@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    R10ErzarycDf5IwuQmX6VwwStgNDIs_e-T9ZJBbZpq2c&_nc_ohc=EjzI96Obh_kAX_DTPfR&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    หญิงอยากเกิดเป็นชาย
    ผู้ถาม : หลวงพ่อเคยบอกว่า บุคคลใดถ้าอยากเกิดเป็นผู้ชายก็ให้นับถือสามีประดุจกับพ่อ ทีนี้สามีเวลาเมามา "เอ็ดแม่" ขอโทษนะคะ "ควาย" มันทนไม่ไหวจริงๆ แล้วจะเคารพได้อย่างไรเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ : (หัวเราะ) ความจริงพระพุทธเจ้าท่านเทศน์ไว้อย่างนั้น ถ้าอยากจะเกิดเป็นผู้ชายต้องมีใจหนักแน่น ความจริงไม่มีความจำเป็นนี่ ความจริงเป็นผู้หญิงนี่ถ้าอยากเกิดเป็นผู้ชายคนนั้นซวย ซวยจริงๆ นะ เพราะอะไรรู้ไหม ผู้ชายนี่เกิดแต่ละชาติทำบาปมากกว่าผู้หญิง ผู้หญิงแต่ละชาติเขาทำบุญมากกว่าผู้ชายมาก จะเห็นว่าตามวัดตามวาผู้หญิงทำบุญมากกว่าผู้ชาย ใช่ไหม ใส่บาตรหน้าบ้าน ผู้หญิงก็มากกว่าผู้ชาย และทำกรรมฐานในที่ต่างๆ ผู้หญิงก็มากกว่าผู้ชาย อย่างวงเหล้าต่างๆ ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง นี่ผู้หญิงกับผู้ชายบุญต่างกันเยอะ ที่บอกว่าเทพบุตร 1 องค์มีนางฟ้าเป็นบริวาร 1000 องค์นั้นเป็นความจริง เพราะผู้ชายมันลงนรกกันหมด ใช่ไหม
    นี่เราจะเห็นได้ชัดจากการเจริญพระกรรมฐาน ถ้าการเจริญพระกรรมฐานแบบสุกขวิปัสสโกจับได้ยาก ถ้าแบบเตวิชโชนี่จับได้แน่ จะเห็นว่าผู้ฝึกกรรมฐานที่นี่ ผู้หญิงฝึกได้เร็วกว่าผู้ชายนั้น เพราะบุญเก่าเขามีมาก ฉะนั้นก็ไม่ควรอยากเกิดเป็นผู้ชายหรอก
    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 153 เดือนพฤศจิกายน 2536 หน้า 96)
    40Ust7rU9uBCRppF42nAu4HoCmooh5k42grml3HgPWDm&_nc_ohc=uKhyufh1RWMAX-6QiqZ&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    1f48e.png 1f48e.png อธิษฐานตอนเริ่มพุทธาภิเษก 1f48e.png 1f48e.png
    1f496.png พระอาจารย์กล่าวว่า "#ตอนทำพิธีบวงสรวงให้ญาติโยมทุกคนตั้งใจถวายเครื่องบวงสรวงนี้เป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา บูชาคุณครูบาอาจารย์ พรหมเทวดาทั้งหมด เมื่อถึงเวลาการพุทธาภิเษก จะมีการสวดอิติปิ โส ฯ ตามกำลังวัน ซึ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ ก็จะสวด ๑๐ จบ
    1f496.png ในช่วงนี้ถ้ามีกิจกรรมเหล่านี้ ก็ให้กำหนดใจตามกันไป #เมื่อเริ่มการพุทธาภิเษกให้ทุกคนตั้งใจอธิษฐานว่า บารมีใดที่พระท่านสงเคราะห์ลงมา เราขอรับไว้ทั้งหมด #ขอให้กระดูกทุกชิ้นในร่างกายของเรา #มีอานุภาพเหมือนกับวัตถุมงคลที่ท่านพุทธาภิเษกในวันนี้ เชื่อว่าถ้าเราลืมวัตถุมงคลได้ ไปไหนก็คงไม่ลืมกระดูกในร่างกายตัวเอง..!"
    ........................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี

    ........................................
    1f496.png ขอเชิญร่วมสวดพระคาถาเงินล้านและเจริญพระกรรมฐานใน เวลา ๑๙.๐๐ น. 1f64f.png เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา
    1f451.png และท่านสามารถร่วมสวดพระคาถาเงินล้านและเจริญพระกรรมฐานพร้อมกับคณะพระภิกษุสงฆ์ได้ในเวลา ๑๙.๐๐ น. ของทุกวันโดยผ่านทางเพจ หรือ ทางยูทูป ของ สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี แห่งนี้ครับ
    ....................................
    #ทำบ้านเป็นวัด #สร้างพระในจิต #พระคาถาเงินล้าน #สร้างสรรค์กิจกรรมโดย #ชุมชนคุณธรรมสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #ถ่ายทอดสัญญาณจาก #กองเงินกองทองสตูดิโอ
     
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    17 – 10 – 20

    "นั่งสมาธิเห็นแสงสี"

    ผู้ถาม : หนูนั่งสมาธิ...

    หลวงพ่อ : เดี๋ยว...ใครสอน ฉันสอนแต่คน ไม่ได้สอนหนูนี่ ฉันพูดภาษาหนูไม่เป็น นี่ฉันก็เก่งนะพูดภาษาหนูรู้เรื่อง

    ผู้ถาม : หนูตัวนี้เป็นคนครับ คือว่าหนูนั่งสมาธิอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าเงียบไป เห็นเป็นแสงวงกลมสีแดงสีเขียวสีเหลืองสีดำ และเห็นตรงกลางสีขาวเป็นแก้วประกายพรึกวูบ ๆ วาบ ๆ อยู่ข้างหน้าสว่างมาก ลืมตาแล้วยังเห็นเหมือนกับหลับตา ขอเรียนถามหลวงพ่อว่า ตรงกลางสีขาวประกายพรึกนั้นเป็นแสงอะไร ? และจะปฏิบัติต่อไปอย่างไรเจ้าคะ ?

    หลวงพ่อ : ปัดโธ่...มาถามได้ คนปฏิบัติเห็นเองไม่รู้ มาถามคนไม่เห็นจะรู้ได้อย่างไรล่ะ

    ผู้ถาม : อ้าว !

    หลวงพ่อ : หลับตาก็เห็นลืมตาก็เห็นใช่ไหมล่ะ ?

    ผู้ถาม : ครับ

    หลวงพ่อ : เห็นชัดด้วยนะ ?

    ผู้ถาม : ครับ

    หลวงพ่อ : ก็ถือว่าเป็นแสง

    ผู้ถาม : ???

