ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students



(May 12) ทางเลือก 'การบินไทย' ท่ามกลางสายการบินโลกล้มละลาย : คำว่า "ล้มละลาย" ทางธุรกิจน่าจะมีให้เห็นมากขึ้นจากนี้ เพราะมาตการการเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การประกอบธุรกิจหยุดชะงัก ไม่มีรายได้เข้ามาท่ามกลางรายจ่ายและดอกเบี้ยเงินกู้ยังเดินหน้าต่อเนื่อง

จนทำให้บางธุรกิจมาถึงทางตัน อย่างสายการบิน ด้วยหนี้สินมากเสียจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ และเพื่อหาวิธีการที่ทำให้บุคคลดังกล่าวหลุดพ้นจากหนี้นั้นคือการเข้าขอยื่นล้มลาย เพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่หรือบางสายการบินก็ล้มหายตายจากไปเลยก็มี

ขณะที่ บริษัท บินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เผชิญภาวะขาดทุนมานานถึง 8 ปี อยู่ในแผนการฟื้นฟูกิจการมาถึงเกือบ 5 ปี แต่ยังไม่สามารถผ่าตัดองค์กรแห่งนี้ให้สำเร็จได้จริง จนไวรัสโควิด-19ทำให้ต้องหยุดให้บริการตั้งแต่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมาและยังไม่มีสัญญาณว่าจะกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบได้เมื่อไร

ด้วยฐานะทางการเงินบวกกับภาวะในอุตสาหกรรมการบินอาจจะเรียกได้ว่า 'การบินไทย' ได้เข้าสู่ภาวะล้มละลายทางเทคนิคไปเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ยังดำรงสถานะไม่ต้องเข้ายื่นขอล้มละลายเพียงแค่ปัจจัยเดียว คือ การเป็นสายการบินแห่งชาติในรูปแบบรัฐวิสาหกิจที่รัฐถือหุ้นมากกว่า 50 % เท่านั้น

ปัจจุบันสิ้นปี 2562 ด้วยรายได้ 1.88 แสนล้านบาท ขาดทุน 12,042 ล้านบาท ขาดทุนสะสม 19,383 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 2.44 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ที่ต้องชำระภายใน 1 ปี จำนวน 21,730 ล้านบาท

หากแต่บริษัทมีกระแสเงินสดในมือแค่ 21,663 ล้านบาท ส่งผลทำให้เมื่อไม่มีรายได้เข้ามาจึงประสบปัญหาสภาพคล่องจนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ถือใหญ่ด้วยการค้ำประกันเงินกู้ล็อตแรก 50,000 ล้านบาท

เมื่อประเมินจากเม็ดเงินกู้ดังกล่าวอาจจะหล่อเลี้ยงบริษัทให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ 3-4 เดือน เนื่องจากการบินไทยมีรายได้จ่ายคงทีประมาณ 13,000 ล้านบาทต่อเดือน แต่มีหนี้ที่ต้องชำระ 240,000 ล้านบาท

ยังไม่นับรวมกับแผนการจะซื้อฝูงบินเพิ่มเติมก่อนหน้านี้แล้วต้องพับแผนออกไปเพราะไม่มีรายละเอียดรายได้ที่ชัดเจน จึงทำให้การอุดรูรั่วครั้งนี้มีความสุ่มเสี่ยงหากเจ้าของและผู้ถือหุ้นใหญ่ (กระทรวงการคลัง)ไม่ดำเนินการผ่าตัด เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อนับหนึ่งใหม่ (SetZero)

กรณีการบินไทย ประสบปัญหาขาดทุน ขาดสภาพคล่อง เป็นเรื่องที่อุตสาหกรรมการบินกำลังเผชิญไม่แตกต่างกัน แต่อยู่ที่การแก้ไขปัญหาที่จะยอมอุ้มจนนำไปสู่การล้มละลายเต็มรูปแบบหรือยอมเปลี่ยนแปลงวันนี้เพื่อให้ฟื้นได้ในวันหน้า

โดยสายการบินที่ยอมประกาศยื่นล้มลายจากวิกฤติไวรัสแล้วมีถึง 2 สายการบิน ประกอบไปด้วย สายการบินอาเวียงกา (Avianca Airlines) ซึ่งเก่าแก่เป็นอันดับสองของโลกและใหญ่เป็นอันดับสองในลาตินอเมริกายื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะล้มละลาย เพราะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเส้นตาย และไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเรื่องผลกระทบจากโควิด-19 มีมูลค่าหนี้มากกว่า 2.3แสนล้านบาท

ก่อนหน้านี้คือ สายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย(Virgin Australia) ซึ่งถือเป็นสายการบินพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศออสเตรเลีย เข้าสู่กระบวนการขอล้มละลาย หลังจากวิกฤติโควิด-19 ส่งผลทำให้สถานการณ์การเงินย่ำแย่ มีปัญหาหนี้สินจำนวนมากมายาวนานนับ 5,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 3.17 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 101,000 ล้านบาท)

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

https://www.bangkokbiznews.com/news...medium=internal_referral&utm_campaign=finance

 

#เข้าขั้นวิกฤต ... รัฐเตรียมอุ้ม #โอเชี่ยนปาร์ค 2 หมื่นล้าน ก่อนล้มละลายเดือนหน้า
.
ข่าวใหญ่สุดๆ เมื่อวานค่ะ
.
เล่าแบคกราวนด์ปัญหาโอเชี่ยนปาร์คให้ฟังนิดนึง
คือ สวนสนุกแห่งนี้ กำลังมีปัญหาทางการเงินเข้าขั้นวิกฤต โดยเฉพาะเรื่องขาดสภาพคล่อง เนื่องจากขาดทุนสะสมต่อเนื่อง
.
ข่าวว่า เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โอเชี่ยนปาร์คมีเงินสดในมือเหลืออยู่ประมาณ HK$400 ล้าน (ราว 1,600 ล้านบาท) แต่มีหนี้ที่เตรียมต้องจ่ายประมาณ HK$2,000 ล้าน (ราว 8,300 ล้านบาท) ไม่รวมหนี้ที่ต้องจ่ายให้รัฐในปีหน้า
เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ และแม้จะลดเงินเดือนผู้บริหารและให้พนักงานลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง (leave without pay) ไปแล้ว
.
กระแสเงินสดที่เหลืออยู่ เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ #ถึงเดือนหน้า (มิ.ย.) #เท่านั้น
.
=============
ทีนี้ เมื่อเดือน ม.ค. ทางสวนสนุกได้ยื่นขอให้รัฐช่วยเหลือทางการเงินราว HK$10,640 ล้าน (ราว 44,000 ล้านบาท) โดยเป็นแผนฟื้นฟูสวนสนุกให้เป็นธีมรีสอร์ต
.
แต่เมื่อวาน มีข่าวว่า #รัฐเตรียมอนุมัติเงินช่วยกึ่งหนึ่ง จากที่ขอมา หรือ HK$5,420 ล้าน (ราว 22,500 ล้านบาท)
.
ทั้งนี้ เลขาธิการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและการพาณิชย์ กล่าวว่า เงินที่ช่วยไม่ใช่จุดประสงค์เรื่องแผนฟื้นฟูตามที่สวนสนุกยื่นเรื่องในเดือน ม.ค.
แต่เป็นการช่วยให้ธุรกิจยังดำเนินต่อไปได้อีก 1 ปี และให้มีเงินไปชำระหนี้ โดยแผนฟื้นฟูก็จะพิจารณากันในขั้นต่อไป
.
ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมนำเรื่องเข้าสภาในวันศุกร์นี้ เพื่อเร่งอนุมัติเงินช่วยเหลือดังกล่าว ก่อนสวนสนุกจะล้มละลายในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
.
===============
สำหรับเรื่อง #การกลับมาเปิดสวนสนุก มีข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนเรื่องอนุมัติเงินช่วยเหลือว่า
CEO ของสวนสนุกให้สัมภาษณ์ว่า
มีความเป็นไปได้เร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ระบุวันเวลาเป็นที่แน่ชัด และอาจให้บริการได้น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของกำลังการให้บริการทั้งหมด
.
Source:
https://news.rthk.hk/rthk/en/component/k2/1525473-20200511.htm?spTabChangeable=0

