ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ✅ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ✅ เป็นฮีโร่ของตลาดเช้านี้ ! หลังจากเมื่อคืนนี้ #ตลาดหุ้นทั่วโลก โดนเทขายอย่างหนักหน่วงมาก นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐติดลบ -7% จนโดน #CircuitBreaker ไปเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันและครั้งที่ 4 ใน 2 อาทิตย์ล่าสุด ! ด้านราคา #น้ำมัน ไม่น้อยหน้า WTI ปิด -20%

    เรียกได้ว่าเป็นคืนที่หนักหน่วงมากสำหรับตลาดทั่วโลก #เพราะตัวเลขไวรัสโควิด ที่ระบาดนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอเลย แม้หลายประเทศเริ่มออกมาตรการป้องกันการกระจายโดยการปิดการเดินทางและให้กักตัวกันอย่างเข้มงวดแล้ว

    ช่วงนี้เราจะเห็นข่าวรัฐบาลทั่วโลกออกมาพยายามร่วมกันอัดฉีดเศรษฐกิจกันวนไปวนมากันเกือบทุกประเทศแล้ว และล่าสุดทาง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ประกาศซื้อหลักทรัพย์ของภาคเอกชนและภาครัฐวงเงินรวม 7.50 แสนล้านยูโร (bond-buying program) หรือรวมเป็นมูลค่าว่า 8.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

    ถือเป็นการประกาศฉุกเฉินที่ค่อนข้างจะเซอไพรส์ตลาดอยู่เหมือน จึงทำให้ราคาหุ้นพอเด้งขึ้นมาได้ และถือเป็นการแก้หน้าของ ECB ที่การประชุมครั้งล่าสุดตัดสินใจที่จะไม่ลดดอกเบี้ยซึ่งค่อนข้างค้านสายตาตลาดในเวลานั้น

    ⚠️ แต่อย่างที่เพจได้กล่าวมาตลอดว่า มีข่าวร้ายอย่างนึงนั้นคือ... เศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น... อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจหรืออัตราดอกเบี้ยต่างเลย...

    #จะขึ้นอยู่กับการกระจายตัวของไวรัสมากกว่า !

    ย้อนกลับไปเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนทางเพจได้แชร์บทความ "เศรษฐกิจโลกมีทางเป็นไปได้อยู่แค่ 4️⃣ ทางเท่านั้น" จากวิกฤตไวรัสครั้งนี้

    และตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ทางออกที่ 3 แล้ว กำลังเกิดการแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง (Widespread Contagion) ที่อาจทำให้ GDP โลกจะโดนกระทบหนักถึง -1.75 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (GDP จะโตลดลง -1.9% มาอยู่ที่เพียง +1.2%) ท่านใดอยากอ้านรายละเอียดนี้ก็ลองย้อนอ่านได้ในคอมเม้นท์ที่เราแนบไว้นะครับ

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดียประกาศเคอร์ฟิว ห้ามคนออกจากบ้านวันอาทิตย์นี้
    .
    ข่าวล่ามาเร็ว หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในอินเดียเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 180 คนล่าสุดนายกรัฐมนตรีเพิ่งออกรายการพิเศษเฉพาะกิจเพื่อส่งสารไปยังประชาชนชาวประเทศอินเดีย ในการต่อสู้กับ #โควิด19 ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 2 ทุ่มเวลาในอินเดียที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพูดคุยที่ยาวนาน
    .
    โดยในการนี้นายกรัฐมนตรีโมดีได้ประกาศเคอร์ฟิวสาธารณะ (Janata Curfew) ซึ่งเรียกร้องให้ประชาชนทั่วประเทศเก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่ไปไหนมาไหน และไม่รวมตัวกันในที่สาธารณะ ในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 7 นาฬิกา ถึง 21 นาฬิกา
    .
    นายกโมดีย้ำ "แม้แต่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสองก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหลาย ๆ ประเทศเท่าการระบาดของโควิด19"
    .
    โดยทางรัฐบาลอินเดียหวังว่านโยบายนี้จะเป็นการฝึกให้คนอินเดียเข้าใจเรื่องระยะห่างทางสังคมมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเพื่อย้ำเตือนประชาชนชาวอินเดียในการปฏิบัติตัวสำหรับเทศกาลนวราตรีซึ่งใกล้จะมาถึง
    .
    รัฐบาลขอร้องให้ประชาชนปฏิบัติตนตามคำแนะนำ 9 ข้อ คือ
    .
    1. ชาวอินเดียทุกคนควรตื่นตัวเสมอ อย่าออกไปข้างนอกถ้าไม่จำเป็น

    2.ผู้ที่มีอายุระหว่าง 60-65 ปี ควรอยู่ในบ้าน

    3. ปฏิบัติตามเคอร์ฟิว

    4. หลีกเลี่ยงการไปสถานพยาบาลถ้าไม่จำเป็น

    5. ให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังวางมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ

    6. ให้ประชาชนช่วยกันขอบคุณผู้ทำงานบริการทุกคนโดยตบมือห้านาทีเวลา 17.00 น. ของวันที่ 22 มีนาคม

    7. ขอร้องให้ธุรกิจทั้งหลายซึ่งมีรายได้มากไม่ตัดเงินเดือน

    8. ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และกักตุนอาหาร

    9. อย่าเชื่อข่าวลือหรือข่าวที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
    .
    เรียกได้ว่าเป้นมาตรการล่าสุดที่อินเดียออกมาเพื่อสู้กับโควิด19 ซึ่งหลายอย่างก็ยังทำให้แปลกใจโดยเฉพาะการประกาศเคอร์ฟิวแบบวันเดียว ซึ่งยังคงเป็นที่ถกเถียงว่าจะเกิดประโยชน์มากน้อยเพียงใด
    .
    #กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #เคอร์ฟิว #งดออกจากบ้าน #ระยะห่างทางสังคม

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยอดติดเชื้อเอเชียใต้พุ่ง 622 เกือบ 3 เท่าในเวลา 3 วัน
    .
    วันนี้ขอมาอัพเดทสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส #โควิด19 ในภูมิภาคเอเชียใต้สักหน่อย ซึ่งล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจโดยเฉพาะในประเทศปากีสถาน
    .
    เพราะปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในปากีสถาน และสูงที่สุดในภูมิภาค แซงหน้าอินเดียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการแพร่ระบาดส่วนใหญ่อยู่ในแคว้นสินธ์ ซึ่งมีจำนวนผู้ไปแสวงบุญในอิหร่านจำนวนมาก
    .
    ทั้งนี้จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อในแต่ละประเทศมีดังนี้
    .
    ปากีสถาน 335 ราย
    อินเดีย 176 ราย
    ศรีลังกา 57 ราย
    อัฟกานิสถาน 22 ราย
    บังคลาเทศ 17 ราย
    มัลดีพ 13 ราย
    เนปาล 1 ราย
    ภูฏาน 1 ราย
    รวม 622 ราย
    .
    ทั้งนี้หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อของปากีสถานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วรัฐบาลได้สั่งยกเลิกบริการขนส่งมวลชนระหว่างแคว้นต่าง ๆ กับแคว้นสินธ์เกือบทุกช่องทางเพื่อลดการเดินทางของประชาชน และผู้ติดเชื้่อ
    .
    สำหรับในอินเดียจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้รัฐบาลมีนโยบายปิดประเทศ ทั้งนี้ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อเป็นชาวอินเดียที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในตอนนี้คือรัฐมหาราษฎระ
    .
    ในขณะที่ศรีลังกาและบังคลาเทศเองก็มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งที่ตัวเลขเมื่อวันจันทร์มีผู้ติดเชื้อเพียง 18 ราย และ 3 รายเท่านั้น ตามลำดับ เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากภายนอก
    .
    ฉะนั้นช่วงนี้พื้นที่เสี่ยงสุดในเอเชียใต้คงหนีไม่พ้นปากีสถาน ตามมาด้วยอินเดีย และศรีลังกา ใครจะเดินทางไปภูมิภาคนี้ก็สำรวจและเตรียมตัวกันให้ดีนะครับ
    .
    #กระแสเอเชียใต้ #เอเชียใต้ #โรคระบาด #อัพเดทสถานการณ์

