ตั้งกระทู้..หาที่มันมีสาระดีๆกว่านี้หน่อยได้ไหม

ขอให้กำลังใจทางทีมงานค่ะที่มีความพยายามทำสิ่งต่างๆ เพื่อพวกเรามาตลอด (รับรู้ได้ค่ะว่าตั้งใจ เห็นจากจำนวนสมาชิกผู้อ่านที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ)
ขออนุโมทนาผลบุญด้วยค่ะ

 

ขอบคุณทีมงานครับ

 

ขอกราบขอบพระคุณ และโมทนา กับทีมงาน ที่มุ่งมั่นต่อการบำเพ็ญเพียร ในการสรรค์สร้าง คุณความดี

ด้วยความจริงใจแท้

...................................................................................

ขอแสดงความเข้าใจ เห็นใจ ท่านที่โพสข้อความ ทั้งหลาย....
เพราะว่า.. ผมเอง ก็เป็นผู้โพส คนหนึ่ง เช่นกัน....
(ผมเอง ก็คงเคยสร้างความไม่พอใจให้แก่ บางท่าน ไว้แล้ว เช่นกัน)

...................................................................................

เหตุ

พวกเรา ต่างก็เข้ามาในเวปพลังจิต ด้วยมุ่งมั่นว่า จะได้พบ ของดี คนดี....
คงไม่มีใคร ที่อยากจะได้ ของเสีย หรือได้พบ คนเลว....

ผล
แต่ทว่า บางครั้ง ในความเป็นจริง เราก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ชัดว่า สิ่งใดดี คนไหนไม่ดี

เพราะว่า....
คนเราทุกคนที่เกิดมา ก็ต่างมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน คือ พระนิพพาน เป็นที่สิ้นสุด
แต่ทว่า ทางเดินที่จะไป เวลาที่จะเดินทางไป อาจจะแตกต่างกันไป

เปรียบเสมือนว่า การเดินทางไป เชียงใหม่....
หากเรา "มีทุนดี" เราก็ไปโดยทางเครื่องบิน
ทุนรองลงมา ก็ไปโดย รถไฟ รถยนต์ มอเอตร์ไซค์ จักรยาน หรือ แม้แต่ เดินไป

ทุนดี ก็คือ บุญดี บุญใน ทาน ศีล ภาวนา
กรรมที่สร้างไว้ ทั้งกรรมดี และกรรมเลว(ผิดศีล 5) ย่อมมีมา สะสมมา แตกต่างกันไป
วิธีการ และ ห้วงระยะเวลา กรรมจึงย่อมบังคับให้แตกต่างกัน เช่นกัน เป็นธรรมดา

คนเรา จึงย่อมที่จะมีความคิด.. ต่างจิต.. ต่างใจ..
เพราะว่า ต่างกรรม(คือกรรมแตกต่างกัน)....

และ ต่างบุญบารมี..
(ต่างบารมี คือ บารมีต้น / อุปบารมี คือ บารมีกลาง / และ ปรมัตถบารมี)

การที่เรา มุ่งหวังว่า....
จะให้ใคร คนใดคนหนึ่ง หรือ ทุก ๆ คน ให้มีความเข้าใจในตัวเรา หรือ คำพูดของเรา
ทั้ง ๆ ที่เรามีความหวังดี ก็ย่อมยากที่จะเป็นไปได้

เพราะว่า แม้แต่ สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
คน 4 คน ท่าน ก็ทรงตรัสสอน เพียง 3 คน คือ
อุคคติตัญญู.. บัวพ้นน้ำ
วิปปติจตัญญู.. บัวปริ่มน้ำ
เนยยะ.. บัวกลางน้ำ

ส่วน ปทปรมะ นี่ พระองค์ท่านก็ไม่ตรัสสอน ด้วยความเมตตา ที่ว่า....
หากฝืนสอนไป รังแต่จะทำให้เขาผู้นั้น ตกนรก เร็วขึ้น นานขึ้น(ไม่เชื่อ แล้วจะลบหลู่)
(พระพุทธญาณ.. สัพพัญญู.. ย่อมรู้ตามความเป็นจริง ทั้งสิ้น)

...................................................................................

การที่พวกเรา กล่าววาจากัน ในเวปบอร์ด ด้วยความมุ่งหวังในที่ดี ๆ เท่านั้น
อยากจะให้ ผู้อ่าน ผู้รับรู้ รู้ในสิ่งที่ดีๆ นำข้อที่ดีๆ ไปใช้
เพื่อให้เกิดเป็นประโยชน์ หรือความสุข แก่พวกเขาทั้งหลาย นั้น....

แต่ทว่า สิ่งที่เราพูด สิ่งที่เรานำเสนอ นั้น
พวกเราจะรู้ ได้อย่างไรว่า....
สิ่งนั้น เป็นประโยชน์จริง ดีจริง....

พวกเรา จึงควรมีเกณฑ์ จำกัดของตัวเราเองที่จะนำเสนอ....
ข้อนี้ ก็พูดยาก อธิบายได้ยาก ว่า จะเอาเกณฑ์ อย่างไร....

ก็เสนอได้เพียงว่า....
ขอให้ ไม่คัดค้านต่อคำตรัสสอน ของ สมเด็จพระประทีปแก้วสัมมาสัมพุทธองค์
หรือ พระภิกษุสงฆ์ สุปฏิปัณโณ ที่เป็นที่เคารพ บูชา (ได้จริงๆ เท่านั้น)

มานำเสนอใน ทางธรรม....

...................................................................................

ส่วนการนำเสนอในเรื่องของความเจริญ ในทางโลก นั้น

เราจะนำเสนอ เรื่องใดๆ ก็ตาม เราก็ควรที่จะสามารถรู้ได้ว่า....
เมื่อนำเสนอเรื่องนี้แล้ว ผู้อ่าน ผู้รับรู้ ข่าวสาร จากเรื่องราวที่เรานำเสนอ นี้

จะก่อให้เกิดความรู้ ก่อให้เกิดประโยชน์ และก่อให้เกิด สติ ปัญญา
ให้กับผู้อ่าน ผู้รับฟัง ได้อย่างไรบ้าง หรือสามารถผูกเข้ากับหัวข้อธรรมะ ใดๆ
(สรุปไว้ ด้านล่างโพส ก็ได้)

อย่างนี้ ก็มีความสุขใจเกิดขึ้นแก่ตัวเราเอง (เพราะ เรารู้ว่า เกิดประโยชน์ ได้จริง)

ผลของผู้รับฟัง ผู้รับข่าวสาร

ผู้คน ที่เข้ามาพบเห็น ก็เกิดความสำราญ ใน "พลังจิต" แล้วครับ....

...................................................................................

 

เรื่องที่พวกเรา จะพูด และที่จะนำเสนอในบอร์ด ​

การพูด ที่เกี่ยวข้องในศีล 5 ก็คือ ไม่พูดปด(พูดแล้ว เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น)
เพียงแค่นี้ ก็สุขใจ​

การพูด ที่เกี่ยวข้องในกรรมบท 10
จากไม่พูดปด ข้อเดียว ขยายเพิ่มมาอีก 3 ข้อ(รวมเป็น 4 ข้อ) คือ....
1. ไม่พูดปด
2. ไม่พูดคำหยาบ
3. ไม่พูดส่อเสียด สีเสียด
4. ไม่พูดเพ้อเจ้อ เหลวไหล ไม่มีสาระแก่นสาร​

หากเราทำได้ ธรรม ก็เจริญ สูงขึ้น เรื่อย ๆ
(เจริญในธรรม)​

พอดีมีข้อมูล เกี่ยวกับ วาจา อยู่ในคอมพิวเตอร์ของผมเอง
ก็เลยอยากที่จะนำมา นำเสนอ....​

ด้วยหวังว่า น่าที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ แก่ สาธุชน....​

...................................................................................​

วาจา และ การพูด​

1. คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึง นรก​

2. ควรกล่าวแต่ วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน​

3. ควรกล่าวแต่ วาจาที่น่าพอใจ​

4. ในกาลไหน ๆ ก็ไม่ควรกล่าววาจาไม่น่าพอใจ​

5. ควรเปล่ง วาจาไพเราะ ที่มีประโยชน์​

6. ควรเปล่ง วาจางาม​

7. วาจา เช่นเดียวกับ ใจ​

8. คนโกรธ มี วาจาหยาบ​

9. คนเปล่ง วาจาชั่ว ย่อมเดือดร้อน​

10. เปล่งวาจางาม ยังประโยชน์ให้สำเร็จ​

11. ไม่ควรกล่าววาจา จนเกินกาล​

12. ไม่ควร นิ่ง เสมอไป​

13. เมื่อถึงเวลา ก็ควรพูดพอประมาณ ไม่ฟั่นเฝือ​

14. พึงเปล่งวาจางามเท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย​

15. คนที่เกิดมา มีผึ้งเกิดอยู่ในปาก คนโง่ กล่าวคำไม่ดี ก็ชื่อว่าเอาผึ้งถากตัวเอง
(คำกล่าวที่ไม่ดี หลุดจากปากของตนเองมา ก็กลับมาทำร้ายตนเอง)​

16. คนใด ถูกอ้างเป็นพยาน และเบิกความเท็จ
เพราะตน ก็ดี เพราะผู้อื่น ก็ดี เพราะทรัพย์ ก็ดี
พึงรู้ว่า ผู้นั้น เป็น คนเลว​

17. บุคคลทำสิ่งใด ควรพูดสิ่งนั้น ไม่ทำสิ่งใด ไม่ควรพูดสิ่งนั้น​

18. บัณฑิต ย่อมกำหนดรู้ คนที่ไม่ทำ ได้แต่พูด​

19. คนเขลา กล่าวในเรื่องใด ไม่ถูกผูก ก็ติด ในเรื่องนั้น
คนฉลาด กล่าวในเรื่องใด แม้ถูกผูก ก็หลุด ในเรื่องนั้น​

20. ผู้มีภูมิปัญญา ย่อมไม่พูดพล่อย ๆ เพราะเหตุแห่งคนอื่น หรือตนเอง
ผู้นั้น ย่อมมีผู้บูชาในท่ามกลางชุมชน แม้ภายหลังเขาย่อมไปสู่สุคติ​

...................................................................................​

 

คนบางคนนั้นยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ บอกว่าอย่าทะเลาะกันๆ พวกนี้ไม่มีฟังหรอก บอกว่า สติมหาสติ มันก็ไม่ฟังหรอก เพราะไปยุมัน / ดังนั้นคนพวกนี้ เป็นแบบไม่เห็นเลือดไม่หลั่งน้ำตา ต้องให้มันเห้นเลือดสาดกระจายก่อนมันจึงยอมหยุด / บางคนมีทิตฐิมานะแรงกล้า ถ้าจะทำลายทิตฐิมานะของพวกที่ชอบเอาวิชามาถกเถียงทะเลาะวิวาทกันนั้น บางครั้งก็จำเป้นต้องไปร่วมสังฆกรรมกับพวกมันด้วยเพื่อจะได้ ตัดไฟแต่ต้นลม พญานาคคิดว่าไฟตัวเองร้อนดังนั้นจึงโดนไฟของพระพุทธสาวกซะจนต้องยอมมากราบพระพุทธองค์ พระอุปคุตยังทรมานพญามารให้รู้สำนึกได้ พระพุทธองค์ยังทำให้พระราหูที่คิดว่าตัวเองโตที่สุดจำนนได้ พระพุทธองค์ยังทำให้ท้าวผกาพรหม หยุดคิดว่าตัวเองมีชีวิตนิรันดิ์ได้ เห้งเจียคิดว่าตัวเองติลังกาเหาะได้ไกลที่สุด ยังไม่พ้นฝ่ามือพระพุทธองค์เลย ฉันใดก้ฉันนั้น ดังนั้นบางครั้งการหยุดการทะเลาะกันนั้นอาจจะไม่สามารถใช้จอหงวนบุ๋นมาห้ามปรามได้ จึงต้องให้จอหงวนบู๊อย่างพ่อมดโลจิมาจัดการ...วงแตกเป็นเสี่ยงๆเลยละสิ / ดังนั้นกรุณาอย่าเข้าใจว่าพ่อมดโลจิเป้นอันธพาล ใล่กัดคนนั้นคนนี้ แต่ต้องดูที่เจตนาจริงๆและผลลัพธ์ที่ออกมาดีกว่าครับ ถ้าให้มาห้ามปรามแบบทั่วไปเห็นทีว่า จะไม่สามารถห้ามปรามการแสดงความคิดเห้นของทั้งสองพวกได้ ดังนั้น พ่อมดโลจิจึงต้องสลายการชุมนุมแสดงความคิดเห้นของพวกนี้ซะ ด้วยการอาละวาดซะยกใหญ่ ผลลัพธ์ออกมาแล้ว สงครามน้ำลายยุติ / คือบางครั้งไม่ใช่ว่า สติและอุเบกขาจะทำให้เกิดความสงบได้ ต้องใช้ปัญญาในการพิจารณาและใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหาและแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้น / ซึ่งวิธีการของพ่อมดโลจิ อาจจะโหดร้ายและซาดิสก์ไปหน่อย แต่ก้สามารถสลายการชุมนุมไปได้ / คือผมได้พิจารณาดูแล้วว่า ยิ่งห้ามยิ่งยุ ดังนั้น จึงชิงลงมือสลายการชุมนุมซะ / บางครั้งอาจจะไม่ใช่พวกที่ใช้คำพูดสวยหรูเพื่อให้ตัวเองดูดีหรือเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่การใช้คำพูดทุกครั้งมันต้องมีนัยแอบแฝงในทางที่เกิดประโยชนืต่อส่วนรวมอยุ่แล้ว คือต้องมองให้ทะลุปรุโปร่งลงไปอีกขั้น และมองให้เกินสามมิติ และให้มองอะไรก็อย่ามองเหมือนตาบอดคลำช้าง และอย่ามองแต่เพียงเปลือกนอกเท่านั้น จงมองให้ถึงแก่นแท้ของจิตวิญญาณ และจงมองด้วยปัญญา/ สาธุ ^_^

 

โย้ว ... พูดถูกนะ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ นั้นคือนิสัยคนไทย /55555/ ฉะนั้นพวกเราต้องขับไล่พวกมารออกไปให้หมด เพื่อสังคมที่น่าอยู่ เพื่อชนรุ่นหลังที่เข้ามาใหม่ ดังนั้นพวกเราต้องเป็น ยามเฝ้าเว็บพลังจิต ...แฮะๆๆๆๆ...

 

เห็นภายนอก เก่าดำ ดูคร่ำคร่า
ภายในผ้า ห่อทอง ผ่องอร่าม
หวังให้งาม ถาวร ต้องบำเพ็ญ

 

ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

 

*** Website พลังจิต ****

เสมือน..."สามโลก"
มีทุกอย่าง...โลกบน....โลกกลาง...โลกเบื้องล่าง
เป็นศูนย์รวมดวงจิตวิญญาณ...หลายหลายประเภท...หลายระดับ

เมื่อ...Website พลังจิต....เริ่มปรากฏ "หลักสัจจะธรรม"
จิตใน สามโลก...จึงเริ่มสั่นคลอน
งง...สับสน....เชื่อบ้าง...ไม่เชื่อบ้าง

สุดท้าย...ความจริงหนึ่งเดียว ย่อมปรากฏ
จิตทุกดวง...จะคล้อยตาม "หลักสัจจะธรรม"
รีบร้อนกัน...ปฏิบัติ "สัจจะ"
เพราะ... "คำเตือนภัย" ที่ให้ไว้...เริ่มเป็นจริงทุกประการ
คำพูดที่พูดไว้ ตั้งแต่แรกว่า......."เวลาปลอดภัยลดลงเรื่อย".......เริ่มปรากฏชัดต่อทุกสายตามนุย์

สาระ....มีอยู่ใน Website แห่งนี้
....... แก่นสาร.......คือ หลักสัจจะธรรม...ตัวกระทำ....สัจจะ
ค้นคว้า...ค้นหา....ศึกษา...พิจารณา กันเอง
ใครเชื่อ ใครได้
ใครทำ ใครได้
เพราะ....เราอยู่บนหลัก "ตนพึ่งตน"....ต้องพึ่งการกระทำของตนเองที่ได้ทำไปแล้ว
อย่ารอช้า...ทุกวินาที มีค่ายิ่งกว่าทองเท่าภูเขา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สามโลก Website พลังจิต ****

*** สามโลก Website พลังจิต ****

Website พลังจิต ...เสมือน...."สามโลก"
มีทุกอย่าง...โลกบน....โลกกลาง...โลกเบื้องล่าง
เป็นศูนย์รวมดวงจิตวิญญาณ...หลายหลายประเภท...หลายระดับ

เมื่อ...Website พลังจิต....เริ่มปรากฏ "หลักสัจจะธรรม"
จิตใน สามโลก...จึงเริ่มสั่นคลอน
งง...สับสน....เชื่อบ้าง...ไม่เชื่อบ้าง

สุดท้าย...ความจริงหนึ่งเดียว ย่อมปรากฏ
จิตทุกดวง...จะคล้อยตาม "หลักสัจจะธรรม"
รีบร้อนกัน...ปฏิบัติ "สัจจะ"
เพราะ... "คำเตือนภัย" ที่ให้ไว้...เริ่มเป็นจริงทุกประการ
คำพูดที่พูดไว้ ตั้งแต่แรกว่า......."เวลาปลอดภัยลดลงเรื่อย".......เริ่มปรากฏชัดต่อทุกสายตามนุย์

สาระ....มีอยู่ใน Website แห่งนี้
....... แก่นสาร.......คือ หลักสัจจะธรรม...ตัวกระทำ....สัจจะ
ค้นคว้า...ค้นหา....ศึกษา...พิจารณา กันเอง
ใครเชื่อ ใครได้
ใครทำ ใครได้
เพราะ....เราอยู่บนหลัก "ตนพึ่งตน"....ต้องพึ่งการกระทำของตนเองที่ได้ทำไปแล้ว
อย่ารอช้า...ทุกวินาที มีค่ายิ่งกว่าทองเท่าภูเขา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "