@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/Jw3zXee24Xs?&autoplay=&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤศจิกายน 2015
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/8dNO2Q9QItA?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/LPmCPKqn0EY?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/xztPw-qBI4E?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/xbbKdF-oFpc?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/vP0Js7rmgzA?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/JIWgomDHLR4?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/nsYznj9XIDE?&autoplay=&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤศจิกายน 2015
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    [​IMG]
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    ประสบการณ์จากการสวดคาถาพระมหาจักรพรรดิ ของคุณกรุณา นครชัย

    เชื่อที่หลวงตาบอกให้แผ่เวลาไปไหนมาไหน เวลาเข้าsupermarket ก็น้อมหลวงปู่แผ่ไปทุกภพภูมิ และดวงจิตเจ้าของธาตุขันธ์ที่เป็นอาหาร ลูกชายเพิ่งได้ของเก่ามาส่วนเราเนี่ยยังไม่ได้มีเซ้นต์อะไรกะใครเขา เราก็ถามลูกว่า มีพวกยังหวงร่างอยู่เยอะมั๊ย ลูกก็บอกว่าหลายตน แม่จะลองแผ่ให้นะ ช่วยดูให้หน่อยนะว่าไปป่าว ลูกบอกว่าเหลือ 3 ตน โอ้เจ๋ง ขนาดจิตไม่เป็นสมาธิหลวงปู่ยังเมตตาขนาดนี้ ก่อนกลับขอลองอีกที ลูกบอกเหลือ 1 เองแม่ เลยได้สอนลูกต่อเลยเพราะลูกชอบกินเนื้อ ถ้าแผ่แล้วเค้าไม่ไป ลูกอย่าไปกินเค้านะ



    [​IMG]
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    เล่าสู่กันฟัง...เกิดขึ้นและเห็นด้วยตนเอง ( จากสมาชิกท่านหนึ่ง )