https://www.thestandard.com.hk/breaking-news/section/4/147025/Ocean-Park-funding-slashed-to-HK$5.4b

https://www.scmp.com/news/hong-kong...ean-park-hong-kong-may-run-out-cash-september
.
#eatlike852 #covid19hongkong

 

❗️ #อัพเดท #โควิดฮ่องกงวันนี้ (12 พค)
ข่าวไม่เป็นทางการ พบผู้ติดเชื้อ #ในฮ่องกง 1 คน
.
ข่าวสดๆ ร้อนๆ หลังจากช่วงเย็นมีข่าวว่า วันนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่
.
แต่ช่วงค่ำมีข่าวอัพเดทว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 1 คน โดยเป็นหญิงชราชาวฮ่องกง วัย 66 ปี เป็นแม่บ้าน
.
#ไม่มีประวัติเดินทางต่างประเทศ #ไม่ใช่ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด หรือ หญิงชราคนนี้ #ติดเชื้อในฮ่องกง นั่นเองค่ะ
.
เว็บ สธ ฮ่องกงยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการนะคะ พี่แป๋วจะสรุปให้อีกครั้งพรุ่งนี้เช้าค่ะ
.
#eatlike852 #covid19hongkong

https://www.scmp.com/news/hong-kong...78/coronavirus-hong-kong-hits-23-days-without

 

รัสเซียสุดเครียด ยอดติดเชื้อโควิดพุ่งแซงสเปน อยู่อันดับ 2 ของโลกแล้ว
วิกฤติโควิด-19 ในรัสเซียยังหนัก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่าหมื่นอีกวัน ส่งผลยอดสะสมผู้ติดเชื้อทะลุ 2.32 แสน แซงสเปน ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯเท่านั้น
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

หมอยง เตือนโควิด 19 ระลอก 2 อาจเกิดขึ้นได้ เทียบบทเรียนจากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น

ระบาดระลอก 2 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan โดยระบุถึง โควิด-19 กับการระบาดระลอก 2 ว่า

ขณะนี้การระบาดในประเทศไทยสามารถควบคุมได้เป็นอย่างดี มีการพบผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่จะอยู่ทางใต้ และเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในที่กักกัน กลับจากต่างประเทศ

บทเรียนจากประเทศจีน เกาหลีและญี่ปุ่น ก็ยังมีการเกิดกลุ่มการระบาดภายในเกิดขึ้นได้ โอกาสที่จะมีรอบสองจึงมีความเป็นไปได้
เราสร้างกำแพงล้อมรอบประเทศไทย แต่ขณะเดียวกันยังมีน้ำท่วมอยู่นอกบ้าน เราวิดน้ำในบ้านเราจนแห้ง แต่เป็นการยากที่จะไม่ให้มีรอยรั่ว แต่ถ้ามีรูรั่วแล้วเราวิดน้ำออกทันก็ไม่เป็นปัญหา มาตรการในการป้องกันของเราก็ต้องเข้มแข็ง

ในช่วงฤดูฝนจะเป็นฤดูกาล โรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้าดูจากไข้หวัดใหญ่จะระบาดในช่วงฤดูฝน และการระบาดจะเริ่มจากที่โรงเรียน บางโรงเรียนถึงกับต้องปิดเรียน

มาตรการการป้องกันการกำหนดระยะห่างของบุคคล physical distancing การล้างมือ การใช้แอลกอฮอล์เช็ดถูมือ การกินร้อน การหลีกเลี่ยงเข้าชุมชนคนหมู่มาก มาตรการทุกอย่าง ต้องเข้มข้น ทุกคนต้องช่วยกัน รอระยะเวลาที่เรามียารักษาที่ดี หรือมีวัคซีนในการป้องกัน
ทุกคนต้องช่วยกัน คนที่มีจะต้องรู้จักแบ่งปัน ให้ทุกคนอยู่ได้

The post หมอยง เตือนโควิด 19 ระลอก 2 อาจเกิดขึ้นได้ เทียบบทเรียนจากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

เผย สภาพภายในโรงหนังเมเจอร์ หลังปิดให้บริการชั่วคราว มาเกือบ 2 เดือน

12 พ.ค. 63 บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เน้นย้ำและใส่ใจคุมเข้มมาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัยอย่างเข้มงวดขั้นสูงสุด แม้จะปิดบริการโรงภาพยนตร์มาเกือบ 2 เดือน

ซี่งตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ไม่เคยละเลยต่อมาตรฐานความสะอาดในทุกจุดของพื้นที่โรงภาพยนตร์ โดยจัดให้มีกิจกรรม Big Cleaning ทุก 15 วัน เพื่อเตรียมความพร้อมกลับมาเปิดให้บริการกับมาตรการ New Normal ขั้นสูงสุด

โดยเฉพาะพื้นที่ภายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งในทุกๆ วัน จะมีการเข้าตรวจภายในโรงภาพยนตร์ทุกโรง ตั้งแต่เปิดประตูโรงภาพยนตร์ เปิดพัดลม เปิดเครื่องระบบปรับอากาศวันละ 2 ครั้ง เพื่อระบายอากาศภายในโรง ลดความอับชื้น ไม่ให้เกิดกลิ่นอับและเชื้อรา

สำหรับกิจกรรม Big Cleaning ทุกสาขาจะดำเนินการ ทุก 15 วัน ทำความสะอาดอุปกรณ์และจุดสัมผัสต่าง ๆ อาทิ เก้าอี้ เบาะ พนักพิง ที่พักแขน ผนังโรง พรม มือจับประตู ราวบันได ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในโรง ภายในห้องเครื่องระบบปรับอากาศ และอบโอโซนภายในโรง เพื่อเพิ่มอากาศที่สดชื่น

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ตระหนักดีถึงความสำคัญในความสะอาดและความปลอดภัยของลูกค้าอย่างสูงสุด

โดยปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในมาตรการความปลอดภัยตามมาตรฐานสาธารณสุขสากล ด้วยการเฝ้าระวังและป้องกันขั้นสูงสุด นับตั้งแต่มีการเริ่มแพร่ระบาด ด้วยการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในทุกพื้นที่ ภายในศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์ โดยการทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมต่างๆ

อาทิ ราวจับประตู , ราวจับบันไดเลื่อน , ปุ่มกดลิฟต์ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง ดูแลระบบเครื่องปรับอากาศและห้อง AHU ด้วยการฉีดยาฆ่าเชื้อโรคและอบโอโซนทุกวัน

ทำความสะอาดภายในห้องน้ำด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 1 ชั่วโมง ให้บริการสบู่เหลวล้างมือและกระดาษเช็ดมืออย่างเพียงพอ พร้อมบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือในจุดต่างๆ อย่างทั่วถึง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ

The post เผย สภาพภายในโรงหนังเมเจอร์ หลังปิดให้บริการชั่วคราว มาเกือบ 2 เดือน appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

"ฟีฟ่า" ประกาศเลื่อนศึกฟุตซอลโลก 2020 ไปปีหน้า
การแข่งขันฟุตซอลโลก 2020 ที่ประเทศลิทัวเนียเป็นเจ้าภาพ ถูกขยับเลื่อนให้ไปแข่งขันกันในปี 2021
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

#อิหร่านพลาดยิงเรือรบตัวเอง
#ทหารเรือพลีชีพ19นาย

เมื่อวันอาทิตย์ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อิหร่านได้ทำการซ้อมรบที่นอกชายฝั่งในอ่าวโอมาน ใกล้ท่าเรือจาสค์ ที่อยู่ทางตอนใต้ของอิหร่าน

แต่เกิดการผิดจังหวะไม่คาดฝัน เนื่องจากเรือรบจามาราน ของอิหร่าน ล็อคเป้าหมายพลาด ไปยิงโดนเรือรบสนับสนุนเล็ก โคนารัค เข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้ลูกเรือเสียชีวิตทันที 19 นาย บาดเจ็บอีก 15 นาย

ทางอิหร่านยังไม่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้มากนัก มีเพียงข้อสันนิษฐานว่า เรือโคนารัค ที่ทำหน้าที่่นำเป้าหมายไปวางไว้กลางทะเลเพื่อซ้อมยิง อาจจะแล่นอยู่ใกล้เป้าหมายซ้อมยิงมากเกินไป หรือกำลังถอยเรือออกแต่ไม่ทัน เลยทำให้โดนลูกกระสุนปืนใหญ่ของเรือรบอิหร่าน จนกลายเป็นเรื่องเศร้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

นี่ก็อาจนับเป็นความผิดพลาดในการยิงขีปนาวุธเป็นครั้งที่ 2 แล้วของปีนี้ (ที่ได้ออกข่าว) ของอิหร่าน หลังจากที่พลาดยิงโดยเครื่องบินพาณิชย์ โบอิ้ง 737-800 ของสายการบินยูเครน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ต้นปี 2020 ที่ผ่านมา เพราะต้องการยิงตอบโต้ฐานทัพสหรัฐในอิรัก หลังจากที่ใช้โดรนลอบสังหาร นายพล กัสเซม สุไลมานี่ หนึ่งในผู้นำทางทหารสูงสุดของอิหร่าน

จากความผิดพลาดทางเทคนิคในครั้งนั้น ก็ทำให้ผู้โดยสาร และลูกเรือของสายการบินยูเครนเสียชีวิตทั้งลำ 176 คน

มาคราวนี้ ก็พลาดอีก อันเนื่องจากผิดคิวกันระหว่าง 2 เรือรบ แต่จังหวะนรกนั้นก็ทำให้เกิดการสูญเสียหลายชีวิตดังที่เป็นข่าว

ถามว่า แล้วทำไมอิหร่านต้องมาซ้อมรบเอาในช่วงเวลานี้??

สำนักข่าวต่างประเทศให้ข้อมูลว่า น่านน้ำที่อิหร่านซ้อมรบอยู่นั้น อยู่ใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ ที่ตอนนี้ยังมีประเด็นข้อพิพาทอยู่ ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว

อันเนื่องจากเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ อยู่ดีๆก็ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่ทำไว้ในสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า แล้วก็เซ็นคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านหนักขึ้นไปอีก เลยทำให้อิหร่านโกรธจัด ขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ และจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันต่างชาติที่ผ่านเข้าออกบริเวณช่องแคบแห่งนี้

ทั้ง สหรัฐ และ อิหร่าน ก็ยั่วยุกันไปมากันตลอด ทั้งๆที่บริเวณช่องแคบฮอร์มุซ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญ มีเรือบรรทุกน้ำมันหลายชาติ ทั้งจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ เกาหลีใต้ อินเดีย และอื่นๆ ใช้เส้นทางนี้ขนส่งน้ำมันในแต่ละปี ที่คิดเป็น 20% ของปริมาณการขนส่งน้ำมันในตลาดโลกทีเดียว

ถึงตอนนี้จะยังไม่ได้ยินสาส์นลั้ลลา ถากถางมาจากท่านเสี่ยทรัมพ์ แต่ทั้งนี้ทางอิหร่านก็น่าจะทบทวนหน้าที่ของตัวเองว่า ตอนนี้อะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างการปกป้อง ผลประโยชน์ และ ชีวิตของพลเมือง ในช่วงวิกฤติไวรัสกินเมืองอยู่ในขณะนี้

แหล่งข้อมูล

https://www.cbsnews.com/news/iran-says-missile-mishap-at-sea-kills-sailor-injures-15-others/

https://www.bbc.com/news/world-middle-east-49070882
https://www.theguardian.com/world/2...ssile-in-fatal-friendly-fire-incident-in-gulf
https://en.wikipedia.org/wiki/Ukraine_International_Airlines_Flight_752

 

ทรัมป์ทวีตเรื่องราคาน้ำมันออกมาหาเสียงอย่างต่อเนื่อง คืนนี้ออกมาบอกว่าพอใจมากกับราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ! และทำไมอเมริกาถึงได้สิ่งที่ดีที่สุด !

⏰ เมื่อเวลา 20.27 น. ทางทรัมป์ได้ออกมาทวีตว่า

"Crude Oil prices going up as Saudi Arabia cuts production levels. Our great Energy Companies, with millions of JOBS, are starting to look very good again. At the same time, gasoline prices at record lows (like a big Tax Cut). The BEST of all Worlds. “Transition To Greatness” (แนบใน comment)

หรือแปลได้ว่า "ราคาน้ำมันดิบกำลังปรับตัวสูงขึ้นจากการที่ซาอุดิอาระเบียปรับลดกำลังการผลิต ทำให้บริษัทพลังงานที่ยิ่งใหญ่ของประเทศเราที่มีพนักงานกว่าล้านคนเริ่มกลับมาดูดีขึ้นอีกครั้ง (คงจะไม่มีการตกงานจากภาคธุรกิจนี้อย่างที่กังวลตอนแรก) และในเวลาเดียวกันราคาน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ (เปรียมเสมือนกับการลดภาษีให้ประชาชนครั้งใหญ่) ประเทศเราได้สิ่งที่ดีที่สุดในโลกทั้งสองด้านเลย และเรากำลังเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ความยิ่งใหญ่ขึ้น !”

เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง 6 เดือนก็จะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของทรัมป์แล้ว ทุกๆการกระทำของเขาคงต้องผลกระทบไปถึงการหาเสียงรวมไปด้วยไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพยายามเปิดประเทศกลับมาให้เศรษฐกิจเดินให้เร็วที่สุดถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดต่างๆจะยังคงพยายามห้ามปรามและไม่เห็นด้วย

ในเรื่องของราคาน้ำมันนั้นก็จะมีผลต่อคะแนนเสียงของทรัมป์อย่างมาก เพราะชาวสหรัฐนั้นใช้น้ำมันต่อหัวมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ทำให้ทรัมป์ถือโอกาสที่ราคาน้ำมันถูกอยู่นี้บอกว่าเสมือนเป็นการลดภาษีคืนรายได้ไปให้ประชาชนเลยทีเดียว แต่ในทางกลับกันถ้าราคาน้ำมันถูกเกินไปธุรกิจขุดเจาะน้ำมันสหรัฐก็อาจจะไปไม่รอด จุดที่ราคาอยู่กึ่งกลายไม่แพงหรือไม่ถูกเกิดไปจึงทำให้ทรัมป์พอใจมากๆ

ทางด้านราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับขึ้นหลังจากทวีตของทรัมป์

Brent +3% ขึ้นไปแตะ 30.6 เหรียญ
WTI +6% ขึ้นไปแตะ 25.7 เหรียญ

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

#OilTradingKP

 

#ไฟไหม้โรงพยาบาลในรัสเซีย
#คร่าชีวิตผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า5ราย

ข่าวด่วนวันนี้ 12 พฤษภาคม เกิดเหตุเพลิงไหม้ ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง กลางกรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในรัสเซีย เป็นเหตุให้มีผู้ป่วยที่ยังอยู่ในห้อง ICU เสียชีวิตในที่เกิดเหตุถึง 5 คน

ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คนนี้ เป็นผู้ป่วยวิกฤติ ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ที่กำลังยื้อชีวิตกันด้วยเครื่องช่วยหายใจ

เหตุเกิดที่โรงพยาบาลเซนต์จอร์จ ในกรุงเซนต์ ปีเตอร์ สเบิร์ก ในช่วงเช้าของวันนี้ตามเวลารัสเซีย เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นที่ชั้น 6 ของโรงพยาบาล ที่ใช้ในระบบเครื่องช่วยหายใจของคนไข้ในห้องฉุกเฉินพอดี และเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนไม่อาจจะดับได้ทัน ทางโรงพยาบาลจึงต้องรีบย้ายคนไข้ทั้งหมดกว่า 150 คนออกนอกพื้นที่ทันที

แต่ทว่า ไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยจากเชื้อไวรัส Covid-19 ที่กำลังใช้เครื่องช่วยหายใจในห้อง ICU ที่ชั้น 6 ที่เป็นต้นเพลิงได้ทัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่มีรายงานเบื้องต้นว่า อย่างน้อย 5 ราย

เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก สำหรับรัสเซีย ที่กำลังประสบปัญหาจากคลื่นพายุไวรัสโคโรน่า ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างมากมายกว่า 1 หมื่นคนในแต่ละวัน จนมีคนไข้สะสมในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะ ในกรุงมอสโคว์ และ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้ความเห็นว่า น่าจะเป็นเพราะมีการต่อเครื่องช่วยหายใจเป็นจำนวนมากเกินลิมิต ในห้อง ICU ที่ต้องทำงานอย่างหนักตลอดระยะเวลาหลายวัน จนอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร

และนี่ก็เป็นเหตุเพลิงไหม้ในโรงพยาบาลเป็นครั้งที่ 2 แล้วของรัสเซียในช่วงเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ เพราะแหล่งข่าวรัสเซียรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็เกิดเพลิงไหม้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในมอสโคว์ เช่นเดียวกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

ในตอนนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในรัสเซียมากถึง 232,243 คน แซงหน้าสเปน กลายเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว รองจากสหรัฐ

ส่วนใหญ่พบผู้ติดเชื้อในกรุงมอสโคว์ และปริมณฑล รองลงมาคือ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 2000 คน และมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อเกิน 10,000 คน เป็นวันที่ 10 ติดต่อกันนับตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นมา

แหล่งข้อมูล

https://www.themoscowtimes.com/2020...dead-in-fire-at-st-petersburg-hospital-a70243

https://www.themoscowtimes.com/2020...-230k-as-putin-eases-national-lockdown-a69710

https://www.bbc.com/news/world-europe-52629781

 

ไม่นานมานี้มีรายงานข่าวมาจากทางฝั่งเยอรมนีว่า กระทรวงกลาโหมและ BND หน่วยงานสายลับต่างประเทศ ได้ตั้งข้อสงสัยว่า คำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ ที่ว่าไวรัสโควิด-19 หลุดมาจากห้องแล็บของจีน
.
โดยสื่อมวลชนของเยอรมนีอย่าง Der Spiegel รายงานว่าบันทึกภายในที่เตรียมไว้สำหรับรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนีระบุว่าข้ออ้างของสหรัฐฯ เป็นความพยายามที่วางแผนการเอาไว้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความล้มเหลวของรัฐบาลทรัมป์เองนั่นแหละ
.
โดยในรายงานระบุว่า "ทรัมป์แค่เบี่ยงเบนความสนใจจากความผิดพลาดของตัวเอง และเบี่ยงเบนความโกรธเคืองของชาวอเมริกันไปที่จีน" จากนั้นไม่นานสำนักข่าว AFP ได้ติดต่อไปยังกระทรวงกลาโหมเยอรมนี แต่โฆษกปฏิเสธที่จะยืนยันว่ามีบันทึกนี้อยู่จริง
.
ในขณะเดียวกันสำนักข่าว NDR ก็ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับรายงานร่วมกันจากพันธมิตรข่าวกรอง "Five Eyes" ซึ่งประกอบด้วยสหราชอาณาจักร สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์ ที่กล่าวหาว่าจีนปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาด แต่สำนักข่าว NDR ได้รับข้อมูลมาว่า หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง BND บอกกับคณะกรรมาธิการของรัฐสภาเยอรมนีว่า หน่วยข่าวกรองของประเทศสมาชิกกลุ่ม Five Eyes อ้างว่าไม่รู้เรื่องรายงานชิ้นนี้
.
อย่างไรก็ตาม Der Spiegel รายงานว่า หน่วยข่าวกรอง BND ได้รับข้อมูลที่น่าสนใจเช่นกันว่า จีนอาจกดดันองค์การอนามัยโลกเพื่อให้ชะลอการเตือนการระบาดในระดับโลก โดยอ้างว่ามีการโทรศัพท์หารือระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิง กับผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเมื่อวันที่ 21 มกราคม ให้ยื้อข้อมูลเรื่องการติดต่อของเชื้อจากคนสู่คนเอาไว้ และรวมถึงการประกาศให้เป็นการระบาดใหญ่ หรือ pandemic

-------------------------------
แหล่งที่มา
https://www.globaltimes.cn/content/1187798.shtml

https://www.usnews.com/news/world/a...s-us-china-lab-coronavirus-accusations-report

https://www.posttoday.com/world/623178
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

ต้องถือว่าหนักจริงๆ สำหรับวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ หลายๆประเทศก็ต้องเกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และยังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถควบคุมการระบาดได้ในเร็วๆ วันนี้อีกด้วย แต่ปรากฏว่า หลายๆประเทศกลับรีบคลายล็อกดาวน์อนุญาตให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เหมือนเดิม ล่าสุด องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้แสดงความกังวลเรื่องการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค หากหลายๆ ประเทศคลายล็อกดาวน์เร็วเกินไป อาจจะเสี่ยงกลับมาระบาดหนักระลอก 2 ได้
.
โดย นายทีโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ควรจะเป็นไปอย่างช้าๆ และค่อยเป็นค่อยไปเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดเป็นระลอกสอง ความกังวลดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการเพื่อเปิดเศรษฐกิจ
.
แต่กลับพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในยุโรปไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสหรือสเปน ขณะที่เยอรมนีพบว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อมากขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งที่เมืองอู่ฮั่นของจีนที่กลับมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน ขณะที่เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 85 คนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของไนท์คลับแห่งหนึ่งในกรุงโซล
.
ด้านนายไมค์ ไรอัน หัวหน้าโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ก็มีคำเตือนเช่นกันว่าเวลานี้ยังมีความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากหลายประเทศพากันผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ซึ่งนายไรอันเตือนว่าการผ่อนคลายมาตรการจะต้องทำอย่างระมัดระวังให้มากที่สุด
.
ส่วนแนวคิดในการควบคุมโรคด้วยวิธีปล่อยให้ประชากรในประเทศมีภูมิคุ้มกันหมู่หรือ herd immunity โดยไม่มีมาตรการควบคุมหรือป้องกันโรคนั้น องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าไม่ควรใช้วิธีนี้ เนื่องจากผลการศึกษาพบว่ายังมีประชากรจำนวนน้อยราวร้อยละ 10 เท่านั้นที่มีภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ซึ่งก็หมายความว่าประชากรส่วนใหญ่ยังคงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสอยู่ การเลือกใช้ภูมิคุ้มกันหมู่จึงเป็นวิธีที่อันตรายมาก

-------------------------------
แหล่งที่มา

https://www.mcot.net/viewtna/5eba3ecbe3f8e40af944263d
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล หรือ SICRES (Siriraj Institute of Clinical Research) เดินหน้าวิจัยยาคลอโรควิน (chlorquine) ซึ่งเป็นยารักษามาลาเรีย และเป็นหนึ่งในตัวยาที่ถูกนำมาปรับใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 ภายหลังจากที่พบหลักฐานว่า ยาคลอโรควินสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้ และมีการศึกษาเบื้องต้นยืนยันประสิทธิภาพในมนุษย์
.
ล่าสุด ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราชจึงได้จัดตั้งโครงการวางแผนวิจัย เพื่อนำยาคลอโรควินมาทดลองในมนุษย์ และขณะนี้ได้เปิดรับอาสาสมัคร ซึ่งเป็นผู้อาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วยโควิดแล้ว จำนวน 400 คน คาดว่า จะใช้เวลา 1 เดือน
.
ด้าน ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก หรือ SICRES กล่าวว่า จากการวิจัยเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่พบว่าการติดเชื้อประมาณ 70-80% เกิดจากการติดต่อกันในครอบครัว เมื่อมีสมาชิกในครอบครัวป่วยหนึ่งคน โอกาสเสี่ยงของสมาชิกคนอื่นๆ จะมีสูงมากที่จะติดโควิด ทั้งแบบที่แสดงอาการหรือไม่ก็ได้
.
ดังนั้นเพื่อป้องกันสมาชิกในบ้านไม่ให้ติดเชื้อเพิ่มเติม และไม่ไปแพร่เชื้อต่อ จึงเกิดการค้นคว้าเอายาต้านเชื้อโควิด-19 มาป้องกันผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ป่วย เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
.
ซึ่งมีหลักฐานว่า ยาคลอโรควิน (chloroquine) ซึ่งเป็นยารักษามาลาเรียมากว่า 70 ปีที่พบว่ามีความปลอดภัยสูง กลายเป็นหนึ่งในตัวยาแห่งความหวังที่นำมาปรับใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 หลังจากมีการศึกษาในหลอดทดลองแล้วพบว่า สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสได้ และมีการศึกษาเบื้องต้นยืนยันประสิทธิภาพในคน แต่ประสิทธิผลที่แน่ชัดในคนกำลังมีการศึกษาอยู่
.
โดยทันทีที่ทราบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1 ราย เราจะรีบไปเชิญสมาชิกในบ้านที่ยังไม่ป่วยให้มาเข้าร่วมการศึกษาก่อนที่จะป่วยตามไปก่อน โดยจะให้สมาชิกร่วมบ้านกับผู้ป่วยกินยาคลอโรควิน 2 ครั้ง ครั้งละ 1,000 มิลลิกรัม
.
โดยครั้งแรกคือทันทีที่รู้ว่ามีคนในบ้านป่วยเป็นโควิด-19 หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ให้กินครั้งที่สอง หากการศึกษานี้ได้ผลดีตามที่คาด จะเป็นการป้องกันการแพร่ของเชื้อที่ได้ผลมาก เพราะการแพร่เชื้อในบ้าน จุดที่ทำให้เกิดการกระจายเชื้อสู่ชุมชนเป็นวงที่กว้างขึ้น
.
เด็กๆ ที่ติดเชื้อจากที่บ้าน ก็อาจเอาไปแพร่ต่อในโรงเรียน การป้องกันการแพร่เชื้อในบ้านที่ได้ผลดี จึงเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดที่ได้ผลดี ผู้ป่วยเองก็ไม่ต้องกังวลว่า คนที่รักที่บ้านจะป่วยตามเพราะสามารถกินยาป้องกันได้

"หากการศึกษานี้ถ้าได้ผลดี ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์แต่มวลมนุษยชาติยังได้ประโยชน์จากการศึกษานี้ด้วย ประชาชนเข้าถึงยาได้ในราคาถูก และปลอดภัย สำหรับระยะเวลาในการศึกษาขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีจำนวนอาสาสมัครที่จะเข้าร่วมโครงการศึกษานี้ได้เร็วเพียงใด หากมีอาสาสมัครครบ 400 คนแล้ว คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน" ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก กล่าว
.
ทั้งนี้ ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทยมีสถิติดีขึ้น มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ลดลงมาก ทำให้ระยะเวลาการศึกษากับกลุ่มอาสาสมัครในเมืองไทยอาจยาวนานกว่าที่คาดการณ์ แต่ถ้ามีการระบาดระลอกที่สอง เราก็อยากจะได้คำตอบรอไว้ใช้งานเลย

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.posttoday.com/social/general/623148

https://www.ryt9.com/s/iq01/3122373
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

Garuda Indonesia สายการบินแห่งชาติของอินโดนิเซีย ถือเป็นอีกสายการบินระดับโลก ที่ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก ล่าสุด Bloomberg รายงานว่ารัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมทุ่มงบ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.2 หมื่นล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือเป็นการด่วน เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้หลังจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้สายการบินต้องงดไฟลต์บินทุกเที่ยว
.
โดย Kartika Wirjoatmodjo รัฐมนตรีกระทรวงรัฐวิสาหกิจเผยว่า แผนช่วยเหลือดังกล่าวมีข้อเสนอเพื่อปรับโครงสร้างพันธบัตรของ PT Garuda Indonesia ที่มีมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนหน้าและจัดหาสินเชื่อใหม่ให้มากถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อตอบสนองความต้องการเงินทุนหมุนเวียนเป็นเวลา 3 ถึง 6 เดือน
.
สาเหตุที่รัฐบาลต้องให้ความช่วยเหลือสายการบินแห่งชาติรายนี้ ให้ผ่านพ้นวิกฤตการเงินไปให้ได้ ก็เพราะมันจะช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุนต่ออนาคตของ Garuda Indonesia ว่าจะสามารถเอาตัวรอดจากการระบาดใหญ่ได้หรือไม่ เพราะการระบาดครั้งนี้ทำให้สายการบินทั่วโลกต้องร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐ และต้องระดมทุนฉุกเฉิน
.
โดยก่อนหน้านี้สายการบิน Garuda Indonesia ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียเป็นเจ้าของเกือบ 61% ได้ตัดเงินเดือนพนักงาน และเจรจาขอต่อรองสัญญาเช่าเครื่องบินอีกครั้งเพื่อรับมือกับการตกต่ำของอุตสาหกรรมการบินที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 ด้าน Kartika Wirjoatmodjo ระบุว่าเขายังเชื่อมั่นว่า Garuda Indonesia เป็นบริษัทที่ดีและมีอนาคตที่สดใส ธุรกิจของสายการบินนี้น่าจะคึกคักต่อไปหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สิ้นสุดลง

-------------------------------
แหล่งที่มา

https://www.bloombergquint.com/business/indonesia-drafts-1-billion-rescue-package-for-flag-carrier

https://www.manilastandard.net/inde...s-1b-rescue-for-virus-hit-carrier-garuda.html

https://www.posttoday.com/world/623136
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision

 

#ไวรัสบุกเครมลิน
#โฆษกประจำตัวปูตินติดCovid

นอกจากสหรัฐที่กำลังเจอปัญหา Covid-19 ในระดับอันตรายขีดสุด ล่าสุดก็มีรัสเซียที่เพิ่งแซงโค้งขึ้นมาอยู่ที่ 2 ของประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก

ก็เป็นปัญหาหนักใจของป๋าปูตินอยู่ไม่น้อย แล้วก็ไม่ใช่ว่าแกชิลล์ ไม่สนใจ เหมือนเสี่ยใหญ่บางประเทศ ทางรัสเซียก็พยายามแล้ว ทั้งเคอร์ฟิว ทั้งล็อคดาวน์ ทั้งปิดประเทศ แต่เอาไม่อยู่จริงๆ

และมีข่าวล่าสุดว่านาย ดมิตรี้ เพสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบเครมลิน ที่ทำงานใกล้ชิดกับป๋าปูติน ติด Covid-19 ตอนนี้ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล

และมีรายงานว่า ดมิตรี้ เพสคอฟ ได้นัดประชุมกับป๋าปูติน เมื่อเดือนที่แล้ว และยังไม่รู้ว่าโฆษกประจำตัวคนนี้ คิดเชื้อ Covid มาตั้งแต่เมื่อไหร่

ดูเหมือน Covid จะมายึดทำเนียบเครมลิน อยู่แล้วนะคะป๋า

เพราะเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ก็มีข่าวว่า นาย มิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่เพิ่งมารับตำแหน่ง ติดเชื้อ Covid-19 เข้าให้แล้ว

ต่อมาไม่นาน รัฐมนตรีกระทรวงอสังหาริมทรัพย์ และการโยธา วลาดิเมียร์ ยาคุเชฟ พร้อมกับรัฐมนตรีช่วยฯ ดมิตรี้ วอลคอฟ ก็ติดเชื้อตามไปอีกคน แล้วก็มาต่อด้วย รัฐมนตรีหญิง กระทรวงวัฒนธรรม ออลก้า ริวบิโมวา ก็เพิ่งแถลงว่าติดเชื้อแล้วเช่นเดียวกัน จนกระทั่งมาถึงโฆษกประจำตัวป๋าปูติน ในวันนี้

คนแรกผ่านไป..คนสอง คนสาม..ค่อยๆผ่านไป
(จะร้องเพลงพี่ปูทำไม)

ส่วนป๋าปูตินเอง ก็ทำหวาดเสียวตอนที่ไปเยี่ยมโรงพยาบาล ที่เป็นศูนย์กลางการรักษา Covid-19 ในรัสเซียเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็ดันไปคุยกับทีมคุณหมอ โดยชะล่าใจไม่สวมหน้ากาก ไม่สวมเครื่องป้องกัน

และต่อมาไม่นานก็มีรายงานว่าคุณหมอที่นำทัวร์โรงพยาบาล และคุยอย่างใกล้ชิดกับป๋าปูติน ติด Covid

นั่นก็นับว่าหวาดเสียวกันสุดๆแล้ว ยังโชคดีที่ป๋าแกตรวจแล้ว ไม่เจอเชื้อ

ถึงแม้ระยะหลังๆ ป๋าปูตินแกจะเก็บตัวอยู่แต่ในที่พัก ประชุมสภา สั่งงานผ่าน Video Conference ตลอด แต่ก็มีบ้างที่ต้องเรียกทีมประชุมย่อยกันภายใน รวมถึงตัวโฆษก ดมิตรี้ เพสคอฟ ที่ป๋าเรียกไปพบแบบตัวต่อตัว เมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนจะมีรายงานว่าติด Covid ในวันนี้

ก็น่าเป็นห่วงจริงๆนะค้า ไม่รู้ว่าระหว่างทำเนียบขาว กับ เครมลิน เมืองไหนจะถูก Covid ตีแตกก่อนกัน หลังจากที่เคยแผลงฤทธิ์ไปแล้ว แถวบ้านเลขที่ 10 ในลอนดอนนะค้า

แหล่งข้อมูล

https://edition.cnn.com/world/live-news/coronavirus-pandemic-05-12-20-intl/index.html

https://sputniknews.com/russia/2020...son-dmitry-peskov-hospitalised-with-covid-19/

https://www.arabnews.com/node/1650646/world

 

