ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

"ฝรั่งเศส" ขอ​เป็น​พระเอก - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แย่แล้วๆๆ ที่ปากน้ำ(ดาวตก)ตอนกลางวัน คนเห็นกันทั้งเมือง ออกtvด้วยค่ะ

 

กราบเรียนคุณลุงชัยมงคลครับ สำหรับแผนอพยพ นั้นจุดปลอดภัยของแต่ละท่านคงเป็นไปตามสายบุญของครูบาอาจารย์แต่ละบุคคลครับ

เส้นทางหลักคงเป็นเส้นเอเชีย นครสวรรค์สำหรับท่านที่จะเดินทางไปทางอยู่ภาคเหนือ

ซึ่งสวนคุณลุงชัยมงคลเป็นประโยชน์แน่นอนครับ ยิ่งต่อไปข้าวยากหมากแพงแน่นอน

อีกจุดที่เน้นการประสานงานและส่งต่อคือ ปรียานันท์ซึ่งกำลังพัฒนาขึ้นสู่การเป็นวัดครับ

ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งที่มีไปอยู่กันเยอะคือ เส้นลพบุรี เพชรบูรณ์ เพื่อไปต่อทางเพชรบูรณ์ ชัยภูมิ เลย

ตอนนี้แต่ละสถานที่ค่อนข้างปิด หลังจากมีกรณีที่พระอาจารย์ท่านหนึ่งถูกสอบเป็นข่าว

ทำให้ตอนนี้แต่ละที่ ครูบาอาจารย์ท่านขอให้เงียบๆอย่าได้เปิดเผยข่าวให้ท่านเดือดร้อนและเกิดบาปจากการที่คนไปปรามาสท่านครับ

ดังนั้นแต่ละสถานที่ปลอดภัยจะเป็นไปตามสายบุญ ตามวาระของแต่ละบุคคลครับ

ท่านที่หมั่นสร้างบุญสร้างกุศล ย่อมรู้ที่ รู้ทาง ในการไปยังสถานที่นั้นๆครับ

สำหรับท่านที่วาระจะรอดถึงเวลา ธรรมมะก็ย่อมจัดสรรไปครับ

แผนงานคงต้องคุยกันอีกทีครับ ว่าเราทุกคนจะร่วมมือร่วมใจประสานพลังกายพลังใจช่วยกันได้อย่างไรบ้าง

ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่หลายท่านที่ให้กำลังใจดูแลจนงานช่วยคนช่วงภัยพิบัติเกิดขึ้นมาได้ขนาดนี้ มีพี่เกษม คุณลุงชัยมงคล พี่vijit_j พี่นาคา พี่มารีน พี่สนั่น พี่ตั้มศักดิื พี่คลิก พี่สุดใจ พี่ไก่ และพี่ๆเพื่อนทุกท่านที่ช่วยกันตั้งแต่ต้นครับ

อีกไม่นานก็จะเป็นภาคสนามของจริงหลังจากที่เรา ร่วมใจกันเตรียมงานต่างๆมา5-6ปีเข้าไปแล้ว

ทุกคนมีหน้าที่ มีภาระกิจ มีความชำนาญเชี่ยวชาญ เอกทัคคะเฉพาะตน ซึ่งงานทั้งหมด จำเป็นต้องนำความสามารถของทุกๆคนมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวและประสานความร่วมมือให้เกิดผลต่อส่วนรวมให้ได้

จากการให้ข้อมูลทางด้านต่่างๆ ไปจนถึงการเตรียมการ การวางแผน ในการให้ความช่วยเหลือทั้งทางโลกทางธรรม

เราทุกๆคนมีจิตเสียสละให้ต่อส่วนรวมอย่างปฏิเสธไม่ได้

แต่ขณะเดียวกัน

ทุกสิ่งย่อมไม่เกิน อำนาจ กฏของกรรม

คนรอด คนไม่รอด ย่อมเป็นไปตามกรรมที่ตนเองสร้างเอาไว้

ดังนั้นการช่วยให้เขาทำกรรมดี จนพ้นเกณฑ์ที่จะต้องโดนล้าง คือการช่วยแต่ละบุคคลให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ

ผมเชื่อว่าเราทุกๆคนร่วมใจ ร่วมงานกันทำดีที่สุดแล้วครับ

เมื่อถึงเวลาแห่งภัยพิบัติมาถึง จะมีคนอีกมากมายหลายคนที่ฉายแสงแห่งความดี ความเสียสละออกมาให้ปรากฏ

และที่สำคัญที่สุด ผมอยากให้ทุกๆคน เชื่อมั่น ในความหวังของโลกที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นหลังภัยพิบัติ

