ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

19 มี.ค.ดวงจันทร์ใกล้โลกมากที่สุด ชี้ อาจเกิดผลกระทบต่อโลก
Mthai news : นัก วิทยาศาสตร์ที่ศึกษาในเรื่องการโคจรของดวงจันทร์ ระบุว่าในวันที่ 19 มีนาคมนี้ ดวงจันทร์จะโคจรเข้าใกล้โลก หรือที่เรียกว่า “lunar perigee” เพียง 221,567 ไมล์ นับเป็นการโคจรที่ใกล้โลกมาที่สุดในรอบ 18ปี
ทั้ง นี้ เชื่อว่าจะเกิดผลกระทบกับโลกเช่น แผ่นดินไหว การปะทุของภูเขาไฟ และระดับน้ำทะเลที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิได้ บรรยากาศโลกจะเปลี่ยน โดยพวกเขาเรียกมันว่า ซุปเปอร์มูน (super moon)



ก่อนหน้านี้ปรากฏการณ์ ซุปเปอร์มูน (super moon) เคยเกิดขึ้นในปี 1955, 1974, 1992, และ 2005 และทุกครั้งที่มันเกิด จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศบนโลก เช่น การเกิดสึนามิ ที่คร่าชีวิตถึงไปหลายแสนคนในประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งประเทศไทย เพียงสองสัปดาห์ก่อนเกิดซุปเปอร์มูนในเดือน มกราคมปี 2005

สองสัปดาห์ก่อนเกิดซุปเปอร์มูนในเดือน มกราคมปี 2005 เกิดสึนามิในเมืองอาเจะ ประเทศอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์บางส่วนกล่าวว่า ซุปเปอร์มูน (super moon) มันไม่ได้มีความเกี่ยวโยงกัน แต่อาจจะเกิดเพียงแค่น้ำทะเลขึ้นสูงสุดเท่านั้น
โดย Mthai news
<li class="news_src_item">
MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000

 

เป้ฉุกเฉินสำหรับกรณีต่างๆ
รวบรวมโดยเครือข่ายอาสาดุสิต เเละจากของคุณ Kongp
ไม่รู้ว่าลงซ้ำหรือเปล่า ถ้าซ้ำต้องขออภัย*


อุปกรณ์เบสิกรับมือแผ่นดินไหว


Emergency ชุดรับมือแผ่นดินไหว


Survival Kit


Emergency Kit


วิธีการจัดเป้สำหรับเดินป่าและยามฉุกเฉิน

 

เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ สำหรับภัยพิบัติที่กำลังทะยอยเกิดขึ้น

พลังงานฝ่ายกุศลช่วงนี้อ่อนแรงลงไปมากพอสมควรครับ ยิ่งทำให้เกิดผลภัยพิบัติมากขึ้น

สิ่งที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ คือ ตั้งสติ ทำจิตให้สงบ ไม่หวั่นไหว ท่ามกลาง ความหวาดกลัว ความสับสนวุ่นวาย ที่กำลังจะเกิดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำสมาธิให้จิตสงบ เจริญวิปัสสนาญาณเพื่อให้จิตเห็นความไม่เที่ยง จนไม่หวั่นไหวหวาดกลัว ตั้งมั่นในคุณพระรัตนไตร

และเมื่อใจเรามี สติ มีเมตตา เราจึงช่วย ตน ช่วยครอบครัว ช่วยผู้อื่นได้

ช่วยตนเองให้มีสติ สงบ มั่นคงเห็นหนทางแก้ไขสถานการณ์เอาตัวรอดได้

ช่วยครอบครัว คนใกล้เคียงได้ด้วย สติ ความรู้ที่มาอ่าน มาดูมาศึกษา จดจำไปใช้ไปช่วยครอบครัวเรา


ช่วยผู้อื่นโดยช่วงนี้กระตุ้นให้เขาเตรียมกาย เตรียมใจ ไม่ประมาท เตรียมจิตฝึกใจ ฝึกสมาธิ ฝึกกายให้แข็งแรง เตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน เอาไว้ พอ10 วัน

ตอนนี้มีบางท่านที่ฝึกสมาธิจิตอดอาหารได้ 22 วัน บ้าง 10 วันบ้างกันได้หลายท่านแล้ว ถึงเวลา หากข้าวของที่เตรียมนำไป ไม่ได้ สูญหาย เสียหาย ขอจงจำเอาไว้ว่า

จิต เหนือ กาย ไม่มีสิ่งใดเกินอำนาจของสมาธิ ขอเพียงมีจิตมั่นคง ศรัทธา

แผ่นดินไหว

สึนามิ

ภูเขาไฟระเบิด

อนุภาคโฟตรอน ที่กระแทกรุนแรง

แรงโน้มถ่วงโลก กลายเป็น 2 จี 3 จี (ชั่วระยะเวลาหนึ่ง) นั่นคือหากเราหนัก 70กิโลกรัม เราจะกลายเป็น รู้สึกหนัก 140 -210 กิโลกรัม นั่นคือทำให้เรา ต้อง คลาน หรือนอนราบ

อย่าไปฝืนยืน ฝืนออกแรง ดิ้นรนให้เหนื่อยเปล่า รู้แล้ว นอนราบตั้งจิตให้เป็นสมาธิ จนลมหายใจดับ เพราะ มวลอากาศก็พลอยหนักขึ้นไปด้วย จนผ่านช่วงเวลานั้นไปได้

และที่น่าห่วงคือ อาคารบ้านเรือนที่ออกแบบมารับนำ้หนักในระดับหนึ่ง ครั้น ค่าจีเพิ่ม รับแรงไม่ไหวพลอยพังลงมามากมาย

ส่วนอีกภัยที่เกิด คืออนุภาคที่วิ่งผ่านร่างกาย จนเกิดการมิวเตชั่นครั้งยิ่งใหญ่ทั้ง คน สัตว์ และพืชพันธุ์ จนเกิด การเปลี่ยนยุคอย่างแท้จริงนั้น

จิต สมาธิเท่านั้น ที่จะทำให้เราผ่านพ้นไปได้

ฝึกจิตให้ หายใจน้อย กินน้อย สงบมาก ปล่อยวางมาก กันเข้าไว้

--------------------------------------------------------------

จากแผ่นดินไหวใหญ่และ สึนามิที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ จะเป็นผลให้เกิดวิกฤตการณ์การเงินโลกครั้งรุนแรง

และเกิดการอพยพคนออกจากเกาะญี่ปุ่นไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกอย่างมากมาย ลองคิด ลองรับดูว่า จะเกิดผลอะไรตามมาบ้าง

หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงแบบนี้อีกสัก สองสามแห่งจะเกิด ความวุ่นวายสับสนในสังคมเพียงใด

เราจะตกอยู่ในความวุ่นวายสับสนนั้น หรือจะ สงบนิ่งได้ท่ามกลางความอลม่าน

ผู้อยู่ในวิสัยหน้าที่ต้องใช้อภิญญาช่วยเหลือผู้คน จิต สมาธิ สำนึกในหน้าที่จะเร่งรัดตัวขึ้น เกิดขึ้นเอง เกิดขึ้น ตื่นขึ้นจากภายในจิต

เวลาวาระใกล้เข้ามามากแล้ว ลดละตัวตน เร่งรัดเมตตา เจริญปัญญา สมาธิธรรม

 

ถ้าคนต้องรับน้ำหนักเยอะจนต้องนอนคลาน คิดเล่นๆนะว่า เตรียมของที่คล้ายๆสเกตบอร์ดแต่ใหญ่หน่อย เวลาต้องไปไหนจิงๆก้อคลานไปบนสเกตบอร์ด แล้วก้อถไลไป มันน่าจะช่วยได้บ้างเพราะอย่างน้อยก็ลดแรงเสียดทาน จะใช้ได้ป่าวคะ

 

เมตตา กับ สัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

รูปหลังเหตุการณ์ฮะ


Earthquake in Japan

A massive 8.9-magnitude quake hit northeast Japan on Friday, causing dozens of deaths, more than 80 fires, and a 10-meter (33-ft) tsunami along parts of the country's coastline. Homes were swept away and damage is extensive. As more images of this historic event become available, they will be added below. [33 photos so far, more to come]

<table id="ifSocTab" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"> <td width="80">Mar 11, 2011</td> <td width="55">9 Comments</td> <td width="125">
</td> <td width="125">
</td> <td width="125">Select Language​▼