    เรื่องเกิดขึ้นจาก แม่ของแฟนผมเอง (แม่ยาย)อายุประมาณ แปดสิบกว่าปี ปัจจุบันอาศัยอยู่กับลูกชายของตนเอง(พี่ชายของแฟน) ตามความเชื่อของลูกๆทุกคนก็เชื่อว่า แม่มีสิ่งที่มองไม่เห็นมาอาศัยและสิงอยู่ เพราะจากการบอกเล่าของลูกชาย แม่จะแสดงอาการออกมาให้เห็นเป็นประจำ บางคืนก็จะเรียกหา และชักชวนคนที่ตายไปแล้ว ที่เคยรู้จัก เรียกให้เข้าบ้าน ในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง ตีสอง บางคืนก็จะลุกขึ้นมา หาอาหารกิน เปิดตู้กับข้าว เหลียวซ้ายแลขวา เพื่อจะดูว่ามีใครมองอยู่หรือเปล่า (เวลานั้นลูกชาย ก็แอบมองแม่ตนเองอยู่) เห็นอาการกำลังคว้าหมูก้อนใหญ่ (ที่ลูกสาวมาเยี่ยมหาทุกอาทิตย์)ต้มไว้ให้ เอามากินแบบกระหิวกระหาย มูมมาม สายตาไม่อยู่ที่มองซ้ายมองขวา...เหมือนกำลังจะดูว่ามีใครเห็นหรือเปล่า ในขณะที่ลูกชายแอบมองอยู่ ต้องตะคอกเสียงดังว่า ...แม่กำลังทำอะไรน่ะ!!! แม่บอกว่า เปล่า ไม่รู้ ไม่รู้เรื่อง..กูไม่รู้เรื่อง... ซึ่งอาการแบบนี้จะมีให้เห็นบ่อยครั้ง จนลูกๆของแก เชื่อว่า พฤติกรรมที่แม่ทำไปนั้น...ไม่ใช่แม่... น่าจะเป็นคนอื่นหรือใคร!!!! จนกระทั่งในช่วงวันเพ็ญเดือนสิบสอง ผ่านไปได้ประมาณสองวัน คืนนั้นเดือนยังหงาย พระจันทร์ยังเต็มดวงอยู่ แม่ มีอาการชักกระตุก ตาค้าง กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข เหมือนมีบางสิ่งเข้ามาที่ตัวแกและจะพาแกไป ลูกชายแกทำอะไรไม่ถูก เลยโทรหาน้องสาว(แฟนผมเอง)ให้รีบมาดูใจแม่ ซึ่งคิดว่าแม่คงไม่อยู่กับเราแล้ว เพราะไม่เคยเห็นแม่มีอาการแบบนี้ ในเวลานั้น ผมกับแฟน(ลูกสาว) ก็รีบขับรถไป จากในเมืองนครสวรรค์ ไปที่แม่อยู่กลางทุ่งนา ประมาณ 40 กิโล (เหยี่ยบประมาณ 120 กม./ชั่วโมง) เวลานั้นเกิดอะไรขึ้นก็เกิด คิดแต่เพียงว่า แม่ต้องการรถยนต์ นำออกมาส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด พอไปถึงสิ่งที่ ปรากฏในสายตาของผมในเวลานั้น เป็นอย่างนั้นจริงๆ แม่ กระวนกระวาย หายใจไม่ออก เหมือนคนกำลังจะขาดใจ สายตาเหลือบขึ้นบน แฟนผมเห็นแม่ตัวเองกำลังจะไปในเวลานั้น ก็เป็นลมล้มฟุบไป ด้วยในเวลานั้น ผมรีบถอดพระหลวงปู่ดู่ ที่อยู่ในคอผม คล้องให้แม่ยายทันที พร้อมกับรีบสวดบทมหาจักรพรรดิ์ และเชิญพระเข้าตัว หลายๆรอบ หลายๆครั้ง และบอกหลวงปู่ดู่ให้ช่วย แม่ด้วย ช่วยลูกด้วย ในเวลานั้นผมก็ไม่รู้จะทำอะไรได้นอกจาก พึ่งองค์พระหลวงปู่ดู่เท่านั้น ในที่สุดด้วยอนุภาพและอานิสงส์ แม่ยาย มีอาการดีขึ้น จากคนที่เหมือนกำลังจะสิ้นใจ กลับฟื้นขึ้นมา ในที่สุด ผมรีบติดต่อ รถพยาบาลมารับตัวท่านส่งโรงพยาบาล (ซึ่งจะนำแม่ขึ้นรถตัวเองก็ทำไม่ได้ เพราะขยับตัวแม่ไม่ได้เลย...เป็นอาการอย่างนี้ถึงสองครั้ง ขณะที่พยาบาลมาถึงบ้านก่อนที่จะนำเปลมาหามแม่ขึ้นรถ ยังแสดงอาการชักเกร็ง ให้พยาบาลได้เห็นเลย) ผมเชื่อเลยครับว่า สิ่งที่ผมเห็นกับตาและสิ่งที่ผมได้กระทำลงไป มันเป็นที่ประจักษ์แจ้งกับตัวผมเอง และลูกๆทุกคนที่อยู่ห้อมล้อมแม่ในเวลานั้น เพราะเชื่อว่า แม่จะไปแล้ว ไม่อยู่กับเราแล้ว ...แต่กลับฟื้นคืนมาได้ ...ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ครับ (ในโอกาสนี้ ผมขออนุญาต ขอเชิญมวลสมาชิกและญาติธรรมทุกท่าน นะครับ ช่วยกัน สัพเพ........ให้คุณแม่ถี เพียรเกิด ด้วยครับ...ท่านจะได้หายไวๆ...ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ)..