หากอยู่รอดก็จงอยู่ด้วยความหวังและแรงบันดาลใจอันเต็มเปี่ยมที่จะช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ค้ำชูสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยกันครับ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=1000><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE style="BORDER-BOTTOM: #f34f8b 1px solid; BORDER-LEFT: #f34f8b 1px solid; BORDER-TOP: #f34f8b 1px solid; BORDER-RIGHT: #f34f8b 1px solid" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><FORM style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px" encType=multipart/form-data method=post name=formlogin action=http://member.teenee.com/member/login.php><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD width=50 align=right>ชื่อผู้ใช้ :</TD><TD width=90><INPUT style="FONT-SIZE: 10px; font-face: tahoma" name=txtusername maxLength=35 size=13></TD><TD width=60 align=right>รหัสผ่าน : </TD><TD width=100><INPUT style="FONT-SIZE: 10px; font-face: tahoma" name=txtpwd maxLength=35 size=13 type=password></TD><TD width=150><INPUT style="FONT-SIZE: 10px; font-face: tahoma" value=login type=submit> <INPUT name=remember value=1 CHECKED type=checkbox> Remember </TD><TD>สมัครสมาชิก ลืมรหัสผ่าน </TD></TR></TBODY></TABLE></FORM></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> กองกำลังยูเอ็น-ฝรั่งเศส ใช้ฮ.ถล่มบ้านพัก "โลรองต์ บักโบ" </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
ฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และฝรั่งเศส ยิงถล่มบ้านพักของประธานาธิบดีโลรองต์ บักโบ ของไอวอรีโคสต์

ช่วงกลางดึกวานนี้ (10 เม.ย.) ซึ่งยูเอ็นอ้างว่าเพื่อเป็นการตอบโต้หลังจากกองกำลังของเขาเข้าโจมตีสำนักงานใหญ่ของยูเอ็นและพลเรือน

โดยนายบัน คี-มุน เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า ตนเป็นผู้อนุญาตให้มีการโจมตีครั้งนี้ และกล่าวหานายบักโบว่าใช้อาวุธหนักโจมตีพลเรือนชาวไอวอรี โคสต์ และกองกำลังจากยูเอ็นที่พยายามจะคุ้มกันเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายบักโบและกองกำลังของเขาแสดงความจำนงที่จะร่วมเจรจาเพื่อยุติวิกฤติการณ์ดังกล่าว "แต่เขากลับใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการรวบรวมกำลังพลขึ้นมาใหม่และจัดหาอาวุธหนักเพิ่มเติม"

โดยประชาชนที่อาศัยในเขตดังกล่าว รายงานว่า พวกเขาเห็นเฮลิคอปเตอร์โจมตี รุ่น เอ็มไอ-24 ของยูเอ็น และเฮลิคอปเตอร์ของฝรั่งเศสเปิดฉากยิงถล่มบ้านพักของนายบักโบ ซึ่งเขาอาศัยบังเกอร์ที่ขุดขึ้นเป็นที่หลบภัย ขณะที่สื่อมวลชนต่างชาติระบุว่า เห็นเฮลิคอปเตอร์จำนวนหนึ่งบินขึ้นจากฐานทัพของฝรั่งเศส จากนั้นจึงได้ยินเสียงระเบิดจากทิศทางที่เป็นที่ตั้งของบ้านพัก

นายบักโบไม่ยอมลงจากตำแหน่งหลังจากประชาคมโลกรับรองว่านายอลาสซาน วัตตารา เป็นผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ส่งผลให้เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มสนับสนุนทั้งสองฝ่าย มีคนล้มตายเป็นพัน ด้านนายฮามาดูน ตูร์ โฆษกยูเอ็นในไอวอรี โคสต์ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการทางทหารกำลังดำเนินอยู่ และจะมีการประเมินผลในวันนี้

นายบัน คี มูน เลขาธิการยูเอ็น อนุมัติให้ใช้ทุกวิธีที่จำเป็นในการหยุดยั้งการใช้อาวุธหนักของกองกำลังบักโบ เพราะในช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้ใช้ทั้งปืนกล มือปืนซุ่มยิง และจรวดอาร์พีจีถล่มสำนักงานยูเอ็น ฐานที่มั่นของนายวัตตาราและย่านที่พักอาศัยของพลเรือน 2 แห่ง เป็นการกระทำที่ไม่สามารถปล่อยให้ดำเนินต่อไปได้

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ฐานทัพเรือและฐานทัพทางทหารหลายแห่งของนายบักโบรอบเมืองอาบิดจัน ถูกกองกำลังยูเอ็นและฝรั่งเศสโจมตี ส่วนโฆษกของเขาเผยว่า มีกลุ่มควันดำโขมงลอยขึ้นจากที่พักประธานาธิบดี แต่ไม่ได้เผยว่านายบักโบอยู่ในเวลานั้นหรือไม่ ชาวบ้านใกล้ทำเนียบและที่พักประธานาธิบดีเผยว่า ได้ยินเสียงปืนใหญ่และยิงปะทะตลอดบ่ายวันอาทิตย์ ว่ากันว่านายบักโบหลบอยู่ในที่พักกับครอบครัว คนสนิทและกลุ่มนักรบราว 1,000 คน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เห็นอาจารผมบอกอีกว่าเขื่อนศรีฯ ยังไม่เเตกเร็วๆนี้อ่ะครับ

