายมือ ในฝันคลับคล้ายคลับคลาว่าระเบิดแล้วหรือใกล้ระเบิด จำไม่ได้นะคะ แต่มีข้อมูลภูเขาไฟใกล้ประเทศเรา 2 ลูกค่ะ

http://atcloud.com/stories/21326

1. ภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรน ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากหมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ไปทางทิศตะวันออก มีประวัติการปะทุและระเบิด ของภูเขาไฟลูกนี้เป็นระยะๆ แต่ไม่รุนแรง ในปี 2538 มีรายงานการปะทุและมีรายงานการพ่นลาวาออกมา

อย่างไรก็ตาม บนเกาะบาร์เรนไม่มีคนอยู่อาศัย จึงไม่ค่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดมากเท่าไรนัก

ภูเขาไฟลูกนี้ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กังวลว่า หากเกิดการระเบิดอาจจะเกิดสึนามิ ซึ่งประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟลูกนี้ เพราะอยู่ใกล้ประเทศไทย มากกว่าภูเขาไฟลูกอื่นๆ

ซึ่งเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 มีรายงานการปะทุ และระเบิดของภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรน ที่อยู่ห่างจากเกาะนิโคบาร์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 135 กิโลเมตร ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟระเบิด จากประเทศอินเดีย ลงไปสำรวจร่องรอยการระเบิดครั้งใหม่ ในรอบ 10 ปี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา

พบลาวาและหินระเบิด พุ่งออกมาอย่างรุนแรง จากปล่องภูเขาไฟ มีอุณหภูมิตั้งแต่ 900 ถึงมากกว่า 1,200 องศาเซลเซียส พร้อมด้วยฝุ่นหินของลาวาที่ร้อนแรง พุ่งออกมาจากปล่องสูงถึง 100 เมตร นานกว่า 15-30 วินาที หมอกควันที่ระเบิดออกมา มีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดใหญ่ๆ ที่มีทิศทางพุ่งไปทางเหนือ

2. ยังมีภูเขาไฟอีกลูก ที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิชายฝั่งอ่าวไทย นั่นคือ ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณปลายแหลมญวน หากระเบิดขึ้นมา อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ แต่ตอนนี้ยังสบายใจได้ เพราะภูเขาไฟลูกนี้ยังสงบเงียบอยู่

แต่ขณะเดียวกัน ภูเขาไฟกรากะตัวที่ยังคุกรุ่นอยู่ด้วย ยังเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะหากภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดอีกครั้ง อาจทำให้เกิดสึนามิได้เช่นกัน<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>


http://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-149

 

ปู่อินกล่าวว่าจากพื้นสนามหลวงสูงขึ้น 6 เมตร ....

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ซีเรียเลือดนอง ประท้วงศุกร์-เสาร์ ตายกว่า 120 ศพ นักการเมือง-ผู้นำศาสนา ลาออก ไม่พอใจฆ่าปชช. </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ว่า กองกำลังซีเรียยังคงเดินหน้าปราบปรามประชาชนชาวซีเรียต่อเนื่องโดยเมื่อวันเสาร์ กองกำลังได้ยิงกระสุนใส่ประชาชนซึ่งเข้าร่วมการแห่ศพผู้เสียชีวิตชาวซีเรีย ที่มีผู้คนกว่าหลายหมื่นคน ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการใช้กำลังของกำลังซีเรีย ได้เพิ่มขึ้น 120 ศพ ภายหลังจากปฎิบัติการสลายการชุมนุมที่รุนแรงเมื่อวันศุกร์ ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 112 ราย โดยหัวหน้าหน่วยงานสิทธิมนุษยชนซีเรีย กล่าวว่า เหตุรุนแรงเมื่อวันศุกร์ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 112 คน และวันเสาร์เพิ่มขึ้นอีก 11 ราย โดยเหตุการณ์ปราบปรามในวันศุกร์ที่ผ่านมาถือเป็นวันนองเลือดที่สุดของประเทศ โดยกองกำลังรัฐบาลโจมตีผู้ประท้วงด้วยกระสุนปืน แก๊สน้ำตา

เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งให้นักการเมืองซีเรีย 2 ราย และผู้นำศาสนาหลายคน ประกาศลาออก เพราะไม่พอใจต่อกรณีทางการซีเรียที่ใช้กำลังสังหารประชาชน โดยนายนาสเซอร์ ฮารีรี นักการเมืองหนึ่งในผู้ลาออก กล่าวด้วยความสลดว่า เขาไม่อาจอดกลั้นต่อการเห็นเลือดผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งรินต่อไปอีกได้ และว่า ถ้าเขาไม่สามารถคุ้มครองปกป้องประชาชนจากการโจมตีของกองกำลังรัฐบาลซีเรีย มันไม่มีความหมายอะไรที่เขาจะอยู่ในสภาประชาชนอีก และเขาขอประกาศลาออก

การปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์และวันเสาร์มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัดซัด ได้ประกาศเตือนว่า หากประชาชนยังคงเดินหน้าประท้วงต่อไป จะถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติ หลังจากที่รัฐบาลได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉินที่บังคับใช้มายาวนานไปแล้ว

ด้านประชาชนรายหนึ่งที่เข้าร่วมการประท้วงเมื่อวันศุกร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กองกำลังซีเรียได้แฝงตัวในหมู่ฝูงชนทุกหนแห่ง แม้แต่ปลอมเป็นคนเก็บขยะ บุคคลที่มีโทรศัพท์ก็ถูกตรวจสอบ เหมือนเราอยู่ในนรก ส่วนชายอีกรายบอกว่า เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบต่างแฝงตัวอยู่ในหมู่ประชาชน และมีการใส่สร้อยคอสีส้มเป็นสัญญลักษณ์เพื่อให้กองกำลังซีเรียไม่เข้าใจผิด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
อาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์

แลกกับข้อตกลงไม่ถูกดำเนินคดีปราบปรามการประท้วงของประชาชน
24 เม.ย. รายงานข่าวจากต่างประเทศแจ้งว่า ประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ แห่งเยเมน ที่ครองตำแหน่งผู้นำประเทศยาวนานกว่า 32 ปี ได้ตกลงยอมรับข้อเสนอของตัวแทนผู้แทนไกลเกลี่ยเจรจาแห่งภูมิภาคอาหรับที่จะลงจากอำนาจภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ เขาจะมอบอำนาจให้กับรองผู้นำเยเมน แลกกับการมีเอกสิทธิคุ้มครองไม่ถูกดำเนินคดี ๆ กรณีสั่งเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธสลายการชุมนุมทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ด้าน กลุ่มพรรคฝ่ายค้าน 7 พรรค ต่างแสดงท่าทียอมรับข้อเสนอดังกล่าวด้วย แต่ประเมินว่าสถานการณ์ประท้วงของประชาชนเรือนแสนจะยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะประชาชนชาวเยเมนต้องการให้มีปฎิรูปการเมืองตามสิ่งที่พวกเขาต้องการ และการไม่ลงโทษดำเนินคดีต่อนายซาเลห์ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
ขณะเดียวกัน ฝ่ายค้านเยเมนได้ปฎิเสธข้อเสนอการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลแห่งชาติ ภายใต้ระยะเวลาการลงนามตกลงลงจากอำนาจของผู้นำเยเมนภายใน 7 วัน อ้างว่า กลุ่มต้องการเห็น นายซาเลห์ ลงจากอำนาจก่อน

Mthai News
<LI class=news_src_item>

ทหารพรานไทย

สองฝ่ายเสริมกำลังทหาร ชี้ชนวนเหตุกัมพูชาเขวี้ยงระเบิดใส่ ยังคงมีเสียงปืนดังอยู่
24 เม.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ยิงปะทะขึ้นอีกระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา บริเวณชายแดนด้านปราสาทตาควาย เรื่อยมาจนถึงช่องกร่าง บ้านหนองตาเลิฟ ตำบล บักได และปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเถอพนมดง จังหวัดสุรินทร์ โดยเสียงปืนยิงต่อสู้กันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้ง 2 ฝ่ายยิงกระสุนปืนใหญ่ตอบโต้กันดุเดือด
ทั้งนี้ มีทหารไทย 1 นาย ถูกนำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก ขณะที่มีรายงานว่า มีนายทหารระดับผู้บังคับหมวดของกัมพูชาเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 7 นาย จากเหตุปะทะกันดังกล่าว
ส่วนจุดเริ่มต้นของการปะทะเกิดขึ้นที่บริเวณปราสาทตาควาย เพราะทหารหน่วยรบพิเศษ 91 ของทหารกัมพูชา บุกเข้ามาขว้างระเบิดใส่ทหารไทย ที่ประจำการใกล้กับปราสาทตาควาย กระทั่งเกิดการปะทะกันอย่างหนัก เป็นระลอก 3 ตลอดแนวชายแดน ทั้ง 3 จุด อย่างหนัก และรุนแรง ทหารกัมพูชาระดม กำลังโดยใช้หน่วยรบพิเศษ 91 พร้อมอาวุธสงคราม บุกเข้ายิงโจมตีทหารไทย ทั้ง 3 พื้นที่ อย่างหนักเป็นระลอกๆ
ด้านความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชามีการเคลื่อนอาวุธหนักจาก พื้นที่บ้านโกมุย จังหวัดพระวิหาร ชายแดนด้านจังหวัดพระวิหาร กัมพูชา เข้าเสริมกำลัง ด้านตรงข้ามปราสาทตาควาย และปราสาท ตาเมือนธม ของฝั่งไทย
สำหรับทหารไทยมีการเสริมกำลังพร้อมอาวุธหนักเข้าประจำการตลอดแนวชายแดนเช่นกัน ตั้งแต่ปราสาทตาควาย-ช่องกร่าง ตำบลบักได ไปจนถึงปราสาทตาเมือนธม ระยะทางกว่า 15-20กิโลเมตร
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30น.มีระเบิดจากกัมพูชามาตกที่บ้านหนองคันนาฝั่งปราสาทตาเมือนธมอีก 1 ลูกรวมวันนี้เป็นลูกที่ 5 แล้ว

