ติดตามสถานะการณ์

โศกนาฏกรรมครั้งที่ 2 ของเวเนซุเอลา กำลังเริ่มต้นขึ้น /โดย ลงทุนแมน
“เรื่องเลวร้ายไม่เคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว”



คำพูดนี้น่าจะเหมาะกับเวเนซุเอลาที่อาจจะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งที่ 2
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รู้ไหมว่า ราคา Big Mac ที่สหรัฐฯ ตอนนี้ราคาชิ้นละ 3.79 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 121 บาท
แต่ถ้าเราไปซื้อ Big Mac ที่เวเนซุเอลาตอนนี้เราต้องใช้เงินถึง 270,800 โบลิวาร์
เพราะตอนนี้ค่าเงินโบลิวาร์กำลังอ่อนลงอย่างหนัก

หนึ่งในวิกฤตที่เกิดขึ้นยาวนานอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกคือ วิกฤตเวเนซุเอลา ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2010 นับจนถึงวันนี้ก็ 10 ปีแล้ว ซึ่งเป็นสมัยที่อดีตประธานาธิบดี Hugo Chávez บริหารประเทศ แต่ปัญหาก็ยังคงลุกลามมาจนถึงสมัยที่ประธานาธิบดี Nicolás Maduro บริหารประเทศ

เรื่องนี้ดูเหมือนจะเกิดมานาน และน่าจะหาจุดที่ต่ำสุดได้แล้ว
แต่เราอาจคิดผิด

เพราะการตกต่ำของราคาน้ำมันดิบ (เบรนท์) ที่กำลังทำจุดต่ำสุดในรอบหลายปี อาจทำให้เวเนซุเอลาต้องเจอกับโศกนาฏกรรมซ้ำสองอีก

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า
วันนี้เวเนซุเอลาเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันอย่างมาก มูลค่าการส่งออกกว่า 99% ของเวเนซุเอลานั้นเกิดจากรายได้ที่มาจากการส่งออกน้ำมัน

แม้ว่าในปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบ (เบรนท์) เฉลี่ยอยู่ที่ 64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่เศรษฐกิจเวเนซุเอลายังย่ำแย่อย่างหนัก

ปี 2018 มูลค่าของ GDP ของเวเนซุเอลา 3.1 ล้านล้านบาท
ปี 2019 มูลค่าของ GDP ของเวเนซุเอลา 2.2 ล้านล้านบาท

ต้นตอของปัญหา นอกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแล้ว ยังเกิดจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศอีกด้วย

ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลานั้นลดลง เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมพลังงาน รวมถึงงบลงทุนทางด้านการพลังงาน

เมื่อรวมกับการที่สหรัฐฯ มีมาตรการคว่ำบาตรกับเวเนซุเอลาทำให้เกิดอุปสรรคต่อเวเนซุเอลา ในการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ

ในปี 2014 เวเนซุเอลาส่งออกน้ำมันดิบไปขาย 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในปี 2019 เวเนซุเอลาส่งออกน้ำมันดิบไปขายได้เพียง 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 75 ปี

รายได้จากการส่งออกน้ำมันที่ลดลง นอกจากจะฉุดเศรษฐกิจของประเทศให้ตกต่ำ ยังทำให้ ณ สิ้นปี 2019 ทุนสำรองระหว่างประเทศของเวเนซุเอลานั้นเหลือเพียง 26,600 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 30 ปี

ทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของระบบเศรษฐกิจของเวเนซุเอลาที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก

ในปี 2019 เวเนซุเอลามีหนี้จากการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศกว่า 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่าทุนสำรองระหว่างประเทศถึง 120 เท่า..

ที่น่าสนใจอีกก็คือ
ในปี 2019 การส่งออกน้ำมันดิบกว่า 32% คือ การส่งออกไปขายที่จีน นั่นหมายความว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจนทำให้การบริโภคพลังงานลดลงนั้น อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาในอนาคตเช่นกัน

แต่เรื่องร้ายๆ ไม่เคยมาครั้งเดียว
การที่รัสเซียไม่เห็นด้วยกับกลุ่มโอเปกที่นำโดยซาอุดีอาระเบียที่ต้องการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ จนนำมาสู่สงครามราคา

ทำให้ปัจจุบันราคาน้ำมันลดลงเหลือเพียง 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
จนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดน้ำมัน

แทบไม่ต้องเดาเลยว่า รายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาหลังจากนี้จะลดลงไปอีกแค่ไหน

ลองนึกดูว่า ระดับราคาน้ำมันดิบดังกล่าว ถ้าเวเนซุเอลายังส่งออกน้ำมันดิบไปขาย 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ เวเนซุเอลาจะมีรายได้การส่งออกน้ำมันปีละ 344,000 ล้านบาท จากเดิมที่ 736,000 ล้านบาท ในปี 2019
หรือเรียกง่ายๆ ว่ารายได้ของประเทศหายไปกว่าครึ่ง

ใครจะไปคิดว่า
ประเทศที่มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบมากที่สุดในโลกอย่างเวเนซุเอลา
ซึ่งมีจำนวนกว่า 300,878 ล้านบาร์เรล คิดเป็นมูลค่ากว่า 270 ล้านล้านบาท
กลับมีรายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบเพียงเท่านี้

รายได้จากการส่งออกน้ำมันที่ลดลง
ทุนสำรองระหว่างประเทศที่ร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ
ขณะที่หนี้ของประเทศยังอยู่ในระดับสูง
น่าสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเวเนซุเอลา
ประเทศอื่นกำลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด-19
แต่เวเนซุเอลากำลังจะเกิดวิกฤตซ้อนวิกฤตอีกที ซึ่งไม่อยากคิดเลยว่าโศกนาฏกรรมนี้จะรุนแรงแค่ไหน..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝

 

เมื่อโลกตะวันออกแข็งแกร่ง แต่โลกตะวันตกป่วยหนัก /โดย ลงทุนแมน
นี่คือการเดิมพันครั้งสำคัญ
ระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก

แม้โลกตะวันออกจะเป็นจุดกำเนิดของโรคระบาดโควิด-19
แต่การควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพสูง ก็ทำให้จีน เกาหลีใต้ แม้แต่ญี่ปุ่น ไต้หวัน สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างดีเยี่ยม พ่วงด้วยการได้วิจัยยา วิจัยการแพทย์
รวมถึงการทดลองยาแผนตะวันออกรักษาในหลายๆ เคส
แม้กระทั่งได้พัฒนากระบวนการวิจัยวัคซีน

ในขณะที่โลกตะวันตก โดยเฉพาะยุโรปกำลังเจอศึกหนัก..

ข้อดีที่ยุโรปเคยมีกำลังกลายเป็นผลร้ายที่ย้อนกลับมาทำลายตัวเอง

เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
การคมนาคมขนส่งที่เชื่อมต่อกันอย่างสะดวกสบายของยุโรป กลับกลายเป็นการช่วยแพร่กระจายของโรคระบาดไปทั่วทวีป

สวัสดิการที่ครบครัน และระบบสาธารณสุขที่ดีจนคนมีอายุยืนยาว
และมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุสูงมาก
โดยเฉพาะอิตาลีที่มีสัดส่วนประชากรอายุมากกว่า 65 ปีมากที่สุด คิดเป็น 22.7% ของประชากร
ผู้สูงอายุเหล่านี้กำลังกลายเป็นเป้าที่อ่อนแอของเชื้อไวรัสไปโดยปริยาย

ยังไม่รวมถึงวัฒนธรรมการทักทายแบบแนบสนิทชิดเชื้อ
ซึ่งคงจะหลอนชาวยุโรปในการทักทายผู้คนไปอีกนาน

เมื่อจีนเริ่มหายดี สิ่งที่ต้องทำเพื่อรับผิดชอบในฐานะที่เป็นต้นกำเนิดของโรคระบาด
คือการส่งทีมแพทย์และอุปกรณ์ไปช่วยเหลือประเทศในยุโรป

หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง
นี่อาจเป็นเวลาที่จีนจะได้เฉิดฉายในวงการการแพทย์ของโลก

จีนที่ในวันนี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในหลายเทคโนโลยี
แต่สำหรับด้านยาและวงการแพทย์
จีนรู้ตัวเองดีว่ายังตามฝรั่งตะวันตกอยู่พอสมควร

การส่งทีมแพทย์ไปช่วยอิตาลีที่กำลังผจญศึกหนัก ซึ่งอิตาลีไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
เป็นการดีมากๆ ที่จีนจะได้เรียนรู้ระบบการแพทย์ของฝั่งยุโรป ทดลองยาหรือทำการวิจัยต่างๆ ในยุโรป และเผยแพร่เทคโนโลยีทางการรักษาให้ฝรั่งได้เห็น

ไม่ใช่ว่าอิตาลีไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ แต่เวลานี้ บุคลากรทางการแพทย์ของอิตาลีกำลังเจอศึกหนัก จึงจำเป็นต้องต้อนรับจีน ถึงขั้นเปิดเพลงชาติจีนดังกระหึ่มตลอดทางจากสนามบินเพื่อต้อนรับขบวนทีมแพทย์จีนที่มาถึง

แต่ฝรั่งมังค่าก็ใช่ว่าจะสิ้นไร้ไม้ตอก

ชาตินวัตกรรมก้าวหน้าอย่างเยอรมนีประกาศทันทีว่า เรามีระบบการแพทย์ที่ดีที่สุด เยอรมนีซึ่งมีบริษัทยา เครื่องมือแพทย์ดังๆ ระดับโลก งานวิจัยการแพทย์มากมายมหาศาล กำลังระดมสรรพความรู้ทุกอย่างเพื่อหยุดไวรัสนี้ให้ได้

สิ่งที่เห็นชัดประการหนึ่งคือ อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ในเยอรมนีที่ยังคงต่ำมาก
ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็นับว่าเป็นการได้แสดงศักยภาพทางการแพทย์ของเยอรมนีให้ประจักษ์แก่ชาวโลก

ฝรั่งเศสซึ่งมีบริษัทยาดังๆ ก็ไม่ยอมเหมือนกัน ประธานาธิบดีมาครงประกาศกร้าวว่าจะเพิ่มงบประมาณสำหรับวิจัยวิทยาศาสตร์อีก 2 แสนล้านบาท เพื่อต่อสู้กับการระบาดในครั้งนี้ให้ได้

โดยขณะนี้สถาบันสุขภาพและการแพทย์แห่งชาติฝรั่งเศส (Inserm) ได้เริ่มทำการทดสอบทางคลินิกของยาเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อแล้ว

คงต้องลุ้นกันว่าผลของการระบาดจะเป็นอย่างไรต่อไป

แต่ที่แน่ๆ เศรษฐกิจของยุโรปจะต้องเจอกับวิกฤติอย่างหนัก
โดยเฉพาะอิตาลี ที่ศูนย์กลางของการระบาดดันอยู่ในเขตที่เรียกได้ว่าเป็น “บ่อเงินบ่อทอง” อย่างมิลาน ตูริน และเวนิส ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของประเทศ

แถมจำนวนผู้ป่วยในอิตาลียังพุ่งสูงจนเกือบเท่ากับจีนทั้งประเทศ ทั้งที่จีนมีประชากรมากกว่าหลายเท่า

เป็นไปได้ว่าอิตาลีซึ่งมีหนี้สาธารณะหนักมากอยู่แล้ว คิดเป็น 131% ของ GDP
ยังไม่รวมหนี้ครัวเรือนและหนี้ของภาคเอกชน

สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เศรษฐกิจของอิตาลีล้มไม่เป็นท่า
บริษัทอิตาลีหลายแห่งอาจต้องล้มละลาย หรือไม่ก็ขายกิจการให้ต่างชาติ

แล้วคิดว่า คนชาติไหนบ้างที่พอจะมีเงินถุงเงินถังเหลือๆ มาซื้อบริษัทดีๆ ของอิตาลี ?

คำตอบจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก ชาติที่ตอนนี้กำลังยื่นมือเข้าช่วยอิตาลีอย่างเต็มที่นั่นเอง..

ก็ไม่แน่ว่า เราอาจจะได้เห็นรถหรู แบรนด์หรู ของอิตาลี ถูกเปลี่ยนมือให้คนจีนก็เป็นได้

จริงๆ จีนอาจไม่ได้ต้องการแบรนด์อิตาลีเท่าไหร่ แต่สิ่งที่อยากได้คือ ทีมงานดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียนเพื่อมาสร้างแบรนด์ให้จีน เพราะภาพลักษณ์ของแบรนด์คือสิ่งที่จีนปรารถนาที่สุด

การเพิ่มมูลค่าสินค้าให้เป็นสินค้าระดับไฮเอนด์คือสิ่งที่แบรนด์จีนต้องการจะไปให้ถึง

ทำนองเดียวกับที่กาฬโรคระบาดในยุคกลาง จนผลกระทบของมันสร้างความเปลี่ยนแปลงมหาศาลต่อโลก และเปิดโลกให้เข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

การระบาดของโควิด-19 ก็เช่นเดียวกัน
ผลของมันอาจเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโลกอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง

โลกตะวันออกที่ถูกฝั่งตะวันตกเบียดแซงมาเป็นเวลาหลายร้อยปี

ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว
ที่จะทุกอย่างอาจพลิกคืน

การเปลี่ยนแปลงนับจากนี้ พลาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

เว้นระยะห่างทางสังคม รักษาตัวกันให้ดี ล้างมือบ่อยๆ
มีชีวิตอยู่เพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไปด้วยกัน

แต่ถ้าต้องอยู่บ้านแล้วไม่รู้จะทำอะไร หาหนังสือประวัติศาสตร์อย่าง "เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี"
ไว้อ่านก็จะได้เรียนรู้อดีต เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป
แต่เราเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตได้เสมอ..

 

เริ่มตั้งแล้ว ด่านคัดกรองโควิด-19 ถนนพระราม 2 อาจทำรถติดบ้าง
เริ่มดำเนินการแล้ว ตามประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินด่านคัดกรอง หน้าปั๊มปตท. ถนนพระราม 2 ตำรวจบอก จราจรอาจติดขัดบ้างเพราะมีรถบรรทุกจำนวนมาก
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline



https://www.thairath.co.th/news/cri...u-4vV7fNf0yBgDro2JTgYlG969R5PTd4b_6iU8oLtQ4TM

 

ตร.ฟิลิปปินส์ นำโลงศพวางขู่ปชช. ให้อยู่บ้านลดการแพร่เชื้อ
26 มี.ค. 2020 - 12:47 น.

ตำรวจฟิลิปปินส์ ที่เมืองปัมปังก้า ได้นำโลงศพมาไว้ที่ด่านตรวจแห่งหนึ่ง เพื่อใช้เป็นเครื่องเตือนสติผู้คน ไม่ให้ออกมาจากบ้าน เพื่อลดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

ตำรวจฟิลิปปินส์ ที่เมืองปัมปังก้า ได้นำโลงศพมาไว้ที่ด่านตรวจแห่งหนึ่ง โดยที่โลงศพ มีข้อเขียนเอาไว้ว่า “จะอยู่บ้าน หรือจะอยู่ในนี้” เพื่อเตือนว่า หากประชา ชนไม่เคารพมาตรการกักกันโรคในปัจจุบัน พวกเขาอาจจะทำให้ชีวิตตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยง



นายตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้เผยว่า ไม่ควรเล่นกับไวรัส และเจ้าหน้าที่รู้สึกเบื่้อหน่ายกับการใช้วิธีอื่นในการชี้แจงเรื่องนี้กับประชาชน ซึ่งปัจจุบัน ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอเตของฟิลิปปินส์ ได้ประกาศให้พื้นที่ทางเหนือของฟิลิปปินส์ เป็นพื้นที่ชุมชนกักกันโรคแบบครอบคลุม ที่กำหนดให้ประชาชนหลายล้านต้องอยู่แต่ที่บ้าน



สำหรับสถานการณ์การระบาดทั่วไป สเปนมียอดผู้เสียชีวิตแซงจีน กลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 รองจากอิตาลีแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิต 3,445 ราย ส่วนจีนมีแค่ 3,281 ราย สำหรับอิตาลีมีมากถึง 6,820 ราย


https://www.springnews.co.th/global/637032

 

Watchers

#ข่าวภัยพิบัติ #สภาพอากาศโลก
26/03/20
#โปแลนด์ เจอสภาพอากาศเย็นเยือกแข็ง ครั้งแรกของปีนี้ จากการแผ่คลื่นมวลอากาศเย็น อาร์คติก
ทำให้พืชผลถูกแช่แข็งเสียหาย จำนวนมาก
ยังไม่ทราบขอบเขตความเสียหาย

ทั้งนี้ในหลายส่วนของยุโรปได้รับผลจากคลื่นความเย็นอาร์คติกที่แผ่ลงมา
เครดิตภาพ : Fruitteeltonline
#Watchers

 

Watchers

#ข่าวภัยพิบัติ #สภาพอากาศโลก
// อิรัก ล่าสุดฝนตกหนักหลายวัน คร่า12ราย บาดเจ็บ 17 //
25/03/20

ฝนตกหนักที่ส่งผลกระทบต่อตอนใต้ของอิรักตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2020 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและแผ่นดินถล่มซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คนและบาดเจ็บ 17 คน ในหลายจังหวัด มีรายงานความเสียหายอย่างกว้างขวางเช่นเดียวกับไฟฟ้าดับในหลายหมู่บ้าน

สำนักข่าว Tasnim รายงานว่าฝนที่ตกลงมาอย่างรุนแรงในช่วงหลายวันที่ผ่านมาก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและแม่น้ำล้นซึ่งส่งผลกระทบต่อจังหวัดของ Farsh, Bushehr, Hormozgan, Kerman และ Sistan และ Baluchestan
Tasnim http://www.tasnimnews.com/…/floods-kill-11-in-iran-air-resc…

ปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักทำให้หน่วยงานในบางเมืองประกาศภาวะฉุกเฉินและสั่งการอพยพ
ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัด Chabahar ใน Sistan และ Baluchestan ฝนตกตลอด 24 ชั่วโมงในวันจันทร์ที่ 23 มีนาคมส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางต่อโครงสร้างพื้นฐานในเมืองเช่นเดียวกับในส่วนของเมืองและชนบทอื่น ๆ ของภูมิภาค
CR clip : AzamBahrami
#Watchers

 

ระวังอากาศเปลี่ยน! 2-3 วันนี้อากาศอย่างกับเข้าสู่หน้าร้อน แต่คืนพรุ่งนี้เป็นต้นไปมีฝนตก ภาคเหนืออุณหภูมิลดฮวบแตะ 14°c

• 26 March, 2020
• อโศก ศรีจันทร์

คืนพรุ่งนี้เป็นต้นไปอากาศเปลี่ยน ภาคเหนืออุณหภูมิลดฮวบแตะ 14°c (ภาพจาก udn.com)

รศ.อู๋เต๋อหรง (吳德榮) แห่งคณะวิทยาศาสตร์บรรยากาศ มหาวิทยาลัยแห่งชาติจงยัง (NCU) อดีต ผอ. กรมอุตุนิยมวิทยาของไต้หวันพยากรณ์ว่า ช่วงนี้อากาศร้อน โดยเฉพาะกลางวัน อุณหภูมิสูงสุดทั่วไต้หวันอยู่ที่ 32°c แต่สภาพอากาศเช่นนี้ จะดำเนินต่อไปถึงวันศุกร์นี้ (27 มี.ค.) เท่านั้น คืนวันศุกร์เป็นต้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดลงมาถึงไต้หวัน ทำให้วันเสาร์นี้ (28 มี.ค.) ตั้งแต่ภาคกลางถึงภาคเหนือ มีอากาศหนาวและชื้นแฉะ พื้นที่ภาคเหนืออุณหภูมิลดฮวบแตะ 14°c แต่ลมหนาวลูกนี้ พัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว เย็นวันเสาร์เมื่อลมอ่อนกำลังลง ฝนจะเริ่มเบาบาง และวันอาทิตย์นี้ (29 มี.ค.) อากาศทั่วไต้หวันกลับมาอุ่นสบายอีกครั้ง


https://th.rti.org.tw/news/view/id/...THqA1Lo-YyyXg9uqY95aRSFdAgRz4AeReVLNQGzR1Esok

 

ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 24 รายวานนี้ รวมยอดสะสม 410 ราย

เมื่อวานนี้ ฮ่องกงแถลงพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 24 ราย โดยมี 19 รายที่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ และบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Lan Kwai Fong โดยมีสมาชิกวงดนตรีเพิ่มอีก 1 รายและพนักงานเสิร์ฟเพิ่มอีก 1 ราย

นอกจากนี้ก็ยังมีนักบินสายการบิน Cathay Pacific ที่ไม่ได้บินไปไหนในช่วงนี้ ติดเชื้อหลังจากไปที่ร้าน Insomnia ย่าน Lan Kwai Fong และบาร์ All night long ในย่าน Tsim Sha Tsui

และยังพบเคสใหม่ที่ไปร่วมงานที่ Connect Hall ที่ Exchange Square เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา

Dr Chuang Shuk-kwan หัวหน้าสาขาโรคติดต่อของศูนย์คุ้มครองสุขภาพ เผยว่า “แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงบ้าง แต่ตัวเลขก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก รวมทั้งยังมีผู้ที่กลับมาฮ่องกง และเราคาดว่ากลุ่มนี้อาจจะมีอาการป่วยในช่วงระยเวลา 14 วัน เราคาดว่าจะพบผู้ติดเชื้ออีกหลายราย”

ทั้งนี้ Dr Chuang ยังกล่าวว่าผู้ติดเชื้อบางรายไม่ได้ประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ และเตือนให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังและอย่าเข้าใกล้ผู้ที่มีความเสี่ยง

ล่าสุดมีผู้ที่รักษาหายเพิ่มอีก 4 ราย รวมผู้ที่รักษาหายและออกจากโรงพยาบาลทั้งหมด 105 ราย

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***
https://www.facebook.com/119537452088669/posts/494989721210105/?d=n

Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3076932/coronavirus-hong-kong-records-24-new-cases-mostly?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong #โควิด-19

 

ด่วน! ผอ.รพ.ติดโควิด พบเข้าร่วมประชุมเพียบ สั่งกักตัวคนใกล้ชิดแล้ว



26 มี.ค. 2563-14:10 น.

ผอ.รพ.ติดโควิด

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นพ.อัษฎางค์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวว่ามีผู้บริหารโรงพยาบาลติดโควิด ว่า ยอมรับ ว่า นายแพทย์นำพล แดนพิพัฒน์ ผอ.รพ.สมุทรปราการ ป่วยโควิด-19 โดยผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์เพิ่งออกมาเช้านี้ (26 มี.ค.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค เพราะยังไม่แน่ชัดว่า สาเหตุการติดเชื้อมาจากสถานที่ใด เนื่องจากเป็นฝ่ายบริหาร และมีการประชุมในหลายสถานที่ ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องพบว่า มีจำนวนนี้ แต่อยู่ระหว่างการสอบ เบื้องต้น ให้คนที่เกี่ยวข้องกักตัวเองสังเกตอาการ 14 วัน แล้ว

https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_3826990

 

โควิด-19 คร่าชีวิตชาวสเปน ขึ้นอันดับ 2 โลก แทนจีน
.
1.สเปนพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คนแรก เมื่อวันที่ 31 มกราคม
.
2.ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขของสเปน รายงานสถานการณ์ พบผู้ป่วยรายใหม่ในวันเดียว 5,552 คน เพิ่มจำนวนผู้ป่วยทั่วประเทศเป็น 47,610 คน
.
3.สเปนมีผู้เสียชีวิตคนแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม วันนี้ อัตราการเสียชีวิตสูงขึ้น 20%
.
4.ผู้เสียชีวิตในสเปนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 443 คน รวมจำนวนผู้เสียชีวิต 3,434 คน แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แทนจีน ส่วนผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ยังคงเป็นอิตาลี
.
5.จำนวนผู้เสียชีวิตในจีน อยู่ที่ 3,281 คน นับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว จำนวนผู้ป่วย 81,218 คน
.
6.จำนวนผู้เสียชีวิตในอิตาลี 7,503 คน นับตั้งแต่มีผู้เสียชีวิตคนแรกเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จำนวนผู้ป่วย 74,386 คน
.
7.แม้จำนวนผู้เสียชีวิตในอิตาลี เป็นอันดับ 1 ของโลก แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มดีขึ้น ตามการประเมินขององค์การอนามัยโลก
.
8.องค์การอนามัยโลกบอกว่า อัตราการเสียชีวิตในอิตาลี ลดลงมาอยู่ที่ 10% และอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 7.5%
.
9.สถานการณ์การแพร่ระบาดใน 57 จาก 107 จังหวัดของอิตาลี ผ่านพ้นจุดวิกฤติแล้ว แต่ยังมีพื้นที่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด นั่นคือ กรุงโรมและเมืองใกล้เคียง
.
10.องค์การอนามัยโลกสรุปว่า สถานการณ์ในอิตาลีกำลังเข้าสู่ทิศทางบวก มาตรการต่างๆที่รัฐบาลบังคับใช้ แม้ว่าจะเริ่มช้าในหลายๆเรื่อง แต่อยู่ในระดับที่เข้าใจได้ ส่วนมาตรการล่าสุดที่ต้องนำมาใช้คือ การล็อกดาวน์ ที่มีความเข้มงวดขึ้น

 

China Report ASEAN - Thailand

ไอเดียดีๆ ที่ไทยเอามาใช้ได้!!
‘แชร์พนักงาน’ ในห้วงวิกฤตโควิด-19

1.เดือนมกราคมที่ผ่านมา จีนเผชิญกับวิกฤตไวรัสโควิด-19 มาตรการปิดเมืองถูกนำมาใช้ ธุรกิจน้อยใหญ่ประสบปัญหาไม่ต่างกัน (ไม่ต่างกับที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้)
.
2.ท่ามกลางวิกฤต แต่ก็เป็นโอกาส ธุรกิจค้าปลีกขาดพนักงาน ขณะที่ออเดอร์จากลูกค้าออนไลน์ถาโถมกระหน่ำเข้ามา
.
3.‘Miss Fresh’ ผู้ให้บริการส่งอาหารในจีน เปิดเผยว่า ออเดอร์จากลูกค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 350% ไม่ต่างกับแบรนด์อื่นที่มีคำสั่งซื้อออนไลน์ล้นทะลัก แต่พวกเขากำลังขาดพนักงานทำงาน และขนส่งสินค้าตามออเดอร์
.
4.ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดการร่วมมือกันระหว่างบริษัท ภายใต้กลวิธี ‘แชร์พนักงาน - Work Sharing’
.
5.บริษัทผู้ให้บริการส่งอาหารจะขอยืมพนักงานจากบริษัทต่างๆที่ให้พนักงานหยุดงานชั่วคราว มาทำงาน
.
6.คุณสมบัติคือ พนักงานที่จะมาทำงานได้ ต้องมีสุขภาพที่ดี และไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
.
7.การแชร์พนักงาน ช่วยให้แรงงานหลายหมื่นคนเปลี่ยนสถานะ จาก...ตกงาน ว่างงาน วันๆไม่รู้จะทำอะไร เป็น...มีงานทำ มีรายได้
.
8.อย่างไรก็ดี แรงงานที่ประสบปัญหา ตกงาน ถูกพักงาน จะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล อาทิ ลดค่าเช่าที่พักอาศัย ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ เป็นต้น
.
หลายๆธุรกิจในไทยกำลังประสบปัญหาในห้วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 แบบที่จีนเคยประสบมา แต่ด้วยวิธี ‘แชร์พนักงาน’ ก็เป็นไอเดียที่ดี ที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้นะครับ
.

 

China Report ASEAN - Thailand

ส่งกำลังใจให้พวกเขากันครับ
.
1.บุคลากรทางการแพทย์จีนหลายพันคน ทยอยเดินทางออกจากมณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดแล้ว หลังสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
.
2.จีนรายงานว่า มีบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด 41 ทีมจากทั่วประเทศจีน เดินทางเข้าไปช่วยเหลือการรักษาพยาบาลผู้ป่วยทั้งในโรงพยาบาลชั่วคราวและสถานพยาบาลในเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย
.
3.นายแพทย์หม่า ฟู่ชุน หัวหน้าทีมแพทย์จากมณฑลส่านซี จำนวนลูกทีม 43 คน เปิดเผยว่า มาถึงอู่ฮั่นตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทำงานในโรงพยาบาลชั่วคราวรวม 40 กว่าวัน
.
4.หมอหม่าบอกว่า การทำงานต้องร่วมงานร่วมมือกับทีมแพทย์ของอู่ฮั่นและทีมแพทย์จากมณฑลอื่น ทุกอย่างราบรื่น ทีมของหมอหม่ารับผิดชอบผู้ป่วย 988 เตียง รักษาผู้ป่วยไปทั้งสิ้น 1,235 ราย
.
5.หมอบอกว่า โชคดีมากที่ผู้ป่วยที่รับผิดชอบไม่มีใครเสียชีวิต และไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ในทีมติดเชื้อ
.
6.เรื่องนี้บอกให้เรารู้ว่า บุคลากรทางการแพทย์คือ บุคคลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุด
.
7.ทางการจีนเปิดเผยว่า บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศจีนที่ติดเชื้อนั้น 87% อยู่ในมณฑลหูเป่ย พื้นที่ที่เคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
.
8.ตอนนี้ บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนทยอยเดินทางออกจากอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยแล้ว ทุกท่านเดินทางกลับบ้านเกิด ได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษ
.
แม้สถานการณ์ในจีนจะดีขึ้นมากแล้ว ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมแล้ว แต่สถานการณ์นอกจีนกำลังรุนแรงขึ้น เรามาส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ของไทยและทั่วโลกกันนะครับ

 

หน้ากากอนามัยหาซื้อง่ายขึ้น! ชาวฮ่องกงเริ่มส่งไปให้ครอบครัวและเพื่อนที่อยู่ต่างแดน

ก่อนหน้านี้หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งหายาก และชาวฮ่องกงต้องใช้เวลาต่อคิวหลายชั่วโมงเพื่อซื้อหน้ากากอนามัย แต่ในขณะนี้ชาวฮ่องกงมาต่อคิวรอส่งพัสดุไปรษณีย์หน้ากากอนามัยไปให้ครอบครัวและเพื่อนที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก หลังหลายๆ แห่งทั่วโลกขาดแคลนหน้ากากอนามัย

หน้ากากอนามัยถูกส่งไปหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, แคนาดา, สเปน, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

หลายคนบอกว่าก่อนหน้านี้ญาติและเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศได้ช่วยส่งหน้ากากอนามัยมาให้ใช้ในฮ่องกงเนื่องจากก่อนหน้านี้หาซื้อได้ยากมาก แต่ในตอนนี้สถานการณ์กลับตรงกันข้าม

ตัวแทนจากไปรษณีย์ฮ่องกงเผยว่า ตัวเลขพัสดุนำเข้าตอนนี้อยู่ตัวแล้ว แต่ตัวเลขพัสดุส่งออกแบบด่วนเพิ่มสูงขึ้น 2 เท่าตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยเกือบ 40% เป็นพัสดุที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ

ปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยในฮ่องกงคลี่คลายมากขึ้น หลังมีบริษัทและหน่วยงานอย่างน้อย 13 แห่งที่ได้ติดตั้งไลน์การผลิต โดยมี 7 แห่งที่เริ่มการผลิตแล้วรวมทั้งจะผลิตในเดือนเมษายน และอีก 3 แห่งเปิดเพื่อรับพรีออเดอร์

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด*** https://www.facebook.com/119537452088669/posts/494989721210105/?d=n

Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3076893/coronavirus-hongkongers-sending-surgical-masks?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

#ข่าวด่วน (25 มีนา 19:19 น.) ผู้ว่าโตเกียวเตรียม แถลงข่าว “หลีกเลี่ยงออกจากบ้านหากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนช่วงสุดสัปดาห์นี้”

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

กิ๊ฟจังนั่งเล่า

#ข่าวด่วน (25 มีนา) (25 มีนา 19:19 น.) ผู้ว่าโตเกียวเตรียม แถลงข่าว “หลีกเลี่ยงออกจากบ้านหากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนช่วงสุดสัปดาห์นี้”

❣️โตเกียวพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 40 รายวันนี้

พบผู้ติดเชื้อจากรพ. มากกว่า 10 ราย

(ข้อมูลจากคนใกล้ตัว) วันนี้ผู้ต้องสงสัยโควิด-19 มาตรวจที่รพ. เยอะขึ้นจนเห็นรู้สึกได้ค่ะ

รายละเอียดรอผู้ว่ามารายงานนะคะ

✒พร้อมนะคะทุกคน อย่าตกใจมากนะคะ เตรียมพร้อมไม่ตื่นตูม โอลิมปิกหมดห่วงแล้ว ตอนนี้ก็รีบตรวจรีบจัดการ จะได้สงบเร็ว ๆ ค่ะ

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

“นครบาล” คุมเข้ม โควิด 19 เตรียมเพิ่มด่านคัดกรองอีก 3 จุด รอยต่อ กทม.-ปริมณฑล

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีการตั้งด่านควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ทั้ง 7 ด่านในวันนี้ ว่า เป็นการปฏิบัติตามที่ได้รับมอบหมายจาก ศอฉ. ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด

โดยในวันแรก จะเน้นการสร้างความรับรู้ให้ประชาชนได้เกิดการปรับตัว ก่อนจะใช้มาตรการตรวจเข้มตามลำดับต่อไป พร้อมขอความร่วมมือประชาชน หากไม่มีความจำเป็น ก็ขอให้งดการเดินทางออกจากบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ด้วย

ส่วนการประชุมหารือร่วมกับทางกรุงเทพมหานครในวันนี้ จะไปสอบถามว่าจะให้ตำรวจสนับสนุนในเรื่องใดเพิ่มเติม เนื่องจากกรุงเทพมหานครได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะที่ตำรวจได้เข้าไปร่วมสนับสนุนการปฏิบัติกับหลายหน่วยงาน ทั้งการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคร่วมกับทหาร , การควบคุมสถานบริการ 26 ประเภท ใน 6 กลุ่ม ไม่ให้ฝ่าฝืนคำสั่งกรุงเทพมหานคร และดำเนินการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนจำหน่ายสินค้าเกินราคา



ซึ่งมีการดำเนินคดีไปมากกว่า 48 ราย รวมความเสียหายเกินกว่า 1 ล้านบาท และสำหรับมาตรการล่าสุดที่ให้มีการตั้งด่านควบคุมโรค วันนี้ได้เตรียมแผนจะขยายการตั้งด่านเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 ด่าน ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ แบะปริมณฑล ส่วนจะเป็นจุดใดบ้าง ต้องรอความชัดเจนหลังการหารือในที่ประชุมอีกครั้ง

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

โควิด 19 จะก่อให้เกิด วิกฤติเศรษฐกิจ ที่เร็วที่สุด รุนแรงที่สุด ในประวัติศาสตร์

แรงกระแทกทางเศรษฐกิจจาก โควิด 19 เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่า วิกฤติเศรษฐกิจ การเงินเมื่อปี 2008 มาก และจะหนักยิ่งกว่าภาวะความตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อปีช่วงปี 1929 ถึงปี 1933

วิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งสองครั้งที่ว่ามา ตลาดหุ้นตกลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่า ตลาดเครดิตถูกแช่แข็ง ตามด้วยการล้มละลายครั้งใหญ่ อัตราว่างงานพุ่ง ขณะที่จีดีพีตกต่ำ แต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาราว 3 ถึง 4 ปี แต่วิกฤติที่กำลังเผชิญกันตอนนี้ จะได้ผลกระทบที่รุนแรงไม่แพ้กัน แต่เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน

สำนักข่าว เดอะการ์เดียน เผยแพร่บทวิเคราะห์ของ เศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ศาสตราจารย์นูเรียล รูบินี ระบุว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯใช้เวลา 15 วันก่อนตกลงสู่จุดวิกฤติ เป็นการตกลงเร็วที่สุดที่เคยมีมา ตอนนี้ตกลงมาแล้ว 35 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดเครดิตเริ่มชะลอ

พูดได้ว่า ส่วนประกอบทุกอย่างที่จะนำไปสู่ความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการบริโภค การลงทุนด้านเอกชน หรือการส่งออก ต่างอยู่ในช่วงดำดิ่ง

ในระหว่างที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจการเงินปี 2008 หรือภาวะความตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อช่วงปี 1930 กิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่ได้ถูกปิดพร้อมกันมากขนาดนี้

ความเป็นไปได้ ที่จะเกิดผลกระทบน้อยสุด ก็ยังเป็นผลกระทบที่หนักกว่าวิกฤติการเงินปี 2008 แต่เป็นช่วงเวลาที่สั้นกว่า และหวังว่าอัตราการเติบโตจะเป็นบวกในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ในกรณีนี้ ตลาดจะเริ่มฟื้นตัวเมื่อเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

รูบินี ระบุว่า แต่ผลกระทบจะเกิดน้อยที่สุด มีเงื่อนไขหลายอย่าง เงื่อนไขแรก สหรัฐฯ และอังกฤษ และประเทศอื่นที่เศรษฐกิจกระทบหนักมากๆ ต้องมีมาตรการทดสอบ ติดตาม และการบำบัด ผู้ติดเชื้อ โควิด 19 ในวงกว้าง และมีการกักกันโรคอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งล็อคดาวน์อย่างจริงจังเหมือนที่จีนทำ และเพราะอาจใช้เวลาถึง 18 เดือนกว่าที่วัคซีนจะคิดค้นสำเร็จและผลิตได้จำนวนมาก ต้องมีวิธีการอย่างอื่นที่บำบัดได้ในวงกว้าง