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาลปากีสถานประกาศตรวจไวรัสฟรีทั่วประเทศ ปิดพรมแดนฝั่งตะวันตก
    .
    ขอมาอัพเดทสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทสปากีสถานกันบ้างครับ หลังจากหลายวันมานี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ #โควิด19 เขาพุ่งกันรัว ๆ จากหลักไม่ถึง 20 คน ผ่านมาประมาณ 3 วัน ตอนนี้ยอดพุ่งไปที่ 94 คนแล้ว โดยในจำนวนนี้มีประชากรกว่า 4000 คนอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง
    .
    ทั้งนี้จำนวนผู้ติดเชื้อเกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในแคว้นสินธ์ของปากีสถาน โดยส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อนั้นไปแสวงบุญในอิหร่านก่อนจะข้ามพรมแดนกลับเข้ามายังปากีสถาน ทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มเติมไปยังคนในครอบครัว
    .
    ด้วยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้รัฐบาลปากีสถานมีการยกระดับสถานการณ์การรับมือกับโรคระบาด โดยรัฐบาลได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อรับมือกับโควิด 19 โดยเฉพาะ เพื่อระดมทรัพยากรและเป็นแหล่งกระจายข้อมูลให้เหลือจุดเดียว
    .
    ที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้รัฐบาลได้ประกาศให้การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด19 ในศูนย์พยาบาลของรัฐทั้ง 8 แห่ง ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อให้ได้ไวที่สุด และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง
    .
    รัฐบาลปากีสถานประกาศปิดด่านพรมแดนฝั่งตะวันตกที่ติดกับประเทศอิหร่าน และอัฟกานิสถาน เป็นเวลาสองสัปดาห์ เพื่อลดการเคลื่อนย้ายของประชาชนไปยังพื่นที่เสี่ยง และลดการระบาดจากภายนอก และปิดสนามบินนานาชาติ เหลือ 3 สนามบิน
    .
    ยิ่งไปกว่านั้นรัฐบาลได้ประกาศยกเลิกกิจกรรมทั้งหมดที่จะส่งผลให้ประชาชนมารวมตัวกัน สั่งปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถานบันการศึกษา จนถึงวันที่ 5 เมษายน
    .
    ผมแอบสนใจปากีสถานเพราะว่าก่อนหน้านี้ปากีสถานพึ่งประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนักหนาสาหัสจนหาเงินใช้หนี้แทบไม่ได้ แต่การตัดสินใจเขากลับเด็ดขาดมาก ไม่แคร์เรื่องเศรษฐกิจเท่าไหร่ ทั้งยังผันงบประมาณจำนวนมากมาที่เรื่องสุขภาพด้วย
    .
    มันเลยเกิดคำถามกับตัวผมเองครับว่าแล้วบ้านเราทำไมทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ จะบอกกลัวเศรษฐกิจมีปัญหา ปากีสถานเศรษฐกิจแย่กว่าเราเขายังทำได้เลยครับ
    .
    #กระแสเอเชียใต้ #ปากีสถาน #โรคระบาด #ปิดเมือง #ตรวจไวรัสฟรี #ปิดโรงเรียน

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วนสุด จ.อุบลฯ ให้กลุ่มเสี่ยง COVID19รายงานตัว

    FB_IMG_1584634656313.jpg

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก มุมหุ้น

    P/E กลุ่มโรงแรมตอนนี้ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 11x เทียบกับ 36x ตอนต้นปี 2018
    -
    อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรตระหนักถึงความผันผวนของฐานกำไรธุรกิจโรงแรม โดยลักษณะของธุรกิจ โรงแรมนั้นมีต้นทุนคงที่ (fixed cost) สูงถึง 70% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด เป็นเหตุให้เราได้เห็นการขาดทุนอยู่บ่อยๆในช่วงที่ RevPAR ตก และในทางกลับกันกำไรโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่ RevPAR ขึ้นสูง
    -
    การใช้ P/E ปีต่อปีเป็นตัวประเมินค่าธุรกิจโรงแรม จึงเป็นวิธีที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ นักลงทุนจึงควรดูว่าฐานกำไรที่ยั่งยืนนั้นอยู่ที่ระดับไหน และใช้ฐานกำไรนี้เป็นตัวกำหนดว่าหุ้นดู ”ถูก” หรือ “แพง” #หุ้นไทย #หุ้นโรงแรม #โควิด19 #ลงทุน

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ด่วนนน ⚠️ #สงครามราคาน้ำมันเดือดขึ้นไปอีกขั้น ! หลังซาอุสั่งลดกำลังการกลั่นของโรงกลั่นตัวเองลงเพื่อที่จะได้เพิ่มกำลังส่งออกให้มากขึ้นไปอีก !

    เพียงแค่วันเดียวหลังจากราคาน้ำมันดิบลดลงกว่า -20% จนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปีเมื่อคืนนี้ ทางซาอุยังได้ออกมาตรการที่จะกดดันราคามากไปกว่านี้อีก !

    โดยทาง Saudi Aramco บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุ ได้สั่งลดกำลังการกลั่นใน 2 เดือนหน้าของโรงกลั่นตัวเองลง (แบบตั้งใจ) เพื่อที่ว่าจะได้มีน้ำมันดิบเหลือมาส่งออกมากขึ้น เรียกได้ว่าตั้งใจที่จะกดดันราคาน้ำมันโลกให้หนักขึ้นไปอีก เพื่อกดดันการผลิตเชลออยล์ในสหรัฐและกดดันทางพันธมิตรที่หักหลังไม่ให้การร่วมมือกับกลุ่มโอเปกอย่างรัสเซีย

    โดยปกติแล้วทางซาอุมีกำลังการกลั่นมากกว่าความต้องการใช้ในประเทศ เพื่อที่จะได้เพิ่มมูลค่าของน้ำมันดิบตัวเองกลั่นออกมาส่งออกเป็นน้ำมันสำเร็จรูปแทน แต่วันนี้นั้นทางซาอุกลับไม่สนมูลค่าเพิ่มตรงนั้นแล้ว ยอมหั่นขาตัวเองให้ได้เงินน้อยลงเพื่อแลกกับการที่จะมีน้ำมันดิบเหลือให้ส่งออกมามากขึ้น

    #สงครามราคาครั้งนี้ยิ่งวันยิ่งจริงจังและน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆครับ

    โดยผลกระทบต่อ #ค่าการกลั่นนั้นอาจจะดีขึ้นเล็กน้อย เพราะทางโรงกลั่นอื่นๆในโลกจะได้ตลาดส่วนแบ่งมากขึ้นหลังจากทางซาอุกลั่นน้อยลง

    ราคาน้ำมันในขณะนี้

    ราคาน้ำมันดิบ Brent = 25.7 เหรียญ
    ราคาน้ำมันดิบ WTI = 22.17 เหรียญ

    โดยล่าสุดทาง #นักวิเคราะห์ดัง อย่าง Goldman Sachs และ Standard Chartered ก็ได้ปรับเป้าราคา Brent ลงไปอยู่ที่ 20 เหรียญต่อลาร์เรลในไตรมาสที่ 2 นี้ หากสงครามครั้งนี้ยังไม่ยุติลง

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ด่วนนน ⚠️ #ธนาคารกลางอังกฤษ สั่งหั่นดอกเบี้ย -0.15% ลงมาระดับต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ ! และอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มอีก 2 แสนล้านปอนด์ !

    เป็นประเทศล่าสุดที่ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสู้ไวรัสกันแล้ว ทำให้ #ตลาดหุ้นทั่วโลก เริ่มทรงตัวได้แล้วติดตามดูกันต่อว่าจะเริ่มดีดขึ้นไหม ?

