ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Enrique Hernández


    ประเทศยุโรปและตะวันออกกลางกำลังใช้ชีวิตเย็นสุดขั้วในวันสุดท้ายนี้


    #FOTOS #VIDEOS


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo



    UNCOMMUNAL


    มันหนาวมากในเยอรมนีที่รถยนต์เยือกแข็ง

    08.01.2019
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Impacto noticias



    แอนตาร์กติกากับคลื่นที่รุนแรงว้าว
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo



    พายุหิมะที่น่ากลัวในซีเรีย

    09.01.2019 ว้าวววว
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo



    การสั่งสมที่ยิ่งใหญ่ของหิมะในเลบานอน

    09.01.2018
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    La nueva era de la tierra - respaldo



    พายุสุดยอดในบัวโนสไอเรส อาร์เจนติน่า

    09.01.2019
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Impacto noticias
    IMG_7341.JPG
    สังเกตการสั่งสมที่ยิ่งใหญ่ของหิมะในออสเตรีย นี่คือสิ่งที่สุดยอด

    08.01.2019


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Impacto noticias


    สุดยอดพายุไฟฟ้าในเลบานอน
    IMG_7342.JPG IMG_7343.JPG IMG_7344.JPG IMG_7345.JPG
    08.01.2019

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Impacto noticias



    คลื่นขนาดใหญ่บนชายฝั่งของ uk

    08.01.2019
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Impacto noticias


    #URGENTE

    รายงานการบุกรุกแมงกะพรุนนอกชายฝั่งของออสเตรเลียในหนึ่งสัปดาห์ บวก 13,000 ตัว โดยแมงกะพรุนเหล่านี้เจ้าหน้าที่อยู่ในการแจ้งเตือนสูงสุด ..


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันพุ่งแรง,ทองขึ้น หุ้นสหรัฐฯปิดบวกแคบหลังการเจรจาแก้วิกฤตชัตดาวน์พังครืน
    เผยแพร่: 10 ม.ค. 2562 05:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000326401.jpg
    มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขึ้นแรงในวันพุธ(9ม.ค.) สัญญาสหรัฐฯแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ หลังพบสต๊อกอเมริกาลดลง ด้านวอลล์สตรีทแกว่งตัวปิดบวกแคบในช่วงท้ายการซื้อขาย หลังโต๊ะเจรจาแก้วิกฤตชัตดาวน์ในอเมริกาพังครืน ขณะที่ทองคำปิดบวกจากแรงหนุนของดอลลาร์อ่อนค่า

    สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนในกรุงปักกิ่ง ยืดยาวเข้าสู่วันที่ 3 โดยไม่มีกำหนดไว้ล่วงหน้าในวันพุธ(9ม.ค.) ท่ามกลางสัญญาณมีความคืบหน้าในประเด็นต่างๆ ในนั้นรวมถึงจีนเสนอซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทเพาะปลูกและพลังงานจากสหรัฐฯ

    ทางออกของข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองชาติถูกมองอย่างกว้างขวางว่าจะเป็นตัวสนับสนุนราคาน้ำมัน เพราะว่าเหตุรีดภาษีตอบโต้กันไปมานั้นส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกและยังเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ด้วย

    ไชน่า เดลลี สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานว่าปักกิ่งต้องการยุติข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯ แต่ข้อตกลงใดๆนั้นต้องเป็นไปอย่างประนีประนอม

    นอกจากนี้แล้วตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากผลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพตต์ส ซึ่งพบว่ากำลังผลิตของโอเปกลดลง 630,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือ 32.43 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธันวาคม ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ข้อตกลงลดกำลังผลิตระหว่างโอเปกกับพันธมิตร ในนั้นรวมถึงรัสเซีย ก็เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

    ราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นไปอีก หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ(9ม.ค.) ระบุว่าสต๊อกน้ำมันดิบของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุุดวันที่ 4 มกราคม ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล แม้คลังน้ำมันเบนซินสำรอง เพิ่มขึ้น 8.1 ล้านบาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลั่น เพิ่มขึ้น 10.6 ล้านบาร์เรล

    ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(9ม.ค.) ขึ้นแรง ได้ปัจจุยหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังเจ้าหน้าที่เฟดออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางในปีนี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,292.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    ด้านตลาดห้นสหรัฐฯในวันพุธ(9ม.ค.) แกว่งตัวลงปิดบวกในกรอบแคบๆในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังการเจรจาแก้วิกฤตชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลบางส่วนของรัฐบาลอเมริการะหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับแกนนำเดโมแครตพังครืนลง

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 91.67 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,879.12 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.55 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,584.96 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 60.08 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,957.08 จุด

    วอลล์สตรีทดีดตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่วันศุกร(4ม.ค.) เมื่อ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดส่งสัญญาณถึงตลาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะใช้แนวทางระมัดระวังในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม และมันถูกตอกย้ำผ่านรายงานการประชุมเฟด(minutes) ที่เผยแพร่ในวันพุธ(9ม.ค.) ที่เน้นว่าเฟดจะใช้แนวทางอดทนต่อปรับขึ้นดอกเบี้ยใดๆ

    ความเคลื่อนไหวในแดนบวกยังลุกโชนขึ้นอีกจากมุมมองบวกต่อการเจราทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน เช่นเดียวกับความรู้สึกของนักลงทุนที่มองว่าตลาดนั้นมีมูลค่าต่ำเกินจริงจากแรงเทขายอย่างหนักในเดือนธันวาคม

    อย่างไรก็ตามตลาดถูกฉุดจนกลับมาปิดบวกแค่ในกรอบแคบๆในช่วง 40 นาทีสุดท้ายของการซื้อขาย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เขียนบนทวิตเตอร์ระบุว่าการประชุมกับแกนนำพรรคเดโมแครต ในเรื่องงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนติดกับเม็กซิโก เพื่อหาทางยุติภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลนั้น "เสียเวลาเปล่าโดยแท้"

    https://mgronline.com/around/detail/9620000003137
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์เดือด!!วอล์คเอาต์โต๊ะเจรจากับเดโมแครตของบสร้างกำแพง บ่น'เสียเวลาแท้ๆ' เผยแพร่: 10 ม.ค. 2562 04:43 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000326201.jpg

    รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯในวันพุธ(9ม.ค.) ลุกหนีจากโต๊ะเจรจากับเหล่าแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส ในเรื่องงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนติดกับเม็กซิโก ก่อนบ่นทางทวิตเตอร์ว่าการประชุมที่ทำเนียบขาวเพื่อหาทางยุติภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลนั้น "เสียเวลาเปล่าโดยแท้"

    ในขณะที่การปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน(ชัตดาวน์) อันมีต้นตอจากความเห็นต่างเกี่ยวกับการสร้างกำแพง ย่างเข้าสู่วันที่ 19 การประชุมระหว่างทรัมป์กับ ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา และ แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากเดโมแครต รวมถึงแกนนำคนอื่นๆ มีอันต้องยุติลงในช่วงเวลาสั้นๆ ด้วยความเกรี้ยวกราดและไม่มีสัญญาณของทางออกใดๆ

    "ผมถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นภายใน 30 วันหากว่าผมเปิดรับสิ่งต่างๆอย่างรวดเร็ว พวกคุณจะเห็นชอบมาตรการความมั่นคงชายแดนหรือไม่ ซึ่งรวมถึงกำแพงหรือแผงกั้นเหล็ก?" ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์ "แนนซีตอบว่าไม่ ผมเลยบอกว่างั้นก็บ๊าย-บาย ไม่มีอย่างอื่นที่ได้ผลหรอก!"

    ฝ่ายเดโมแครตที่อยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวตำหนิพฤติกรรมของทรัมป์ และเผยว่าการประชุมพังครืนลงหลังจากพวกเขาปฏิเสธให้สัญญามอบเงินทุนสำหรับสร้างกำพงทางใต้ของประเทศตามที่ทรัมป์เสนอ

    ชูเมอร์ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวด้านนอกทำเนียบขาว เกี่ยวกับกรณีที่ ทรัมป์ ร้องของบประมาณสร้างกำแพงกับ เปโลซี "เธอตอบว่าไม่ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและพูดว่าเมื่อเป็นแบบนี้ เราก็ไม่มีอะไรที่ต้องคุยกันและเขาก็เดินออกไปเฉยๆเลย อีกครั้งที่เราเห็นอารมณ์เกรี้ยวกราด เพราะเขาไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ"

    ก่อนหน้านี้ในวันพุธ(9ม.ค.) ทรัมป์ระบุว่าเขามีสิทธิ์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อสร้างกำแพงทางใต้ของประเทศหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรส ต่อคำร้องของบประมาณ 5,700 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการดังกล่าว

    ทั้งนี้การชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบางส่วน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 18 วันที่แล้วจากความขัดแย้งเกี่ยวกับกำแพงชายแดน ได้ส่งผลให้พนักงานลูกจ้างภาครัฐราว 800,000 คนไม่ได้รับค่าตอบแทน

    การชัตดาวน์ที่กลายเป็นเทคนิคในการต่อรองทางการเมืองเช่นนี้ ถูกมองมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นสัญลักษณ์ความพิกลพิการของระบบการเมืองในวอชิงตัน และทำให้พนักงานลูกจ้างภาครัฐต้องเผชิญความเลวร้ายจากการไม่ได้รับเงินเดือน

    ทรัมป์ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลฉบับชั่วคราว เพื่อบีบให้เดโมแครตอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงชายแดน 5,700 ล้านดอลลาร์ จนกระทั่งนำไปสู่การปิดงานของภาครัฐดังกล่าว

    https://mgronline.com/around/detail/9620000003135
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันส่อขาขึ้น ซาอุดีอาระเบียเผยจะลดส่งออก10%เพื่อกระตุ้นราคา เผยแพร่: 10 ม.ค. 2562 02:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000324901.jpg

    คาลิด อัล-ฟาลิห์ รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย
    เอเอฟพี - ซาอุดีอาระเบีย ยักษ์ใหญ่ของโอเปก จะปรับลดการส่งออกน้ำมันในเดือนมกราคม ลง 10% จากระดับของเดือนพฤศจิกายน กระทรวงพลังงานริยาดเปิดเผยในวันพุธ(9ม.ค.) ในขณะที่พวกชาติผู้ผลิตเคลื่อนไหวพลิกฟื้นราคาจากที่ดำดิ่งหนักในระยะหลัง

    คาลิด อัล-ฟาลิห์ รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบียบอกว่าประเทศของเขา ซึ่งเป็นชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก จะปรับลดการส่งออกเหลือ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมกราคม จากระดับ 8.0 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤศจิกายน

    นอกจากนี้แล้วเขาประกาศด้วยว่าจะลดการส่งออกเพิ่มเติมอีก 100,000 บาร์เรลในเดือนกุมภาพันธ์

    โอเปกและเหล่าชาติพันธมิตรตัดสินใจเมื่อเดือนที่แล้ว สำหรับลดกำลังผลิตโดยรวมราว 1.2 ล้านบาร์เรลเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม เพื่อส่งเสริมราคาที่ดำดิ่งลงอย่างหนักจากภาวะอุปทานล้านตลาดและความกังวลต่ออุปสงค์อ่อนแอ

    ฟาลิห์บอกว่ากำลังผลิตของซาอุดีอาระเบียลดลงสู่ 10.2 ล้านบาร์เรล จากระดับราวๆ 11 ล้านบาร์เรล เมื่อครั้งที่เหล่าพวกชาติผู้ผลิตตัดสินใจสิ้นสุดข้อตกลงลดกำลังผลิตในเดือนพฤษภาคมปีก่อน

    "เราจริงจังเกี่ยวกับการฟื้นฟูสมดุลแก่ตลาด" ฟาลิห์กล่าวระหว่างแถลงข่าวในริยาด โดยในโอกาสนี้เขายังเปิดเผยด้วยว่าคลังน้ำมันสำรองอันมโหฬารของประเทศ มีปริมาณมากกว่าที่คิดไว้อย่างมาก "เรากังวลต่อความผันผวนในตลาดน้ำมัน เราเห็นจุดพีคสุดและการดิ่งลงของราคาโดยปราศจากพื้นฐานโดยสิ้นเชิง"

    หลังน้ำมันดิบแตะระดับ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงต้นเดือนตุลาคม ช่วง 2 เดือนนับจากนั้นราคาน้ำมันได้ดิ่งลงมากว่า 40% สืบเนื่องจากอุปทานล้นตลาดและความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งอาจกระทบกับอุปสงค์ทางพลังงาน

    อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังข้อตกลงใหม่ ซึ่งโอเปกและพันธมิตรเห็นพ้องลดกำลังผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล มีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม

    "การปรับลดปริมาณนี้เพียงพอที่จะคืนสมดุลแก่ตลาด" ฟาลิห์กล่าว พร้อมระบุว่ามาตรการปรับลดกำลังผลิตจะช่วยตัดอุปทานส่วนเกินออกจากตลาด

    https://mgronline.com/around/detail/9620000003128
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จนท.เฟดเตือนปรับขึ้นดอกเบี้ย'เลยเถิด'อาจลากศก.สหรัฐฯสู่ภาวะถดถอย เผยแพร่: 10 ม.ค. 2562 01:05 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    [​IMG]

    เอเอฟพี - เศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ในรูปทรงที่ดี แต่อาจถูกฉุดเข้าสู่ภาวะถดถอยหากว่าธนาคารกลางปรับขึ้นดอกเบี้ย "ไกลเกินไป" จากคำเตือนของเจ้าหน้าที่ระดับอาวุธรายหนึ่งของเฟดในวันพุธ(9ม.ค.)

    ความเห็นดังกล่าวเป็นอีกสัญญาณแห่งความอะลุ่มอล่วยจากหนึ่งในสมชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และดูเหมือนจะเป็นความพยายามสร้างความอุ่นใจแก่ตลาดการเงิน

    เจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ เรียกอัตราดอกเบี้ยระดับปัจจุบันว่าอยู่ในระดับที่ดี ระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สรีท เจอร์นัลในวันพุธ

    "หลังจากปรับขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 4 ครั้งเมื่อปีก่อน เฟดจะจำกัดขอบเขตไม่ให้มันไกลเกินไป มีความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจอาจดิ่งเข้าสู่ภาวะถดถอยหากว่าอัตราดอกเบี้ยสูงกว่านี้" บุลลาร์ดกล่าว พร้อมระบุว่าเขามีความตั้งใจลดอัตราดอกเบี้ยถ้าจำเป็น

    เขาบอกต่อด้วยว่า "ด้วยอัตราดอกเบี้ยไม่ส่งสัญญาณว่าจะดีดตัวไปไกลเกินกว่าระดับเป้าหมาย 2%ของเฟด ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม"

    ในการประมาณการรายไตรมาสของธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อเดือนธันวาคม แสดงให้เห็นว่าพวกเจ้าหน้าที่เฟดยังคงคาดหมายว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปี 2019

    อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดออกมาหาสร้างความอุ่นใจแก่ตลาดเงิน โดยระบุว่าพวกคณะกรรมการกำหนดนโยบายจะ "อดทน" ก่อนตัดสินใจใดๆในความเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ในขณะที่พวกเขาจะจับตาพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดและจะตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ

    แนวโน้มของการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่อาจชะลอเศรษฐกิจ ทำนักลงทุนขวัญผวาและเป็นปัจจัยที่สั่นคลอนและฉุดตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นทั่วโลกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

    ในเรื่องนี้ บุลลาร์ด แนะนำว่าเฟดควรใส่ใจกับสารดังกล่าวจากตลาด ด้วย "ในทศวรรษที่แล้ว ตลาดมีความถูกต้องมากกว่าตัวคณะกรรมการเสียอีก"

    https://mgronline.com/around/detail/9620000003124
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Clip: ผิดคาด “ทรัมป์” ไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ แต่ยัน “กำแพง” ต้องมี แนวพรมแดนใต้ “วิกฤตมนุษยธรรม-ความมั่นคงพุ่ง” เผยแพร่: 9 ม.ค. 2562 14:50 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000293701.jpg

    เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯใช้เวลา 9 นาทีแถลงจากห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวในคืนวันอังคาร(8 ม.ค) ต่อประชาชนอเมริกัน ประกาศกำแพงต้องเกิดขึ้น เพราะมีวิกฤตทางมนุษยธรรมและความมั่นคงเพิ่มตลอดแนวพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯ แต่ไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อสร้างกำแพง และไม่เสนอทางออกแก้วิกฤตปิดหน่วยงานรัฐ

    หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษและสื่อทั่วโลกรายงานวันนี้(9 ม.ค)ว่า ในขณะที่วิกฤตชัตดาวน์ปิดหน่วยงานเกิดขึ้นนาน18 วันแล้ว แต่ทว่ายังไม่ดูเหมือนว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถหาทางรอมชอมกันได้

    ซึ่งหลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯได้ใช้ช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของคืนวันอังคาร(9)ออกแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์ อ้างอิงจากสื่อสหรัฐฯ NBC NEWS มีระยะเวลา 9 นาที กล่าวต่อประชาชนชาวอเมริกันถึงเหตุผลความจำเป็นที่กำแพงกั้นพรมแดนทางใต้ต้องเกิดขึ้น

    ฝ่ายพรรคเดโมแครตที่ในเวลานี้คุมสภาล่างสหรัฐฯได้ส่งผู้นำเสียงข้างน้อยสภาสูงสหรัฐฯ ชัค ชู เมอร์ (Chuck Schumer) และประธานสภาคองเกรส แนนซี เพโลซี (Nancy Pelosi) ออกมาโต้ทรัมป์

    โดยทางฝ่ายเดโมแครตชี้ว่า ทรัมป์ใช้ฉากหลังห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว “ผลิตวิกฤต” เพื่อให้คนทั้งชาติเกิดความกลัว ซึ่งชูเมอร์กล่าวว่า “ขอให้ยุติวิกฤตปิดหน่วยงานรัฐเดี๋ยวนี้” ซึ่งหมายถึงต้องการให้ทรัมป์ยุติวิกฤตชัตดาวน์ และให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯกลับมาทำงานอีกครั้ง รวมไปถึงข้าราชการสหรัฐฯที่ยังไม่ได้รับเช็คเงินเดือนจะได้รับการจ่ายย้อนหลัง

    ส่วนเพโลซีชี้ว่า ทรัมป์พยายามจับประชาชนชาวอเมริกันเป็นตัวประกัน และหยุดสร้างวิกฤต รวมไปถึงขอให้เปิดหน่วยงานรัฐให้ทำการอีกครั้ง โดยยูโรนิวส์ชี้ว่า วิกฤตการปิดหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้มีความยาวนานเป็นอันดับ 2 ของวิกฤตชัตดาวน์ของสหรัฐฯที่เคยเกิดขึ้นมาทั้งหมด

    ด้านเดอะการ์เดียนกล่าวว่า ในการแถลงครั้งแรกของปี 2019ผู้นำสหรัฐฯกล่าวว่า เกิดปัญหาวิกฤตทางมนุษยธรรมและความมั่นคงเพิ่มตามแนวพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯที่ติดกับเม็กซิโก

    ทรัมป์กล่าวโทษไปที่แก๊งอาชญากรรม และยาเสพติดจำนวนมหาศาล ซึ่งผู้นำสหรัฐฯชี้ว่า ทางเข้าตามพรมแดนเป็นเสมือนท่อส่งของยาเสพติด พร้อมกับยกตัวอย่างว่า มีพลเมืองสหรัฐฯต้องเสียชีวิตด้วยน้ำมือของคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย

    “ต้องมีชาวอเมริกันอีกมากเท่าไหร่ที่ต้องหลังเลือดก่อนที่สภาคองเกรสจะทำหน้าที่ของตัวเอง” ทรัมป์กล่าวผ่านทางการออกอากาศ

    นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐฯยังชี้ว่า ถือเป็นความผิดของพรรคเดโมแครตที่ทำให้วิกฤตชัตดาวน์ไม่สามารถยุติได้ โดยการปิดหน่วยงานรัฐบางส่วนนั้นเกิดขึ้นมานาน 18 วันแล้ว

    ทรัมป์แถลงต่อหน้าผู้ชมหน้าจอทั่วประเทศในคืนวันอังคาร(8)ว่า “ประชาชนชาวอเมริกันทุกคนต้องถูกทำร้ายจากการเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไม่ได้ควบคุม” และเรียกปัญหานี้ว่า “เป็นวิกฤตทางใจ เป็นวิกฤตทางจิตวิญญาณ”

    ทรัมป์เสริมว่า “นี่ถือเป็นวงจรที่มนุษย์ต้องทนทุกข์ ซึ่งผมมีความมุ่งมั่นที่จะต้องการให้มันสิ้นสุด”

    NBC NEWS ชี้ว่า ผู้นำสหรัฐฯไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ (national emergency) ในคืนวันอังคาร(8) เหมือนที่ได้เคยได้กล่าวไว้ก่อนหน้าว่า เขาต้องการใช้อำนาจทางประธานาธิบดีประกาศฉาวะฉุกเฉินเพื่อทำให้มีการสร้างกำแพงเกิดขึ้นหากว่าทางสภาคองเกรสไม่ยอมอนุมัติงบประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สำหรับสร้างกำแพงให้

    และอีกทั้งในแถลงการณ์ยังไม่กล่าวย้อนไปถึงที่ว่า ผู้อพยพเข้าเมืองจากฝั่งเม็กซิโกนั้นเกี่ยวพันกับการก่อการร้าย โดยหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ชี้ว่า ในวันศุกร์(4)ก่อนหน้า โฆษกประจำทำเนียบขาว ซาราห์ ฮักคาบี แซนเดอร์ส ได้ออกมาอ้างว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรและการปกป้องพรมแดนสหรัฐฯ CBP สามารถจับกุมได้เกือบ 4,000 รายซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายที่ข้ามพรมแดนทางใต้เข้ามา และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ ได้ระบุตัวเลขเดียวกันนี้ในรายการ กู๊ดมอร์นิงอเมริกา ในเช้าวันอังคาร(8)

    แต่ทว่าทางNBC NEWS ได้รายงานในวันจันทร์(7)ว่า ในรอบครึ่งปีแรกของปี 2018 มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายจากพรมแดนทางใต้สหรัฐฯคิดเป็นแค่ 1% ของจำนวนที่รัฐบาลทรัมป์กล่าวอ้าง

    โดยทางยูเอสเอทูเดย์รายงานถึงข้อมูลตัวเลขที่ทางสำนักงาน CBP เสนอต่อสภาคองเกรสพบว่าในช่วงระหว่าง วันที่ 1 ต.ค 2017 – 31 มี.ค 2018 ทางสำนักงานพบบุคคล 41 รายที่ถูกขึ้นบัญชีจับตาผู้ก่อการร้ายตามแนวพรมแดนติดเม็กซิโก และจากจำนวนทั้งหมดมี 35 คนเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ที่เหลืออีก 6 คนเป็นคนชาติอื่น

    ในการแถลงทางโทรทัศน์ ทรัมป์กล่าวว่า “ผู้เชี่ยวชาญทางการบังคับใช้กฎหมายได้ร้องของบตัวเลข 5.7 พันล้านดอลลาร์สำหรับการสร้างกำแพงกั้นทางกายภาพ” และเสริมต่อว่า “และตามการร้องขอของพรรคเดโมแครต ขอให้เป็นกำแพงประเภทที่ทำจากเหล็ก ไม่ใช่กำแพงคอนกรีต ซึ่งสิ่งกีดขวางนี้มีความจำเป็นอย่างที่สุดต่อความมั่นคงตามแนวพรมแดน และนี่เป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทำงานบริเวณพรมแดนของเราต้องการและจำเป็นต้องมี”

    และเสริมต่อว่า “นี่ถือเป็นเรื่องง่ายๆ กำแพงกั้นพรมแดนจะสามารถจ่ายคืนได้ด้วยตัวมันเองอย่างรวดเร็ว มูลค่ายาเสพติดผิดกฎหมายนั้นเกินกว่า 500 พันล้านดอลลาร์/ปี สูงกว่า 5.7 พันล้านดอลลาร์หลายเท่าที่ทางเราได้ร้องขอต่อสภาคองเกรส และอีกทั้งกำแพงจะได้รับการจ่ายทางอ้อมจากข้อตกลงการค้าใหม่ที่ทางเราได้ทำกับเม็กซิโก”

    เดอะการ์เดียนกล่าวว่า การปิดหน่วยงานรัฐสหรรัฐฯเกิดขึ้นนานเกือบ 3 สัปดาห์ แต่กระนั้นผู้นำสหรัฐฯยังไม่ได้เสนอทางออกในการผ่าทางตันวิกฤตปิดหน่วยงานรัฐ และในการแถลงต่อประชาชนชาวอเมริกัน ผู้นำสหรัฐฯได้ตอกย้ำวิกฤตให้เลวร้ายมากขึ้นด้วยการกล่าวว่า “รัฐบาลกลางสหรัฐฯยังคงปิดตัวต่อไปด้วยเหตุผลเดียว แค่เหตุผลเดียวคือ พรรคเดโมแครตปฎิเสธไม่ยอมให้งบสร้างกำแพงทางความมั่นคงประเทศ”

    NBC NEWS ชี้ว่า ในการแถลง ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่า เขาได้เชิญบรรดาผู้นำสภาคองเกรสมาหารือร่วมกันที่ทำเนียบขาวในวันพุธ(9) เพื่อหารือต่อถึงงบการสร้างกำแพง และผู้นำสหรัฐฯมีกำหนดเดินทางไปพรมแดนใต้ในวันพฤหัสบดี(10)




    562000000293702.jpg

    https://mgronline.com/around/detail/9620000002903
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์ปราศรัยยืนยันงบกำแพงชายแดน เดโมแครตไม่อ่อนข้อ-ส่อ'ชัตดาวน์'จบยาก เผยแพร่: 9 ม.ค. 2562 21:07 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000321301.jpg

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังคงย้ำข้อเรียกร้องให้รัฐสภาจัดสรรเงิน 5,700 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างกำแพงชายแดนติดกับเม็กซิโก ระหว่างการปราศรัยถ่ายทอดทีวีทั่วประเทศในช่วงไพรม์ไทม์เมื่อวันอังคาร (8 ม.ค.)
    เอเจนซีส์ - 'ทรัมป์' ยังคงย้ำข้อเรียกร้องให้รัฐสภาจัดสรรเงิน 5,700 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างกำแพงชายแดนติดกับเม็กซิโก ระหว่างการปราศรัยถ่ายทอดทีวีทั่วประเทศในช่วงไพรม์ไทม์เมื่อวันอังคาร (8 ม.ค.) ส่อแววหน่วยงานหลายส่วนของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งปิดทำการเพราะไม่มีงบประมาณมาเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว ยังจะต้อง “ชัตดาวน์” ต่อไม่มีกำหนด ขณะที่โพลล่าสุดระบุชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้นเห็นว่า การชัตดาวน์เป็นความผิดของประมุขทำเนียบขาว

    ตลอดการปราศรัยนาน 9 นาทีจากห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวครั้งนี้ ไม่มีอะไรบ่งชี้เลยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะยอมอ่อนข้อให้พรรคเดโมแครตที่ปฏิเสธการให้งบประมาณก่อสร้างกำแพงดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายภายในประเทศสำคัญของทรัมป์

    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้พาดพิงถึงเรื่องจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเหมือนที่หลายคนคาดไว้ เพื่อใช้อำนาจในการนำงบประมาณจากเพนตากอนมาสนับสนุนโครงการสร้างกำแพงชายแดนโดยไม่ต้องรอการยินยอมจากรัฐสภา ซึ่งหากเขาทำเช่นนั้นจริง จะยิ่งทำให้วิกฤตความขัดแย้งเลวร้ายลง รวมถึงลุกลามสู่การฟ้องร้องในศาล

    ผู้นำสหรัฐฯ ปราศรัยด้วยน้ำเสียงอันรอบคอบระมัดระวังอย่างผิดปกติวิสัยของเขาว่า ต้องการอุดช่องว่างทางการเมืองในศึกชิงอำนาจครั้งนี้ด้วยการเชิญผู้นำคองเกรสไปหารือในทำเนียบขาวในวันพุธ (9) และหวังว่า จะข้ามผ่านการแบ่งพรรคแบ่งพวกเพื่อสนับสนุนความมั่นคงของชาติได้ภายใน 45 นาที

    ทรัมป์ยังเน้นย้ำปัญหาการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนติดกับเม็กซิโกว่า เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของชาวอเมริกัน โดยยกตัวอย่างอาชญากรรมน่าสยดสยองจากฝีมือผู้ลักลอบเข้าเมือง ซึ่งรวมถึงการตัดคอและชำแหละอวัยวะเหยื่อ และสำทับว่า เขาไม่เคยลืมความเจ็บปวดของผู้รอดชีวิตที่ได้ไปพบมา

    ทว่า แนนซี เปโลซี ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวตอบโต้กกลับในเวลาต่อมาว่า ปัญหาที่แท้จริงนั้นคือนโยบายที่โหดร้ายและไม่สร้างสรรค์ของทรัมป์เอง ที่ทำให้ชายแดนดูอันตรายมากขึ้นสำหรับผู้อพยพที่รวมถึงครอบครัวที่มีลูกเล็ก

    ขณะเดียวกัน เนื่องจากทรัมป์มีภาพลักษณ์ของการพูดจาไม่อิงข้อเท็จจริงอยู่เสมอ ทั้งสื่อทีวีที่ถ่ายภาพสดคำปราศรัยของเขาคราวนี้และสื่ออเมริกันอื่นๆ จึงมีการตั้งทีมตรวจสอบความจริง เพื่อติดตามตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในการกล่าวอ้างของทรัมป์อย่างเร่งด่วน และปรากฏว่ามีหลายๆ เรื่อง เช่น เรื่องที่เขาพูดว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับผู้ลักลอบเข้าเมืองที่พยายามเดินทางเข้าอเมริกาวันละเป็นพันคน ซีเอ็นเอ็นและนิวยอร์กไทมส์ต่างยืนยันว่า ตัวเลขดังกล่าวสูงเกินจริง

    562000000321302.jpg


    เช่นเดียวกับที่ทรัมป์อ้างว่า 90% ของเฮโรอีนที่ข้ามชายแดนเข้าสู่อเมริกามาจากเม็กซิโก รวมถึงการประกาศว่าเม็กซิโกจะรับผิดชอบค่าก่อสร้างกำแพง

    จากการปราศรัยของทรัมป์ครั้งนี้ ยังสะท้อนว่า การชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบางส่วนที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 18 วันที่แล้วจากความขัดแย้งเกี่ยวกับกำแพงชายแดนและส่งผลให้พนักงานลูกจ้างภาครัฐ 800,000 คนไม่ได้รับค่าตอบแทนนั้น จะยังไม่ยุติลงเร็วๆ นี้

    การชัตดาวน์ที่กลายเป็นเทคนิคในการต่อรองทางการเมืองเช่นนี้ ถูกมองมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นสัญลักษณ์ความพิกลพิการของระบบการเมืองในวอชิงตัน และทำให้พนักงานลูกจ้างภาครัฐต้องเผชิญความเลวร้ายจากการไม่ได้รับเงินเดือน

    ทั้งนี้ ทรัมป์ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลฉบับชั่วคราว เพื่อบีบให้เดโมแครตอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงชายแดน 5,700 ล้านดอลลาร์ จนกระทั่งนำไปสู่การปิดงานของภาครัฐ

    เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวหาทรัมป์ว่า จับชาวอเมริกันเป็นตัวประกัน

    ขณะที่ ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเดโมแครตในสภาสูง ผสมโรงว่า ทรัมป์บริหารประเทศด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวและใช้พนักงานลูกจ้างรัฐเป็นเครื่องมือต่อรอง

    ทว่า มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำรีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ยกย่องว่า คำปราศรัยของทรัมป์เป็นการเน้นย้ำความมุ่งมั่นในการจัดการวิกฤตมนุษยชนและความมั่นคงตามแนวชายแดนด้านใต้ของสหรัฐฯ

    อย่างไรก็ดี ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์และอิปซอสที่จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 1-7 ที่ผ่านมาโดยสอบถามกลุ่มตัวอย่างวัยผู้ใหญ่ 2,203 คน ประกอบด้วยผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน 722 คน และผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 867 คน พบว่า 51% เชื่อว่า การชัตดาวน์เป็นความผิดของทรัมป์ หรือเพิ่มขึ้น 4% จากการสำรวจช่วงปลายเดือนที่แล้ว ขณะที่ 32% เห็นว่า สมาชิกเดโมแครตในรัฐสภาควรต้องรับผิดชอบ และ 7% กล่าวโทษสมาชิกรีพับลิกันในคองเกรส

    ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ที่สนับสนุนการสร้างกำแพงชายแดนลดลง 12% จากการสำรวจเมื่อต้นปี 2015 โดยเวลานี้อยู่ที่ 41% และ 35% เห็นด้วยให้ร่างกฎหมายงบประมาณของรัฐสภาจต้องครอบคลุมงบสร้างกำแพงชายแดน แต่มีเพียง 25% ที่สนับสนุนการตัดสินใจของทรัมป์ในการชัตดาวน์จนกว่าคองเกรสจะผ่านงบสร้างกำแพง

    https://mgronline.com/around/detail/9620000003091
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขบวนรถไฟเคลื่อนตัวออกจากปักกิ่ง คิมน้อยเสร็จสิ้นการเยือนจีนครั้งลึกลับ เผยแพร่: 9 ม.ค. 2562 23:33 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000324201.jpg

    ขบวนรถไฟที่เชื่อว่ามี คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือโดยสารอยู่ กำลังเคลื่อนตัวออกจากสถานีรถไฟในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ(9ม.ค.)
    เอเอฟพี - ขบวนรถไฟของ "คิม จองอึน" เดินทางออกจากกรุงปักกิ่งแล้วในวันพุธ(9ม.ค.) หลังจากผู้นำเกาหลีเหนือเสร็จสิ้นการเยือนพันธมิตรสำคัญของเขา การเดินทางที่ถูกมองในฐานะวาระยุทธศาสตร์ก่อนการประชุมซัมมิตกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ

    คิม จองอึน เดินทางถึงปักกิ่งเมื่อวันอังคาร(8ม.ค.) ในการเยือนพันธมิตรหลักหนึ่งเดียวของเปียงยางครั้งที่ 4 ของเขา โดยมีรายงานว่าเขาได้พบปะกับ สี จิ้งผิง ประธานาธิบดีจีนและเยี่ยมชมโรงงานแห่งหนึ่งด้วย

    ขบวนรถของผู้นำเกาหลีเหนือถูกพบเห็นกำลังแล่นเข้าสู่สถานีรถไฟกลางของปักกิ่งในวันบ่ายวันพุธ(9ม.ค.) และรถไฟเคลื่อนตัวออกไปไม่นานหลังจากนั้น

    การเดินทางที่ไม่ได้เปิดเผยนี้ส่วนใหญ่แล้วถูกปิดเป็นความลับ โดยนอกเหนือจากการยืนยันว่า คิม จองอึน อยู่ในปักกิ่ง ก็ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆเลยจากทั้งเกาหลีเหนือและจีนต่อกำหนดการเยือนของเขา โดยแม้แต่ในสื่อมวลชนแห่งรัฐก็ไม่ได้รายงานข่าวนี้

    ยอนฮับ สื่อมวลชนของเกาหลีใต้รายงานว่า คิม พบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ราว 1 ชั่วโมงเมื่อวันอังคาร(8ม.ค.) ซึ่งเชื่อว่าเป็นวันเกิดของผู้นำเกาหลีเหนือ และจากนั้นทั้งคู่ได้ควงแขนภริยา ร่วมรับประทานอาหารค่ำที่มหาศาลาประชาคมของกรุงปักกิ่ง

    "ท่านประธานคิม จองอึน เดินทางเยือนจีนตามคำเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แน่นอนว่าประธานาธิบดีสีได้ประชุมและพูดคุยกับเขา" ลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำวัน พร้อมระบุว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากนี้

    ยอนฮับรายงานด้วยว่าการพบปะของทั้งคู่เมื่อวันอังคาร(8ม.ค.) มุ่งเน้นพูดคุยกันในเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมซัมมิตระหว่าง คิมกับทรัมป์ ซึ่งคาดหมายว่าจะมีขึ้นในไม่ช้า

    ในคำปราศรัยเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ คิม กล่าวเตือนว่าเปียงยางอาจเปลี่ยนท่าทีต่อการเจรจานิวเคลียร์ หากว่าวอชิงตันยังคงมาตรการคว่ำบาตรไว้

    ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเกาหลีเหนือเสื่อมทรามลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากความเคลื่อนไหวต่างๆทางนิวเคลียร์ของเปียงยาง แต่ คิม ต้องการสร้างความมั่นใจว่า สี จะได้รับแจ้งข้อมูลข่าวสารการเจรจาต่อรองระหว่างเขากับสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ในขณที่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสองชาติเริ่มอบอุ่นขึ้น

    คิม เลือกจีนเป็นการเดินทางเยือนต่างแดนครั้งแรกของเขาเมื่อปีที่แล้ว ก่อนประชุมซุมมิตร่วมกับ มุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้และทรัมป์

    ผู้นำอเมริกาเผยเมื่อวันอาทิตย์(6ม.ค.) ว่าสหรัฐฯและเกาหลีเหนือกำลังเจรจากันเกี่ยวกับสถานที่จัดประชุมซัมมิตระหว่างพวกเขาครั้งต่อไป

    การเจรจาระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือต่อโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยางหยุดชะงักลง นับตั้งแต่การประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างทรัมป์กับคิมในสิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งระหว่างการประชุมดังกล่าวทั้งคู่ได้ลงนามในเอกสารฉบับหนึ่ง ซึ่งให้คำมั่นอย่างคร่าวๆต่อการปลดนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี

    อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังเห็นต่างกัน ด้วยสหรัฐฯยืนกรานว่าจะต้องคงมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นไว้จนกว่าเกาหลีเหนือจะละทิ้งโครงการนิวเคลียร์ ส่วนเปียงยางต้องการให้ยกเลิกในทันที ขณะที่จีนก็ต้องการให้ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเช่นกัน

    https://mgronline.com/around/detail/9620000003118
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจนจิรา จันทรเสนา


    "ดิฉันไม่ต้องการฟังว่านายกฯ ทำอะไรไปบ้าง เพราะเห็นได้ชัดว่า มันล้มเหลวสิ้นดี.."

    สส.จากพรรคแรงงาน ได้ลุกขึ้นตำหนินายกรัฐมนตรีว่าล้มเหลวในการบริหารจนทำให้คนไร้บ้านในเขตเลือกตั้งของเธอ ต้องป่วยตายอยู่ข้างถนน โดยที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ถึง 11 ราย ทั้งที่เป็นประเทศที่เจริญแล้ว

    "I don't want to hear what you've done, because clearly it has failed"

    Labour's Rachael Maskell asks PM what she will change to ensure "no homeless person dies this year", after 11 deaths in her constituency in 2018

    PMQs live: https://www.bbc.com/news/live/uk-po..._pGyM281hk3jXU-TLn14aFlPb-9v_7sSDGxOKiOkkFj8g

    https://www.bbc.com/news/uk-politics-46805269
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวต่างประเทศ
    c.com%2Fresources%2Fimg%2Feditorial%2F2018%2F02%2F14%2F105008433-GettyImages-645831994.1910x1000.jpg
    การขอหย่าร้างกับภรรยาของ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon อาจสร้างความยุ่งยากต่อการบริหารงานของ Amazon
    ทั้งนี้เพราะ ตามกฏหมายการหย่าร้างของรัฐวอชิงตัน การหย่าร้างจะต้องแบ่งทรัพย์สินกันครึ่งต่อครึ่งระหว่างสามีและภรรยา ดังนั้นการหย่าร้างครั้งนี้จะต้องมีการแบ่งหุ้นของ Amazon ไปให้ภรรยาด้วย ซึ่งการลดลงของหุ้นจะมีผลต่ออำนาจการโหวตในการประชุมบอร์ดและผู้ถือหุ้นของ Amazon
    ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม นักวิเคราะห์มองไปข้างหน้าเพื่อประเมินสถานการณ์
    CNBC รายงาน

    https://www.cnbc.com/amp/2019/01/09...SCY6tPttLAL8RpEY4hqLeen0xV9H16coNenABxDUFGBNw
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,697
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    file_593.jpg
    (Jan 10) ธปท.รอข้อมูลชี้แจงเพิ่มจาก ธ.กรุงไทย หลังอดีตผู้บริหารร้องขอความเป็นธรรม : นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในสถาบันการเงิน เป็นเรื่องที่ ธปท. ให้ความสำคัญมาโดยตลอด จึงได้กำหนดมาตรฐานคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารสถาบันการเงินไว้ในระดับที่สูง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งก็เป็นแนวที่ธนาคารกลางและผู้กำกับดูแลทั่วโลกใช้ในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน กรณีข่าวเกี่ยวกับอดีตผู้บริหารของ ธ.กรุงไทย เป็นเรื่องที่กระทบต่อคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของผู้ทำหน้าที่บริหารสถาบันการเงิน

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอดีตผู้บริหาร ธ.กรุงไทยได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และ ธปท. เห็นว่ายังมีข้อมูลที่ต้องให้ ธ.กรุงไทย ชี้แจงเพิ่มเติมในบางประเด็น ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการรอข้อมูลดังกล่าวเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

    Source: การเงินธนาคาร

    https://www.moneyandbanking.co.th/n...Li6278YoVlB392WLlINSwsUEb8s3lcyKR2VCERmwOrCHQ
     

แชร์หน้านี้

Loading...