</td> <td id="ifTips" align="right">Use j/k keys or ←/→ to navigate • Choose: <label for="if10"><input id="if10" checked="true" name="ifWid" value="0" type="radio">1024px</label> <label for="if12"><input id="if12" name="ifWid" value="1" type="radio">1280px</label></td> </tr></tbody></table>
Buildings burn after an earthquake near Sendai Airport, northeastern Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) </nobr>


Buildings burn after an earthquake near Sendai Airport, northeastern Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO)</nobr>


2
People take shelter as a ceiling collapses in a bookstore during an earthquake in Sendai, northeastern Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/Kyodo) # </nobr>


3
Houses are swept by a tsunami in Natori City in northeastern Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


4
Houses are swept by a tsunami in Natori City in northeastern Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


5
Houses, cars and other debris are washed away by a tsunami in Kesennuma in Miyagi Prefecture, northern Japan, after strong earthquakes hit the area Friday, March 11, 2011. <nobr>(AP Photo/Keichi Nakane, The Yomiuri Shimbun) # </nobr>


6
A massive tsunami hits the coastal areas of Iwanuma, Miyagi Prefecture, northeastern Japan, March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


7
The oncoming tsunami strikes the coast in Natori City, Miyagi Prefecture, northeastern Japan, March 11, 2011. The biggest earthquake to hit Japan in 140 years struck the northeast coast on Friday, triggering a 10-meter tsunami that swept away everything in its path, including houses, cars and farm buildings on fire. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


8
People watch the aftermath of tsunami waves covering a port at Kesennuma in Miyagi Prefecture, northern Japan, after strong earthquakes hit the area Friday, March 11, 2011. <nobr>(AP Photo/Keichi Nakane, The Yomiuri Shimbun) # </nobr>


9
Buildings are damaged by a tsunami following an earthquake in Iwaki City, northeastern Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


10
Cars and airplanes swept by a tsunami are pictured among debris at Sendai Airport, northeastern Japan March 11, 2011. There were several strong aftershocks and a warning of a 10-meter tsunami following the quake, which also caused buildings to shake violently in the capital Tokyo. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


11
Houses swept by a tsunami smoulder near Sendai Airport in Japan March 11, 2011. There were several strong aftershocks and a warning of a 10-meter tsunami following the quake, which also caused buildings to shake violently in the capital Tokyo. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


12
Houses are in flame while the Natori river is flooded over the surrounding area by tsunami tidal waves in Natori city, Miyagi Prefecture, northern Japan, March 11, 2011, after strong earthquakes hit the area. <nobr>(AP Photo/Yasushi Kanno, The Yomiuri Shimbun) # </nobr>


13
Cars and other Debris swept away by tsunami tidal waves are seen in Kesennuma in Miyagi Prefecture, northern Japan, after strong earthquakes hit the area Friday, March 11, 2011. <nobr>(AP Photo/Keichi Nakane, The Yomiuri Shimbun) # </nobr>


14
Houses are swept by water following a tsunami and earthquake in Natori City in northeastern Japan March 11, 2011. There were several strong aftershocks and a warning of a 10-meter tsunami following the quake, which also caused buildings to shake violently in the capital Tokyo. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


15
Natural gas containers burn at a facility following an earthquake in Chiba Prefecture near Tokyo March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


16
Natural gas storage tanks burn at the Cosmo oil refinery in Ichihara city, Chiba Prefecture, near Tokyo March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/Asahi) # </nobr>


17
Natural gas storage tanks burn at a facility in Chiba Prefecture, near Tokyo March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


18
A building burns after an earthquake in the Odaiba district of Tokyo Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/Kyodo) # </nobr>


19
Seismologist Bernd Weber of Germany's Geoscientific Research Institute GFZ in Potsdam poses for the media as he points on a graph with the magnitude of the earthquake in Japan on a monitor in Potsdam, March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/Fabrizio Bensch) # </nobr>


20
Hotel employees squat down in horror at the hotel's entrance in Tokyo after a strong earthquake hit Japan Friday, March 11, 2011. <nobr>(AP Photo/Itsuo Inouye) # </nobr>


21
A fire burns at a passenger terminal at Sendai Airport after the airport was swamped by a tsunami in northeastern Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


22
An office building burns in Tokyo after an earthquake March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/Kyodo) # </nobr>


23
A road is blocked by a landslide near Iwaki City in northeastern Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


24
Evacuees stand around Shinjuku Central Park in Tokyo Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


25
Hirono Power Station is seen as a wave approaches after an earthquake in Hirono Town, Fukushima Prefecture, March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/YOMIURI) # </nobr>


26
A massive tsunami sweeps in to engulf a residential area after a powerful earthquake in Natori, Miyagi Prefecture in northeastern Japan March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


27
Streets are flooded after a tsunami and earthquake in Kesennuma city, Miyagi Prefecture, March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/YOMIURI) # </nobr>


28
Sendai Airport is flooded after a tsunami following an earthquake in Sendai, northeastern Japan, March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


29
Boats are swept by a wave after a tsunami and earthquake in Asahikawa city March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/YOMIURI) # </nobr>


30
A whirlpool is seen near Oarai City, Ibaraki Prefecture, northeastern Japan, March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/Kyodo) # </nobr>


31
Fires burn in the port area of Iwaki City, Fukushima Prefecture following an earthquake in northeastern Japan, March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


32
Houses burn at night following an earthquake in Natori City, Miyagi Prefecture, northeastern Japan, March 11, 2011. <nobr>(REUTERS/KYODO) # </nobr>


33
Vehicles are crushed by a collapsed wall at a carpark in Mito city in Ibaraki prefecture on March 11, 2011 after a massive earthquake rocked Japan. <nobr>(JIJI PRESS/AFP/Getty Images) # </nobr>


Related links and information

Red Cross - Disaster alert and further links
Pacific Tsunami Warning Center - NOAA site

 

*** สัจจะธรรม ****

สุดท้าย...ต้องพึ่งผลที่ได้ทำไปแล้ว
ถ้า การกระทำไม่เที่ยง...ผลย้อนกลับมาก็ไม่เที่ยง
ถ้า การกระทำเที่ยง....ผลตอบแทนก็เที่ยง
ถึงได้พยายาม...บอกให้เชื่อสัจจะ ถือสัจจะ รักษาสัจจะ
จะก้าวข้ามกรรมไปได้....ก็ด้วยผลตอบแทนจากสัจจะที่ทำได้
กรรมต่อไป มันยิ่งทวีคูณ ...เพราะสะสมกันมามาก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อือมม..เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิวันที่ 11 ที่ญี่ปุ่นคราวนี้
มีข้อความต่างมิติฯ จากกระทู้คุณชยุต เตือนไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ
ยังไงก็ขอให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้กลับมาฟื้นกาย-ฟื้นใจกันโดยเร็วครับ

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...่ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-64

 

*** คำถาม ****

แล้วเมื่อไร คนไทยจะเลิกทะเลาะกัน
ไร้สาระมาก ทำลายบ้านเมืองตัวเอง
เรียกมาคุยกัน เลิกแล้วต่อกัน ให้อภัยกัน
ให้สัจจะต่อกัน จะได้จบๆ เริ่มต้นใหม่ในสิ่งที่ดี

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เลือกเดินได้เอง ****

คนไทย...ยังพอมีโอกาสให้ตนเองหลุดพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

พบร่างผู้เสียชีวิต 200-300 ศพที่เมืองเซนได​

​

โตเกียว 11 มี.ค.- สำนักข่าวเกียวโดและจิจิ เพรส รายงานอ้างตำรวจกล่าวว่า พบร่างผู้เสียชีวิตประมาณ 200-300 ศพที่เมืองเซนได ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิมากที่สุดของญี่ปุ่น

ตำรวจกล่าวว่า พบร่างผู้เสียชีวิตที่เขต “วาคาบายาชิ” ของเมืองเซนได และที่เขตนี้มีรายงานว่าครัวเรือนประมาณ 1,200 ครัวเรือนได้รับผลกระทบจากสึนามิ อย่างไรก็ตาม ประชาชนประมาณ 60,000-70,000 คนในเมืองเซนไดได้อพยพไปยังสถานที่พักพิงที่ปลอดภัยแล้ว

ด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า สหประชาชาติจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือญี่ปุ่น เขากล่าวว่าโลกรู้สึกตกใจและเสียใจที่เห็นภาพความเสียหาย สหประชาชาติจะติดตามการเกิดอาฟเตอร์ช๊อคตลอดทั้งวัน และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมถ้าเห็นว่าจำเป็น

ทางด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ขอร้องชาวอเมริกันที่ไม่มีเหตุจำเป็นให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่นในเวลานี้ โดยที่คำขอร้องนี้จะมีไปถึงวันที่ 1 เมษายน ส่วนชาวอเมริกันที่อยู่ในญี่ปุ่นให้มารายงานตัวกับสถานทูตว่ายังคงปลอดภัยดี.- สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 มี.ค. 2554

เมืองประมงเก่าแก่ของญี่ปุ่นกลายเป็นเมืองร้างหลังจากถูกสึนามิ​

​

ฮาโกดาเตะ 11 มี.ค.- ฮาโกดาเตะ เมืองการประมงที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น กลายสภาพเป็นเมืองร้าง หลังจากที่ถูกสึนามิความสูง 2 เมตรพัดถล่มเข้ามาในศูนย์กลางเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่สั่งประชาชน 30,000 คนอพยพ
รายงานแจ้งว่า ลังไม้และลังใส่ปลาแตกเกลื่อนกลาดไปทั่วเมือง ประชาชนหลายพันคนที่มีอาการหวาดกลัวได้พากันหลบหนีออกจากพื้นที่ชายฝั่ง บริเวณท่าเรือฮาโกดาเตะมีแต่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากที่เคยเนืองแน่นไปด้วยชาวประมง นักเดินทางและร้านค้า ส่วนบนถนนเต็มไปด้วยรถยนต์ที่ติดขัด เนื่องจากรถไฟและรถเคเบิลถูกระงับบริการ ชาวบ้านเตรียมใช้เวลาตลอดทั้งคืนนี้อยู่ในสถานที่พักพิงชั่วคราว เนื่องจากยังคงเกิดอาฟเตอร์ช็อกอย่างต่อเนื่องสร้างความสั่นสะเทือนต่อบ้านเรือนและอาคารสูง.-สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 มี.ค. 2554

ไฟไหม้ใกล้โรงงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 4 แห่งแล้ว​

​

โตเกียว 11 มี.ค.-สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า เกิดเพลิงไหม้ที่อาคารกังหันผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โอนางาวะในจังหวัดมิยากิ หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์

บริษัทผลิตไฟฟ้าโตโฮกุรายงานว่า สังเกตเห็นกลุ่มควันออกมาจากอาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนอาคารที่แยกจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงงาน ขณะนี้กำลังสอบสวนหาสาเหตุ แต่ยังไม่มีรายงานการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) รายงานว่า โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ 4 แห่งของญี่ปุ่นที่ใกล้จุดเกิดแผ่นดินไหว ปิดเพื่อความปลอดภัย และขณะนี้กำลังหาข้อมูลเพิ่มเติมว่ายังมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศใดบ้างที่อาจมีความเสี่ยงจากคลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์หากได้รับคำยืนยันว่าเกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์หรือระบบระบายความร้อนของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้รับความเสียหาย

ส่วนที่จังหวัดฟูกุชิมะ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โตเกียว ได้รับคำยืนยันว่า ระบบระบายความร้อนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ยังทำงานเป็นปกติ และปฏิเสธข่าวความเสียหายก่อนหน้านี้.-สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 มี.ค. 2554

แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นวันนี้รุนแรงเป็นอันดับ 7 ของโลก​

​

โตเกียว 11 มี.ค.-ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐเปิดเผยว่า แผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 8.9 ริกเตอร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นในวันนี้ นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและมีความรุนแรงเป็นอันดับ 7 เท่าที่มีการบันทึกแผ่นดินไหวทั่วโลก

แผ่นดินไหวครั้งนี้มีความรุนแรงเป็นรองแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 9.5 ริกเตอร์ที่ชายฝั่งทะเลทางใต้ของประเทศชิลีในปี 1960 ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนกว่า 1,600 คน และทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 2 ล้านคน และเป็นรองแผ่นดินไหวขนาด 9.1 ริกเตอร์ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2004 ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างทั่วมหาสมุทรอินเดีย คาดว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 220,000 คน.-สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 มี.ค. 2554

ท่าเรือสหรัฐยังเต็มไปด้วยซากปลาตายปริศนานับตัน​

​

เรดอนโด 11 มี.ค. - ซากปลาซาร์ดีนอีกหลายพันตัวยังลอยเกลื่อนปกคลุมทั่วพื้นน้ำบริเวณท่าเรือทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียในวันพฤหัสบดี ขณะเจ้าหน้าที่ยังคงกวาดเก็บและขจัดซากปลาเน่าเปื่อยหลายตันที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระดมแรงช่วยกันมาเป็นวันที่ 3 แล้วเพื่อนำซากปลาออกจากพื้นน้ำของอ่าวคิงฮาร์เบอร์ และอาจใช้เวลานานนับสัปดาห์กว่าจะกำจัดออกจนหมดได้หลังพบปลาตายนับล้านตัวเมื่อค่ำวันจันทร์ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า สามารถกำจัดซากปลาออกมาได้แล้ว 85 ตันนับจนถึงเมื่อค่ำวานนี้ สภาพอากาศร้อนและแดดจ้าทำให้ต้องเร่งเก็บกวาดซากปลาโดยเร็วก่อนที่จะส่งกลิ่นไปมากกว่านี้

และซากปลาจะยิ่งก่อให้เกิดเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้ระดับออกซิเจนในน้ำลดลงและอาจทำให้สัตว์ทะเลอื่นๆ พลอยตายตามไปด้วย เจ้าหน้าที่ใช้ตาข่ายคลุมซากปลาและใช้วิธีการอื่นๆ เช่นใช้เครื่องดูดออกมา เจ้าหน้าที่แคลิฟอร์เนียคาดว่า มีปลาตายอย่างน้อย 1 ล้านตัว สำหรับซากปลาจำนวนมากได้ถูกส่งไปที่ศูนย์ย่อยสลายเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนผสมปุ๋ยและจะจำหน่ายไปยังฟาร์มด้วย.-สำนักข่าวไทย

วันศุกร์ ที่ 11 มี.ค. 2554

ที่มา http://www.mcot.net

 

<TABLE id=post574372 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>16-05-2007, 02:38 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2208 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_574372", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 11,346
พลังการให้คะแนน: 5073



</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_574372 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** สิ่งที่ไม่เคยเกิด ก็จะเกิดในยุคหมื่นปี ****

น้ำ...ในโลกจะมากขึ้น....จากการจัดสรรของธรรมชาติ จักรวาล
ฝน หิมะ....จะตกมากขึ้น
ระดับน้ำทะเล...จะสูงขึ้นเรื่อยๆ
เกาะ ....จะหายเป็นล้านๆ เกาะ
หลังจากนั้น...โลกจึงจะสมบูรณ์ทุกสิ่ง

แต่...ผู้ที่ทำผิดไว้ จะถูกลงโทษนิดหน่อย
พวกโกงกินมาก พวกทำลายศาสนา
ถูกฉุดลากลงไปลงนรก
ปัจจุบันทันด่วน !!!!!!!

เกาะญี่ปุ่น ...จะถูกกระแสน้ำพัด จมหายลงทะเล
เพราะ ข้างใต้มันเป็นโคลนเลน

เกาะอังกฤษ....จะเหลือครึ่งเกาะ
ดินแดนที่พระสงฆ์ถูกฆ่า พุทธสถานถูกทำลาย...จะหายไป

ประเทศไทย !!!!!!!
ตั้งแต่ ชุมพร ...ลงไปจะขาดหายไป
แถบชลบุรี....จะขาดหายไป
อุบล...จะขาดหายไป
เชียงใหม่ เชียงราย...จะขาดหายไป
ตาก...จะขาดหายไป
ประเทศไทย....จะเหลือเป็น กลมๆ
เพราะ...คนไทยส่วนใหญ่ นับถือศาสนาเพียงปาก...ไม่มีการปฏิบัติ การกระทำอย่างจริงจัง
ไม่จริงจังใน สัจจะ....เคยทำได้จริงครั้ง สองครั้ง...ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง
แต่กลับเรียก..ตนเองเป็นคนมีสัจจะ !!!!!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

เตือนมานาน...
เวลาก็หมดลงทุกลมหายใจ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

คำประกาศจาก ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

จากการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 8.4 ริกเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นสึนามิ ที่สร้างความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งอาคารและทรัพย์สินนั้น ในการนี้ขอยืนยันว่าคลื่นสึนามิในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่าง แน่นอน ขอให้ประชาชนในภาคใต้ทางฝั่งอ่าวไทยจงอย่าได้ตื่นตระหนกในข่าวลือต่างๆที่ ได้รับมา จากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

 

ต่างมิติบอกแผ่นดินจะเพิ่ม แต่คนมิตินี้บอกน้ำจะเพิ่ม ต้องติดตามกันต่อไป

 

มาเเถม

★คู่มือการปฏิบัติเมื่อเกิดการเตือนสึนามิ★ ฉบับการ์ตูนภาษาไทย pdf

 

คู่มือเอาชีวิตรอดจากโรงงานนิวเคลียร์ในภาวะฉุกเฉิน ฉบับประชาชนเตือนกันเอง!!! (The survival guide: What to do in an emergency nuclear)

y Bank Ngamarunchot
แบ๊งค์ งามอรุณโชติ แปล/ปรับเนื้อหา
Angelo Acquista เขียน

เกริ่นนำ (Introduction)

เอกสารรายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเนื่องจากแรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือชื่อ The survival guide: What to do in a biological, chemical or nuclear emergency ของ Angelo Acquista ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Medical director of the New York City mayor’s office of emergency management ที่สะท้อนให้เราทราบถึงมุมมองต่อการจัดการกับปัญหาในรูปแบบ “ป้องกัน” และ สร้างการเรียนรู้ที่จะ “ดูแลตนเอง” ของประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉินให้แก่ประชากรในเมืองใหญ่อย่าง New York

การป้องกัน และ การดูแลตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้เองจะเป็นปัจจัยชี้ขาดผลกระทบภายหลังการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ อาทิ การถูกโจมตีโดยมิได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า อาทิ เหตุการณ์ 9-11, การเกิดการรั่วไหลของสารพิษ, การเกิดโรคระบาดร้ายแรง ซึ่งในท้ายสุดมักจะขยายวงกว้างมาก เกินกว่าที่เจ้าหน้าที่รัฐจะสามารถเข้าไปจัดการกับสภาพปัญหาได้อย่างทั่วถึง เมื่อนั้น ขีดความสามารถในการดูแลตนเองของประชาชนจะเข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญ นอกจากนี้ แผน B หรือ แผนสำรองยามฉุกเฉิน (Contingent plan) ก็ยังสามารถช่วยให้เราสามารถตัดสินใจในยาววิกฤติได้อย่างเป็นระบบ และ ทันท่วงที อีกด้วย

หลายครั้งการละเลยต่อแผน B ดังที่ได้กล่าวมานี้ได้ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย อาทิ เหตุการณ์แผ่นดินไหวในเฮติ ตัวแผนดินไหวเองได้ทำให้เกิดการเสียชีวิต ทรัพย์สิน และเสียหายในเชิงสังคมต่างๆ ณ ขณะแผ่นดินไหวไม่มากนัก เมื่อเทียบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เช่น การที่ไม่มีระบบขนส่งผู้เจ็บยามฉุกเฉิน ระบบช่วยเหลือส่วนกลางไม่ทำงานและประชาชนดูแลกันเองไม่ได้, แผนที่จะควบคุมมวลชนในสถานการณ์อาหารขาดแคลนไม่มี ฯลฯ หรือ กรณีศึกษาที่ใกล้ตัวมากยิ่งขึ้นก็เช่น การเกิดคลื่นยักษ์ซึนามิ ในครั้งนั้นประเทศไทยเราเจ็บปวดจากการไม่มีแผนรับมือ และ ระบบป้องกันเตือนภัยที่รัดกุม เช่นเดียวกัน

ดังนั้น รายงานฉบับนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อรวบรวมประเด็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และ วิธีการป้องกันดูแลตนเองของประชาชน จากผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นดังกล่าว โดยมุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรงงานนิวเคลียร์เป็นสำคัญ ทั้งนี้เพราะ หากพิจารณาจากแผนพัฒนาพลังงาน (PDP) ที่กระทรวงพลังงานจัดทำขึ้นล่าสุด (2010?) โรงงานนิวเคลียร์จะกลายเป็นแหล่งพลังงานส่วนใหญ่ของประเทศ (อย่างน้อย 5 โรงจะถูกติดตั้งในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งจะมีอายุใช้งาน

กว่า 40-50 ปี) ในขณะที่ สังคมไทยยังมีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยี และ ความเสี่ยงจากภาวะฉุกเฉินที่อาจจะเกิดจากโรงงานนิวเคลียร์น้อยมาก โดยจะมีรายละเอียดดังแสดงในบทต่อไป

ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับสารกัมมันตภาพรังสี (Radiation primer)

อะตอม (Atom) ของธาตุโดยส่วนใหญ่แล้วถือได้ว่าเป็นอะตอมซึ่งมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตามแต่ ยังคงมีอะตอมของธาตุบางชนิด ซึ่งเราอาจจะคุ้นเคยกับชื่อของธาตุเหล่านี้อยู่บ้าง เช่น เรเดียม หรือ ยูเรเนียม เป็นต้น มีลักษณะขาดเสถียรภาพ และ ทยอยปลดปล่อยอนุภาค, พลังงาน และ รังสีบางอย่างออกมาจากตัวมันเอง ซึ่งรังสีเหล่านี้เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื้อของมนุษย์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ทว่า สาเหตุหลักๆที่มักจะพบเจอได้แก่ อาวุธสงคราม อาทิ Dirty bomb และ Nuclear bomb เป็นต้น และ การรั่วไหลหรือระเบิดของโรงงานนิวเคลียร์ ซึ่งประวิติศาสตร์ครั้งร้ายแรงที่สุดที่หลายคนยังคงจดจำได้เป็นอย่างดีคือ การระเบิดที่โชโนบิล นั่นเอง

กัมมันตรังสี (Radiation) ที่แผ่กระจายออกมานั้น สามารถแบ่งออกได้เป็นสองส่วนสำคัญได้แก่

1.ส่วนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic) โดยเฉพาะในส่วนที่สองนี้ เราจะสามารถวิเคราะห์ถึงความเป็นพิษของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แพร่ออกมาจากกัมมันตภาพรังสีได้จากช่วงคลื่น กล่าวคือ ยิ่งช่วงคลื่นมีขนาดสั้น พลังงานจะสูง และ มีความสามารถในการก่อพิษติดโทษให้แก่ร่างกายของมนุษย์มากขึ้นด้วย และ

2.ส่วนของอนุภาค (Particulate) ซึ่งกัมมันตภาพรังสีที่แตกตัว (Ionizing radiation) จะสามารถก่อให้เกิดอนุภาคในรูปแบบมาตรฐานได้ 4 ลักษณะด้วยกันกล่าวคือ

๑. อนุภาคแอลฟ่า (Alpha particle) ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดเดินทางได้ใกล้ และ มีอำนาจการทะลวงผ่านที่ต่ำ อย่างไรก็ตามแต่ หากปล่อยให้อนุภาคเหล่านี้เข้าสู่บาดแผลหรือ มิได้มีการขจัดการปนเปื้อนในระยะเวลาที่ดีพอก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน

๒. อนุภาคเบต้า (Beta particle) เป็นอนุภาคขนาดเล็กลงมาจากอนุภาคอัลฟ่า ซึ่งแน่นอนว่ามีอำนาจการทะลวงผ่านและระยะเคลื่อนที่ได้ไกลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนอาจก่อให้เกิดอาการไหม้ที่บริเวณผิวหนังซึ่งได้รับการปนเปื้อน (Beta burn) โดยทั้งสองอนุภาคแรกนี้ จะพบได้จากการผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์ (Nuclear bomb)

ู๓. อนุภาคแกมมา (Gamma particle) เป็นอนุภาคซึ่งเคลื่อนที่ได้เร็ว และ มีพลังงานสูงมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง ซึ่งสามมารถก่อผลเสียต่อร่างกายของมนุษย์ได้มากกว่าการไหม้บริเวณผิวหนังเท่านั้น ซึ่งเกิดจากการชนกันของอะตอมจนเกิดการแตกตัวออกมาจากโฟตอน

๔. อนุภาคนิวตรอน (Neutron particle) เป็นอนุภาคที่มีอันตรายสูงสุด ซึ่งจะพบได้จากการชนกันและแตกตัวของอะตอม ไปจนกระทั่งถึงการระเบิดหรือรั่วไหลของโรงงาน/โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งคาดว่าผลกระทบต่อเนื้อเยื่อมนุษย์ของอนุภาคนิวตรอนนั้นจะรุนแรงกว่าอนุภาคแกมมาถึง 20 เท่าตัวด้วยกัน

อันที่จริงแล้วเราต่างได้รับ/สัมผัส กับสารกัมมันตภาพรังสีตามธรรมชาติอยู่แล้วในระดับ 3.33 Millisieverts ต่อปี (เทียบได้กับการ x-ray 100 ครั้ง!!!) ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทว่า, เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินเฉพาะที่มีโอกาสได้รับอนุภาคทั้ง 4 ชนิดเหล่านี้ในปริมาณที่มากพอ (Dose มากกว่า 2 sieverts) ก็จะส่งผลทั้งทางตรง (เช่น ที่เซล) หรือ ทางอ้อม (เช่น ผ่านของเหลวที่ดื่มเข้าไป) ทำให้เซลร่างกายมนุษย์ได้รับอันตรายโดยเซลอาจได้รับบาดเจ็บ หรือ ตายจนกระทั่งทำให้เกิดการสูญเสียอวัยวะ หรือ เสียชีวิตในที่สุด โดยในรายที่ไม่เสียชีวิต ผลกระทบจากการรับสารกัมมันตภาพรังสี มิได้เพียงทำร้ายในระดับเซลของร่างกายดังที่ได้กล่าวไปแล้วเท่านั้น ทว่าส่งผลกระทบลงไปถึงระดับสารพันธุกรรม (DNA) และ เพิ่มความน่าจะเป็นที่จะเกิดมะเร็งในระยะยาวมากกว่าบุคคลทั่วไปถึง 15% ด้วยกัน ทั้งนี้ อาการซึ่งเกิดจากการรับสารกัมมันตภาพรังสีเข้าไปในปริมาณมากอย่างกะทันหันเราจะเรียกว่า “การป่วยด้วยกัมมันตภาพรังสีเฉียบพลัน (Acute radiation sickness or ARS)” ซึ่งพบเห็นได้โดยทั่วไปในประชากรที่ได้รับผลกระทบจาก การทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิม่า และ นางาซากินในปี ค.ศ. 1940s และ การระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่โชโนบิล (Chernobyl) ในปี ค.ศ.1986 ดังที่ไดเรียบไว้ในส่วนเกริ่นนำแล้วว่า ช่องทางในการรับสารกัมมันตภาพรังสีนั้น มีอยู่ด้วยกันหลายช่องทาง ทว่าช่องทางที่รุกคืบเข้ามาใกล้เรามากยิ่งขึ้นเรื่อยช่องทางหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่รายงานฉบับนี้ให้ความสนใจเป็นพิเศษนั้นก็คือ ความเสี่ยงจากการรั่วไหลของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งจะได้กล่าวถึงอีกครั้งอย่างละเอียดในบทต่อไป บทที่ 2: การรับมือภาวะฉุกเฉินจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (Nuclear reactor)

ในทุกโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟิชชั่นนั้น จะปลดปล่อยอะตอมออกมาระหว่างการสร้างพลังงาน ซึ่งเราจะเรียกอะตอมนั้นว่า “นิวเคลียร์รีแอ๊กเตอร์ (Nuclear reactor)” ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ เป็นต้น และแม้ว่าในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะมีโอกาสเกิดระเบิดนิวเคลียร์น้อยมาก (เพราะส่วนใหญ่ การจัดการจะทำให้เชื่อเพลิง

กัมมันตรังสี อาทิ ยูเรเนียม ไม่เกาะกลุ่มกันจนกระทั่งเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ในระดับระเบิดนิวเคลียร์) ทว่าก็ยังมีความเสี่ยงประการอื่นที่น่ากังวล เช่น ประเด็นต่างๆต่อไปนี้ซึ่ง U.S. Homeland Security Planners ให้ความกังวลอยู่ในขณะนี้01:

1. การรั่วไหลอย่างมากของสารกัมมันตภาพรังสี ในกรณีที่ถูกระเบิด (อาจจากสงคราม หรือ สิ้นอายุใช้งาน เป็นต้น)
2. การชนปะทะของเครื่องบินพาณิชย์ต่อสิ่งปลูกสร้างที่มีสารกัมมันตภาพรังสี
3. การก่อวินาศกรรม หรือ ความผิดพลาดในการจัดการ จากภายในโรงงานเอง เป็นต้น

ผลกระทบ และ อาการเป็นพิษ เมื่อเกิดการรั่วไหลขึ้น ผละกระทบอาจขึ้นอยู่กับขนาดของการรั่วไหล และ อีกหลายๆปัจจัย อาทิ กำลังแรงลม, ทิศทางของลม ฯลฯ อย่างไรก็ตามแต่ โดยหลักการทั่วไปเราอาจกล่าวได้ว่า การรั่วไหลมักกินระยะทางได้กว้างขวางมาก อาจถึงหลายร้อยไมล์ ซึ่งพื้นที่ๆสารกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อนไปแล้วจะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งนี้เพราะ สารกัมมันตภาพรังสีจะแทรกซึมอยู่ในดิน, น้ำ, อากาศ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ได้รับผลกระทบ หรือ หากปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ ผลิตผลทางการเกษตรและปศุสัตว์เหล่านั้นก็จะปนเปื้อนจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค อยู่ดี การจะตรวจพบอาจใช้เครื่องที่เรียกว่า Geiger counter ซึ่งในสหรัฐอเมริกามีกว่า 3,000 โรงพยาบาลซึ่งมีเครื่องมือนี้ ทว่า ในกรณีที่ต้องการวินิจฉัยอาการฉุกเฉิน สามารถดูได้จาก ลักษณะอาการที่อาจจะพบได้ต่อไปนี้ (กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง) คือ ปวดท้อง, อาเจียน, ท้องเสีย, ผิวไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ, อ่อนล้า, ขาดน้ำ, ผมร่วง, เจ็บคอ และ ช่องปากรุนแรง และ มีอาการเลือดออกตามทวารต่างๆ ซึ่งเมื่อเราตรวจพบอาการเหล่านี้ประกอบกัน ก็จำเป็นที่จะต้องมีแผนการรับมือหรือปฐมพยาบาลเบื้องต้นในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นคู่มือประกอบสำหรับคนในพื้นที่ โดยวิธีการรับมือเบื้องต้นจะกล่าวถึงในลำดับถัดไป

การตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉิน

1. หากมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ “การอพยพออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด” ด้วยการเดินทาง สวนทางลม (แน่นอนว่าทุกบ้านคงไม่มีเครื่องมือวัดทิศทางลม หากแต่บ้านที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ควรมีพกไว้ หรือ หากมิได้พกไว้ล่วงหน้า อย่างน้อยควรวิ่งออกห่างจากแหล่งกำเนิดกัมมันตรังสี)
2. หากคุณต้องเผชิญกับการรั่วไหลของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หลักการเบื้องต้นสามประการที่ต้องยึดไว้มากที่สุดคือ
a. ลดเวลาในการเผชิญกับต้นตอกัมมันตภาพรังสีให้น้อยที่สุด (เช่น ออกห่างจากจุดเกิดเหตุให้มากที่สุด)
b. ห่างไกลแหล่งกำเนิดให้มากที่สุด และ
c. ควรแสวงหาเครื่องมือเบื้องต้นในการป้องกันตนเองไว้ เช่น การก่อผนังด้วยวัสดุหนาที่ต้านทาน อาทิ คอนกรีต และ สวมเสื้อผ้าตลอดจนแว่นตาแก้ว เพื่อป้องกันอนุภาคบางชนิดที่เกิดจากกัมมันตรังสี
3. เตรียมชุดอพยพไว้ให้พร้อมเสมอ ซึ่งประกอบไปด้วย หมวก, กางเกงขายาว และ เสื้อแขนยาว, รองเท้ากระชับปิดทึบ ซึ่งควรเป็นวัสดุที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันตนเองจากกัมมันตรังสีจะยิ่งมีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกัน
4. ในหลากกรณีที่ไม่อาจอพยพได้ อาทิ มีผู้ป่วยบาดเจ็บ ยากแก่การขนย้าย ฯลฯ การเลือกที่จะหลบภัยในบ้าน อาจมีความจำเป็น ซึ่งบ้านที่มีความเสี่ยง อาทิ อยู่ใกล้แหล่งกัมมันตรังสี หรือ โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ควรที่จะ เตรียมหลุมหลบภัยที่มีการฉาบกำแพงหนาเอาไว้ อย่างไรก็ตามหากไม่มีหลุมหลบภัย ทางเลือกที่แย่น้อยที่สุดคือ การเข้าไปหลบในห้องที่ปราศจากหน้าต่าง ซึ่งระยะเวลาที่ปลอดภัยเพียงพอจะขนย้ายออกจากแหล่งหลบภัยน่าจะอยู่ในช่วงหลังวันที่ 7 นับจากวันที่เกิดเหตุครั้งแรก (ความเข้มขนของกัมมันตภาพรังสีจะลดลงเหลือประมาณ 10% ของระดับตั้งต้น) ดังนั้น จึงควรเตรียมเสบียงอาหารแห้งไว้ในห้องหลบภัยเสมอ
5. เมื่อเข้าสู่แหล่งหลบภัย ให้ทำการถอดเสื้อผ้า และ เครื่องประดับทั้งหมดที่สวมใส่อยู่เก็บในถุงทึบแล้วนำไปทิ้งเอาไว้ห่างจากแหล่งพักอาศัย (เพราะเสื้อผ้าเหล่านั้นปนเปื้อนระหว่างเดินทางเรียบร้อยแล้ว) และในระหว่างที่เคลื่อนย้ายควรใช้ผ้าชุบน้ำปิดปากไว้ด้วย หรือ หากมีหน้ากากกันแก๊สก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน
6. อาบน้ำทันทีด้วยสบู่ที่มากเป็นพิเศษ (และชำระล้างหลายๆรอบ) อย่างไรก็ตาม ควรมั่นใจว่าแหล่งกำเนิดน้ำต้องไม่ปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีเช่นเดียวกัน
7. ติดตามข่าวสารจากรายการสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency broadcast system), ศูนย์เฝ้าระวังสาธารณะ (Public-monitoring center) และ ศูนย์แก้ไขปัญหาการปนเปื้อน (Decontaminate center) อย่างต่อเนื่องเพื่อรับทราบข้อมูลสำคัญ เช่น ขอบเขตของสิ่งที่บริโภค, สูดดม หรือ สัมผัสได้ ฯลฯ เป็นต้น
8. วัสดุที่มีขีดความสารถป้องกันจากสารกัมมันตภาพรังสีมากที่สุด ซึ่งควรนำมาฉาบบ้านซึ่งมีความเสี่ยง ได้แก่ ตะกั่ว (Lead)
9. ปิดระบบอากาศหมุดเวียน และ ระบายลมทั้งหมดที่อยู่ภายในที่พัก อาทิ พัดลม หรือ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
10. อย่าตระหนกตกใจ, หากอยู่ในสภาพที่ควบคุมได้แล้วดังระบุมาในข้อ 1-9 ข้างต้น เราสามารถทนทานต่อสภาพเลวร้ายจากการปนเปื้อนได้เป็นระยะเวลากว่าสัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่การช่วยเหลือจะต้องกินระยะเวลา เพื่อรอให้ระดับสารกัมมันตภาพรังสีในพื้นที่ลดลงจนอยู่ในระดับปฏิบัติการได้เสียก่อน

การแก้ไขปัญหาตามอาการและกรณีเฉพาะ

1. กรณีทั่วไป:
๑. เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดมะเร็งต่อมไทรอย อันเนื่องมาจากการดูดซับสารกัมมันตภาพรังสีไว้ในปริมาณมาก อาจแก้ไขได้ด้วยการกิน โปแตสเซียมไอโอไดน์ (Potassium Iodide; KI) ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาโดยไม่ต้องการใบรับรองแพทย์, ทั้งนี้ ควรบริโภคทันทีหลังได้รับการสัมผัสกับแหล่งกัมมันตภาพรังสี โดยใช้เพียง 1 dose [130 mg.] เท่านั้น และ ไม่ควรใช้ต่อเนื่อง เพราะ มีโอกาสก่อให้เกิดการแพ้จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
๒. ผู้ที่ไม่ควรใช้ KI ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคต่อมไทยรอย, ผู้ที่แพ้ไอโอไดน์ และ/หรือ มีภาวะ Skin disorder เช่น โรค dermatitis herpetiformis และ urticarial vasculitis เป็นต้น และ ผู้ที่อายุเกิน 40 มีโอกาสที่จะเกิดโรคมะเร็งต่อมไทรอยน้อย และ โอกาสแพ้ KI มาก เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังในการใช้ KI เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการรับสารกัมมันตภาพรังสี
2. กรณีเด็ก
๑. เด็กมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ใหญ่ในการได้รับอันตรายจากการสัมผัสสารกัมมันตภาพรังสี :
๒. เด็กที่อายุ 18 ปีลงมาจะมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งต่อมไทรอยมากกว่าช่วงอายุอื่น โดยเฉพาะเด็กอายุเกินกว่า 1 เดือน ต้องได้รับ KI เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
๓. Dose ที่ได้รับการแนะนำสำหรับเด็กอายุ 3-18ปีได้แก่ 65 mg., 32 mg. สำหรับอายุ 1 เดือนถึง 3 ขวบ, และ 16 mg. สำหรับเด็กอายุ 1 เดือนลงมา
3. กรณีสตรีมีครรภ์
๑. สตรีมีครรภ์สามารถทำได้ประการเดียวคือ ต้องหลีกห่างจากการสัมผัสสารกัมมันตภาพรังสีในทุกทางให้ได้มากที่สุด โดยหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องทาน KI ใน dose ตามปรกติ :

บทสรุป (Conclusion)

ดังจะเห็นว่า ข้อมูลการรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลนั้น มีความซับซ้อน และ ต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนค่อนข้างมาก อาทิ KI, ชุดป้องกันตนเอง, การเตรียมความพร้อมเรื่องโครงสร้างบ้าน และ ที่สำคัญคือ แผนปฏิบัติการช่วยเหลือ ซึ่งท่ามกลางความสับสนวุ่นวายภายหลังการเกิดเหตุไม่คาดฝัน การจะจัดตั้งสิ่งเหล่านี้โดยที่มิได้มีการเตรียมการไว้ก่อนนั้นถือเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ด้วยแผนการฉุกเฉินที่ได้มีการซักซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และ อุปกรณ์ที่ครบถ้วนเท่านั้น จึงเป็นเครื่องชี้ขาดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉินว่าจะมีจำนวนมากน้อยเพียงใด
ผู้จัดทำหวังว่า เอกสารรายงานฉบับนี้จะช่วยให้เราเข้าใจวิธีการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หากมาตั้งหลังบ้านเราได้อย่างดีพอด้วยขีดความสามารถมาของชุมชนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หาก
สามารถที่จะทำให้ชุมชนโดยรอบโรงงานนิเคลียร์ตระหนักและเข้าใจในความจำเป็นที่จะต้องมี “ระบบแผนสำรอง” อาทิ การมีกลุ่มคนที่ทราบหน้าที่ยามฉุกเฉินว่าตนเองจะต้องสังกัดหน่วยในยามเกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือกันเอง อาทิ หน่วยติดตามสถานการณ์, หน่วยเก็บกู้ช่วยเหลือ เป็นต้น

บรรณานุกรม (Reference)

Angelo Acquista. The survival guide: What to do in an emergency nuclear. 2003


จาก เข้าสู่ระบบ | Facebook

 

เอากลับมาอีกที คำทำนายทายทักจากโหรท่านนี้ บางคนบอก อะไรจะหดหู่กันขนาดนั้น มีแต่หายนะทุกปี สำหรับดวงโลกปี 2554 เขาทำนายไว้ตั้งแต่เดือน พย. 2553

โสรัจจะ ทายเสียว ปี 54 หายนะกว่าปีนี้ ไทยมีสิทธิ์ สิ้นแผ่นดิน

โลกวิปริต อาเพศใหญ่หลวง ตายเป็นเบือ

พยากรณ์ดวงเมือง ประจำปีเถาะ พ.ศ. 2554 ในหนังสือ ศาสตร์แห่งโหร ฉบับพิเศษ รู้ทันดวงกับโหรดัง 2554 คราวนี้ โสรัจจะ ก็ได้เขียนคำทำนายชะตากรรม ของโลก มวลมนุษยชาติ และชาติไทย

ที่ต้องเผชิญวิปริตอาเพศ ซึ่งมีมากกว่าปีที่ผ่านมาว่า อย่างใหญ่หลวง ดั่งไฟนรกโลกันต์ลามเลียให้วอดวาย ฉิบหายกันถ้วนหน้า ไม่แพ้ปีเสือบ้าเลือดเช่นกัน

บางส่วนจาก หนังสือ ศาสตร์แห่งโหร 2554 โสรัจจะ ระบุคำพพยากรณ์ดวงเมือง (ไทย) ไว้ว่า ดาวสีเลือดได้รับแสงจากดวงมฤตยู

ในช่วงเดือนมีนาคม 2554 เป็นดาวปฏิวัตินองเลือดในมุมร่วมธาตุ ย่อมเกิดสภาพการเดิอดพลุ่งพล่านไม่สงบ เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า

เกิดศึกสงครามทั้งภายในและภายนอก เกิดความยุ่งยากทางการเมืองขนาดหนัก

แต่ยังน้อยกว่า มหันตภัยที่สุดมหาหฤโหดไปทั่วโลก ซึ่งจะทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วทุกสิ่งอย่างไม่เหมือนเดิม...

น้ำในแม่น้ำและคลองทั้งปวงจะแดงเป็นโลหิต

เมฆและท้องฟ้าจะแดงเป็นแสงไฟ

แผ่นดินไหวสั่นสะเทือน

ฤดูหนาวจะเป็นฤดูร้อน

ที่ลุ่มจะกลับดอน ที่ดอนจะกลับลุ่ม

โรคภัยจะเบียดเบียนสัตว์และมนุษย์ทั้งปวง

มนุษย์หนึ่งในสี่ของโลก จะพลันตายลง

จะเกิดข้าวยากหมากแพง ฝูงมนุษย์จะอดอยาก

เสื้อเมืองทรงทรงเมืองจะหลีกเลี่ยง

ในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้า กรุงเทพฯ และทั่วทุกภาคทุกจังหวัดจะถูกน้ำท่วมไปหมด ที่เกิดจากน้ำทะเลไหลทะลักเข้ามา

และเกิดจากอุทกภัยอีกหลายครั้ง จนต้องอพยพผู้คนหนีน้ำขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ เกือบสุดเขตแดนไทย เมื่อนั้น คนไทยก็คงไร้สิ้นแผ่นดินได้

จะเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ไข้หวัดนก หรือไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ที่พัฒนาตนเอง แพร่จากสัตว์มาสู่คน พาให้คนเสียชีวิตจำนวนมาก เชื้อโรคจะแพร่ขยายทางอากาศ ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเชื้อนรกนี้ได้

ปลายเดือนธันวาคม พระเสาร์ย้ายเข้าเล็งดวงเมือง ทำให้บางประเทศหนาวเย็นจนอยู่ไม่ได้ ผู้คนล้มตายมาก

เมืองไทย จะเกิดอากาศร้อนจัดและหนาวจัดในเดือนเดียวกัน วิกฤตสุดในรอบ 1,000 ปี กรุงเทพฯ จะมีหิมะตก...

ปีเถาะ 2554 เป็นปีที่ต้องต่อสู้กันทรหด ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ ใครก็ตามที่เป็นรัฐบาล ต้องเผชิญวิกฤตการณ์รุนแรงที่สุด ฝ่ายค้านจะแย่งอำนาจ คนในเครื่องแบบจะรอให้ทั้งสองฝ่ายเพลี่ยงพล้ำลง

ส่วนประชาชนตาดำๆ และยากจนก็จะหวาดผวา

ปัญหาคอร์รัปชั่นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปี ถึงขนาดรัฐบาลต้องมีอันเป็นไป


...เหตุการณ์ของประเทศ จะพลิกผันอย่างที่ไม่เคยเห็น และจะเกิดความว่างเปล่า ไม่มีนักการเมืองพรรคใด หลงเหลืออยู่ ระบบพรรคการเมือง จะสูญสิ้นไปจากประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ผู้เป็นใหญ่และผู้คนสำคัญ จะร่วงหล่นกันมาก อำนาจเก่าๆ ของคนเก่าๆ เสื่อมถอย

จะมีเหตุการณ์นองเลือดรุนแรงเกิดขึ้น ประมาทมิได้

กลุ่มชน ฝูงชน อาจจะเคลื่อนไหว ด้วยการสนับสนุนของผู้มีอำนาจเก่าอย่างเร้นลับ

นักการเมืองชั่ว พึงระวังเอาไว้ ถึงเวลานั้น ประชาชนอาจลุกฮือขึ้นมาฆ่าเอง โดยไม่แคร์ขื่อแปบ้านเมือง ดวงของบ้านเมืองใกล้ถึงจุดนี้แล้ว ...

ดาวอังคารสีเลือด ย้ายเข้าสู่ราศีมีน เล็งดาวพระเสาร์

เดือนมีนาคมและเดือนเมษายน ปี 55 จะมีลางร้ายบอกเหตุล่วงหน้า

การเมืองรุนแรงเหมือนพายเรือในอ่าง วนเวียนซ้ำไปมาเหมือนปีก่อนๆ

ประชาชนชุมนุมเป็นเรือนแสนตามท้องถนน เกิดขึ้นจากความโกรธแค้น และรู้ทันความเคลือบแคลงของรัฐบาล

ซ้ำยังเกิดจลาจลเผาเมือง สถานที่สำคัญต่างๆ ของรัฐบาล รถถัง รถปราบจลาจล ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถูกเผายับเยิน ผู้คนล้มตายมหาศาล ผ่านไปหลายเดือนกว่าจะสงบ

คนในเครื่องแบบแตกแยก เกิดเป็นสงครามกลางเมือง เลือดไทยต้องไหลรินนองแผ่นดิน เป็นหนทางสู่ ปฏิวัติรัฐประหารใหญ่อีกครั้ง เรียกว่า เหตุร้ายหนักกว่า ในเดือนพ.ค. 53

เดือน ก.ค. ความสัมพันธ์ประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ภาววะยุ่งเหยิง ขอให้ทุกฝ่ายสมานสามัคคี อย่าแตกแยกไม่งั้นศัตรู ซึ่งเป็นหอกข้างแคร่ จะหาโอกาสจ้องทำลาย แต่ถ้ามีเหตุรุนแรงไทยจะไม่เสียเอกราชแน่ แต่จะเสียเลือดเนื้อไปมาก


ด้านเศรษฐกิจ เรียกว่าเป็นปีหายนะทางด้านเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ยังไม่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้น ประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ธนาคารแต่ละแห่งแตกแยกหนัก ทั้งเล็กใหญ่ปิดตัว หุ้นร่วงตลอดปี


ปัญหาภาคใต้ ยังยิง - ลอบวางระเบิดไม่หยุด สหประชาชาติสะเทือน ผู้ก่อการร้ายใช้อาวุธมีอานุภาพสูงจากภายนอก เข้ามาประกาศแบ่งแยกดินแดน ดวงผู้นำประเทศอ่อนแรง เป็นช่องให้ถูกทำร้าย.......

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สถิติแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ขึ้นไป ปี 53 มี 22 ครั้ง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
สถิติแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ตั้งแต่ 7 ริกเตอร์ขึ้นไป ในรอบปี 2553 มีทั้งสิ้น 22 ครั้ง แต่หากรวมที่เกิดความคลาดเคลื่อนจะเกิดทั้งสิ้น 29 ครั้ง คิดเป็น 1.88-2.45 ครั้งต่อเดือน

โดยเหตุแผ่นดินไหวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ได้แก่

เหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติใกล้กรุงปอร์โตแปรงค์ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ขนาด 7.0 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิตประมาณ 230,000 คน

ต่อด้วย เหตุแผ่นดินไหว ขนาด 8.8 ริกเตอร์ ที่ประเทศชิลี วันที่ 27 ก.พ. เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เกิดสึนามิพัดถล่มชายฝั่งด้วยความสูง 5-8 เมตร มีผู้เสียชีวิต 500-600 คน

วันที่ 6 เม.ย. เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7-7.8 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

ต่อด้วยวันที่ 14 เม.ย. เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ริกเตอร์ สำนักจีนวัดได้ 7.1 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิต ประมาณ 2,600-2,800

วันที่ 9 พ.ค. เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.2 ริกเตอร์ ที่บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตราอีกครั้ง และครั้งนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต

<DD>
วันที่ 26 มิ.ย. เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7 ริกเตอร์ ที่ปาปัวนิวกินนี ประเทศอินโดนีเซีย ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตประมาณ 17 คน ซึ่งจุดนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ขนาด 6.9 หรือ 7 ริกเตอร์ ที่รัฐนิวบริเธน ปาปัวนิวกินี และเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ขนาด 7 ริกเตอร์ ที่รัฐนิวบริเธน ปาปัวนิวกินี อีกเช่นกัน
<DD>
เดือนตุลาคม เมื่อวันที่ 25 ต.ค. เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.7 ริกเตอร์ ที่บริเวณสุมาตรา หมู่เกาะเมนตาไว เกิดสึนามิ สูงราว 2-3 เมตร มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน

เดือนพฤศจิกายน เกิดขึ้นวันที่ 30 พ.ย. ขนาด 6.8 ริกเตอร์ ที่หมู่เกาะโบนิน ญี่ปุ่น และเกิดขึ้นที่หมู่เกาะโบนิน ญี่ปุ่นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ขนาด 7.4 ริกเตอร์



</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตายแล้ว 19 เสียหายยับเยิน - รวมเบอร์ติดต่อ สำหรับแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
นายกฯญี่ปุ่นรับเสียหายมหาศาลหลังแผ่นดินไหวใหญ่ ปชช.ตายแล้ว 19 ราย

ด้านนายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง ของญีปุ่น เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ แต่โรงงานนิวเคลียร์ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ด้านนายยูกิโอะ อิดาโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ทางการได้ส่งทหารเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวเพื่อปฎิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์แล้ว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ทางการยังได้สั่งปิดโรงงานนิวเคลียร์และโรงกลั่นน้ำมันบางแห่ง ขณะที่โรงงานเหล็กขนาดใหญ่ ยังเกิดเหตุเพลิงไหม้ลุกท่วมด้วย ขณะที่สื่อมวลชนญี่ปุ่น รายงานว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนี้ เพลิงไหม้ยังได้ลุกลามจากเมืองเซนไดทางตอนเหนือของประเทศมายังกรุงโตเกียว โดยคลื่นยักษ์สึนามิขนาด 10 เมตร ยังได้ถล่มท่าเรือเมืองซันได แต่ยังไม่รายงานความเสียหาย

ทั้งนี้ สำหรับเมืองมิยางิ และพื้นที่รอบใกล้ นั้น เป็นสถานที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมและการผลิตขนาดใหญ่ของประเทศ รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงงานอีเล็คทรอนิคส์ และโรงงานเคมี ปิโตรเคมี ด้วย

แผ่นดินไหวใหญ่ญี่ปุ่น 8.9 ริกเตอร์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.9 ริกเตอร์ถล่มนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ บนเกาะฮอนชู ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.46 น.ตามเวลาท้องถิ่น ของวันนี้ (11 มี.ค.) โดยมีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้เปลือกโลกประมาณ 10 กม. และห่างจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกประมาณ 125 กม. ได้ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิกวาดรถยนต์หลายสิบคัน รถยนต์ และรถบรรทุก หรือแม้แต่ซัดอาคารที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่ง ของเมืองกาไมชิ ซึ่งตั้งใกล้กับจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว นอกจากนี้ เรือขนาดใหญ่ยังถูกกวาดซัดเข้ากระแทก ในเมืองเคเซ็นนูมะ ในจังหวัดมิยางิ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้พยายามจะประเมินความเสียหาย ตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ โดยภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ยังได้เกิดอาฟเตอร์ช็อครุนแรงตามมาหลายครั้ง และทางการได้เตือนว่าอาจเกิดคลื่นยักษ์สึนามึสูง 10 เมตร จากแผ่นดินไหว

ส่วนที่กรุงโตเกียว ยังเกิดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ตึกอาคารขนาดใหญ่ได้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และทำให้พนักงานแห่หนีตายออกจากบ้านเรือนเพื่อเอาตัวรอด นอกจากนี้ ภาพทางโทรทัศน์ยังแสดงให้เห็นอาคารใหญ่เกิดไฟไหม้ ในเขตโอไดบะ ด้วย ส่วนตอนกลางของกรุงโตเกียว ผู้โดยสารในรถไฟใต้ดิน ยังได้กรีดร้องและพากันจับมือกันเพราะความกลัวแรงสั่นสะเทือน โดยแผ่นดินไหวเป็นไปอย่างรุนแรงจนทำให้ผู้คนแทบจะทรงตัวไม่ได้ นอกจากนี้ พนักงานออฟฟิศและผู้ซื้อสินค้า ในเขตอากาซาก้า หลายร้อยคน ยังแห่หนีออกจากตึกอาคารมาอยู่บนถนนด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บในกรุงโตเกียวด้วย

นอกจากนี้ รายงานระบุว่า แผ่นดินไหวยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกท่วมอาคารหลายแห่งด้วย รวมทั้งในเขตไอโซโกะ ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมก็ต้องเผชิญเพลิงไหม้เกิดเป็นควันเพลิงขนาดใหญ่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า รวมทั้งเกิดเพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมันด้วย

ทางด้านชาวโตเกียวบางรายยังได้หนีออกจากร้านกาแฟหลังจากเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง โดยเขากล่าวว่า เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้นในกรุงโตเกียวเมืองหลวง

เตือนภัย "สึนามิ" ถล่มญี่ปุ่น

ขณะเดียวกัน ทางด้านศูนย์ตรวจสอบสึนามิของสหรัฐ ยังได้ขยายการเตือนภัยคลื่นสึนามิไปยังเกาะฮาวาย ชายฝั่งแปซิฟิกทั้่งหมด รวมทั้งออสเตรเลีย และอเมริกาใต้ ด้วย

สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ประกาศคำเตือน "คลื่นสึนามิ" ว่าอาจเกิดคลื่นยักษ์ขนาดความสูง 6 เมตร เข้ากระหน่ำชายฝั่งจังหวัดมิยางิ ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้กับศูนย์กลางที่สุด

ศูนย์เตือนภัยสึนามิมหาสมุทรแปซิฟิคบนเกาะฮาวาย ได้ประกาศเตือนภัยสึนามิเช่นกัน ซึ่งจะมีผลในญี่ปุ่น รัสเซีย เกาะมาร์คัส หมูเกาะมารีน่า นอกจากนั้นยังได้ออกคำเตือนในไต้หวัน เกาะกวม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และรัฐฮาวายของสหรัฐฯ

ขณะที่สำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า เกิดคลื่นสึนามิขนาด 50 เซ็นติเมตร พัดเข้าชายฝั่งตะวันออกบริเวณใกล้กับจุดศูนย์กลาง เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งทำให้รถยนต์ รถบรรทุก บ้านเรือน และอาคารจำนวนหนึ่งถูกคลื่นพัดพาแลลอยไปตามน้ำ ที่เมืองโอนาฮามะ จังหวัดฟูกุชิม่า

นายกฯญี่ปุ่นแถลงแสดงความเสียใจไปยังผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ส่วนเหตุไฟไหม้โรงงานนิวเคลียร์ยังไม่พบการรั่วของสารเคมี-กัมมันตรังสีแต่อย่างใด

ผู้นำญี่ปุ่นเผย แผ่นดินไหวครั้งนี้ ถือเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 300 ปี ระบุ พร้อมรับความช่วยเหลือจากนานาชาติ


รวมเบอร์ติดต่อ สำหรับแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น

-กระทรวงการต่างประเทศตั้งศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในญี่ปุ่น(กรมการกงสุล) สอบถาม 02-5751046-9
-สถานทูตในโตเกียว (813)32224101
-เบอร์โทรฉุกเฉิน เบอร์สถานทูตญี่ปุ่น (โตเกียว) (81-3) 3441-1386
-สถานกงสุลใหญ่ในโอซาก้า (816)62629226-9
-สถานฑูตญี่ปุ่น (โอซากา) (81-6) 6262-9226
-ผู้ที่มีญาติอยู่ที่จังหวัดมิยางิ ซึ่งมีรายงานว่าได้รับผลกระทบมากที่สุดจากแผ่นดินไหว สามารถสอบถามข้อมูลที่ 02-575-1046-9




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

======================================


11 มี.ค. 54


ภาพจิ๊กซอว์

17 ก.พ. 54-----จะเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง
22 ก.พ. 54-----เกิดที่ประเทศนิวซีแลนด์
11 มี.ค. 54-----เกิดที่ประเทศญี่ปุ่น

2 มี.ค. 54-----ภาพนิมิตเห็นสายน้ำไหลมาสองสาย สายแรกไหลไปที่อื่น
สายที่สองไหลมาหาตัวผม

10 มี.ค. 54-----ภาพนิมิตเห็นน้ำท่วมสูงสองเมตร ท่านผู้ว่ากรุงเทพฯ(จำลอง)
เดินลุยกระแสน้ำมา น้ำแห้งหมดเกิดจากใช้เครื่องสูบน้ำสูบออก

ปีนี้ ดูท่าจะหนักหนาสากรรจ์ ผมตั้งให้เป็นปีแห่งการเตรียมตัว ท่านใดเชื่อ
ก็รีบเตรียมการเสีย ไม่เชื่อก็ไม่ต้องทำอะไร
ถ้านำภาพนิมิตทั้งสามวันมาประติดประต่อกัน สาเหตุที่จะทำให้น้ำท่วม
กรุงเทพฯ น่าจะเกิดจากแผ่นดินไหวทำให้เขื่อนแตก






องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"