ติดตามสถานะการณ์

Watchers


#PolarVortex



// รวมเหตุหนาวยะเยือก ฝั่งโซนสหรัฐอเมริกา //

30/01/19

มวลอากาศขั้วโลกเหนือ แผ่ลงมา ประเทศ #แคนาดาและ #สหรัฐอเมริกา

ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต และอันตราย มาก

อุณหภูมิลดต่ำสุดทำลายสถิติ หิมะสะสมประจำวันทำลายสถิติ

#temperatures #Chicago

•หลายเที่ยวบินถูกยกเลิก

•นักเรียนหลายพันคนที่ไม่สามารถเรียนได้

•หลายพันครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้

•เจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแล และจัดการถนนให้ใช้งานได้!

•หนาวจัดจุดเยือกแข็ง น้ำกลายเป็นไอน้ำแข็ง

•ชิคาโก ทำลายสถิติอุณหภูมิหนาวเท่าขั้วโลก

#Watchers

 

Watchers



#ข่าวภัยพิบัติ #Hailstorm

31/01/19

พายุลูกเห็บ รุนแรงมาก ที่มีความเร็วลมใกล้ 100 กม. / ชม. ทำลายโรงเก็บเครื่องบินเสียหายที่ Campo Marte ในเซาเปาโล ประเทศ #บราซิล #Brasil

เครดิต Dri Mendes

ผ่าน Tiempo Extremo News

#Watchers

 

Watchers



#ข่าวภัยพิบัติ

// ปรากฏการณ์พิเศษ #chicagovortex //

31/01/19

อุณหภูมิใน เมือง ออโรรา, ภูมิภาคของเมืองชิคาโกในรัฐอิลลินอยส์ #สหรัฐอเมริกา

(IL) #USA -30c

Feel like -50c

#น้ำร้อนๆกลายเป็นไอน้ำแข็งในพริบตา

เครดิตคลิป : David Lefort

#Watchers

 

Watchers


#ฝนหลวง

31-1-62 เวลา 14:40


ฝนหลวง บินซ้ำ!! ภารกิจที่ 2 โปย CaCl₂ (แคลเซียมคลอไรด์) เข้าสู่ยอดเมฆในช่วงบ่ายเพื่อขยายขนาดเมฆ แนวการบินบริเวณทางทิศตะวันออก เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ถึง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จากนี้ก็รอให้ลมตะวันออกพัดเมฆที่ขยายขนาดแล้วเข้าเขต กทม หากได้ผล ฝนจะตกตอนเย็น

เครดิต : mrvob

 

Watchers


#ฝุ่นละออง #PM25 #ระบบกรองอากาศ

// หอคอยกรองอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลกของจีนทำงานอย่างไร //

31/01/19

ประเทศแรกๆที่ประสบปัญหามลพิษทางอากาศอย่างสาหัสคือจีน โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM2.5 และ PM10 รวมทั้งมลพิษอื่นๆเช่นซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ โอโซนและคาร์บอยมอนอกไซด์ หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมของจีนคือการสร้างระบบฟอกอากาศขนาดใหญ่ขึ้นมา โดยระบบฟอกอากาศของจีนที่เป็นที่รู้จักกันในเวลานี้มี 2 ระบบใหญ่เล็กทำงานแตกต่างกัน


ระบบแรกเป็นหอคอยฟอกอากาศ สูง 7 เมตร ในสวนสาธารณะเทศบาลนครเทียนจิน เมืองที่มีปัญหามลพิษอันดับ 6 ของจีน หอคอยนี้ออกแบบและติดตั้งโดย Daan Roosegaarde ดีไซเนอร์จากเนเธอร์แลนด์ในปี 2016 ใช้เทคโนโลยีไฟฟ้าสถิต นำอากาศเข้าโดยพัดลมดูดอากาศ สามารถลดฝุ่นละอองขนาด PM10 ได้ 45% ลดฝุ่นละอองขนาด PM2.5 ได้ 25% ในพื้นที่ 20 เมตรรอบหอคอย นั่นหมายถึงหอคอยนี้มีประสิทธภาพดีในการฟอกอากาศเฉพาะในบริเวณสวนสาธารณะที่มันตั้งอยู่


ระบบถัดมาที่ใหม่กว่าและใหญ่กว่า (จีนเคลมว่าเป็นหอฟอกอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก) คือหอคอยฟอกอากาศในเมืองเชียน มณฑลส่านซี ที่เริ่มต้นสร้างและทดสอบการทำงานในปี 2018 หอคอยยักษ์สูง 100 เมตรนี้สามารถฟอกอากาศในปริมาณ 5-18 ล้าน ลบม ต่อวัน ครอบคลุมพื้นที่ 10 ตารางกิโลเมตรรอบหอคอย ทำงานโดยพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่ต้องการพลังงานไฟ้ฟ้าใดๆเหมือนระบบแรก


กลไกการทำงานของหอคอยฟอกอากาศยักษ์ในมณฑลส่านซีนี้ คือหลักอากาศร้อนเย็น กล่าวคือพลังแสงอาทิตน์จะทำให้อากาศในห้องด้านล่างที่มีสภาพเหมือนเรือนเพาะชำเกิดร้อนขึ้น อากาศร้อนจะลอยขึ้นสู่ปล่องขนาดใหญ่ตรงการ อากาศเย็นที่เต็มไปด้วยมลพิษรอบหอคอยจะไหลเข้ามาแทนที่ เมื่ออากาศร้อนลอยขึ้นในปล่องก็จะพบกับตัวกรองฝุ่นที่ติดตั้งไว้เพื่อดักฝุ่นขนาดเล็กทุกขนาด อากาศหลังการฟอกแล้วมีฝุ่นน้อยลงก็จะลอยออกด้านบนของปล่องระบายอากาศ เป็นวงจรต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ผลจากการสังเกตพบว่าหอคอยยักษ์นี้สามารถลดฝุ่นขนาด PM2.5 ลงได้ 10%-19%


อย่างไรก็ตาม หอคอยฟอกอากาศยักษ์ในมณฑลส่านซีนี้ยังเป็นขนาดต้นแบบ หากติดตามการทำงานระยะหนึ่งแล้วพอใจอาจมีการสร้างขนาดจริงซึ่งมีขนาดใหญ่กว่านี้ขึ้นไปอีก นั่นคือจะมีปล่องระบายอากาศดีสูง 500 เมตร สามารถฟอกอากาศครอบคลุมพื้นที่ 30 ตารางกิโลเมตร


อ้างอิง https://www.scmp.com/news/china/soc...-biggest-air-purifier-and-it-seems-be-working


https://www.fastcompany.com/40421177/this-giant-smog-vacuum-cleaner-in-china-actually-works


เรียบเรียงโดย MrVop

ที่มา : https://stem.in.th/giant-smog-vacuum-cleaner-in-china/

#Watchers

 

Matichon Online - มติชนออนไลน์


ประมวลภาพ ‘ท้องฟ้า’ กทม.ปกคลุมด้วย ‘ฝุ่นพิษ’ ในวันที่รถไม่ติด แต่อากาศพังมาก! #ฝุ่น #มติชนออนไลน์

 

หนุมานมุนี มุ ฤกษ์อัศวบุญชัย


"โลกกำลังนับถอยหลัง"


318 คือจำนวนพายุที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิคในปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงซุปเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุด พายุจำนวนนี้เป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่บันทึกการเกิดพายุในมหาสมุทรแปซิฟิค

.

560 คือจำนวนไฟป่าที่เกิดขึ้นที่แคนาดาในปีที่แล้วในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างสหรัฐอเมริกาก็เจอกับไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในรัฐแคลิฟอเนียร์

.

คลื่นความร้อนในปากีสถานทำลายสถิติอุณหภูมิที่ร้อนที่สุดที่เคยบันทึกไว้ ที่สหรัฐอเมริกาก็ต้องฉลองปีใหม่ด้วยสถิติอุณหภูมิที่หนาวที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในรัฐโอมาฮาอุณหภูมิติดลบ 26 องศา ต่ำที่สุดในรอบ 130 ปี ส่วนญี่ปุ่นต้องเจอกับน้ำท่วมใหญ่ในภาคกลางของประเทศ

.

ในขณะที่คลองเวนิซกลายเป็นทะเล ในประเทศเยอรมันกลับมีปริมาณฝนตกน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์และยังมีอีกหลายภัยธรรมชาติที่ส่งให้ปี 2018 เป็นปีที่ภัยธรรมชาติเดินพาเหรดกันมาทำลายสถิติโลก

.

ถ้า 2018 เป็นปีที่โหดแล้ว ปี 2019 ที่เพิ่งจะผ่านไปเพียงแค่หนึ่งเดือนก็ออกตัวแรงกว่าปีที่แล้วมาก คลื่นความร้อนในออสเตรเลียทำให้บางเมืองมีอุณหภูมิร้อนจนผิวถนนละลายได้ ส่วนที่สหรัฐอเมริกาก็กำลังเจอกับสภาพอากาศหนาวที่สุดเป็นประวัติการณ์ในหลายพื้นที่ บางเมืองอุณหภูมิหนาวไปจนต่ำกว่าขั้วโลก

.

นอกจากภัยธรรมชาติแล้วภัยมนุษย์อย่างฝุ่นพิษที่ปกคลุมกรุงเทพมหานครและหลายเมืองใหญ่ในตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้พอจะเห็นได้แล้วว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นปัญหาใหญ่ขึ้น

.

โลกสร้างสมดุลของภูมิอากาศจากการไหลเวียนของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นในมหาสมุทร กระแสน้ำอุ่นจากบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะนำพาความอบอุ่นมาเจอกับกระแสน้ำเย็นที่ไหลมาจากขั้วโลก การไหลเวียนของกระแสน้ำนี้ก่อให้เกิดฤดูกาลและภูมิอากาศ ซึ่งก็อาจจะมีบางครั้งที่เกเรหรือปั่นป่วนบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือไม่ปั่นป่วนเท่าช่วงหลายปีหลัง

.

ภาวะโลกร้อนไม่ได้แค่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายจนหมีขาวหิวโซเท่านั้น แต่ก็ทำให้อุณหภูมิของมหาสมุทรสูงขึ้นซึ่งน้ำทะเลก็ร้อนจนไปทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เก็บตัวเลขไปเรียบร้อยแล้วในปี 2018 น้ำทะเลที่ร้อนขึ้นในขณะที่น้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลายทำให้เกิดการเปลี่ยนสมดุลของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นทำให้พื้นที่ที่เคยหนาวก็จะหนาวมากกว่าปกติเพราะน้ำอุ่นที่เคยป้องกันอากาศหนาวอ่อนแรงลงจากในขณะที่พื้นที่ที่เคยเย็นสบายอย่างอังกฤษหรือสแกนดิเนเวียกลับร้อนขึ้นและก็เพราะการเปลี่ยนแปลงในสมดุลของทะเลนี่เองที่เป็นสาเหตุให้กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมที่หล่อเลี้ยงทวีปยุโรปอ่อนแรงลงอย่างมากในปีที่แล้ว

.

สภาพอากาศหนาวจนติดลบในสหรัฐอเมริกาเกิดจากปรากฏการณ์ลมวนขั้วโลกหรือ Polar Vertex ซึ่งปกติความหนาวเย็นบริเวณขั้วโลกจะถูกกักเก็บความเย็นไว้แต่บริเวณขั้วโลก แต่ก็เพราะสมดุลธรรมชาติที่เปลี่ยนไปนี่เองกระแสลมที่เคยพัดกักเก็บความหนาวเย็นก็พัดในท่าที่ผิดปกติทำให้อากาศหนาวจากขั้วโลกทะลักเข้ามาถึงแผ่นดินกลางทวีป

.

ภาวะที่โลกร้อนยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามีสาเหตุมาจากธรรมชาติหรือมนุษย์ หรือมนุษย์บางคนก็เพิ่งจะโพสต์ทวีตเตอร์เรียกหาภาวะโลกร้อนในวันที่อเมริกากำลังหนาวสุดขีด แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดสิ่งที่เป็นความจริงคือโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปและภัยธรรมชาติมีแต่จะรุนแรงกว่าเดิมและโลกก็เริ่มนับถอยหลังให้กับมนุษย์เพราะทุกครั้งที่กระแสน้ำเสียสมดุลภัยธรรมชาติจากลมฟ้าอากาศก็จะเดินพาเหรดกันมาซัดใส่มนุษย์อย่างพวกเรานั่นเอง

.

ธรรมชาติก็ไม่ต่างจากคนที่สามารถเยียวยารักษาบาดแผลตัวเองได้เมื่อมีบาดแผล แต่ถ้าบาดแผลนั้นใหญ่เกินกว่าจะรักษาแล้วก็คงสายเกิดไปที่จะวิ่งหาพลาสเตอร์ปิดแผล การรักษาโลกให้ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บจากภาวะโลกร้อนก็เช่นกันถ้าไม่เริ่มรักษากันตั้งแต่วันนี้ก็คงเตรียมนับพายุและน้ำท่วมที่จะสร้างสถิติใหม่ไปเรื่อยๆ ในอนาคต

.

มือของเราอาจจะเล็กเกินไปที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบ แต่ก็ไม่เล็กเกินไปที่จะเริ่มต้นฟื้นฟูโลกได้จากการทำอะไรง่ายๆ ใกล้ตัว เช่นปัญหาฝุ่นควันในประเทศไทยก็เริ่มต้นได้จากการไม่เผาอะไรในวันตรุษจีน ลดการใช้รถ (ถึงระบบสาธารณะจะไม่ค่อยดี) หรือประหยัดการใช้พลังงาน ถ้าทำด้วยสองมือเรื่องเล็กๆ เหล่านี้ก็อาจจะม่เห็นผลอะไร แต่ถ้าทำจากหลายล้านมือก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูโลกเราได้

------------------------------------------------------------------------------

Note: ถ้าอยากรู้ว่ามนุษย์คนไหนทวิตเตอร์เรียกหาโลกร้อนก็เชิญไปเยี่ยมชมทวิตเตอร์ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้


References:

https://www.theguardian.com/…/record-breaking-big-freeze-gr…

https://en.wikipedia.org/wiki/2018_Pacific_hurricane_season

https://www.businessinsider.com/worst-natural-disasters-rec…

https://en.wikipedia.org/…/Shutdown_of_thermohaline_circula…

https://www.irishtimes.com/…/gulf-stream-slowing-down-is-ba…

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-45200347

 

MGROnline Live


ต่ออายุ “พาราควอต 6 ปี”

ก.อุตฯ อ้าง ไม่เป็นอันตรายต่อเกษตรกร


#mgronline #พาราควอต #สารพิษ #เกษตรกร #สารอันตราย

 

The Big Wobble


ไม่ค่อยน่าจะใช่ กระแสน้ำวนขั้วโลก (polar vortex ) แต่สหราชอาณาจักรมีคืนที่หนาวเย็นที่สุดของปี เนื่องจากอุณหภูมิพุ่งไปที่ -15 องศาเซลเซียส (5 องศา F) ในส่วนต่าง ๆ ของสกอตแลนด์


Its not quite a Polar Vortex but the UK has its coldest night of the year as temperatures dived to -15 deg C (5 deg F) in parts of Scotland

 

Jeerachart Jongsomchai


... “จอห์น โบลตัน, เด็กดีของไซออนนิสต์ , เตรียมส่งทหารไปถล่มเวเนซุเอล่า”


... “จอห์น โบลตัน” ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีอเมริกา เคยได้รับรางวัลจาก “กลุ่มไซออนนิสต์” ( ที่เป็นองค์กรที่มีชาวยิวเป็นแกนหลักในการผลักดันหลายอย่างในโลกเพื่อผลประโยชน์และจุดมุ่งหมายของพวกเขา ) ข่าวเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2018 ปีที่ผ่านมา


... ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา John Bolton ได้รับรางวัล Defender of Israel Award หรือ “รางวัลการป้องกันประเทศ” จาก “อิสราเอล” จากงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ Brandeis Award ประจำปี 2018 ของ ZOA หรือ “กลุ่มไซออนนิสต์ของอเมริกา” Zionist Organization of America ซึ่งจัดขึ้นในที่นิวยอร์ก


... ในคืนนั้นประธานาธิบดี “ทรัมป์” ก็ถูกยกย่องอย่างล้นหลามในงานกาล่าดินเนอร์เช่นกัน ในการตัดสินใจย้ายสถานทูต “อเมริกา” จากเดิมเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ที่ถือทึกทักเอาว่าเป็นของอิสราเอล กลืนดินแดนปาเลสไตน์ที่ละเล็กทีละน้อย แบบที่ต่างประเทศในยุโรปไม่มีใครกล้าว่าอะไร


... “จอห์น โบลตัน” เป็นนักการเมืองสายเหนี่ยว แบบต้องการได้อะไรมักใช้สงครามหรือการแทรกแซงแบบกำลังทหารในการได้มาแบบตามวัตถุประสงค์ เขาถูกมองว่าเป็นบุคคลส่วนหนึ่งของพวก “Deep State” หรือ “รัฐบาลเงา” ของทรัมป์ มีนอกจากเขาแล้วยังมี ซีไอเอ นักการเมืองรุ่นเก่า นายทหารแก่ พนักงานรัฐแก่ๆ นายทุนบรรษัทใหญ่ๆ ทั้งน้ำมันและนายธนาคารในวอลล์สตรีท ที่เป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงของ “อเมริกา”


... ในปี 2010 โบลตันได้ร่วมกับบุคคลสำคัญอีก 12 คน เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “กลุ่มเพื่อนอิสราเอล” Friends of Israel Initiative และในเดือนมิถุนายน 2011 เขาไม่ยอมรับเรื่องที่ว่าปาเลสไตน์ ขอร้องเรียนที่ได้รับสถานะเป็นรัฐอิสระ มองว่าเป็นแค่ "เกมอุบาย" รวมทั้งมีแนวทางในการแก้ปัญหา เกาหลีเหนือ อิหร่าน เฮสบุลเลาะห์ในแบบไม้แข้ง การทหาร สงคราม


... “จอห์น โบลตัน” เคยพูดในเชิงสนับสนุนกลุ่ม People's Mujahedin of Iran ที่ชื่อย่อคือ MEK หรือ “มูจาฮิดินของอิหร่าน” ที่เป็นกลุ่มนิยมความรุนแรงในการพยายามจะโค่นล้มรัฐบาลปัจจุบันของ “อิหร่าน” ที่ได้ทำการปฏิวัติอิสลามในปี 1979 ที่มีการขับไล่อิทธิพลทางการเมืองและการค้าเศรษฐกิจของตะวันตกออกจากประเทศจนเกลี้ยง ทำให้ประเทศตะวันตกไม่พอใจและพยายามจะโค่นล้มอิหร่านตลอดมา และกลุ่มนี้มีฐานปฏิบัติการอยู่นอกประเทศอิหร่าน และอิงแอบอยู่ในหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส(1981–1986; จนถึง 2003), อิรัก ( จาก 1986 ถึง 2016) และปัจจุบันในแอลบาเนีย ( จาก 2016 จนถึงปัจจุบัน ). และในปี 2011 เขาได้สนับสนุนให้ยกเลิกกลุ่มนี้ออกจากรายชื่อผู้ก่อการร้ายของโลก


... ทำให้เห็นภาพว่า “จอห์น โบลตัน” ที่เป็นผู้ชักปากทรัมป์ให้พูด จับขาให้เดิน นั้นสนิทสนมกับ “อิสราเอล” และ “ไซออนนิสต์” มาก และก็สนับสนุนกลุ่มที่โค่นล้มรัฐบาลอิหร่านปัจจุบัน รวมทั้งยอมรับกลุ่มต่อต้านนั้น ว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้าย รวมทั้งเปิดหน้าว่าสนับสนุนด้วย


… On January 25, 2011, Bolton drew a standing ovation at a MEK conference in Brussels for his support of the MEK, giving a speech in which he "backed MEK's legitimacy, and the notion of removing it from the list of terrorist organizations"


... ซึ่งในตอนนี้รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกาก็ออกมาบอกว่า จอห์น โบลตัน ก็ได้บอกว่า ยังมีโอกาสที่อเมริกาจะส่งทหารไปที่โคลัมเบียประเทศบริวารของอเมริกาที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการโค่นล้มประธานาธิบดีมาดูโร่ รวมทั้งขั้นต่อไป ก็คือจะคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอล่า อย่าง PDVSA เพื่อตัดเส้นเลือด ทางทำมาหากินของรัฐบาลมาดูโร่ ก่อนนั้นก็บีบให้อังกฤษยึดทองคำของทุนสำรองระหว่างประเทศที่เวเนซุเอล่าฝากวว่า ไม่ให้ถอนไป รวมทั้งกำลังเกลี้ยกล่อมทหารใหญ่ของเวเนซุเอล่าให้แปรพักตร์มาเข้ากับหุ่นเชิดของพวกเขาอย่างนาย Juan Guaido


... “จอห์น โบลตัน” กำลังจะสั่งการข้ามหัวทรัมป์ไปปล้นประเทศเวเนซุเอล่ากลางวันแสกๆ โดยไม่สนใจหลักการเลือกตั้งธิปไตย โดยมีอิสราเอลและไซออนนิสต์นั่งดูและชักใยโบลตันอยู่ไกลๆอีกที


.

..


... US National Security Adviser John Bolton was presented with the Defender of Israel Award at the Zionist Organization of America’s annual Brandeis Award dinner, held Sunday night in New York.

.... President Trump lavishly praised at the gala event for decision to move US embassy to Jerusalem


.

https://www.timesofisrael.com/zioni...a-gives-john-bolton-defender-of-israel-award/

https://www.voanews.com/a/pentagon-won-t-rule-out-sending-troops-to-colombia/4764749.html

https://en.wikipedia.org/wiki/John_R._Bolton

https://en.wikipedia.org/wiki/People's_Mujahedin_of_Iran

 

สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events


พบปลาสัญญาณดินไหวท่าเรือญี่ปุ่น!

https://m.scmp.com/news/asia/east-a...gs-oarfish-put-japanese-high-alert-earthquake

ปลา ryugu no tsukai - ซึ่งแปลว่า "ผู้ส่งสารจากวังของราชามังกร" - บอกใบ้ถึงการเชื่อมโยงกับภัยพิบัติทางธรรมชาติในอดีตท่ามกลางการคาดการณ์ล่าสุดของรัฐบาลญี่ปุ่นชี้ให้เห็นว่าคลื่นยักษ์สึนามิที่สูงกว่า 30 เมตรอาจเกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่?


30 ม.ค. 2019 : แผ่นดินไหว 5.3 สั่นเมืองหลวงไต้หวัน https://www.dailymail.co.uk/news/ar...gnitude-tremor-shaking-buildings-capital.html

 

ข่าวแผ่นดินไหวและภัยพิบัติที่ญี่ปุ่น โดย นร.เก่าญี่ปุ่น


ภาพ : สนามบินนาริตะ เวลา 23:30 น. (31 มกรา)


หิมะโปรยปรายสวย ๆ ค่ะ

 

WisdomNews


#กาญจนบุรีอยู่อันดับ1เลย

ฝุ่น PM 2.5 วันนี้ (31 ม.ค. 62) พบ กรุงเทพฯ ปทุมธานี และกาญจนบุรี วิกฤตสุด PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ


.นายกรัฐมนตรี ย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญแก้ปัญหาฝุ่นละออง ยังไม่ประกาศเป็นภัยพิบัติ แต่เน้นใช้มาตรการตามขั้นตอน ให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดการปัญหามลพิษฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและพิจารณาใช้มาตรการต่างๆ อย่างรอบคอบ ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ส่วนเหตุผลที่สั่งการให้ปิดโรงเรียน 2 วัน เพื่อดูแลสุขภาพของเด็กนักเรียนและยังช่วยลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน ซึ่งก็จะทำให้ควันจากรถยนต์ลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหามลพิษจากการใช้รถมีการบังคับใช้กฎหมายตามปกติอยู่แล้ว จึงยังไม่ต้องมีมาตรการใดเป็นพิเศษ แต่ต้องเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบควันดำของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก และรถส่วนตัว โดยหากพบจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ซึ่งหากรถคันไหนไม่ผ่านมาตรฐานก็ให้ติดสติกเกอร์ว่าไม่สามารถวิ่งได้ และหากใครพบเห็นควันดำให้แจ้งมาได้ทันที ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไปสำรวจพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีต้นทางมาจากหลายสาเหตุ


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมเพื่อเตรียมมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองตามลำดับขั้นที่ 1,2 และ 3 แต่หากปัญหาสูงขึ้นไปถึงขั้นที่ 4 ก็จะเข้าข่ายภัยพิบัติ แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเกณฑ์นั้น เพราะถ้าประกาศภัยพิบัติอาจส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวด้วย


อย่างไรก็ตาม มองว่าเรื่องสุขภาพสำคัญที่สุด จึงแจ้งเตือนค่ามลพิษในอากาศให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง จะได้ป้องกันอย่างถูกวิธี แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านอื่นด้วย เพราะหากพูดกันจนเป็นประเด็นการเมืองก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย ดังนั้นขอให้ทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มที่


http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG190131152236763


เว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th/webV2/region.php?region=0 ของกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองที่มีขาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 เมื่อเวลา 9.00 น. พบว่าคุ ณภาพอากาศทั่วประเทศไทยหลายพื้นที่อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

.

โดยมี 3 จังหวัดที่พบว่า ค่า PM 2.5 อยู่ในระดับสีแดงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่

.

- จ.กาญจนบุรี ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.ปทุมธานี ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- กรุงเทพฯ ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 92 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

.

และมีพื้นที่ ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพอีก 15 จังหวัด ได้แก่

.

- จ.สมุทรสาคร ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.ราชบุรี ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.สระบุรี ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.สมุทรปราการ ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.นครปฐม ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.ชลบุรี ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.ตาก ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.ลำพูน ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.พระนครศรีอยุธยา ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.ปราจีนบุรี ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 74 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.นนทบุรี ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.นครสวรรค์ ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.สระแก้ว ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.ลำปาง ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 53 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.แพร่ ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 59 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

.

ส่วนจังหวัดที่ค่า PM 2.5 ไม่เกินค่ามาตรฐาน และสภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง มี 5 จังหวัดประกอบด้วย

- จ.ระยอง ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 49 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.ขอนแก่น ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 49 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.เชียงใหม่ ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 47 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.เชียงราย ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 44 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.พะเยา ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 42 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

.

และมี 7 จังหวัด ที่ค่า PM 2.5 ไม่เกินค่ามาตรฐาน และสภาพอากาศอยู่ในระดับดี ได้แก่

.

- จ.แม่ฮ่องสอน ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 30 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.สุราษฎร์ธานี ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.น่าน ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 31 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.เลย ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 31 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.สตูล ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 12 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.ยะลา ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 19 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

- จ.นราธิวาส ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 18 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

.

ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ ณ เวลา 09.00 น. ประจำวันที่ 31 ม.ค. 2562

 

Thairath


สะพรึงยิ่งกว่าในหนัง ‘เดอะ เดย์ อาฟเตอร์ ทูมอร์โรว์’ เพราะนี่คือเรื่องจริง.. ชาวอเมริกันกำลังประสบภัยหนาวสุดขั้ว จากปรากฏการณ์ โพลาร์ วอร์เท็กซ์..ดับแล้ว12 ราย

 

Tiempo Extremo

อุณหภูมิอาร์กติกสามารถตรึงคนในสิบนาที

นักผจญเพลิงต้องดับไฟในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเสี่ยงต่อชีวิตของพวกเขา ด้วยดัชนีที่เย็นจัด ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ ประมาณ 50 องศา มาดูกันว่าส่วนหนึ่งของชุด แข็ง
Via Roberto Núñez
Temperaturas árticas pueden congelar a una persona en diez minutos.
Bomberos tuvieron que apagar un incendio en Wisconsin arriesgando sus vidas con un índice de frío rondando los 50 grados bajo cero. Vea como parte de su uniforme se congeló.
Vía Roberto Núñez

 

จากเวเนซุเอลา...ถึงอิหร่านเหยื่อรายต่อไป
เผยแพร่: 31 ม.ค. 2562 15:56 โดย: ทับทิม พญาไท


ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา
ปิดฉากสัปดาห์นี้...คงต้องปิดกันที่เวเนซุเอลากันอีกนั่นแหละทั่น ไหนๆ ก็ลากยาวเรื่องนี้มาเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ คืออย่างน้อยก็น่าจะ “ตามไปดู” กันต่อ ว่าสุดท้ายแล้ว...มันจะออกหัว-ออกก้อย-ออกกลาง หรือออกไปในแนวไหน สำหรับชะตากรรมของประเทศที่ว่ากันว่า “ร่ำรวยทรัพยากร(น้ำมัน)” แบบสุดๆ ระดับถือเป็น “สนามประลองทางภูมิรัฐศาสตร์” ระหว่างอภิมหาอำนาจรายใหญ่ๆ ไม่ว่าอเมริกา-จีน-รัสเซีย ในการช่วงชิงความได้เปรียบ-เสียเปรียบ ด้านการ “เข้าถึงแหล่งพลังงาน”แต่กลับดันแทบไม่เหลือ “เงินสด” เอาไว้ใช้ ไว้จ่าย ไว้ซื้อหาสิ่งของจำเป็นที่ต้องอาศัยเงินตราต่างประเทศ โดยเฉพาะ “เงินดอลลาร์” ของอเมริกัน จนส่งผลให้ประเทศทั้งประเทศ “กรอบ”ซะยิ่งกว่าข้าวเกรียบเมืองเพชร เงินเฟ้อพุ่งขึ้นไประดับล้านๆ เปอร์เซ็นต์ และทำให้เกิด “เงื่อนไข” ในการส่งออกการปฏิวัติ หรือการแทรกแซงจากต่างชาติ ชนิดหาทางออก ทางลง ยังไม่เจอจนตราบเท่าทุกวันนี้...

คือถ้าดูจากความได้เปรียบ-เสียเปรียบ...ระหว่างประธานาธิบดีที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าง “นายนิโคลัส มาดูโร” กับประธานาธิบดี “หุ่น” หรือประธานาธิบดีชั่วคราวที่คุณพ่ออเมริกาสถาปนาขึ้นมา อย่าง “นายJuan Guaido” ที่คงต้องเรียกว่า “ฮวน ไกวโด” กันแล้วในช่วงนี้ เพราะขนาดเว็บไซต์-ผู้จัดการของเราเอง ยังต้องเปลี่ยนคำเรียกจาก “กุยโด” เป็น“ไกวโด” เอาดื้อๆ แต่คงไม่ต้องถึงขั้น “ฆวน กวยโต” อย่างที่อาจารย์ “สมเกียรติ โอสถสภา” ผู้เชี่ยวชาญในบ้านเราท่านเตือนๆ เอาไว้ล่วงหน้า ว่าออกจะ “อันตราย” อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะถ้าหากพิธีกรนักเล่าข่าวทางทีวีนำไปออกเสียง เพราะอาจกลายเป็นคำเรียกที่หนักว่า “สมยศ ช่องเจ็ดสี” เอาเลยก็ไม่แน่ ซึ่งคงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า...ในแง่ “ราคาต่อรอง” แล้ว ฝ่ายของ “นายไกวโด” ออกจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ ระดับ 5-4 หรือ 3-2 อะไรทำนองนั้น...

เอาง่ายๆ...แค่ดูจากกิริยาท่าทีของทั้งสองฝ่าย ขณะที่ประธานาธิบดีที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าง “นายมาดูโร” ถึงกับต้องออกมาแบะท่า ประกาศพร้อมเจรจากับ “นายไกวโด”โดยมี “คนกลาง” ร่วมในการเจรจา แต่ฝ่ายประธานาธิบดีที่สถาปนาตัวเองขึ้นมาเองอย่างไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายใดๆ ของเวเนซุเอลา แถมยังถูกฝ่ายกฎหมาย หรือศาลสถิตยุติธรรมเวเนซุเอลา ประกาศให้เป็น “ผู้ก่ออาชญากรรม” ห้ามออกนอกประเทศ ห้ามทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ ทั้งสิ้น กลับออกมา“ปฏิเสธ” ไม่คิดจะเจรจาใดๆ กับฝ่ายตรงข้ามโดยเด็ดขาด มีแต่มุ่งเดินหน้า “พาคนไปตาย” หรือเรียกร้องให้มวลชนชาวเวเนซุเอลา ออกมาประท้วงกันเยอะๆ นับตั้งแต่วันพุธที่ 30 ม.ค. เป็นต้นไป...

เหตุที่ “ราคาต่อรอง” มันเปลี่ยนไป-เปลี่ยนมาในลักษณะที่ว่านี้...ว่าไปแล้ว คงไม่น่าจะเกี่ยวกับการที่ผู้สนับสนุน ถือหาง “นายไกวโด” อย่างคุณพ่ออเมริกา คิดจะหันไปใช้ “กรรมวิธีทางทหาร” เล่นงานรัฐบาล “มาดูโร” อย่างที่ “ไอ้หนวดอำมหิต-จอห์น โบลตัน” ที่ปรึกษาความมั่นคงแกล้งปล่อยข่าว ผ่านกระดาษโน้ตที่ตัวเองถือไว้ในมือแต่อย่างใด แม้ว่าการอาศัยกรรมวิธีชนิดนี้ จะยังคง “วางเอาไว้บนโต๊ะ” ประธานาธิบดีอเมริกันก็ตาม เพราะการใช้กำลังทหารแบบสุ่มสี่-สุ่มห้านั้น ตัวอย่างที่เห็นๆ อยู่ใน “สมรภูมิซีเรีย” ทุกวันนี้ ก็น่าจะถือเป็น“บทเรียน” ที่ชัดเจนพอสมควรแล้ว ยิ่งมี “ข่าวลือ” เรื่อง “ทหารรัสเซีย” ถูกส่งไปป้วนเปี้ยนอยู่ในเวเนซุเอลากันบ้างแล้ว ถึงจะออกไปทาง “ข่าวปลอม” ก็เถอะ แต่ถ้าหากคำนึงถึง “ผลประโยชน์” ที่ไม่ว่ามหาอำนาจอย่างรัสเซีย หรือจีน ต่าง “ทุ่มทุน” ไปเยอะแล้วในเวเนซุเอลา ระดับรายละเป็นหมื่นล้าน แสนล้านดอลลาร์ การ “หักพร้าด้วยด้ามเข่า” ตามกรรมวิธีเช่นนี้ คงต้องอาศัย “ต้นทุน” ระดับมหาศาลเอาเลยทีเดียว...

แต่สิ่งที่ทำให้ “ราคาต่อรอง” มันออกจะเปลี่ยนไปสู่ความได้เปรียบ หรือความเป็นต่อ ของประธานาธิบดีหุ่นอย่าง “นายไกวโด” ก็น่าจะเป็นเพราะการหันมาอาศัย “กรรมวิธีทางเศรษฐกิจ”อาศัยเรื่องเงินๆ ทองๆ นั่นแหละเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการประกาศ “แซงชั่น” บริษัทน้ำมันที่รัฐบาลเวเนซุเอลาเป็นเจ้าของ อย่างบริษัท “PDVSA” หรือ “Petroleos de Venezuela” โดยกระทรวงการคลังอเมริกัน อันทำให้สินทรัพย์มูลค่าไม่น้อยกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ และรายได้จากการส่งออกน้ำมันในปีหน้ามูลค่าไม่น้อยกว่า 11,000 ดอลลาร์ ที่บริษัท “PDVSA” มีส่วนได้-ส่วนเสียอยู่ประมาณ 51 เปอร์เซ็นต์ ในบริษัทลูกอย่างบริษัท“Citgo” ซึ่งไปร่วมทุนกับบริษัท “Valero Energy” หรือบริษัท“Chevron” ของอเมริกา ขนเอา “น้ำมันดิบ” จากเวเนซุเอลา มากลั่นที่โรงกลั่นในเท็กซัสและหลุยเซียนาวันละ 500,000 บาร์เรลเป็นอย่างน้อย เพื่อส่งไปขายลูกค้าอย่างจีน รัสเซีย อินตะระเดีย ฯลฯ เป็นอันต้องถูก “ยึด” หรือถูก “ปล้น” เอาดื้อๆ!!! คล้ายๆ กับการที่รัฐบาลอังกฤษประกาศไม่ยอมส่ง “ทองคำสำรอง” มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ คืนให้กับธนาคารกลางเวเนซุเอลา ตราบใดที่ “นายมาดูโร” ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีของประเทศนี้นั่นแหละ เพียงเท่านี้...ก็ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจในเวเนซุเอลาที่จมดิ่งอยู่ในนรกอยู่แล้ว ยิ่งดิ่งลึกลงไปถึงขุมที่ 18 ขุมที่ 19 ยากส์ส์ส์ที่จะเงยหน้า อ้าปากขึ้นมาได้เลยแม้แต่น้อย...

เพราะภายใต้สภาวะเช่นนี้นี่เอง...ที่จะทำให้บรรดา “มวลชน”ชาวเวเนซุเอลาทั้งหลาย ซึ่งคงไม่ได้ต่างไปจาก “มวลชนคนธรรมดา ซึ่งมักถูกครอบงำโดยความต้องการในปัจจุบัน เสียจนกระทั่งผู้ปกครองที่หลอกลวงสามารถพบผู้ที่พร้อมให้หลอกลวงได้เสมอ” อย่างที่ปรมาจารย์ด้าน “ทฤษฎีอำนาจ” ชาวอิตาลี ผู้มีนามกรว่า “นิคโคโล มาเคียวเวลลี” เคยว่าไว้ ย่อมพร้อมที่จะ“ออกไปตาย” ตามคำเรียกร้อง เชิญชวนของประธานาธิบดีผู้ได้รับการสถาปนาจากต่างชาติ อย่าง “นายไกวโด” ได้ไม่ยากส์ส์ส์และนั่นเองที่จะทำให้ “การปฏิวัติส่งออก” สามารถถูกเปลี่ยนคำเรียกขานไปเป็น “การเปลี่ยนถ่ายอำนาจโดยสันติ”อย่างที่คุณพ่ออเมริกาท่านป่าวประกาศเอาไว้แล้วล่วงหน้า...

ว่าไปแล้ว...กรรมวิธีที่ว่านี้ ไม่เพียงถูกนำมาใช้แต่เฉพาะประเทศที่ร่ำรวยน้ำมัน อย่างเวเนซุเอลาเท่านั้น แต่ยังเตรียมที่จะนำไปใช้กับประเทศคู่กัด คู่อาฆาตอย่างประเทศ “อิหร่าน” ในอีกไม่นานไม่ช้านับจากนี้ ดังนั้น...ไม่ใช่แต่ “ระบอบปกครองมาดูโร”เท่านั้น ที่กำลังตกเป็น “เหยื่อ” ของ “การปฏิวัติส่งออกเวอร์ชั่นใหม่” แต่ข่าวคราวกรณีที่ประธานาธิบดีอิหร่าน ต้องออกมายอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจอิหร่านหนักหนาสาหัสที่สุดในรอบ 40 ปีหลังจากที่ประเทศซึ่งร่วมลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ไม่ว่ารัสเซีย จีน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาประเทศ“อียู” หรือ “อีย้วย” ทั้งหลาย ไม่สามารถช่วยบรรเทาเบาบาง ผลกระทบจาก “การแซงชั่น” ของอเมริกาได้อย่างเท่าที่ควรจะเป็น โอกาสที่โลกทั้งโลกจะได้เห็น “เหยื่อรายต่อไป” แบบรายแล้ว รายเล่า ก็น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ..

https://mgronline.com/daily/detail/9620000010877

 

La nueva era de la tierra - respaldo

#URGENTE
ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าพายุไซโคลนจะกระทบระหว่างชายฝั่งของโปรตุเกสและสเปนและจะทำให้เกิดคลื่นสูงถึง 10 เมตร
Fotos

 

ลมวนขั้วโลกถล่มแถบมิดเวสต์สหรัฐฯ อุณหภูมิลบทำสถิติ-ตายแล้วสิบกว่าคน เผยแพร่: 31 ม.ค. 2562 21:58 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แสงไฟของท่าเรือถนนสายที่ 39 (39th Street Harbor) ในนครชิคาโก ถูกปกคลุมจากหิมะและน้ำแข็งที่ลอยเหนือทะเลสาบมิชิแกน เมื่อวันพุธ (30 ม.ค.) ขณะที่ความหนาวยะเยือกจากขั้วโลกเหนือแผ่เข้าปกคลุมพื้นที่จำนวนมากของแถบมิดเวสต์ในสหรัฐฯ

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – คลื่นความหนาวเย็นหฤโหดจากขั้วโลกเหนือ ซึ่งทำให้อุณหภูมิของพื้นที่จำนวนมากทางแถบมิดเวสต์ของอเมริกาติดลบต่ำกว่าทวีปแอนตาร์กติกา เริ่มเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกและคาดว่าจะหมดฤทธิ์เดชลงไปเรื่อยๆ หลังจากทำให้เที่ยวบินนับพันต้องระงับการให้บริการ โรงเรียนและธุรกิจหยุดทำการ รวมทั้งกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ โดยที่สภาพอากาศหนาวเย็นสุดขั้วนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วสิบกว่าคน

ตามรายงานทั้งของเจ้าหน้าที่และของสื่อมวลชน สำนักข่าวรอยเตอร์รวบรวมได้ว่านับตั้งแต่วันเสาร์ (26 ม.ค.) เป็นต้นว่า ทั่วทั้งแถบมิดเวสต์มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากอากาศที่หนาวยะเยือกอย่างน้อยสิบกว่าคน บางคนดับชีพเพราะอุบัติเหตุทางท้องถนนซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ ขณะที่คนอื่นๆ ดูเหมือนเสียชีวิตจากการปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาพหนาวเย็นเกินไป

บริการไปรษณีย์สหรัฐฯ ที่เคยโฆษณาว่า จะให้บริการไม่มีวันหยุด ต้องกลับลำสั่งระงับการจัดส่งจดหมายและพัสดุภัณฑ์ในบางพื้นที่ของรัฐอินดีแอนา มิชิแกน อิลลินอยส์ โอไฮโอ ไอโอวา นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา และเนแบรสกา ขณะที่ประชาชนในกว่าสิบรัฐที่อุณหภูมิติดลบเป็นตัวเลขสองหลักได้รับคำแนะนำให้งดออกจากบ้าน

ชิคาโก เมืองใหญ่อันดับ 3 ของอเมริกา เป็นทางผ่านโดยตรงของลมวนขั้วโลกคราวนี้ และเผชิญความหนาวเย็นที่สุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 2 โดยมีแนวโน้มทำสถิติใหม่ในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี (31 ม.ค.) ที่คาดว่า อุณหภูมิจะลดต่ำที่สุด

แรห์ม เอมมานูเอล นายกเทศมนตรีชิคาโก แถลงข่าวเมื่อคืนวันพุธ (30 ) ว่า อุณหภูมิลดต่ำถึงระดับที่ทำลายสถิติและอันตรายต่อชีวิต


ทิวทัศน์จากอีกมุมหนึ่งของท่าเรือถนนสายที่ 39 นครชิคาโก


พนักงานของเมืองบิสมาร์ค รัฐนอร์ทดาโคตา ใช้รถกวาดหิมะออกจากถนนบริเวณใกล้ๆ โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งเมื่อวันพุธ (30 ม.ค.)

เบน ดิวเบลเบสส์ นักอุตุนิยมวิทยาของสำนักงานอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ระบุว่า อากาศหนาวเย็นที่สุดจะเกิดขึ้นในช่วงคืนวันพุธเข้าสู่เช้าวันพฤหัสบดี

ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันพุธอุณหภูมิในชิคาโกติดลบ 30 องศาเซลเซียส และค่าความหนาวที่แท้จริงที่รู้สึกได้เมื่อมีลมมาปะทะ อยู่ที่ -46 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่า หนาวกว่าที่อแลสกาหรือกระทั่งบางส่วนของทวีปแอนตาร์กติกาในเขตขั้วโลกใต้

ที่สนามบินโอแฮร์ของชิคาโก ซึ่งเป็นศูนย์การบินสำคัญในภูมิภาค เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินได้รับคำสั่งไม่ให้ออกไปสัมผัสความหนาวเย็นครั้งละเกิน 15 นาที ส่งผลให้เที่ยวบินจำนวนมากล่าช้า

รายงานระบุว่า มีเที่ยวบินกว่า 1,800 เที่ยวต้องยกเลิกการให้บริการจากสนามบินใหญ่ 2 แห่งในชิคาโก ขณะที่ผู้ให้บริการรถไฟ “แอมแทร็ก” ระงับบริการจากชุมทางในเมืองนี้เช่นเดียวกัน

สภาพอากาศที่หนาวเย็นติดลบและส่งผลต่อชาวอเมริกันนับสิบล้านคนนี้เป็นผลจากลมวนขั้วโลก (polar vortex) หรือลมหมุนวนความเร็วสูงในลักษณะทวนเข็มนาฬิกาจากบริเวณขั้วโลกเหนือที่ส่งผลให้อากาศหนาวเย็นแผ่ปกคลุมบริเวณโดยรอบมหาสมุทรอาร์กติก


ฝูงห่านเบียดเสียดกันในน้ำ ขณะอาทิตย์ขึ้นที่บริเวณท่าเรือในเมืองพอร์ตวอชิงตัน รัฐวิสคอนซิน เมื่อวันพุธ (30 ม.ค.)


แท่งน้ำแข็งย้อยลงมาตรงบริเวณหน้าประตูของบาร์แห่งหนึ่งในเมืองเมควอน รัฐวิสคอนซิน วันพุธ (30 ม.ค.)

เอ็นดับเบิลยูเอสพยากรณ์ว่า อุณหภูมิจะทรงอยู่ที่ –31 ถึง -42 องศาเซลเซียส โดยที่ค่าความหนาวเย็นที่แท้จริงเมื่อมีลมปะทะอยู่ที่ – 32 ถึง -48 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลายหากอยู่กลางแจ้งเพียง 5 นาที

รัฐอิลลินอยส์ มิชิแกน และวิสคอนซิลประกาศมาตรการฉุกเฉินแล้ว

เกรตเชน วิตเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน สั่งปิดหน่วยงานรัฐบาลจนถึงวันพฤหัสบดี

ขณะเดียวกัน ทางการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนอันตรายจากเนื้อเยื่อถูกทำลายเพราะความเย็นจัดและภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ

ศูนย์พักพิงให้ความอบอุ่นนับร้อยแห่งเปิดรับประชาชนที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้สูงวัย รถบัสจำนวนมากถูกแปลงเป็นศูนย์ให้ความอบอุ่นเคลื่อนที่ และสถานพักพิงมีคนไร้บ้านมาขอพักอาศัยเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงคนจรจัดราว 16,000 คนที่เคยกินนอนข้างถนนในชิคาโก

ทั้งนี้ คาดว่า พายุหิมะจะยังคงส่งผลต่อบางส่วนในแถบนอร์ทอีสต์ของอเมริกาในช่วงสุดสัปดาห์ ส่งผลให้มีลมกรรโชกและหิมะที่ทำให้ทัศนวิสัยสำหรับการขับขี่ลดลง และคาดว่า จะมีพายุตกหนักทางเหนือของรัฐเมน และพายุหิมะระดับปานกลางที่เกิดขึ้นฉับพลันในพื้นที่อื่นๆ ในแถบอีสต์โคสต์

https://mgronline.com/around/detail/9620000011053

 

In Clip: รัสเซียปล่อย “หลักฐานสอบสวนมุลเลอร์” กว่า 1,000 ไฟล์บนอินเทอร์เน็ต เผยแพร่: 31 ม.ค. 2562 17:54 ปรับปรุง: 31 ม.ค. 2562 20:21 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ - อ้างอิงจากเอกสารของศาลสหรัฐฯ ระบุว่า มีเอกสารความลับในคดีการสอบสวนของอัยการพิเศษสหรัฐฯ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่มีมากกว่า 1,000 ไฟล์ถูกโหลดขึ้นบนเว็บไซต์ “แชร์ไฟล์” โดยอัยการสหรัฐฯชี้ว่า เป็นฝีมือของพวกรัสเซีย

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) ว่า คำร้องที่ยื่นฟ้องต่อศาลโดยสำนักงานของอัยการพิเศษสหรัฐฯ โรเบิร์ต มุลเลอร์ วันพุธ (30) ระบุว่า มีเอกสารมากกว่า 1,000 ไฟล์ซึ่งใช้ร่วมกับทนายความในการสั่งฟ้องกลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียนั้น ถูกพบว่าได้มีการแอบนำข้อมูลความลับเหล่านี้ขึ้นบนอินเทอร์เน็ต โดยถูกเก็บไว้ที่เว็บไซต์สำหรับการแชร์ไฟล์เพื่อการดาวน์โหลด และโฆษณาผ่านทางแอกเคานต์ทวิตเตอร์

“ทางเราสามารถเข้าถึงดาต้าเบสของการสอบสวนของอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ในขณะที่เราสามารถเจาะเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์ของพวกรัสเซีย พร้อมกับข้อมูลจากเคสคดีรัสเซีย” รายงานจากการทวีตของแอกเคาน์ทวิตเตอร์หนึ่ง

และแอกเคานต์นี้ยังทวีตต่ออีกว่า “พวกคุณสามารถอ่านไฟล์ทั้งหมดของมุลเลอร์ที่เกี่ยวข้องกับ IRA และการสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซีย ขอให้สนุกในการอ่าน!”