เเละเห็นอาจารผมดูไม่กลัวภัยพิบัติเลย กลัวเเต่จากคนมากกว่าโดยเฉพาะปีหน้า
ไม่เห็นบอกว่าต้องอพยบเลย ผมดูอาจารผมเหมือนคิดจะตั้งป้อมอยู่ที่กรุงเทพ ให้มีเเต่
คนดีๆอยู่ด้วยกัน เเต่พวกอาวุธเคมี โรคสายพันธุ์ใหม่พวกมะเร็งผิวหนัง
อหิวาสายพันใหม่ที่เป็นเเล้วตายภายใน3วันก็กล่าวถึงเหมือนกัน

เเต่ถ้าภาวนาอยู่ปรับธาตุ4อยู่เสมอๆสิ่งเหล่านี้ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมก็คิดๆดูถ้าห้อยพระ
ที่กันรังสีนิวเคลียอยู่ ถึงจะไม่ตายเพราะรังสีนิวเคลียเเต่ถ้าโดนมะเร็งผิวหนังจากเเดด
หรือเจอเชื้อโรคสายพันธ์ใหม่ๆก็คงไม่รอดเหมือนกัน สู้ภาวนาปรับธาตุ4ด้วยตัวเอง
น่าจะดีกว่าเพราะถ้าคิดจะกันรังสีนิวเคลียอย่างเดียวคงไม่รอด

ส่วนนิวเคลียจากญี่ปุ่นดูเหมือนไทยน่าจะเจอประมาณเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากโลก
หมุนไปหมุนมายังไงก็ไม่รู้ไปเข้าล็อกกับญี่ปุ่นช่วงที่โดนนิวเคลีย เเต่ผลกระทบก็เเค่
มีผื่นเเดง เล็กๆน้อยๆ

 

วันก่อน ได้มีโอกาสคุยกับผู้ปฏิบัติธรรม ชาวไต้หวัน ท่านหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหวและภัยพิบัติ เขาแนะนำวิธีการหนึ่ง น่าสนใจ ลองอ่านดู

ให้เอาแม่เหล็กหนึ่งแท่งผูกไว้ที่เพดาน แล้วเอาแม่เหล็กอีกแท่งดูดกันไว้ (รวมเป็น 2 แท่ง)
แล้วเอาถาดโลหะวางไว้ที่พื้นด้านล่าง

ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติ 10 นาที หรือ สั้นๆ ในหลายวินาที
แท่งแม่เหล็กที่ถูกดูดไว้จะถูกทิ้งตัว ลงมากระทบถาดโลหะ เสียงดัง
ให้หลบได้เลย

เขาว่าวิธีนี้ ได้ผลจริงๆ และทางบ้านเค้าเผยแพร่แนะนำกันไปทั่วโลกแล้ว

ลองโพสดู หวังว่าคงเป็นประโยชน์

 

​

พระคำข้าวและพระหางหมาก สามารถนำมาอธิษฐานทำน้ำมนต์ เพื่อป้องกันโรคสายพันธุ์ต่างๆ ได้ครับ หรือจะอธิษฐานขอให้ปรับธาตุ 4 ในร่างกายของเรา หรือปรับธาตุ 4 ในรัศมีรอบๆ ตัวเราก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะอำนาจแห่งพุทธานุภาพของพระพุทธเจ้านั้น ยิ่งใหญ่และมากมายเหลือที่จะพรรณาได้จบสิ้นครับ

วิธีทำน้ำมนต์ ตามตำราหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ให้เอาน้ำใส่บาตร แล้วเพ่งจิตสู่ก้นบาตร ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในอดีตถึงปัจจุบันทั้งหมด แล้วสวดอิติปิโส ๓ ห้อง ขณะสวดเพ่งจิตสู่ก้นบาตร แล้วอธิฐานว่า ขอกระแสน้ำนี้ จงซาบซ่านไปทั่วสรรพทางกาย กำจัดโรคพยาธิของมนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ให้หายโดยฉับพลัน แล้วสวดอิติปิโส ต่อไปจนจบ อธิฐานตามเดิมอีกครั้ง เอามือวนรอบบาตร ว่า อิติปิโส ๓ ห้องอีก ๑ รอบ เป็นอันเสร็จพิธี

วิธีเอาวัตถุมงคลทำน้ำมนต์

จัดเครื่องสักการะบูชาเท่าที่หาได้ ไหว้พระ แล้วเอาวัตถุมงคลใส่มือ ตั้งจิตอธิฐานว่า ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์สาวกทั้งหลาย สืบๆกันมา มีองค์หลวงปู่ปาน และองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุดตลอดถึงพรหมและเทวดาทั้งหมด และ(ออกชื่อวัตถุมงคลที่อยู่ในมือ เป็นลูกแก้วก็ดี เหรียญทำน้ำมนต์ก็ดี พระพุทธรูปก็ดี ว่าไปตามวัตถุมงคลที่มีอยู่)

ขออาราธนาเชิญมาประชุมในที่นี้ ขอให้พระคุณทั้งหลายที่กล่าวอาราธนามาทั้งหมดนี้ ขอได้โปรดสงเคราะห์ ทำน้ำในบาตรนี้ ขอให้เป็นยาทิพย์อันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อคนเจ็บป่วยนั้นกินและทาแล้ว ขอให้รักษา ขอให้คนป่วยหายจากโรคภัยไข้เจ็บนั้นทันทีทันใด ขัดข้องอย่างใดอย่างหนึ่งขอให้คุณพระคุณเทพ คุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงช่วยขจัดปัดเป่าให้หายวันหายคืน

ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมีพระคุณทั้งหลาย จงช่วยโปรดสัตว์ด้วยเถิดฯ แล้วนำวัตถุมงคลนั้นลงแช่ในบาตร หรือในขันน้ำที่เตรียมมานั่งรอสัก ๕ นาที แล้วกราบ ๓ หน เอาน้ำที่อธิฐานนี้ให้คนป่วยดื่มแล้วเอาน้ำลูบศีรษะคนไข้ แขน ตลอดทั่วตัว ใช้พระคาถาพระพุทธเจ้า ๑๖ พระองค์ กำกับไปด้วยว่า

"นะมะ นะอะ นอกอ นะกะ กอออ นออะ นะอะ กะอัง อุมิ อะมิ มะหิ สุตัง (สุสะ นิติ ลิสะ ลิยัง หรือ สุนะพุทธัง อะสุนะอะ)

แล้วเป่าหัวคนป่วยด้วยพระคาถาขับผีว่า "คัจฉะ ปาปิมะ" ให้คนป่วยกินน้ำมนต์ไปจนกว่าจะหาย

ถ้าเป็นจำพวกผ้ายันต์ก็ทำแบบเดียวกัน บูชาไฟ ไหว้พระอาราธนาเหมือนกัน แต่ให้นำผ้ายันต์โบกเหนือขันน้ำมันต์ ๓ ครั้ง ไม่ต้องแช่น้ำ

ที่มา http://www.pantown.com/board.php?id=...=1&action=view

หมายเหตุ

ถ้าต้องการนำพระคำข้าวและพระหางหมาก มาทำน้ำมนต์ ก็ควรนำไปเลี่ยมใส่กรอบพลาสติกที่กันน้ำได้ก่อนนะครับ เพราะถ้านำองค์พระใส่ลงไปในน้ำตรงๆ องค์พระอาจเปื่อยยุ่ยได้ และไม่ต้องกลัวว่าถ้าใส่กรอบพลาสติกแล้วบารมีพระจะออกมาไม่ได้ เพราะอำนาจของแสงหรือบารมีของพระพุทธเจ้านั้น สามารถส่องทะลุทุกสรรพสิ่งไปได้ไกลนับหมื่นโลกธาตุ ในหลายแสนล้านจักรวาลเลยทีเดียวครับ

 

พระคำข้าวเอาไปเลี้ยมกันน้ำก่อนนะคะ เพราะถ้าเอาพระไปแช่น้ำเลย พระจะขึ้นเป็นเกล็ดค่ะ หลวงพ่อท่านเตือนเสมอๆค่ะว่าพระคำข้าว-หางหมาก กันนิวเครียร์ ยิ่งที่ได้จากมือหลวงพ่อยิ่งต้องเก็บดีๆค่ะ สมัยก่อนตอนหลวงพ่อท่านยังอยุ่ ก่อนหลวงพ่อจะลงมารับแขก เราจะเอาพระต่างๆตั้งไว้หน้าหลวงพ่อ พอหลวงพ่อลงมาท่านจะอธิฐานให้อีกค่ะ ดิฉันจำได้ตอนเด็กๆหลวงพ่อเคยบอกว่า (ให้เอายันต์พิชัยสงคราม มาติดไว้กับธงชาติแขวนไว้บนหลังคาบ้านหรือไว้ที่หิ้งพระ ถ้ามีเหตุร้ายหรือสงครามเราจะปลอดภัยค่ะ)

 

อนุโมทนา+ขอบคุณวิธีการครับ


สงสัยอยู่เรื่องหนึ่งคือถ้าจิตเราไม่ดีตลอดเนี่ยมันจะใช้ ทำน้ำมนต์ได้ผลทุกครั้งเปล่าครับ

คือบางทีผมก็ใช้กิน ใช้ทาทีเดียวหายเลย บางทีก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

 

ฝรั่งเศสบังคับใช้คำสั่ง "ห้ามสวมผ้าคลุมหน้า" วันนี้ ฝ่าฝืนปรับ 6,500 บาท

ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศที่มีพลเมืองชาวมุสลิมมากที่สุดในยุโรป เริ่มบังคับใช้คำสั่งห้ามคลุมหน้าในที่สาธารณะตั้งแต่วันนี้ (11 เม.ย.) และถือเป็นประเทศแรกในยุโรป กำหนดโทษปรับเป็นเงินสูงสุด 150 ยูโร (ราว 6,500 บาท) สำหรับผู้สวมนิกอบ หรือบุรกา ที่เป็นชุดยาวคลุมหน้าแบบมุสลิมในที่สาธารณะ


ทางการฝรั่งเศสคาดการณ์ว่า มีสตรีมุสลิมราว 2,000 คน จากจำนวนชาวมุสลิมทั่วประเทศราว 4-6 ล้านคน ที่สวมผ้าคลุมศีรษะแบบปกปิดทั้งใบหน้า ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมดั้งเดิมของสตรีในแถบภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียใต้