Mthai News

ทหารไทย

ทหารไทย





ทหารเขมร

ทหารเขมร




<LI class=news_src_item>

 

ทหารไทยคณะทหารอาชีพน่าจะออกรบบ้างอย่าปล่อยแต่ลูกชาวไร่ชาวนาออกรบเวลารบในกทม.เห็นขยันกันจริง M 60 a1-3 นะไม่ต้องเอามาโซว์เดี๋ยวไปเหยียบดินอ่อนที่ฝนตกใหม่ จมนะเป็นเป้านิ่งให้ RPG7 สอยนะพี่ ใช้แค่ M48a5 ตามรูปก็พอมั่งส่วนรถถังCommando Stingray ไม่ต้องเอาออกมาอายเขามีอย่างที่ไหนประเทศที่ผลิตไม่ใช้ปล่อยให้พี่ไทยชื้อมาใช้ประเทศเดียว นี่แหละน่าทำอะไรจะเอา..อย่างเดียว ไม่รู้มีอาหลั่ยไหมพี่

 

กลับไปบ้าน(สุรินทร์)มาเมื่อวันเสาร์ เสียงปืนใหญ่ดังมากๆ ยิงกันที่ชายแดน
ห่าง 3 อำเภอ ผมอยู่อำเภอเมือง ห่างจากชายแดนราว 80 กิโล แถวใกล้ๆนั้น
เขาบอกว่าบ้านสั่นกระจกแตกหลายบ้านเลย

 

อุทกภัยที่บราซิลและโคลอมเบีย​

​

ประเทศในอเมริกาใต้ ทั้งโคลอมเบียและบราซิลก็ต้องเผชิญกับอุทกภัยครั้งรุนแรง

โดยที่โคลอมเบีย ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำในแม่น้ำโบโกต้าและฟริโอ้ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวง กรุงโบโกต้าเพียง 40 กิโลเมตร เอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนและถนนหลายสาย เมืองชีอาและโคต้า ได้รับความเสียหายหนักที่สุด พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำมากาเด-ลาน่า ที่อยู่ทางด้านตะวันตก ทางการยังประกาศให้เฝ้าระวังระดับสูงสุดเนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เมืองฮอนด้า ประชาชนราว 1,500 คนไร้ที่อยู่อาศัยและคาดว่า อีกหลายร้อยคนจะได้รับผลกระทบในอีกไม่กี่วันนี้ ขณะที่นายกเทศมนตรีของเมืองเรียกร้องให้รัฐบาลกลางเร่งจัดส่งความช่วยเหลือโดยด่วน พยากรณ์อากาศโคลอมเบียคาดว่า จะเกิดฝนตกต่อเนื่องในโคลอมเบียไปจนถึงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ แต่ไม่หนักเท่าเดือนนี้

ส่วนที่บราซิล พื้นที่ทางใต้ก็เผชิญกับน้ำท่วมครั้งรุนแรงเช่นกัน ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดทั้งน้ำท่วมและดินถล่ม ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 3 คนถูกดินถล่มลงมาทับบ้านเรือนที่พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองโนวา แฮมบูร์โก้ พยากรณ์อากาศคาด

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

เหตุประท้วงในซีเรีย ตายเพิ่มเป็น 120 คน​

​

กล่มสิทธิมนุษยชน องค์การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ NOHR ของลิเบีย ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงตลอดช่วง 2 วันในซีเรีย เพิ่มเป็นถึง 120 คน

กองกำลังฝ่ายความมั่นคงซีเรีย ยิงกระสุนจริงและแก๊สน้ำตา เมื่อวันศุกร์และเมื่อวานนี้ขณะชาวซีเรียหลายหมื่นคนชุมนุมทั่วประเทศเพื่อประท้วงต่อต้านสมัยการปกครองแบบนิยมใช้อำนาจของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ผู้นำซีเรีย วัย 45 ปี

นายอัมมาร์ กูราบี ผู้อำนวยการ NOHR เปิดเผยว่า ประชาชน 112 คนเสียชีวิต เมื่อวันศุกร์ และอีกอย่างน้อย 8 คนเสียชีวิตเมื่อวานนี้ ประชาชนกว่า 300 คนเสียชีวิตตลอดช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา

เหตุรุนแรงทำให้สมาชิกรัฐสภาซีเรีย 2 คน ลาออกเพื่อแสดงการรังเกียจต่อการเข่นฆ่า ทั้งสองคนเป็นสมาชิกรัฐสภาจากเมืองดารา ทางภาคใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการประท้วงต่อต้านที่เริ่มมาตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

เลขาฯยูเอ็นเรียกร้องไทย-กัมพูชา หยุดยิง​

​

เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ออกมาเรียกร้องให้กัมพูชาและไทยใช้ความอดทน อดกลั้น และออกมาตรการหยุดยิงโดยทันที

นายมาร์ติน เนซีร์กี้ โฆษกองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า นายบัน คีมุน เลขาธิการยูเอ็น ได้เรียกร้องเมื่อวานนี้ ให้ทั้งสองฝ่ายประกาศมาตรการโดยทันทีเพื่อบังคับใช้ให้มีการหยุดยิงที่ได้ผล หลังจากที่การปะทะตลอดสองวันที่ผ่านมา ทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตรวมกันแล้ว 10 นาย

ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าเมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้กล่าวหาว่า ไทยกระทำการที่เป็นการรุกรานซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมไปถึงการยิงปืนใหญ่และส่งเครื่องบินทหารรุกล้ำเข้ามายังดินแดนกัมพูชา ทั้งนี้กัมพูชากล่าวว่า ไทยใช้ปืนขนาด 75 มม.และ 105 มม.ยิงกระสุนแก๊สพิษเข้ามายังฐานที่มั่นทางทหารกัมพูชา ซึ่งผู้บัญชาการทหารกัมพูชาคนหนึ่งเผยว่า กระสุนแก๊สพิษทำให้ทหารที่สูดดมรู้สึกอ่อนเพลีย แต่ไม่ทำให้บาดเจ็บรุนแรง และยังกล่าวหาว่า ไทยใช้ระเบิดดาวกระจายอีกด้วย

ทั้งนี้สมาชิกชาติอาเซี่ยนทั้งอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียน ได้เรียกร้องก่อนหน้านี้ให้ไทยและกัมพูชายุติการใช้ความรุนแรง ขณะที่เวียดนามก็เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นจนถึงที่สุด

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

"หมอดูอีที"
เล็งหาทุนอีกก้อนให้โรงพยาบาลพม่าก่อนเลิกดูดวง ​

​

มะขุ่ย หรือหมอดูอีที ชื่อดังชาวพม่าที่ได้รับความนิยมจากนักธุรกิจ ไฮโซ และนักการเมืองชั้นนำของไทย ที่กลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการทุ่มเงินที่ได้จากการทำนายดวงชะตาก่อสร้างโรงพยาบาลชุมชนขนาดกลาง มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ในนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่ชาวพม่าผู้ยากไร้ โดยทำพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้น อาจเลิกทำนายดวงชะตา ภายหลังการก่อสร้างโรงพยาบาลเสร็จสิ้น

นายสมภพ ธีระสานต์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี ผู้เดินทางไปร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงพยาบาลร่วมกับหมอดูอีที เมื่อปลายปีที่ผ่านมา กล่าวเมื่อวันที่ 21 มกราคม ว่า ได้มีโอกาสเดินทางไปพม่า และไปพบหมอดูอีที ที่บ้านพักเลขที่ 4 ถนนยานาดาร์ทีรี นครย่างกุ้ง หลายครั้ง โดยบ้านของหมอดูอีทีเป็นลักษณะบ้านพักขนาดบ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังไม่ใหญ่โตมากนัก คล้ายบ้านเรือนของชาวพม่าที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน ขณะที่บรรยากาศโดยทั่วไปเงียบสงบเพราะตั้งอยู่บริเวณชานเมืองในแหล่งที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน

"ฐานะทางบ้านของอีทีก็จัดว่าดีกว่าบ้านอื่นๆ เพียงแต่หมอดูอีทีและพี่สาวต่างใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย สมถะ ไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย และมักจะมีความเมตตาเห็นใจชุมชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จากการที่ผมได้พบหมอดูอีทีก็ทราบว่า อีกไม่นานหมอดูอีทีก็คงหยุดรับทำนายแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าอาจจะเลิกหลังก่อตั้งโรงพยาบาลเสร็จ รวมทั้งการหาเงินทุนก้อนหนึ่งสำหรับโรงพยาบาล" นายสมภพกล่าว

นายสมภพกล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 22-25 มกราคมนี้จะเดินทางไปพม่าอีกครั้ง พร้อมคณะผู้บริหารและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) กาญจนบุรี จะเดินทางไปพบหารือกับผู้บริหารและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยทวาย เพื่อแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาระหว่าง 2 มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะการขออาจารย์พม่ามาสอน และส่งอาจารย์ของ มรภ.กาญจนบุรีไปสอนภาษาอังกฤษให้กับนักศึกษาพม่าที่มหาวิทยาลัยทวาย

มติชนออนไลน์ วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

ที่มา http://kunginternews.blogspot.com/2011/01/blog-post_4969.html

ลิ้งค์ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกัน

หมอดูอีที ทำนายเมืองไทยจะมีการรัฐประหารเมษายนนี้

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>'ไสบาบา'ผู้นำจิตวิญญาณชื่อก้องสิ้นชีวิตแล้ว'ศิษยานุศิษย์'สุดอาลัย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>24 เมษายน 2554 21:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250><TBODY><TR><TD vAlign=top width=250 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ศรีสัตยา ไส บาบา (แฟ้มภาพ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - ศรีสัตยา ไส บาบา หนึ่งในผู้นำทางจิตวิญญาณชื่อก้องแห่งอินเดีย ถึงแก่กรรมแล้ววันนี้ (24) ภายหลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่หลายสัปดาห์ ด้านผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งในแวดวงการเมือง กีฬา และวงการบันเทิงทั่วโลกต่างแสดงความโศกเศร้าอาลัย

ไส บาบา ซึ่งอยู่ในวัย 85 ปี พ่ายแพ้แก่สังขารจากการล้มเหลวของอวัยวะสำคัญๆ หลังอาการทรุดหนักมานานกว่า 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ตามคำแถลงของคณะแพทย์ผู้ทำการรักษาเขา

มีศิษยานุศิษย์ชาวฮินดูหลายพันคนของเขา ชุมนุมฟังข่าวกันอยู่ในบริเวณสถาบันแพทยศาสตร์ขั้นสูง อันเป็นโรงพยาบาลที่ไส บาบา เข้ารับการรักษา ณ เมืองปุตตาปารตี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาที่ตั้งอยู่ในรัฐอานธรประเทศ ทางตอนใต้ของอินเดีย

เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เครื่องกีดขวางเพื่อสกัดกั้นประชาชนผู้อาลัยคร่ำครวญ และเรียกร้องให้พวกเขาอยู่ในความสงบ หลังการวายชนม์ของไส บาบาได้รับการประกาศออกมา

“กายสังขารของไส บาบาไม่ได้อยู่กับเราอีกต่อไป ลมหายใจสุดท้ายของท่านสิ้นลงเมื่อเวลา 7.40 น. (ตรงกับ 9.10 น. ตามเวลาประเทศไทย) และเสียชีวิตด้วยสาเหตุระบบหัวใจและปอดล้มเหลว” คำแถลงของโรงพยาบาลระบุ “ร่างของท่านจะได้รับการเก็บรักษาเพื่อให้ประชาชนเคารพสักการะเป็นเวลา 2 วัน ในวันจันทร์ (25) และวันอังคาร (26)”

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้มีจิตศรัทธารวมตัวกันในเมืองปุตตาปารตี เพื่อร่วมบำเพ็ญภาวนาวิงวอนให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับไส บาบา

ไส บาบาได้รับการเคารพนับถือจากผู้คนหลายล้านทั่วโลกผู้เชื่อว่าเขามีพลังเหนือธรรมชาติ ทั้งการเสกสิ่งของออกมาจากอากาศ ระลึกชาติ และรักษาอาการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย ทั้งนี้เขาเป็นที่รู้จักจดจำได้ทันทีจากทรงผมหยิกฟู และเครื่องนุ่งห่มสีแสด พวกนักการเมือง ผู้พิพากษา และทหารระดับนายพลในอินเดีย ตลอดจน ซาชิน เทนดุลการ์ ยอดนักคริกเก็ต และโกลดี ฮอว์น ดาราฮอลลีวูด ตลอดจนคนยากคนจนจำนวนมากมาย ต่างก็เลื่อมใสศรัทธาในตัวศรีสัตยา ไส บาบา