    Loading : watthummuangna.com




    [​IMG]



    เครดิตเรื่องเล่า https://www.facebook.com/Ghostcente...7697637591656/393711700656915/?type=3&theater
     
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    ตำนานการสร้างพระผงจักรพรรดิ

    [​IMG]


    [​IMG]




    การสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อปูนผสมผงมหาจักรพรรดิสูตรหลวงปู่
    ในการสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อปูนผสมผงมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่นั้น จักสังเกตุ
    เห็นได้ว่าหลวงปู่ดู่ท่านจะสร้างพระเครื่องไว้
    เพื่อเป็นพุทธานุสติแก่บรรดาศิษย์เพื่อให้ระลึกเสมอ
    ว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ทรงประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้ ดังที่จะกล่าวในพระชุด
    "พระพุทธเจ้าเหนือพรหม"นี้ ลป.ดู่ท่านได้หยิบยกพระพุทธตำนานตอนหนึ่ง
    ซึ่งเป็นพระตำนานที่อยู่ในบทสวดพระคาถาพาหุงบทหนึ่งว่า

    "ทุคคาหะทิฏฐิ ภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง

    พหรมมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง

    ญาณาคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท

    ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิ"

    ...พระคาถาบทพาหุงบทนี้ ตามพุทธตำนานได้กล่าวถึงตอนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ปราบทิฐิของท้าวผกาพรหมที่คิดว่าตนเอง
    มีอิทธิฤทธิ์มากและมีความอมตะไม่ตาย จึงคิดท้าพระพุทธเจ้าให้มาลองอิทธิฤทธิ์กัน โดยการท้าลองครั้งนี้คือให้อีกฝ่ายซ่อนและอีกฝ่ายหา หากผู้ใดซ่อนและผู้หา หาไม่พบถือว่าชนะและฝ่ายแพ้จะต้องมาเป็นสาวกของฝ่ายชนะ...เริ่มจากฝ่ายท้าวผกาพรหมเป็นผู้ซ่อนก่อน ท้าวผกาพรหมแปลงกายเป็นธุลีเม็ดทรายหนึ่งเม็ดโดยซ่อนตนเองปะปนอยู่ในทะเลทราย ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ใช้ฌาณ
    ตรวจหาไม่นานก็ค้นพบท้าวผกาและชี้ถูกว่าท้าวผกาพรหมเป็นเม็ดทรายเม็ดไหนอย่างถูกต้องครั้งนี้ท้าวผกาพรหมจึงเป็นฝ่ายแพ้ พอถึงคราวพระพุทธเจ้าเป็นผู้ซ่อนบ้าง พระพุทธองค์ทรงย่อพระวรกายให้เล็กลงแล้วเสด็จขึ้นไป ประทับซ่อนอยู่ในมวยผมบนเศียรของท้าวผกาพรหม
    ฝ่ายหาคือท้าวผกาพรหม ก็เริ่มตามหาพระพุทธเจ้าหายังไงก็หาไม่เจอ หาทั่วทั้ง๓ภพ(ภพโลก ภพสวรรค์ ภพนรก)ก็หาไม่เจอ หาไปสุดขอบแดนจักรวาลก็หาไม่เจอ ท้าวผกาพหรมจึงยอมแพ้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าท้าว ผกาพรหมลดทิฏฐิลงมากแล้ว พระพุทธองค์จึงคลายฤทธานุภาพกลับสู่สภาพเดิม และทรงแสดง พระธรรมเทศนาโปรดท้าวผกาพรหม จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน แต่ขณะนี้เป็นพระอนาคามีแล้ว จักเข้าถึงพระนิพพาน ในยุคพระศรีอริยเมตไตรย จากนั้นมาจึงมีพระนามเรียกขานกันว่า "พระพรหม"...

    การนำบทสวดมหาจักรพรรดิมาใช้ในการสร้างพระ
    หลวงปู่ดู่ท่านเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังถึงการปลุกเสก หรืออธิษฐานจิตในวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกว่า
    "นอกจากการใช้พลังจิตในการปลุกเสกแล้ว ที่ท่านใช้อยู่เสมอคือ บทสวดมนต์ตามเจ็ดตำนาน"
    ซึ่งท่านบอกว่า ดีกว่าคาถาอาคมมากมาย เพราะเป็นเรื่องราวของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ทั้งนั้น
    ไม่จัดเป็นเดรัจฉานวิชชา โดยบทที่ท่านสวดทำทุกครั้งคือ บทพระพุทธเจ้าทรมานพญาชมพูบดี
    หรือที่เรียกกันว่า "บทชมพูปติสูตร"ซึ่งแสดงถึงอำนาจหรือบารมีของพระพุทธเจ้าผู้เป็นครูของมนุษย์และ
    เทวดาทั้งปวง แสดงถึงธรรมที่ชนะอธรรม

    พุทธคุณที่หลวงปู่ดู่หลวงตาม้า ท่านนำมาใช้ในการสร้างพระ
    หลวงปู่ดู่ ท่านเรียกพระคาถาบทนี้ว่า "คาถามหาจักรพรรดิ" โดยทั้งนี้ในการปลุกเสกหลวงปู่ ท่านอารธนากำลังของบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ท่านอันเป็นที่สุด โดยน้อมนำอารธนา บารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบัน บรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆพระองค์ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลายโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต
    บารมีรวมพระเจ้าจักรพรรดิตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต บารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ท่านอันเป็นที่สุด

    บทสวดพระมหาจักรพรรดิ

    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

    ความย่อที่มาคาถาว่า

    พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เพื่อทรงแก้ทิฏฐิมานะ ของพญามหาชมพูบดี
    ในสมัยพุทธกาล มีพระมหากษัตริย์ผู้เรืองอำนาจพระองค์หนึ่ง ซึ่งปกครองเมืองปัญจาลราษฐ พระนามว่า "พญาชมพูบดี" กล่าวกันว่า พร้อม ๆ กับการประสูติของพญาชมพูบดี ขุมทองในที่ต่างๆ ก็ผุดขึ้นมากมายอันแสดงถึงบุญญาธิการของพระองค์ ประชาชนในเมืองนี้จึงมีฐานะความเป็นอยู่ที่มั่งคั่งสมบูรณ์ พญาชมพูบดี ทรงมีอาวุธวิเศษ 2 อย่าง คือ ฉลองพระบาทแก้ว ซึ่งเมื่อสวมเข้าไปแล้วก็จะพาพระองค์เหาะไปในที่ต่างๆ ได้ ทั้งยังใช้อธิษฐานแปลงเป็นนาคราชเข้าประหัต ประหารศัตรูได้อีกด้วย อาวุธวิเศษอย่างที่สอง คือ วิษศร ซึ่งเป็นศรวิเศษใช้ต่างราชทูต หากกษัตริย์เมืองใดไม่มา อ่อนน้อมขึ้นต่อพระองค์ วิษศรนี้ก็จะไปร้อยพระกรรณพาตัวเข้าเฝ้าพระองค์จนได้ ทำให้กษัตริย์ทั้งหลายพากันยำเกรงในพระเดชานุภาพ แห่งพญาชมพูบดี
    ด้วยอาวุธคู่พระวรกาย พญาชมพูบดีได้ขยายพระราชอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง กระทั้งถึงกรุงราชคฤห์ของพระเจ้าพิมพิสาร ผู้เป็นอุบาสกแห่งสมเด็จพระสัมมาสมพุทธเจ้า พญาชมพูบดีส่งอาวุธวิเศษของพระองค์ ไปทำอันตรายต่อพระเจ้าพิมพิสาร แต่ไม่อาจ ทำอันตรายแก่พระเจ้าพิมพิสารได้ ด้วยอาศัยพระพุทธานุภาพ ทำให้พญาชมพูบดีแค้นพระทัยมาก แม้ส่งอาวุธวิเศษอย่างใดไป ก็พ่ายแพ้แก่พระพุทธานุภาพแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นว่า พญาชมพูบดีประสบความพ่ายแพ้ และมีทิฏฐิมานะเบาบางลง ประกอบด้วยกับทรงเล็งเห็นวาสนาปัญญาของพญาชมพูบดีว่าสามารถสำเร็จมรรคผลได้ จึงมีพุทธฎีกาตรัสใช้ให้พระอินทร์แปลงเป็นราชทูตพาพญาชมพูบดีมาเข้าเฝ้า
    ส่วนพระองค์ทรงเนรมิตองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ทรงมงกุฎ พร้อมเครื่องราชาภรณ์ แต่ล้วนงดงาม ส่วนพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานเถระเจ้า พร้อมด้วยเหล่าภิกษุสงฆ์สาวก ก็เนรมิตกายเป็นเสนาอำมาตย์ใหญ่น้อย ล้วนแล้วแต่น่าเกรงขาม ทั้งเนรมิตเวฬุวัน (ป่าไผ่)
    ให้เป็นพระนครใหญ่ประกอบด้วยกำแพงถึง 7 ชั้น และมีพุทธฎีกาตรัสสั่งให้เทวดา พรหม ทั้งหลาย ร่วมเนรมิตเป็นตลาดน้ำ ตลาดบก เมื่อพระอินทร์ซึ่งเนรมิตกายเป็นราชทูต ไปถึงเมืองปัญจาลราษฐ เห็นพญาชมพูบดีและเหล่าเสนาอำมาตย์ยังถือดี จึงแสดงฤทธานุภาพ เป็นที่ประจักษ์ พญาชมพูบดีไม่อาจแข็งขืนจำยอม ต้องยกพลเดินทัพเพื่อเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสมพุทธเจ้า
    เมื่อพญาชมพูบดี เดินทางเข้าเขตพระนครก็ตกตะลึงกับความยิ่งใหญ่อลังการแห่งพระนครที่พระพุทธองค์ทรงเนรมิต แม้แต่เหล่าแม่ค้าริมทาง ก็ยังงดงามกว่าพระอัครมเหสีของพญาชมพู จนชวนให้รู้สึกขวยเขินก้าวเดินไม่ตรงทาง และเมื่อผ่านทางยังกำแพงพระนครแต่ละชั้น ทอดพระเนตรเห็นเหล่าเสนาอำมาตย์ที่รักษาพระนคร พระทัยก็ประหวั่นพรั่นกลัวพระเสโทไหลโทรมทั่วพระสกลกายถึงกำแพงชั้นในซึ่งเป็นแก้ว ก็ทำท่าจูงกระเบนเหน็บรั้งด้วยเข้าพระทัยผิดคิดว่ามีเสียงนางในร้องเย้ยเยาะว่ากษัตริย์บ้านนอก กระทำเชยๆ พญาชมพูบดีก็รู้สึก ได้รับความอัปยศอย่างยิ่ง
    เมื่อพญาชมพูบดีมาถึงต่อหน้าพระพักตร์แห่งพระบรมศาสดา ซึ่งเนรมิตกายเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ก็ยังไม่หมดทิฏฐิมานะ พระพุทธองค์ทรงเชื้อเชิญให้แสดงฤทธิ์เดชอำนาจและของวิเศษทุกสิ่งทุกอย่างออกมา เมื่อพญาชมพูบดีทรงแสดงแล้ว ก็ต้องได้รับความอัปยศ ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยไม่อาจทำอันตรายพระพุทธองค์ได้เลยแม้แต่น้อย
    เมื่อพระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าพญาชมพูบดีคลายทิฏฐิมานะลงมากแล้ว จึงทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพญาชมพูบดี และเหล่าเสนาอำมาตย์ที่ติดตามมาด้วยจำนวนมากมายให้เห็นสิ่งที่เป็นสาระและมิใช่สาระ ให้เห็นโทษแห่งการเวียนเกิด เวียนตาย ในวัฏสงสาร ทั้งให้เห็นคุณแห่งพระนิพพาน พญาชมพูบดีและเหล่าเสนาอำมาตย์ต่างรู้สึกปีติ โสมนัส จึงปลดมงกุฎและ เครื่องประดับของตนวางแทบพระบาทแห่งองค์พระสัมพัญญูบรมศาสนา เพื่อสักการะด้วยความรู้สึกเทิดทูน
    จากนั้นจึงทูลขออุปสมบทต่อพระพุทธองค์

    จากนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสมพุทธเจ้าบรมครู พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์สาวก เทวดา พรหม ก็คล้ายฤทธานุภาพกลับสู่สภาพเดิม (เป็นป่าไผ่และสภาพทั้งหลายตามความเป็นจริง) สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานอุปสมบถแก่พญาชมพูบดี พร้อมด้วยเสนาอำมาตย์ และทรงแสดงพระธรรมเทศนาให้คลายความลุ่มหลงในเบญจขันธ์มีรูป เป็นต้นว่า อุปมาดั่งพยับแดด หาสาระตัวตนที่เที่ยงแท้อันใดมิได้ และแสดงเทศนาต่างๆ เป็นอเนกปริยาย พญาชมพูบดีและเหล่าเสนาอำมาตย์ ก็ดื่มดำในพระอมตธรรมสลัดเสียซึ่ง ตัณหา อุปาทาน จิตของท่านก็เข้าอรหันตผล สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลใ นพระบวรพุทธศาสนา

    --------------------------------------------

    บรรดาลูกหลานวงษ์วานว่านเครือต่างทราบกันดีใครมีไว้ใช่ป้อง

    กันอันตรายอย่างเดียวที่ไหน หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านรับรองกับลูกศิษย์ ท่านพระหลวงปู่ดู่ ป้องกันนิวเคลียร์ได้หลวงตาม้า ท่านเมตตาบอกว่า

    พระหลวงปู่ ป้องกันโรคระบาดและป้องกันไข้หวัดนกได้ให้ใส่ไว้


    ปล. โปรดอย่าลืม คาถาบูชาพระ(คาถาจักรพรรดิ)
    (จากหนังสือ กายสิทธิ์ ของวัดพุทธพรหมปัญโญ)
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    [​IMG]




    หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่

    # เอาธรรมะให้ใครแล้วเขาปรามาส...เราจะ
    บาปไปด้วยต้องระวัง #

    ศิษย์ : การ...อย่างคำที่หลวงปู่เคยบอกว่าถ้าเรา
    เอาธรรมะไปชวนเค้า. เค้าไม่เห็นด้วยเนี่ยค่ะ
    ปรามาสธรรมนี้ ซึ่งเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า
    ก็เท่ากับว่าเราเป็นคนก่อเงี้ยค่ะ

    หลวงตา : ถูกต้อง

    ศิษย์ : มันยังไงคะ

    หลวงตา : อ้าว ไปบอกเค้าแล้วเค้าไม่เชื่อ เค้า
    ปรามาสด้วย...ใครเป็นคนไปบอกล่ะ

    ศิษย์ : หนูเป็นคนไปพูดปึ้บ

    หลวงตา : เออ...เรารับด้วยอะ เพราะเราเป็นเหตุอะ

    ศิษย์ : แต่เหตุด้วยความปรารถนาดีเนี่ยนะ

    หลวงตา :ถูกต้อง...เอ็นดูเขาเอ็นเราก็ขาดแหละ
    ใช่ม๊ะ หลวงตาเคยแล้ว...เนี่ยสมัยก่อนฝึกกะท่าน
    บ่อยๆ ใหม่ๆอ่ะ โอ้โหพรรคพวกในที่ทำงานน่ะ

    แจกแจกนี่แหละ...โอ้โหคุยกัน ไปที่วัดท่านบอก
    เอ็งอย่าไปนั่นนะ เค้าเชื่อเอ็งก็ได้นะ เค้าไม่เชื่อ
    เอ็งก็มีส่วนด้วยนะน่ะ...ตอนหลังไม่ให้เลย

    นอกจากจะถาม...นอกจากเค้าจะถาม หรือว่าไอ้
    คนที่ซี้กันจริงๆ คือรู้แล้วไอ้คนนี้มันไม่ปรามาสแน่
    ก็บอกมัน ...มันทำก็แล้วมันไม่ทำก็ช่างมันไง
    บอกมันแล้ว ใช่ม๊ะ อือ...มันก็ต้องดูคนนะ

    ศิษย์ : แล้วก็เมต...อย่างคำว่าเมตตาจะพาตกเหว
    เงี้ยหรอคะ

    หลวงตา : อย่างงั้นแหละ...แม่ชีก็อยากให้ญาติ
    แม่ชีสวดมนต์อะ ลองไปพูดดิเค้าจะสวดมั๊ย
    ก็นั่นอะสิ...โดนอัดอัดกลับแน่ๆใช่ม๊ะ ชีจะกล้ามั๊ย

    ศิษย์ : ไม่

    หลวงตา : ก็นั่นอะสิ...ถูกแล้ว ในยุคปัจจุบันมันต้อง
    รู้ วัตถุเจริญทางวัตถุมันค่อนข้างจะยากหน่อย
    จะให้คนมานั่งสวดมนต์อย่างเราเนี่ย โอ้...

    ไม่ใช่ไม่มาหรอก...เออถ้าแจกซองเนี่ยเค้าก็ทำ
    อยู่นะ การให้เนี่ยเค้า...ไม่ว่าศาสนาไหนอะ
    ให้อยู่ การให้ทาน...แต่กรรมฐานเนี่ยค่อนข้าง

    จะยาก คนที่จะฝึกกรรมฐานจริงๆเนี่ย...พวกเนี้ย
    ไม่เกิดหรอกจริงนะไม่เกิด ฝึกเอาจริงเอาจังเลย
    ชาติเนี้ย...ไม่เกิด ท่านบอก
    เพราะมันเลยพวกทานมาแล้ว...

    ศิษย์ : มันเลยมาแล้ว

    หลวงตา : เลย...กรรมฐานเป็นงานเรื่องของการ
    เวียาว่ายตายเกิดโดยตรงไง...มันเข้าใจเรื่องทาน
    เรื่องศีล เรื่องไรมาหมดแล้ว

    ศิษย์ : เข้าใจแต่ก็ยังให้อยู่ใช่มั๊ยคะ

    หลวงตา : ให้...ถ้ามีเราก็ให้ไง ถ้าไม่มีเราก็ไม่ให้ไง
    เราให้แล้วเราไม่ได้เป็นทุกข์ เราไม่ให้นะเป็นทุกข์
    เราไม่ให้นะ ถ้าให้แล้วเป็นทุกข์เราจะไปให้ทำไมล่ะ
    จริงม๊ะ

    ถอดคำเทศน์จากยูทูป 10 พฤศจิกายน 2015
     
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    “พระศรีอาริยะ
    จะมาตรัสเป็นพุทธะแบบวิริยะที่ ๓
    อายุ ๘ หมื่นปี
    อายุ ๑๓,๕๐๐ ได้ตรัสเป็นพุทธะ
    เทศน์สอนอยู่ ๘ หมื่นปี
    อายุ ๑๐๓,๕๐๐ เสด็จนิพพาน
    บำเพ็ญผ่านพระพุทธเจ้ามาแล้ว ๓๐๐ ล้าน + ๕๐ แสน ๒ หมื่น ๒,๕๔๗ องค์พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ในโลก
    พระพุทธเจ้าโคตมะ
    บำเพ็ญผ่านพระพุทธเจ้ามาแล้ว ๓๐๐ ล้าน + ๕๐ แสน + ๑๐,๐๐๐ + ๕,๕๐๐ องค์พระพุทธะเจ้า อันนี้ความยาวนานของการบำเพ็ญ
    รูปลักษณ์ของการบำเพ็ญ เป็น อริยะ
    เป็น อรหันต์ อนุสีติ อสีติ
    เป็น พุทธะ
    เป็น ปัจเจกก์
    ฉะนั้น อย่าขี้คร้าน อย่าหาข้ออ้าง
    อันใดบาปไม่ทำ อันใดความดี หมั่นสู้ หมั่นสร้าง หมั่นสะสม
    แม้ยากเย็นแสนเข็ญ ก็เอาชีวิตกายใจเข้าแลก ให้ฝึกแต่ความดี
    ตั้งใจทำสมาธิ”


    ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ




    [​IMG]
     
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    [​IMG]
     
  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    ความรู้ทุกอย่างศึกษาได้จากพลังงานที่อยู่ในโลก

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/Zyh_t_Dpfz0?&autoplay=&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    การปฏิบัติตามแนวทางของหลวงปู่ดู่กับการเข้าใจธรรมะ

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/xkkWki04_p4?&autoplay=1&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    การครอบวิมานและแผ่เมตตา อธิบายแบบละเอียด

    [​IMG]




    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/axFXMlyNfnM?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤศจิกายน 2015
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,456
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,477
    ปิด มโนกรรม

    [​IMG]


    ปิดมโนกรรม
    .
    คราวนี้มาเรื่องปิดมโนกรรม การสวดมนต์ภาวนาจะปิดมโนกรรม คือ ความคิดของเราทันทีนั้นมันยาก แต่มันจะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ ตาดูรูป มือกำพระ จิตอยู่ที่พระ หมายถึง นึกถึงพระในรูป หรือพระที่กำสวดเป็นต้น เมื่อนึกแล้วเราจะไม่นึกเรื่องอื่น นี่คือวิธีที่ไม่เอากรรมเข้ามาเพิ่มในตัวเรานะคะ
    .
    วจีกรรมตัวดีนั้น เวลาเราพูดแล้วไม่เข้าหูใคร เกิดการไม่พอใจ ต่อไปมันรุนแรงขึ้นนะคะมันจะเริ่มเขม่น ไม่ถูกชะตา ไม่พอใจ ด่ากันทะเลาะกัน ตบตีกัน สุดท้ายของทุกรายไม่มียกเว้นคือฆ่ากัน มันจะเพิ่ม level ความรุนแรงขึ้นไปทุกชาติ แล้วก็จะฆ่ากันไปมาทุกชาติ จนฝ่ายใดก็ตามที่ใดสติ หยุดที่ตัวเราก่อนมันก็จะจบ
    บางรายไม่ได้สติคุมตัวเองไม่อยู่ ตามฆ่ากันไปมาทุกชาติๆๆๆ ฆ่ากันจนเหนื่อยก็ยังฆ่ากันต่อไป benfever เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอ คนที่เห็นแล้วไม่ถูกชะตา เห็นแล้วขึ้นตลอด นั่นแหล่ะ มีเชื้อเดิมในอดีตกันมาก่อน ถ้ารู้แล้วแก้ที่เรา เพราะทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรายังไงก็ต้องเจอกันอีก หนีไม่พ้น เป็นเจ้ากรรมกันแล้วหนีไปอยู่รูไหนก็ตามเจอ (หลวงตาม้าเคยบอก) เข้าป่าก็เจอ นอกจากหนีไปบวช หยุดที่เราเท่านั้น
    .
    ใครที่มีเรื่องไม่พอใจ บาดหมางกับใคร เคยทำไม่ดี ทำผิดกับใคร ยิ่งผู้มีพระคุณแล้ว ถ้าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ อย่าอายนะคะ รีบเข้าไปขอโทษขอขมาทันที ทำอย่างนี้ก็แก้ได้ 100 ถ้าไม่กล้าจะอธิษฐานอโหสิกรรม ก็แก้ได้แต่ไม่เต็ม 100เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร ต่อไปในอนาคตเค้าก็ต้องมาเจอกับเรา จากที่จะฆ่าเรา แกล้งเรา จะกลายเป็นช่วยเหลือเราแทน
    .
    เคยมีเชื้อมาจากอดีต แก้ด้วยการสัพเพไปให้เค้าบ่อยๆ และอธิษฐานอโหสิกรรมทุกวัน เราจะลดแรงโกรธ แรงอาฆาต แรงอำมหิตในตัวเราค่ะแล้วเราจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเฉยๆทำทุกวันค่ะ แล้วเชื่อเถอะ มันจะเบา มันจะเฉยๆ กับเค้า เราจะรู้ตัวเลยว่าเรานั่นแหล่ะเอาปัญหาเข้ามาเพิ่มเอง
    .
    ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ - หลวงตาม้า วิริยธโร ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคตทั้งหมดทั้งมวลด้วยเทอญ สาธุ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...