น่าเป็นห่วง หลักสูตรพุทธศาสนา จากบางอาจารย์ สอนตายแล้วสูญ ( หลักสูตร ม.1- ม.6)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 24 มกราคม 2006.

?
  1. ไม่เห็นด้วย (คิดว่าสอนผิด)

    0 vote(s)
    0.0%
  2. เห็นด้วย (คิดว่าสอนถูก)

    0 vote(s)
    0.0%
  1. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจ โดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เครื่องมือที่จะนำไปใช้พิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าก็มีอยู่แล้ว พระองค์ทรงสอนเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรเตวิชโช หลักสูตรฉฬภิญโญ หรือหลักสูตรปฏิสัมภิทัปปัตโต<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    ***พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อริยสัจ ๔***<o:p></o:p>
    ***ความทุกข์คือ ตัวอุปาทานในขันธ์ทั้ง ๕ ว่าเป็นตัวเรา-ของเรา***<o:p></o:p>
    ***สาเหตุของความทุกข์ก็คือ อวิชชา หรือความโง่ที่เข้าใจผิดว่ามีตัวเรา ที่ปรุงแต่งผลักดันให้เกิดอุปาทานขึ้นมา***<o:p></o:p>
    ****ความดับทุกข์ก็คือ ดับอวิชชาเสียได้ ความทุกข์ก็ดับ นิพพานก็ปรากฏ(ความไม่มีทุกข์)*/**<o:p></o:p>
    ***วิธีการดับทุกข์ก็คือ ต้องเอาปัญญา(ความเข้าใจว่าแท้จริงมันไม่มีเรา) มาเพ่งพิจารณาอย่างแรงกล้า(คือให้เกิดสมาธิ) เข้าไปในจิตใจของเราเองโดยมีศีลเป็นพื้นฐานอยู่ก่อนแล้ว***<o:p></o:p>
    ***ถ้าปฏิบัติได้ชั่วคราว ทุกข์ก็จะดับเพียงชั่วคราว แต่ถ้าปฏิบัติได้ถาวร ทุกข์ก็จะดับลงอย่างถาวร(คือตลอดชีวิต)***<o:p></o:p>
    ***นี่คือวิธีดับทุกข์ตามหลักอริยสัจ ๔ ที่เป็นวิทยาศาสตร์ สามารถปฏิบัติได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้ฤทธิ์ ใช้เดช หรือใช้สมาธิสูงๆอะไรเลย และอยู่ในวิสัยที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้***<o:p></o:p>
    ***ส่วนเรื่องนอกนั้น อย่าไปสนใจ เป็นเรื่องที่ไม่ควรสนใจ ***<o:p></o:p>
    ****ถ้าดับทุกข์ในปัจจุบันได้แล้ว ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว***<o:p></o:p>
    ***ถ้าชาติหน้ามี เราก็ไม่กลัวเพราะเรามีวิธีการดับทุกข์ที่ใช้ได้ผลอย่างแน่นอนที่เราพิสูจน์ได้อยู่แล้ว***<o:p></o:p>
    ***ถ้าจะค้านก็ขอให้ค้านในเรื่องคำสอนที่ผิด ไม่ใช่ค้านเรื่องไม่เชื่อพระไตรปิฎก ***<o:p></o:p>
    ***ซึ่งอาตมาก็ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วว่า.... อย่าเชื่อจากตำรา***<o:p></o:p>
    ***ถ้าอาตมาไปเชื่อตำรา ก็เท่ากับอาตมาไม่เชื่อพระพุทธเจ้า***<o:p></o:p>
    ***ดังนั้นถ้าเราเชื่อพระพุทธเจ้า เราจะต้องไม่เชื่อพระองค์ ไม่เชื่อตำรา ไม่เชื่อแม้แต่ตัวของเราเอง***<o:p></o:p>
    ***อันนี้ลึกซึ้งเกินไปหรือเปล่า?***<o:p></o:p>
     
  2. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    ท่านเตชปญฺโญ ภิกขุ ท่านตอบแบบกำปั้นทุบดิน ลีลาสำนวนโวหารดี ยอดเยี่ยม และเบี่ยงเบียนประเด็นเก่ง

    หากท่านย้อนไปดูที่ผมได้ตั้งคำถามกับท่านเกี่ยวกับประเด็นที่ท่านสอนไม่ให้เชื่อว่า นรกมี สวรรค์มี เทวดามี พรหมมี นิพพานมี และผมได้ขอให้ท่านพิสูจน์ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องดังกล่าวมีจริงหรือไม่ ท่านสอนไว้จริงหรือไม่ โดยใช้หลักสูตรของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องมือพิสูจน์

    ท่านได้พิสูจน์หรือยัง

    จริงสินะ..ท่านบอกว่า

    ***การพิสูจน์เป็นเรื่องส่วนตัว ใครจะมาล่วงรู้ได้ (อย่าเชื่อจากเขาว่ามา)***

    ****ถ้ามีคนกล้าโกหก คนที่เชื่อก็จะโง่ไปจนตาย ระวังให้ดี***



    อ่านแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ คำตอบของท่านมีหรือที่ใครจะไม่เชื่อ

    ใครอ่านพบเข้าก็ต้องเชื่ออย่างจริงใจ เพราะอะไรหรือครับ เพราะท่านเป็นนักบวชยังไงละครับ ศีลที่ท่านรักษาอยู่จะเป็นเครื่องรับรองว่า คำกล่าวหรือคำพูดของท่านนั้นเป็นจริงมีความน่าเชื่อถือ ท่านกล่าวอย่างไร ผู้คนเขาก็เชื่อตามที่ท่านกล่าว เขาไม่คิดหรอกว่านักบวชจะมากล่าวโป้ปดมดเท็จทำไม คนส่วนใหญ่จะให้ความเคารพนับถือว่า นักบวชต้องพูดความจริงเสมอ

    ดังนั้น ท่านไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนเชื่อในสิ่งที่ท่านได้พิสูจน์มา

    ท่านก็ลองเล่าสู่กันฟังบ้างเป็นไรว่า ท่านได้พิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่อง นรก สวรรค์ ฯลฯ หรือยัง พิสูจน์แล้วได้ความว่าอย่างไร ได้ผลอย่างไร เหมือนหรือต่างกับที่ท่านเข้าใจหรือตีความเอาเองหรือไม่

    ประเด็นเหล่านี้ต่างหากที่ผมตั้งคำถามกับท่าน และกล่าวตู่ว่า ท่านสอนผิดจากคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนประเด็นอื่นๆ ผมยังไม่ได้ตั้งคำถาม ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนมาตอบก่อนหรือยกมาถามผมในขณะนี้เลยครับ บอกแล้วว่า ผมจะค่อยๆ ตรวจสอบท่านไปเรื่อยๆ

    ท่านเข้ามาตอบกระทู้นี้ตั้งแต่ปี 2006 มาถึงวันนี้ก็ล่วงเข้าปี 2008 ก็นับว่านานพอสมควร ผมเพิ่งจะเข้ามาอ่านสิ่งที่ท่านตอบไว้ได้ไม่นาน ก็ต้องขอเวลาให้ผมค่อยๆ ได้ศึกษาสิ่งที่ท่านตอบเสียหน่อยเถอะ แล้วผมจะตั้งคำถามกับท่านทีละประเด็น

    ตอนนี้ ผมขอให้ท่านตอบคำถามประเด็นแรกของผมเสียก่อน

    ผมเชื่อว่า หากท่านได้ตั้งใจที่จะลองพิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าตามหลักกาลามสูตรที่ท่านชอบยกมาอ้างอิงเสมอๆ นั้น ท่านจะได้พบคำตอบที่ต่างไปจากสิ่งที่ท่านตีความตามอำเภอใจ ขออย่างเดียวอย่าเพิ่งปฏิเสธที่จะลองพิสูจน์เสียก่อนเท่านั้น อาจใช้เวลาบ้างก็ไม่เป็นไร ผมรอได้ และผมเชื่อว่า สิ่งที่ท่านได้ค้นพบจากการพิสูจน์โดยอาศัยเครื่องมือที่พระพุทธเจ้าทรงวางหลักสูตรไว้ จะก่อให้เกิดสิ่งดีๆ แก่ตัวท่านตามมาและส่งผลดีไปถึงบุคคลที่ท่านเคยสอนเขาเหล่านั้นมาด้วย

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2008
  3. manson810

    manson810 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    410
    ค่าพลัง:
    +780
    ถ้าจะค้านก็ขอให้ค้านในเรื่องคำสอนที่ผิด ไม่ใช่ค้านเรื่องไม่เชื่อพระไตรปิฎก
    -----------------------------------------------------------------------------------------------------

    ในเรื่องส่วนตัวที่ท่านเตชปัญโญ ภิกขุ ไม่เชื่อพระไตรปิฏกหรือเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดนั้น เป็นสิทธิของท่านที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ผมไม่ต้องการจะเข้าไปยุ่งเรื่องนั้นเลย
    ประเด็นหลักๆ ที่ผมเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่กระทู้นี่คือ
    ท่านไปสอนเยาวชนและผู้อื่นให้มีความเข้าใจเหมือนท่านด้วย (นั่นคือการสอนให้ปฏิเสธพระไตรปิฏก ไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ฯลฯ) แค่นี้เองครับที่ผมไม่เห็นด้วย
    ยิ่งท่านเป็นพระสงฆ์ด้วยแล้วยิ่งมีผลใหญ่
    อยากให้ท่านเตชปัญโญ เข้าใจในส่วนนี้ด้วยครับ

     
  4. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ถ้าเว็บไม่ดีจริง ก็ไม่ควรเข้ามาจริงไหมครับ ส่วนการที่หลวงพี่ (ของพี่) จะเข้ามาตอบคำถามในสถานที่อโคจรก็คงไม่เหมาะครับ

    ในส่วนของคำว่า "ฤาษีลิงดำ" นั้น ผมจำได้ว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นพระที่ในหลวงไปกราบครับ ผมว่าอย่างน้อยก็เป็น "พระดี" รูปหนึ่ง และผมว่า เรื่องนี้อย่าดึงหลวงพ่อท่านมาเกี่ยวเลยครับ

    ถ้าลูกหลานจะทะเลาะกัน อย่าดึงอาจารย์มาเกี่ยวด้วยเลยครับ บาปป่าวๆ

    ผมคิดว่า เราแลกเปลี่ยนความเห็นกันดีกว่านะครับ พูดตามหลักเหตุผล ส่วนที่พี่บอกว่า พี่เคยทำงานที่เดียวกับพี่ tamsak ผมว่า พี่คงสนิทกับพี่เค้าระดับนึง ทำไมไม่โทรไปคุยเลยครับ น่าจะเคลียร์กันง่ายกว่า

    สำหรับที่พี่บอกว่า เว็บนี้ไม่มีธรรมะให้ค้นหา เท่าที่ผมทราบ เว็บนี้มีข้อมูล คือ
    1. ฐานข้อมูลพระไตรปิฎก
    2. คำสอนของพระอาจารย์ต่างๆทั่วไทย ซึ่งลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาพระอาจารย์แต่ละรูปมาโพสต์ไว้ (รวมคำสอนของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันด้วยครับ)
    3. ข่าวประชาสัมพันธ์งานบุญต่างๆทั่วไทย
    4. ข่าวกิจกรรมการกุศลต่างๆ

    ผมก็ไม่รู้ว่า ทำไม 4 เรื่องหลักๆที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา พี่ถึงไม่ให้ความสนใจ หรือว่า 4 เรื่องนี้ คือ เรื่องที่พี่บอกว่า "เป็นที่สุมหัวของผู้ที่เลื่อมใสลัทธิอิทธิฤทธิ์ปาฎิหารย์ ไม่ได้มีธรรมะอะไรให้ค้นหา แล้วก็ไม่ต้องแสดงภูมิด้วย" และ "เว็บนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นสถานที่อโคจรเสียมากกว่า"

    พี่ตอบมาอย่างนี้ ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ แต่แนะนำให้พี่ใช้หลักกาลามสูตร 10 ก่อนที่จะกล่าวหาเว็บนะครับ ส่วนเรื่องอิทธิปาฏิหารย์ ผมว่า แล้วแต่คนจะคิดนะครับ เว็บนี้ก็มีทั้งคนดีและไม่มีเข้ามาใช้บริการครับ ก็เหมือนสังคมไทยนั่นแหละครับ

    ผมถามพี่นิดนึงว่า

    "พี่เชื่อเรื่องราวในพระไตรปิฏก หรือเปล่าครับ" ถ้าพี่ไม่เชื่อ ผมว่า พี่ไปนับถือศาสนาอื่นดีกว่าครับ หรือจะค้นหาความจริง และประกาศศาสนาออกมาเองก็ได้ครับ

    พระพุทธองค์สอนธรรมให้ชาวโลกมา 45 ปี และสรุปไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งการสังคายนาแต่ละครั้งก็มีคณะสงฆ์เข้าร่วม การเปลี่ยนแปลงให้เนื้อความผิดเพี้ยนไปจากเดิม ผมว่า ก็อาจจะมี แต่คงไม่มากนัก เพราะการแก้ไขเพียงลำพังไม่สามารถทำได้

    ผมเสียใจมากที่มีบางคนบอกว่า "เนื้อหาในพระไตรปิฏกส่วนหนึ่งเป็น 'ขยะ' และเสียใจมากๆที่คนๆนั้นไม่ใช่เพศฆราวาส เสียใจจริงๆครับ แต่ผมไม่ขอวิจารณ์ท่าน เพราะศีลท่าน (อาจจะ) สูงกว่าผม"

    ส่วนเรื่องอิทธิปาฏิหารย์ ผมถามพี่ว่า พี่เชื่อว่า "นิพพาน" "สวรรค์" "นรก" มีจริงหรือเปล่าครับ

    ผมว่าพี่ไม่เชื่อหรอกครับ เพราะมันพิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าพี่เชื่อ ก็แสดงว่า ยอมรับว่า ปาฏิหารย์มีจริงใช่ไหมครับ

    วันนี้เอาพอหอมปากหอมคอนะครับ

    ปล.โพสต์นี้ ผมคุยกับพี่ 2 คนนะครับ คนอื่นไม่ได้กล่าวอ้างถึง ดังนั้นกรุณาอย่า "ร้อนตัว"
     
  5. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    พระไตรปิฎก = พระธรรม
    การไม่เคารพพระไตรปิฏก คือ ขาดจากการเคารพพระรัตนตรัยทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ กล่าวคือ ไม่เคารพคำสอนของพระพุทธองค์ สงสัยในตัวพระพุทธองค์ และไม่เคารพพระสงฆ์ (ที่เป็นผู้สังคายนา)

    ปล. ความเห็นส่วนตัว ไม่ได้ตอบกระทบใคร
     
  6. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    ผมท้าเลยนะ
    ลูกคุณเสียคนแน่ ไม่ได้แช่งนะครับ
    เสียใจแทนลูกคุณจริงๆ ที่มีพ่ออย่างคุณ

    คุณเตชปัญโญ
    ก็ไม่ยอมตอบอะไรตรงไปตรงมาสักที
    ไม่รู้จะบิดเบือนไปถึงไหน

    หรือว่ากลัวคนอื่นเค้าจะรู้ว่าคุณเป็นใครแน่
    แน่จริงมาลงรูปให้เห็นหน้า บอกที่อยู่มา เราจะได้ไปเคลียร์กัน
    ดีมั้ย ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หรือมาพิมพ์อยู่ให้เสียเวลา
     
  7. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจ โดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    ผมขอพูดจากใจเลยนะครับท่าน เตชปัญโญ ภิกขุ
    ้ผมอยากท่านเชื่อไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไรนะครับ (ท่านจะหาว่าผมงมงายหรืออะไรก็ตามเถอะ ผมมีเจตนาดีครับ)
    อัตราเสี่ยงท่านมีสูงมากเลยครับ เกิดถึงเวลานั้นจริงๆขึ้นมา เราไม่ลงไปจะดีกว่านะครับ กันไว้ดีกว่าแก้นะครับท่าน<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    ***เท่าที่สนทนามา ก็ดูว่ามีคุณโยม manson810<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_939987", true); </SCRIPT> นี่แหละที่พอจะพูดกันรู้เรื่องบ้าง***<o:p></o:p>
    ****ก็ขอขอบคุณอย่างยิ่งที่เป็นห่วง***<o:p></o:p>
    ***จริงอยู่ที่อัตราเสี่ยงของอาตมามันสูงมาก***<o:p></o:p>
    *** ๑ ต่อ ๑๐๐ เลยก็ว่าได้ที่จะเสีย***
    ***มองหนทางชนะไม่มีเลย***<o:p></o:p>
    ****แต่อาตมาปรารถนาจะนำหลักธรรมที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าให้กลับคืนมาสู่มวลมนุษย์***<o:p></o:p>
    ***ถึงจะถูกเอาไปประหารตัดหัวเสียบประจานก็ยอม ถ้าทำแล้วเกิดผลดีแก่ประเทศชาติและศาสนา***<o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    แหม.. ท่านเตชปัญโญ นรกนะครับไม่ใช่สวนสยาม คิดจะไปก็นั่งรถนั่งเครื่องบินไปก็ถึง มันไม่ใช่ครับท่าน
    เรื่องพวกนี้เป็นผลพลอยได้การจากปฏิบัติสมาธิแค่นั้นเองครับ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>

    ****เมื่อก่อน อาตมาเคยตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอว่า....***<o:p></o:p>
    ****ถ้าเราเป็น ผี เราจะไปหลอกคนที่ทำชั่วให้มันกลัว มันจะได้ไม่ทำชั่ว***<o:p></o:p>
    ***หรือถ้าเราเป็นเทวดา เราจะไปดลใจพวกทำชั่วให้เลิกทำชั่ว***<o:p></o:p>
    ***หรือไปแสดงอะไรให้พวกฝรั่งมานับถือพุทธศาสนา โลกจะได้มีสันติภาพอย่าง่ายดาย***<o:p></o:p>
    ****แต่ก็สงสัยว่า..... เอ...ทำไมพระพุทธเจ้าไม่ใช้วิธีนี้ ***<o:p></o:p>
    ****ถ้าพระพุทธจ้าแสดงฤทธิ์ได้จริง ป่านนี้ทั้งโลกคงมานับถือพุทธศาสนากันหมดแล้ว***<o:p></o:p>
    **** www.whatami123.com ***<o:p></o:p>
     
  8. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจ โดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    ในบางส่วนที่เราไม่รู้ผมว่าก็ไม่ควรปฏิเสธว่าผิดว่าไม่น่าเชื่อถือและนำมาสอนถ่ายถอดตามความเข้าใจของตัวเองนะครับ เพราะนั่นมันอาจเป็นเพราะกำลังสติปัญญาและการปฏิบัติของเรายังไม่ถึงในส่วนนั้นเองหรือเปล่า<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    **ยิ่งถ้าเราโง่ เรายิ่งต้องไม่เชื่อใคร เพราะเราอาจถูกหลอกได้ง่ายๆ จริงไหม?***<o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    แต่เมื่อใดที่ท่านนำคติความเชื่อส่วนตัวของท่านแบบนี้มาถ่ายทอดหรือ นำมาสอนนั่นแหละครับมันจะกลายเป็นสิ่งที่อันตรายเสียแล้ว<o:p></o:p>
    ****อยากจะถามว่า หลักการของอาตมามันอันตรายตรงไหน?****<o:p></o:p>

    ก็เพราะเหล่าพระเถระ และ ครูบาอาจารย์ในพระพุทธศาสนาผู้เชี่ยวชาญ พระไตรปิฎก ทั้งหลาย ท่านได้มีการตรวจสอบคัมภีร์ด้วย "หลักกาลามสูตร" อย่างละเอียดมาแล้ว น่ะสิครับ ท่านถึงได้มีการเผยแพร่สืบ ๆ กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ ครูบาอาจารย์ที่เชี่ยวชาญคัมภีร์ท่านได้มีการตรวจสอบแล้วและเห็นความสำคัญแล้วก่อนที่จะรับเอามาพระเผยแพร่ไปสู่รุ่นต่อ ๆ ไป<o:p></o:p>

    ****อย่าเชื่อจากที่เห็นว่าท่านผู้นี้เป็นครูอาจารย์ของเรา***<o:p></o:p>
    ****พระพุทธเจ้าก็สอนอยู่ตรงๆ แต่เรากลับบ่ายเบี่ยงที่จะปฏิบัติตาม****<o:p></o:p>
    ****....
     
  9. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจ โดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    หากท่านย้อนไปดูที่ผมได้ตั้งคำถามกับท่านเกี่ยวกับประเด็นที่ท่านสอนไม่ให้เชื่อว่า นรกมี สวรรค์มี เทวดามี พรหมมี นิพพานมี และผมได้ขอให้ท่านพิสูจน์ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องดังกล่าวมีจริงหรือไม่ ท่านสอนไว้จริงหรือไม่ โดยใช้หลักสูตรของพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องมือพิสูจน์
    --------------------------------------------------------------------------------------------<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ***สิ่งที่ไม่มี ถึงพิสูจน์อย่างไรก็ไม่มีทางพบ ***<o:p></o:p>
    ***ส่วนสิ่งที่ ถึงแม้จะมี แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเรา และเราไม่สามารถสัมผัสกับมันได้ มันก็มีค่าเท่ากับ ไม่มีสำหรับเรา***<o:p></o:p>
    ***สิ่งที่คุณโยมถามมานั้น มันมีความสำคัญอะไรกับเราในปัจจุบัน?***<o:p></o:p>
    ***คุณโยมกำลังโอ้อวดว่า มีฌานสมาบัติ มีตาทิพย์ หูทิพย์ กายทิพย์ อะไรทำนองนั้นใช่หรือไม่?***<o:p></o:p>
    ***ขออภัย อาตมาไม่สามารถพูดเรื่องเหล่านี้ได้ เพราะวินัยบังคับ***<o:p></o:p>
    ***คุณโยมเคยบวชมาบ้างหรือยัง?***<o:p></o:p>
    ***ถ้าภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรมที่ไม่มีในตัวเอง ต้องปาราชิก**<o:p></o:p>
    ***ถึงมีจริงก็ไม่ให้อวด ผิดวินัยอีกตามเคย***<o:p></o:p>
    ***การโอ้อวดเป็นเรื่องของพวกมหาโจร ที่ปล้นนิพพานของชาวบ้าน***<o:p></o:p>
    *** แต่นี่คือสิ่งที่ใครๆก็สามารถพิสูจน์ได้ เรื่องนรก สวรรค์**<o:p></o:p>
     
  10. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจ โดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    ผมเชื่อว่า หากท่านได้ตั้งใจที่จะลองพิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าตามหลักกาลามสูตรที่ท่านชอบยกมาอ้างอิงเสมอๆ นั้น ท่านจะได้พบคำตอบที่ต่างไปจากสิ่งที่ท่านตีความตามอำเภอใจ ขออย่างเดียวอย่าเพิ่งปฏิเสธที่จะลองพิสูจน์เสียก่อนเท่านั้น อาจใช้เวลาบ้างก็ไม่เป็นไร ผมรอได้ และผมเชื่อว่า สิ่งที่ท่านได้ค้นพบจากการพิสูจน์โดยอาศัยเครื่องมือที่พระพุทธเจ้าทรงวางหลักสูตรไว้ จะก่อให้เกิดสิ่งดีๆ แก่ตัวท่านตามมาและส่งผลดีไปถึงบุคคลที่ท่านเคยสอนเขาเหล่านั้นมาด้วย<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    **พิสูจน์ด้วยการ นั่งหลับในแล้วฝันเห็นนั่นเห็นนี่น่ะหรือ?***<o:p></o:p>
    ***ถ้าไม่เห็นก็ต้องบอกว่าเห็น เดี๋ยวคนอื่นเขาจะว่าเราโง่ เราไม่มีบุญบารมีใช่ใหม?**<o:p></o:p>
    ***แม้แต่ตัวของเราเองยังไม่มี แล้วเรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้าจะมีมาจากไหน?**<o:p></o:p>
    ***คุณโยมลองค้นหาตัวเองให้เจอก่อน แล้วถึงไปค้นหาสิ่งอื่นจะมิดีหรือ?**<o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    ประเด็นหลักๆ ที่ผมเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่กระทู้นี่คือ
    ท่านไปสอนเยาวชนและผู้อื่นให้มีความเข้าใจเหมือนท่านด้วย (นั่นคือการสอนให้ปฏิเสธพระไตรปิฏก ไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ฯลฯ) แค่นี้เองครับที่ผมไม่เห็นด้วย
    ยิ่งท่านเป็นพระสงฆ์ด้วยแล้วยิ่งมีผลใหญ่<o:p></o:p>

    ***หลักกาลามสูตรก็มาจากพระไตรปิฎก ***<o:p></o:p>
    ***เอาไว้ตรวจสอบความผิดพลาดของพระไตรปิฎกอีกที***<o:p></o:p>
    **เหมือนโปรแกรมแอนตี้ไวรัส ที่เอาไว้คอยดักจัดไวรัสคอมพิวเตอร์***<o:p></o:p>
    ***สงสัยเครื่องคอมฯของคุณโยมคงมีแต่ไวรัสเต็มไปหมดแล้วกระมัง**<o:p></o:p>
    ***มันแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลของคุณโยมหมดแล้วประมัง?***<o:p></o:p>
    ***อาตมาสอนให้เยาวชนฉลาด ไม่เชื่ออะไรง่ายๆเหมือนคนไร้ความคิด***<o:p></o:p>
    ***เขายิ่งพูดกันอยู่ว่า เด็กไทยคิดไม่เป็น***<o:p></o:p>
    **พอจะคิดเป็นขึ้นมาบ้างพวกหัวเก่าก็มาค้าน กลัวสูญเสียผลประโยชน์แบบการเมือง***<o:p></o:p>
     
  11. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจ โดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    ผมท้าเลยนะ
    ลูกคุณเสียคนแน่ ไม่ได้แช่งนะครับ
    เสียใจแทนลูกคุณจริงๆ ที่มีพ่ออย่างคุณ

    คุณเตชปัญโญ
    ก็ไม่ยอมตอบอะไรตรงไปตรงมาสักที
    ไม่รู้จะบิดเบือนไปถึงไหน

    หรือว่ากลัวคนอื่นเค้าจะรู้ว่าคุณเป็นใครแน่
    แน่จริงมาลงรูปให้เห็นหน้า บอกที่อยู่มา เราจะได้ไปเคลียร์กัน
    ดีมั้ย ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หรือมาพิมพ์อยู่ให้เสียเวลา

    -------------------
    ***THE END***
     
  12. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    พระไตรปิฎกมีเนื้อหาค่อนข้างเยอะมีรายละเอียดมากนะครับ ส่วนมากคนเห็นแค่เนื้อหาก็ท้อไม่อยากอ่านกันแล้ว ถ้าจะให้ยึดหลักกาลามสูตร(ซึ่งเป็นพระสูตรหนึ่งในพระไตรปิฎก) เป็นหลักก็ต้องอ่านพระไตรปิฎกให้ละเอียด รวมถึงค่อยๆไล่ปฏิบัติตามวิธีการที่มีสอนเอาไว้ให้ถูกต้องตามหลักการนั้นๆเสียก่อน แล้วก็ดูผลว่าเป็นจริงตามที่ในพระไตรปิฎกได้ระบุไว้หรือไม่

    ถ้าผลออกมาตรงก็ค่อยเชื่อ แต่ถ้าไม่ลงมืออ่านพระไตรปิฎกให้ละเอียดและนำเอาหลักการต่างๆทั้งหมดมาปฏิบัติตาม(เนื้อหาในพระไตรปิฎก)ให้เห็นผลสักที ก็คงไม่อาจพิสูจน์ คำสอนตามหลักการของกาลามสูตร(ซึ่งอยู่ในพระไตรปิฎก) ได้สักทีน่ะครับ (-_-)

    ปล.การมาย้ำแต่ไม่ให้เชื่อๆ ต้องพิสูจน์ก่อน แต่ไม่เริ่มลงมือทำสักที จะแตกต่างอะไรกันล่ะครับ
     
  13. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172

    สิ่งที่ผมถามท่านนั้นมันสำคัญมาก สำคัญตรงที่อยากให้ท่านตอบมาว่า ท่านได้ลองพิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าหรือยัง เพราะถ้าท่านได้พิสูจน์แล้ว ท่านจะไม่สอนในสิ่งผิดๆ หรือสอนขัดกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ อย่างที่ท่านทำอยู่ในขณะนี้

    ท่านไม่เคยพิสูจน์ว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงรับรองว่า นรกมี สวรรค์มี ฯลฯ นั้นมีจริงหรือไม่ ไม่เคยปฏิบัติให้ถึง แต่กลับมาสอนเป็นตุเป็นตะว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มีอยู่จริง ตัวท่านไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัส และไม่ยอมพิสูจน์ตามหลักสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงวางแนวทางไว้ แล้วมาสร้างหลักสูตรผิดๆ สอนผิดๆ ให้แก่เยาวชนและคนที่มีศรัทธาต่อท่าน


    ท่านเดินสู่อบายภูมิคนเดียวไม่พอ ยังพาคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องพลอยหลงเชื่อปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านสอนผิดๆ นั้น และในที่สุดเขาเหล่านั้นก็เดินลงสู่อบายภูมิตามท่านไป



    หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ มันสมควรแล้วหรือ ที่จะปล่อยให้นักบวชในพระพุทธศาสนาแต่ไม่เคารพเชื่อฟังและไม่ปฏิบัติตามคำสอนขององค์พระศาสดามาเที่ยวอวดอ้างว่าเป็นสาวกของพระองค์


    หากท่านไม่รู้ว่า นรก สวรรค์ ฯลฯ มีอยู่จริงหรือไม่ และไม่อยากพิสูจน์อะไร แล้วนิ่งเฉยเสียก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่นี่ไม่รู้แล้วแสดงว่า "รู้ดี" ถึงขนาดออกมาสอนในทางตรงข้ามกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ตีความพระไตรปิฎกเอาตามใจชอบ ส่วนไหนเป็นคุณประโยชน์หรือเห็นว่าเข้ากับความคิดของตนได้ ก็หยิบยกมาอ้างอิง สิ่งไหนไม่ชอบใจ ตนใช้ประโยชน์ไม่ได้ ไม่เข้าใจ ปฏิบัติไม่ถึง ก็บอกว่า เป็น "ขยะ" ซะงั้น






    ขอประทานโทษเถิดครับท่านเตชปญฺโญ ภิกขุ ตรงไหนหรือครับ ที่ผมไปโอ้อวดว่า ผมมีฌาณสมาบัติ มีตาทิพย์ หูทิพย์ กายทิพย์ แม้ว่าผมมี ผมก็คงไม่เที่ยวมาโอ้อวดในที่สาธารณะเช่นนี้หรอกครับ ถึงผมจะเป็นฆราวาสไม่มีข้อห้ามในการโอ้อวดแสดงฤทธิ์เหมือนเพศบรรพชิต แต่ผมก็ทราบดีว่า สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร


    ท่านก็ชอบตีความเอาตามอำเภอใจซะจนเคยตัว การที่ผมแนะนำให้ท่าน "ปฏิบัติ" นั้น ก็เพื่อให้ท่านได้ลองฝึกฝนเพื่อการพิสูจน์และเพื่อให้ได้พบความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงกล่าวไว้ ไม่ใช่เอาแต่อ่านตำรา และใช้วิปัสนึก มาตีความเอาเองอย่างที่เป็นอยู่ แล้วท่านจะได้ทราบเสียทีว่า สิ่งที่ท่านเฝ้าภูมิอกภูมิใจว่าใช้เวลากว่า 10 ปี ในการศึกษาค้นคว้ามานั้น เออหนอ... เป็นสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว


    หากท่านคิดได้เช่นนี้ ก็จะยังประโยชน์แก่ตัวท่านเป็นอย่างยิ่งที่จะตามไปแก้ไข ตามไปสอนแก้ในสิ่งที่ท่านได้สอนผิดๆ ไว้เสียให้ถูกต้องก่อนที่ท่านจะละสังขารและไม่มีโอกาสได้แก้ไขสิ่งผิดพลาดที่ได้กระทำไว้



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2008
  14. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    ในพระพถุทธศาสนานั้นอิทธิปาฏิหาริย์เป็นเรื่องธรรมดาของผู้เจริญสมาธิไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ผู้ที่พูดฝึกกสิณหรือกรรมฐานทั้ง40กองหรือยัง อ้อคุณธรรมทาสการที่คุณกล่าวหาหลวงพ่อฤาษีว่าเป็นฤาษีหรือพระนั้น คุณเคยอ่านธรรมะของท่านไหม ท่านไม่ใช่แต่สอนมโยทธิอย่างเดียว ธรรมะท่านเช่นสติปัฏฐาน4ผมลงไว้ตั้งเยอะแยะไปอ่านบ้างป่ะ
    ผมถามหน่อยเถอะคุณเคยอ่านธรรมะของท่านมั้ยก่อนจะว่าท่าน ผมว่าหลวงพ่อท่านเป็นพระที่ดีองค์หนึ่งทีเดียวไม่อย่างนั้นในหลวงคงไม่ไปหาบ่อยๆแต่พระทางใต้เขียนหนังสือดีแต่ไม่เคยเสด็จไปเลยแถมในหลวงยังทรงฟังเทปธรรมะของหลวงพ่อฤาษีอีก ผมก็ไม่เข้าใจว่าคุณโยงท่านมาเกี่ยวกับความเห็นในกระทู้ทำไม เว็ปนี้ไม่มีธรรมะแล้วที่โพสล่ะมันธรรมะหรือเปล่า พระนิพพานไม่สูญสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันก็รับรอง คุณก็หมายความว่าสมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นพระไม่ดีใช่หรือไม่การที่สายหลวงปู่มั่นท่านพูดถึงปาฏิหาริย์สายนั้นโม้ทั้งหมดเลยหรือ แต่แปลกนะในหลวงกับทรงเสด็จไปฟังธรรมกับสายหลวงปู่มั่นบ่อยแต่ไม่เคยเสด็จไปสวนโมกข์เลย คิดเอาเองว่าเพราะอะไร
     
  15. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881


    เฮ้อ....ไม่ทราบว่าถึงปัจจุบันนี้ท่านอาจารย์เตชปัญโญยังมีแนวคิดแบบเดิมนี้อยู่หรือเปล่าครับ ถ้ายังมีแนวความคิดแบบนี้อยู่ก็เข้าข่าย มิจฉาทิฏฐิ แล้วละครับ หลบหลู่แม้กระทั่งพระพุทธเจ้า

    กรณีพระไตรปิฎกที่ท่านอาจารย์เตชปัญโญบอกอย่าเชื่อและให้ใช้หลักกาลามสูตรไปตรวจสอบนั้น ไม่ทราบว่าผู้ที่จะไปตรวจสอบนั้นจะใช้สติปัญญาญาณหรือคุณธรรมระดับไหนไปตรวจสอบครับ ก็ในเมื่อพระไตรปิฎกเกิดขึ้นมาจากพระมหาสาวกและเหล่าพระอรหันต์ผู้ทรงจตุปฏิสัมภิทาญาณจำนวนถึง 500 รูปเชียวนะครับ แล้วเราจะใช้สติปัญญาแบบโลก ๆ ของเรานี้ไปตรวจสอบไปตัดสินได้อย่างไรกัน ในเมื่อผู้ตรวจสอบเองก็ยังไม่ได้แม้แต่ฌาณหรือวิปัสนาญาณเบื้องต้นเลย มันจะไม่เท่ากับเป็นการเอาเด็กระดับประถมไปตรวจสอบดอกเตอร์เหรอ ท่านไม่ได้บอกให้ไปตรวจสอบพระไตรปิฎกเลยนะครับ


    หลักกาลามสูตรนั้นท่านไม่ได้สอนให้ อย่าเชื่อ เสียทีเดียวโดยไม่มีเหตุผลนะครับ ไปตีความว่า อย่าเชื่อ เสียแต่แรกอย่างนั้นมันเป็นการทำลายศรัทธา ทำให้เกิดอกุศลจิตคิดหลบหลู่ พระไตรปิฎก พระรัตนตรัยรวมทั้งเหล่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายได้นะทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทดลองลงปฏิบัติตามแนวทางที่ท่านสอนดูเลยนะครับ ที่ถูกท่านบอกว่า อย่า-เพิ่ง-เชื่อ และให้เราได้ทดลองปฏิบัติตามดูที่ท่านสอนจนประจักษ์แก่ใจตนเองเสียก่อนต่างหากครับ หากแม้อะไร ๆ ก็สอนบอกว่า อย่าเชื่อ ๆ เลยทีเดียวแบบนี้ มันเท่ากับเป็นการปิดกั้นศรัทธากันเสียแต่แรกแล้วนะครับ เมื่อไม่มีศรัทธา ในการศึกษาเล่าเรียนหรือการปฏิบัติตามเพื่อที่จะน้อมนำสิ่งที่ท่านสอนเข้ามาสู่จิตใจให้บังเกิดผลนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไรกันครับ


    ...หรือว่าท่านอาจาย์เตชปัญโญ ได้ปฏิบัติจนรู้แจ้งแทงตลอดในพระไตรปิฎกแล้วครับ จึงกล้ากล่าวตู่พระไตรปิฎกได้ดังนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2008
  16. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
  17. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2008
  18. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    พระธรรมโกษาจารย์ (เงื่อม อินทปัญโญ) หรือรู้จักในนาม พุทธทาสภิกขุ (27 พฤษภาคม พ.ศ. 2449 - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2536) เป็นชาวอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2449 เริ่มบวชเรียนเมื่ออายุได้ 20 ปี ที่วัดบ้านเกิด จากนั้นได้เข้ามาศึกษาพระธรรมวินัยต่อที่กรุงเทพมหานคร จนสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค แต่แล้วท่านพุทธทาสภิกขุก็พบว่าสังคมพระพุทธศาสนาแบบที่เป็นอยู่ในขณะนั้นแปดเปื้อนเบือนบิดไปมาก และไม่อาจทำให้เข้าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนาได้เลย ท่านจึงตัดสินใจหันหลังกลับมาปฏิบัติธรรมที่อำเภอไชยา ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของท่านอีกครั้ง พร้อมปวารณาตนเองเป็น พุทธทาส เนื่องจากต้องการถวายตัวรับใช้พระพุทธศาสนาให้ถึงที่สุด

    <O:p</O:pตลอดเวลาที่ดำรงสมณเพศ ท่านพุทธทาสภิกขุตั้งใจศึกษาพระปริยัติอย่างแน่วแน่ พร้อมตั้งมั่นปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และวัตรเหล่านี้เองที่ทำให้ท่านพุทธทาสภิกขุเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยกิจทั้งด้านคันถธุระและวิปัสสนาธุระอย่างยากยิ่งที่จะหาพระภิกษุรูปใดเสมอเหมือน

    <O:p</O:pท่านพุทธทาสภิกขุเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งสวนโมกขพลาราม เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา นอกจากนี้ ผลงานของท่านพุทธทาสภิกขุยังมีปรากฏอยู่มากมายทั้งในรูปพระธรรมเทศนา และในรูปงานเขียน

    <O:p</O:pโดยท่านพุทธทาสภิกขุตั้งใจทำการถ่ายทอดพระพุทธศาสนาให้อยู่ในฐานะที่เป็น พุทธะ ศาสนา อย่างแท้จริง

    <O:p</O:pนั่นคือเป็นศาสนาแห่งความรู้ ความตื่น ความเบิกบาน ไม่เจือปนไปด้วยความหลงผิดที่เข้าแทรกมากมายจนกลายเป็นเนื้อร้ายที่คอยกัดกิน ทั้งเรื่องพุทธพาณิชย์ เรื่องไสยศาสตร์ เรื่องลัทธิพราหมณ์ เรื่องความยึดมั่นถือมั่นในบุญบาป เรื่องความหลงใหลในยศลาภของพระสงฆ์ และเรื่องปลีกย่อยอื่นๆ อีกมากมาย ท่านพุทธทาสภิกขุมุ่งชี้ให้ชาวพุทธทั้งหลายเห็นถึงมิจฉาทิฐิและสีลัพพตปรามาสเหล่านี้เสมอมา ทำให้หลายคนขนานนามท่านพุทธทาสภิกขุว่าเป็น พระผู้ปฏิรูป แต่แท้จริงแล้ว คำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุก็ไม่มีอะไรนอกเหนือไปกว่าความจริงอันสูงสุดที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบเลย เพียงแต่ระยะเวลาอันยาวนานได้ทำให้ความเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าเปลี่ยนแปรหรือถูกเบี่ยงเบนไป

    <O:p</O:pท่านพุทธทาสภิกขุจึงทำหน้าที่เสมือนผู้กลั่นให้พระพุทธศาสนากลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง

    <O:p</O:pคำสอนจำนวนมากจากท่านพุทธทาสภิกขุเป็นธรรมะระดับโลกุตระ อันมีนิโรธเป็นรส และมีนิพพานเป็นอารมณ์ ซึ่งพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นธรรมะขั้นสูง และไม่เหมาะกับฆราวาสผู้ยังเวียนว่ายอยู่ในวังวนแห่งโลกียะ แต่ท่านพุทธทาสภิกขุตระหนักว่าธรรมะเหล่านี้คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา และพุทธมามกะไม่ว่าจะระดับชั้นใดก็ควรจะได้รับรู้ ได้รับปฏิบัติ และได้รับผลจากธรรมะเหล่านี้ ซึ่งถึงแม้จะเป็นธรรมะที่ละเอียดลึกซึ้ง แต่ท่านพุทธทาสภิกขุก็ได้ถ่ายทอดให้อยู่ในรูปแบบที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงและเข้าใจ โดยยังคงเนื้อหาสำคัญไว้ได้อย่างครบถ้วน คำสอนทั้งหลายของท่านพุทธทาสภิกขุ แท้จริงแล้วก็คือการสกัดพระสูตรให้ออกมาเป็นภาษาพูด และพระอภิธรรมให้ออกมาเป็นภาษาชาวบ้านนั่นเอง โดยข้อธรรมที่ท่านพุทธทาสภิกขุเน้นย้ำมากที่สุดคือเรื่องสุญญตา<O:p</O:p

    จนทำให้ผู้ศึกษาพระพุทธศาสนาหลายคนเรียกท่านว่า นักรบเพื่อความว่าง

    <O:p</O:pแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุยังรวมไปถึงเรื่องพื้นฐาน เช่น เรื่องการทำงาน และเรื่องการศึกษา ซึ่งคนทั่วไปสามารถนำธรรมะเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทันที

    <O:p</O:pนอกจากพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทแล้ว ท่านพุทธทาสภิกขุยังมีใจเปิดกว้างทำการศึกษาคำสอนของต่างศาสนาและต่างนิกาย ด้วยความคิดว่าศาสนาทั้งหลายล้วนมุ่งหมายในสิ่งเดียวกัน ในสมัยที่ท่านพุทธทาสภิกขุจำพรรษาอยู่ที่สวนโมกขพลาราม นอกจากสาธุชนคนไทยผู้สนใจในธรรมะทั้งหลายจะแวะเวียนมาสนทนา และฟังเทศน์ฟังธรรมจากท่านพุทธทาสภิกขุอย่างไม่ขาดสายแล้ว ยังมีชาวต่างชาติผู้ต้องการเรียนรู้พระพุทธศาสนา นักศึกษาและอาจารย์ทางด้านศาสนศาสตร์จากต่างประเทศ รวมถึงประมุขของศาสนจักรต่างๆ แวะเวียนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติความคิดเห็น รวมทั้งสนทนาธรรมกับท่านเป็นอันมาก

    <O:p</O:pทำให้สวนโมกขพลารามเปรียบเสมือนตักศิลาสำหรับผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา และทำให้วงการพระพุทธศาสนากลับมาตื่นตัวอีกครั้ง

    <O:p</O:pปณิธานในชีวิต
    <O:p</O:p
    ปณิธานในชีวิตไว้ 3 ข้อ คือ
    <O:p</O:p
    ให้พุทธศาสนิกชนหรือศาสนิกแห่งศาสนาใดก็ตามเข้าถึงความหมายอันลึกซึ้งที่สุดแห่งศาสนาของตน
    <O:p</O:p
    ทำความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนา
    <O:p</O:p
    ดึงเพื่อนมนุษย์ให้ออกมาเสียจากวัตถุนิยม

    ....................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2008
  19. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    เกียรติคุณ

    สมณศักดิ์<O:p</O:p
    ท่านพุทธทาสภิกขุได้รับสมณศักดิ์ตามลำดับ ดังนี้<O:p</O:p
    พ.ศ. 2469 พระเงื่อม<O:p</O:p
    พ.ศ. 2473 พระมหาเงื่อม<O:p</O:p
    พ.ศ. 2489 พระครูอินทปัญญาจารย์<O:p</O:p
    พ.ศ. 2493 พระอริยนันทมุนี พระราชาคณะชั้นสามัญ<O:p</O:p
    พ.ศ. 2500 พระราชชัยกวี พระราชาคณะชั้นราช<O:p</O:p
    พ.ศ. 2514 พระเทพวิสุทธิเมธี พระราชาคณะชั้นเทพ<O:p</O:p
    พ.ศ. 2530 พระธรรมโกศาจารย์ พระราชาคณะชั้นธรรม

    ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์<O:p</O:p
    ท่านพุทธทาสภิกขุได้รับการถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์<O:p</O:p
    ในสาขาต่างๆ จากสถาบันต่างๆ ดังนี้

    8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522<O:p</O:p
    พุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

    8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528<O:p</O:p
    อักษรศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาปรัชญาและศาสนา จากมหาวิทยาลัยศิลปากร

    <O:p</O:p3 ธันวาคม พ.ศ. 2528<O:p</O:p
    ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

    <O:p</O:p1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 <O:p</O:p
    ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาครุศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

    16 กรกฎาคม พ.ศ. 2530<O:p</O:p
    ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาปรัชญา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    <O:p</O:p9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533<O:p</O:p
    ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาพัฒนศึกษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

    <O:p</O:p29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536<O:p</O:p
    ศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    <O:p</O:pอื่น ๆ<O:p</O:p
    นอกจากสมณศักดิ์ และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แล้ว <O:p</O:p
    ท่านพุทธทาสภิกขุ ยังได้รับการยกย่องจาก องค์กรต่าง ๆ ดังนี้

    พ.ศ. 2508 หนังสือแก่นพุทธศาสตร์
    ได้รับรางวัลชนะเลิศ หนังสือดีประจำปี พ.ศ. 2508 จากองค์การยูเนสโก

    พ.ศ. 2527 ได้รับคัดเลือกเป็นบุคคลทำประโยชน์ฝ่ายบรรพชิต
    เนื่องในโอกาสสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี
    ได้รับรางวัลเป็นสัญลักษณ์เสาอโศก และเงินสดจำนวน 10,000 บาท

    พ.ศ. 2537 คุรุสภาประกาศยกย่องเชิดชู ว่า เป็นผู้ทำคุณประโยชน์อย่างสูงยิ่งต่อการศึกษาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี กระทรวงศึกษาธิการ

    20 ตุลาคม พ.ศ. 2548
    องค์การยูเนสโก ประกาศยกย่องให้ท่านพุทธทาสภิกขุเป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้านส่งเสริมขันติธรรม สันติธรรม วัฒนธรรม ความสัมพันธ์ และความเข้าใจอันดีของมวลมนุษย์

    <O:p</O:pพ.ศ. 2549<O:p</O:p
    รัฐบาลไทย รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมทางธรรมะ<O:p</O:p
    เนื่องในโอกาสรำลึกครบรอบ 100 ปี ชาตกาล ท่านพุทธทาสภิกขุ

    ผลงาน<O:p</O:p
    ท่านพุทธทาสมีผลงานที่เรียบเรียงเป็นหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น (เรียงลำดับตามตัวอักษร)

    แก่นพุทธศาสน์<O:p</O:p
    คู่มือมนุษย์<O:p</O:p
    ตัวกูของกู ฉบับย่อความ<O:p</O:p
    ธรรมโฆษณ์<O:p</O:p
    ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์<O:p</O:p
    พระพุทธเจ้าสอนอะไร<O:p</O:p
    พุทธประวัติจากพระโอษฐ์<O:p</O:p
    ภาษาคน-ภาษาธรรม<O:p</O:p
    อิทัปปัจจยตา (100 หนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน)

    บุคคลสำคัญของโลกชาวไทย โดย องค์การยูเนสโก<O:p</O:p
    รายชื่อ (เรียงตามปี)<O:p</O:p
    สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ &middot; <O:p</O:p
    สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว &middot; <O:p</O:p
    สุนทรภู่ &middot; <O:p</O:p
    พระยาอนุมานราชธน &middot; <O:p</O:p
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส &middot; <O:p</O:p
    พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ &middot; <O:p</O:p
    สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช &middot; <O:p</O:p
    สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี &middot; <O:p</O:p
    ปรีดี พนมยงค์ &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว &middot; <O:p</O:p
    หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว &middot; <O:p</O:p
    กุหลาบ สายประดิษฐ์ &middot; <O:p</O:p
    พุทธทาสภิกขุ &middot; <O:p</O:p
    พระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท

    ...................................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2008
  20. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    เกียรติคุณ

    สมณศักดิ์<O:p</O:p
    ท่านพุทธทาสภิกขุได้รับสมณศักดิ์ตามลำดับ ดังนี้<O:p</O:p
    พ.ศ. 2469 พระเงื่อม<O:p</O:p
    พ.ศ. 2473 พระมหาเงื่อม<O:p</O:p
    พ.ศ. 2489 พระครูอินทปัญญาจารย์<O:p</O:p
    พ.ศ. 2493 พระอริยนันทมุนี พระราชาคณะชั้นสามัญ<O:p</O:p
    พ.ศ. 2500 พระราชชัยกวี พระราชาคณะชั้นราช<O:p</O:p
    พ.ศ. 2514 พระเทพวิสุทธิเมธี พระราชาคณะชั้นเทพ<O:p</O:p
    พ.ศ. 2530 พระธรรมโกศาจารย์ พระราชาคณะชั้นธรรม

    ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์<O:p</O:p
    ท่านพุทธทาสภิกขุได้รับการถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์<O:p</O:p
    ในสาขาต่างๆ จากสถาบันต่างๆ ดังนี้

    8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522<O:p</O:p
    พุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

    <O:p</O:p8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528<O:p</O:p
    อักษรศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาปรัชญาและศาสนา จากมหาวิทยาลัยศิลปากร

    3 ธันวาคม พ.ศ. 2528<O:p</O:p
    ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

    <O:p</O:p1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530<O:p</O:p
    ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาครุศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

    16 กรกฎาคม พ.ศ. 2530<O:p</O:p
    ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาปรัชญา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    <O:p</O:p9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533<O:p</O:p
    ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาพัฒนศึกษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

    <O:p</O:p29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536<O:p</O:p
    ศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    อื่น ๆ<O:p</O:p
    นอกจากสมณศักดิ์ และปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แล้ว<O:p</O:p
    ท่านพุทธทาสภิกขุ ยังได้รับการยกย่องจาก องค์กรต่าง ๆ ดังนี้

    พ.ศ. 2508 หนังสือแก่นพุทธศาสตร์<O:p</O:p
    ได้รับรางวัลชนะเลิศ หนังสือดีประจำปี พ.ศ. 2508 จากองค์การยูเนสโก

    พ.ศ. 2527 ได้รับคัดเลือกเป็นบุคคลทำประโยชน์ฝ่ายบรรพชิต<O:p</O:p
    เนื่องในโอกาสสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี <O:p</O:p
    ได้รับรางวัลเป็นสัญลักษณ์เสาอโศก และเงินสดจำนวน 10,000 บาท

    พ.ศ. 2537 คุรุสภาประกาศยกย่องเชิดชู ว่า เป็นผู้ทำคุณประโยชน์อย่างสูงยิ่งต่อการศึกษาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี กระทรวงศึกษาธิการ

    <O:p</O:p20 ตุลาคม พ.ศ. 2548<O:p</O:p
    องค์การยูเนสโก ประกาศยกย่องให้ท่านพุทธทาสภิกขุเป็นบุคคลสำคัญของโลก

    ด้านส่งเสริมขันติธรรม สันติธรรม วัฒนธรรม ความสัมพันธ์ และความเข้าใจอันดีของมวลมนุษย์

    <O:p</O:pพ.ศ. 2549<O:p</O:p
    รัฐบาลไทย รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมทางธรรมะ<O:p</O:p
    เนื่องในโอกาสรำลึกครบรอบ 100 ปี ชาตกาล ท่านพุทธทาสภิกขุ

    ผลงาน<O:p</O:p
    ท่านพุทธทาสมีผลงานที่เรียบเรียงเป็นหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น (เรียงลำดับตามตัวอักษร)

    แก่นพุทธศาสน์<O:p</O:p
    คู่มือมนุษย์<O:p</O:p
    ตัวกูของกู ฉบับย่อความ<O:p</O:p
    ธรรมโฆษณ์<O:p</O:p
    ปฏิจจสมุปบาทจากพระโอษฐ์<O:p</O:p
    พระพุทธเจ้าสอนอะไร<O:p</O:p
    พุทธประวัติจากพระโอษฐ์<O:p</O:p
    ภาษาคน-ภาษาธรรม<O:p</O:p
    อิทัปปัจจยตา (100 หนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน)

    บุคคลสำคัญของโลกชาวไทย โดย องค์การยูเนสโก<O:p</O:p
    รายชื่อ (เรียงตามปี) <O:p</O:p
    สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ &middot; <O:p</O:p
    สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว &middot; <O:p</O:p
    สุนทรภู่ &middot; <O:p</O:p
    พระยาอนุมานราชธน &middot; <O:p</O:p
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส &middot; <O:p</O:p
    พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ &middot; <O:p</O:p
    สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช &middot; <O:p</O:p
    สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี &middot; <O:p</O:p
    ปรีดี พนมยงค์ &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว &middot; <O:p</O:p
    หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล &middot; <O:p</O:p
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว &middot; <O:p</O:p
    กุหลาบ สายประดิษฐ์ &middot; <O:p</O:p
    พุทธทาสภิกขุ &middot; <O:p</O:p
    พระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท

    ...................................................................................................
     

แชร์หน้านี้

Loading...