12 พ.ค. 2020 มีภูเขาไฟใต้ทะเลตื่นขึ้นมานอกชายฝั่งฮาวาย ฝูงแผ่นดินไหวแบบ swarm ที่ ภูเขาไฟ Loihi แผ่นดินไหว 110 ครั้งใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดมีขนาด 3.9 จนถึงตอนนี้

2.3
48km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 13:09:51 (UTC)
10.1 กม
1.7
6km S ของภูเขาไฟ, ฮาวาย
2020-05-12 13:06:45 (UTC)
1.4 กม
1.9
1km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 12:22:08 (UTC)
32.6 กม
2.0
10km E ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 11:41:58 (UTC)
31.5 กม
1.9
48km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 11:29:21 (UTC)
9.7 กม
3.2
36km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 11:12:23 (UTC)
10.2 กม
1.9
18km SSE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 09:31:07 (UTC)
42.8 กม
1.9
27km NNW ของ Pahala, Hawaii
2020-05-12 09:19:54 (UTC)
-0.9 กม
2.1
48km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 09:05:34 (UTC)
10.3 กม
2.6
25km E ของ Honaunau-Napoopoo, Hawaii
2020-05-12 08:51:50 (UTC)
-0.7 กม
2.9
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-12 07:27:54 (UTC)
10.4 กม
2.2
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 07:16:24 (UTC)
11.3 กม
2.0
28km E ของ Honaunau-Napoopoo, Hawaii
2020-05-12 07:01:11 (UTC)
-2.4 กม
3.2
42km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 06:23:54 (UTC)
7.3 กม
2.6
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 06:12:19 (UTC)
11.1 กม
2.2
7km E ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 06:11:46 (UTC)
30.1 กม
2.8
49km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-12 05:49:52 (UTC)
8.8 กม
2.2
48km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 05:34:47 (UTC)
10.4 กม
1.8
8km E ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 05:21:55 (UTC)
32.2 กม
2.3
7km SSE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 05:21:08 (UTC)
31.4 กม
2.4
44km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 05:15:16 (UTC)
6.4 กม
2.9
2km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 05:07:04 (UTC)
33.3 กม
3.3
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 04:51:43 (UTC)
10.7 กม
2.7
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 04:49:50 (UTC)
10.8 กม
2.7
51km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 04:45:00 (UTC)
10.2 กม
2.2
2km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 04:26:25 (UTC)
34.1 กม
3.0
40km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 04:12:36 (UTC)
11.3 กม
2.3
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-12 04:08:28 (UTC)
10.9 กม
2.2
2km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 04:01:23 (UTC)
35.0 กม
3.8
48km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 03:58:09 (UTC)
6.9 กม
3.4
36km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 03:40:03 (UTC)
8.7 กม
2.8
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-12 03:31:55 (UTC)
10.7 กม
2.7
26km ESE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 03:24:31 (UTC)
7.2 กม
2.3
44km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 03:19:50 (UTC)
10.3 กม
2.1
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 03:03:23 (UTC)
11.6 กม
2.6
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:54:29 (UTC)
5.4 กม
2.4
2km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:45:48 (UTC)
35.1 กม
2.2
5km E ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:43:49 (UTC)
37.8 กม
3.6
30km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:37:08 (UTC)
11.6 กม
3.5
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:34:04 (UTC)
6.8 กม
1.6
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:33:53 (UTC)
9.2 กม
1.6
49km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-12 02:28:41 (UTC)
10.9 กม
2.2
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:26:21 (UTC)
10.7 กม
2.5
42km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:23:10 (UTC)
7.5 กม
3.7
41km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:15:05 (UTC)
10.2 กม
2.7
42km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:12:51 (UTC)
11.4 กม
3.0
42km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 02:03:07 (UTC)
12.3 กม
3.3
44km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 01:52:11 (UTC)
10.8 กม
3.4
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-12 01:46:26 (UTC)
6.0 กม
3.3
41km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 01:44:08 (UTC)
10.4 กม
2.7
30km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 01:44:05 (UTC)
14.6 กม
2.6
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-12 01:34:38 (UTC)
11.0 กม
3.1
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 01:25:42 (UTC)
11.7 กม
2.7
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-12 01:20:07 (UTC)
9.0 กม
2.0
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 01:15:12 (UTC)
11.0 กม
2.6
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 01:10:51 (UTC)
11.1 กม
2.3
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 01:04:18 (UTC)
11.3 กม
2.4
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 01:00:58 (UTC)
11.2 กม
2.3
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 00:58:47 (UTC)
8.0 กม
1.7
44km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 00:55:49 (UTC)
10.6 กม
2.1
13km จากภูเขาไฟ, ฮาวาย
2020-05-12 00:49:40 (UTC)
2.5 กม
2.0
44km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 00:33:04 (UTC)
6.6 กม
2.8
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 00:30:28 (UTC)
11.3 กม
2.6
52km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 00:28:59 (UTC)
11.7 กม
2.0
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 00:18:55 (UTC)
11.0 กม
2.6
52km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 00:16:24 (UTC)
10.8 กม
3.3
44km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 00:08:19 (UTC)
10.3 กม
2.0
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-12 00:00:17 (UTC)
6.8 กม
2.8
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 23:58:08 (UTC)
9.0 กม
2.5
35km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 23:57:54 (UTC)
11.0 กม
2.5
40km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 23:49:13 (UTC)
10.5 กม
1.6
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 23:48:41 (UTC)
10.8 กม
2.4
41km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 23:44:38 (UTC)
6.5 กม
2.9
135km SSE ของ Pahala, Hawaii
2020-05-11 23:40:59 (UTC)
10.0 กม
2.3
44km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 23:38:14 (UTC)
7.4 กม
2.3
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 23:33:43 (UTC)
10.5 กม
3.0
39km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-11 23:29:36 (UTC)
10.5 กม
2.2
43km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 23:27:31 (UTC)
11.4 กม
1.7
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-11 23:23:59 (UTC)
9.2 กม
1.6
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 23:21:20 (UTC)
10.8 กม
3.8
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 22:52:13 (UTC)
10.7 กม
3.7
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 22:29:13 (UTC)
11.0 กม
2.2
52km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 22:28:41 (UTC)
7.7 กม
1.7
48km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 22:02:34 (UTC)
9.1 กม
3.9
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-11 21:59:03 (UTC)
10.9 กม
2.8
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 21:40:14 (UTC)
11.0 กม
2.3
48km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 21:17:10 (UTC)
10.4 กม
2.1
27km E ของ Honaunau-Napoopoo, Hawaii
2020-05-11 21:09:42 (UTC)
-1.6 กม
2.3
51km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 20:52:42 (UTC)
9.3 กม
2.4
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-11 20:33:13 (UTC)
9.6 กม
2.2
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 20:25:59 (UTC)
10.3 กม
2.3
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 20:14:54 (UTC)
10.4 กม
2.0
3km ESE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 19:47:45 (UTC)
34.8 กม
1.7
SSE 46 กม. จาก Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 19:41:51 (UTC)
กม. 9.9
2.2
SSE 46 กม. จาก Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 19:37:41 (UTC)
9.8 กม
2.0
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 19:28:32 (UTC)
10.3 กม
2.3
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 19:21:10 (UTC)
10.1 กม
1.7
44km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 18:32:04 (UTC)
10.3 กม
1.9
3km ESE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 18:11:46 (UTC)
35.2 กม
1.6
46km SE ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-11 18:07:26 (UTC)
9.2 กม
1.7
45km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 17:59:05 (UTC)
10.0 กม
2.2
7km E ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 17:49:11 (UTC)
31.0 กม
1.7
45km SSE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 17:37:47 (UTC)
9.3 กม
1.8
8km E ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 17:29:59 (UTC)
30.9 กม
2.1
10km E ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 16:39:00 (UTC)
32.1 กม
2.4
47km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 16:24:48 (UTC)
10.5 กม
3.1
40km SE ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 16:09:35 (UTC)
12.1 กม
2.3
12km S ของ Volcano, Hawaii
2020-05-11 15:40:06 (UTC)
6.4 กม
2.0
9km E ของ Pahala ฮาวาย
2020-05-11 14:48:39 (UTC)
31.4 กม
2.3
5km E ของ Pahala, ฮาวาย
2020-05-11 14:24:50 (UTC)

 

พายุลูกเห็บ มีผู้เสียชีวิต 29 ราย สร้างความเสียหายมากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของ Malihabad mangoes, รัฐอุตตรประเทศ, อินเดีย #storm #hailstorm #CropLoss #India

Hailstorms claim 29 lives, damage up to 25 percent of Malihabad mangoes, Uttar Pradesh, India #storm #hailstorm #CropLoss #India

 

สายฟ้าฟาดสังหารสัตว์มากกว่า 100 ตัวในแคชเมียร์
โดย Strange Sounds - 11 พฤษภาคม 2020
แกะและแพะมากกว่า 100 ตัวถูกฟ้าผ่าเนื่องจากพายุฟ้าคะนองครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2020

Lightning Bolt Kills More Than 100 Animals in Kashmir.
By Strange Sounds - May 11, 2020
More than 100 sheep and goats were killed by lightning during a major thunderstorm on May 5, 2020.

 

ชิลี - ภูเขาไฟ Nevados De Chillán ประเทศชิลี ยังคงบันทึกกิจกรรมปะทึ ในระดับปล่องภูเขาไฟ วันที่ 11 พฤษภาคม

ในช่วงกลางคืนมีการตรวจพบว่ามีการปล่อยสารเรืองแสงบนเนินเขาของภูเขาไฟและเช้านี้ รักษาการเตือนสีเหลือง

 

ค้นพบ #หลุมดำ ที่ใกล้โลกมากที่สุด!

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 หอดูดาวซีกฟ้าใต้แห่งยุโรป (ESO) รายงานว่า ค้นพบหลุมดำในระบบดาวคู่ HR 6819 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 1,000 ปีแสง นับเป็นหลุมดำที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ

งานวิจัยครั้งนี้นำทีมโดยโทมัส รีวีเนียส (Thomas Rivinius) นักวิจัยจาก ESO ใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.2 เมตร ที่หอดูดาวลาซิยา (La Silla Observatory) สาธารณรัฐชิลี ศึกษาระบบดาวคู่แล้วค้นพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ระบบดาวคู่ไม่ได้มีสมาชิกแค่ 2 แต่มีถึง 3 ได้แก่ ดาวฤกษ์ 2 ดวง และหลุมดำ 1 แห่ง

เริ่มแรก รีวีเนียสต้องการศึกษาระบบดาวคู่ HR 6819 ที่ปรากฏอยู่ทางซีกฟ้าใต้ ในกลุ่มดาวกล้องโทรทรรศน์ (Telescopium) ซึ่งธรรมชาติของระบบดาวคู่ ดาวสมาชิกไม่ได้โคจรรอบดาวอีกหนึ่งดวงเสมอไป แต่จะโคจรรอบจุดที่เรียกว่า “จุดศูนย์กลางมวล” เป็นผลจากแรงโน้มถ่วงของดาวแต่ละดวง และเป็นหลักการพื้นฐานที่นักดาราศาสตร์ใช้คำนวณหามวลของวัตถุ

เมื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ พบว่าดาวฤกษ์สมาชิกดวงที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางมวลของระบบมีวงโคจรที่ผิดปกติ ราวกับว่ากำลังโคจรรอบอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นด้วยคาบการโคจร 40 วัน จึงนำไปสู่การค้นพบสมาชิกลำดับที่ 3 ของระบบดาวคู่ HR 6819 และอาจจะต้องเรียกใหม่ว่าเป็น “Triple System” กล่าวคือ เป็นระบบที่มีสมาชิกอยู่ 3 วัตถุนั่นเอง

เบื้องต้น ทีมนักวิจัยสามารถคำนวณมวลของสมาชิกใหม่ดวงนี้ได้ พบว่ามีค่าอย่างน้อย 4.2 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ วัตถุที่มีมวลระดับนี้แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยนอกจาก “หลุมดำ” จึงถือได้ว่าเป็นหลุมดำที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ

ความสำคัญของการค้นพบในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะว่ามันเป็นหลุมดำที่ใกล้โลกที่สุดเท่านั้น แต่รวมถึงวิธีการที่นักดาราศาสตร์ค้นพบด้วย กล่าวคือ หลุมดำประเภทนี้เป็นซากของดาวฤกษ์มวลมากที่สิ้นอายุขัย ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะต้องมีหลุมดำประเภทนี้ในกาแล็กซีทางช้างเผือกอย่างน้อย 100 ล้านแห่ง แต่ปัจจุบันมีการค้นพบยังไม่ถึง 100 แห่งเลยด้วยซ้ำ และเกือบทั้งหมดค้นพบจากแหล่งกำเนิดรังสีเอกซ์ที่รุนแรงในอวกาศ ในขณะที่หลุมดำแห่งนี้ไม่พบการปลดปล่อยรังสีพลังงานสูงเลย

นอกจากนี้ ทีมนักวิจัยยังค้นพบอีกหนึ่งระบบดาวคู่ ชื่อว่า LB-1 ในกลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) ที่อาจมีหลุมดำซ่อนอยู่เช่นกัน แต่ยังต้องรอเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันอีกครั้ง

การค้นพบในครั้งนี้บ่งชี้ว่าอาจมีหลุมดำประเภทนี้ซ่อนอยู่ในระบบดาวฤกษ์อีกมากมาย เพียงแต่ยังไม่มีใครเคยค้นพบ เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะต้องเริ่มค้นหามันจากที่ไหน การศึกษาครั้งนี้จึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การค้นพบหลุมดำในกาแล็กซีทางช้างเผือกเพิ่มขึ้นอีกมากมาย และอาจช่วยให้นักดาราศาสตร์เข้าใจวิวัฒนาการของดาวฤกษ์มวลมาก รวมถึงกระบวนการชนกันของวัตถุในระบบดาวฤกษ์ลักษณะนี้ต่อไป

อ้างอิง :
[1] https://www.eso.org/public/archives/releases/sciencepapers/eso2007/eso2007a.pdf
[2] https://www.eso.org/public/news/eso2007/

เรียบเรียง : ธนกร อังค์วัฒนะ - เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.