    หลวงพ่อ : ต้องถามว่าแสงนั้นมันเกิดจากอะไรถึงจะถูก คือว่าถ้าเป็นแบบชั่วคราวเขาถือว่าเป็นนิมิตของอานาปานุสสติ แต่ว่าถ้ามีอาการทรงตัวแบบนั้นถือว่านิมิตนั้นเป็นฌานไปแล้ว หรือว่าเป็นอุคหนิมิตชั้นสูง เป็นภาพดีแต่ว่าอย่าติดภาพเกินไป คำว่าติดภาพ ถ้าวันไหนแสงไม่ปรากฏจิตกลุ้ม อันนี้เสียเลยนะ ต้องถือว่าถ้าแสงนั้นปรากฏเราก็พอใจ หายไปก็ไม่เป็นไร

    ถ้าจะใช้เป็นวิปัสสนาญาณร่วม ถ้าปรากฏแสงแล้วจับอยู่ทรงตัวอยู่ก็ให้คิดว่าเวลานี้จิตเราทรงสมาธิมั่นคง ถ้าจิตเคลื่อนไปเมื่อไรให้ถือว่าสมาธิหวั่นไหวไม่ทรงตัว แต่ถ้าแสงหายไปเมื่อไร หรือภาพจางไปเมื่อไร ก็ถือว่าเป็นเรื่องของอนิจจังใช่ไหม ถ้าแสงจางก็ดีมัวไปก็ดี ให้คิดในใจว่าแสงนี้มีสภาพมัวไปได้ฉันใด ร่างกายเราก็เศร้าหมองฉันนั้น

    ถ้าแสงหายไปเมื่อไรก็ถือว่าแสงนี้เป็นอนัตตา แสงก็เหมือนกับร่างกายถ้าแสงหายไปได้ร่างกายก็พังได้เหมือนกัน เราไม่ควรยึดถือร่างกายนี้เป็นสำคัญมันจะพังเมื่อไรก็เชิญ มันเป็นได้ทั้งสมถะและวิปัสสนา

    พระราชพรหมยาน,ธัมมวิโมกข์ (2529),67,15
    Facebook : นิตยสารธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง

    ( เมื่อหลวงพ่อว่าง จากรับสังฆทาน ที่บ้านสายลม ใครมีปัญหาอะไรก็ถามหลวงพ่อ ถ้าไม่กล้าถามโดยตรง ก็เขียนคำถามฝากคุณยกทรง แล้วยกทรงก็ถามแทน ถ้ายกทรงถาม จะมีลูกเล่นนิดหน่อย เพราะเคยเป็นนักเทศน์มาก่อน หลวงพ่อก็ตอบอย่างสนุกสนานไปด้วย)

    ?temp_hash=f353c32c00b1b4c83866677da45a3e83.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    เรื่อง "ปรมัตถทาน ของพระมหาโพธิสัตว์"
    (พระราชพรหมยาน พระมหาวีระ ถาวโร)


    • อานิสงส์บริจาคโลหิตเป็นทาน
    ผู้ถาม : ทีนี้การ บริจาคโลหิตเป็นทาน นั้น อยากจะเรียนถามว่าเป็นทานขั้นไหนครับ
    หลวงพ่อ : เขาเรียกว่า “ทานภายใน” นะ จะถือว่าเป็น "ปรมัตถทาน" ก็ยังไม่ได้ เขาเรียกทานภายใน คือให้ของภายในกายนี่เป็น “ทานภายใน” ให้ของนอกกายเขาเรียก “ทานภายนอก” นะ ยังจะถือว่าเป็นปรมัตถทานไม่ได้นะ ถ้าเป็นปรมัตถทานต้องอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านทำ
    ผู้ถาม : เป็นยังไงครับหลวงพ่อ
    หลวงพ่อ : เชือดเนื้อเอาไปเลี้ยงเขาเลย
    ผู้ถาม : ถึงขนาดนั้นเชียวหรือครับ
    หลวงพ่อ : ใช่ นั่นเป็น “ปรมัตถทาน” เราถือว่าเป็นปกติทานก็แล้วกัน แต่เป็นทานภายในเพราะอานิสงส์สูงมาก อาจจะสูงกว่าทานภายนอกสักหน่อยหนึ่งนะ
    ผู้ถาม : แล้ว การบริจาคโลหิต กับ การอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาล เป็นทาน อันไหนมีอานิสงส์มากกว่ากันครับ
    หลวงพ่อ : อุทิศเลือดให้ขณะยังไม่ตายมีอานิสงส์สูงกว่าเมื่อตายแล้ว ตายแล้วเหมือนของเขาทิ้งแล้ว ร่างกายใช้อะไรไม่ได้ มีประโยชน์เพียงแค่วัตถุทาน จะให้มีอานิสงส์สูงเท่ากับให้เลือดตอนมีชีวิตอยู่นั้นไม่ได้แน่ ใช่ไหม
    ดูอย่างพระพุทธเจ้าเมื่อสมัยเป็นพระเวสสันดร ตอนนั้นที่คนเขามาขอช้างหรือของต่าง ๆ พระองค์ก็คิดว่าทำไมไม่ขอดวงตา ถ้าขอท่านก็จะให้ ไม่ว่าจะเป็นแขนซ้ายหรือแขนขวาก็จะให้ นี่ท่านตั้งใจให้ตอนมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตอนตายแล้ว ฉะนั้น ถ้าให้ได้ก็เป็นปรมัตถบารมี
    ผู้ถาม : ทีนี้ถ้าจะบริจาคร่างกายให้นักศึกษาแพทย์เขาศึกษาต่อเมื่อเราตายแล้ว แต่อธิฐานไว้ว่า “ตายเมื่อไรขอพ้นจากวัฏฏสงสาร” อย่างนี้จะมีโอกาสไม่ให้มาเกิดอีกใช่หรือเปล่าครับ ?
    หลวงพ่อ : ถ้าเวลาจะตายนะ จิตตัดกิเลสแน่นอน ไม่อยากมาเกิดอีก หรือขณะนั้นเมื่อเวลาจะตาย จิตตัดความรักในระหว่างเพศ ตัดความโกรธ ก็ไม่มาเกิดอีก มันไม่แน่นะ เดาส่งไม่ได้ มันเฉพาะจิตใช่ไหมจะเดาไม่ได้ แต่บังเอิญก่อนที่จะตาย เวลานี้ทรงอารมณ์ของพระโสดาบันได้นะ และก็ตัดสินใจไว้เสมอทุกเช้าว่า
    “ร่างกายนี้ตายเมื่อไร"
    "ขอไปนิพพานเมื่อนั้น”
    อันนี้จิตทรงตัวแน่นอน อย่างนี้ไปได้ทันที
    จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๔๗๕
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงนี้อาตมากำลังติดตามปรากฏการณ์ไอ้ไข่อยู่ เนื่องจากว่าบ้านเรานั้นมักจะฮือฮาอะไรเป็นพัก ๆ อย่างเรื่องของท่านท้าวจตุคามรามเทพก็โด่งดังต่อเนื่องถึง ๒๐ ปี ก็คือจากปีพ.ศ ๒๕๓๐ ไปจนถึงปีพ.ศ ๒๕๕๐ หลังจากนั้นก็ซาลง เหลือแต่ท่านที่เคารพนับถืออย่างแท้จริงโดยไม่แฝงประโยชน์เท่านั้น

    เทวดาระดับหัวแถวอย่างท่านท้าวจตุคามรามเทพยังยืนหยัดอยู่ในกระแสได้แค่ ๒๐ ปี แล้วไอ้ไข่ที่เทียบท่านไม่ติดเลย จะยืนหยัดได้กี่ปี ?

    ที่สำคัญที่สุดก็คือ เราต้องไม่ลืมว่าสิ่งใดที่เราขอ แปลว่าเราต้องสร้างเหตุมาเพียงพอ..ผลถึงจะเกิด ถ้าหากว่าท่านสร้างเหตุไม่พอแต่ผลเกิด จะด้วยการดลบันดาลของไอ้ไข่หรืออะไรก็ตาม โปรดรอเวลาที่จะโดนเขาเอาคืนในส่วนที่ขาดของเราด้วย..!