ขณะที่ชาวมุสลิมและนักสิทธิมนุษยชนต่างกล่าวหารัฐบาลภายใต้การนำของนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ที่พุ่งเป้าโจมตีกลุ่มเชื้อชาติที่มีความอ่อนไหวสูง เพื่อส่งสัญญาณไปยังนักการเมืองที่มีแนวคิดต่อต้านการอพยพเข้าของชาวต่างชาติ เนื่องจากเกรงว่าวัฒนธรรมของตนจะถูกกลืนกินโดยวัฒนธรรมมุสลิม

โฆษกตำรวจฝรั่งเศสเปิดเผยว่า สามารถจับกุมผู้ประท้วงต่อต้านคำสั่งห้ามคลุมหน้าได้ 59 คน โดย 19 คนเป็นสตรีชาวมุสลิม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่กรุงปารีส โดยสองรายในนั้นเดินทางมาจากอังกฤษและเบลเยี่ยม

ขณะที่ประชาชนบางส่วนกล่าวว่า อาจเป็นการยากที่จะบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เนื่องจากมันต้องบังคับใช้โดยไม่กล่าวอ้างอิงถึงศาสนาที่จะห้ามการสวมผ้าคลุมหน้าทุกประเภทในที่สาธารณะ ตำรวจฝรั่งเศสได้รับคำแนะนำเมื่อสัปดาห์ก่อนเรื่องบังคับใช้คำสั่งห้ามคลุมหน้าว่า ห้ามใช้กำลังถอดผ้าคลุมหน้า และไม่ครอบคลุมถึงสตรีที่นั่งอยู่ในรถส่วนตัว ยกเว้น กรณีที่ต้องปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยด้านการจราจร

ใครก็ตามที่ปฏิเสธที่จะเปิดผ้าคลุมศีรษะให้แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานอาจถูกนำตัวส่งสถานีตำรวจ ที่นั่น เจ้าหน้าที่ต้องพยายามชักจูงให้พวกเขาถอดผ้าคลุมหน้าออก และสามารถขู่ว่าจะปรับเป็นเงินหากไม่ปฏิบัติตาม

ภายใต้กฎหมายใหม่ สตรีคนใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นชาวฝรั่งเศสหรือชาวต่างชาติ ที่เดินตามท้องถนนหรือสวนสาธารณะในฝรั่งเศส ที่สวมผ้าคลุมศีรษะ ที่เรียกว่า นิกอบ หรือบุรกา สามารถถูกเรียกตรวจสอบและปรับเป็นเงินได้ ส่วนบุคคลที่ยืนยันที่จะสวมผ้าคลุมหน้าในที่สาธารณะอาจถูกปรับเป็นเงิน 150 ยูโร (ประมาณ 6,500 บาท) และต้องเข้าชั้นเรียนเพื่ออบรมความรู้ใหม่ ขณะที่บุคคลใดที่บังคับให้พวกเธอสวมผ้าคลุมศีรษะ อาจถูกปรับเป็นเงินมากกว่านั้น และอาจถูกจำคุกเป็นเวลาถึง 2 ปี

รัฐบาลฝรั่งเศสกล่าวว่า การสวมผ้าคลุมศีรษะถือเป็นการทำลายมาตรฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานในสังคม และนอกจากนั้นยังเป็นการผลักไสให้ผู้สวมใส่ตกอยู่ในสถานะที่ด้อยกว่าบุคคลอื่น ซึ่งขัดแย้งกับความเชื่อของฝรั่งเศสในเรื่องความเสมอภาค

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 12:17:00 น
ฝรั่งเศสบังคับใช้คำสั่ง "ห้ามสวมผ้าคลุมหน้า" วันนี้ ฝ่าฝืนปรับ 6,500 บาท : มติชนออนไลน์

 

​

สนทนาธรรมกับ พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

ถาม : พูดถึงวัตถุมงคล คนที่ห้อยคอนะค่ะ จำเป็นหรือไม่ที่วัตถุมงคลจะให้ผลเฉพาะกับคนที่อยู่ในศีลในธรรม ใครมาห้อยวัตถุมงคลก็ยัง...(ไม่ชัด)...ให้ผลได้ตลอด ?

ตอบ : ต้องดูกำลังใจของเขา วัตถุมงคลเหมือนกับเครื่องส่ง ๆ ที่จะส่งกำลังอยู่ตลอดเวลา สำคัญตรงจิตของเขาที่เป็นเครื่องรับ ถ้าเครื่องรับไม่เปิด ผลก็ไม่มี หรือว่ามีน้อย

ถาม : ขยายความตรงที่บอกว่าเปิด เครื่องรับเปิดตรงนี้หมายถึงอะไร ?

ตอบ : คือว่าต้องเปิดใจของเรารับ คือใจของเราต้องยึดเกาะท่านเป็นปกติ

ถาม : ก็คือต้องเชื่อ ?

ตอบ : ใช่ อันดับแรกต้องมีศรัทธาถ้าหากว่าศรัทธาความเชื่อไม่มีทุกอย่างไม่มีผล ไม่เชื่อมันต่อต้าน เท่ากับปิดเครื่องโดยตรงเลย

ถาม : นอกจากนี้แล้วมีอะไรอีกคะ ?

ตอบ : ก็ศรัทธาความเชื่อ ในเมื่อเชื่อยึดมั่นเเล้วต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เขาให้มา อย่างเช่นว่า อาจจะต้องรักษาศีลให้บริสุทธิ์ อาจจะต้องท่องบ่นสวดมนต์คาถาบางบทเป็นประจำ

ถาม : ท่องเพื่ออะไรคะ ?

ตอบ : ลักษณะเหมือนอย่างกับว่าเป็นรหัสบอกฝ่าย ถ้าหากว่าคนที่เขาสวดมนต์ท่องบ่น คาถาบทนี้ ก็แปลว่าเขาขอให้ช่วยถือว่าเป็นฝ่ายเดียวกันพวกเดียวกัน ถ้าหากว่าเขาไม่ขอก็เป็นอันว่าไม่ต้องไปช่วยมัน ...(หัวเราะ)...

ถาม : คนก็หลากหลาย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาขออะไร ?

ตอบ : เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงจ้ะ เทวดาท่านมีความเป็นทิพย์ ของท่านมีคนเป็นพัน ๆ ขอพร้อมกันท่านก็แยกแยะได้
<!-- / message --><!-- edit note -->
ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=775&langid=1

 

พระพุทธรูปแต่ละองค์จะมีเทวดารักษา !!!​

​

สนทนาธรรมกับ พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ​

ถาม : พระพุทธรูปแต่ละองค์นั้น พระพุทธเจ้าแต่ละองค์ท่านคุมอยู่หรือเปล่าครับ ?

ตอบ : ไม่ใช่..พระพุทธรูปแต่ละองค์จะมีเทวดารักษา แล้วเทวดาแต่ละองค์อานุภาพท่านก็ไม่เท่ากัน องค์ไหนที่บารมีมากสามารถสงเคราะห์คนได้มาก คนก็จะนับถือกันมาก อย่างบ้านเราเมืองเรา พระพุทธรูปมีเป็นแสนเป็นล้านองค์ แล้วทำไมมีที่ชาวบ้านเขานับถือเลื่อมใสจริง ๆ อยู่แค่นับองค์ได้

ถาม : ต้องพุทธาภิเษกก่อนสิครับ ?

ตอบ : ถ้าเป็นพระพุทธรูป ถึงไม่ทำพิธีพุทธาภิเษก เทวดาท่านก็ต้องรักษาอยู่แล้ว แต่การพุทธาภิเษกจะเป็นลักษณะการจับตัววางตายว่าองค์ไหนมีหน้าที่รักษา เมื่อถึงเวลาพุทธาภิเษก ถ้าพระพระพุทธเจ้าเสด็จมา ก็จะให้ ท้าวสหัมบดีพรหมและพระอินทร์ รับผิดชอบว่าจะจัดให้เทวดาองค์ไหนมีหน้าที่รักษาพระพุทธรูป แต่ถ้าหากว่าท้าวสหัมบดีพรหมหรือพระอินทร์ท่านมาเอง ท่านก็จะจัดสรรของท่านเอง

ถาม : แล้วของที่อยู่ในพิธีด้วยหรือครับ ?

ตอบ : ก็ลักษณะเดียวกัน..ถึงเวลาแล้วก็จะมีการเจาะจงว่าท่านรักษาวัตถุมงคลชิ้นนี้ ของท่านรักษาชิ้นนี้ ไม่ต้องห่วงหรอก ต่อให้ทำมาเป็น ๑๐ ล้านชิ้น จำนวนเทวดาที่เฝ้ารักษายังได้ไม่ถึงครึ่งชั้นของท่านเลย..!

ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2408
<!-- / message --><!-- sig -->

 

เรื่องพุทธาภิเษกนี่ผมสงสัยอย่างนึงนะว่า ถ้าเรามีพระที่ผ่านการพุทธาภิเษกจากพระองค์นึงแล้ว แล้วนำไปพุทธาภิเษกจากท่านอื่นอีก ผลจะเป็นยังไงจะทับซ้อนหรือจะเพิ่ม แอบสงสัย

 

ผมใส่บาตรพระและกรวดน้ำให้สมเด็จองค์ปฐมทุกวัน ท่านจะได้รับไหมครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ จะขอนำไปบอกต่อ เพราะคนรู้จักอยู่ตามตึกต่างๆ
มีทั้งเป็นที่ทำงานและอยู่อาศัย คงช่วยคนได้เยอะ
ขอให้กุศลผลบุญที่คุณ tisa นำข้อมูลเหล่านี้มาบอกต่อส่งผลให้คุณ tisa
มีแต่ความสุขความเจริญ

 

โมทนาครับ ท่านได้ครับแต่ของสมเด็จทุกองค์ท่านเต็มจนล้นแล้วครับ
ที่ทำบ่อยๆถือว่าได้พุทธานุสติครับ เป็นกรรมฐานกองนึงเช่นกัน