    ในที่สุดวันนี้ทางอังกฤษก็ได้ออกมาขยับตัวครั้งใหญ่นะครับ หลังจากที่โดนทั้งโลกกดดันว่ามาตรการรับมือไวรัสนั้นยังหละหลวมกว่าประเทศอื่นๆมาก เช่นการยังไม่ยอมปิดโรงเรียนหรือยังมีการปล่อยให้แสดงคอนเสิร์ตได้อยู่ ทำให้ตลาดเสียความมั่นใจและ เทขายค่าเงินปอนด์จนอ่อนค่าลงมาที่ 1.2 ปอนด์ต่อดอลล่าร์ #อ่อนค่าที่สุด ในรอบ 35 ปี ! นับตั้งแต่ปี 1985 เลยทีเดียว

    โดยยอดผู้ติดเชื้อโดยรวมของอังกฤษตอนนี้อยู่ที่ 2,644 รายและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 104 ราย

    วันนี้ทางรัฐบาลอังกฤษได้ออกมาแก้ตัวครั้งใหญ่ สั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศและปิดรถไฟใต้ดิน 40 สถานีในกรุงลอนดอน และทางธนาคารกลางยังได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่กล่าวไป สั่งหั่นดอกเบี้ย -0.15% ลงมาอยู่ที่ 0.1% เท่านั้น ลงมาต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์และอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มอีก 2 แสนล้านปอนด์ผ่านการซื้อคืนพันธบัตร

    โดยรวมแล้วรัฐบาลทั่วโลกได้เข้ามาหั่นดอกเบี้ยจนลงต่ำสุดในประวัติศาสตร์กันหลายประเทศแล้ว (รวมถึงไทยด้วย) และได้อัดฉีดเงินเข้าระบบไปเกินกว่า 3 ล้านล้านเหรียญแล้ว !

    โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ เพียงแค่ในอาทิตย์นี้เองดังนี้ ( เหรียญสหรัฐ)

    สหรัฐประกาศอัดฉีด 1.2 ล้านล้านเหรียญ
    ธนาคารกลางยุโรปอัดฉีด 8.2 แสนล้านเหรียญ
    ธนาคารกลางอังกฤษวันนี้ 2.3 แสนล้านเหรียญ
    ญี่ปุ่น 2.76 แสนล้านเหรียญ
    แคนาดา 0.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
    + ประเทศอื่นอีกมากมายนับไม่ถ้วน

    อีกทั้งทาง FED ธนาคารกลางสหรัฐยังได้ทำข้อตกลง Swap กับธนาคารกลางหลายแห่งในโลกเช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บราซิล เดนมาร์ก เม็กซิโก นอร์เวย์ สวีเดน เกาหลีใต้ และ สิงคโปร์ เพื่อจะได้อัดฉีดเงินดอลลาร์สหรัฐเข้าไปทั่วโลกได้อย่างคล่องตัว !

    ทำให้ #ตลาดหุ้น คืนนี้เริ่มทรงตัว ! (แนบตลาดรวมในคอมเม้นท์) โดยถ้าอัดฉีดกันขนาดนี้แล้วตลาดยังลงอยู่... โดยที่ตัวเลขระบาดของไวรัสไม่ได้มีอะไรเซอไพรส์มาก... ก็คงจะตัวใครตัวมันแล้วครับ...

    #เพราะธนาคารกลางทั่วโลกอัดฉีดกันเข้ามาอย่างหมดแม็กแล้ว

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด19 ยืนยันแล้วทั้งหมด 24 จังหวัด ดังนี้ครับ...

    FB_IMG_1584635221705.jpg

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [ แนะนำให้ดู เสียสละสักนิด ] อาจจะเข้าใจยาก แต่ก็ควรรู้

    อาจารย์ทวีสุข ธรรมศักดิ์ - ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนระหว่างประเทศ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หุ้นลงทุนแนะนำ กรุงไทย และคาดว่า หุ้น SET จะลงอีกครั้ง หลังการประกาศงบ Q1/2020

    KTZ : Investment Theme

    ดัชนีฯ เป้าหมายปี 20E อยู่ที่ 950 จุด โดยจุดต่ำสุดคาดอยู่ในเดือน พ.ค. อิงกำไร 1Q20E ออกมาแย่

    ที่มา : KTZ Research

    -------------------------------
    #ไม่พลาดหุ้นเด่นประจำวันและหลากหลายข้อมูลลงทุนเพียง...
    ⭐กดติดดาวเพจ Krungthai Zmico #เห็นโพสต์ก่อน #SeeFirst⭐
    Twitter >> https://twitter.com/krungthaizmico

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหมือนสงครามน้ำมันไม่จบง่ายๆ แหะ

    หลังซาอุดิอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ประกาศจะลดการกลั่นน้ำมันในเดือนเมษายน และพฤษภาคม

    เพื่อกระตุ้นการส่งออกน้ำมัน โดยมีเป้าอยู่ที่ 12.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) เพื่อที่จะกดดันการแข่งขันเรื่องราคากับรัสเซีย ต่อไปอีก ซึ่งองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก หรือ OPEC ออกมาตอบโต้ว่า การที่การกระทำแบบนี้ ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกเสียหาย มูลค่ามากกว่าพันล้านดอลลาร์

    โดยการแข่งขันรายใหญ่ Top 2 และ 3 ของโลก ที่ผ่านมา 1 เดือน ส่งผลให้กระทบหุ้นพลังงานไปทั่วโลก และราคาน้ำมันดิ่งมากกว่า 57%

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้าที่ผ่านมาเรียกว่าฝนตกหนัก หลังจากนี้ก็เหมือนพายุลูกใหญ่กำลังมา

    เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงอีกเฉลี่ย -5%

    Dow Jones -1,338.46 จุด (-6.30%)
    S&P 500 -131.07 จุด (-5.18%)
    NASDAQ -344.94 จุด (-4.70%)

    ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐเล็งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 โดยรัฐบาลสหรัฐฯจะจ่ายเช็คให้แก่ชาวอเมริกันครัวเรือนละ 1,000 ดอลลาร์ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า

    แถมยังมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 8.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์แก่อุตสาหกรรมการบิน

    แต่เหมือนตลาดจะกลัวมากกว่ามั่นใจว่าสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่นี้ แสดงว่ามันกระทบกับเศรษฐกิจหนักกว่าที่ทุกคนคิดไว้

    ราคาสินทรัพย์ที่ถูกกระทบหนักสุดในรอบนี้ กลับเป็น “ราคาน้ำมัน”

    ล่าสุด เมื่อคืนนี้ Crude Oil WTI ในสหรัฐฯ ราคาร่วงหนักหลุดต่ำกว่า $23 หรือ ลบมากกว่า -20% ภายในวันทำการเดียว ก่อนมีเด้งขึ้นมาเทรดที่ $23.40 ณ ตอนนี้ผมเขียนอยู่ตอนนี้ (5.42น.)

    ทำไม ราคาน้ำมัน ลงเละเทะขนาดนี้?

    ด้าน Supply - เหตุการณ์มันเริ่มจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีคำสั่งให้ Saudi Aramco ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาล เพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 13 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ 12 ล้านบาร์เรล/วัน ทำสงครามราคาเต็มรูปแบบกับรัสเซีย และทำให้ผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกได้รับผลกระทบอยู่ตอนนี้

    ด้าน Demand - การสั่งปิดประเทศ งดกิจกรรมทางเศรษฐกิจชั่วคราว และ นโยบายกักตัวผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อ ทำให้การเดินทางลดลง ความต้องการน้ำมันจึงน่าจะลดลงตามไปด้วย อีกทั้งปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งจะมีประกาศระงับการเดินทางจากประเทศเสี่ยงเพิ่มเติม ก็ทำให้อุปสงส์ดูจะแย่ลงไปได้อีก

    จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร?

    ทุกคนก็รู้ดีว่า ต้องกลับมาตรึงกำลังการผลิตกันอีกครั้ง อย่างที่ นายเทเมอร์ อัล-กาดบาน รัฐมนตรีน้ำมันอิรัก ได้ออกมาเรียกร้องเมื่อวานนี้ว่า ขอให้กลุ่ม OPEC และพันธมิตรจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือกันเกี่ยวกับการออกมาตรการพยุงราคาน้ำมันให้ได้

    แต่สุดท้าย สัญญาณจากซาอุฯ และรัสเซีย ก็ยังเงียบอยู่ในเวลานี้

    รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย เพิ่งจะบอกเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า รัสเซียจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 200,000 บาร์เรลในเดือนหน้า

    ล่าสุด Goldman Sachs ออกบทวิเคราะห์ อุปสงค์น้ำมันจะหดตัวลง 8 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในปลายเดือนนี้ และจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงมากเป็นประวัติการณ์

    Supply เพิ่ม แต่ Demand ก็ลง ผลคือ Goldman Sachs ปรับประมาณการราคาน้ำมันลงเหลือ $20 ใน 2Q2020 แล้วถึงจะค่อยขยับขึ้นมาได้ปลายปี

    -------------------------------------

    ฝุ่นตลบอยู่ตอนนี้ แล้ว Fund Flow ของโลก วิ่งไปทางไหน?

    คำตอบคือ วิ่งไปถือ “เงินสด” ล่าสุด เมื่อคืนราคาทองก็ร่วงหลุด $1,500 อีกรอบ จากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยล่าสุด Dollar Index แข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 101.25 แข็งค่าที่สุดในรอบ 3 ปี โดยมีแรงขายตราสารหนี้ระยะยาวออกมาทำให้ Bond Yield เด้งขึ้นทุกช่วงอายุ

    -------------------------------------

    สถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19

    1. ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวมทะลุ 2 แสนคนไปแล้ว โดยเสียชีวิตไป 8,275 ราย

    2. อินโดนีเซียยกเลิกวีซ่าชั่วคราวทุกประเทศ 1 เดือน พร้อมระงับการเข้าเมืองจากผู้เดินทางที่เคยไปประเทศเสี่ยงช่วง 14 วัน

    3. World Bank ให้สินเชื่อ $100 million ช่วยฟิลิปปินส์สู้ Covid-19

    4. ขณะที่รัฐบาลไทยสั่งปิดสถานบันเทิง 14 วัน โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการ เตรียมความพร้อมรับมือหากสถานการณ์การแพร่ระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 โดยพร้อมยกระดับมาตรการที่เข้มข้นเข้มงวดมากขึ้น แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ พร้อมย้ำ “เราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ โดยรัฐบาลจะพยายามดูแลประชาชน และพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ให้ได้มากที่สุด”

    5. นักวิจัยจีนพบยาต้านไข้หวัด Avigan ของญี่ปุ่น รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้ผล เตรียมผลักดันให้ใช้ในวงกว้าง

    6. พนักงานของลาดหลักทรัพย์ NYSE ตรวจพบติดเชื้อ Covid-19 2 ราย ทำให้ NYSE ตัดสินใจปิดฟลอร์กระดานเทรดชั้นล่างเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด และหันไปใช้ระบบเทรด Electronic เต็มรูปแบบ

    ราคาน้ำมันร่วงขนาดนี้ ตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน เจอแรงขายหนักๆอีกวันแน่นอน เตรียมรับแรงกระแทกกันได้เลย

    Mr.Messenger รายงาน

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ผู้เสียชีวิตล้นสุสานในอิตาลี
    #สุดสะเทือนใจ

    เมื่อเที่ยงคืนวันหนึ่ง ที่เมือง Bergamo ในแคว้นลอมบาร์เดีย ในอิตาลี ชาวเมืองได้จับภาพแถวรถบรรทุกทหารนับสิบคัน ขนโลงศพจากสุสานออกนอกเมืองสร้างความสงสัยให้กับผู้คนในเมืองว่าเกิดอะไรขึ้น

    เมื่อคลิปวิดีโอนี้ นำไปเผยแพร่ในสื่อท้องถิ่นของอิตาลี ทางกองทัพจึงจำเป็นต้องออกมาแถลงข่าวว่า ได้ส่งทหารเข้าไปขนโลงศพออกมาจากเมือง Bergamo จริง ตามคำร้องขอของเทศบาลเมือง

    อันเนื่องจากมีศพผู้เสียชีวิตจากไวรัส Covid-19 เป็นจำนวนมากในช่วงนี้ ที่รอการทำพิธีฌาปนกิจ และมีมากเกินไปจนทางสุสานจัดงานไม่ทัน อีกทั้งรัฐบาลอิตาลีได้ออกมาตรการปิดประเทศ ทำให้ไม่สะดวกในการขนย้ายโลงศพ เพื่อแบ่งไปทำพิธีฌาปนกิจที่สุสานในเมือง อื่นๆ จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากทางกองทัพ

    ซึ่งทางกองทัพก็ตอบรับและจัดกำลังพลมาให้ถึง 50 นาย พร้อมรถบรรทุกทหาร 15 คัน มาปฏิบัติภารกิจ ถึงแม้จะเลือกเวลายามวิกาลแล้ว เพื่อไม่ให้รบกวนชาวเมือง และการขนโลงศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากในช่วงเช้าอาจทำให้บรรยากาศดูเศร้าสลดเกินไป

    แต่การใช้รถทหารนับสิบคัน มาจัดลำเลียงโลงศพในคราวเดียว ต่อให้เป็นเวลาไหนก็สะดุดตาอยู่ดี และถึงยังไงก็หลีกเลี่ยงอารมณ์เศร้าหมองของชาวเมืองไม่ได้ ที่เห็นเพื่อนบ้าน ญาติมิตรต้องจากไปเป็นจำนวนมาก ในเวลาอันสั้น

    โดยเฉพาะในแคว้นลอมบาร์เดียแห่งนี้ มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด เกือบ 2000 คนแล้ว

    สำนักข่าว Sky News เปิดเผยข้อมูลว่า ที่สุสานในเมือง Bergamo สามารถทำการฌาปนกิจได้เต็มที่วันละ 25 ราย นั่นหมายถึงเจ้าหน้าที่สุสานต้องทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีหยุดพัก แต่ก็ยังไม่ทันกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่ญาติส่งศพเพิ่มเข้ามาในสุสานทุกวันจนไม่สามารถจัดการได้ทัน

    ทางสุสานจึงได้ขอให้ทหารส่งศพกระจายไปทำพิธีฌาปนกิจตามสุสานที่เมือง Modena Acqui Terme Domodossola Parma Piacenza และเมืองอื่นๆ

    เมือง Bergamo แห่งนี้ มีรายงานผู้ติดเชื้อ Covid-19 ราว 1,245 ราย ทั้งหมอ และพยาบาล ในโรงพยาบาลประจำเมืองต่างทำงานกันเกินลิมิต ยอดผู้เสียชีวิตรวมในอิตาลีสูงถึง 2,978 ราย และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในอิตาลีจำเป็นต้องเพิ่มหน้าประกาศข่าวมรณกรรมจาก 2 หน้า เป็น 10 หน้าในช่วงนี้ทีเดียว

    แหล่งข้อมูล
    https://news.sky.com/story/coronavi...-as-citys-crematorium-is-overwhelmed-11959994
    https://nationalpost.com/pmn/enviro...-moves-coronavirus-dead-from-overwhelmed-town
    https://www.reuters.com/article/us-...irus-dead-from-overwhelmed-town-idUSKBN21615R
    https://en.m.wikipedia.org/wiki/2020_coronavirus_pandemic_in_Italy

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #จับตาเทศกาลแสวงบุญอินโดนิเซีย
    #ความเชื่อVSความเสี่ยง

    วันนี้ 18 มีนาคม หลายสำนักข่าวจับตางานเทศกาลแสวงบุญประจำปีของชาวมุสลิมในอินโดนิเซียวันนี้ ที่ประเมินว่าจะมีผู้แสวงบุญทั้งชาวอินโดนิเซีย และชาวต่างชาติกว่า 8,695 คนที่จังหวัดสุลาเวสีใต้ ในเกาะสุลาเวสี

    ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะขอความร่วมมือจากผู้จัดงาน ให้เลื่อนงานประจำปีออกไปก่อน เพราะวิกฤติไวรัส Covid-19 ที่กำลังประทุหนักในประเทศย่านอาเซียน โดยเฉพาะในอินโดนิเซีย ที่ตอนนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วถึง 227 คน และเสียชีวิตมากถึง 19 คน นับว่ามีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในอาเซียน

    แต่ทว่าผู้จัดยืนยันจะจัดงานในวันนี้ เนื่องจากเป็นประเพณีที่ต้องจัดเป็นประจำทุกปี

    เมื่อสอบถามทางผู้จัดว่า ไม่กลัวการระบาดของเชื้อไวรัสหรือ ทางผู้จัดยังยืนยันคำเดิมว่า มนุษย์เราต่างก็กลัวการเจ็บ ตายด้วยกันทั้งนั้น แต่เราหวั่นเกรงในพระเจ้ามากกว่า

    และนอกจากจะไม่เกรงไวรัสแล้ว ยังมีผู้แสวงบุญเดินทางมาร่วมงานไม่ขาดสาย ทั่วประเทศ และยังมีชาวต่างชาติด้วย ทั้งชาวอารบิก อินเดีย ฟิลิปปินส์ และไทย

    กรี๊ด!!! มีคนไทยไปงานนี้ด้วยหรือคะ

    ผู้จัดงานครั้งนี้ เป็นชาวมุสลิมกลุ่ม Tablighi Jama’at กลุ่มเดียวกับที่เคยจัดงานแสวงบุญที่มัสยิด ศรีปาตาลิง ในมาเลเซีย เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว จนเป็นเหตุทำให้เกิดการแพร่กระจายไวรัส Covid-19 จากคนในงานกว่า 190 คน และกระจายอย่างรวดเร็วจนมาเลเซียต้องตัดสินใจใช้นโยบายปิดประเทศไปแล้ว

    แต่เขาก็ยังจะเดินหน้าจัดงานกันต่อที่อินโดนิเซีย โดยไม่ฟังคำทัดทานจากรัฐบาลอินโดนิเซีย และยังมีผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมากอีกด้วย

    นอกจากนี้ หน้ากากอนามัยก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ของที่อินโดนิเซียเหมือนกัน โดยเฉพาะโรงพยาบาลในสุลาเวสี ขาดแคลนหน้ากากหนักขนาดที่ต้องเลื่อนกำหนดผ่าตัดคนไข้ที่ไม่ฉุกเฉินออกไปก่อน เพราะแพทย์ พยาบาล มีหน้ากากอนามัยจำกัดมาก ต้องใช้สำหรับเคสผ่าตัดฉุกเฉินเท่านั้น

    ในเมื่อสถานการณ์สุ่มเสี่ยงถึงขนาดนี้ ก็ไม่ควรจัดงานที่รวมผู้คนจำนวนเกือบหมื่นในช่วงเวลานี้

    แต่ทว่า เพื่อความเชื่อ และแรงศรัทธา จึงยอมแลกกับความเสี่ยง

    สิ่งที่น่ากังวลสำหรับบ้านเราคือ พอจะตรวจสอบได้หรือไม่ว่า มีคนไทยเดินทางไปร่วมงานนี้กี่คน และเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะรีบประสานงานดูแลคนไทยกลุ่มนี้ ให้รีบกักตัว และตรวจเชื้อเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนแต่เนิ่นๆ จะดีมากเลยนะค้า

    แหล่งข้อมูล
    https://www.straitstimes.com/asia/s...rims-ignore-virus-risk-to-gather-in-indonesia
    https://mothership.sg/2020/03/indonesia-religious-mass-gathering-covid-19/
    https://www.thejakartapost.com/news...east-sulawesi-hospital-runs-out-of-masks.html
    https://www.thejakartapost.com/news...ghest-death-toll-in-southeast-asia-at-19.html
    https://www.freemalaysiatoday.com/c...tanding-the-tabligh-movement-beyond-covid-19/

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #เรื่องจริงอิงนิยายในหมอยาท่าโฉลง
    #โรคห่ากับมาตรฐานสาธารณสุขไทย

    FB ส่วนตัวเด้งความทรงจำของปีที่แล้ว ที่เคยเขียนเรื่องจริงในละคร "หมอยาท่าโฉลง" ที่กำลังดัง มาแชร์กันสนุกๆ กับเพื่อนๆในเพจ ไม่น่าเชื่อว่า หลังจากที่ผ่านไป 1 ปีเต็มๆ บ้านเราจะเกิดเหตุการณ์ Covid-19 ลงไม่ต่างจากในละครแม้แต่น้อย

    หากแต่เพียง ท่าโฉลง จะเปรียบเหมือนไทย ประเทศขนาดย่อมในสังคมโลกใบใหญ่ "ทองเอก" ก็คงเป็นเหมือนทีมแพทย์ พยาบาลไทย ในตอนนี้ ที่ต้องพลิกตำรา ต้มยารักษากันเองตามอาการ ด้วยความหวังให้ผู้ไข้จำนวนมากมาย และกำลังจะตามมาอีกเท่าไหร่ให้หายขาดและรอดชีวิต

    เรื่องราวที่เราเคยดูในละครขำๆ เมื่อปีที่แล้ว ย้อนกลับมาสะกิดใจเราได้อย่างเจ็บปวดใจในวันนี้ได้อย่างไร เรามาลองย้อนอ่านดูอีกสักรอบดีกว่า

    ถึงแม้ "หมอยาท่าโฉลง" จะเป็นละครตลก เนื้อหาสไตล์ไทยๆ มีฉากพ่อแง่ แม่งอน จังหวะนรก ตลกรั่ว ไร้สาระบ้าง แต่ก็มีหลายตอนที่เนื้อหาดีมาก โดยเฉพาะตอนล่าสุด Ep.13 ที่ออกอากาศไปเมื่อวันพฤหัสที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่ส่วนตัวขอยกให้เห็นตอนที่ดีที่สุดของละครเรื่องนี้ ซึ่งเป็นตอน "ห่าลงท่าโฉลง"

    ได้เห็นหลายฉากที่แสดงถึงสังคมไทยยุคนั้นที่ยัง "อ่อนต่อโรค" อยู่มาก และความขาดแคลน ปัญหาการเข้าไม่ถึงสวัสดิการสาธารณสุขของภาครัฐ ที่ทำให้เกิดการพัฒนา ต่อยอดจนกลายเป็นระบบการแพทย์ระดับมาตรฐานของไทยในปัจจุบัน

    วันนี้ก่อนจะถึงตอนอวสานของละครเรื่องนี้ เรามา Reality check กันหน่อยว่าเบื้องหลังประวัติศาสตร์ก่อนถึงตอน "ห่าลงท่าโฉลง" มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

    ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจนิดนึงว่าโรคระบาดหนักๆที่คนไทยกลัวกันมาแต่โบราณมี 3 โรคคือ
    - ไข้ทรพิษ ที่คนไทยสมัยก่อนเรียกว่า ขี้เรื้อน
    - กาฬโรค หรือไข้ดำ บางทีคนไทยก็เรียกโรคห่า (โรคที่เป็นแล้วตาย รักษาไม่หาย ชาวบ้านก็เหมาเรียกโรคห่ากันหมด)

    และ อหิวาต์ ที่น่าจะชื่อ "โรคห่า" อย่างเป็นทางการ

    โรคห่า หรือ อหิวาต์ ในสยามประเทศ มีระบาดหนักมาหลายครั้ง แต่ครั้งที่หนักที่สุด ที่มีการอ้างถึงในละครคือ "ห่าลงปีระกา" และ "ห่าลงปีมะเส็ง"