    เปรียบได้กับการไปกู้เงินนอกระบบ เนื่องจากว่าเงินเราไม่พอคือสร้างเหตุไม่พอ แล้วเราไปกู้เงินนอกระบบให้ได้เงินมา ถึงเวลาเขาทวงคืนทั้งต้นทั้งดอกแล้วจะซาบซึ้งว่ารสชาติชีวิตเป็นอย่างไร..! อาตมาไม่ได้ขู่ เพียงแต่ชี้แจงให้ทราบเท่านั้นว่าอะไรเป็นอะไร”

    “ปรากฏการณ์ของไอ้ไข่ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา คนเรามักแสวงหาสิ่งที่ง่าย..ซึ่งฉาบฉวยไม่ยั่งยืน ละทิ้งการแสวงหาสิ่งที่ยาก..ที่มั่นคงและยั่งยืนไป จะด้วยความที่บารมีไม่เพียงพอหรือว่าขี้เกียจก็ตาม สิ่งเหล่านี้ยืนคู่สังคมไทยมาเป็นพันปีแล้ว เพราะว่าสังคมไทยแต่เดิมก็นับถือผีมาก่อน เมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้ามาถึงสุวรรณภูมิ เราก็ค่อย ๆ รับเอาในส่วนของพระเข้ามาแทน แต่ในส่วนของการนับถือผีก็ยังฝังรากลึกอยู่ใน DNA

    สมัยที่หลวงปู่มั่นส่งบรรดาลูกศิษย์ออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหมู่ชาวป่าชาวเขาซึ่งเขานับถือผี ผู้ที่ไปเผยแผ่ อย่างเช่นหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ขาว ต้องใช้วิธีนำภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปให้เขาบูชา โดยบอกว่านี่เป็นหัวหน้าผี เป็นผีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผีทั้งหมดต้องเคารพหัวหน้าผีเท่านั้น ถ้าเราบูชาหัวหน้าผีซึ่งในที่นี้คือพระพุทธเจ้า เราจะมีความสุขความเจริญอย่างแท้จริง

    แล้วก็สอนให้บรรดาชาวเขาภาวนา ให้ภาวนาหาพุทโธ..พุทโธ ชาวเขาก็สงสัยว่าทำไมต้องหาพุทโธให้เจอ ? ท่านก็บอกว่าพุทโธเป็นดวงแก้วอันวิเศษ เป็นที่พึ่งได้ในสามโลก ใครหาพุทโธเจอ ชีวิตจะมีแต่ความสุขความเจริญ ไม่ต้องกลัวอะไรอีกเลย รุ่นหลวงปู่หลวงพ่อของเราต้องอ้างพระพุทธเจ้าเป็นผีเช่นกัน เพราะความเชื่อในผีฝังรากลึกมาแต่ไหนแต่ไร”

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    (หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
    เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๓
     
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    lT3dbD6Wy3Xl0W88WmEjLrAsbIzqr9NlRCrGINuY4Wl1&_nc_ohc=sGlirQH_fPMAX8jII4N&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    #ลาพุทธภูมิ
    “ห้าพรรษาเท่านั้นแหละ ท่านต้องใช้รถสิบล้อมาขน...” หลวงพี่วัชรชัย (พระครูสังฆรักษ์วัชรชัย อินทวงฺโส) เอ่ย เมื่อเห็นของกินของใช้กองเต็มโต๊ะทำงานของอาตมา บนศาลานวราชบพิตร เนื่องจากญาติโยมเอามาถวายคนละเล็กคนละน้อย...
    อาตมาเองก็งงเหมือนกัน นี่มันอะไรกันนักหนา...? บวชมายังไม่ทันครบพรรษาเลย ทำไมผู้คนเมตตาสงเคราะห์ขนาดนี้...? คิดไปคิดมาสรุปได้ว่า เกิดจากการที่อาตมาปรารถนาพุทธภูมิมาก่อนนั่นเอง บริวารถึงได้มากนัก... ไม่ว่ามาจากอีสาน กลาง เหนือ ใต้ ความตั้งใจของท่านทั้งหลายเหล่านั้นคือ มากราบ “หลวงพ่อ” แต่มันให้มีเหตุที่เขาต้องมาพบกับอาตมา แล้วก็ชอบอกชอบใจเกาะหนับเป็นตุ๊กแกเลย... ขืนเป็นแบบนี้ ไม่ทันครบพรรษาคงถูกไล่ออกจากวัดแน่ ๆ เพราะคณะสงฆ์ท่านจะตั้งข้อหาว่า แข่งบารมีกับ “หลวงพ่อ” นะซิ...ไอ้เรารึก็ไล่แล้วไล่อีก ให้เขาไปกราบ “หลวงพ่อ” สมกับที่ตั้งใจมา แต่เขาก็อิดเอื้อนโยกโย้ จนบางทีอยากซัดสักฉาด...!
    เคยกราบเรียนถาม “หลวงพ่อ” ว่า ทำไมศิษย์สายครูบาอาจารย์อื่น ๆ เขาไม่ค่อยมีพระโพธิสัตว์เอาซะเลย แต่ของวัดท่าซุงพระโพธิสัตว์แทบจะเดินชนกันตาย...? “หลวงพ่อ” เมตตาตอบว่า ท่านเองก็เคยกราบเรียนถาม “พระ” ท่านเช่นกัน...
    “พระท่านบอกว่า งานของเธอเป็นงานใหญ่ ต้องสั่งสอนคนหมู่มากเพื่อมรรคผลอย่างแท้จริง แทบจะเป็นการประกาศศาสนาใหม่เลย ถ้าไม่ได้กำลังของพระโพธิสัตว์มาช่วย ลำพังกำลังของเธอเองจะรับมือไม่ไหว...”
    ที่สำคัญคือ หลวงพ่อท่านปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน ถ้ายังไม่ละความปรารถนานั้นเสียก่อน เมื่ออายุครบ ๖๐ ปีในชาตินี้ จะบำเพ็ญบารมีของวิริยาธิกะโพธิสัตว์เต็ม ครบ ๑๖ อสงไขย กับ ๑ แสนมหากัปพอดี... หลวงพ่อเล่าว่า “คนของฉันที่อธิษฐานตามกันมา เลยทำงานพุทธภูมิไปโดยปริยาย ยิ่งพวกที่ตามกันมาแต่ต้น ๆ บำเพ็ญบารมีมาเกิน ๑๐ อสงไขยกัปทั้งนั้น ถ้าเป็นสาวกภูมิก็บรรลุไปนานแล้ว...”
    การบำเพ็ญบารมี เพื่อความเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น แบ่งออกเป็น ๓ ประเภทด้วยกัน คือ
    ๑. ปัญญาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๔ อสงไขย กับ ๑ แสนมหากัป
    ๒. ศรัทธาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๘ อสงไขย กับ ๑ แสนมหากัป
    ๓. วิริยาธิกะ บำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงไขย กับ ๑ แสนมหากัป
    การจะเป็นพระพุทธเจ้าแบบใด ก็ขึ้นอยู่กับว่าพระโพธิสัตว์ท่านนั้น จะตั้งความปรารถนาว่าต้องการบริวารแบบใด แบบปัญญาธิกะนั้น บริวารของท่านจะคละเคล้ากันไป ทั้งยากดีมีจน ขี้เหร่สวยงาม แบบยำใหญ่ใส่สารพัดเลยล่ะ... แบบศรัทธาธิกะ บริวารของท่านจะสวยรวยดี ตั้งอยู่ในศีลธรรมเสมอกัน คนชั่วจะเข้ามาในเขตประกาศศาสนาของท่านไม่ได้ แบบวิริยาธิกะ นอกจากสวยรวยดีเสมอกันหมดแล้ว ช่วงนั้นคนชั่วไม่มีโอกาสมาเกิดในโลกได้เลย...!
    ถ้าหลวงพ่อไม่ลาพุทธภูมิเสียก่อน ท่านจะเกิดเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๒๒ ถัดจากพระศรีอาริยเมตไตรย “...ขี้เกียจนั่งแกร่วรอคิวอีกไม่รู้กี่กัป ฉันเลยเลิกเป็นซะอย่างนั้นแหละ...” หลวงพ่อเล่า นั่นไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง ความจริงคือหลวงพ่อท่านเกรงว่าจะต้องฆ่าคน ด้วยว่าวิสัยของพุทธภูมินั้น หากการกระทำของตนเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของคนหมู่มากแล้ว ท่านยอมแม้จะต้องตกนรกหมกไหม้ขนาดไหนก็ตาม...!
    ยุคนั้นนักบวชเลวที่เป็นใหญ่เป็นโต ข่มเหงรังแกพระดี ๆ ทั่วไป จับสึกซะบ้าง ถอดออกจากตำแหน่งบ้าง ข่มขู่เรียกร้องลาภผลจากท่านบ้าง เรียกว่าชั่วกันอย่างบริสุทธิ์ หาความดีไม่เจอเลยทีเดียว ขืนอยู่ก็ฆ่ากันแน่ หลวงพ่อจึงลาพุทธภูมิ...!
    กำลังใจของผู้ปรารถนาพุทธภูมินั้น เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวกว่าคนทั่วไปมากนัก ทำอะไรเด็ดขาดจริงจัง เสียสละความสุขของตนเพื่อผู้อื่นเสมอ แม้ตัวเองต้องอด ก็ขอให้คนอื่นอิ่มก็แล้วกัน ที่สังเกตอีกประการคือ บริวารจะมากเป็นพิเศษ... แต่ที่เสียอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ไม่ว่าจะฝึกหัดอะไร จะได้ช้ากว่าเขามากนัก ต้องทวนแล้วทวนอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ช่ำชองชำนาญทุกจุดจริง ๆ จะไม่ยอมปล่อยผ่านอย่างเด็ดขาด ถ้ารู้ไม่ครบถ้วนเจนจบ จะไปเป็นครูสอนคนอื่นเขาอย่างไร...?
    อาตมาเองก็เช่นกัน กว่าจะผ่านได้แต่ละจุดแทบรากเลือด อย่างที่เคยเล่าไว้แต่ต้นว่า เพียงปฐมฌานอย่างเดียว เคี่ยวซะสามปี...! จนเหตุจูงใจสำคัญมาถึงคือ หลวงพ่อก็ลาพุทธภูมิแล้ว อาตมาจะอยู่ไปทำเกลืออะไรล่ะ...? กราบทูลลาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึง ๓ วาระ พระองค์จึงประทานอนุญาต แต่ก็มีข้อแม้ว่า “จะลาก็ได้ แต่งานเก่าต้องทำต่อไป...” เฮ้อ...ตกลงว่าถ้าดีก็ไปนิพพานได้ ถ้าเลวก็ลงอเวจีต่อไป งานเก่าก็ไม่ยกเลิก...เก๊กซิม..! ขนาดลาแล้วนะนี่ บริวารยังไหลมาเทมา แล้วข้อยสิเฮ็ดหยังหว่า...? ฆ่าก็ไม่ตาย ขายก็ไม่ออก หนักอกหนักใจเรื่องบริวารอยู่นาน จนเกือบจะโดนไล่ออกจากวัดหลายวาระ ก็พอดีคนดีศรีอยุธยาขี่ม้าขาวโผล่มาช่วยไว้ทัน...
    ท่านนันทชัย (พระนันทชัย สุธมฺมเทวธมฺโม) บวชเข้ามาพอดี อาตมาเห็นปั๊บก็ทราบเลยว่าพระโพธิสัตว์แหงแซะ... วันหนึ่งมีโอกาสนั่งผลิตลูกประคำอยู่ด้วย อาตมาจึงถามท่านว่า “คุณคิดจะลาพุทธภูมิบ้างมั้ย...?” ท่านตอบว่า “มันเหมือนกับผมทำงานชิ้นหนึ่ง เห็นอยู่ว่าผลงานนั้นจวนจะเสร็จอยู่แล้ว จะให้ผมทิ้งไปกลางคัน ผมทำไม่ได้ครับ...” เห็นความเข้มแข็งของกำลังใจของท่านหรือยัง...? ไอ้ใจไม่ถึงอย่างเราดันไปชักใบให้เรือเสียซะนี่...!
    “ผมเองน่ะลาแล้ว แต่บริวารของผมมากเหลือเกิน คุณจะรังเกียจมั้ย...? ถ้าผมจะฝากให้คุณช่วยรับภาระแทนด้วย...” อาตมายื่นภูเขาพระสุเมรุให้หน้าตาเฉย ท่านก้มหน้าคิดไม่ถึงสามวินาที ก็ตอบว่า... “ได้ครับ...แต่เมื่อหลวงพี่ไปสบายแล้ว ขอให้กลับมาช่วยผมบ้าง...” ไชโย...! ทันทีเลยน้องเอ๋ย...ขอให้หมดภาระเฉพาะหน้าเท่านั้นแหละ เรื่องย้อนกลับมาช่วยภายหลังนั้นเรื่องเล็ก ถึงตอนนั้นทำอะไรก็ได้อยู่แล้ว... น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระแสคนมันขาดลงไปเฉย ๆ คล้ายกับน้ำที่ถูกปิดเขื่อนอย่างนั้นแหละ แต่ก็นั่นแหละ... ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว อยากฝากเขาดีนัก ตอนนี้เลยถูกฝากบ้าง แต่ละท่านนี่เราไม่มีโอกาสปฏิเสธเลย...โธ่ ๆ ๆ ๆ ...!
    ๑ ตุลาคม ๒๕๓๕
    พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    หมายเหตุ : “หลวงพ่อ” บอกกับอาตมาว่า “ระวังนะคุณ...ลาพุทธภูมิแล้วกำลังมันจะตก..” ทีแรกอาตมาเองยังนึกค้านท่านในใจว่า ไม่เห็นมันจะตกตรงไหนเลย ความบ้าก็ยังเท่าเดิม สมาธิสมาบัติก็ยังเหมือนเดิม...
    มาตอนนี้ต้องเชื่อหลวงพ่อโดยไม่มีข้อแม้ เพราะเพิ่งสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ถ้าเห็นใครลำบากอยู่ ถึงเขาไม่ออกปากก็รีบแถเข้าไปช่วย มาตอนนี้ถ้ามันไม่ล้มทับตีนอยู่ตรงหน้า อย่าหวังเลยว่าจะยื่นมือไปช่วย...! ที่แท้กำลังใจมันลดลง เอาแต่เรื่องเฉพาะหน้าจริง ๆ เท่านั้น...
    ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๙
    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    ใต้เงาวิริยธโร ลูกหลานพรหมปัญโญ


    #อัศจรรย์พลังบารมีจักรพรรดิ#
    #ร่วมโมทนาบุญบันทึกบุญมหากุศลอันยิ่งใหญ่# ใต้เงา
    #ร่วมกันทำบุญบริจาคเข้าบัญชีธนาคารออมสินของหลวงตาร่วมกัน#
    #ภัยพิบัติจะเกิด.... หลวงตาพูดเรื่องนี้มานานและก็เกิดขึ้นจริงอย่างต่อเนื่อง ไม่นานนี้หลวงตาเล่าว่า น้ำจะท่วม บ้านเมืองจะวุ่นวายอะไรก็ไม่แน่นอน ให้เร่งสวดมนต์ ทำความดี บันทึกบุญ บันทึกแต่สิ่งดีๆเข้าไว้ ช่วยการอธิษฐาน เป็นกำลังให้แผ่นดินเกิด บ้านเมืองของเรา
    #สถานการณ์ภัยพิบัติเริ่มชัดเจน สถานการณ์การเมืองที่วุ่นวาย แต่หลวงตายังต้องเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อสวดมนต์ ปรับภพภูมิเป็นประโยชน์ แม้บางครั้งจะต้องเข้าพื้นที่ทุรกันดาร และมีน้ำท่วม ถนนไม่อำนวยก็ยังคงต้องไป ....
    #หลวงตาพูดเปรยๆว่าอีกหน่อยเราคงเดินทางลำบากเพราะสภาวะภัยพิบัติจะชัดเจน..อีกหน่อยแล้วคงต้องใช้รถโฟวิลไม่งั้นคงไปไหนลำบาก...
    #อัศจรรย์แห่งพลังบารมีพระจักรพรรดิ ด้วยบารมีแห่งหลวงปู่ดู่อำนาจแห่งความดีแห่งหลวงตา ...
    วันนี้ศิษย์หลวงปู่ดู่ ผู้ใหญ่ใจดี พร้อมกับใต้เงา น้อมถวายคุณครูบาอาจารย์หลวงปู่ดู่ เพื่อเป็นประโยชน์แด่ท่านหลวงตาในการสร้างบารมี
    #ศิษย์หลวงปู่ดู่ ผู้ใหญ่ใจดี ถวายรถ โฟวิล 4 * 4 Toyota ตัว Top สุด..
    เพื่อใช้ในภารกิจ การสร้างประโยชน์ สืบตามตามศาสตร์แห่งหลวงปู่ดู่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่านหลวงตาและคณะ
    โดยวันนี้ได้ถวายแก่ท่านหลวงตาที่วัดป่าพรหมปัญโญสันป่าตอง
    #ขอทุกท่านร่วมโมทนาบุญในมหากุศล การทำบารมีในครั้งนี้ โดยการถวายรถโฟวิลในครั้งนี้เป็นการถวายแด่ ครูบาอาจารย์ หลวงปู่ดู่ และถือว่าถวายเป็นของขวัญวันเกิดใน วันเกิดหลวงตาในเดือนหน้า จากศิษย์หลวงปู่ดู่ ผู้ใหญ่ใจดี โดยใต้เงาเป็นผู้ประสานงานดำเนินการ...
    #ขออนิสงค์แห่งมหากุศล..จงกลายเป็นบุญแห่งความคล่องตัว..บุญสำเร็จ..บุญมหาจักรพรรดิ จงส่งทุกๆท่านที่ได้ร่วมโมทนาบุญนี้ร่วมกัน ....
    #ที่นี่เรามีแต่สิ่งดีๆที่เป็นกุศลมาให้ร่วมบันทึกบุญร่วมกัน
    #สำหรับท่านใดที่ต้องการที่จะร่วมบุญนี้ แม้เพียงน้อยนิดแต่ก็ถือว่ามีส่วนร่วมในการสร้างบารมีร่วมกันกับหลวงตา ในการใช้รถเพื่อเดินทางในพื้นที่เกิดภัยพิบัติ ทุรกันดาร เพื่อสร้างประโยชน์
    #สามารถร่วมทำบุญ บุญมหากุศลนี้ เข้าบัญชีธนาคารออมสินของหลวงตา ได้โดยตรง
    ธนาคารออมสิน พระวรงคต 020 29501 2486
    การทำบุญของท่านถือว่าได้มีส่วนร่วม และเกิดประโยชน์กับวัดอย่างแท้จริง เพราะเข้าบัญชีหลวงตาโดยตรง ชัดเจน โปร่งใส ได้ประโยชน์ อย่างแท้จริง
    #มาร่วมกันทำความดีสร้างสรรค์สิ่งดีๆร่วมกัน บันทึกแต่สิ่งดีๆแม้เพียงน้อยนิดก็ยังได้ชื่อว่าชีวิตเราบันทึกแต่สิ่งดีๆ สร้างประโยชน์
    #ขอความสงบและสันติจงเกิดแก่ตัวท่าน
    #ใต้เงาวิริยธโร
    #หลวงตาม้าวัดถ้ำเมืองนะ
    eJeMsDLVpc2kozDNzPYl9C1afOXTtMjOMX0Ja5_HmivY&_nc_ohc=fmzC4OFm8FMAX9sUWiU&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    jEDfgh7lm8pLPpsNaRsq-9DGXl_BbYB3LOTH_k8mWH4Y&_nc_ohc=h49wR3DJmQsAX_IWmvy&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    P5dtNsNrPPWNUOhX_RX7ddDTD1p3_V0x5VWynu99SAP1&_nc_ohc=_OfKw_JJwxEAX9f4Z_6&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    FyZ086UQtXMF1AGT2O66J8XZlv_2ztu5u7jD4v0Ea5Zh&_nc_ohc=j922L1a13ZMAX_ebyWR&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    ภัยพิบัติ 1f30a.png 1f30a.png 1f30a.png 1f32a.png 1f32a.png 1f525.png 1f525.png
    เรื่องของภัยพิบัติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศของเรา วาระนั้นเลื่อนแล้วเลื่อนอีก เพราะว่ามีพระที่ทรงความดีท่านสละตนเอง เพื่อเปลี่ยนวาระกรรมนั้น พูดง่าย ๆ ว่ายืดเวลาให้เราทำความดีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

    เพราะฉะนั้น..เราจะไปคิดว่าภัยยังไม่เกิดแล้วไปประมาทเข้า เกิดเมื่อไรเดี๋ยวจะตั้งหลักไม่ทัน ยิ่งปีนี้แล้วพระผู้ใหญ่ขนาดหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศ นอนโรงพยาบาลยาวเลย ท่านเป็นโรคใหม่ที่หมอเองก็เกือบจะหมดปัญญา เป็นเชื้อหวัดนี่แหละ แต่ทำลายปอดด้วย กว่าจะรู้ตัวท่านก็หมดสภาพ หมอ บอกว่าถ้าไปช้าสักสิบนาทีหรือยี่สิบนาทีก็อาจจะไปเลย ประมาณสองเดือนแล้วท่านเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว หมอบอกว่าถ้าจะเอาให้เหมือนเดิมต้องใช้ระยะเวลาอีกประมาณสี่เดือน

    ฉะนั้น ในเรื่องวาระกรรมต่าง ๆ พระที่ท่านทรงคุณความดี ท่านสละตัวของท่านเองเพื่อส่วนร่วม แต่ถ้าเราไม่คิดจะช่วยท่านทรงความดีไว้เลย ก็จะกลายเป็นภาระของท่านคนเดียว ถ้าท่านแบกไม่ไหวเมื่อไร เราก็รับเละไป

    เพราะฉะนั้น..มีโอกาสให้เร่งทำในเรื่องของศีล สมาธิ และปัญญาให้กำลังใจเราสูงเข้าไว้ ถึงแม้จะช่วยเหลือคนอื่นไม่ได้ อย่างน้อย ๆ ให้รักษาตัวเองได้ จะได้ไม่เป็นภาระแก่คนอื่นเขา เตือนได้เท่านี้แหละ บอกได้คำเดียวว่า "มาแน่" จะช้าจะเร็วก็มาแน่"

    ถาม : ถ้าปฏิปทาที่เราร่วมแรงร่วมใจกันทำความดี จะมีผล...?
    ตอบ : อย่างนั้นแหละดีแล้ว อย่างน้อย ๆ ได้ร่วมกันสร้างความเย็นให้เกิดขึ้นสักจุดก็ยังดี จะได้แบ่งเบาภาระของพระไปจุดหนึ่ง

    เป็นพระแล้วพูดเกินวาระกรรมไม่ได้ ได้แต่ใบ้ ๆ ให้ฟัง ใครตีหวยถูกก็โชคดีไป ถ้าตีหวยไม่ถูก ไปรู้เอาตอนหวยออกก็ตั้งหลักไม่ทัน

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๓
     
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    ถาม : ในช่วงหนึ่งของชีวิตที่ประสบกับปัญหา เมื่อเปิดเฟซบุ๊ก จะเจอคำสอนต่างๆของครูบาอาจารย์ ที่ลูกศิษย์ท่านได้ลงเอาไว้เป็นธรรมทาน คำสอนของท่านเหมือนส่งมาสอนเราโดยเฉพาะตอนนั้นจุดนั้น "อยากทราบว่าพอจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตามาสงเคราะห์เราช่วงนั้นจริงๆ"

    ตอบ : หากวาระบุญของเราเข้ามาช่วงนั้นพอดี เป็นไปได้ว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้น เป็นการ "ดลจิตดลใจ" ของครูบาอาจารย์หรือพรมเทวดาที่ท่านสงเคราะห์ ให้เราได้รับประโยชน์ตรงนั้น!!! แต่ถ้าไม่มีกุศลเก่ามาเสริม โอกาสที่จะพบเรื่องอย่างนั้น "ก็เป็นไปได้ยากมาก"

    --- พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ---
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    Hzeqz5nFAmss2Kk8YlA_0B5i02kzIbxtoqXZH9HBuJt1&_nc_ohc=QpENRUfTHKUAX_6fBku&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    พระอาจารย์เล่าว่า “งานพุทธาภิเษกที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๓ ที่ผ่านมา นอกจากครูบาอาจารย์ที่มาสงเคราะห์ตามปกติแล้ว ก็มีระดับท่านอาจารย์ปู่ ก็คือหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอมาด้วย อาตมาเองดีใจมาก เพราะว่าโดยปกติแล้วลืมหลวงปู่สุ่น..! เป็นเหลนศิษย์ที่น่าเตะมาก..ปู่ทวดทั้งองค์ยังลืมได้..!

    เพราะว่าตอนกราบอาราธนาบารมีพระ ก็จะไล่จากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง หลวงปู่เนียม วัดน้อย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็คือมาตามลำดับสายครูบาอาจารย์ แต่ลืมหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ ที่เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ปานไป ท่านมาสงเคราะห์เตือนว่างานของท่านอย่าลืมไปด้วย

    ความจริงท่านไม่ต้องเตือนอาตมาก็เต็มใจที่จะไปอยู่แล้ว คราวนี้ด้วยความที่ท่านเมตตามา ก็เลยขอท่านสงเคราะห์เรื่องของวัตถุมงคลที่ ดร.พระครูโรจน์ท่านทำเอาไว้เป็นคันรถ

    งานนั้นอาตมาเครียดเลย เพราะว่าข้าวของเยอะมาก สารพัดสารเพปนเปกัน ประมาณว่าตีอวนได้ปลามาทั้งทะเล มีปลาสารพัดชนิด ก็เลยต้องค่อย ๆ ว่าไปทีละอย่าง เสกนานหน่อย เพราะว่าเรื่องของวัตถุมงคลนั้น ถ้ากระแสขัดกัน บางทีก็เอาไปใช้แล้วก็ไม่ได้ผลตามสายนั้น ๆ

    คำว่า กระแสขัดกันก็คือ สมมติว่าของมาทางสายอยู่ยงคงกระพัน แต่ว่าเราถนัดในสายเมตตามหาลาภ ถ้าขอบารมีพระสงเคราะห์ไปสายเดียว ส่วนอื่นก็จะโดนล้างทิ้งไปหมด เพราะฉะนั้น..ก็เลยต้องค่อย ๆ ว่าไปทีละอย่าง ซึ่งทำให้ค่อนข้างจะช้ามาก

    วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๓ วันเดียวกันนั้น มีงานพุทธาภิเษกสองที่ ก็คือที่วัดบ้านห้วยน้ำขาวซึ่งทำข้าวของสารพัดสารเพปนกันมา ต่อไปคือวัดหนองโพ จังหวัดราชบุรี ท่านพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม ท่านสร้างพระพุทธรูปอย่างเดียว สบายอย่าบอกใครเลย เพราะว่าเรื่องการเสกพระเป็นพระ ไม่มีอะไรง่ายกว่านั้นอีกแล้ว แต่วัตถุมงคลอย่างอื่นถ้าต้องเสกให้มีอานุภาพเหมือนพระนี่จะยากมาก

    แม้กระทั่งน้องเล็กที่อยู่ในพิธีด้วยยังบอกว่า กระแสมาคนละโลกกันเลย ใช่..กระแสที่วัดหนองโพนี่ สว่าง สะอาด สงบ เบาสบาย เพราะว่าเป็นกระแสพระนิพพานโดยตรง ส่วนของทางวัดบ้านห้วยน้ำขาวนั้นสับสนปนเป แม้ว่าจะจับลงให้ทีละอย่าง ก็ต้องเรียกว่าจัดกระแสกันจนเหนื่อย

    โดยเฉพาะวัตถุมงคลหลายชนิดต้องเสริมทั้งอาการ ๓๒ ทั้งธาตุ ๔ เป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ฝึกในเรื่องของภูตกสิณก็คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม มา ก็ต้องศึกษาในเรื่องคาถาในการตั้งธาตุ หนุนธาตุ ซึ่งครูบาอาจารย์แต่ละท่าน ส่วนใหญ่แล้วจะชำนาญไม่เหมือนกัน

    ดังนั้น..บางทีท่านนี้มาลง กระแสไปอย่างหนึ่ง อีกท่านหนึ่งมาลง กระแสไปอีกอย่างหนึ่ง อีกท่านมากำลังสูงกว่า ก็ล้างกระแสเก่าเขาทิ้งหมดเลย เป็นต้น

    เรื่องพวกนี้ถ้าไม่รู้ไม่เห็นก็ถือว่าเหนื่อยน้อย แต่ถ้ารู้เห็นจะเหนื่อยมาก เพราะว่าต้องค่อย ๆ ไปจัดระเบียบทีละอย่าง สมัยก่อนครูบาอาจารย์ที่สุดยอดที่สุดในความรู้สึกของอาตมาก็คือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เพราะว่าถ้าหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานในการพุทธาภิเษกที่ไหน ท่านอื่นสบาย..ลอยตัวหมด คุณมีหน้าที่ว่าของคุณไปให้เต็มที่อย่างเดียว หลวงปู่ท่านจัดกระแสให้เอง

    แต่อย่างสายของหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้น ส่วนใหญ่จะกราบขอบารมีพระพุทธเจ้าให้สงเคราะห์ ลงมาตูมเดียวสายอื่นหายเกลี้ยง..! เพราะว่าไม่มีกำลังอะไรจะสูงกว่าพระพุทธเจ้าอีกแล้ว แต่ด้วยความที่อาตมาศึกษามามาก ก็เลยไปตกอยู่ในลักษณะภาษิตโบราณที่ว่า ‘รู้มากก็ยากนาน’ รู้มากแล้วเสียดาย ของแต่ละอย่างกระแสต้องเป็นอย่างนี้..กำลังต้องใช้แบบนี้..จึงต้องช่วยจัดให้เขาไป อีกอย่างเป็นแบบนี้..ใช้แบบนี้..ทำแบบนี้..จัดให้เขาไป เสร็จพิธีตัวเองแทบจะสลบไสล..!

    ต่อไปถ้ารำคาญขึ้นมาก็จะใช้วิธีของสายหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็คืออาราธนาบารมีพระลงอย่างเดียวเลย ที่เหลือจะได้ไม่เหนื่อย ส่วนลงไปแล้วจะเหลืออะไรไม่เหลืออะไรก็เป็นเรื่องของเขา จึงขึ้นกับอยู่กับว่าตอนนั้นอารมณ์ดีพอที่จะไปค่อย ๆ จัดให้หรือเปล่า..?!

    โยมลองนึกถึงด้ายที่พันกันอีรุงตุงนัง แล้วเราต้องค่อย ๆ ไปแกะจัดเรียงใหม่ ต้องใจเย็นมาก ค่อย ๆ จัด ค่อย ๆ เรียง ค่อย ๆ คลี่คลาย ให้ได้ประโยชน์สูงสุดตามสายวิชาของครูบาอาจารย์ของเขา ถ้าหากว่าโยมไปดูในเว็บวัดท่าขนุน ที่อาตมาทำตารางครูบาอาจารย์ในสายธรรมเอาไว้ จะเห็นว่าครูมาก อาจารย์มาก ศึกษาวิชาการมากสาย..ก็เลยลำบาก

    จึงขึ้นอยู่กับความขยันหรือขี้เกียจของแต่ละงาน ถ้าขยันมากก็จะทำให้ ถ้าหากว่าขี้เกียจมาก ครูบาอาจารย์ไม่มาสงเคราะห์ให้ ก็เหลือแต่พระอย่างเดียว ถือว่าเรายึดจุดสูงสุดเอาไว้ อย่างอื่นไม่ต้องใส่ใจ ถ้าอย่างนั้นก็จบเลย เอาอะไรมาก็กลายเป็นอานุภาพอย่างเดียวเหมือนกันหมด ความจริงก็ดีนะ..ง่ายดี แต่คนเอาไปใช้คงจะประสาทกินไปเลย..!”

    เก็บตกบ้านเติมบุญ ตุลาคม ๒๕๖๓
     
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    อทิสสมานกาย / คาถา "สุปินานัง"
    ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าคะ ลูกสงสัยเรื่องอทิสสมานกาย เวลาเราปฏิบัติธรรมะ อารมณ์ดีขึ้นๆ อทิสสมานกายคือกายทิพย์นี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ของผู้ปฏิบัติหรือเปล่าเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ : เอ....คงขี้เกียจเปลี่ยนละมั้ง อทิสสมานกายมันอยู่ตามกำลังของบุญ บุญจริงๆ กำลังแค่ไหนมันก็สวยแค่นั้น ถ้าเปลี่ยนไปทุกนาทีก็เจ๊ง อย่างอารมณ์เราทรงปฐมฌาณอยู่ครู่หนึ่งใช่ไหม อทิสสมานกายก็ยังทรงปฐมฌานอยู่ ไปวันหลังๆ นึกจิตโยกเยกๆ ไปมันก็ทรงแค่ปฐมฌานไม่เปลี่ยน เพราะการทรงประเดี๋ยวเดียวเขาถือว่าได้แล้ว
    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 184 เดือนกรกฏาคม 2539 หน้า 79)
    คาถา "สุปินานัง"
    ผู้ถาม : หลวงพ่อขอรับ ก่อนที่กระผมจะนอนทุกครั้ง ได้สวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ ในขณะที่ทำสมาธิเสร็จแล้ว กระผมได้คาถา ไม่ทราบว่าใครให้มา ว่า "สุปินานัง" ผมภาวนาอย่างนี้เป็นประจำปรากฏว่าเวลากลางคืนมักจะฝันเห็นพระอุโบสถ พระอริยเจ้าที่ล่วงลับไปแล้วเสมอๆ แต่สงสัยว่า สุปินานัง นั้นหมายถึงอะไรและ ถ้าหากว่าจะเป็นธรรมปฏิบัติ จะได้กับธรรมะแบบไหนขอรับ?
    หลวงพ่อ : นี่เป็นคาถาเขาย่อมานี่ ถ้าหากเป็นธรรมะ ก็ 3-4 หน้ากระดาษน่ะซิ อย่าเอาเลย เขาให้แค่นั้นก็ว่าแค่นั้น
    คาถาบทนี้ หลวงพ่อเคยภาวนาเหมือนกัน สำหรับหลวงพ่อภาวนา "คาถาเงินล้าน" บ่อยที่สุด ไม่ใช่อะไร ต้องการให้พุทธบริษัทและลูกหลานหลวงพ่อที่มาทำบุญ ได้รวยกันทุกคน และอีกบทหนึ่งที่หลวงพ่อชอบภาวนาก็คือ "นิพพานัง ปรมังสุขัง" เพราะภาวนาแล้วทำให้จิตใจเป็นสุขอย่างยิ่ง
    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 175 เดือนตุลาคม 2538 หน้า 92)
     
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    VVEbZdoJVO1F-inz3GYenn_kk9jN6e4gRtHqr3GNNb5c&_nc_ohc=lBNnSyo76DQAX_v8jnL&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    " อยากให้ที่ไหนสงบให้แผ่เมตตากับเทวดาที่อยู่บริเวณแถวนั้น แผ่ให้กับภพภูมิ พรหม เทวดาวิญญาณ....จะแผ่เมตตาทุกครั้งให้นึกถึงหลวงพ่อดู่ก่อนทุกครั้ง...พอนึกถึงท่าน ท่านก็มาแล้ว "
    (พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)
     
  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    #ใครยังลำบากอยู่...อย่าลืมนะ
    • ให้ไปขอพระปัจเจกพุทธเจ้า
    • บ้านใครยังไม่มีพระบรมฉายาลักษณ์ ก็ไปตั้งให้เรียบร้อย
    เรารักกี่องค์ เราก็ตั้งของเราทุกองค์
    2764.png และองค์ปัจจุบันนี่สำคัญนะ
    องค์ปัจจุบันนี่ หลาย ๆ คนมีมิจฉาทิฐิ มีจิตใจที่ไม่มั่นคง แล้วก็ปรามาสอย่างใหญ่หลวง ระวังให้ดีนะ
    สื่อข่าวออกมา ภาพตัดต่อก็มาก สิ่งต่าง ๆ เมื่อมีเยอะ..เราก็ไม่วินิจฉัย แล้วก็เชื่อกันเป็นหมู่คณะ
    ในคณะของพวกเราเหมือนยังมีเลย
    เอ๊ะ..แต่ว่ามองไปแล้ว ก็ไม่น่าจะมีหรอก แต่ถ้ามีก็ไม่บอกหรอก ก็ไปแก้เอาแล้วกันนะ
    1f4dc.png เพราะว่าอะไรรู้ไหม..?
    มันสำคัญมาก.. #จะภาวนาเท่าไหร่ก็ไม่เกิดผล ภาวนาเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
    เพราะจิตมันเป็น อกตัญญูต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ซะแล้วนี่...ไม่ได้นะ
    ๓ สถาบันหลักนี่ ล้มสักขาเดียว อีก ๒ ขาก็อยู่ไม่ได้
    แล้วถ้าเราน้อมนำไปปฏิบัติจริง ๆ โยมจะเห็นความดีที่มันเกิดขึ้นในหัวใจ สิ่งที่ปรารถนาทุกอย่างจะพาให้สำเร็จได้โดยฉับพลัน
    1f607.png บางคนนี่ก็น่าสงสัยเหมือนกัน ในรั้วเขตวังแทบยังไม่เคยเห็นหรอก
    แต่ว่าวินิจฉัยได้เหมือนในวังเลย..นี่ก็แปลกเหมือนกันนะ
    ฉะนั้น อย่าเลย อย่าทำเลย พูดให้ฟังนี่เพราะว่าท่านมาเตือนไว้หลายรอบเรื่องวิบากกรรมเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว
    ให้เราละ เว้น เลิกเสีย อย่าไปคิด อย่าไปตำหนิติเตียน อย่าไปทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ
    1f64f.png ขอให้รักพระองค์เหมือนรักพ่อรักแม่
    เทิดทูนพ่อบ้านพ่อเมือง เจ้าฟ้า พระมหากษัตริย์ ละเอาไว้นะ
    เหมือนที่พระอาจารย์เคยสอนว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ รวมถึงพระมหากษัตริย์ด้วย
    ให้ละเว้นเอาไว้รวมแล้วน่าจะไม่เกิน ๑๐๐ คนเองนะ...มีคนให้เราบ่นเราพูดอีกมาก เว้นสถาบันทั้ง ๖ นี้ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พระมหากษัตริย์
    ถ้าทำอย่างนี้ได้ การเจริญภาวนาของเราทุกครั้ง พระกรรมฐานก็มั่นคงนะ
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎ 1f64f.png 2764.png 1f9d8_200d_2640.png
    #พระธรรมเทศนา
    สวดพระคาถาเงินล้าน ๑๓ กันยายน ๒๕๖๓ ตอนที่ ๓๘ (ตอนจบ)
    #พระอาจารย์เอกลักษณ์ #ปญฺญาคโม
    #วัดพุทธพรหมยาน
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    1f538.png พระพรหม 1f538.png
    พระพุทธรูปที่หล่อส่วนใหญ่เขาปิดทองคำหมด พรหมเขามารักษา
    เวลาพรหมรักษา คนปรารถนาอะไรจะสำเร็จง่าย พระพรหมน่ะ เขาว่างั้นนะ พระพรหมเป็นผู้ให้พร ประทานพร
    ทำไมพระพรหมจึงประทานพรแล้วเก่ง เธอรู้ไหม ?
    เพราะพระพรหมน่ะเป็นผู้ที่ระงับนิวรณ์ ไม่มีโลภ ไม่มีโกรธแล้วก็ไม่มีความหลง มีแต่ความเมตตาและกรุณา มีความยินดีนะ เนี่ยะเขาเรียก “พระพรหม”
    ถึงจะไม่ได้สามารถจะละเชื้อโลภโกรธหลงได้ในทันทีก็ตามเถอะ แต่ว่าในขณะที่ท่านทรงจิตสงบระงับนี่ เวลานั้นความโลภ ความโกรธ ความหลง ท่านไม่มี
    จิตพอไม่มีโลภโกรธหลง มันมีตบะ คือ คำพูดของท่านมันเป็นคำพูดที่ให้พรแล้วมันศักดิ์สิทธิ์เพราะว่าเป็นคำพูดของผู้ทรงฌาน
    เหมือนพรหมที่เขาออกจากนิโรธสมาบัติหรือพระที่ท่านเข้านิโรธสมาบัติแล้วออกมา ท่านพูดยังไงก็เป็นอย่างนั้นเลย
    งั้นวาจาของคนที่พูดออกมาจากใจที่เต็มไปด้วยความเมตตาอันปราศจากสิ่งที่มีความโลภ โกรธและหลงครอบงำใจอยู่ จึงเป็นคำพูดที่สามารถให้ผลกับผู้ที่ขอได้เสมอ เขาจึงไปขอพรจากพระพรหมไง
    แต่เทวดาน่ะท่านเป็นผู้ให้กำลัง ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งที่เป็นภัยอันตรายให้กับเรา เพราะว่าท่านอยู่ใกล้เรามาก เวลาเราขอความเมตตาท่านช่วย ท่านก็ช่วยเต็มที่
    ๐๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
    คำสอนของครูบาอาจารย์ 269c.png ท่านจิตโต 269c.png
    ถอดความเสียง By Dhipya
     
  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    หลวงพ่อเคยเข้าไปถวายปัจจัยองค์หลวงตา บางทีก็บอกหลวงตาครับ ผมขอถวายปัจจัยที่หลวงตาบอกว่าช่วยเครื่องมือแพทย์ครับ หลวงตานิ่ง บอกว่า ไม่ควรจะพูดอย่างนั้น นี่ท่านสอนหลวงพ่อนะ พวกเราฟังเอาไว้
    ท่านสอนหลวงพ่อว่าไม่ควรจะพูดอย่างนั้น เพราะเราใช้ในสาธารณะมากมาย อันไหนที่มันขัดข้องเราก็จะอุดจุดนั้น จุดไหนที่เพียงพออยู่แล้ว เราก็เอาไว้ก่อน ถ้าพูดมัดอย่างนี้ เราจะไปใช้อย่างอื่นมันก็ไม่ถูกต้อง ไม่ควรจะพูดอย่างนั้น
    จากนั้นมาหลวงพ่อก็จะพูดว่า ขอโอกาสพ่อแม่ครูอาจารย์ จตุปัจจัยที่ถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ขอใช้ตามอัธยาศัย ถ้าจุดไหนที่เกิดประโยชน์ที่พ่อแม่ครูอาจารย์เห็นว่าเกิดประโยชน์ กระผมก็ขอถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ใช้ในจุดนั้นเลยครับผม
    แต่ไม่ใช่ว่า ที่หลวงพ่อพูดนี่ จะให้พวกเราถวายหลวงพ่ออินทร์อย่างที่หลวงพ่อถวายหลวงตานะ ให้เป็นดุลพินิจของพวกเรา ถ้าพวกเราเอามายังไง หลวงพ่อจัดการอย่างนั้น เจดีย์นะครับ เครื่องมือแพทย์นะครับ บำรุงพระสงฆ์สามเณรนะครับ ค่าน้ำค่าไฟค่าสถานีวิทยุนะครับหลวงพ่อ ก็ตามนั้น หลวงพ่อจะแบ่งจตุปัจจัยไปตามวัตถุประสงค์ของศรัทธาญาติโยม แต่สำหรับหลวงพ่อถวายหลวงตา หลวงพ่อจะพูดอย่างนี้ ถวายหลวงตาใช้ตามอัธยาศัย
    นี่คือแนวความคิดในการถวายจตุปัจจัยครูบาอาจารย์ ถวายยังไงจึงจะเป็นสัปปายะแก่องค์ท่านในการสงเคราะห์อนุเคราะห์สาธารณประโยชน์ที่ท่านมองว่าเกิดประโยชน์ เราถวายในความรู้สึกของท่าน เพราะเราเชื่อท่าน ถ้าเราไม่เชื่อท่านเราจะถวายทำไม ในเมื่อเราเชื่อท่านก็เอาตามอัธยาศัยที่ท่านมองเห็นว่าเหมาะสม สมควรอย่างไร เราได้มาเป็นธรรม ก็ถวายโดยเป็นธรรม
    หลวงพ่ออินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก
    ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๗
    9qPszVP8xynX_Sc7XuBue__-lAeZht85Ny21JwdNp_Df&_nc_ohc=nxC_8YxObLgAX-N__OH&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    *************************************

     
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    aA2cubC6qyMFjZ_txO_ofEvLecW563zV5hKJ9W48KttEiAzHlCHRnQGbvCPwv58841tqnnWc&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    ?temp_hash=1264bd6b6e2ada14a61b39d49ca9cbb1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...