۩۞۩ ★บุญโคมไฟระย้าดวงเอก☼ ดวงรอง ۩ วิหารแก้ว☆สมเด็จองค์ปฐม♥ ณ. วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

ต่อจาก #1513

1. หากไม่อยากแก้ไขอะไรเลย ให้ใช้วิธีเดิมที่โรงงานเขาร้อยมา คือใช้สายเดิมคือขนาด 2X0.75 ตรม. จำนวน 2 คู่สายผนวกเข้าด้วยกันจะเท่ากับ 2X1.5 ตรม. มาเชื่อมในจังค์ชั่นใหญ่ ( เชิงเทียน 16 หลอด+หลอดจำปาอีก 38 หลอด= 54 หลอด ) [ *ถ้าใช้สูตรคำนวนมาตราฐานทั่วไปที่กำหนดค่าวัตต์แน่นอนว่า 40 วัตต์ก็จะได้ 40X54=2160+216=2376 /220=11.0 amps. ] ซึ่งสายไฟขนาด 1.5 ตรม. สามารถทนกระแสต่อเนื่องได้ 5 amps. แต่ทนกระแสสูงสุดชั่วคราวได้ 8-10 amps. ซึ่งวิธีเดิมนี้จากประสบการณ์อันยาวนาน หากเปิดไม่นาน ไม่ต่อเนื่องครั้งละเป็นชั่วโมง ๆ ( ขอให้นับเป็นนาทีจะดีกว่า ) ก็อาจทนได้ แต่ถ้าเปิดครั้งละหลายชั่วโมง ก็ไม่แนะนำ ยิ่งถ้าหากมีการคาดการณ์เลวร้าย ( ซึ่งการคาดการณ์เหตุการณ์ร้ายที่สุดมักติดเป็นนิสัยของช่างไฟและวิศวกรที่ดีทั่วไป ) เช่น มีการเปิดไฟต่อเนื่องครั้งละเป็นชั่วโมง ๆ หรือ สมมุติว่า มีคนเปลี่ยนหลอดจำปาเป็นขนาด 60 วัตต์ซึ่งเป็นไปได้เพราะเกิดขึ้นบ่อย ๆ โดยไม่ได้ดูคำเตือนที่เขียนไว้ว่า MAX 40 WATT กระแสไฟที่จะต้องผ่านสายไฟก็จะกลายเป็น 17.00 amps. ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสายไฟทั้งหมดของโคมดวงเอกและเกิดไฟลุกได้


1.1 สายเดิมที่ทางโรงงานร้อยมานั้น นอกจากที่จังค์ชั่นใหญ่แล้ว ยังมีจังค์ชั่นอื่นอีก แต่ไม่เป็นปัญหาเนื่องจากจังค์ชั่นอื่น ๆ นั้นมีจำนวนหลอดเพียงไม่กี่หลอด จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง ที่จะกล่าวถึงนอกจากเรื่องจังค์ชั่นใหญ่ กลับเป็นการ wiring สายที่ทำให้การเปิดสวิทนั้น ต้องแยกไฟออกเป็นชั้น ๆ คือเมื่อเปิดสวิทใหญ่ หลอด 54 หลอดจำติดหมด ตำแหน่งที่ไฟจะสว่างคือชั้นที่มีเชิงเทียน 16 หลอดและส่วนกลางของโคมไฟรวมทั้งส่วนล่างทั้งหมด ในชั้นเชิงเทียน 8 หลอดและสูงขึ้นไปจะไม่ติดเลยแม้แต่หลอดเดียว ซึ่งนั่นหมายความว่า แบ่งโคมดวงเอกออกเป็น 2 ชั้น เมื่อเปิดสวิทเล็ก ชั้นเชิงเทียน 8 หลอดและส่วนที่สูงขึ้นไปจะติด ทำให้โคมดวงเอกสว่างทั่วกันทั้งดวง


หมายเหตุ
*การแยกสวิทเป็นการแยกชั้นแบ่งครึ่งบนและครึ่งล่าง ทั้งนี้เนื่องจากขนาดของแป๊บและข้อต่อเป็นตัวกำหนดขนาดของสายไฟ ทำให้มีความจำเป็นตามนี้ ( หากยังใช้สายไฟชนิดนี้อยู่ )


**ในจังค์ชั่นใหญ่นั้นสามารถ wiring ด้วยวิธีอื่นได้ดังนี้ ( เชิงเทียน 16 หลอด+หลอดจำปาอีก 32 หลอด= 48 หลอด ) ซึ่งจะทำให้กระแสผ่านสายไฟลดลงมาเหลือ 9.5 amps. ซึ่งอาจทำให้สาย 2X1.5 สามารถทนได้มากขึ้น [ แต่ก็ไม่แนะนำอยู่ดี ] แล้วแยกจังค์ชั่นรองลงไปแยกอีกสายหนึ่งซึ่งจังค์ชั่นรองจะไม่มีปัญหาเลย<!-- google_ad_section_end -->

ต่อจาก #1513 #1515

ถ้าเห็นว่าของเดิมนั้นดีไม่เพียงพอ เราอาจมาปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

2. หาสายไฟพิเศษที่มีขนาดเล็กมากเป็นพิเศษแต่ทนกระแสไฟได้มาก ๆ ร้อยเข้าไปในท่อแป๊บและข้อต่อเดิม วิธีนี้ก็ต้องดูว่า สายไฟพิเศษนี้จะสามารถเล็กได้ถึงเพียงใด

<!-- google_ad_section_end -->ต่อจาก #1513 #1515 #1516

3. หากหาสายไฟพิเศษที่มีขนาดเล็กมากแต่รับกระแสไฟได้มาก ๆ ไม่ได้. อาจเลือกวิธีขยายแป๊บจากเดิม 1 นิ้วให้ใหญ่ถึง 1 นิ้ว 2 หุ๋นขึ้นไปโดยต้องทำข้อต่อให้มีรูภายในใหญ่ขึ้นด้วย และที่สำคัญคือ port ต้องให้มีเนื้อที่เปิดกว้างมากกว่ารูของข้อต่อไม่น้อยกว่า 200% ( ยกตัวอย่างของยุโรปจะเปิดเนื้อที่มากกว่า 400% และบางบริษัทเปิดมากกว่า 800% ของขนาดรูข้อต่อก็มี ) วิธีนี้จำเป็นต้องทิ้งแก้วครอบมงกุฏออกไป เพราะสาเหตุบางประการ ส่วนสีทองนั้น อาจใช้วิธีลงรักปิดทองคำเปลวซึ่งก็จะได้สีทองที่คล้ายคลึงกับโคมดวงเอกมากที่สุด<!-- google_ad_section_end -->

ต่อจาก #1513#1515#1516 #1517

4. หากไม่ต้องการขยายแป๊บให้ใหญ่ขึ้น ก็อาจเลือกวิธีเดินสายไฟแนบแป๊บเดิมด้วยวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

4.1 ใช้สายสีใสทอง สีใสเงิน ( ข้อนี้ผมไม่ได้บอกคุณสมศักดิ์ ) วิธีนี้เรามี 2 ทางให้เลือกคือ ทิ้งแก้วครอบมงกุฏ กับไม่ทิ้งแก้วครอบมงกุฏ ถ้าไม่ทิ้งแก้วครอบมงกุฏ เมื่อพาดสายไฟซึ่งต้องมี 5 - 6 คู่สาย พาดผ่านโดยรอบแก้วครองมงกุฏ อาจมีความไม่เป็นระเบียบบ้าง แต่เนื่องจากสีใสทองของสายไฟจะสามารถพรางตาได้มากกว่าวิธีอื่น ๆ เช่น การเอาแผ่นทองเหลืองมาหุ้มสายไฟที่พาดผ่าน

หมายเหตุ

4 คู่สายแรกเป็นการรับกับสวิทใหญ่ซึ่งถ้าสายใสทองที่ตอนนี้มีคนสำรองไว้ให้ผมเพื่อรอการสั่งซื้อนั้น ขนาดของสายคือ 2X1.5 ใช้ 4 ทบก็จะเท่ากับสายขนาด 6 ตรม. ซึ่งสามารถรับกระแสต่อเนื่องได้ถึง 27-30 แอมแปร์

อีก 1 คู่สายใช้กับไฟเปิดทิ้งทั้งคืนหรือไฟชุดเล็ก ซึ่งสาย 2X1.5 ตรม.ทนกระแสต่อเนื่องได้ 5 แอมแปร์ ( ประมาณ 17-18 หลอดจำปาขนาดหลอดละ 60 วัตต์ทีเดียว )
[ ในส่วนนี้ผมยังอยากให้ใช้สาย 2X1.5 ตรม. คู่นี้แค่ไม่เกิน 500 วัตต์ด้วยซ้ำ เพราะผมต้องการให้คุณณรงค์ติดตั้งตัว dimmer switch ขนาด 500 วัตต์ซึ่งจะทำให้ไฟชุดเล็กสามารถหรี่แสงได้ตามต้องการ 500 วัตต์ก็ประมาณ 8 หลอดจำปา อาจแถมตรงลูกแก้วพญานาคได้ 1 หลอด ]

อีก 1 คู่สายใช้ทำเป็นสายกราวน์ด ซึ่งมีความจำเป็นต้องจับที่ตัวเรือนโครงเคร่า ไม่ใช่ไปจับที่เหนือโซ่ ( แต่บริเวณเหนือโซ่ผมก็มีอีกจุดหนึ่งสำหรับสายกราวน์ดไว้ด้วย ไม่มีคำว่าประมาทครับ )

ส่วนควบของ #1518

คุณสมศักดิ์เสนอว่า หากจะเดินสายนอกแป๊บ มี 2 วิธีคือ

4.2 ใช้ท่อทองแดงขนาด 4-6 หุ๋น ทิ้งดิ่งเป็นแนวตั้งอยู่รอบ ๆ แป๊บที่เป็นแกนกลางยึดน้ำหนักโคมดวงเอกทั้งดวงนี้ อาจใช้ 2 ท่อหรือ 4 ท่อแล้วแต่ความจำเป็น ท่อทองแดงสำหรับน้ำยาความเย็นเครื่องปรับอากาศพร้อมตัวยึดเกลียวด้วยการเจาะทะลุแผ่น plate ทุกแผ่นที่เกี่ยวข้อง ลงรักปิดทองท่อทองแดงก็จะมีสีใกล้เคียงโคมดวงเอก วิธีนี้ก็ยังแบ่งออกเป็นจะทิ้งแก้วครอบมงกุฏหรือไม่ทิ้ง ถ้าไม่ทิ้งก็จะเห็นสายพาดผ่าน ถ้าทิ้งสายไฟก็จะพุ่งตรงขึ้นโซ่ได้แนบเนียน

4.3 ใช้รางพลาสติคชนิดหนึ่ง เขาเรียกว่าราง wire way พ่นสีทองหรือปิดทองคำเปลว แนบติดกับท่อแป๊บ แล้วแต่จำนวนสายไฟและขนาด และก็เหมือนข้อ 4.2 คือจะเลือกทิ้งหรือไม่ทิ้งแก้วครอบมงกุฏ

หมายเหตุ

ทั้งข้อ 4.1, 2 และ 3 ย่อมแนบเนียนน้อยกว่าการเดินสายในท่อแป๊บเดิมของโรงงาน และเมื่อเทียบวิธีเดินสายในท่อเดิมของโรงงาน การเดินสายไฟชนิดเล็กพิเศษย่อมทำให้โคมดวงเอกสามารถควบคุมแสงสว่างได้สวยกว่าการเดินสายเดิมของโรงงาน ซึ่งการแยกส่วนสว่างเป็นแบบครึ่งบนกับครึ่งล่าง

การได้สายเล็กพิเศษอาจทำให้เลือกสว่างได้ทั่ว ๆ มากกว่าการแบ่งครึ่งบนล่าง และหากไม่ต้องการใช้ dimmer switch ก็สามารถเลือกเปิดให้สว่างได้ทั่วทั้งชุดมากขึ้นในสวิทเล็ก เมื่อเปิดสวิทใหญ่ก็เท่ากับการเปิดครบทุกหลอดนั่นเอง

ย้อนกลับมาที่ #1515

หากไม่ต้องการแก้ไขอะไรเลย คงของเดิมไว้ให้มากที่สุด และง่ายยิ่งกว่าง่าย อีกทั้งสายไฟชนิดเล็กมากพิเศษก็หาไม่ได้ด้วย วิธีที่ดีที่สุดคือ การ wiring สายไฟเข้ากับหลอดจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ กระแสไฟที่ผ่านสายไฟก็จะน้อยลง เพียงเท่านี้ เราก็สามารถลดอัตราความเสี่ยงได้แล้ว เช่น เชิงเทียน 16 หลอดนี้ไม่ตัดออก ตัดแต่หลอดจำปาในส่วนภายในม่านเม็ดแก้วคริสตัลซึ่งก็คือภายในโครงตัวเรือน frame นั่นเอง ตัดให้เหลือ 16 หลอดภายใน รวมกับเชิงเทียนก็จะเท่ากับ 32 หลอด ( ใช้สูตรมาตราฐาน* ก็จะเท่ากับ 6.4 แอมแปร์ ) ซึ่งทำให้สายไฟขนาด 2X1.5 ตรม. ที่ทนกระแสต่อเนื่อง 5 แอมแปร์นั้น ก็แบกรับน้ำหนักขึ้นมาอีกเล็กน้อย ดีกว่าตอนแรกที่รับถึงสิบแอมแปร์มาก และหากจำเป็นก็สามารถตัดออกได้อีก 4 หลอดได้เช่นกัน ถึงแม้จะทำให้ความสวยงาม ความสว่างไสว และความแวววาวของเม็ดแก้วคริสตัลลดน้อยลงบ้างก็ตาม


หมายเหตุ

*หากเหลือหลอดเชิงเทียน 16 หลอดและหลอดภายในม่านเม็ดคริสตัล 12 หลอดเท่ากับ 28 หลอดเท่ากับ 5.6 แอมแปร์ ซึ่งเป็นอัตราปกติการทนกระแสต่อเนื่องของสายไฟขนาด 2X1.5

จบรายงานการสรุปข้อคิดเห็นร่วมระหว่างผมและคุณสมศักดิ์เท่านี้ครับ

หรือถ้าหากใช้หลอดจำปา halogen 28 วัตต์ จากข้อหมายเหตุ* เราสามารถเพิ่มจำนวนหลอดได้จาก 28 เป็น 38 หลอดได้เลย

<!-- google_ad_section_end -->
ข้อคิดส่วนตัวของผมภายหลังที่คุณสมศักดิ์กลับไปไม่มี

มีแต่ข้อคิดเกี่ยวกับการเพิ่มเติมชั้นกลางของโคมดวงเอกในกรณีที่ยังคงสายเดิม ๆ เอาไว้ และยังเดินสายอยู่ในแป๊บเดิม แต่ในขณะเดียวกันต้องการเพิ่มชั้นกลางที่มี 12 เชิงเทียนนั้นว่า จะทำได้หรือไม่ ?

คำตอบคือ หากขนาดสายไฟและแป๊บเดิม เมื่อเพิ่มชั้นกลางที่มี 12 หลอดเชิงเทียนเข้ามา สวิทเล็กก็จะกลายเป็นไปเปิดดังนี้ ไล่จากบนลงล่าง

หลอด 3 หลอดใต้แก้วครอบมงกุฏ+
ชั้นเชิงเทียน 8 หลอด+หลอดในม่านคริสตัล 4 หลอด+
ชั้นเชิงเทียน 12 หลอด+หลอดในม่าน 4 หลอด+หลอดบัวสี่เหล่า 4 หลอด+
( เว้นชั้นเชิงเทียน 16 ก้านและหลอดในม่าน )+
หลอด 6 หลอดเหนือลูกแก้วพญานาคราช+
หลอดลูกแก้วพญานาคราช 1 หลอด
เท่ากับ 42 หลอด ประมาณ 8.1 แอมแปร์
( ซึ่งสาย 2X0.75 ตรม. เพียงคู่เดียวทนได้แค่ 2.5-3 แอมแปร์เท่านั้น )

หากตัดหลอดออกและต้องบวกกับ
การใช้หลอดจำปารุ่น halogen 28 วัตต์
อาจเป็นดังนี้

หลอด 2 หลอดใต้แก้วครอบมงกุฏ+
ชั้นเชิงเทียน 8 หลอด+หลอดในม่านคริสตัล 0 หลอด+
ชั้นเชิงเทียน 12 หลอด+หลอดในม่าน 0 หลอด+หลอดบัวสี่เหล่า 0 หลอด+
( เว้นชั้นเชิงเทียน 16 ก้านและหลอดในม่าน )+
หลอด 2 หลอดเหนือลูกแก้วพญานาคราช+
หลอดลูกแก้วพญานาคราช 1 หลอด
เท่ากับ 25 หลอด ประมาณ 3.25 แอมแปร์
( ซึ่งสาย 2X0.75 ตรม. เพียงคู่เดียวทนได้แค่ 2.5-3 แอมแปร์ก็ยังพอทนได้ )

 

<TABLE class=tborder id=post2179197 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 12-06-2009, 10:19 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1525 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->glassbuddha2009<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2179197", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 6,800
พลังการให้คะแนน: 1751


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2179197 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start --><!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2178528", true); </SCRIPT>**************************************************

ตอบคุณณรงค์ครับ

วันนี้คุณเกษมโทรหาผมตอนบ่ายมาก ๆ แล้ว บอกผมว่า สายไฟที่คุณเกษมหาได้นั้น จะมีหน้าตักประมาณ 2.0 ตารางมิล./ 1 เส้น ทนกระแสต่อเนื่องได้ 15 แอมแปร์ ซึ่งขนาดของสายไฟยังเล็กไม่พอครับ คือยังใหญ่เกินไปมากทีเดียว คุณเกษมจึงบอกว่า คงต้องถือว่าการหาสายไฟพิเศษครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จครับ

ถ้าเป็นสายขนาด 2 ตรม. นี้ผมได้ทดลองเรียบร้อยแล้ว ไม่ผ่านครับ ผมได้เคยถ่ายรูปและโพสต์ไว้ในกระทู้นี้แล้วด้วย สามารถย้อนกลับไปหาดูรูปได้เลยครับ

ดังนั้น ขณะนี้ผมคงไม่รอต่อไป ผมจะลุยไปข้างหน้า โดยจะขอเรียนรายละเอียดเท่าที่ผมคิดว่าคุณณรงค์ต้องการนะครับ

1. คุณณรงค์ต้องการให้เปิดไฟโคมดวงเอกให้ได้หลอดมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ( หากจำเป็นก็ตัดออกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ถูกต้องไหมครับ ? )

2. เมื่อเปิดสวิทใหญ่ให้หลอดไฟส่วนมากติดสว่างทุกหลอด ( เหลือแค่หลอดของสวิทเล็กที่จะว่าต่อไปในข้อ 3. )

3. เมื่อเปิดสวิทเล็กให้หลอดไฟส่วนน้อยติดสว่างเรืองรองทั่ว ๆ ทุกบริเวณของโคมดวงเอก ไม่ใช่แบ่งเป็นชั้น ๆ เช่น ขอยกตัวอย่างที่ไม่ต้องการนะครับ

3.1 ตัวอย่างที่ไม่ต้องการที่ 1 เมื่อเปิดสวิทเล็กให้สว่างในส่วนล่างสุดแล้วปล่อยให้ข้างบนมืดมิด

หรือ

3.2 ตัวอย่างที่ไม่ต้องการที่ 2 เมื่อเปิดสวิทเล็กให้สว่างเฉพาะด้านบนแล้วปล่อยให้ส่วนล่างมืดมิด

ซึ่งทั้ง 3.1 และ 3.2 คือวิธีที่โรงงานในจีนเขาเลือก wiring สายมาแบบนั้น เนื่องจากขนาดของรู port เป็นตัวกำหนดขนาดของสาย ขนาดของสายจึงมากำหนดจำนวนคู่สาย จำนวนคู่สายจึงมากำหนดวิธีการเปิดสวิทเล็กครับ

คราวนี้ก็มาถึงตัวอย่างที่ผมคาดว่าคุณณรงค์ต้องการ

3.3 ตัวอย่างที่คาดว่าเป็นที่ต้องการของคุณณรงค์นะครับ เมื่อเปิดสวิทเล็ก หลอดไฟส่วนน้อยที่กระจายอยู่ในทุกส่วน ตั้งแต่ด้านบนสุดลงมาถึงล่างสุด จะถูกแบ่งมาเปิดไฟ เพื่อให้สามารถเห็นรูปทรงของโคมดวงเอกได้ครบถ้วน ไม่มืดเป็นส่วน ๆ ไป

******************************************************

ถ้าคุณณรงค์ตอบว่า ถูกต้อง ผมเดาใจถูก คุณณรงค์ต้องการให้เป็นไปแบบที่ผมกล่าวมานี้ สิ่งที่ผมจะทำต่อไป ผมขอเลือกวิธีการเดินสายไฟนอกแป๊บโดยต้องเจาะรูที่ plate ทุกชั้น ตั้งแต่บนลงล่าง ซึ่งไม่ทำให้น่าเกลียดหรือสูญเสียคุณภาพของเหล็กไปครับ ผมเลือกสายไฟสีใสทอง ขนาด 2X1.5 ตรม. ทะลุออกจากจังค์ชั่นบ๊อกด้วยการมุดออกทางรูที่เจาะใหม่ตรง plate นี้แหละครับ จากนั้นก็เดินสายแนบแป๊บด้วยสายรัด พอถึงชั้นบนสุด ก็โผล่สายออกมาจากแก้วครอบมงกุฏพาดสายผ่านขึ้นด้านบนไปเลย

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย และไม่เสียค่าอุปกรณ์อะไรมากมาย นอกจากการต้องซื้อสายไฟใสทองจำนวน 1 ขด 2,000.- บาท สายไฟชนิดนี้สามารถพรางตาได้ดีที่สุด ดีกว่าทุกวิธีครับ

หากคุณณรงค์เห็นด้วย ช่วยกรุณาตอบด้วยครับ ว่า เห็นด้วยในทุกรายละเอียดหรือไม่ครับ ?<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

จาก #1303 20-05-2009, 06:55 AM
เป็นรูปที่ผมโพสต์ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ผมทดลองเอาสาย 1X4.0 ตรม. 2 เส้นและสาย 2X0.75 อีก 1 เส้น ก็เต็มรูของแป๊บแล้ว
.
.

จาก #1290 18-05-2009, 06:30 PM
.
.

#1289 18-05-2009, 06:22 PM
.
.

จาก #1291 18-05-2009, 06:37 PM<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE class=tborder id=post2179746 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 13-06-2009, 06:21 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1528 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Narong<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2179746", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต



วันที่สมัคร: Jan 2006
สถานที่: วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
ข้อความ: 5,207
พลังการให้คะแนน: 3324


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2179746 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ขอบคุณครับคุณสมบูรณ์
อย่างที่ผมพูดไปแล้ว การปรึกษาหารือเรื่อง โมดิฟาย ดวงเอก มีผมกับคุณสมบูรณ์เท่านั้น
จะรอคนอื่นคงไม่มีใครมาพูดด้วย ก็ขอสรุปดังนี้ หาก คุณสมบูรณ์ เห็นด้วยก็ทำได้เลยครับ
...
1. ต้องการให้เปิดไฟโคมดวงเอกให้ได้หลอดมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หากจำเป็นก็ตัดออกให้น้อยหรืเท่าที่จำเป็นและหมาะสมครับ

2. เอาแบบข้อ 3.3 เมื่อเปิดสวิทเล็ก หลอดไฟส่วนน้อยที่กระจายอยู่ในทุกส่วน ตั้งแต่ด้านบนสุดลงมาถึงล่างสุด จะถูกแบ่งมาเปิดไฟ เพื่อให้สามารถเห็นรูปทรงของโคมดวงเอกได้ครบถ้วน ไม่มืดเป็นส่วน ๆ ไป

3. เลือกวิธีการเดินสายไฟนอกแป๊บโดยต้องเจาะรูที่ plate ทุกชั้น ตั้งแต่บนลงล่าง ซึ่งไม่ทำให้น่าเกลียดหรือสูญเสียคุณภาพของเหล็กไปครับ ผมเลือกสายไฟสีใสทอง ขนาด 2X1.5 ตรม. ทะลุออกจากจังค์ชั่นบ๊อกด้วยการมุดออกทางรูที่เจาะใหม่ตรง plate นี้แหละครับ จากนั้นก็เดินสายแนบแป๊บด้วยสายรัด พอถึงชั้นบนสุด ก็โผล่สายออกมาจากแก้วครอบมงกุฏพาดสายผ่านขึ้นด้านบนไปเลย

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย และไม่เสียค่าอุปกรณ์อะไรมากมาย นอกจากการต้องซื้อสายไฟใสทองจำนวน 1 ขด 2,000.- บาท สายไฟชนิดนี้สามารถพรางตาได้ดีที่สุด ดีกว่าทุกวิธีครับ

4. เพิ่มก้านเชิงเทียนชั้นกลางอีกชั้น ขอคุณสมบูรณ์ ทำเรื่องสั่งให้ด้วยครับ เนื่องจากเป็นไฟดวงเอก ประดับวิหารแก้ว กับวัดที่สำคัญ
น่าจะทำให้เลิศที่สุดที่พึงจะทำได้ ผมจะขอร่วม บุญเพิ่มตรงนี้ 10,000 บาท อาจจะขอแรงจากคุณพัชนี ช่วยอีกแรง
ที่เหลือเงินในบัญชีบุญพอมีอยู่ ก็พอน่ะครับ ไหนๆเราก็ทำกันขนาดนี้แล้ว เอาให้ดีที่สุดครับ

5. หากคุณสมบูรณ์ ต้องการค่าใช้จ่าย ซื้อสายไฟเพิ่ม ติตต่อคุณสุชาดา ด่วนนะครับ เพราะเธอจะเดินทางไป สัมนาที่ประเทศลาว หนึ่งสัปดาห์ ในวันอาทิตย์นี้(14/6/52)

ผมและคุณสมบูรณ์ เป็นเพียงแค่ตัวแทนของทุกท่าน ในการออกความคิดและทำ หากท่านใดมีความเห็นอย่างอื่น เชิญเสนอความคิดเห็นมาได้
ไฟดวงเอกเราเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ทุกท่านมีสิทธิ์ออกความคิดเห็นได้ครับ<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>
​

 

<TABLE class=tborder id=post2179850 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 13-06-2009, 07:58 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1529 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->glassbuddha2009<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2179850", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 6,800
พลังการให้คะแนน: 1751

</TD><TD class=alt1 id=td_post_2179850 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->รับทราบครับคุณณรงค์ ผมคิดว่าคุณณรงค์ตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วและขออนุโมทนากับคุณณรงค์ด้วยนะครับ

#1529

1. ต้องการให้เปิดไฟโคมดวงเอกให้ได้หลอดมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หากจำเป็นก็ตัดออกให้น้อยหรืเท่าที่จำเป็นและหมาะสมครับ

2. เอาแบบข้อ 3.3 เมื่อเปิดสวิทเล็ก หลอดไฟส่วนน้อยที่กระจายอยู่ในทุกส่วน ตั้งแต่ด้านบนสุดลงมาถึงล่างสุด จะถูกแบ่งมาเปิดไฟ เพื่อให้สามารถเห็นรูปทรงของโคมดวงเอกได้ครบถ้วน ไม่มืดเป็นส่วน ๆ ไป

3. เลือกวิธีการเดินสายไฟนอกแป๊บโดยต้องเจาะรูที่ plate ทุกชั้น ตั้งแต่บนลงล่าง ซึ่งไม่ทำให้น่าเกลียดหรือสูญเสียคุณภาพของเหล็กไปครับ ผมเลือกสายไฟสีใสทอง ขนาด 2X1.5 ตรม. ทะลุออกจากจังค์ชั่นบ๊อกด้วยการมุดออกทางรูที่เจาะใหม่ตรง plate นี้แหละครับ จากนั้นก็เดินสายแนบแป๊บด้วยสายรัด พอถึงชั้นบนสุด ก็โผล่สายออกมาจากแก้วครอบมงกุฏพาดสายผ่านขึ้นด้านบนไปเลย

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย และไม่เสียค่าอุปกรณ์อะไรมากมาย นอกจากการต้องซื้อสายไฟใสทองจำนวน 1 ขด 2,000.- บาท สายไฟชนิดนี้สามารถพรางตาได้ดีที่สุด ดีกว่าทุกวิธีครับ

4. เพิ่มก้านเชิงเทียนชั้นกลางอีกชั้น ขอคุณสมบูรณ์ ทำเรื่องสั่งให้ด้วยครับ เนื่องจากเป็นไฟดวงเอก ประดับวิหารแก้ว กับวัดที่สำคัญ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post2179923 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 13-06-2009, 08:38 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1530 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->glassbuddha2009<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2179923", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 6,800
พลังการให้คะแนน: 1751


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2179923 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ทันทีที่รับทราบแนวทางการปฏิบัติ เมื่อครู่นี้ผมได้สั่งทำชั้นกลางไปกับเจ้าของวุ้ยล้งไปเรียบร้อยแล้ว คาดการณ์ว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนก็น่าจะถึงประเทศไทย เมื่อถึงประเทศไทยแล้วจะได้รวมกับเม็ดแก้วคริสตัลที่เขามีอยู่แล้ว รวมกันจึงคิดราคาพร้อมกันไปเลย ในขั้นต้นนี้คาดว่า ราคารวม ๆ แล้วไม่น่าจะเกิน 20,000.- บาทครับ


ไม่เกินกลางเดือนหน้า เราจะได้เห็นชั้นกลางซึ่งโรงงานทางจีนจะคำนวนมาให้เสร็จ ๆ และผมไม่ต้องทำอะไร นอกจากหมุนแป๊บเข้าไปครับ

สัดส่วนและน้ำหนักอาจจะเป็นดังนี้
เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร
ความสูงไม่รวมโซ่ 2.50 เมตร
น้ำหนักประมาณ 200 - 250 ก.ก.
ใช้หลอดไฟประมาณ 115-130 หลอดจำปา e14
ถ้าใช้หลอด 40 วัตต์กระแสไฟเมื่อเปิดเต็มที่ 40-44 แอมแปร์
เป็นโคมไฟคริสตัลแชนดิเลียที่ถือได้ว่าที่สุดดวงหนึ่งของประเทศไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post2182587 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 14-06-2009, 12:15 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1541 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->glassbuddha2009<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2182587", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 6,806
พลังการให้คะแนน: 1751


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2182587 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ได้โทรคุยกับคุณพี่ปรีชาแล้ว อีกไม่นานจะมีข่าวดีเกี่ยวกับ metal bracket แล้วครับ อย่างอื่น ๆ ก็รอเจ้าตัวมากล่าวเองครับ<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

วันนี้ได้ความรู้จากคุณพี่ปรีชาเกี่ยวกับงานโลหะมาก ทั้งวันผมจึงไปหาแต่วิชาเรื่องโลหะ แต่ก็ไม่มีทางจะรอบรู้ได้มาก ได้ค้นพบโรงงานในเมืองไทยที่ทำงานต๊าฟเกลียว 3 ประเภทแบบที่คุณพี่ปรีชาพูดถึงด้วย และพอสรุปได้ว่า แป๊บแกนกลางของโคมดวงเอกของเรานี้เป็นเกลียวระบบแมทตริค ไม่ใช่ยูนิฟาย และไม่ใช่เทเปอร์ ซึ่งพอรับน้ำหนักโคมดวงเอกที่ต่อเติมใหม่ครบชุดแล้วน้ำหนักจะเพิ่มเป็นประมาณ 250 ก.ก. ได้อย่างสบาย ๆ เพียงแต่จุดที่ผมได้ปรึกษาคุณพี่ปรีชาไปว่า เมื่อหมุนแป๊บเข้ากับข้อต่อสุดแล้ว มันยังดุ๊กดิ๊ก ๆ ๆ ไปซ้าย ไปขวา โยกหน้า โยกหลังได้นิดนึง ( ไม่มาก ) ผมบอกว่าเจาะน๊อตร้อยสลักกันลื่นคลายในทุกกรณี คุณพี่ปรีชาบอกว่าให้เจาะรูขนาดไม่เกิน 2 หุ๋น ร้อยด้วยน๊อตตัวผู้ตัวเมียในทุกข้อ ๆ เลย ซึ่งผมเห็นว่า ผมควรขออนุญาตคุณณรงค์ก่อนด้วย เพราะการเจาะอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับตัวรับน้ำหนักโดยตรง ถึงแม้วิศวกรผู้เชี่ยวชาญจะอนุญาตแล้ว ก็ควรขออนุญาตคุณณรงค์อีกต่อหนึ่งด้วย

จึงเรียนมาคุณณรงค์พิจารณาอนุมัติหรือไม่ ?

อีกเรื่องหนึ่งคือโซ่ โซ่ใหญ่รับน้ำหนักได้เกิน 250 ก.ก. แน่นอน แต่ตัวล๊อกโซ่ วันนี้ให้วิศวกรคนนึงดู เขาทำท่างงนิด ๆ เพราะตัวล๊อกระหว่างโซ่ 2 โซ่ ทางจีนเขาดันไปบีบคอคอดเอาไว้ ซึ่งตรงนี้ ผมไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เป็นเหล็กชนิดใด เพราะเขาชุบทองเคมา มองไม่เห็นเนื้อใน ( เห็นคุณพี่ปรีชาบอกว่า จะหาตัวล็อกสแตนเลสมาให้แทน ถ้าได้ตัวใหม่ ตัวเก่าผมก็จะไม่ใช้ครับ เพราะมันเสี่ยงไม่ได้ถ้ามีลมกระโชกแรง แรงดึงก็จะเพิ่มอีกหลายเท่า )<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE class=tborder id=post2184208 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 15-06-2009, 06:12 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1543 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Narong<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2184208", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต



วันที่สมัคร: Jan 2006
สถานที่: วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
ข้อความ: 5,207
พลังการให้คะแนน: 3324


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2184208 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ glassbuddha2009
วันนี้ได้ความรู้จากคุณพี่ปรีชาเกี่ยวกับงานโลหะมาก ทั้งวันผมจึงไปหาแต่วิชาเรื่องโลหะ แต่ก็ไม่มีทางจะรอบรู้ได้มาก ได้ค้นพบโรงงานในเมืองไทยที่ทำงานต๊าฟเกลียว 3 ประเภทแบบที่คุณพี่ปรีชาพูดถึงด้วย และพอสรุปได้ว่า แป๊บแกนกลางของโคมดวงเอกของเรานี้เป็นเกลียวระบบแมทตริค ไม่ใช่ยูนิฟาย และไม่ใช่เทเปอร์ ซึ่งพอรับน้ำหนักโคมดวงเอกที่ต่อเติมใหม่ครบชุดแล้วน้ำหนักจะเพิ่มเป็นประมาณ 250 ก.ก. ได้อย่างสบาย ๆ เพียงแต่จุดที่ผมได้ปรึกษาคุณพี่ปรีชาไปว่า เมื่อหมุนแป๊บเข้ากับข้อต่อสุดแล้ว มันยังดุ๊กดิ๊ก ๆ ๆ ไปซ้าย ไปขวา โยกหน้า โยกหลังได้นิดนึง ( ไม่มาก ) ผมบอกว่าเจาะน๊อตร้อยสลักกันลื่นคลายในทุกกรณี คุณพี่ปรีชาบอกว่าให้เจาะรูขนาดไม่เกิน 2 หุ๋น ร้อยด้วยน๊อตตัวผู้ตัวเมียในทุกข้อ ๆ เลย

จึงเรียนมาคุณณรงค์พิจารณาอนุมัติหรือไม่ ?
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เป็นอาการหลวมของเกลียว จะยึดเกาะกันที่ปลายเกลียวเท่านั้น
ผมเห็นด้วยครับที่จะเจาะรู ใส่แกนหรือน็อต เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจ
ในการรับน้ำหนัก ขนาด 250 กก. สมควรทำครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post2184401 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 15-06-2009, 08:42 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1544 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->glassbuddha2009<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2184401", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 6,806
พลังการให้คะแนน: 1751


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2184401 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->รับทราบครับคุณณรงค์ ในเรื่องที่แป๊บของโคมดวงเอกมีอาการแต่ผมไม่ตกใจนั้น เพราะรู้ว่าไม่ตกแน่ ๆ ครับ เนื่องจากแป๊บตัวผู้และรูตัวเมีย มีเกลียวที่หมุนเข้าได้ลึกมาก มากกว่าแป๊บประปาทั่วไป แต่โคมดวงเอกเป็นเกลียวที่มีพิทซ์ละเอียดถี่มาก อีกทั้งทุกอันหมุนได้เข้าลึกประมาณ 1.5 เซ็นติเมตร บางท่อนหมุนได้เกิน 2 ซ.ม. จนมิดเกลียวเลยครับ แต่ที่ผมเรียนถามคุณพี่ปรีชาไปว่า ทำไมสุดเกลียวแล้ว ยังดุ๊กดิ๊ก คุณพี่ปรีชาเลยให้คำตอบว่า มันมีเกลียวอยู่ 3 ชนิด ชนิดโคมดวงเอกน่าจะเป็นแบบแมทตริค คือเสมอต้นเสมอปลาย ( อันนี้ผมขอคิดแทนนะครับ อาจเพราะโรงงานต๊าฟให้หลวมเล็กน้อย เพื่อป้องกันการหมุนไม่สุดเกลียว จึงเกิดอาการดุ๊กดิ๊กครับ ) อย่างไรก็ดี เมื่อเราไม่ใช้ท่อเป็นทางเดินสายไฟแล้ว ก็ควรยึดสลักให้แน่นหนาเลยจะดีกว่าครับ<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post2191585 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 17-06-2009, 01:25 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1564 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->glassbuddha2009<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2191585", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 6,808
พลังการให้คะแนน: 1751

</TD><TD class=alt1 id=td_post_2191585 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->up load pictures.<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>










</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

บันทึก

ได้บันทึกภาพแป๊บ ข้อแขวน และข้อต่อไว้เพื่อบันทึกรายละเอียด ในช่วงต้นนี้ พบข้อต่อที่อยู่ตรงบริเวณแก้วครอบมงกุฏพอดีที่มีเกลียวให้ขันเข้าได้น้อยคือประมาณครึ่งนิ้ว

 

เมื่อหมุนแป๊บเข้าไปสุดแล้ว ยังดุ๊กดิ๊กได้ประมาณเท่านี้ ( สังเกตุจากแป๊บที่เอียงซ้าย ขวาในแต่ละภาพ )

 

ตัวนี้คือข้อแขวน ( ข้อที่ใช้แขวนโคมดวงเอก ) ข้อนี้ต้องรับน้ำหนักทั้งหมดมารวมกันที่บริเวณเหนือแก้วครอบมงกุฏ<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE class=tborder id=post2192155 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 17-06-2009, 04:21 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1570 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Narong<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2192155", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต



วันที่สมัคร: Jan 2006
สถานที่: วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
ข้อความ: 5,207
พลังการให้คะแนน: 3324


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2192155 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ขอเรียนถามคุณสมบูรณ์ครับ
เนื่องจากคุณสมบูรณ์ เป็นผู้รู้จักโคมไฟลักษณะนี้มานาน ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
มีบ้างไหม เมื่อติดแขวนไปแล้ว เกิดการหลุดล่วงลงสู่พื้น ด้วยเหตุต่างๆน่ะครับ
ถามเพื่อประดับความรู้ และ เป็นประสบการณ์น่ะครับ

ก็จะเป็นข้อมูล ในการทำความสมบูรณ์ ปลอดภัยกับดวงเอกของพวกเราที่นี่ด้วยครับ<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post2192739 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 17-06-2009, 07:54 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1571 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->glassbuddha2009<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2192739", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 6,808
พลังการให้คะแนน: 1751


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2192739 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->
มาถึงคำตอบที่คุณณรงค์ถามว่า เคยมีโคมระย้าตกบ้างหรือไม่ ? ( ทุกกรณี ) คำตอบคือว่า มีครับ ดวงใหญ่ที่สุดที่ตกนั้นอยู่แถวบางซื่อ บ้านของเสธ. ( บอกไม่ได้ครับ ) ดวงนั้นเส้นผ่าศูนย์กลางหลายเมตรมาก ส่วนสูงไม่รวมโซ่ก็หลายเมตรมาก หลอดจำปาเชิงเทียนประมาณ 300 กว่าหลอด กิ่งก้านเชิงเทียนและโลหะทุกชิ้นหล่อจากทองบรอนซ์หนา ( ซึ่งน้ำหนักหนักมาก ๆ ) เม็ดแก้วคริสตัลก็เป็นแบบลูกกลมบอลลูกใหญ่ ๆ น้ำหนักรวมหลายตันครับ เสธ. สั่งมาจากเสปญเอง บริษัทที่รับประกอบและติดตั้งคิดเงินไปหลายตังค์มาก แต่เมื่อประกอบเสร็จแล้ว ติดตั้งแล้ว ไฟไม่ติด เสธ. ไม่กล้ามาเรียกผม ท่านขอให้พลเอกท่านหนึ่งมาเชิญผมไปช่วย ผมก็ไปเพราะสนิทกับเสธ. เป็นการส่วนตัวมาก่อนด้วย และรักชอบกับท่านพลเอกท่านนั้นด้วย เมื่อไปช่วยก็พบว่า สาเหตุที่ไม่ติดคือ สายไฟถูกบาดจากการประกอบที่ไม่ละเอียดเพียงพอ ( แต่ผมมือดี แค่ไปนอนอยู่กลางอากาศสูงหลายเมตรครั้งนั้น ทันทีที่มือจับก้านแรกก็พบสาเหตุ และเป็นสาเหตุเดี่ยวสาเหตุเดียว จึงง่าย ความเรื่องมือดีนี้ ลองถามคุณกระเทียมก็ได้ครับ ผมจับชิ้นส่วนชิ้นแรกก็พบปัญหาทันทีในครั้งก่อนที่เรารับสินค้าโคมดวงเอกกัน )

สาเหตุการถล่มลงมาของโคมดวงใหญ่ 300 กว่าหลอดจำปาครั้งนั้น มาจากการที่บริษัทรับติดตั้งไม่ได้เตือนเสธ.อย่างออกแรง คือเตือน แต่เตือนอย่างไม่ได้แข็งขันมากถึงที่สุด เสธ. ให้ใช้เหล็กแผ่นกลมวางอยู่บนแผ่นคอนกรีต แทงลงมาด้วยน๊อตขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากน้ำหนักมากประมาณ 4.25 ตัน ทำให้เหล็กที่แทงทะลุคอนกรีต ( เหล็กไม่ได้ชุบแข็ง ) เกิดรูดครับ ลงมาทั้งหมด โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ด้านล่าง ไม่เช่นนั้นคือว่า " ความตายเป็นอันหวังได้ " ครับ<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สถานที่ที่ (ไม่ได้)[พบคำซึ่งคิดว่าน่าจะผิดในอดีต คือน่าจะมีคำว่า "ไม่ได้"] ติดตั้งเครื่องป้องกันไฟช๊อต รั่ว ดูด จะไม่ทำงาน เมื่อสายไฟถูกบาดลึกถึงทองแดงและไปลงกราวน์ ground ( ไม่ใช่นิวตรอนนะครับ ) คือลงสายไฟเส้นกลางที่เขาทำสีเหลืองคาดเขียวน่ะครับ เครื่องมันจะตัดก่อน

ส่วนเรื่องเหล็กรูดนั้น ส่วนมากเกิดจากการไม่เตือนกันอย่างจริงจังของผู้เกี่ยวข้อง และมักเกิดจากการลุแก่อำนาจของเจ้าของสถานที่ เช่น คำว่า แข็งแรงดีแล้ว ไม่เป็นไร เป็นอะไรผมรับผิดชอบ เนื่องจากท่านเจ้าของสถานที่มักเป็นคนใจกว้างครับ แต่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางนี้โดยเฉพาะ

ผมเองก็รับครับ ว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะ แต่ก็พอดูออกว่า อะไรมันจะเสียหายเมื่อนานเดือน นานปี หรือนานหลายปีเข้า ทั้งนี้เพราะผมไม่เคยทิ้งงาน ผมติดตั้งที่ไหนแล้ว มักจำได้ ผ่านไปตั้ง 30 ปีแล้ว เจ้าของโคมยังเรียกผมไปช่วยเปลี่ยนขั้วไฟบ้าง ไปทำอะไรต่อมิอะไรบ้าง ผมก็ไม่เคยบิดเบือนครับ ไปให้ จัดให้เสมอครับ

**********************************************

หลังจากที่ผมไม่ได้อยู่ดูแลโรงงานหลอมแก้วและโรงงานผลิตโคมไฟของคุณพ่อผม เพราะผมออกมาตั้งตัวเองแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 ถึงปัจจุบัน 30 กว่าปี ผมได้ถ่ายทอดวิชาความรู้เหล่านี้ให้กับลูกน้องทุกคนโดยไม่ปิดบัง ลูกน้องบางคนที่ผ่านงานต่างประเทศมาเช่น ซาอุ อิรัค ที่เขาเคยผ่านมาตราฐานดี ๆ ผมก็ถือเขาเป็นครูบ้าง ตลอด 30 ปีที่ผ่านมานี้ ผมยอมรับว่า คนที่เคยเป็นลูกน้องผมและทำดีเท่ากับที่ผมทำนั้น มีอยู่เพียงคนเดียว นอกนั้น ไม่มีคนไหนพิถีพิถันเต็มกำลัง เมื่อพวกเขาออกไปตั้งตัวเอง ไปเป็นเจ้าของห้างร้านเอง ผมกลับไปเยี่ยมเขา เห็นเขาติดตั้งโคมช่อโคมระย้า แม้เพียงขนาดไม่ใหญ่นัก เช่น ดวง 6 - 8 ก้าน เขาก็ทำกันชุ่ย ๆ ขอยกตัวอย่าง ฝ้าเป็นฝ้าเรียบยิบซั่ม เมื่อจะติดตั้งโคมระย้านั้น อดีตลูกน้องผมเขาจะเปิดรูประมาณเท่ากับกำปั้น แล้วเอาไม้หน้าสามแยงขึ้นไปแล้ววางขัดไว้กับฝ้า เอาลวดมัดไม้หน้าสามลงมาผูกกับข้อแขวน พอนานเดือน นานปีเข้า บังเอิญปลวกกินไม้หน้าสามบ้าง มีน้ำมาทำให้ฝ้ายิบซั่มยุ่ยบ้าง ไม้หน้าสามที่ยาวเพียงแค่ฟุตเศษ ๆ ไม่สามารถจะขวางรับน้ำหนักได้ ก็ถึงแก่กาลหลุดร่วงเป็นธรรมดา เรื่องฝีมือฝึกได้ แต่ความไม่เอาใจเขามาใส่ใจเราฝึกยากครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

งานการติดตั้งโคมดวงเอกครั้งนี้ ผมจะเสนอภาพที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักอย่างต่อเนื่องครับ เช่น ที่ผมขึ้นไปแล้วนั้น เป็นการเซฟตัวผมเองด้วย เพราะเป็นการทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาที่เป็นสาธารณะกุศล

ท่านใดที่ดูอยู่ เห็นภาพ เห็นรายงานที่ผมกำลังรายงานอยู่ หากพบสิ่งที่ไม่ควรให้ผ่าน ขอความกรุณาทักท้วงอย่างแรงได้เลยนะครับ ท้วงชนิดว่า ใช้คำแรง ๆ ได้เลย ไม่เช่นนั้นก็จะเหมือนกรณีอื่น ๆ ที่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วค่อยมานั่งเสียใจกันครับ

ผมเชื่อว่าในนี้ คุณณรงค์ก็มีความรู้ด้านนี้ดีทีเดียว โดยเฉพาะคุณพี่ปรีชานี่ วิชาด้านโลหะถือว่าเอกอุกเลย ดังนั้น หากพบอะไรไม่ชอบมาพากล ช่วยท้วงแรง ๆ ครับ เหมือนกับตอนนั้นที่ผมเคยท้วงคุณณรงค์มาแล้ว เช่น คำว่า เดี๋ยวก็แขวนซากหรอก อะไรทำนองนี้น่ะครับ
<!-- google_ad_section_end -->

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ glassbuddha2009
#1567
เมื่อหมุนแป๊บเข้าไปสุดแล้ว ยังดุ๊กดิ๊กได้ประมาณเท่านี้ ( สังเกตุจากแป๊บที่เอียงซ้าย ขวาในแต่ละภาพ )






</TD></TR></TBODY></TABLE>
***********************************************

การมองจากภาพโดยไม่ได้อธิบายประกอบ อาจจะไม่เห็นถึงอาการว่า หลวมหรือโยกคลอนได้แค่ไหนเพียงใด ผมจึงขออธิบายเพิ่มเติมในภาพว่า มีอาการหลวมคลอน มีอาการแกว่ง และโยกคลอนได้ทั้ง ๆ ที่หมุนจนสุดเกลียวแล้วนะครับ

จากประสบการณ์ที่เคยแขวนโคมระย้ามานับแทบไม่ถ้วนแล้ว บางบริษัทเขาก็จะไม่ทำแป๊บให้แน่นเปรี๊ยะ เพราะว่า เมื่อโคมไฟเหล่านี้ถูกประกอบและนำขึ้นแขวนนั้น บางครั้งจะมีสิ่งหนึ่งที่เราเรียกกันว่า " ไม่ได้ดิ่ง " บริษัทที่เป็นโรงงานผลิตบางแห่งจึงใช้วิธีต่าง ๆ มาทำให้ได้ดิ่ง ผมคิดว่า โคมดวงเอกนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น คือ ต๊าฟเกลียวให้หลวมนิดนึง เพื่อให้แขวนแล้วได้ดิ่งนั่นเอง แต่ก็ไม่มั่นใจในความเชื่อของตนเอง 100% จึงเสนอภาพออกมาให้พวกเราได้ช่วยกันตัดสินใจและช่วยกันพิจารณา หากเป็นไปได้ผมอยากจะขอเรียนเชิญท่านที่พอมีความรู้ทางด้านโลหะ ทางด้านงานต๊าฟเกลียว และทางด้านพวกนี้มาช่วยกันดูหน่อยก็ดีครับ ถึงแม้ขณะนี้ผมเองคิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาก็ตาม

จากการพูดคุยทางโทรศัพท์กับคุณพี่ปรีชา ดูเหมือนคุณพี่ปรีชาบอกว่า จากขนาดที่ผมวัดจากเครื่องอ่านเวอร์เนี่ยร์ให้ฟังแล้วนั้น โคมดวงเอกรับน้ำหนักได้อย่างสบาย ๆ แต่สิ่งที่ผมไม่เก่งเลย คือการอ่านชนิดของโลหะไม่ออก ชนิดของท่อแป๊บ และขนาดรูภายในของการต๊าฟตัวผู้กับตัวเมีย ว่า นานปีไป โคมดวงเอกของเราจะเกลียวรูดหรือไม่ ? เพราะนอกจากน้ำหนัก 250 ก.ก. แล้ว แรงลมที่จะเพิ่มให้ต้องเท่ากับหนักขึ้น 3-4 เท่า ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE class=tborder id=post2193735 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 18-06-2009, 08:25 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1575 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Narong<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2193735", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต



วันที่สมัคร: Jan 2006
สถานที่: วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
ข้อความ: 5,207
พลังการให้คะแนน: 3324


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2193735 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ขอบคุณครับคุณสมบูรณ์
ก็ขอบอกตามตรงครับ ผมขอชื่นชมกับการเปิดใจกว้างของคุณสมบูรณ์ ที่ไม่หวงวิชาความรู้
เปิดเผยทั้งความรู้ ความรู้สึก ทั้งในด้านบวก ด้านลบ บอกเล่าตามความเป็นจริง
ทำให้คนอ่านคนติดตาม ไม่มีเรื่องสงสัยตามมา

เท่าที่ผม ทั้งเรียน ทั้งฝึก ทั้งทำงาน กับบริษัทของเยอรมันบริษัทหนึ่ง ก่อนที่ผมจะบินหากินแดนไกล
ก็พอจำความรู้ ที่ได้มาบ้างเล็กน้อย เกลียวสกรูนี่ เขามักใช้สัมพันธ์กับความโต ของตัวมันเองครับ
เช่น ความโตของสกรู(เกลียวตัวผู้) 10 ม.ม. การใช้เกลียวก็ควรยาวไม่ต่ำกว่าความโตของตัวสกรูครับ ทำนองนี้
และจะละเอียดไปอีก แบบกลวงมีรูตรงกลาง แบบตัน ก็ว่ากันไปอีก
ทีนี้โคมไฟดวงเอก มีน้ำหนักตั้ง 250 กก.ประมาณ แขวนนานหลายสิบปี
ก็เป็นไปได้ ว่าเขาได้คำนวนมาดีแล้วก็ได้ และอาจเป็นไปได้ว่าอาจจะพลาดได้

แต่เราจะต้องไม่ให้เกิดมีความผิดพลาดในงานบุญของเราครับ
เราจะกันไว้ก่อนแก้ เพราะทางวัดออกแบบติดแขวน โคมไฟตรงกับองค์ปฐมพอดี
จะพลาดไม่ได้ครับ ใครจะว่ากลัวมากไปหรือเปล่าก็ตาม ผมไม่ประมาท

ท่อแป๊บที่เป็นแกนหลัก รับน้ำหนักทั้งหมด รูกลางเราไม่ได้ใช้แล้ว
เราร้อยลวดสลิง สักเส้นช่วยรับน้ำหนักดีไหม โยงไปหาโซ่ด้านบนน่ะครับ
ก็จะสบายใจขึ้นมากทีเดียว เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวครับ<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post2194083 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 18-06-2009, 10:33 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1576 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->glassbuddha2009<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2194083", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM



วันที่สมัคร: Nov 2008
ข้อความ: 6,808
พลังการให้คะแนน: 1751


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2194083 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->บังเอิญตรงกันครับคุณณรงค์ เป็นความสัจจริงที่ผมเองก็คิดอยู่ครับ เรื่องสลิง คิดตั้งแต่เมื่อวานและมาเมื่อเช้านี้อีกที คิดแบบนี้ครับ ลองจินตนาการตามผมนะครับ หากเราจะใช้ลวดสลิงที่มีขนาดใหญ่เหลือเฟือ ปลายด้านบนยึดกับตะขอที่ติดตั้งอย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งก็น่าจะเป็นตะขอตัวเดียวกับที่จะแขวนโคมดวงเอก จากนั้นสลิงก็จะมุดผ่านฝาครอบเพดาน ( ฝาครอบที่ช่างไฟบังตะขอ บังสายไฟที่ต้องมาบรรจบกัน เป็นฝาครอบของโคมที่เขามาจากเมืองนอก ) ฝาครอบนี้มีรูให้สายไฟผ่าน แต่ก็น่าจะเพียงพอแก่สลิงอีกเส้นนึง เมื่อมุดออกฝาครอบมาได้แล้ว ดิ่งตรงตีคู่กันมากับโซ่ตลอด ไม่พันโซ่ ตรงมาถึงตรงบริเวณเหนือแก้วครอบมงกุฏ จะมีตัวข้อแขวนที่ผมโชว์ไปแล้ว ลวดสลิงนี้มุดเข้ารูข้อแขวนไป มุดดิ่งลงมาด้านล่าง เพราะไม่มีสายไฟแล้ว เราดิ่งตรงมาถึงชั้นที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ที่สุด 1.50 เมตร คือ ชั้นล่างเกือบสุด ตรงนี้ล่ะครับ ที่ผมยังนึกไม่ออกว่า เราจะยึดอย่างไร ? เช่น มาถึงข้อต่อภายในชั้นนี้ สลิงมุดออกทาง port แล้วยึดด้วยอะไร เพราะผมเคยได้ยินมาว่า หากยึดด้วยน๊อตตรงบริเวณแบบนี้ น้ำหนักแรงเฉือนจะรุนแรงจนทนไม่ได้ แต่ผมก็เคยได้ยินมาอีกว่า หากเรามีตัวย้ำหัวสลิง ย้ำให้ปลายเป็นหัวน๊อตหรืออะไรที่สามารถยึดได้ แล้วหาวิธียึดเข้ากับข้อต่อใกล้ ๆ port ก็อาจทนแรงเฉือนได้เช่นกัน ( ทั้งนี้เพราะเปลี่ยนแรงเฉือนมาเป็นแรงดึง )

ดังนั้นความคิดเห็นของคุณณรงค์กับผมขณะนี้ตรงกัน ว่าควรใช้สลิง แต่วิธีการใช้สลิงที่ถูกต้องปลอดภัยนั้น ยังต้องค้นหาวิธีที่ถูกต้องที่สุดก่อนนะครับ<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>