สื่ออังกฤษชี้ว่า แอกเคานต์ @HackingRedstone บนทวิตเตอร์ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนนี้เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว และพบว่า นักข่าวได้รับข้อความโดยตรงในวันเดียวกันนั้นในการเสนอเอกสารลับหลักฐานที่รั่วออกมาของมุลเลอร์ และนับตั้งแต่นั้นมาทางบริษัททวิตเตอร์ได้ลบแอกเคาน์นี้ออกไป

การยื่นเรื่องของสำนักงานมุลเลอร์เมื่อวานนี้ (30) ได้ชี้ว่า “ชื่อ” และ “โครงสร้าง” ของโฟลเดอร์ที่เก็บข้อมูลไฟล์ที่รั่วออกไปนั้นตรงกับสิ่งที่ทางมุลเลอร์ใช้ในสำนักงานของเขาเมื่อมีการแชร์ข้อมูล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

โดยอัยการสหรัฐฯระบุว่า บริษัทแชร์ไฟล์ได้ยืนยันต่อ FBI สหรัฐฯว่า ***แอกเคาน์ที่เป็นผู้โพสต์เอกสารลับเหล่านี้ถูกลงทะเบียนจากไอพี แอดเดรส (IP address) ที่อยู่ในรัสเซีย***

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สอบสวน FBI ไม่พบหลักฐานว่า เซิร์ฟเวอร์ของรัฐบาลได้เก็บข้อมูลที่มีถูกแฮ็กเหล่านี้ อ้างอิงจากทีมของมุลเลอร์ โดยชี้ไปที่การปล่อยออกมาจากฝั่งรัสเซียแทน

ทั้งนี้ อัยการพิเศษสหรัฐฯ มุลเลอร์ได้เปิดเผยว่า ไฟล์หลักฐานที่ถูกมือดีนำขึ้นอินเตอร์เนตนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินคดีบริษัทสัญชาติรัสเซีย การจัดการและที่ปรึกษาคอนคอร์ด(Concord Management and Consulting) ที่แอบให้เงินบริษัทสำนักงานวิจัยอินเตอร์เน็ตIRA (Internet Research Agency) ที่อื้อฉาวในปฏิบัติการเจาะข้อมูลลับทางคอมพิวเตอร์

โดยในการยื่นฟ้องได้ชี้ว่า ทนายความสำหรับคอนคอร์ด(Concord) ไม่สมควรได้รับอนุญาตในการเข้าถึงข้อมูลที่อ่อนไหวที่ถูกรวบรวมโดยทีมมุลเลอร์สำหรับทำคดี

https://mgronline.com/around/detail/9620000010951

 

ยุโรปเปิดตัว ‘กลไกชำระหนี้พิเศษ’ กับอิหร่าน-เลี่ยงมะกันคว่ำบาตร
เผยแพร่: 31 ม.ค. 2562 16:32 ปรับปรุง: 31 ม.ค. 2562 20:16 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - อังกฤษ ฝรั่งเศส และ เยอรมนี เตรียมเปิดตัวกลไกชำระหนี้พิเศษ ซึ่งสหภาพยุโรปหวังว่าจะช่วยปกป้องข้อตกลงนิวเคลียร์ และทำให้การค้าระหว่างยุโรปกับอิหร่านยังดำเนินต่อไป

หน่วยงานดังกล่าวจะถูกจดทะเบียนในฝรั่งเศส โดยมีเยอรมนีเป็นผู้กำกับดูแลและได้รับทุนสนับสนุนจาก 3 ประเทศ ซึ่งจะช่วยให้อิหร่านสามารถทำการค้ากับบริษัทยุโรปต่อไปได้ หลังจากที่ประธานาธิบดี

โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ปี 2015 และรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรเตหะรานอีกครั้ง

ทั้งนี้ คาดว่า อังกฤษ เยอรมนี และ ฝรั่งเศส ซึ่งเป็น 3 รัฐในยุโรปที่ลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านจะออกแถลงการณ์ร่วมเปิดตัวกลไกชำระหนี้พิเศษ หลังจากที่ได้เตรียมการมานานหลายเดือน

หน่วยงานแห่งนี้มีชื่อว่า Instrument in Support of Trade Exchanges หรือ INSTEX และแม้จะเป็นโครงการร่วมระหว่าง 3 รัฐบาล แต่จะก็ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากรัฐสมาชิกอียูทั้ง 28 ประเทศ

สหรัฐฯ เตือนอียูว่า อย่าได้คิดหาวิธีหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ทว่าผู้นำยุโรปทั้ง 3 ชาติ รวมถึงจีนและรัสเซีย ยืนยันว่าเตหะรานไม่ได้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของข้อตกลงปี 2015 จึงสมควรได้รับโอกาสในการค้าขายกับนานาชาติต่อไป

อย่างไรก็ตาม อียูยังมีความกังวลเกี่ยวกับโครงการพัฒนาขีปนาวุธและปัญหาสิทธิมนุษยชนในอิหร่าน ตลอดจนความพยายามของเตหะรานที่จะเข้าแทรกแซงความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และโจมตีฝ่ายต่อต้านในยุโรป

วอชิงตันขู่จะเล่นงานทุกบริษัทที่ฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทำให้บริษัทข้ามชาติหลายแห่งต้องจำใจพับแผนค้าขายและลงทุนในอิหร่าน

ดิดิเยร์ เรนเดอร์ส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเบลเยียม ซึ่งเดินทางไปเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูที่กรุงบูคาเรสต์ของโรมาเนีย แถลงว่า ยุโรปยังมีความกังวลเกี่ยวกับอิหร่านในหลายประเด็น ไม่แตกต่างจากสหรัฐฯ

“เราต้องแสดงให้อเมริกาเห็นว่า เรายังคงมุ่งหน้าไปสู่ทิศทางเดียวกันในหลายเรื่อง เช่น โครงการขีปนาวุธอิหร่าน และกิจกรรมของอิหร่านในตะวันออกกลาง”

ในส่วนของกลไก INSTEX นั้น ดิดิเยร์ ชี้ว่า “ท้ายที่สุดแล้วผู้ประกอบการจะต้องเป็นคนตัดสินใจว่ายังอยากจะเข้าไปทำธุรกิจในอิหร่านหรือไม่ และต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะถูกสหรัฐฯ ลงโทษด้วย”

เดิมทีนั้นยุโรปมีแผนจะสร้างกลไกชำระหนี้เพื่อให้อิหร่านสามารถขายน้ำมันให้อียูได้ในลักษณะของการแลกเปลี่ยนสินค้า (barter) แต่เนื่องจากเวลานี้ยุโรปพึ่งพาน้ำมันจากอิหร่านน้อยมาก กลไกดังกล่าวจึงมุ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลางเป็นหลัก

https://mgronline.com/around/detail/9620000010905