ขอเชิญร่วมบุญสร้างยอดฉัตรทองคำ เจดีย์พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่นภูริทัตโต

พิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคสายกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ออกแบบขียนแบบโดยมหาวิทยาลัยศิลปากร ตอนนี้กำลังสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์และพระเจดีย์ เจดีย์ก็มีเพราะว่าเจดีย์เป็นเครื่องเชิดชูบูชาเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ คงจะมีอัฐิธาตุของท่าน เกศา ของท่านที่เอาเข้ามาไว้ในพิพิธภัณฑ์ เป็นที่เคารพสักการะของลูกของหลานต่อไปภายภาคหน้า อันนี้คงเป็นเจดีย์

ส่วนพิพิธภัณฑ์เป็นห้อง ๆ อันนั้นเป็นเนื้อหาสาระ เป็นธรรมะ เป็นเสียงของท่านบ้าง บางทีอาจจะเป็นหนังสือ เป็นข้ออรรถข้อธรรมของท่าน ที่ท่านแนะแนวแนะนำให้กับพี่น้องประชาชน ต่างกรรมต่างวาระ อันนี้เราก็จะนำมาลง มาไว้ในพิพิธภัณฑ์ ทั้งพิพิธภัณฑ์ทั้งพระเจดีย์ทั้งหมด ใช้เวลา ๒ ปีจะเสร็จ แต่หลวงพ่อให้เขา ๒ ปีครึ่งนะ แต่บริษัทที่เขาทำ เขาว่า ๒ ปีเสร็จครับ

ทีนี้กำลังรวบรวมยอดฉัตรทองคำ ยอดฉัตรที่ตรงแหลม ๆ ประมาณ ๘ เมตร อันนั้นก็คงจะเปียกทองคำเปียกบนยอดพระเจดีย์ หนาประมาณกระดาษขนาด A4 ขนาดนี้แหละ ล้อมรอบหมด เปียกทองคล้าย ๆ ว่าทองคำผสมกับปรอท และก็ทาเข้าไปแล้วก็ใช้ความร้อนเผาเข้าไป ทองคำก็เข้าไปติดกันทองแดง ไปติดกับเนื้อทอง เป็นเปียกทอง จะอยู่ได้นานเท่านาน

ของหลวงตามหาบัวที่ลูกหลานไปเห็นยอดเหลืองอร่าม ใช้ทองทั้งหมด ๒๒๔ กิโลกรัม แต่ของหลวงพ่อนี่ หลวงพ่อใช้เพียง ๑๐ กิโลกรัมนะ ที่จะใส่ยอดนี่ เพราะฉะนั้นกำลังรวบรวมศรัทธาญาติโยมคนละมากคนละน้อย หลวงพ่อเก็บหอมรอมริบ อีกสักวันหนึ่งข้างหน้าคงจะหลอมทอง เสร็จแล้วก็เปียกทองบนยอดพระเจดีย์ เป็นมงกุฎสวมยอดพระเจดีย์ กว้างประมาณ ๑.๕๐ เมตร สูงประมาณ ๘ เมตรนะ ที่จะเปียกทอง อันนี้ก็เล่า ๆ กล่าว ๆ ให้ศรัทธาญาติโยมลูกหลานได้ฟัง

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “คณะคารวะจังหวัดกาฬสินธุ์และใกล้เคียง”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๗

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย

 

เมื่อสร้างเจดีย์ของหลวงตาเสร็จแล้ว ถ้าหากว่าพิพิธภัณฑ์แนวปฏิปทาสายหลวงปู่มั่นเราไม่ทำเอาไว้ก็คงจะน่าเสียดาย จะให้หลาน ๆ รุ่นลูกหลวงพ่อทำ คงจะไม่ได้ เพราะเป็นรุ่นหลานไปแล้ว ไม่ได้เห็นแนวปฏิปทากับหูกับตาของตัวเอง หลวงพ่อจึงมาคิด มาพิจารณาจุดนี้ หนักไหม ก็หนักพอสมควรอยู่

จึงได้มีการคิดสร้างพิพิธภัณฑ์ปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ทำเป็นห้อง ๆ ห้องหนึ่งคือห้องพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทำไมจึงหนีออกไปบวช ทั้งที่ท่านที่เป็นกษัตริย์มีความสุขสมบูรณ์ทุกอย่าง ทำไมท่านจึงหนีออกไปอยู่ในป่าดงพงไพรถึง ๖ ปี ไปทนทุกข์ทรมานถึง ๖ ปี ท่านมีอะไร ท่านมีความเห็นอย่างไร ท่านมีความรู้สึกอย่างไร ท่านจึงหนีออกไปอยู่อย่างนั้น อันนี้เป็นห้องพระพุทธเจ้า

ห้องที่ ๒ พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็แนะนำธรรมคำสอนออกมาเป็นพระธรรมคำสอน หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นก็ได้นำธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาประพฤติปฏิบัติ ก็มั่นใจว่าเป็นของจริง ได้ปฏิบัติรู้แจ้งเห็นจริงในธรรม จากนั้นก็ท่านก็แนะนำ ก็มีลูกศิษย์ลูกหา มีหลวงปู่เทสก์ หลวงปู่สิงห์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ชอบ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ฝั้น หลวงตามหาบัว หลวงปู่ดุลย์ มีมากมายในภาคอีสานและภาคกลางจนถึงทางภาคใต้ด้วย ทางภาคเหนือด้วย อันนี้ก็คือแนวแถวที่หลวงปู่มั่นแนะแนวสั่งสอนท่าน แต่ละองค์ท่านประพฤติปฏิบัติอย่างไร หลวงปู่ขาวท่านปฏิบัติยังไง หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชอบท หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่เทสก์ท่านเดินยังไง เดินสู่มรรคผลนิพพาน แนวแถวที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติมา

อันนี้ก็เรื่องที่หลวงพ่อได้ทำแนวปฏิปทาเป็นประวัติของครูบาอาจารย์เพื่อการเรียนรู้ เพื่อการศึกษาของอนุชนรุ่นหลังต่อไปภายภาคหน้า อันนี้เป็นแนวความคิดของหลวงพ่อนะ หลวงพ่อก็อยากจะเผยแผ่ อยากประกาศ เพราะว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้วถ้าลูกหลานศรัทธาญาติโยมไม่รู้ก็เหมือนกับไปสร้างไว้ในหุบเขา ป่าดงพงไพรโดยที่ไม่มีใครรู้ มันก็ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร ในเมื่อสร้างขึ้นมาแล้วก็ควรจะประกาศในชุมชนในสังคมให้ได้รับรู้รับทราบว่า การสร้างจุดนี้มีความประสงค์ยังไง มีจุดประสงค์อะไร เพื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษาแนวปฏิปทาของพ่อแม่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น

หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “ภาวนาตามแบบพระป่า”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๗

เครดิตเฟสบุ๊ค หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย