۩۞۩ ★บุญโคมไฟระย้าดวงเอก☼ ดวงรอง ۩ วิหารแก้ว☆สมเด็จองค์ปฐม♥ ณ. วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

กราบโมทนในมหาบุญมหากุศลกับคุณ พุทธนิรันดร์ ด้วยครับ

ขออารธนาคุณของ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระโพธิสัตว์เจ้า พระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย พรหม เทพเทวา ทั้งหลาย กับทั้งบุญบารมี กุศลราศี รัศมีกำลังฤทธิ์ สิทธิอำนาจ อันเกิดแก่การ ร่วมสร้างโคมไฟระย้าดวงเอก ถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ในครั้งนี้ จงส่งผลดลบันดาลให้ คุณ พุทธนิรันด์และครอบครัวให้สำเร็จสุขีทั้งทางโลกและทางธรรม รุ่งเรืองไพศาล ธนสารสมบัติ พิพัฒน์มงคล สมบูรณ์พูนผล ปราศจากภัยภยันตรายทั้งปวง ตลอดกาลนานตราบเท่าเข้าสู่พระนิพานด้วยเทอญฯ<!-- / message --><!-- sig --> <!-- / message --><!-- sig -->

 

ครับขอขอบพระคุณมากครับ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสได้ร่วมบุญมหากุศล
และขอกราบอนุโมทนาในบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลของเจ้าของกระทู้และผู้มีจิตอันเป็นกุศลทุกๆท่านทั้งที่ได้ร่วมบุญหรือไม่ได้ร่วมบุญที่ได้กดกล่าวคำอนุโมทนาบุญ

 

ข้อความส่วนนี้ของคุณสมบูรณ์

ส่วนล่างสุดของโคมดวงเอกนี้ เป็นส่วนที่ติดกับบริเวณที่จะห้อยลูกแก้วพญานาคขนาด 100 mm. ช่วงล่างนี้มีขั้วไฟทั้งหมด 6 ขั้ว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือ 4 ขั้วชี้ออกเป็นเส้นรัศมี ชี้ไปทิศละ 1 ขั้ว อีก 2 ขั้วชี้ลงพื้นดิน ผมขอปรึกษาผ่านตรงนี้เลยว่า เราจะทำการ wiring สายตรงจุดนี้ให้สามารถเปิดได้ 24 ช.ม. ( หากทางวัดต้องการ ) จำนวน 6 หลอดนี้เลยจะดีหรือไม่ ? หรือว่าควรเปิดเพียง 2 หลอดที่ชี้ไปยังลูกแก้วพญานาค

ถ้าเปิดหมดในครั้งเดียวกัน 6 หลอดก็ประมาณ 240 วัตต์ ( รวมหลอดที่ส่องไปยังลูกแก้วพญานาคด้วยแล้ว ) หรือจะเปิดได้เฉพาะ 2 หลอดที่ส่องแสงไปยังลูกแก้วพญานาคดี ทั้ง 2 แบบสามารถควบคุมไฟด้วยเครื่องดิมเมอร์สวิทจากด้านล่างได้ด้วยการใส่ดิมเมอร์สวิทเปิดปิดไฟธรรมดา ๆ ( เกรงใจค่าไฟวัด ถ้าไม่เกรงใจ ผมเลือกแบบเปิดพร้อมกัน 6 หลอด บังคับด้วยดิมเมอร์จะดีที่สุดครับ )
.............................................................
ผมมีเรื่องปรึกษาตรงนี้ด้วยเช่นกัน เอาไว้ผมได้ข้อมูลเพิ่มอีกสักนิดจะมาปรึกษาและก็จะเป็นคำตอบไปในตัวครับ
เพราะเกี่ยวเนื่องกับลูกแก้วที่จะได้มาด้วย ซึ่งอาจมีการทำพิเศษในส่วนประกอบ

ครับพวกเราทุกคนที่ร่วมบุญเข้ามา ไม่ว่าปัจจัย กำลังกาย กำลังใจ สติปัญญา
ก็เพื่อพระศาสนา บูชาพระรัตนะตรัย มิได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง
ทุกคนเป็นเจ้าภาพโคมไฟระย้าดวงเอก เป็นการร่วมสร้างมหากุศลร่วมกัน
ทุกอย่างในนี้เป็นของทุกท่านครับ

จงยินดีในงานของพวกเรา เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของพระศาสนาสืบต่อไป
สาธุ ในบุญกุศลกับทุกท่านครับ
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ร่องยึดขา metal bracket กวาง 9 มม.

เหตุที่ผมยังไม่ได้ส่ง Lamp Holder เพราะต้องการสืบหา metal bracket
ณ วันนี้ก็สรุปได้ว่า ไม่สามารถหา metal bracket มาได้แล้วครับ
ต้องเป็นการผลิตขึ้นมาเอง ที่เมืองไทย ผมจะส่งของวันจันทร์ครับ

จึงต้องขอ คุณปรีชา ให้ช่วยงานนี้ ต่อครับ อันที่จริงผมดูแล้วทำไม่ยาก
มีน็อต สามหุน กับเหล็กหนา สอง ม.ม. มีความกว้าง 9 ม.ม. ยาวเช็กดูจากเมื่อพับแล้ว

ดูจากภาพเสก็ตแบบคร่าวๆที่คิดว่าง่ายนะครับ

นี่ของที่ทำขายหาไม่ได้

ภาพที่ผมคิดไว้
สีเขียวคืน็อต สามหุน สีน้ำตาล เหล็กแผ่นดัด

ใช้เหล็กแผ่น กว้าง 9 มม. พับเป็นรูปตัว C เหลี่ยมหักมุมฉาก
วางบนน็อตสามหุน แล้วเชื่อม ซ้าย ขวา ก็ใช้ได้แล้วครับ
เจาะรูแท็บเกลียว M 3 สองรู รูผ่านสายไฟ หนึ่งรู เท่านี้ก็เสร็จแล้ว
หรือถ้าคุณปรีชามีอะไรที่ดีและง่ายกว่านี้ ก็เอาตามคุณปรีชาว่าก็แล้วกันครับ

 

ขออภัยคุณณรงค์และคุณพี่ปรีชาครับ ผมขอให้เป็นแบบเก่าจะดีกว่าครับ คือหากวางน๊อตไว้ด้านล่าง เวลาขันเข้าขันออกด้วยประแจปากตายเบอร์ 14 จะทำไม่ได้เลย พวกเราชาวซ่อมขั้วไฟ เราจะมีกุญแจตัว T กัน กุญแจตัว T นี้ จะต้องขันที่น๊อตในตำแหน่งดังรูปที่โพสต์แล้วเท่านั้นครับ โดยกุญแจตัว T ของพวกเราจะมีช่องว่างเว้นตัวน๊อตเล็กสำหรับสายกรานด์ไว้แล้ว ไม่เหมือนกุญแจตัว T ของช่างเครื่องยนต์

การขัน metal bracket เข้าทางด้านหน้า หรือถอดออกจากด้านหน้าของ hood เป็นเรื่องจำเป็นมาก ดังนั้นการออกแบบจึงเน้นการซ่อมที่สามารถทำได้จากด้านหน้า เพราะ hood หรือปลอกเหล็กจะปิดบังมิดทุกด้านครับ

ส่วนขาเหล็กที่เขาว่างตรงกลางไว้นั้น มีความสำคัญมากเหมือนกันครับ ในบางกรณีอาจเกิดพลาดพลั้ง มีเศษโลหะพาดผ่านแล้วลงไปโดนน๊อตทองเหลืองที่ขันจับสายไฟ จะลัดวงจรครับ บางครั้งช่างไฟที่มาซ่อมภายหลังไปหมุนขั้วแล้วสายไฟบิดตัวกันก็อาจบาดเหล็กส่วนที่เกินแล้วลัดวงจรได้เช่นกัน

ส่วนตรงที่เป็นรูปสามเหลี่ยมลงไปนี้ สามารถขยายเป็นรูปตัวยูได้ เพื่อให้ระยะห่างจากปากขั้วให้เสมอกับปาก hood หรืออาจยุบตัวจากปาก hood เล็กน้อย ประมาณ 1 - 2 mm.

ขออภัยที่แสดงความคิดเห็นครับ

หมายเหตุ
น๊อตตัวเล็กสำหรับจับสายกรานด์ไม่ต้องครับ แต่ที่มีมานั้น เพราะเป็นมาตราฐานสายไฟ 3 ไส้ที่มีสายกราวนด์ในระบบอุตสาหกรรม โคมไฟดวงเอกนี้ยังมีที่จับกราวนด์ที่อื่นได้เยอะเลยครับ หากต้องการจับก็จับที่อื่นได้ครับ

 

เมื่อคืนวานนี้กลับมาจากบ้านเพื่อนสนิทถึงบ้านประมาณ 2 ทุ่ม มาเขียนตอบเรื่องขั้วไฟแก่คุณณรงค์และคุณพี่ปรีชา แล้วก็สลบไป เนื่องจากความเพลียที่กรำงานประกอบโคม crystal chandelier ให้เพื่อนมา 2 วันเต็มเช้ายันเย็น 5 ชุด แล้วก็เลยมีเรื่องดี ๆ มาเล่าให้ฟังกัน เรื่องดี ๆ ที่จะอยากจะเล่าก็คือเรื่องคนดีย่อมได้รับการตอบแทน ไม่ว่าจากคนหรือจากฟ้า

เพื่อนสนิทผมคนนี้เป็นคนดีที่ทำดีมาตลอดตั้งแต่แรกที่เรารู้จักกันมาเมื่อปี 2528 และมีเรื่องที่ความดีกำลังตอบสนองเขาแบบไม่น่าเชื่อ " แปลกแต่จริง " ก็เลยจะเล่าเพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ที่กำลังทำความดี แต่ความดียังไม่ส่งผลให้เห็น เป็นกำลังใจล่วงหน้าไปก่อนครับ

เมื่อหลายวันก่อนหน้านี้ ผมเคยเล่าให้ฟังในกระทู้นี้ว่า ผมต้องไปเป็นเพื่อนซื้อโคมไฟ crystal chandelier กับเพื่อนสนิทผมคนนึง ไปวันนั้น เราซื้อโคมไฟระย้านี้ได้ 5 ชุด โดยที่เพื่อนผมขอให้ผมช่วยตรวจสอบเรื่องคุณภาพของเฟรมตัวเรือน โคมไฟถูกเก็บอยู่ในกล่องแบบ knock down packing เพื่อสะดวกแก่การขนส่ง และถูกเก็บอยู่ที่บ้านเพื่อนตั้งแต่นั้น ต่อมาก็เมื่อไม่กี่วันนี้ เพื่อนผมก็ได้สั่งโคมไฟ crystal chandelier จากวุ้ยล้ง 2 ชุด คือชุดที่มาพร้อมกับโคมดวงเอก

เมื่อจะติดตั้งโคม ช่างไฟของเพื่อนผมไม่ยอมประกอบ เนื่องจากบอกว่า มันยากเกินความสามารถช่างไฟอย่างเขา เพื่อนผมจึงขอร้องให้ผมไปประกอบโคมให้ทั้งหมดจำนวน 7 ชุดที่เป็น crystal chandelier ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง วันแรกผมประกอบโคมไฟจากวุ้ยล้งชุดที่เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.020 สูง 0.95 เมตร เมื่อรวมโซ่แล้วสูง 2.0 เมตรภายในครึ่งวันแรก ทุกคนงงว่าจะนำขึ้นไปติดตั้งโดยไม่ให้เกิดความเสียหายได้อย่างไร รวมทั้งผมเองซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะไม่เสียหายเพราะก้านทั้งหมดเป็นก้านแก้วบาง ๆ เพื่อนผมพูดขึ้นว่า ไม่เป็นไรนะ จัดการไปเถอะ แตกหักผมรับเองทั้งหมด ทุกคนไม่ต้องเกร็ง จากนั้น พวกเราก็สามารถยกโคมก้านแก้วเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตรที่มีน้ำหนักประมาณ 38 - 45 ก.ก. ขึ้นไปได้อยู่บนฝ้าเพดานโถงบันไดได้อย่างเรียบร้อย เมื่อเหลือเวลาเล็กน้อยผมก็ประกอบชุดเล็กได้สำเร็จอีกชุดในวันนั้น

ที่ต้องการจะเล่าเป็นเรื่องเมื่อวานนี้ ที่ผมประหลาดใจ คือโคมไฟที่เพื่อนผมซื้อมาตั้งแต่วันก่อนโน้น ผมประกอบไปถึงชุดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.85 เมตรสูง 0.80 เมตรอีกชุดหนึ่ง ซึ่งตามแค๊ททาล๊อคแล้ว ประกอบด้วยเม็ดแก้วเรียบ ๆ ไม่เจียรนัย มีชื่อเรียกว่า หยดน้ำ drop จำนวนเม็ดที่เป็น drop นี้ทั้งหมด 78 เม็ด ถ้าเป็นเม็ด drop แบบเรียบ ๆ ก็เม็ดละประมาณไม่กี่สิบบาท แต่เมื่อผมเปิดดูจากในกล่องซึ่งแพคกิ้งมาจากเมืองนอกเลย ยังไม่มีการตรวจใด ๆ เพราะเม็ดแก้วจะถูกปกปิดในกล่องแยกเฉพาะ ผมถึงกับตกใจที่พบว่า กลายเป็นเม็ด drop ชนิดเจียรนัยผิวเป็นมุมเป็นเหลี่ยมขนาดเม็ดก็ใหญ่มาก และเป็นที่ทราบกันดีของนักเล่นคริสตัลว่า drop ชนิดนี้ราคาตกเม็ดละเป็นพันบาท เมื่อเราหาผู้รับผิดชอบตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพื่อนผมบอกว่า งั้นก็ประกอบไปเลยแล้วกัน มีอะไรเพื่อนผมรับผิดชอบเองไม่ต้องห่วง ก็เลยเป็นอันว่า โคมไฟคริสตัลดวงนั้นที่ซื้อมาในราคาแค่ 1 หมื่นเศษไม่ถึง 2 หมื่น กลับได้โคมไฟคริสตัลในราคาประมาณ 1 แสนไป

อินทิเรียดีไซเนอร์ก็อยู่ที่นั่นด้วย บอกว่าเพื่อนผมคนนี้เป็นคนดีที่ชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูงและคนรู้จักเสมอ ๆ รวมทั้งตัวอินทีเรียเองก็ได้รับความช่วยเหลืออยู่เสมอด้วย มักจะได้อะไรดี ๆ ตอบแทนแบบนี้เสมอในบ้านหลังใหม่หลังนี้ ไม่ว่าจะซื้ออะไรเข้าบ้าน ตอนซื้อก็เลือกซื้อแบบธรรมดา ๆ แต่พอส่งมา กลับมีอะไรแบบนี้ปรากฏให้เห็นอยู่ประจำ เช่นห้องครัว อุปกรณ์ที่สั่งซื้อเป็นอย่างธรรมดา เวลาส่งมากลับเป็นอย่างดีที่ราคาสูงกว่าที่สั่งหลายเท่า และอุปกรณ์การแต่งบ้านอื่น ๆ ก็พบอย่างนี้เป็นประจำ อินทีเรียบอกว่า ตั้งแต่ทำงานมาหลายสิบปีก็พบบ้านหลังนี้แหละที่มีอะไรแปลก ๆ มาตั้งแต่ทำบ้านหลังนี้

อาจจะเรียกได้ว่า เวลาเพื่อนผมเขาทำความดี ไม่เคยหวังผล เมื่อถึงเวลาจะได้ มันก็ได้ขึ้นมาเองอย่างนั้นแหละ

เดี๋ยววันนี้พรุ่งนี้ยังต้องไปประกอบอีก 2 ชุดที่เหลือครับ

 

เมื่อครั้งก่อนที่จะฉาบผิวผนังภายในวิหารแก้ว ก็จะต้องเดินสายไฟภายในก่อนฉาบ
ในจังหวะนั้น มีคุณ สมเกียรติ (จำนามสกุลไม่ได้) ได้อยู่ในเหตุการณ์พอดี
ได้ควักเงินปัจจัยส่วนตัว ถวายกับหลวงพี่ ตุ๊ดี เป็นค่าสายไฟทั้งหมด หลายมื่นบาท
เพราะฉนั้น สะพานทางเดินของกระแสไฟ คุณสมเกียรติ ได้สร้างไว้ล่วงหน้าแล้วนะครับ
ขอกราบโมทนาในมหากุศลยิ่งนี้ด้วยครับ

ภายในวิหารจะมี จุดแขวนช่อไฟระย้า สี่จุดใหญ่รวมทั้งช่อดวงเอกด้วย
แต่ละช่อระย้า จะมีดวงบริวารอีกสี่ดวงสี่จุด ในสี่ทิศ
และจะมีจุดใส่ ดวงไฟสปอร์ต์ไลท์ อีกสี่ดวง เพื่อยิงแสงไปยังองค์ปฐมและเลยไปยังผนังด้านหลังด้วย
เป็นสปอร์ตไลท์ที่มีกำลังไม่แรงนัก เพื่อส่งความสวยงามขององค์ปฐมให้ยิ่งขึ้น
อาจเป็นผลให้เพชรประดับแวววาวระยิบนระยับได้ มากยิ่งขึ้น
เป็นการออกแบบจากช่างไฟที่มาทำงานให้กับทางวัด

จากข้อความข้างบนของคุณสมบูรณ์ เกี่ยวกับโคมไฟต่างๆ
ทำให้นึกถึงความสวยของเม็ดคริสตัลแต่ละเม็ด คงสวยงามแวววาว
ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นของจริงกับเขาเหมือนกัน ได้แต่เห็นในภาพที่เอามาลงกันนี้แหละครับ
กับดวงเอกของเรา เข้าใจว่าสวยงาม แต่น่าเสียดาย ที่วันไปรับของ
ที่เราสั่งซื้อโคมไฟดวงเอกมา คุณ สุชาดา บอกว่าได้มีผู้ถ่ายรูปไว้
แต่ไม่นำออกมาสู่สายตาสาธารณะชน ก็ต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ
ที่ผมบกพร่องตรงนี้ไป พอดีคุณ สุชาดา ไม่มีกล้องติดไปด้วย ไม่งั้นก็นำเสนอให้ทุกท่านได้ดูกันครับ
เพราะทำบุญร่วมกัน เป็นสาธารณะกุศล ของพวกเรา
เป็นการ แสดง มุทิตาจิต ในพรหมวิหารสี่ ของความดีอันประเสริฐนั่นเอง

 

โมทนา สาธุ กับ คุณสมเกียรติ ที่ได้เดินสายไฟฝังผนังไว้เรียบร้อยแล้ว ผมอยากให้ท่านใดช่วยตรวจดูว่า สายไฟเฉพาะเส้นที่มาเลี้ยงโคมดวงเอกนี้ มีกี่เส้น แต่ละเส้นมีขนาดกี่ตารางมิลลิเมตร ผมจะได้แชร์โหลดได้ถูกต้อง

หากมีเพียง 1 เส้น ( 1 คู่สาย ) การ wiring สายก็ไม่ต้องเผื่อ 2 สวิท

หากมี 2 เส้น ( 2 คู่สาย ) การ wiring สายจะทำให้เปิดไฟได้ 2 อย่างคือ
เปิดทิ้งได้ 24 ช.ม. ( หากทางวัดต้องการ ) เปิดสัก 2 - 6 หลอดก็พอ
และ
เปิดเมื่อมีพิธีใหญ่จะเปิดทั้งชุด 72 หลอด แต่จะกินไฟมากเท่ากับแอร์หลายตัวรวมกัน

ถ้าเราใช้หลอดขนาด 25 วัตต์ทั้งชุด โคมดวงนี้จะกินกระแสไฟ 8.21 แอมแปร์ + +

ถ้าเราใช้หลอดขนาด 40 วัตต์ทั้งชุด โคมดวงนี้จะกินกระแสไฟ 13.10 แอมแปร์ + +

ถ้าเราใช้หลอดขนาด 60 วัตต์ทั้งชุด โคมดวงนี้จะกินกระแสไฟ 19.64 แอมแปร์ + +

+ = ระยะไกลของสายไฟ ขนาดของสายไฟต้องเพิ่มใหญ่ขึ้นกี่ % ตามระยะ
+ = การฝังสายไฟในผนังจะต้องเพิ่มขนาดเพื่อเพียงพอแก่ค่าที่ลดลง


วันนั้นดูเหมือนพี่มหาหินเอากล้องมาถ่ายภาพ ถ้ายังไงก็โพสต์รูปได้ครับ แต่ยังไม่เห็นว่า เมื่อประกอบแล้วจะเป็นอย่างไร

ผมทำภาพที่ผมต้องใช้ในการประกอบมาให้ดูก่อนนะครับ

หมายเหตุ

ถ้าเดินสายมาเพียง 1 คู่สาย หากต้องการหรี่ไฟทั้งชุดให้แสงไฟน้อยลงมาก ๆ ต้องใช้เครื่องควบคุมที่ใหญ่กว่าดิมเมอร์สวิททั่ว ๆ ไปในท้องตลาด [ ขนาดทั่วไปจะมีประมาณ 2.20 - 3.25 แอมแปร์ { 500 - 800 วัตต์} เท่านั้น ] ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องดิมขนาดใหญ่ เพราะเคยทราบมาว่า เครื่องดิมขนาดใหญ่ มีหลายระบบ บางระบบดิมหรี่ไฟแล้ว ค่าการกินกระแสไฟกลับไม่ลด จริงหรือไม่ต้องพิสูจน์ แต่บางระบบสามารถลดค่าการกินกระไฟได้ เคยมีคนพิสูจน์จากการสั่งทำดิมเมอร์ใหญ่ขนาดใกล้เคียงกันนี้แถวบ้านหม้อ แล้วนำมิเตอร์ไฟฟ้าวัดกันเลย แต่หากเป็นวิศวกรไฟฟ้าก็ไมต้องมานั่งทดลองกันแบบนี้ เพราะเขาจะสั่งกันตามสเป็คของทางวิศวกรรมไฟฟ้าและเชื่อมั่นในวิธีการที่ถูกต้องไปเลย

 

วันนี้แพ็คของเสร็จแล้วครับเตรียมส่งวันจันทร์
ผมขอที่อยู่คุณ สมบูรณ์ด้วยครับ ถ้าวันเสาร์ส่งทันก็จะส่งวันเสาร์ครับ
ส่งตรงไปที่คุณสมบูรณ์ ในส่วนที่ต้องใช้ จะได้ลดขั้นตอน ส่งหลายต่อ
ส่วนที่เหลือ ยังอยู่ที่ผมครับ จะหาโอกาสส่ง อีกครั้ง อาจไปเก็บที่บ้านผม วังน้ำเย็น
แต่ก็พร้อมจะร่วมทำบุญทุกเมื่อ ถ้าวัดไหนต้องการใช้ สามารถติดต่อมาที่ผมได้ทันที

บ้านวังน้ำเย็น เหมาะเป็นที่เก็บของมากที่สุด เพราะมีพ่อผมอยู่เฝ้าบ้านเท่านั้น ไม่ยุ่งเกี่ยวเกะกะใครครับ
โคมไฟดวงนี้ไม่แน่นะ ผมอาจได้ไปร่วมติดแขวน กับคุณ สมบูรณ์ ก็ได้นะครับ
เพราะกว่าจะได้ใช้ คงต้องทำความพร้อมอีกมาก ถ้าผมยังมีลมหายใจอยู่นะ
ยังร่วมจุดความสว่างไสว กับโคมไฟในวิหารแก้ว ได้ต่อไปอีกครับ
ยังสว่างไม่เต็มวิหาร ก็เชิญร่วมสร้างมหาอานิสงส์กันครับทุกท่าน

 

ได้ครับคุณณรงค์

ที่อยู่ทางไปรษณีย์นะครับ
สมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล
Somboon Tiyawongsakul
3/391 หมู่ 11
บ้านแก้ววิลล่าโครงการ 2
Barnkaew Villa 2.
ถนนลาดพร้าววังหิน ซอย 68
Lardprao-Wanghin Road ( Soi 68 )
ต./อ. ลาดพร้าว
T./A. Lardprao
Bangkok 10230
Thailand

กว่าจะได้ติดตั้งโคมไฟดวงนี้คงอีกหลายสัปดาห์มาก ยินดีต้อนรับทุก ๆ ท่านนะครับที่จะมาแวะเยี่ยมเยือนกัน หรือจะมาช่วยกันรับถ่ายทอดความรู้ทางด้านนี้ เพื่อนำไปแก้ไขซ่อมแซมโคมระย้า crystal chandelier ตามวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้ความรู้ไปแล้ว อย่าไปเรียกค่าตัวแพงนะครับ เหมือนทุกวันนี้บางบริษัทที่เขาเรียกแพง ๆ เพราะเขาต้องประกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและความเสี่ยงที่มักหาอาหลั่ยไม่ได้ สำหรับผมแล้วงานบุญงานกุศลผมทำฟรีทุกครั้งอยู่แล้ว

ขออุทิศบุญกุศลนี้แด่ทุกดวงจิตที่ยังไม่เข้าพระนิพพาน ขอจงเป็นพลวะปัจจัยเพื่อเข้าถึงพระนิพพานโดยพลันเทอญ

ท่านที่ไม่ทราบการอุทิศส่วนกุศลของข้าพเจ้า ขอเทวดาได้โปรดแจ้งเขาเหล่านั้น เมื่อทราบแล้วจงอนุโมทนาเองเถิด

 

คุณพี่สมบูรณ์ช่วยส่งตัวอย่างชุดนี้ไปให้ผมด้วยครับ ตัว Metal bracket
ผมอยากทำขึ้นจากชุด Stainless ถ้าได้เห็นของจริงก็จะง่ายที่จะหานัทตัวเมีย
มาให้เกลียวเข้ากันได้พอดี
ส่งไปที่ 741/39 หมู่บ้านเบญจพรนวมินทร หมู่2 ตำบล พะวง อ.เมือง สงขลา 90100

โมทนาสาธุกับคุณสมเกียรติ และทุกท่านที่ร่วมกันทำบุญครับ

 

อนุโมทนากับคุณพี่ปรีชาด้วยครับ

metal bracket นั้นผมมีแต่ขนาดสำหรับขั้วไฟ G9 ขนาดรูเกลียวนั้น 3 หุ๋นเท่ากัน แต่ขนาดตัวเรือนที่จะจับกับขั้ว E14 ไม่เท่ากัน

ส่วนน๊อต 6 เหลี่ยมของ Artdini ดังในภาพนั้น ผมไม่มีจริง ๆ ครับ เพราะแม้แต่สินค้าตัวนี้ของ Artdini ก็คงไม่ได้เข้าเมืองไทยเช่นเดียวกัน เศร้า ! อะ อ้ะ แต่ว่า ผมมีขั้วไฟแบ๊คคาไล้ท์ของอิตาลีที่มีหัวน๊อต 6 เหลี่ยมที่ดีกว่าของ Artdini เสียอีก 5 5 5 ผมจึงใช้คีมตัดส่วนที่เป็นแบ๊คคาไล้ท์ออก เหลือแต่ตัวน๊อต 6 เหลี่ยม จุดที่ผมว่าตัวน๊อตของอิตาลีบริษัทนี้ดีกว่าของ Artdini คือตัวสกรูตัวผู้ตัวเล็กที่จะขันเข้าไปในน๊อต 6 เหลี่ยมนั้น อยู่คนละตำแหน่งกัน ของผมที่กำลังจะส่งตัวอย่างให้คุณพี่ปรีชานี้ ตำแหน่งจะอยู่ส่วนที่ทำให้เราสามารถถอดขั้วไฟออกจากด้านหน้าได้อย่างสบาย ตามวิชาการของโคม Decoration Lighting เลยทีเดียว

ก็เรียกว่า เราได้ที่ดีที่สุดอีกแล้วละครับ ผมฝากภาพ inner screw ที่ผมวาดรูป screw ตัวผู้แทงทำมุมเฉียงนิด ๆ นี้ ตั้งใจให้เฉียงเหมือนของอิตาลีเขานะครับ เพราะการเฉียงนี้เอง จะทำให้เข้าไปจับตัวแป๊บได้ กันการหมุนตามครับ

งานนี้ผมรับรองว่ายากสุด ๆ ครับ เพราะเป็นงานละเอียดประณีตที่สุดของโคมไฟดวงนี้ คุณพี่ปรีชาอย่าเพิ่งท้อนะครับ เอาใจช่วยครับ

ผมส่งทาง EMS ให้เลยเช้าวันเสาร์คือวันนี้ครับ

 

เทียมจะส่งเสียงดังๆ ไปตาม คุณมหาหิน ให้ช่วยมาpost รูป โคมไฟที่ถ่ายไว้ และเม็ดคริสตัส ที่สวยงามด้วยค่ะ เพื่อให้ ทุกท่านได้อนุโมทนาบุญร่วมกัน อดใจรออีกนิดนะคะ คุณมหาหินมีงานบุญติดพันเยอะ

 

ร่วมบุญโคมไฟระย้าดวงเอกในวิหารแก้ว​

ชื่อบัญชี ​

 

ได้ติดต่อสอบถามเรื่องสายไฟได้รายละเอียดมาดังนี้
สายที่ใช้กับช่อระย้า เป็นขนาด 2.5 มม. ช่อละ คู่สายเดียว
เป็นการเดินในท่อ ฝังกับผนังปูนที่ฉาบเรียบร้อยไปแล้ว
ผมถามเขาว่า จะแก้ไขโดยการสอดสายเพิ่มได้ไหม เขาบอกว่าคงทำไม่ได้
เพราะท่อมีการหักมุมเยอะมาก ก็ทุกอย่างเสร็จหมดแล้วเรื่องการเดินสายไฟ

เมื่อเป็นดังนี้ไม่มีทางเลือกที่จะเล่น ไฟสองระบบได้ คงต้องเปิดระบบเดียว คือ ปิดเปิดเท่านั้น
อันนี้ก็เป็นเรื่องของคุณ สมบูรณ์ ครับ เพราะผมก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร
ช่อไฟทั้งสี่ช่อ มีที่ปิดเปิดของตัวเอง แยกของใครของมัน
เพื่อที่จะประหยัดไฟ ในยามที่ไม่ต้องการเปิดหมดทุกดวง

เขาได้คิดติดดวงสปอร์ตไลท์ ไว้ทั้งหมด หก ดวง (ที่ผมบอกผิดไปว่า สี่ ดวง)
เพื่อยิงแสงไปหาองค์ปฐม เพื่อสท้อนแสงระยิบระยับ ตามที่เขาเคยทำมา
ก็นำมาเล่าชี้แจงแถลงไข เท่านี้ก่อนครับ

 

ขอบคุณคุณณรงค์ครับที่ช่วยสอบถามขนาดของสายไฟที่ติดตั้งภายในท่อที่ฝังไว้ในกำแพงอีกทีหนึ่ง ซึ่งเราโดน 3 เด้งเลยครับ คือสายไฟถ้ามีระยะไกลเช่น 30 - 40 เมตรก็ถูกบั่นทอนแล้ว ใส่ไว้ในท่อก็ถูกลดทอนอีกด้วยการไม่ได้อยู่ในฟรีแอร์ และถูกฝังไว้ในกำแพงปูนที่ฉาบเรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะมีการลดทอนอีกเล็กน้อย

*****************************************************

ถ้าเราใช้หลอดขนาด 25 วัตต์ทั้งชุด โคมดวงนี้จะกินกระแสไฟ 8.21 แอมแปร์ + +

ถ้าเราใช้หลอดขนาด 40 วัตต์ทั้งชุด โคมดวงนี้จะกินกระแสไฟ 13.10 แอมแปร์ + +

ถ้าเราใช้หลอดขนาด 60 วัตต์ทั้งชุด โคมดวงนี้จะกินกระแสไฟ 19.64 แอมแปร์ + +

+ = ระยะไกลของสายไฟ ขนาดของสายไฟต้องเพิ่มใหญ่ขึ้นกี่ % ตามระยะ
+ = การฝังสายไฟในผนังจะต้องเพิ่มขนาดเพื่อเพียงพอแก่ค่าที่ลดลง

*****************************************************

ตอนนี้ก็เหลือแต่ว่า เราต้องหาตารางบอกว่าขนาดของสายไฟ 2.5 ต.ร.ม. สามารถทนกระแสไฟได้กี่แอมแปร์ในฟรีแอร์ แล้วลดลงประมาณ 15% ก็จะเป็นกำลังที่สายไฟเส้นนี้ทนได้ครับ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันนี้ผมว่าง จะหาข้อมูลมาครับ

ถึงอย่างไรก็ขออนุโมทนากับเจ้าภาพที่เดินสายไฟในท่อฝังกำแพงแล้วอ่ะครับ

คงไม่มีการไปแก้ไขในส่วนนั้นแน่นอน ผมต้องคำนวนจำนวนวัตต์ของโคมทั้งชุดเพื่อไม่ให้เกิดความร้อนในสายไฟมากเกินไป อันอาจเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อสายไฟภายในกำแพงวัดได้ด้วย

 

ถ้าจะเอากันจริงๆก็แก้ไขได้ครับ
โดยการเจาะผนังทะลุด้านบน แล้วเดินสายจากด้านบนเอา จะเอาแบบไหนก็ได้
ถ้าจะเอาคุณภาพเต็มจริงๆก็สามารถทำได้ครับ เพราะเราทำให้สมบูรณ์ขึ้น
เอาเฉพาะช่อเดียว คือดวงเอกนี้เท่านั้น ที่แก้ไข นอกนั้นเหมือนเดิม
เป็นเพียงความคิดผมเท่านั้น เพราะเห็นว่าดวงเอกนี้ใหญ่ น่าจะใช้ไฟมากกว่าดวงอืนน่ะครับ

 

ขอบคุณคุณณรงค์เป็นอย่างมากครับ คุณณรงค์เข้าใจถูกต้องแล้วครับ โคมดวงเอกนี้มีจำนวนหลอดไฟมากถึง 72 หลอดจากโรงงาน และเมื่อผมอาจมาประยุกต์ให้มีหลอดส่องแสงไปยังลูกแก้วพญานาค หากเพิ่มอีก 2 หลอดก็จะกลายเป็น 72 หลอดไฟ เมื่อใช้ไปหลอดไฟก็จะขาดไป ถ้าหากช่างไฟไม่ระมัดระวัง ไปเอาหลอดขนาด 40 วัตต์บ้าง 60 วัตต์บ้าง มาเปลี่ยนใส่เข้าแทนที่หลอดที่ขาดไป กำลังก็จะถูกเพิ่มขึ้นโดยไม่อาจควบคุมได้ ตรงนี้เองที่อาจทำให้สายไฟในกำแพงวัดถึงกับไหม้หรือกรอบจากความร้อนสะสมได้

ถ้าหากว่าคุณณรงค์มั่นใจว่าจะเพิ่มสายไฟใหม่อีก 1 คู่สาย ผมขอขนาด 6 ตารางมิลลิเมตรเลยจะได้ไหมครับ เพราะทนกระแสไฟที่ 36 แอมแปร์ที่ฟรีแอร์ เมื่ออยู่ในท่อจะถูกลด 5% มีกำแพงปูนโบกปิดลดอีก 5% ระยะไกลลดอีก 5% และหากมีอะไรเป็นอุปสรรค์อีกก็จะลดได้อีก 5% สายไฟขนาด 6 ตารางมิลลิเมตรนี้ก็จะทนได้ประมาณ 28.50 แอมแปร์

เมื่อเทียบกับโคมดวงเอกที่ถ้าเกิดช่างไฟเปลี่ยนหลอดผิดขนาดอย่างร้ายแรง ก็อาจกินไฟสูงได้ถึง 21.50 แอมแปร์ คือ 70 หลอดหลอดละ 60 วัตต์ กับอีก 2 - 4 หลอดที่ผมจะใช้ความพิเศษของแสงพิเศษส่องไปยังลูกแก้วพญานาค ซึ่งอาจกินไฟหลอดละ 100 วัตต์ได้

การใช้สายขนาดใหญ่ทนได้ 28 - 29 แอมแปร์มารับโหลดที่อาจพลาดไปถึง 21.50 แอมแปร์ เหลือตรงจุดนี้ดีกว่าขาด เพราะถ้าเหลือ สายไฟจะไม่แข็งเพราะความร้อนในลวดทองแดงจะทำปฏิกิริยาให้ยางแข็งตัวก่อนเวลาครับ

 

ส่วนสายไฟเดิมที่ฝังท่อไว้ขนาด 2.5 ตารางมิลลิเมตร ก็อย่าเพิ่งรื้อทิ้งนะครับ ผมขอไว้สำหรับต่อไฟชุดที่ผมว่า " เปิดทิ้งตลอด 24 ช.ม. ( หากทางวัดต้องการ ) " ผมจะได้เผื่อวิธี wiring สายไว้เลย

ผมพบหลอดพิเศษสำหรับส่องลูกแก้วพญานาคแล้วด้วยความบังเอิญ แต่ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่า มีของในตลาดหรือไม่ ถ้ามีราคาเมื่อหลอดขาดแล้ว ทางวัดต้องซื้อจะแพงเกินไปหรือไม่ ? จะเป็นภาระของทางวัดหรือไม่ กำลังพิจารณาอยู่ระหว่างหลอดชนิดขั้ว G9 GU10 และ Pin Socket ครับ

หลอด G9 ให้แสงออกมาเหมือนหลอดจำปาที่แรง 60 วัตต์ แต่ยังอมเหลืองอยู่ เขาเรียกโทนสีนี้ว่า โทนสีประมาณ 2700 องศาเกลวิน

หลอด GU 10 ให้แสงออกมาเหมือนหลอดสปอตไล้ท์ที่แรงประมาณ 135 วัตต์ แต่ยังอมเหลืองอยู่บ้าง ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็มีสีอมเหลือง โทนสีประมาณ 3500 องศาเกลวิน

หลอด Pin Socket พิเศษนี้ ให้แสงออกมาเหมือนแสงพระอาทิตย์ที่ชี้ไปยังจุดจุดเดียวขนาด 10 mm. ในระยะห่าง 10 ซ.ม. แสงสีพิเศษมาก คือ แสงขาวเหมือนพระอาทิตย์กระทบกระดาษขาว ไม่มีสีเหลืองปนเลย โทนสีประมาณ 5700 องศาเกลวิน เกือบเข้าข่ายแสงพระอาทิตย์แล้ว เมื่อแสงชนิดนี้ทะลุทะลวงแก้วพญานาคออกมา วัตถุที่อยู่ภายในลูกแก้วพญานาคก็จะปรากฏได้เด่นชัด เช่น แร่ หรืออะไรที่ปกติแสงธรรมดาไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ คือฝ่าเข้าไปแล้ว ส่วนที่ทึบก็ยังทึบ ส่วนที่แสงรอดได้ก็สว่าง แต่แสงชนิดนี้มักฝ่าได้ ยกเว้นโลหะเท่านั้น

โปรดช่วยกันพิจารณาชนิดของหลอดด้วยครับ
ราคาก็ไม่แพงเสียด้วยครับ หลอดไฟรู้สึกว่าไม่ถึง 300.- บาทต่อหลอด ขั้วไฟยังมีปัญหาเรื่อง metal bracket ขั้วไฟก็แค่ 60.- บาท แต่อาจต้องทำ hood เพิ่มอีก 2 - 4 ชิ้นครับ

 

หุหุ ความร้อนเป็นอย่างไรครับ ถ้าใกล้กับแสงพระอาทิตย์
จะไม่เผาลูกแก้วพญานาค ละลายหรือครับ
ผมว่าทำสวิทปิดเปิดได้ด้วยก็ดี เผื่อว่าทางวัดไม่ต้องการ เปิด 24 ชม.