    ห่าลงปีระกา เกิดในปีพ.ศ. 2392 ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๓ ที่มีคนตายในช่วงที่เกิดโรคห่าระบาดครั้งนั้นไม่ต่ำกว่า 40,000 คน ทั่วประเทศ เจ้าฟ้ามงกุฏ (ต่อมาคือรัชกาลที่ ๔) ขณะนั้นทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรฯ ได้รับสั่งให้ลำเลียงศพคนตายจากโรคห่าในพระนครมาเผารวมที่ 3 วัด คือ วัดสระเกศ วัดสังเวช และวัดบพิตรพิมุข แม้แต่เจ้านายชั้นผู้ใหญ่อย่าง เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ก็สิ้นเพราะติดเชื้ออหิวาต์ ในช่วง "ห่าลงปีระกา" เช่นเดียวกัน และได้ตั้งเมรุพระราชทานเพลิงศพกันที่วัดสระเกศ

    สาเหตุหลักๆที่คนไทยมักเสียชีวิตจากโรคห่า เวลา "ห่าลง" เป็นจำนวนมากๆ เพราะขาดความเข้าใจเรื่องอหิวาต์ คือคนไทยไม่รู้จักมันนั่นเองว่ามันเกิดจากอะไร ติดต่อกันอย่างไร เวลาเกิดคนตายก็โยนศพทิ้งแม่น้ำ

    คนเป็นใช้น้ำ คนตายโยนทิ้งน้ำ เวลาเกิดโรค ทางการก็พิธีอาพาธพินาศ ตั้งน้ำมนต์ตระเวณพรมทั่วเมือง ซึ่งก็คือน้ำตามลำคลองที่มีศพลอยมานั่นแหละ กระจายกันทั่วถึงดีนักแล

    กว่าจะรู้ว่าศพทิ้งน้ำไม่ได้ ต้องเผา! ก็ระบาดทั่วเมืองแล้ว ถึงจะบริหารงานเผาตลอดวันถึง 3 วัด ก็ยังเผาไม่ทัน ซากศพกองพะเนินล้นวัด จนนกแร้งมาจิกกินเป็นฝูงใหญ่ ชวนสังเวชใจ

    ส่วน "ห่าลงปีมะเส็ง" นั้นเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2424 32 ปีให้หลังจาก "ห่าลงปีระกา" ซึ่งตรงกับรัชสมัยของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕

    ข้อแตกต่างระหว่างเหตุการณ์ 2 ห่า คือ ในสมัย ร.๕ นั้น ทางการรู้จักโรคห่าแล้วว่ามันคือ อหิวาตกโรค เมื่อเกิด "ห่าลงปีมะเส็ง" ทางการจึงไม่ทำพิธีอาพาธพินาศ ทำน้ำมนต์อีกต่อไป แต่ให้กรมสุขาภิบาลทำเอกสาร ใบปลิว แจกประชาชนแทน ให้งดใช้น้ำไม่ต้ม งดบริโภคอาหารดิบ อาหารบูดเสีย ไม่ใช้ข้าวของร่วมกับผู้ป่วย ห้ามขับถ่าย ทิ้งศพลงแม่น้ำ และมีการตั้งห้องส้วมสาธารณะ และมีกองเก็บถังส้วมไปทำลาย

    สมัย ร.๕ ยังมีการตั้งสถานพยาบาลชั่วคราวขึ้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี เป็นหน่วยรักษาโรคห่าโดยเฉพาะ และทีมแพทย์พิเศษ นำโดย สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจตุรนต์รัศมี กับกลุ่มพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการอีก 48 คนตั้งโอสถสถานรักษาผู้ป่วยโรคห่าตามหัวเมืองต่างๆ ปรุงยาแผนไทย วิสัมพญาใหญ่ ยาหยอดการบูร แจกจ่ายให้ชาวบ้านไปรักษาโรค

    เมื่อเหตุการณ์ "ห่าลงปีมะเส็ง" คลี่คลายล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ รับสั่งให้สร้างเหรียญที่ระลึกพระราชทานให้เป็นรางวัลแก่ทีมแพทย์ 48 คนที่ช่วยปรุงยารักษาโรคห่าในครั้งนั้น หน้าเหรียญที่ระลึกรุ่นนั้น ปั๊มเป็นรูปเทพดาถือพวงมาลัย ระบุปี จุลศักราช ๑๒๔๓ ซึ่งตรงกับปี พ.ศ. 2424 ด้านหลังเป็นรูปพวงมาลัยล้อมข้อความว่า "พระราชทานรางวัลเป็นที่ระลึกในการรักษาคนเจ็บอหิวาตกโรค"

    ส่วนสถานพยาบาลชั่วคราวริมแม่น้ำฝั่งธนแห่งนั้น ได้ปรับปรุงให้เป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนใหม่แห่งแรกในประเทศไทย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2431 ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดอาคารใหม่ด้วยพระองค์เอง แล้วพระราชทานนามว่า "โรงพยาบาลศิริราช"

    ย้อนกลับมาที่เรื่องราวในหมอยาท่าโฉลง เกริ่นเรื่องไว้ว่าตัว "ทองเอก" เกิดในปีพ.ศ. 2419 สมัยรัชกาลที่ ๕ ในครอบครัวหมอยาในอยุธยา กำพร้าพ่อ แม่ ที่ติดเชื้อโรคห่า (กาฬโรค) จากคนไข้ จึงเรียนวิชาหมอยาจากอาจารย์ปู่นับสิบปี และในละครตอนที่ 13 นี้มีการประชุมทีมแพทย์พระนครเรื่องโรคอหิวาต์ระบาด และยกตัวอย่างเหตุการณ์ ห่าลงปีระกา และห่าลงปีมะเส็ง แสดงว่า โรคห่าระบาดในท่าโฉลงต้องเกิดหลังจากปี พ.ศ.2424

    ตามหนังสือประวัติศาสตร์ "McFarland of Siam" เขียนโดย Bertha Blount McFarland อ้างถึงการระบาดของโรคอหิวาต์อีกครั้งในสมัย ร.๕ ในปีพ.ศ. 2443 ที่มีคนตายหลายหมื่นรวมถึงพี่ชายของผู้เขียนด้วย

    ซึ่งในช่วงปีนั้น หมอทองเอกตามท้องเรื่องจะมีอายุ 24 ปีที่น่าจะมีฝีมือ และวุฒิภาวะเพียงพอที่จะรักษาคนได้ หรือมีเมีย

    วิธีการรักษา และการดูแลสุขอนามัย มีแนวคิดสมัยใหม่ และรู้จัก "เชื้อโรค" แล้ว เป็นการพัฒนาความรู้ด้านการแพทย์ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ชัดเจน

    แต่ที่ล้าหลังนั้นกลับเป็นระบบราชการ ที่กระจายความเจริญยังไม่ทั่วถึง การเข้าถึงการรักษาสมัยใหม่กระจุกอยู่แต่ในเมือง บุคลากรด้านการแพทย์ขาดแคลนอย่างหนัก แต่ที่สาหัสที่สุดคือข้าราชการท้องถิ่นไม่ทำหน้าที่

    ขุนหลวงกสิกรรม พ่อของนางเอก น่าจะเป็นขุนนางที่ใหญ่โตที่สุดในท่าโฉลง ที่ดูเหมือนวันๆไม่ทำอะไร ว่างเป็นเข้าบ่อน เล่นพนัน เสียไพ่ เสียโปจนเป็นหนี้ท่วมหัว ถึงขนาดต้องยอมแต่งลูกสาวล้างหนี้

    ขนาดชาวบ้านในพื้นที่เป็นห่าระบาด กลับไม่เห็นท่านขุนจะทำอะไร ใบประกาศแนะนำสาธารณสุขที่เป็นผลงานดีเด่นของกรมสุขาภิบาล ตั้งแต่ตอนห่าลงปีมะเส็ง ไม่ถึงท่าโฉลงแม้แต่ใบเดียว ปล่อยให้หมอยาบ้านนอกจนๆเดินไปบอกชาวบ้านทีละคน เมื่อไหร่จะทั่วหมู่บ้าน!

    ความจริงที่เจ็บปวดกว่านั้นคือ ในสมัยร.๕ โอสถสภาไทยในพระนครมียาแก้อหิวาต์โดยตรงแล้ว เรียกว่ายาขวดแตก สำเร็จรูป ไม่ต้องต้มให้วุ่นวาย ทั้งๆที่ท่าโฉลงก็ไม่ใช่หัวเมืองไกลปืนเที่ยงมากมาย แต่กลับเข้าไม่ถึงตัวยาแผนใหม่!

    และท่านขุนก็ไม่คิดจะเข้าพระนครไปว่าราชการ บอกเล่าทุกข์ชาวบ้าน หรือเปิดโลกทัศน์เรื่องในบ้านเมือง วันๆเกียจคร้าน แม้แต่หนังสือราชการยังไม่คิดจะเขียนเอง

    ละครยังเสียดสีแสบลงไปกว่านั้นก็คือ คนที่หูตาทันสมัย รู้เห็นเหตุการณ์ฉับไว กลับไม่ใช่คนไทย แต่เป็น
    จินเหล็ง พ่อค้าเจ็กที่ล่องเรือค้าขายตามหัวเมืองริมแม่น้ำที่แม้แต่คุณนายกิ่งแข เจ้าของโรงสีท่าโฉลงแสนขี้เหนียว ยังยอมเจียดเงินจ้างแกมาสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆโดยไม่รังเกียจ

    และหลังจากปี พ.ศ.2443 ห่าลงท่าโฉลงตามเนื้อหาในนิยาย ก็เกิดโรคห่าระบาดในไทยหลังจากนี้อีกประปราย แต่คนตายเริ่มค่อยๆลดจำนวนลงมาก และแทบไม่เกิดการระบาดครั้งใหญ่อีกเลยหลังจากที่รัชกาลที่ ๕ มีพระราชโองการให้กรมสุขาภิบาลผลิตน้ำประปาใช้เป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2452 เป็นต้นมา

    และเหล่านี้คือเบื้องหลังเนื้อหาที่อ้างอิงประวัติศาสตร์จริง ในละครน้ำดีอีกเรื่องหนึ่งของบ้านเรา ที่เมื่อลองกลับมาอ่านทบทวนดูในสถานการณ์ตอนนี้ ยิ่งรู้สึกถึงปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมานาน เราก็ได้แต่หวังว่า เราจะกลับมาทบทวน และร่วมมือ สามัคคี แก้ปัญหาเหล่านี้กันอย่างจริงจัง เพื่อให้วิกฤติครั้งนี้ จบลงอยากสุขนาฏกรรมอย่างในละครที่เราชมกันนะค้า

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ออกมาโพสต์ข้อความว่า "ลงเรือลำเดียวกัน ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน" ประเทศจีนยินดีให้ความช่วยเหลือประเทศไทยในการต่อสู้กับโรคระบาดอย่างเต็มที่ ประเทศไทย และประเทศจีนเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดที่มีทัศนียภาพที่เชื่อมโยงกัน
    .
    ปีนี้เป็นปีครบรอบ 45 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ ในช่วงการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศจีน และประเทศไทยได้เอาชนะความยากลำบาก ดูแล และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แสดงให้เห็นถึงการร่วมกันฝ่าวิกฤต ร่วมทุกข์ร่วมสุข และการร่วมแรงร่วมใจของมิตรภาพดั้งเดิมระหว่างสองประเทศ
    .
    พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชสาส์นแสดงความห่วงใยไปยังนาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับฝ่ายจีน ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนอันมีค่าที่มอบให้กับฝ่ายจีน
    .
    ด้านผู้นำไทย เช่นพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร และทุกแวดวงสังคมไทยต่างก็ได้แสดงความห่วงใย และสนับสนุนฝ่ายจีน ช่วงระยะนี้ การระบาดของโรคในประเทศไทยรุนแรงมากขึ้น ประชาชนจีนรู้สึกเห็นอกเห็นใจ แม้ว่ากำลังเผชิญกับภารกิจต่อต้านการแพร่ระบาดในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นเดียวกัน ฝ่ายจีนยินดีที่จะช่วยเหลือฝ่ายไทยในรูปแบบต่างๆ เท่าที่จะทำได้
    .
    ช่วงไม่กี่วันมานี้นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย และได้เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแนะนำมาตรการของประเทศจีนในการช่วยเหลือประเทศไทยต่อสู้กับโรคระบาด
    .
    โดยรัฐบาลจีนจะให้ความช่วยเหลือฝ่ายไทยในการจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ อาทิเช่น ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากาก N95 และชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และประสานงานกับผู้ประกอบการให้จำหน่ายยาสำหรับรักษาไวรัสโควิด-19 ให้กับฝ่ายไทย โดยผู้ประกอบการจีนจะส่งออกเวชภัณฑ์มายังประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะตอบสนองต่อความต้องการสูงสุดของฝ่ายไทย กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจจีนในประเทศไทย และองค์กรมิตรภาพระหว่างประชาชนของจีน ต่างก็รวมตัวกันบริจาคเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับฝ่ายไทย
    .
    อุปทูตหยาง ซินกล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ประชาชนชนชาวจีนจะคอยอยู่เคียงข้างประชาชนชาวไทย ด้วยความร่วมมืออย่างจริงใจ และความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ทั้งสองฝ่ายจะสามารถเอาชนะโรคระบาดและฟื้นฟูการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างแน่นอน ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายจีนได้ให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ กับฝ่ายไทยในการต่อสู้กับโรคระบาด ด้านทีมของนายจง หนานซาน ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินหายใจของจีน จะคอยสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับทีมผู้เชี่ยวชาญของไทยเกี่ยวกับแผนการวินิจฉัย และการรักษาโรค
    .
    โดยฝ่ายจีนได้แบ่งปันประสบการณ์การต่อสู้กับเชื้อไวรัส เสนอแผนการการรักษาโรคโควิด-19 ฉบับที่ 7 ( Diagnosis and Treatment Protocol for Novel Coronavirus Pneumonia (Trial Version 7) และแผนการการป้องกัน และควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในการเดินทาง (Travel Guidelines for Epidemic Prevention and Control) โดยหน่วยงานวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีด้านการแพทย์ และยาเวชภัณฑ์ ของทั้งสองประเทศ ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 โดยเฉพาะ และวัคซีนป้องกัน
    .
    โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศได้สำรวจการจัดตั้งกลไกร่วมป้องกัน และควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เชื่อว่าภายใต้ความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย ในที่สุดแล้วจะสามารถเอาชนะโรคระบาดนี้ไปได้โดยเร็ววัน

    -------------------------------------
    แหล่งข้อมูล

    https://www.facebook.com/ChineseEmbassyinBangkok
    -------------------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันโลก
    กับ Thailand Vision