เงื่อนไขที่สอง ผู้กำหนดนโยบานการเงิน ต้องโยนมาตรการที่ผิดแปลกไปจากเดิมเข้าใส่วิกฤติครั้งนี้ อย่างเช่น ดอกเบี้ยเป็นศูนย์หรือถึงขนาดเป็นลบ มีแนะแนวทางที่จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ การผ่อนคลายเครดิต การผ่อนคลายเชิงปริมาณ ต้องให้ความสำคัญกับธุรกิจขนาดกลางละขนาดย่อมมากขึ้น

เงื่อนไขที่สาม รัฐบาลประเทศต่างๆ ต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ รวมไปถึงการแจกเงินประชาชนด้วย ถ้าดูขนาดของแรกกระแทกทางเศรษฐกิจ การขาดดุลงบประมาณในประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าต้องเพิ่มจีดีพีจาก 2-3 เปอร์เซ็นต์ ไปถึง 10 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และมีธนาคารกลางของแต่ละประเทศเท่านั้นที่มีกำลังพอจะป้องกันไม่ภาคเอกชนพังทลาย

แต่การแทรกแซงการขาดดุลต้องใช้กำลังเงินอย่างเต็มที่ ถ้าเป้นการเงินผ่านหนี้รัฐบาลตามมาตรฐาน ดอกเบี้ยต้องเพิ่มสูงอย่ารวดเร็ว และต้องฟื้นฟูอย่างเหนื่อยหอบภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่สามารถจะเกิดขึ้น การตอบสนองทางสาธารณสุขของประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าทั้งหลาย กลับไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ และนโยบานการเงินที่กำลังถกกันอยู่ ก็ไม่ใหญ่พอและเร็วพอที่จะสร้างเงื่อนไขให้เกิดการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ความเสี่ยงในการเกิดภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่หนักกว่าที่เคยมีมา เพิ่มมากขึ้นทุกวัน

นอกเสียจากว่าการระบาดจะยุติลง เศรษฐกิจและตลาดทั่วโลกก็ยังจะดำดิ่งต่อไป และแม้ว่าสามารถควบคุมการระบาดได้ การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมก็อาจจะไม่กลับมาภายในสิ้นปีนี้ และหลังจากนั้น ก็ถึงฤดูไวรัสอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าจะกลายพันธุ์ การแทรกแซงการรักษาที่หลายประเทศกำลังคาดหวังอาจกลายเป็นมีประสิทธิภาพน้องกว่าที่คาด และเศรษฐกิจก็จะหดตัวอีกครั้ง และตลาดหุ้นจะร่วงลงอย่างรุนแรงอีกครั้ง

รูบินีทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ต้องระวังคือ มาตรการทางการเงินที่ใช้ จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในช่วงที่การระบาดของไวรัสกระทบห่วงโซ่อุปทาน จนทำให้อัตราการเติบโตเสียหาย และมีหลายประเทศที่จะไม่มีกำลังพอที่จะใช้มาตรการเหล่านี้ ใครจะนำเงินทุนไปช่วยเหลือรัฐบาล บริษัทต่างๆ ธนาคาร และประชาชนในประเทศกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่

ที่มา The Gaurdian

The post โควิด 19 จะก่อให้เกิด วิกฤติเศรษฐกิจ ที่เร็วที่สุด รุนแรงที่สุด ในประวัติศาสตร์ appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

https://www.springnews.co.th/global/637139

 

กรมการแพทย์ เผย 5 แนวทางการจัดการศพผู้เสียชีวิตติดเชื้อ “โควิด 19”

กรมการแพทย์ เปิดเผยแนวทางการจัดการศพผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด 19 หรือ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หลังจากที่มีประชาชนส่วนใหญ่ค่อนข้างสงสัย ว่ากรณีศพผู้เสียชีวิตติดเชื้อโควิด 19 นั้น จะมีโอกาสที่จะแพร่เชื้อต่อหรือไม่ โดยทางกรมการแพทย์ได้ชี้แจงไว้ 5 ข้อดังต่อไปนี้

1. เมื่อผู้ป่วยเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเก็บศพโดยใส่ชุดป้องกัน PPE ตามมาตรฐาน

2. ใช้ถุงซิปกันน้ำ 2 ชั้น พร้อมป้ายแสดงสัญลักษณ์ และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทาด้านนอกถุง

3. ไม่มีการอาบน้ำศพ รดน้ำศพ และฉีดยาศพ

4. เมื่อบรรจุลงในถุง 2 ชั้นแล้ว ไม่มีการเปิดถุงศพและนำเข้าตู้เย็นเก็บศพตามมาตรฐาน

5. มอบให้ญาติไปดำเนินการตามพิธีกรรมทางศาสนาได้ เช่น การเผา หรือฝัง โดยไม่มีการเปิดถุงอย่างเด็ดขาด

The post กรมการแพทย์ เผย 5 แนวทางการจัดการศพผู้เสียชีวิตติดเชื้อ “โควิด 19” appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

จ.สุราษฎร์ธานี เผยพบป่วยโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย สั่งทุกรพ.งดเยี่ยมคนไข้
สสจ.สุราษฎร์ธานี รายงานพบป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 3 ราย ยอดสะสมรวม 12 ราย พร้อมทั้งสั่งให้โรงพยาบาลทุกอำเภองดเยี่ยมผู้ป่วย หวั่นติดเชื้อเพิ่ม
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline