การปฏิบัติสมาธิและวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อเข้าถึงความเป็นพุทธะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พลน้อย, 11 กรกฎาคม 2009.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    อย่าเพ้อเจ้อ เรื่อยเปื่อย ทุเรส

    เอ็งเป็นพระอริยะแล้วหรือ ได้ไปห้ามคนอื่นเขาปรามาส เขาเห็นถูกเห็นผิดอย่างไร ถ้าเขาไม่อาฆาตแค้น เขาก็มีสิทธิ์ จะโต้แย้ง

    แถมยังไปพยากรณ์เขา เรื่อยเปื่อย ว่าถ้าปรามาสแล้วจะนั่งสมาธิไม่ได้

    ระวังตัวเองให้ดี ว่าหลงอยู่หรือเปล่า ไม่ใช่ไปอวดดีเตือนคนอื่น
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวกับคำสอนเค้าเลย ได้แต่จำประเด็นบางคำมาส่งเดช
     
  3. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    อืม ธรรม ภูติเวลาเปลียนยูสก้ยังคงความมั่วไว้เช่นเดิม
     
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ความคิดเห็นผมว่า ไม่ใช่ ท่านธรรมภูตหรอกครับ
     
  5. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    งั้นก้แสดงว่ามีคนกลุ่มนึงที่คิดแบบนี้หรอครับงั้นน่าสงสัยต้นตอคนสอนมากเลย หรือจุดประสง
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    พลังงานพี่ภูตจะเป็นอีกอย่างครับ
     
  7. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ถึงท่านผู้ทรงคุณ หากท่านคิดว่าใช่ และเรียนเพื่อนสหธรรมมิกทุกท่าน เวลาผ่านมานานมากถึง๒๕๐๐ กว่าปีแล้วหลังองค์ศาสดาปรินิพพาน ท่านอาจไม่เชื่อในสิ่งที่ผมกล่าวแต่ไม่เป็นไรเรื่องกรรมฐานความจริงเปรียบดังการเดินสุ่มแบบไร้ทิศทางแต่สิ่งที่ผมควรจะได้จาก สมถกรรมฐานนั้นคือ อุเบกขารมณ์ และ เอกัตคตารมณ์ เป็นเครื่องอยู่ กสิณทั้งหมดทำได้แต่ไม่เหมาะกับตนจึงใช้อานาปานาสติเป็นที่ตั้ง สาเหตุที่กสิณไม่เหมาะเพราะอะไรก็ตามแท้จริงแล้วเป็นสิ่งสมมุติ มีอารมณ์ติดค้าง จึงใช้อานาปานาสติเป็นที่ตั้งผมเคยกล่าวว่า สัมมาสมาธิ คือ การว่างเว้นจากอารมณ์อื่นใดนอกเหนือจากอุเบกขา และ สติ อยู่รึไม่นั้นในกรรมฐาน ๔๐ ก็ไม่อาจทราบ แต่อยู่ในความเป็นพุทธะแน่นอน การพิจารณาธรรมของข้าพเจ้าเนื่องจากข้าพเจ้าผู้มากด้วยกามสุขของโลก ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็น ผ่านมาหมดทั้งสิ้นแต่ผ่านเพื่อการเรียนรู้หาได้ยึดติดมันและเรื่องใดเป็นสิ่งที่เป็นโทษต่อกายและจิตก็ดับเสียซึ่งความอยากนั้นซะ ผมเข้าใจว่าผมมีการพิจารณาแค่เพียงน้อยนิดเท่านั้น และอย่าหวังในสิ่งอื่นๆใดที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตนและผู้อื่นเลย ผมไม่ได้เป็นในสิ่งที่ท่านทั้งหลายอยากให้เป็นหรือไม่อยากให้เป็น ผมเป็นผมเป็นตัวเป็นตนที่เกิดจากธาตุ ๔ ดินน้ำลมไฟ เมื่อถึงเวลาก็คืนเขาไป ขันธ์ทั้ง ๕ เป็นเพียงเครื่องยึดเพื่อทำกิจที่พึงทำหาใช่เป็นเครื่องมือเพื่อลาภสักการะ เพื่อความเพลิดเพลินประการใด แต่ถ้าหากท่านไม่สงสัยในตนก็อย่าสงสัยในบุคคลอื่นเลย ผมเป็นฆราวาสธรรมดาไม่ประสีประสาเรื่องธรรมนั้นหรอกแค่เพียงอยากจะกล่าวว่าสาเหตุที่มนุษย์นอกจากไม่ได้สู่สุคติภูมิแล้วยังต้องตกสู่อบายภูมิเพราะความไม่เข้าใจในอรรถในธรรมทั้งหลายช่วยกันตีความหมายไปต่างๆนานาๆ ตามจริตตามความคิดของตน บางสิ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ขัดกับสภาพธรรมทั้งหมดก็มี แม้เรื่อง จิต นี้ก็สำคัญที่ถามว่าพิจารณาอะไร ผมตอบว่าผมพิจารณาความเป็นไตรลักษณ์ของขันทั้ง๕นั้นแหละเป็นมูล ผมทราบแน่ว่ามีแค่นามรูป มีเกิดและดับ อยู่ตลอดกาล เช่นเดียวกันกับหากจะกล่าวหมดทำกาละขันธ์นั้นเสีย ไปสู่ขันธ์ใหม่หรือภพภูมิใหม่ก็เป็นจิตที่เกิดขึ้นใหม่แต่ผลแห่งกุศลและอกุศลเป็นตัวกำหนดส่วนนี้ต้องคิดกันเอาเองแต่แนะนำไม่ควรคิด ให้คิดกาลปัจจุบัน รูป เห็นได้ไม่ยากในความเป็นไตรลักษณ์ แต่นาม เห็นได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเหมือนกับรูปเพราะไม่มีตัวตนต้องอาศัยการปรุงแต่งสมมติของเราเอง ใครสักกี่คนบนโลกใบนี้จะคิดว่าจิตที่เราครองอยู่นี้ไม่ใช่ของเราไม่เป็นตัวเป็นตนอะไร มีแต่ทุกข์กับสุข เกิดและดับ ตลอดเวลาเรียกไม่เที่ยง(มองอย่างง่ายนะ) และถ้าหากลบองค์ประกอบต่างๆของคำว่าจิตออกไปให้หมด เหมือนเด็กที่เพิ่งเกิด หากเห็นภาพนั้นก็จะเข้าใจว่าแท้จริงจิตคือความว่างเปล่าเรียกอนัตตา นั่นแหละเรียกจิตแท้ และเป็นอนัตตาลักษณะโดยแท้ไม่เปลี่ยนแปรไปเป็นอื่นแน่นอน มนุษย์ทั้งหลายเกิดมามองเห็นแต่ความเป็นรูปพิจารณาเห็นความเป็นไตรลักษณ์ได้แค่ลักษณะหยาบ แค่รูป เรียก อสุภะ แต่พอเป็นผลแห่งผัสสะ ทุกคนจะยอมแพ้กันหมด หาเหตุที่มาไม่พบเพราะไม่เข้าถึงจิตแท้ อาศัยแค่คำบอกเล่า พระไตรปิฏกเป็นเครื่องอยู่หาใช่สิ่งที่ตนเองเห็นไม่ จึงเกิดความเป็นอัตตาเกิดขึ้น ติดค้างอยู่แค่นั้น ผู้เผยแพร่ธรรมส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถอธิบายลักษณะสามประการของไตรลักษณ์ให้เป็นเอกเทศจากธรรมทั้งปวงไม่ได้จึงเกิดการโกลาหลในพระอภิธรรม นานมาแล้วผู้ที่เป็นอริยะสงฆ์เห็นและทราบได้ด้วยจิตอันบริสุทธิ์แต่ปล่อยไปตามกรรม เพราะกรรม และไม่อยากให้เกิดการโต้แย้งอย่างรุนแรงด้วยเมตาสงสารเกรงว่าปถุชนคนเหล่านั้นจะต้องยิ่งตกทุกข์ได้ยากมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นข้าพเจ้าเป็นเพียงฆารวาสไม่ว่าความผิดใดที่ข้าพเจ้าก่อก็ย่อมเป็นของข้าพเจ้า กรรมใดที่ใครกระทำต่อข้าพเจ้าก็ย่อมจะเบาบางกว่ากระทำต่อพระอริยะสงฆ์สาวก ไม่ต้องสงสัยอีกต่อไปทั้งสิ้นที่ทำไปเพื่อให้บุคคลทั้งหลายเลิกสงสัยในพระธรรม ข้าพเจ้ากล่าวตรงๆเลยว่าข้าพเจ้าเป็นฝ่ายเถรวาท คำสอนสั่งคัดกรองจากอริยะสงฆ์สาวกและพิจารณาด้วยปัญญาของตนเอง ด้วยศรัทธาอันหาประมาณมิได้ในคุณแห่ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าไม่ขอตอบคำถามที่เหลือ แต่ข้าพเจ้าบอกท่านทุกคนแล้วว่าแท้จริงแล้ว ธรรมที่เรียกว่าเป็นอนัตตา นั้นคนละความหมายกับ ไม่มีตัวตนหรือว่าสูญ ข้าพเจ้ายังไม่ได้เดินเข้าไปในที่แห่งนั้นแต่ประตูทางเข้าเปิดออกแล้วสำหรับข้าพเจ้า ดังนั้นข้าพเจ้าจึงอยากกล่าวกับทุกท่านว่า ประตูทางเข้ามันอยู่ทางนี้อย่าไปทางอื่น ทางอื่นไม่ใช่ทาง ถ้าอยากหลุดพ้นในปัจจุบันชาติหรือไปสู่สุคติภูมิที่ดีเพื่อสั่งสมบารมี หรืออะไรต่างๆที่เป็นกุศลก็ตาม หวังว่าท่านทั้งหลายคงเข้าใจความหมายนี้ ไม่ต้องถามผมเรื่องเนิ่นช้าผมยังมีกิจที่ต้องทำอีกมากบางส่วนเกิดจากอกุศลกรรมที่เคยก่อไว้ บางส่วนต้องเติมให้เต็ม ขอท่านทั้งหลายผู้ถึงพร้อมได้สำเร็จดังหมายด้วยใจด้วยจิตของท่านเถิด ไม่ต้องห่วงผู้อื่นผู้ใด ข้าพเจ้าขอกราบสักการะไว้ล่วงหน้าในกาลบัดนี้ถึงท่านอริยะสงฆ์อริยะบุคคลที่จะเกิดขึ้น ในกาลบัดนี้และอีกต่อไป อนุโมทนา สาธุ ทั้งหมดเพื่อต่ออายุพระพุทธศาสนาแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมณโคดม ให้พ้นจากหมู่มารที่คอยทำลายพระศาสนา ด้วยอธิจิตแห่งพระอริยะสงฆ์อริยะบุคคลที่จะเกิดขึ้นในกาลบัดนี้ และกาลเบื้องหน้า
    ขอท่านทั้งหลายจงเจริญในธรรม
    ทั้งหมดนี้เป็นคำตอบเดียวกับที่ให้คุณบุคคลทั่วไป 3 คน ครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2009
  8. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    มีจุดประสงอันใดหนอ
     
  9. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    แต่ดูๆไปเหมือนเขาจะมาจากสำนักเดียวกันนะ ทั้งหมดเลยรวมถึงคนๆหนึ่งด้วย
     
  10. นุภาวัฒน์

    นุภาวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    774
    ค่าพลัง:
    +270
    อนุโมทนาครับ ถ้าเป็นคำสอนที่ถูกต้อง เป็นผู้อยู่เฉย และค้นหาธรรม ธรรมใดๆ ที่พระพุทธเจ้าเคยสั่งสอน ขอนอบน้อมด้วยจิตอนุโมทนาสาธุ
     
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    ข้อที่โมฆบุรุษบางคนในธรรมวินัยนี้ ไม่รู้แล้ว ตกอยู่ในอวิชชา ใจมีตัณหาเป็นใหญ่
    พึงสำคัญคำสั่งสอนของศาสดาอย่างสะเพร่า ด้วยความปริวิตกว่า

    จำเริญละ เท่าที่ว่ามานี้ เป็นอันว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นอนัตตา
    กรรมที่อนัตตาทำแล้ว จักถูกตนได้อย่างไร


    จำเริญละ เท่าที่ว่ามานี้ เป็นอันว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นอนัตตา
    กรรมที่อนัตตาทำแล้ว จักถูกตนได้อย่างไร


    จำเริญละ เท่าที่ว่ามานี้ เป็นอันว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นอนัตตา
    กรรมที่อนัตตาทำแล้ว จักถูกตนได้อย่างไร


    ;aa24อ่านซะหลายๆเที่ยวอย่าทำตัวเก่งเกิน จอมศาสดา ที่กล่าวพุทธวจนะนี้
     
  12. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    หากเป็นเช่นนั้นก้นับว่าน่าสงสารมาก

    ดั่งเช่น อหิงสกะ อาจหลงผิดทำบาปมากมาย


    อีกทั้งยังปรามาส ไม่เลือกหน้าแบบนี้ เราไม่ได้บอกให้กลัวความผิดนะ แต่อยากให้รุ้ผิด

    หากแม้ต้องตกนรกเจอกับทุขเวทนา ก้ยังไม่เท่าความเห็นที่ผิดนี้จะติดตัวไปนับ
    อสงขัย เป็นเหตุแห่งทุข ที่จะตามมานั้นไม่ถ้วน

    ความทุขที่ได้รับกับจิตนั้นยังดับได้เพิกได้ เพราะมันเป็นเพียงเวทนา และสังขารที่ปรุงแต่งขึ้น เพียงแค่กำหนดจิตใน ฌาณ ก้อาจหนีพ้นได้

    แต่อวิชาที่เกาะจิตนี่สิจะพาไห้ได้รับแต่ทุขเวทนา ไม่จบสิ้น
     
  13. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    คุณ kengkenny สมะถะกรรมฐานบ้างหรือป่าว

    อย่างน้อยมันก้ช่วยเรา หนี ทุขเวทนา สุขเวทนา ได้ชั่วคราว หาก กายและจิตเรา ต้องได้รับกับสิ่งเหล่านั้นเราก้สามารถเพิกเฉย ไม่สนใจ มาตั้งมั่นอารมอยู่ใน อง ฌาณ แทนได้ เวทนาที่เกิดนั้น ก้ไม่เป็นผลต่อจิตเรา หากต้องการจะช่วยคน เราอาจจต้องเจอกันสิ่งเหล่านี้อีกนับไม่ถ้าน หากเรามี ฌาณบารมีแล้วก้ช่วยได้เยอะ
     
  14. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล

    พวกเธอพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงดังนี้ว่า

    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง
    ทั้งที่เป็นอดีต ทั้งที่เป็นอนาคต ทั้งที่เป็นปัจจุบัน
    เป็นไปในภายในหรือมีในภายนอกก็ตาม
    หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม อยู่ในที่ไกลหรือในที่ใกล้ก็ตาม
    ทั้งหมดนั่น ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    อริยสาวกผู้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้
    ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในรูป แม้ในเวทนา
    แม้ในสัญญา แม้ในสังขาร แม้ในวิญญาณ

    เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด
    เพราะคลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น

    เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว
    รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ได้ทำเสร็จแล้ว
    กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ

    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว
    ภิกษุเหล่านั้นต่างชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค
    และเมื่อพระผู้มีพระภาคกำลังตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้อยู่

    ภิกษุประมาณ ๖๐ รูป ได้มีจิตหลุดพ้นจากอาสวะ เพราะไม่ถือมั่นแล ฯ
    ภิกษุประมาณ ๖๐ รูป ได้มีจิตหลุดพ้นจากอาสวะ เพราะไม่ถือมั่นแล ฯ
    ภิกษุประมาณ ๖๐ รูป ได้มีจิตหลุดพ้นจากอาสวะ เพราะไม่ถือมั่นแล ฯ
    ++++++++++++
    พระอรหันต์ ๖๐รูป ใช่จิตของแต่ละท่านใช่มั้ยที่หลุดพ้น???
    เมื่อเป็นของแต่ละท่าน ก็ย่อมเป็นของตนใช่มั้ย???

    พุทธวจนะก็คือพุทธวจนะ ไปเพิ่มเติ่มเสริมแต่งให้เป็นบาปไปทำไม???

    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ บรรทัดที่ ๑๙๘๐ - ๒๑๘๖. หน้าที่ ๘๔ - ๙๒.
    �����ûԮ�������� �� - ����ص�ѹ��Ԯ�������� �

    ;aa24อ่านซะหลายๆเที่ยวอย่าทำตัวเก่งเกิน จอมศาสดา ที่กล่าวพุทธวจนะนี้<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
     
  15. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ขอผลบุญกุศลที่ได้ทำมา จงส่งผลไห้ ธรรมภูติ เป็นสุข และละความเห็นผิดเสียใด้ ได้เห็นธรรม ได้ญาณทัศนะ ได้พระนิพพานเป็นที่สุด เทอญ
     
  16. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    ความจริงผมคิดว่า จขกท ก็แสดงธรรมะ ได้ตรงดีนะครับ

    เสียอย่างเดียว ตรงแสดงตนเป็นพระอริยะซะก่อน

    ถึงแม้จะเป็นพระอริยะจริงหรือไม่
    ไม่แสดงว่าเป็น ก็คงไม่เสียหายอะไร

    ถึงแม้จะมีคนปรามาส
    เค้าก็ปรามาสแค่ความเข้าใจของเค้า
    ก็ไม่ได้เป็นบาปเป็นกรรมอะไรมากมาย
    อย่างมากก็เป็นเวรต่อกัน

    แต่พอประกาศตนเป็นพระอริยะขึ้นมา
    คราวนี้ก็ยุ่งสิ
    เพราะถ้าเป็นพระอริยะจริง ๆ คนปรามาสก็หนักแน่นอน
    เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นพระอริยะ

    นี่ล่ะไม่แสดงตนจะดีกว่า
     
  17. มโน

    มโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +100
    ธรรมเป็นของละเอียด เลิศล้ำมหัศจรรย์ ธรรมนั้นจึงสถิตย์อยู่ในใจพระอริยเจ้าฯ
    ธรรมมิใช่เป็นสิ่งที่สุกเอาเผากิน ธรรมนั้นจึงไม่สถิตย์อยู่ในใจของปุถุชน
     
  18. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500

    ไม่เป็นไรครับสังขารยังทนได้อยู่อวิชชาเหล่านั้นคงทำได้แค่ระคายจิต แม้บางท่านอาจจะมีบางอย่างเหนือผู้อื่นจริงแต่เป็นเพียงโลกียธรรม หากทำอะไรพลาดผิดก็จะต้องลงสู่โลกันต์มหานรกเช่นกัน แต่ความจริงจิตไม่ไหวหวั่นเลย และบอกตรงๆว่าผมไม่อยากให้พระอริยะสงฆ์ต้องลงมาแปดเปื้อนกับเรื่องนี้ครับ
     
  19. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ธรรมภูติ เป็น อริยะหรอ -*-
    สักกายยะทิฐิ ข้อนี้ ชัดเจนเลย ยังดูไม่ออกอีก
     
  20. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ธรรมที่แสดงน่ะตรงคับแต่ความเห็นนั้นไม่ตรง อ่านแล้วคิดตามด้วย ที่เค้าโพส จุดประสงค์คือตรงไหน ตรงต้องการนำธรรม มาอทิบายหรือ ตีความธรรมนั้นผิดเพี้ยน
     

แชร์หน้านี้

Loading...