ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

ตามที่ พี่สุขุม พูดไว้นั้นถูกแล้วครับ การจะรับรู้เรื่องราวปาฎิหารย์ต่างๆนั้นเวลาอ่านหรือดูจำต้องทำใจเป็นกลางเข้าไว้ครับ หากในใจคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้หรือไม่เชื่อก็พึงคิดแค่นั้น อย่าคิดข้ามขอบเขตไปมากกว่านั้นจะกลายเป็นปรามาศไปได้จะทำให้เกิดโทษครับ เหมือนผมปัจจุบันเวลาเห็นภาพปาฎิหารย์ต่างๆที่เขาเอามาลงเห็นเป็นดวงๆ บางคนว่าเป็นดวงเทพ ดวงพรหมก็ทำใจเป็นกลางไว้ แม้ใจจะไม่เชื่อเพราะพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ บางคนก็งมงายมากเกินไปถ่ายรูปเปิดแฟลชใส่ภาพที่ใส่กรอบไว้ แสงแฟลชก็สะท้อนเป็นประกายออกมาก็ตีความกันไปอีกว่าเป็นปาฎิหารย์ ความเชื่อทุกอย่างเราพึงควรพิสูจน์ได้ถ้าเชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตานั้นงมงายแน่ๆครับ อย่างไรแล้วก็เชื่อตามหลัก กาลามสูตร 10 ของ พระพุทธองค์กันดีกว่าครับ

1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)

 

เอาภาพมาให้ชมเป็นการเสด็จของ 'เกศา' ครั้งที่ 2 ที่ได้พบเจอมาครับ ครั้งนี้เสด็จมาที่รูปเหมือนหลวงปู่ดู่ ขนาดลอยองค์ที่ หลวงตาม้า ท่านสร้างครับ ซึ่งยืนยันได้ว่าตอนที่รับมาไม่มีเกศาแน่ๆครับ มีแต่พระธรรมธาตุแล้วบูชาจนลืมครับ ซึ่งจนหลังจากเกิดเหตุการณ์เกศาเสด็จครั้งแรกประมาณ 1 เดือนกว่าจึงเห็นว่ามีการเสด็จมาครั้งที่ 2 ดังภาพครับ











ใครดูแล้วไม่เชื่อก็ทำใจเป็นกลางไว้ครับผม

 

อนุโมทนาครับ

 

- สมัยท่านเทพระเห็นเล่ากันว่ามีศิษย์ช่วยเทด้วยนะครับหลายคน ลต.ม้า ท่านก็เคยช่วยเทพระครับ

- บล็อคส่วนใหญ่ก็เห็นมีในพิพิธภัณฑ์ที่วัดสะแกด้วยนะครับ แต่ก็ไม่ทราบว่าบล็อคที่เหลืออยู่ที่ไหนครับ

 

โฮ้ พี่สุขุมพูดแบบนี้ผมหน้าแตกแย่เลย ยังดูไม่แม่นคร้าบบ พระมีให้ดูน้อยครับ

 

ไม่ต้องลอง



บ่อยครั้งที่มีผู้ต้องการปฏิบัติไปกราบนมัสการและแจ้งความประสงค์ขอปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลวงปู่ยินดีมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งมีผู้มาขอปฏิบัติกับท่านโดยพูดว่า

"ผมอยากมาลองปฏิบัติดู เขาว่าทำแล้วดี"

หลวงปู่ท่านรีบตอบว่า

"ไม่ต้องลอง ทำเลย ขืนลองก็ไม่เจอของดีสักที ธรรมะไม่ใช่ของลอง เป็นของให้ทำจึงจะเห็นผล"

ผู้เขียน "หลวงปู่มีวิธีการหรือหลักการอย่างไรในการเผยแพร่กับหมู่คณะที่มาปฏิบัติ"

หลวงปู่

"เราไม่ใช่อาจารย์ เราแอบทำเพราะเราไม่สามารถประกาศได้มากกว่านี้ เพียงแต่ข้าตั้งจิตอธิษฐานว่าคนใดก็ตามที่เคยทำบุญร่วมกันมา ขอให้ได้มาพบกันแล้วมาปฏิบัติธรรมเพื่อให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้ชาตินี้ ก็ให้ได้ชาติต่อๆไป บางคนเขามาแล้วก็เลยไปยังไม่ทันได้ชิม บางคนชิมแล้วยังไม่ทานก็ไป แสดงว่าเขาไม่ได้ทำบุญร่วมกับเรามาก็แค่นั้น"

ผู้เขียน "บางครั้งพระที่ดี คนในท้องถิ่นมักจะไม่ได้ของดีอย่างเช่น หลวงปู่ปาน"

หลวงปู่ "แล้วแต่บุญของเขา อย่างพระของข้า ข้าก็แจกๆ กันไป คนไกลเขาก็ได้กัน คนใกล้ไม่ค่อยได้"

ผู้เขียน "อย่างนี้เขาเรียกว่า ใกล้เกลือกินด่างใช่ไหมครับ"

หลวงปู่

"ใกล้เกลือตีนด่าง เพราะมันเหยียบเลย ข้าโดนมาโชกแล้ว แต่ข้าไม่สนใจ ดีชั่วอยู่ที่ตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น เรื่องของบุญใครทำใครได้ ทำให้กันไม่ได้ เหมือนกับใครหิวข้าวก็ต้องกินเอง ใครกินใครอิ่ม บางคนต้องจ้างให้มาวัด แต่ก็มาไม่ถึงวัด เพราะแวะกินเหล้าข้างทาง บางทีให้ปฏิบัติแต่จะหวังรางวัลที่หนึ่ง หรือถูกหวย นั่นเละแล้ว ไม่ได้เรื่องแล้ว"

หลวงปู่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการปฏิบัติที่แท้จริง ไม่ใช่ปฏิบัติเพียงหลอกๆ จึงจะเจอของจริงได้ เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นความสำคัญของการปฏิบัติเหมือนกับการกินข้าว เหมือนกับลมหายใจ แสดงว่าเรามีที่พึ่งสำหรับตนเองแน่นอน

 

วันที่ 11 ม.ค.53 ที่ผ่านมาผมไปช่วย หลวงพ่อสมบูรณ์ และญาติธรรมที่ วัดพระธาตุพลูทองฯ ร่วมใจกันอัญเชิญ องค์พระวิสุทธิเทพ องค์สุดท้ายขึ้นประดิษฐานบนองค์พระธาตุแวะเข้ามาอนุโมทนาบุญกันนะครับ



Link = ขอเชิญร่วมสร้างและบูรณะ "วัดพระธาตุพลูทองธรรมาราม จ.เชียงราย"<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

อนุโมทนาครับ

 

งานครบรอบวันมรณภาพของหลวงปู่ดู่สองปีที่ผ่านมานี้ทางวัดแจก "แหวนหน้า ลป.ทวด" เนื้อทองแดงผสมชนวนของหลวงปู่ฟรีๆไม่คิดมูลค่าเลยครับ ไม่รู้ว่าปีนี้ทางวัดจะแจกอะไรหน๊อ