นายกรัฐมนตรีอินเดีย มานโมฮัน ซิงห์ แถลงภายหลังทราบข่าวการถึงแก่กรรมว่า ประเทศชาติจะโศกเศร้าอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการเสียชีวิตของไส บาบา ผู้ซึ่ง “ได้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ประชาชนทุกลัทธิความเชื่อ”

“ท่านเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนหลายล้านคนอันนำไปสู่ชีวิตที่มีศีลธรรมและมีความหมาย” นายกฯซิงห์บอก และเสริมด้วยว่า ไส บาบา สั่งสอนในเรื่อง “อุดมคติที่เป็นสากล ไม่ว่าจะเป็น สัจธรรม, การประพฤติอย่างถูกต้อง, สันติภาพ, ความรัก, และการไม่ใช้ความรุนแรง”

ไส บาบา นั้นอ้างว่า เขาเป็นการกลับชาติมาเกิดของ ไส บาบา แห่งศิรฑี ซึ่งคนจำนวนมากเชื่อว่าเป็นผู้ศํกดิ์สิทธิ์และได้เสียชีวิตเมื่อปี 1918

ขณะที่ องค์กรของไส บาบาได้สนับสนุนโครงการเกี่ยวกับสุขภาพและการศึกษาในอินเดีย ทั้งโรงพยาบาล และคลินิกอีกจำนวนมาก ซึ่งอ้างว่าสามารถรักษาความป่วยไข้ที่อยู่นอกเหนือความสามารถของแพทย์แผนปัจจุบัน

จากอาศรมของเขาในเมืองปุตตาปารตี ไส บาบาได้ก่อตั้งโรงเรียนและศูนย์ต่างๆ ซึ่งทำให้อิทธิพลของเขากระจายไปทั่วโลก

เมืองปุตตาปารตีเจริญรุ่งเรืองขยายตัวจากหมู่บ้านกลายเป็นเมืองจาริกแสวงบุญสำคัญ มีมหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งสนามบินไว้เชิดหน้าชูตา เนื่องจากชาวตะวันตก นักศึกษาชาวอินเดีย และผู้ยากไร้ต่างปรารถนาได้อยู่ใกล้กับบุรุษที่พวกเขาเห็นว่าเป็นร่างอวตารของพระเจ้าในกายมนุษย์

นอกเหนือจากโรงพยาบาล และคลินิก องค์กรของไส บาบายังได้ดำเนินโครงการน้ำดื่ม พิพิธภัณฑ์ ท้องฟ้าจำลอง และห้องปฏิบัติธรรมที่มีเครือข่ายทั่วโลก

ในที่ประชุมที่มีผู้ศรัทธาเข้าร่วมจำนวนมาก การแสดงให้เห็นความสามารถในการเสกเหรียญทอง หรือแม้แต่นาฬิกาข้อมือ ของเขา นำมาซึ่งความเสื่อมใสศรัทธา พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาเขาว่าเป็นพวกหลอกลวง

ไส บาบายังมีข้อครหากรณีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหนุ่มคนหนึ่ง โดยที่พวกคัดค้านเขาระบุว่าทางการอินเดียเมินเฉยต่อเรื่องนี้ เพราะอำนาจและความเป็นที่นิยมชมชื่นจากประชาชนของเขา

มีรายงานว่า กองทุนไส บาบา ที่มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งได้มาจากการบริจาค และถูกวิจารณ์ว่าไม่โปร่งใสนั้น จะมีอนาคตอย่างไรต่อไปยังไม่มีความแน่นอน โดยผู้สังเกตการณ์บางรายคาดการณ์ในทางร้ายว่า อาจมีการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างบรรดาผู้ช่วยคนสนิทของเขา

ไส บาบา ต้องนั่งรถเข็นมาตั้งแต่ปี 2005 และปรากฏตัวต่อสาธารณะน้อยลงทุกที หลังจากประสบอุบัติเหตุจนกระดูกสะโพกหักเมื่อปี 2006

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350><TBODY><TR><TD vAlign=top width=350 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผู้มีจิตศรัทธาเฝ้ารอเพื่อแสดงความเคารพต่อศรีสัตยา ไส บาบาเป็นครั้งสุดท้าย บริเวณหน้าอาศรมในหมู่บ้านปุตตาปารตี วันนี้ (24)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศความเศร้าเสียใจของชาวอินเดีย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350><TBODY><TR><TD vAlign=top width=350 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000050360</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เอ้า..คุณ gun2555 มาอยู่ที่นี่เอง...เรื่องรถถังน่ะ ไม่ลองใช้ดูจริงๆ จะ รู้หรือว่า อะไรดีไม่ดี...ปล่อยให้ทหารเขา แสดงบ้างเถอะครับ...ดีไม่ดีอย่างไร คนที่จะต้องตาย มัน ก็ ไม่ใช่ คนที่ซื้อ อยู่ดี...ชาวบ้านอย่างเรา นั่งเชียร์ อยู่วงนอก ก็ ทำได้ แค่ เพียงแต่ เอาใจช่วย...

..ของแบบนี้...ต่างประเทศ เขา ทำใช้กันเองมานานนับหลายสิบปี แล้ว ไม่เชื่อไป ถาม อินเดีย ปากีสถาน และ จีนดู จนเดี๋ยวนี้ เขา ส่งออกไปขายให้ พวกทำเองไม่เป็น มันรบกัน ทั่วทุกมุมโลก คิดดูเอาเอง ใครเจ๋ง กว่ากัน..

 

เหตุการณ์เดือน เม.ย.-มิ.ย.54
ทำนายโดยโสรัจจะ นวลอยู่​

​

เมษายน 2554 เดือนแห่งมหาเพลิง ห้างดัง-โรงแรมไฟไหม้ซ้ำ มหาจลาจล​

โรงแรมชั้นหนึ่ง และห้างสรรพสินค้าใหญ่เกิดไฟไหม้ เกิดไฟไหม้โรงแรมสูงเสียดฟ้าในกรุงเทพแห่งหนึ่ง คนหนีไฟตกมาตายกว่า 50 คน บาดเจ็บเป็นร้อย ต้องมีเฮลิคอปเตอร์ขนคนหนีจากดาดฟ้าของ “โรงแรมนรก” แห่งนี้ ในช่วงเดือนนี้ ดวงดาวต่าง ๆ ที่มาเข้าแง่มุมกับราศีแห่งประชาธิปไตยเมืองไทยเราแล้ว ยังไม่มีอะไรปลอดโปร่งขึ้นเลย จะมีสัญญาณบางอย่างบ่งว่าผู้ใหญ่ในแผ่นดินของเราจักเป็นอันตราย รัฐบาลประกาศกฎอัยการศึก ผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก​

ตลาดหุ้นเจอกับ ภาวะคับขัน ตกเป็นท้องร่วง ร่วงหล่นไม่หยุดตลอดเดือน จะสูญเสียบุคคลสำคัญของโลกไปในระยะนี้ เป็นนิมิตร้ายแห่งโลก ย่อมจะวุ่นวายไปทั่ว จีนแดง อินเดีย พืชพันธุ์ธัญญาหารจะประสบความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากเกิดอุทกภัย ปลายเดือนเกิดจลาจล คนเท่าแสนชุมนุมกันกลางใจเมืองกรุงเทพฯ เพื่อขับไล่ทรราช​

ดาราเอกของประเทศต้องสังเวยชีวิตไปจากอุบัติเหตุ ทางเครื่องบิน และยังมีข่าวอื้อฉาวนางงามระดับบิ๊กฟ้องหย่ากับสามี ศาลตัดสินให้หย่าขาดกัน​

พฤษภาคม 2554 เดือนสุดหฤโหด รัฐประหารเลือดทาแผ่นดิน หิมะตกในไทย

ทางใต้ 3 จังหวัดชายแดน ถูกก่อวินาศกรรมรุนแรงหลายจุด และโรงเรียน โรงพยาบาลถูกเผาไปจำนวนมาก เป็นเดือนสุดหฤโหดสุด...วิปโยคที่แท้จริงสำหรับคนไทย หุ้นจะตกอย่างรุนแรงอีก การเมืองไทยเต็มไปด้วยความผันผวน เผชิญกับวิกฤตการณ์อย่างหนัก

ข้าวยากหมากแพง อุบัติเหตุใหญ่ ๆ เกิดขึ้นตลอดทั้งเดือน มีการตายหมู่จากเครื่องบิน รถยนต์ จะมีเครื่องบินตก การกระทบกระเทือนชายแดนแถบประเทศพม่า การเตรียมพร้อมและความไม่สงบภายในเขมรยังคงตึงเครียด และมีเหตุภัยธรรมชาติเกิดขึ้นอีกไม่แพ้เดือนก่อน ๆ

ตลาดหุ้นไทยยังอับเฉาสุดจะเยียวยาได้ นักเลงหุ้นมีหนี้สินมหาศาลถึงขั้นล้มละลาย ต้องหนีหัวซุกหัวซุน กลางเดือนธนาคารวิกฤตหนัก การเมืองบ้านเราระส่ำระสายและมีภัยรอบข้าง มีอัคคีภัยร้ายแรงทั่วทุกภาคของประเทศไทย​

ปลายเดือน เกิดหิมะตกทางภาคเหนือของไทย เป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติตามภูเขาทางภาคเหนือจะขาวโพลนไปด้วยสีขาว ตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่ได้พบเห็น แต่โบราณท่านว่า เป็นลางร้ายอาเพศ ผิดธรรมชาติ จะเกิดเหตุร้าย ๆ และรุนแรงตามมาในภายหลัง​

และอีกเหตุการณ์ก็คือ เกิดคลื่นยักษ์สึนามิขนาดใหญ่ พัดเข้าถล่มชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหวศูนย์กลางตะวันตกของเกาะสุมาตรา รุนแรงมาก สร้างความเสียหายให้ชีวิตผู้คนและทรัพย์สินมากกว่าเมื่อครั้งปี 2547 จังหวัดที่ได้ผลกระทบมาก คือ ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, ระนอง, ตรัง และสตูล กวาดผู้คนและบ้านเรือนตกทะเลลงไปจำนวนมาก​

มิถุนายน 2554 เดือนแห่งลัทธิใหม่เกิด แผ่นดินไหว-น้ำท่วม-ไต้ฝุ่นใหญ่ในไทย

ภาคใต้จะถูกก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ทั้ง 5 จังหวัด ไฟเผาสถานที่สำคัญมากมาย บ่งถึงลัทธิทรงเจ้าเข้าผี และไสยศาสตร์จะไม่มีคนเลื่อมใสหรือถูกกำจัด ประชาชนจะหันมาเลื่อมใสศาสนาอันบริสุทธิ์มากขึ้น ในช่วงกลางเดือนนี้มีความตึงเครียดอย่างรุนแรงจนยากที่จะปกปิดให้มิดได้ ผู้นำของประเทศอาจถูกลอบทำร้ายถึงแก่ชีวิต บ้านเมืองสับสนอลเวง ราวปลายเดือนไฟไหม้ใหญ่หลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ โบราณสถานถูกไฟไหม้ทำลายเสียหายมีผู้คนล้มตายเป็นเบือ สร้างความปั่นป่วนโกลาหลไปทั่ว​

แต่ปลายเดือนสุดหฤโหดสุดวิปริตที่แท้ จริงสำหรับคนไทย เพราะจะเกิดภัยธรรมชาติครั้งรุนแรง แหล่งน้ำทั้งเล็กและใหญ่พังทลาย น้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ เกิดไต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ ที่ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี คนตายนับพัน​

เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั่วประเทศไทย มีผู้คนล้มตายมากมายผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน จะมีอุบัติเหตุทางเครื่องบินครั้งใหญ่ สหรัฐอเมริกา อยู่ในระยะคับขัน จะพบกับความตึงเครียดครั้งสำคัญในประเทศประวัติศาสตร์แห่งปี พ.ศ. 2554 จะถูกวินาศกรรมในหลายรัฐจากอาวุธร้ายแรง (นิวเคลียร์), แผ่นดินจะเดือดเป็นไฟ, เกิดกลียุค ผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง​

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2027698#ixzz1KSWfAtPz​

​

 

เรามีนิมิตว่าถูกต่างดาวเอาตัวไปมาสองสามรอบละ ครั้งสุดท้ายประมาณสัปดาห์ก่อน ครั้งนี้พิเศษอยู่หน่อยหนึ่งตรงที่ว่า เรามีเครื่องมือวิเศษอะไรซักอย่างอยู่ที่ตัว เครื่องนี้สามารถช่วยเหลือคนได้มากหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในนิมิต มีเสียงเตือนว่าให้รักษาเครื่องนี้ให้ดี เราก็พยายามจะรักษาให้ดีแต่แค่เราเดินออกจากตัวบ้านไปหน่อยเดียว ก็มีมนุษย์ต่างดาวเข้ามาดึงเครื่องนี้ออกจากมือเราก็บินหนีไป ส่วนอีกตนที่เข้ามาข้างหลังก็จับเราขึ้นอีกลำ วูบเดียวอยู่นอกโลกเลย

 

เห็นด้วย เก่งแต่ฆ่าคนไทยด้วยกัน เก่งแต่ปฏิวัติ