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.4 นอกชายฝั่ง ทางตะวันออกของกรุงโตเกียวเมื่อเช้านี้ โดยแรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารสูงในเมืองหลวงสั่นไหว รถไฟใต้ดิน และสนามบินต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 8.08 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 6.08 น.ตามเวลาของไทย นอกชายฝั่งจังหวัดชิบะ ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองหลวง โดยผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นชี้ว่าไม่น่ามีโอกาสเกิดสึนามิตามมา
Mthai News

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ไทยตอนบนฝนคะนอง-ลมกรรโชก </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ไทยตอนบนฝนคะนอง-ลมกรรโชก ทะเลจีนใต้กำลังอ่อนลง กรุงเทพฯ ฝนกระจาย


วันนี้ (12 เม.ย.) กรมอุตุนิยมรายงานลักษณะอากาศทั่วไป ว่า คลื่นกระแสลมตะวันตกได้เคลื่อนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 12-13 เม.ย. ซึ่งลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณดังกล่าว มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ยังคงมีกำลังอ่อนลง

สำหรับการพยากรณ์อากาศมีดังนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก และ กำแพงเพชร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมาก บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ถึงเวลาจริงๆคนจำนวนมากไม่มีคุณธรรม
ถึงไม่มีภัยก็ต้องฆ่ากันเองอยู่แล้ว
แต่ละท่านก็วางแผนกันไว้ก่อนก็ดีนะครับ
ถึงเวลาจะได้มีสติช่วยนำพาครอบครัว
ช่วงนั้นคงสติแตกคงสู้คนญี่ปุ่นไม่ได้
ตอนแรกคนญี่ปุ่นคงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิด
เหมือนเราคิดตอนนี้ ไม่น่าเป็นไปได้
ถ้ามันเกิดละ

 

=====================================



11 เม.ย. 54


ขึ้นผาแบ่น

วันที่ 13 หลานจิ๊บบอกกับผมว่า รถจะออกจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 8.00 น.
ไปถึงเชียงคานคงเย็นพอดี เมือคืนหน่วยเหนือส่งภาพมาให้เห็นว่า ผมขึ้นรถไฟ
(การฝันถึงขึ้นรถไฟจะหมายถึงต้องเดินทางไกล) รถไฟที่ผมขึ้นมีหัวลากดีเซล
แบบโบราณ มีโบกี้อยู่ตู้เดียว รถไฟวิ่งไปตามพื้นดินก่อนถึงทางลอยฟ้า ก็ต้อง
หยุดเพราะเจอรางขาดหายไปท่อนหนึ่งแต่รถไฟในฝันก็ค่อยๆวิ่งไปบนพื้นดิน
แล้ววิ่งขึ้นที่สูง(สูงมากๆ) ผมมองลงมาเห็นแต่บ้านคนเล็กนิดเดียว จากนั้นก็มา
หยุดตรงสวนสนุก มีเจ้าหน้าที่มาชักชวนให้เข้าแต่ผมปฏิเสธ จากนั้นผมก็ไปซื้อ
เปปซี่ใส่น้ำแข็ง คนหนึ่งบอกว่าถุงละ 30 บาท อีกคนบอกว่า 50 บาท ผมจ่าย
เงินไป 30 บาท จากนั้นก็ขึ้นรถไฟต่อ รถวิ่งอยู่เหนือน้ำทะเลที่กว้างมาก

ภาพนี้จะสื่อถึง การไปครั้งนี้อาจจะมีปัญหาจนทำให้การเดินทางช้ากว่าปกติ
ของกินจะแพงและจะไม่มีเวลาแวะเที่ยว


องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

<TABLE id=post385320 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #162 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tamsak<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_385320", true); </SCRIPT>
ทีม พระไตรปิฏก



วันที่สมัคร: Sep 2004
สถานที่: Bangkhen, Bangkok
อายุ: 47
ข้อความ: 6,893
พลังการให้คะแนน: 8899


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_385320 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ขอตอบคำถามให้ตามที่ผมพอจะมีความรู้บ้างเล็กๆ น้อยๆ นะครับ คงเป็นการเสริมกับที่คุณ "เด็กเมื่อวานซืน" ได้ตอบไว้ให้ก่อนแล้ว

1.ในกรณีที่ต้องการนำของที่มีไปปลุกเสก หากนำของที่เคยปลุกเสกแล้ว ไปปลุกเสกซ้ำจะมีผลแตกต่างจากเดิมหรือเปล่าครับ เช่น นำพระคำข้าว มาวางบนตักเพื่อปลุกเสกซ้ำ เป็นต้น

- เรื่องนี้เป็นเรื่องกำลังใจของแต่ละท่านครับ ท่านที่มีกำลังใจสูงมีความเคารพเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยเป็นอย่างยิ่ง ท่านก็จะเชื่อมั่นว่าวัตถุมงคลที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วมีผลสมบูรณ์ ไม่จำเป็นต้องนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกซ้ำอีก แต่ถ้าท่านที่ยังมีกำลังใจไม่สูงพอ ท่านก็อยากนำเข้าอีกสักครั้งหรือหลายๆ ครั้งตามแต่โอกาส

- สำหรับผลของการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกซ้ำจะเป็นอย่างไรนั้น เรื่องนี้ หลวงพี่รูปหนึ่งได้เคยบอกแก่ผมว่า พิธีพุทธาภิเษกแต่ละครั้งนั้น มีวัตถุประสงค์ในการสร้างพระไม่เหมือนกัน ดังนั้น การนำวัตถุมงคลเข้าพิธีซ้ำ หากเป็นวัตถุมงคลคนละอย่างจะมีผลเพิ่มขึ้นตามวัตถุประสงค์ในการสร้างพระในครั้งนั้น หากเป็นวัตถุมงคลอย่างเดียวกันผลก็ไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นวัตถุมงคลอย่างเดียวกัน แต่หาก "พระ" ท่านเมตตาสงเคราะห์ในด้านอื่นๆ เพิ่มเติมให้ วัตถุมงคลที่นำเข้าพิธีในครั้งนั้นก็จะได้รับพลังเพิ่มขึ้นด้วย

- ดังนั้น ท่านจึงแนะนำว่า เมื่อจะนำวัตถุมงคลใดเข้าพิธีซ้ำให้อธิษฐานขอบารมีจาก "พระ" ได้โปรดสงเคราะห์ให้วัตถุมงคลที่นำเข้านี้มีพุทธานุภาพดังเดิม และหาก "พระ" ท่านเห็นสมควรจะเพิ่มพลังด้านใดเป็นพิเศษก็ขอได้โปรดเมตตาประทานบารมีให้แก่วัตถุมงคลที่นำเข้าพิธีในครั้งนี้ด้วยเทอญ


2. 2.1)ของที่นำไปปลุกเสก ต้องวางบนตักเท่านั้นหรือเปล่าครับ

- หากไม่มากนัก ก็วางไว้บนตัก แต่หากมันล้นหรือมากเกินไปจะวางไว้ตรงข้างหน้าก็ได้ครับ

2.2)และถ้าเรามีของ เช่น กระเป๋าเงิน หรือกล้อง ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง จะถูกปลุกเสกไปด้วยหรือเปล่าครับ อย่างเช่น เสื้อผ้าที่ใส่อยู่

- เข้าใจถูกต้องแล้วครับ เรื่องนี้ หลวงพี่เล็กท่านได้เคยพูดให้ลูกศิษย์และญาติธรรมใกล้ชิดฟังเมื่อครั้งได้รับนิมนต์ให้ไปเป็นประธานสงฆ์ในพิธีพุทธาภิเษกแก้วจักรพรรดิ์ (วันเสาร์ห้า) แถวๆ พุทธมณฑล ว่า บรรดาสิ่งของเครื่องประดับกายต่างๆ รวมทั้งเสื้อผ้า ซึ่งผู้เข้าพิธีได้ใส่มาในวันนั้น แม้กระทั่งเลือดเนื้อกายาของผู้นั้นก็ได้รับพุทธานุภาพเช่นเดียวกัน ท่านยังพูดติดตลกว่า หากหาวัตถุมงคลจากที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ให้ไปงัดฝาบ้านของบ้านที่ทำพิธีนั้นมาบูชาได้....

2.3)หรือว่าเราจะต้องอธิษฐานว่าจะขอบารมีพระให้ช่วยปลุกเสกอะไรบ้าง หรือเปล่าครับ

- หากต้องการปลุกเสกอะไรเป็นพิเศษ ก็ควรอธิษฐานขอเอาไว้ครับ

3.ของที่จะนำไปปลุกเสก เช่น พระ ถ้าอยู่ในกรอบ ต้องนำออกมาก่อนหรือเปล่าครับ (คิดว่าคงไม่ต้องมั้งครับ...เดา)

- ไม่ต้องครับ


4.ในพิธีตอนที่ภาวนา "พุทโธ" หากเกิดใจฟุ้งซ่าน วอกแวก จะมีผลต่อการเป่ายันต์ฯ หรือเปล่าครับ

- คุณ "เด็กเมื่อวานซืน" ตอบไว้แล้วครับ

5.งานเป่ายันต์ฯ มี 2 รอบ คือ 10 โมง กับ บ่ายโมง ถ้าเข้าร่วมทั้ง 2 รอบ จะมีผลเสียหรือเปล่าครับ หรือนำของไปปลุกเสกซ้ำจะมีผลอะไรหรือเปล่าครับ

- ไม่มีผลเสียแต่ประการใด ยิ่งเข้าหลายรอบก็ยิ่งดีครับ หลายๆ ท่านที่ไปก็มักจะอยู่ร่วมพิธีทั้ง 2 รอบ ครับ


6.พี่ ๆ เพื่อน ๆ จะนำของไปปลุกเสกกันเยอะหรือเปล่าครับ

- คงมีคนนำวัตถุมงคลไปเข้าร่วมพิธีกันพอสมควรทีเดียวครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>