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 19 มีนาคม 2563 สำนักข่าวแนวหน้ารายงานว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงที่กรุงปักกิ่ง ว่า ทางการจีนประกาศยกเลิกหนังสือรับรองการทำงานของผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน จาก 3 สำนักข่าวของสหรัฐฯ ส่งผลให้สถานการณ์ระหว่างสองประเทศกลับมาตึงเครียด หลังสองฝ่ายมีปัญหาขัดแย้งเรื่องการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเสรีภาพของสื่อ
    .
    จีนประกาศตอบโต้สหรัฐฯ ที่จำกัดการทำงานของผู้สื่อข่าวจีนในอเมริกา ด้วยการยกเลิกหนังสือรับรองการทำงานในจีนของผู้สื่อข่าวหลายคน จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ หนังสือพิมพ์วอลสตรีทจัวร์นัล และหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ซึ่งจะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้
    .
    การเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีน ส่งผลให้ความขัดแย้งกับสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังสหรัฐฯ บังคับบริษัทสื่อสารมวลชนของจีนที่ประจำอยู่ในอเมริกา ลงทะเบียนในฐานะองค์กรต่างชาติ จีนระบุว่า ผู้สื่อข่าวที่ถูกเนรเทศ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานบนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง หรือมาเก๊า และพวกเขาจะต้องคืนบัตรผู้สื่อข่าวแก่เจ้าหน้าที่จีนภายใน 10 วัน การขับผู้สื่อข่าวครั้งนี้ คาดว่า มีผู้สื่อข่าวไม่ต่ำกว่า 13 คน ที่ได้รับผลกระทบ
    .
    ก่อนหน้านี้ จีนเคยขับไล่ผู้สื่อข่าว 3 คนของหนังสือพิมพ์วอลสตรีท จัวร์นัล ซึ่งเป็นชาวอเมริกัน 2 คน และชาวออสเตรเลีย 1 คน หลังบทความของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวเรียกจีนว่า “คนป่วยที่แท้จริงของเอเชีย” นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่น นอกจากนั้น สหรัฐฯยังลดจำนวนผู้สื่อข่าวของจีน ที่ได้ใบอนุญาตทำงานในอเมริกา จาก 160 คน เหลือเพียง 100 คน
    .
    หลังรับทราบข่าวนี้ นายไมก์ พอมเพโอ (Mike Pompeo) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาให้ความเห็นว่า รู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจดังกล่าวของจีน ที่จำกัดการส่งเสริมเสรีภาพสื่อทั่วโลก ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ดีต่อพลเมืองชาวจีน พร้อมระบุว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง และหวังว่ารัฐบาลจีน จะทบทวนการตัดสินใจนี้ใหม่
    .
    ขณะที่นายมาร์ติน บารอน (Martin Baron) บรรณาธิการบริหารของวอชิงตัน โพสต์ กล่าวว่า ทางบริษัทขอประณามการที่จีนสั่งขับไล่ผู้สื่อข่าวสัญชาติอเมริกันออกนอกประเทศ เพราะสิ่งที่กระทำนั้นเป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์โลกอยู่ในภาวะวิกฤติ และทุกคนจำเป็นที่จะต้องได้รับข่าวสารที่ชัดเจน และเชื่อถือได้เกี่ยวกับการรับมือการระบาดของโควิด-19

    -------------------------------------
    แหล่งข้อมูล
    https://www.naewna.com/inter/480223
    -------------------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันโลก
    กับ Thailand Vision

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำโดยนายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสายปฏิบัติการ นายปฎิคม วิวัฒนานนท์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ผู้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมรายงานถึงสถานการณ์การคัดกรองผู้โดยสาร ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
    .
    โดยนายกิตติพงษ์ยืนยันว่า ผู้โดยสารทุกคนได้ผ่านจุดตรวจ จุดคัดกรองที่มีเครื่องเทอร์โมสแกนของทางเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตัวผู้โดยสารเองก็ไม่ได้มีไข้ อีกทั้งประเทศสเปนก็ไม่ใช่ประเทศกลุ่มเสี่ยง 4 + 2 ตามที่ออกประกาศไว้ จึง ไม่จำเป็นต้องซักถามข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด
    .
    นายกิตติพงษ์ระบุเพิ่มเติมว่า การโพสต์ดังกล่าวสร้างความเสียหายให้ส่วนราชการหลายภาคส่วน อาจจะมีการดำเนินคดีในส่วนที่มีความเสียหาย ฐานโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จลงสู่คอมพิวเตอร์ และสร้าง Fake News ทำให้สังคมตื่นตระหนก โดยทางเจ้าหน้าที่พยายามติดต่อผู้โพสต์แต่ติดต่อไม่ได้ ยืนยันว่าการที่โพสต์ว่ามีผู้โดยสารเดินทางเข้ามา 500 - 600 คนสบายๆ ก็ไม่เป็นความจริง ปัจจุบันผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่เดินทางเข้ามาพร้อมกัน 500 - 600 แทบจะไม่มี บางเที่ยวบินมีผู้โดยสารเพียงหลักสิบเท่านั้น
    .
    นายปฎิคม วิวัฒนานนท์ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศได้แจงว่า ใครที่ผ่านเทอร์โมแสกนได้ในเบื้องต้น ก็ขอแสดงความยินดีที่ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่วางไว้ แต่สำหรับคนที่อุณหภูมิไม่ถึง 37.4 องศา แล้วเครื่องไม่แจ้งเตือนด้วยสี และแสง ก็จะไม่ถูกเรียกตรวจสอบ ยืนยันว่าการใช้เทอร์โมสแกนเพื่อความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพภายในสนามบิน
    .
    แต่ผู้ที่ผ่านเครื่องมือตรวจสอบมาได้แล้วก็ควรตระหนัก และมีความรับผิดชอบต่อสังคมในการตรวจสอบสุขภาพของตัวเอง และเมื่อกลับมาจากประเทศเสี่ยงก็ควรกักตัวเอง 14 วัน ขณะที่เมื่อวานนี้ ที่จุดการคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาในไทยได้กักตัว ผู้โดยสารชาวต่างชาติ 2 ราย ที่เดินทางเข้ามา และมีประวัติอยู่ในเรือสำราญไดมอนด์ ปริ๊นเซส และเรือสำราญเวสเตอร์ดัม เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ และเพื่อความปลอดภัย

    -------------------------------------
    แหล่งข้อมูล
    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/871570
    https://www.nationtv.tv/main/content/378766515/

    -------------------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันโลก
    กับ Thailand Vision

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,711
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้มีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเอกสารเผยแพร่เป็นคำสั่งจังหวัดนนทบุรีที่ 744/2563 เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 อันเป็นโรคติดต่ออันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณะสุข
    .
    ซึ่งปัจจุบันได้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรีซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่ง ที่มีประชากรหนาแน่น มีความเสี่ยงสูงที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดการชุมนุมของประชาชน เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรค
    .
    ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในการประชุม ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2563 ประกอบมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
    ...

    ข้อ 1 ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม 2563 ดังนี้

    .
    1.1 สถาบันอุดมศึกษา (รัฐ เอกชน)

    1.2 โรงเรียน (รัฐ - เอกชน - นานาชาติ)

    1.3 สถานกวดวิชา

    1.4 สถานประกอบกิจการโรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ

    1.5 สถานบริการ และสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ

    1.6 สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด เว้นแต่การให้บริการดังกล่าวในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

    1.7 สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร เว้นแต่การให้บริการดังกล่าว ในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

    1.8 สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

    1.9 สถานประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย รวมถึง สถานที่ออกกำลังกาย (Fitness) ภายในอาคารชุดที่พักอาศัย (คอนโดมิเนียม)

    1.10 สระว่ายน้ำ (รวมถึง สระว่ายน้ำของหมู่บ้าน หรือ อาคารชุดที่พักอาศัย)

    1.11 สนามพระ อำเภอบางใหญ่

    1.12 ร้านเกมส์ ร้านอินเทอร์เน็ต

    1.13 ร้านคาราโอเกะ

    1.14 เครื่องเล่นในอาคาร เครื่องเล่นชั่วคราว

    ....

    ข้อ 2 ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

    .
    2.1 สนามมวย

    2.2 สนามกีฬา

    2.3 สนามชนไก่

    2.4 สนามประลองไก่หรือสถานที่ซ้อมประลองไก่
    .

    ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558
    .
    -------------------------------------
    แหล่งข้อมูล

    https://www.thansettakij.com/conten...homepage_hilight&utm_medium=internal_referral

    -------------------------------------
    กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันโลก
    กับ Thailand Vision

     

แชร์หน้านี้

Loading...