คลังเรื่องเด่น
-
ปาฏิหาริย์พระบรมธาตุที่ยอดเขาพระพุทธบาท : หลวงพ่อปาน
เมื่อเวลาใกล้ค่ำ คณะห้าธุดงค์มีหลวงพ่อปานเป็นประมุข ต่างก็หาที่ปักกลดตามที่ตนเห็น สมควร เมื่อปักกลดเสร็จ ทำวัตรสวดมนต์ตามระเบียบของพระที่เดินไปหาที่ตายเพราะอยู่วัดสบายกว่า ท่านเดินไปกันอย่างชนิดไม่ทราบว่าอาหารมื้อหน้าหรือมื้อนี้จะมีที่ไหน ไม่มีใครสนใจเรื่องอาหาร เพราะคิดว่าตายเดี๋ยวนี้ไปนิพพานเดี๋ยวนี้ ไปนิพพานดีกว่าอยู่เป็นพระกินข้าว เมื่ออารมณ์ทุกท่านเป็นอย่างนี้ นอกจากหลวงพ่อปานท่านปรารถนาพระโพธิญานอย่างเดียว แต่ท่านก็มีชั้นดุสิตเป็นที่ไปเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว สมัยก่อนท่านสอนไปนิพพานช้า ไม่ใช่โตแล้วเรียนลัด แต่ท่านหวังผลแน่นอน ถ้ามีอารมณ์ถึงสวรรค์ชั้นกามาวจร ท่านก็สอนให้ไปชั้นที่ตัวมีวาสนาถึงเป็นประจำเพื่ออารมณ์จะได้ผูกพัน เมื่อตายอารมณ์จะแจ่มใส มีที่ไปแน่นอน หรือท่านองค์ใดไปพรหมตามกำลังฌานได้ ท่านก็ไปของท่านเป็นประจำ พวกที่เบื่อสวรรค์กามาวจรหรือพรหม มีอารมณ์ถึงพระนิพพาน ถ้าได้มโนมยิทธิต่างก็ไปนอนนิพพานเป็นปกติ ตอนนี้พวกนักธรรมอาจจะสงสัยว่านิพพานนี่สูญนี่เจ้าประคุณ ไปนอนกันได้อย่างไร เอาอย่างนี้นะขอตอบแบบนักเทศน์ก่อน เพราะนักธรรมเป็นพวกนักเทศน์... -
เคล็ดในการทำบุญ ปล่อยสัตว์ หรือต่อชีวิตสัตว์ การสะเดาะเคราะห์ที่กลายเป็นบุญใหญ่ได้ หากรู้เคล็ด!
เคล็ดในการทำบุญ ปล่อยสัตว์ หรือต่อชีวิตสัตว์
การสะเดาะเคราะห์ที่กลายเป็นบุญใหญ่ได้ หากรู้เคล็ด!
วิธีนี้นิยมกันมากตั้งแต่ครั้งโบราณกาล แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หลายคนทำแล้วไม่เห็นผล หรือไม่ได้บุญมากตามที่ปรารถนา เพราะขาดเคล็ดลับสำคัญ ซึ่งจะมาเผยแพร่ให้ทราบ
ในการปล่อยสัตว์หรือต่อชีวิตสัตว์นั้น หลายคนเรียกว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์ซึ่งก็แล้วแต่จิตจะพาไป แต่ในความเป็นจริงก็คือ เป็นการทำบุญใหญ่เป็นการช่วยต่อชีวิต ต่อโชคชะตา ให้เวลากับสัตว์ที่กำลังจะถึงที่ตายให้ได้มีชีวิตอีกครั้ง
และเคล็ดสำคัญก็คือ ก่อนที่จะปล่อยสัตว์นั้น เมื่อได้ซื้อมาหรือ เจอ ณ ที่ใดก็ตามให้นำไปถวายกับพระสงฆ์เสียก่อน เพื่อเพิ่มบุญให้มากขึ้น
เหตุเพราะว่า พระสงฆ์ที่รับนั้นมีความบริสุทธิ์และมีศีลมากกว่าเรา ท่านย่อมมีบุญมากกว่าเรา ยิ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญมากแล้ว บุญนั้นจะเพิ่มเป็นหลายเท่า
จากนั้นก็ขอทำการผาติกรรมชำระหนี้สงฆ์ หรือขอซื้อคืนมาจากท่าน แต่ที่สำคัญต้องจำไว้ให้มั่นก็คือ ต้องใช้ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากับที่ซื้อสัตว์นั้นมา ถ้าจำนวนเงินที่ชำระหนี้สงฆ์มากกว่าก็จะเป็นการสร้างบุญเพิ่ม... -
คาถาจักรพรรดิ พลานุภาพ พุทธคุณครอบจักรวาล แผ่เมตตา ปรับภพภูมิส่งวิญญาณไปสู่สุขคติได้
คาถาจักรพรรดิ
พลานุภาพ พุทธคุณครอบจักรวาล
แผ่เมตตา ปรับภพภูมิส่งวิญญาณไปสู่สุขคติได้
การปรับภพภูมิส่งวิญญาณนั้น เป็นวิชาชั้นสูงของครูบาอาจารย์ตั้งแต่โบราณกาล และได้รับการถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์มาโดยตลอดโดยจะเลือกผู้ที่มีบุญเชื่อมกัน โดยเฉพาะหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา ที่ท่านได้รับสืบทอดมาและได้สั่งสอนลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก โดยที่ท่านได้สร้างพระผงพระจักรพรรดิและมีคาถาพระจักรพรรดิเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับภพภูมิ
พระจักรพรรดินั้น เป็นพระปางหนึ่งของพระพุทธเจ้า ที่ครั้งหนึ่งพระองค์ทรงเนรมิตพระรูปของพระองค์ดังพระจักรพรรดิที่ใหญ่กว่ากษัตริย์ทั้งปวงเพื่อปราบมาร ที่เรารู้จักกันดี ในพระพุทธรูปปางทรงเครื่อง ที่รู้จักกันดีก็คือ พระประธานที่หน้าวัดพระเมรุ จ.อยุธยา
ส่วนคาถาพระจักรพรรดิ นั้นเป็นคาถาที่รวมพุทธคุณครอบจักรวาล ที่มีพลานุภาพมาก ในเรื่องต่างๆ จากร้ายให้กลับกลายมาเป็นดี จากที่ดีอยู่แล้วก็จะยิ่งทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
พระผงพระจักรพรรดิและคาถาพระจักรพรรดิเป็นของสูง ผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์สามารถที่จะสวดนำไปแผ่เมตตาให้ดวงจิตวิญญาณทั้งหลายที่อยู่รอบๆ ตัวเรา เพื่อปรับภพภูมิต่างๆ ให้เขาสูงขึ้น... -
หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ถอนคุณไสย ให้แขกฮินดูด้วยยันต์ทอพุทโธ
หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ถอนคุณไสย
ให้แขกฮินดูด้วยยันต์ทอพุทโธ
หลวงพ่อเหล่ง เขมชาโต ศิษย์วัดบางนมโค
ได้บันทึกไว้ว่ามีแขกฮินดุคนหนึ่งมาจากอินเดีย
เรียนวิชาไสยศาสตร์มาทางไศวนิกาย
มาพร้อมลูกสาวมาเปิดบ้านทำวิชาคุณไสย
แถวบ้านแพน วิชาแกเก่งมาก ทำให้ใครๆ
ก็มักไปหาแก ด้วยความที่แกเก่งมาก
ในเวลาเพียงสามเดือนก็ดังไปทั่วอำเภอเสนา
มีชาวบ้านมาถามถึงวิชาพวกนี้ หลวงปู่ปาน
ท่านบอกว่าของแบบนี้เวลาทำคนอื่นไม่รู้สึก
บาปกรรมอะไร เมื่อใดโดนเองจะรู้ว่าการโดน
คุณไสย มันทำให้เดือดร้อนเท่าใด
ต่อมาคนที่โดนแขกฮินดูคนนี้ทำคุณไสย
ไปหาผู้มีวิชาแก้ได้ คุณไสยไม่โดนตัวแก
แต่ไปโดนลูกสาวแก ปวดหัวและอาการ
คุ้มดีคุ้มร้าย แกพยามแก้อย่างไรก็ไม่บรรเทาเลย
พอดีมีคนไทยบอกว่า หลวงพ่อปานท่านแก้ไขได้
แกรีบอุ้มลูกสาวแกมาที่วัด เข้าไปพนมมือ
เรียกท่านว่า บาบา ช่วยลูกสาวฉันด้วย
บาบาจะเอาเท่าไหร่ ฉันยอมจ่ายเลย มันเป็นมาก
คล้ายบ้าเลย แขกฮินดูวิงวอน
หลวงปู่ปานท่านมองดูเด็กผุ้หญิงที่โดน แล้วก็ตอบว่า
ฉันไม่เอาสินจ้างใดๆ บังไหว้พระพุทธเจ้าก่อนฉันจะ
รักษาให้ด้วยอำนาจพระพุทธเจ้า เจ้าแขกฮินดู
เลยถามว่า ภควานพุทธ รักษาได้เหรอบาบา... -
"หลวงปู่มั่น..บรรลุธรรม"
"หลวงปู่มั่น..บรรลุธรรม"
..หลวงปู่ชอบท่านพักภาวนาอยู่กับองค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ ถ้ำดอกคำ บ้านสหกรณ์ ตำบลน้ำแพร่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่..
มีเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญ ถึงเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องของท่านโดยตรง แต่หลวงปู่ชอบท่านเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์วันองค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บรรลุ “ ธรรมธาตุ ” สำเร็จมรรคผลเป็น “ พระอรหันต์ ” ในพระพุทธศาสนา..
คืนนั้นเวลาประมาณตีสามกว่า หลวงปู่ชอบท่านนั่งภาวนาอยู่ที่พักของท่าน จิตท่านในเวลานั้นสว่างไสว ใสงามมาก แต่แล้วจู่ๆความสว่างไสวของจิต เกิดดับวูบลงไป อย่างกะทันหัน พร้อมกับมีเสียงกึกก้องกัมปนาท สะเทือนเลื่อนลั่น ไปทั่วขุนเขา..
ท่านเปรียบเทียบว่าเสียงนี้ไม่ต่างอะไรกับระเบิดปรมาณูมาระเบิดอยู่ข้างๆตัวเรา จนท่านเกิดอาการสั่นไหวในจิต คล้ายกับผืนแผ่นพสุธา จะแตกสลายกลายเป็นจุล..
อาการเหล่านี้เกิดขึ้นภายในจิตของท่านเท่านั้น แต่สิ่งต่างๆที่อยู่ภายนอก ก็เป็นปรกติทุกอย่าง ตั้งแต่ท่านภาวนามาก็ไม่เคยประสบพบเจอ กับอาการแบบนี้ของจิต ท่านจึงพิจารณาดูภายในว่า เกิดอะไรขึ้นกับจิตของตน พิจารณาดูจิตก็ไม่เห็นผิดปรกติตรงไหน..... -
หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนไว้...ถ้าเจอผีแปลว่ากำลังมีบุญ ! เจอเมื่อไหร่ให้นึกอุทิศได้เลย ไม่ต้องรอ...
หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนไว้...ถ้าเจอผีแปลว่ากำลังมีบุญ ! เจอเมื่อไหร่ให้นึกอุทิศได้เลย ไม่ต้องรอ...
ผีมาขอส่วนบุญที่โรงพยาบาล
โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
"..อาตมาเข้าไปพักรักษาตัวในตึกแห่งหนึ่งในโรงพยาบาล นอนพักตอนกลางวัน พอเคลิ้มหลับก็เหมือนมีคนมานอนด้วยมีความสัมผัสว่าเป็นเนื้อคน ปรากฏว่าเป็นผู้ชายต่อมาวันรุ่งขึ้นก็มานั่งคุยด้วย ก็เลยถามว่า
"เมื่อวานนี้มาใช่ไหม"
ตอบว่า "ใช่ครับ"
ถามว่า "ทำไมมาทำแบบนี้ ถ้าคนอื่นเขาอยู่ไม่ได้นะนี่ฉันไม่เป็นไร"
เขาบอกว่า "ผมตายที่เตียงนี้ครับ"
ก็ถามว่า "ทำไมมายุ่งที่นี่ ฉันจะนอน"
เขาบอกว่า "เขามาเพื่อให้ทราบและมีความประสงค์อยากขอความช่วยเหลือ"
ก็เลยบอกว่า "ทีหลังจะขอความช่วยเหลือใคร ก็บอกเขาตรง ๆ ประการแรก ก่อนที่จะเข้ามา ทำให้เขาไม่กลัวก่อน อย่างฉันนี่ทำอย่างไรก็ไม่กลัวแน่ มีทางเดียวฉันกลัวตัวฉันเอง"
เขาถามว่า "กลัวแบบไหน"
ตอบว่า "กลัวว่าฉันโมโหจับสองขาแกฟาดน่ะสิ"
บอกว่า "อย่าเพิ่งครับ ๆ" แล้วนั่งยอง ๆ เลยบอก
"เอาไป ๆ อยากได้ก็ให้โมทนา" เขาโมทนาแล้วก็หายไป การที่เขาเข้าไปอย่างนั้นคนที่อยู่ในนั้นต้องมีบุญทีนี้เขาจะบอกก็ไม่ได้ยิน... -
๖ เมษายน วันจักรี..แวะไหว้ศาลหลังเมืองกรุงเทพ!!! เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว สร้างมาเพื่อปกป้องบ้านเมืองและประชาชน สาธุยาวๆ...
๖ เมษายน วันจักรี..แวะไหว้ศาลหลังเมืองกรุงเทพ!!! เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว สร้างมาเพื่อปกป้องบ้านเมืองและประชาชน สาธุยาวๆ...
5 จุดสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใน ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร หรือบ้างก็เรียกว่า ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง, หลักเมือง เป็นอีกหนึ่งจุด ที่ประชาชนคนไทย มาสักการะกัน การไหว้ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ ก็เพื่ออธิษฐานขอพระ เสริมหลักชัยให้ชีวิตนั่นเอง ตัวศาลหลักเมือง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระแก้ว เดินข้ามฝั่งก็ถึง
ลำดับขั้นตอนการสักการะ ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
จุดที่ 1 หอพระพุทธรูป
จุดที่ 2 องค์พระหลักเมืองจำลอง
จุดที่ 3 องค์พระหลักเมืององค์จริง
จุดที่ 4 หอเทพารักษ์ทั้ง 5
จุดที่ 5 เติมน้ำมันพระประจำวันเกิด และสะเดาะเคราะห์
ศาลหลักเมือง กรุงเทพฯ (Bangkok City Pillar Shrine)
เป็นศาลที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 พร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ร.1 ได้โปรดเกล้าให้กระทำพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 6 ขึ้น 10 ค่ำ ตรงกับวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 เวลา 6.45 นาฬิกา... -
สิ่งที่หาได้ยากในโลก 5 ประการ
สิ่งที่หาได้ยากในโลก 5 ประการ
สิ่งที่หายากนั้นหมายถึง สิ่งที่มีคุณค่า คุณประโยชน์เอนกอนันต์ สิ่งที่ซื้อหาไม่ได้ด้วยเงินทอง เพราะหากมีแค่เงินใครที่มีเงินพอก็เข้าไปซื้อไปหาเอาได้
พระพุทธเจ้าทรงตรัสแก่เจ้าลิจฉวีทั้งหลายเมื่อครั้งได้เข้าเฝ้าฟังธรรมว่า สิ่งที่หาได้ยากในโลกนี้คือ รัตน 5 ประการ
"ดูก่อน เจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ความปรากฏขึ้นแห่งรัตนะ ๕ ประการ หาได้ยากในโลก. ๕ ประการ อย่างไรเล่า ?
(๑) ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ
(๒) บุคคลผู้แสดงธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว
(๓) บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว อันผู้อื่นแสดงแล้ว
(๔) บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว อันผู้อื่นแสดงแล้ว ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
(๕) กตัญญูกตเวทีบุคคล
ดูก่อนเจ้าลิจฉวีทั้งหลาย ความปรากฏขึ้นแห่งรัตนะ ๕ ประการนี้แล หาได้ยากในโลก.
พุทธวจนะในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แปลความอีกทีว่า
นอกจากพระพุทธองค์ผู้ประเสริฐซึ่งในกัปหนึ่งๆ อันแสนนานจะปรากฎขึ้นแล้ว บุคคลผู้ที่มีคุณธรรมได้แก่
1. ความกตัญญู
2. ผู้ที่ใฝ่ศึกษาจนเข้าใจในธรรมของพระพุทธองค์
3. ผู้ที่ปฏิบัติธรรมตามที่พระพุทธองค์สอนไว้ดีแล้ว
4.... -
"โรคของใจ" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
"โรคของใจ"
" ..โรคเกิดจากใจ "จิตใจไม่ปกติ เกิดความหวั่นไหว เกิดความโลภ ความโกรธ เกิดความเกลียด ความรัก ความชัง" เรียกว่าโรคของใจ
โรคของใจนี้แหละ "พระพุทธเจ้าสอนให้พากันรักษา ด้วยธรรมโอสถ" ปฐมพยาบาลขั้นแรกก็คือ "ปล่อยทิ้งเสีย อย่าให้เป็นอารมณ์ อย่าคิดถึงเรื่องนั้น" ทำใจให้สงบนิ่งอยู่ในที่เดียว"หากมันไม่อยู่ ก็ให้นึกเอา "พุทโธ" มาไว้เป็นอารมณ์" นี่เรียกว่า ปฐมพยาบาล .. "
เทสโกวาท
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
เมื่อสิ้น ๕,๐๐๐ ปี จะมี “พุทธันดร” ขึ้นมาแทรก
ผู้ถาม "กระผมได้ยินมาว่าเมื่อครบ ๕,๐๐๐ ปีแล้ว ก็จะมีศาสนาของ พระศรีอาริยเมตไตรย สืบต่อจากศาสนานี้ใช่ไหมครับ"
หลวงพ่อ "หมายความว่า เมื่อสิ้นศาสนา ๕,๐๐๐ ปีแล้วใช่ไหม แล้วพระศรีอาริยเมตไตรยจึงมาตรัส
ผู้ถาม "ใช่ครับ"
หลวงพ่อ "ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณ ถ้าศาสนานี้ครบ ๕,๐๐๐ ปีแล้ว พระศรีอาริยเมตไตรยยังไม่มาตรัส จะต้องว่างจากพระพุทธศาสนาไปหนึ่งพุทธันดรก่อน แต่ว่าในช่วงที่ว่างพระพุทธเจ้านี่ก็จะมี พระปัจเจกพุทธเจ้า ขึ้นมาแทน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้านี่ ต่ำกว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือว่าพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาแล้วก็ทรงสอนคนตั้งแต่อันดับต้นให้รู้จักการให้ทาน ให้รู้จักการรักศีล ให้รู้จักการเจริญภาวนาให้รู้จักการครองเรือนให้อยู่เป็นสุข และให้รู้จักการปฏิบัติตนให้เข้าถึงกามาวจรสวรรค์ ให้เข้าพรหมโลก ให้เข้าถึงพระนิพพาน
สำหรับพระปัจเจกพุทธเจ้าไม่เช่นนั้น ท่านตรัสแล้วท่านก็เฉยๆ หากว่าจะสงเคราะห์กันก็สงเคราะห์ในขั้นต้น คือ ทานกับศีล ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า ทีนี้เมื่อเวลากาลล่วงไปหนึ่งพุทธันดร อาตมาตอบไม่ได้นะว่ากี่ปี ถ้าจะให้รู้กันจริงๆ คุณก็จงอย่าตายนะ อยู่ไปจนกว่าพระศรีอาริย์จะมา... -
....เมตตาพาตกเหว...
....เมตตาพาตกเหว...
....การอยากชวนคนมาวัด มาปฏิบัติให้มาก ๆ
โดยลืมดูพื้นฐานจิตใจของบุคคลที่กำลังจะชวน
ว่าเขามีความสนใจมากน้อยเพียงใด หลวงปู่ท่าน
บอกว่า ให้ระวังให้ดีจะเป็นบาป
เปรียบเสมือนกับการจุดไฟไว้ตรงกลางระหว่าง
คน ๒ คนถ้าเราเอาธรรมะไปชวนเขา เขาไม่เห็นด้วย
ปรามาสธรรมนี้ซึ่งเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า ก็เท่ากับ
เราเป็นคนก่อแล้วเขาเป็นคนจุดไฟ บาปทั้งคู่ เรียกว่า
เมตตาพาตกเหว
หลวงปู่ได้ยกอุทาหรณ์ สอนต่อว่า
เหมือนกับมีชายคนหนึ่งตกอยู่ในเหวลึก
มีผู้จะมาช่วยคนที่หนึ่งมีเมตตาจะมาช่วย
เอาเชือกดึงขึ้นจากเหวดึงไม่ไหวจึงตกลงไป
ในเหวเหมือนกัน
คนที่สองมีกรุณามาช่วยดึงอีก ก็ตกลงเหวอีก
คนที่สามมีมุทิตามาช่วยดึงอีกก็พลาดตกเหว
อีกเช่นกันคนที่สี่สุดท้ายเป็นผู้มีอุเบกขาธรรม
เห็นว่าเหวนี้ลึกเกินกว่ากำลังของตนที่จะช่วย
ก็มิได้ทำประการใดทั้ง ๆ ที่จิตใจก็มีเมตตาธรรม
ที่จะช่วยเหลืออยู่ คนสุดท้ายนี้จึงรอดชีวิตจากการตกเหวตามเพราะ อุเบกขาธรรมนี้แล....
...หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ...
...Ramet Tanawangsri... -
พระอาจารย์เล็กสอนเรื่อง "จิตตก"
พระอาจารย์สอนเรื่อง "จิตตก"
สิ่งที่นักปฏิบัติหน้าใหม่ (หรือเก่าด้วย) กลัวกันเป็นนักหนาคือ การ “จิตตก”
มันเป็นอาการที่กำลังใจซึ่งทรงไว้ในด้านดี เกิดพลาดท่าพลาดทาง
เลี้ยวกลับไปหาความเลวเก่า ๆ เอาดื้อ ๆ บางคนตั้งหลักไม่ทัน ทำใจให้ยอมรับไม่ได้
เกิดฟุ้งซ่านคิดมาก แทบจะฆ่าตัวตายประชดชีวิตไปเลยก็มี...!
ความจริงอาการ “จิตตก” หรือ “กำลังใจตก” หรือ “สมาธิตก” เป็นของธรรมดาที่ผู้ปฏิบัติทุกคนต้องเจออยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องเสียอกเสียใจอะไร ก่อนนี้เราทำความเลวอยู่ มาตอนนี้หันมาทำความเลวใหม่ เพราะหลงกลพญามารที่มาล่อลวง ก็ไม่ได้ขาดทุนอะไรเลย เพราะเรามาจากที่ต่ำ การย้อนกลับที่ต่ำคือเท่าทุน มิหนำซ้ำยังกำไรประสบการณ์อีกต่างหาก...!
เมื่อรู้ตัวก็ตั้งหน้าทำดีใหม่ ระวังไว้ว่าคราวก่อนเราพลาดตรงไหน ถึงเวลาอย่าให้พลาดอีก...แต่ก็นั่นแหละ เล่ห์เหลี่ยมของมารนั้นยากที่เราจะระวังป้องกัน ปิดจุดนี้มันตีจุดนั้น ตั้งป้อมรับจุดนั้น มันเข้าตีจุดโน้น...วนเวียนไปไม่รู้จบ จนกว่าเราจะประกอบไปด้วยสติสัมปชัญญะสมบูรณ์พร้อมนั่นแหละ...มารจึงหลอกไม่ได้...
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๓๓
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ที่มา : เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม... -
มงคลชีวิตวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องรู้
มงคลชีวิตวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องรู้
5 การสั่งสมบุญไว้ในปางก่อน
คือผู้มีบุญอันทำไว้ก่อนย่อมได้รับสิ่งที่พึงประสงค์ในสมบัติทุกอย่าง ทั้งมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ สูงสุดกระทั่งนิพพานสมบัติ ความเป็นผู้มีบุญอันทำไว้ในกาลก่อนเป็นการจัดสิ่งแวดล้อมภายในให้ดี หมายถึง การสร้างสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นภายในตัวเองในปัจจุบันชาติ ไม่จำเป็นต้องน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไมในชาตินี้จึงไม่โชคดีมีบุญ มีสุขสบายเหมือนคนอื่น
ซึ่งความดีนั้นจะเป็นฐานรองรับและต่อเติมการพัฒนากายและใจของตนให้ก้าวไปสู่ความสุขที่สูงขึ้นไป คนที่ไม่เคยสั่งสมความดีเลยย่อมไม่ได้รับในสิ่งที่ดีงาม แม้จะดิ้นรนตะเกียกตะกายก็ไม่ได้ แต่คนที่หมั่นสร้างความดีไว้ไม่ต้องตะเกียกตะกายบุญนั้นก็หล่นทับใส่เอง
ทำไมเหล่าพระอสีตีมหาสาวกผู้เป้นเลิศในด้านต่างๆ ทั้งหลายนั้น ทำไมจึงได้เกิดมาพบพระพุทธเจ้า ก็เพราะบุญที่ได้ทำไว้ในกาลก่อนทั้งสิ้น
ทุกรูปต่างได้อธิษฐานไว้ขอให้ได้ดำรงตำแหน่งผู้เป็นเลิศในด้านต่างๆ จึงได้สร้างบุญสั่งสมมาเรื่อยๆ
พอในชาติสุดท้าย บุญที่สะสมมานั้นก็ส่งผลให้นำไปพบกับพระพุทธองค์ ไม่วาจะทั้งพระอัญญาโกณทัญญะ อธิษฐานขอให้บรรลุธรรมเป็นคนแรก... -
"เล่าเรื่องพระสีวลี" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"เล่าเรื่องพระสีวลี"
" .. ในสมัยพระพุทธเจ้า "องค์นี้เป็นที่หนึ่ง (พระสีวลี) ท่านจึงยกเอตทัคคะ คือเลิศในทางความมีอดิเรกลาภ" เครื่องสักการะบูชา จตุไทยทานมีมากนะองค์นี้ นี่พระสีวลี องค์หนึ่งเลิศทางหนึ่ง ๆ
อย่าง "พระสารีบุตรเลิศทางปัญญา ฝนตกเจ็ดวันเจ็ดคืน พระสารีบุตรนับได้ทุกเม็ด สามารถนับได้" องค์อื่นนับไม่ได้ แต่พระสารีบุตรสามารถนับได้ นี่อัตโนมัติ เขาเรียกว่าคอมพิวเตอร์ แต่ว่าคอมพิวเตอร์ของธรรมไม่ได้เหมือนโลก ละเอียดไปกว่านั้น แม้เช่นนั้นยังถูกตำหนิจากพระพุทธเจ้า "ไอ้ความรู้ของเธอขี้ปะติ๋ว เราตถาคต ฝนตกตั้งกัปตั้งกัลป์นับได้หมด" นั่นล่ะธรรมชาติที่รู้จริง ๆ อย่างนั้น ไม่ผิดไม่พลาด นั่นล่ะ พระญาณหยั่งทราบ ทางนี้เขาเรียกคอมพิวเตอร์ นี่คอมพิวเตอร์ของธรรมเป็นอย่างนี้
คอมพิวเตอร์ของพระพุทธเจ้าใช้มากับพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ กับบรรดาสาวกผู้มีความเชี่ยวชาญทางไหนก็เป็นคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น ประจำองค์ท่านเป็นประจำอย่างงั้น ทางเราปัจจุบันเขาเรียกคอมพิวเตอร์หรืออะไร คอมพิวเตอร์ของธรรมเป็นอย่างนั้นคิดดูซิฝนตกตั้งกัปตั้งกัลป์นับได้หมดทุกเม็ด ตกมากขนาดไหนนับได้หมดไม่เคลื่อนคลาด... -
"ผู่ผู่อ่อง"ตำนานบรมครูผู้วิเศษแห่งเมืองมอญ ชาวพม่าให้ความเคารพเทียบ คนไทยเคารพ "หลวงปู่เทพโลกอุดร"
"ผู่ผู่อ่อง"ตำนานบรมครูผู้วิเศษแห่งเมืองมอญ ชาวพม่าให้ความเคารพเทียบ คนไทยเคารพ "หลวงปู่เทพโลกอุดร"
ผู่ผู่อ่องตำนานผู้วิเศษแห่งเมืองมอญ
ถ้าในเมืองไทยรู้จักตำนานเรื่องราวของ “หลวงปู่โลกอุดร” เป็นอย่างดีแล้ว ในเมืองพม่า มอญและไทยใหญ่เขาก็มีตำนานผู้วิเศษคล้ายๆกับเรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดรในบ้าน เราเหมือนกัน แต่ทางเขาคือ “ผู่ผู่อ่อง” บุคคลท่านนี้เป็นผู้วิเศษที่มีชีวิตเป็นอมตะ เหาะเหิรเดินอากาศได้ ปรากฏตัวมาหลายยุคหลายสมัย ผู่ผู่อ่องเป็นบุคคลที่บุเรงนองนับถือมาก ครั้งหนึ่งผุ่ผู่อ่องแสดงฤทธิ์เหาะขึ้นไปบนยอดเจดีย์ชะเวดากอง จารอักขระยันต์ “สะตะปะวะ” เอาไว้กันภัยพิบัติทั้งปวง
ตามประวัติเล่าไว้ว่าผู่ผู่อ่อง ออกปฏิบัติบำเพ็ญพรตคราวแรกบรรพชาเป็นพระภิกษุ ต่อมาเห็นว่ามีข้อศีลสิกขามากทำให้เกิดความกังวลจึงลาสิกขาออกมา แล้วออกบวชเป็นผ้าขาว บำเพ็ญตนเป็นนักพรตฝ่ายฤๅษีชีไพร ธุดงค์รอนแรมไปเรื่อยจนพบ “ยอดเขาโป๊ปป้า” ภูเขา เขานี้อยู่ระหว่างเส้นทางจาก “พุกาม” จะไป “มันฑะเลย์” จะมียอดภูเขาไฟอยู่ยอดหนึ่ง เป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับทำพวกพรรค์นี้มาก
“ภูเขาโป๊ปป้า”... -
คำสอนสมเด็จโต การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยหลักธรรมง่าย ๆให้พ่อแม่ของเจ้า
คำสอนสมเด็จโต เจ้าจงจำไว้ว่า การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า
การให้ธรรมะพ่อแม่ เป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด
ลูกเอ๋ย...ยามที่พ่อแม่ของเจ้ามีอายุมากขึ้น ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ความแข็งแรงของร่างกายที่เคยมีก็ลดลง ใจน้อย โกรธง่าย ความจำก็เสื่อม ขี้หลงขี้ลืม จิตใจก็หมดความสุขสดชื่น ถึงแม้พวกเจ้าจะคอยเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุขได้เต็มที่ เพราะพวกเจ้าทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าช่วยท่านให้ได้รับความสุขเพียงการให้กินอยู่หลับนอน อันเป็นความสุขทางกายเท่านั้น แต่จิตใจของท่าน หาได้ร่าเริงสดชื่นผ่องใสไม่ เจ้าจงจำไว้ว่า การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า พาท่านไปทำบุญทำทาน สอนท่านให้รู้จักการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ธรรมะจะอยู่ในจิตใจของพ่อแม่เจ้าทุกภพทุกชาติ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด เจ้าจงจำไว้นะลูกเอ๋ย
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)... -
เป็นพระอรหันต์ได้ก็เพราะวัดรอยเท้าของพระพุทธเจ้า - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
+++ เป็นพระอรหันต์ได้ก็เพราะวัดรอยเท้าของพระพุทธเจ้า +++
หลวงพ่อเล็กกล่าวกับลูกศิษย์ว่า ”จำไว้ อะไรก็ตามมันจะยากก็แค่ครั้งแรกนั่นแหละ ถ้าหากว่าไม่กล้าลองแล้วคุณจะทำได้ยังไง อะไรก็ตามที่ผมสั่งให้คุณทำน่ะ ผมดูแล้วว่าคุณทำได้ เพียงแต่จะกล้าหรือไม่ก็เท่านั้นเอง หากว่าผมเห็นว่าคุณทำไม่ได้ ผมไม่ให้คุณทำหรอก คนเป็นครูบาอาจารย์น่ะ ไม่มีวันส่งศิษย์ไปหาที่ตายหรอก (แต่ก็เสี่ยงตายเหมียนกัลลนะคร้าบบ) #สมัยก่อนที่ผมอยู่กับหลวงพ่อท่าน #ถ้าหากว่าสิ่งใดที่หลวงพ่อท่านบอกว่าทำแล้วดี #ผมทำแบบถวายชีวิต เพราะถ้าหากว่าผิดหรือไม่เป็นประโยชน์จริงๆ ท่านคงไม่บอกให้ทำหรอก #แต่ถ้าหากสิ่งใดที่หลวงพ่อบอกให้หยุดหรืองดเว้นเสีย #ผมก็รับปฏิบัติยันตายเหมือนกัน สมัยนั้นหลวงพ่อท่านเล่าว่า คาถาบทไหนดี ปฏิบัติแล้วมีผลเป็นยังไง ผมเอามาทำหมด #จนพระที่วัดบางองค์ถึงกับบอกว่า #พระเล็กจะไปวัดรอยเท้าของหลวงพ่อ เพราะอะไรก็ตามที่หลวงพ่อบอกว่าดี ผมทำหมด #จนวันหนึ่งเป็นวันลงอุโบสถ #หลวงพ่อท่านก็นั่งเป็นประธาน พระที่วัดก็มารวมตัวกันหมด พอหลวงพ่อท่านเห็นหน้าผมท่านก็ถามขึ้นมาทันทีเลยว่า
พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี : ”นี่!เล็ก... -
พระดีหรือไม่ให้ดูที่ ~ ศีล๕, พรหมวิหาร ๔, อคติ ๔ -หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
☆☆☆☆☆
พระดีหรือไม่ให้ดูที่ ~ ศีล๕, พรหมวิหาร ๔, อคติ ๔
☆☆☆☆☆
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าพระองค์นี้ดี องค์นี้ไม่ดี คะ?
หลวงพ่อ : อยากรู้ว่า พระองค์ไหนดี
ก็ไปถามท่าน.."ท่านคะ ท่านเป็นพระดีหรือเปล่า.?"
ท่านบอก : "ดี"
ใช้ได้เลย!!!
ผู้ถาม : หัวเราะ
▪หลวงพ่อ : เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ
☆ อันดับแรก เราก็ดูศีล ๕ ก่อนซิ ถ้าศีล ๕ ไม่มี ศีล ๒๒๗ มันก็ไม่มี.. นอกจากศีล ๕ ครบถ้วนแล้ว
☆ ก็ต้องทรง "พรหมวิหาร ๔"
เมตตา 》ความรัก
กรุณา 》 ความสงสาร
มุทิตา 》 อิจฉาริษยาใครไหม
อุเบกขา 》 คนอื่นเพลี่ยงพล้ำ ซ้ำเติมเขาไหม
☆ แล้วอีกประการหนึ่ง "อคติ"
ฉันทาคติ 》 ลำเอียงเพราะความรัก
โทสาคติ 》 ลำเอียงเพราะความโกรธ
โมหาคติ 》 ลำเอียงเพราะความหลง
ภยาคติ 》 ลำเอียงเพราะความกลัว
ก็ดูว่า "อคติ ๔" มีหรือเปล่า.. ถ้ามี ก็ใช้ไม่ได้อีก
พระนี่ ก่อนจะเข้ามาบวช พระพุทธเจ้า ท่านให้ฝึก
"ศีล สมาธิ ปัญญา" ก่อน
ไม่ใช่สักแต่ว่า : "ผมจะบวชครับ" ให้บวชเลย
อันนี้ ใช้ไม่ได้ เขาจะต้องให้อยู่
"ติตถิยะปริวาส" ก่อน ๓ เดือน
ถ้า ๓ เดือนไม่ดี ให้อยู่ต่ออีก ๓ เดือน
ถ้า ๓ เดือน ๓ ครั้ง เอาดีไม่ได้... -
ฝึกลืมอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลาย - หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
☆☆☆☆☆
ฝึกลืมอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลาย
☆☆☆☆☆
▪ต่อไปนี้ผมก็จะขอพูดถึงวิธีที่จะปฏิบัติในยามปกติ
เราพยายามลืมเสียให้หมด ลืมว่า
● คนนั้นเขาว่าเรา
● คนนั้นเขาด่าเรา
● คนนั้นเขาเกลียดเรา
○ คนนี้เขารักเรา
○ คนนั้นเขาสรรเสริญเรา
◇◇◇ อารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ใน โลกธรรมลืมมันเสีย ◇◇◇
》 มันจะมีลาภหรือไม่มีลาภก็ช่างมัน
》 ลาภมีแล้วมันจะหมดไปก็ช่างมัน
》 ยศถาบรรดาศักดิ์เขาจะให้หรือไม่ให้ก็ช่างมัน
◇◇◇ ลืมมัน อารมณ์อย่างนี้ลืมมัน ◇◇◇
》 เมื่อได้ยศมาแล้ว เขาจะเรียกคืนไปก็ช่างมันหรือว่า
》 การสรรเสริญนินทาจะมาจากทางไหนก็ช่างมัน
》 ความสุขความทุกข์จากอารมณ์ทางกายทางใจ
◇◇◇ ไม่มีความสำคัญสำหรับเรา เราลืมโลกธรรม ๘ ประการเสียจงพยายามลืม ฝึกลืม อย่าสนใจ ◇◇◇
● แล้วก็ลืมคำปรามาสทั้งหลาย
● ลืมอารมณ์ของความชั่วที่คิดว่าผู้ใหญ่ไม่ดี
● ลำเอียงรักคนนั้นมาก รักคนนี้มาก
● คนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี
● คนนั้นพูดไม่ถูกใจเรา
○ คนนี้เอาใจเรา
◇◇◇ ลืมมันเสีย ◇◇◇
เพราะว่านั่นเป็นอารมณ์แห่งความเลว และอารมณ์ของนิวรณ์ ๕ ตอนนี้นิวรณ์ ๕ ยังกวนใจอยู่
¤ กามฉันทะ รูปสวย... -
เมื่อตายจากโลกไปแล้ว ทางที่ไปมี ๕ สาย : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ความจริงปัญหาเรื่องตายแล้วไปไหนนี้ ไม่น่าจะเป็นที่ข้องใจของท่านสาธุชนเลย เพราะพระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้แล้วอย่างละอียดว่า
เมื่อตายจากโลกนี้แล้วทางที่ไปก็มี 5 สาย คือ
1. อบายภูมิ ได้แก่เกิดในนรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย และเป็นสัตว์เดรัจฉาน
2. เกิดเป็นมนุษย์
3. เกิดเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์
4. เกิดเป็นพรหม
5. ไปพระนิพพาน
การที่ท่านผู้ตายแล้วจะไปเกิดที่ใด พระพุทธเจ้าก็ตรัสบอกเหตุที่จะไปเกิดไว้ครบถ้วน ตามกฎของกรรม คือการกระทำ ได้แก่ความประพฤติดีหรือชั่วในสมัยที่เกิดเป็นมนุษย์นี้เอง กฎของกรรม หรือผลของความประพฤติดีชั่ว ที่จะพาตัวไปเกิดในที่ใดที่หนึ่ง
ตามที่ท่านตรัสไว้ห้าทางนั้น ท่านว่าไว้อย่างนี้
●● ทางสายที่ 1 ที่เรียกว่า อบายภูมิ มีนรกเป็นต้นนั้น เป็นผลจากความประพฤติชั่ว คือก่อกรรมทำเข็ญในสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่คนและสัตว์ ท่านจัดกฎใหญ่ ๆ ไว้ 5 ประการ คือ
1. เป็นคนมีใจโหดร้าย ชอบข่มเหงรังแก เบียดเบียนคนและสัตว์ให้ได้รับความเดือดร้อน โดยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นความดี
2. มือไว ชอบลักขโมยของที่เจ้าของยังไม่อนุญาต หรือฉ้อโกงเอาทรัพย์สินของคนอื่นด้วยเล่ห์กลโกง
3. ใจเร็ว... -
หลวงปู่บุดดา ถาวโร กล่าวถึง สมเด็จพระเทพรัตนฯ
ตอนนั้นหลวงปู่อาพาธอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระ ในวันนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาเยี่ยมเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ เจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อทรงทราบว่าหลวงปู่อาพาธอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระด้วย พระองค์ท่านจึงได้เสด็จมาเยี่ยมอาการของหลวงปู่ เมื่อเสด็จมาถึงก็ทรงประทับที่พื้นข้าง ๆ เตียงของหลวงปู่ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจัดพระเก้าอี้ถวาย ก็ไม่ทรงประทับ หลังจากเสด็จกลับแล้ว หลวงปู่พูดว่า...
“สมเด็จพระเทพฯ ท่านทรงดูแลอุปัฏฐากพระแก้วมรกตมาหลายชาติแล้ว มาชาตินี้พระองค์ท่านก็มาทรงอุปัฏฐากพระแก้วมรกตอีก”
ภาพ : พระราชพิธีสถาปนาพระราชอิสริยศักดิ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำริว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ ทรงได้รับความสำเร็จในการศึกษาอย่างงดงาม และทรงได้บำเพ็ญพระองค์ให้เป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองเป็นอเนกปริยาย โดยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆ อยู่เสมอ ในด้านการพัฒนาบ้านเมือง... -
เปิดตำนาน ปฏิหาริย์สมเด็จโตฯ สู้กับพายุร้าย เพียงโบกพัดเบาๆ พายุก็พลันสลายไป!..สาธุ
เปิดตำนาน ปฏิหาริย์สมเด็จโตฯ สู้กับพายุร้าย เพียงโบกพัดเบาๆ พายุก็พลันสลายไป!..สาธุ
ครั้งหนึ่ง สมโภชพระราชวังบนเขามไหสวรรค์ เมืองเพชรบุรี สังฆการีวางฎีกาท่านไปเรือญวน ๔ แจว ออกทางปากน้ำบ้านแหลม เวลานั้นทะเลเป็นบ้า คลื่นลมจัดมาก ชาวบ้านอ่าวบ้านแหลมช่วยกันร้องห้ามว่า เจ้าประคุณอย่าออกไป จะล่มตาย
ท่านตอบไปว่า” ไปจ๊ะ ไปจ๊ะ”
ท่านออกยืนหน้าเก๋ง เอาพัชนีใบตาลโบกแหวกลมหน้าเรือ ลูกคลื่นโตกว่าเรือท่านมาก บังเรือมิด แต่ทางหน้าเรือคลื่นไม่มี ลมก็แหวกทางเท่ากับแจวในลำท้องร่อง น้ำเรียบแต่น้ำข้างๆกระเซ็นบ้าง เพราะคลื่นเข้าข้างเรือทั้งสองโตเป็นตลิ่งทีเดียว พระธรรมถาวรเล่าว่า เวลานั้นท่านเป้นพระครูปลัดไปกับท่านด้วย ได้เห็นน่าอัศจรรย์ ใจท่านหายๆ ดูไม่รู้จะคิดเกาะเกี่ยวอะไร
สมเด็จพระพุฒาจารย์ท่านยืนโบกพัดเฉย คนก็แจวเฉยเป็นปกติ จนเข้าปากน้ำเมืองเพชร ท่านจึงเข้าเก๋งเอนกาย ชาวปากอ่าวเมืองเพชรเกรงบารมีสมเด็จท่านมาก ยกมือท่วมๆ หัว สรรเสริญคุณสมบัติของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ตลอดจนเจ้าขุนนางที่ตามเสด็จคราวนั้นว่า เจ้าพระคุณสำคัญมาก แจวฝ่าคลื่นลมกลางทะเลมาได้ตลอดปลอดโปร่งปราศจากอุทอันตราย... -
ตำนานอีกหน้า! ของพี่น้องพุทธรูปลอยน้ำ ว่ากันว่าแท้จริงมีมากถึง ๕ องค์ ไม่ใช่ ๓ องค์อย่างที่พูดกัน!!
ตำนานอีกหน้า! ของพี่น้องพุทธรูปลอยน้ำ ว่ากันว่าแท้จริงมีมากถึง ๕ องค์ ไม่ใช่ ๓ องค์อย่างที่พูดกัน!!
พุทธปัญจภาคีวารีปาฏิหาริย์
เล่าขานตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง
มีตำนานกล่าวว่า กาลครั้งหนึ่งมีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา ได้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน มีฤทธิ์อำนาจทางจิตมาก ได้พร้อมใจกันตั้งสัจจะอธิษฐานว่า
“เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน”
ครั้นพระอริยบุคคลทั้งห้าองค์นี้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าสถิตอยู่ในพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ มีความปรารถนาจะช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้คนทางเมืองใต้ จึงพากันแสดงฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้พระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาทางใต้ตามแม่น้ำสายหลักของภาคกลางทั้ง 5 สาย
ชาวบ้านชาวเมืองตามริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาก็พากันเลื่อมใส จึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นสถิตอยู่ตามวัดต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ โดยพระพุทธรูปองค์แรก ลอยมาตามแม่น้ำบางปะกง... -
"หลวงตาแตงอ่อน" ฟันอสุรกายจนขาดครึ่ง!! เผยทีเด็ดอะไร? ไม่ต้องใช้คาถา...ผีก็กลัวหัวหด!!
"หลวงตาแตงอ่อน" ฟันอสุรกายจนขาดครึ่ง!! เผยทีเด็ดอะไร? ไม่ต้องใช้คาถา...ผีก็กลัวหัวหด!!
ครั้งหนึ่ง สมัยที่ "หลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม" ได้ออกธุดงค์กับคณะพระเณรเพื่อบำเพ็ญสมณธรรม โดยมุ่งหน้าไปทางเขตอำเภอพรรณานิคมจนถึงป่าดงแห่งหนึ่งนั้น เมื่อไปถึงก็จวนจะค่ำพอดี จึงตกลงพากันพักที่ดงแห่งนั้น
เมื่อปักกลด สรงน้ำเสร็จ ไหว้พระสวดมนต์แล้ว ก็เข้านั่งสมาธิภาวนาอยู่ในกลด เวลาผ่านไปไม่นานก็มีเสียงคนเดินเหยียบใบไม้แห้ง เสียงนั้นดังมาก หลวงตาแตงอ่อนสงสัยว่าเป็นเสียงอะไรก็เลยฉายไฟดู แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย
หลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม
เมื่อมองไม่เห็น ท่านจึงเข้าสมาธิภาวนาเพื่อกำหนดจิตดู...ก็ปรากฏภาพของบุรุษร่างใหญ่ ตัวสูงมาก ร่างกายกำยำ ถือกระบอง และทำท่าจะเอากระบองทุบท่านให้ตาย
บุรุษร่างใหญ่พูดขึ้นว่า
"ป่าแห่งนี้ข้าเป็นใหญ่ ไม่มีใครกล้าเข้ามากล้ำกราย ... ท่านจงหนีไปเดี๋ยวนี้!!"
หลวงตาแตงอ่อนจึงกล่าวในสมาธิว่า
"เราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า มาแสวงหาโมกขธรรมเพื่อความหลุดพ้น ไม่ได้มารบกวนใคร ... พระพุทธเจ้าท่านสรรเสริญภิกษุผู้อยู่ป่ามิใช่หรือ ... แล้วท่านมาพูดแบบนี้ไม่กลัวบาปกรรมเหรอ!!"... -
อยากให้พระเครื่องเข้มขลังมากๆ หลวงพ่อปาน ท่านแนะวิธี ต้องใช้คาถาอัญเชิญพระเข้าตัว ทำตามแนะนำ รับรองดีแท้แน่นอน!!!
อยากให้พระเครื่องเข้มขลังมากๆ หลวงพ่อปาน ท่านแนะวิธี ต้องใช้คาถาอัญเชิญพระเข้าตัว ทำตามแนะนำ รับรองดีแท้แน่นอน!!!
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา บูรพาจารย์ที่ได้เคยกล่าวสอนลูกศิษย์ในการสร้างพระเครื่อง
“…ต้องอาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสาวกทุกองค์ ตลอดจนพระพรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย การชุมนุมบวงสรวงเช่นนี้ประเดี๋ยวก็เสร็จไม่ต้องถึงสามเดือนอย่างที่แล้วมา จงจำไว้ว่าการจะปลุกเสกพระหรือผ้ายันต์อะไรก็ตาม ถ้าจะอาศัยอำนาจของเราอย่างเดียวไม่ช้าก็เสื่อม
เราน่ะมันดีแค่ไหน การทำตัวเป็นคนเก่งน่ะมันใช้ไม่ได้ มันต้องให้พระท่านเก่ง พระพุทธท่านเก่ง พระธรรมท่านเก่ง พระสงฆ์ท่านเก่ง เทวดาท่านเก่ง พระพรหมท่านเก่ง ท่านมาช่วยทำประเดี๋ยวเดียวก็เสร็จดีกว่าเราทำตั้งพันปีเราต้องการให้ท่านช่วยอะไรก็บอกไป
ของที่ทำจะคุ้มครองผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองได้ทุกคนถ้าหากพระก็ดี พระพรหมก็ดี เทวดาก็ดี ท่านช่วยคุ้มครองให้ ท่านก็มองเห็นถนัด คุ้มครองได้ถนัดและจำไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้านำของนั้นไปใช้ในทางทุจริตคิดมิชอบก็ไม่มีอะไรจะคุ้มครองได้... -
"สติ ความรู้จักผิดชอบชั่วดี" (สมเด็จพระญาณสังวร)
"สติ ความรู้จักผิดชอบชั่วดี"
" .. "สติ คือความรู้ผิด รู้ชอบ รู้ชั่ว รู้ดี" ความหมายของสติ "ชี้ชัดถึงความสำคัญอย่างยิ่งของคำว่าสติ อะไรจะสำคัญสำหรับชีวิตยิ่งไปกว่า ความรู้ผิดชอบรู้ชั่วดีไม่มีแน่นอน" ความผิดความชั่วที่ทำกันอยู่มากมาย โดยเฉพาะในทุกวันนี้ ไม่ได้เกิดจากเหตุใดที่สำคัญเท่ากับ "ความขาดสติ ขาดความรู้ผิดรู้ถูกรู้ดีรู้ชั่ว"
ทำลงไปแล้วอาจได้สติ "รู้ตัวว่าได้ทำสิ่งที่ผิดที่ชั่วก็สายเกินไป" ทำให้ต้องได้รับทุกข์โทษภัย จากการทำที่ไม่รู้ถูก ไม่รู้ผิดไม่รู้ดี ไม่รู้ชั่ว "จึงพึงเห็นความสำคัญของสติให้อย่างยิ่ง" และพึงพยายามอบรมสติให้เกิดมาก ๆ "พยายามให้สติขาดไปจากใจให้น้อยที่สุด"
โดยยกเหตุผลสำคัญที่สุดไว้เตือนตน คือนึกถึงประโยคที่พูดกันเสมอ ดังเช่น "เรียกคนบ้าว่าคนเสียสติ หรือคนเสียสติว่าคนบ้า ไม่มีใครอยากเป็นคนบ้า" เราทุกคนไม่อยากถูกเรียกว่าคนบ้า "ดังนั้นพากันพยายามอบรมสติให้เต็มความสามารถ" ทุกเวลานาทีให้เตือนตนเองว่า "สติ สติเราต้องมีสติ เราต้องมีสติ" อย่าให้สติเสียไปจะเป็นคนบ้า .. "
แสงส่องใจ ๓ ตุลาคม ๒๕๔๙
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙ -
เคล็ดบูชาเทวดานพเคราะห์แบบไม่ต้องทำพิธี (หลวงปู่ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม)
เคล็ดบูชาเทวดานพเคราะห์แบบไม่ต้องทำพิธี (หลวงปู่ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม)
มีหลายท่านมักถูกทายทักว่านพเคราะห์หรือเคราะห์ไม่ดี จะต้องสะเดาะเคราะห์ซึ่งโหราบางทีก็มีสนนราคาที่แพง หรือจะรอพิธีสวดนพเคราะห์ที่วัด ก็นานบางวัดสวดปีใหม่ สงกรานต์ หรือลอยกระทงซึ่งช้าหรือไม่ทันการณ์เวลาที่มีพระเคราะห์เข้าหรือแทรก วันนี้ผมก็จะขอเสนอการสวดมนต์บุชาเทวดานพเคราะห์แบบไม่มีพิธีเยอะสามารถทำได้ที่บ้านและเห็นผลด้วย โดยเคล็ดนี้พ่อผมได้จากหลวงปู่ครูบาชัยวงศาท่านจดใส่กระดาษไว้และได้สงเคราะห์ทำให้คนอื่นและตัวท่านเองจนเห็นผลมาแล้วท่านจึงมอบมาให้บอกต่อครับ
ก่อนอื่นต้องเตรียมเครื่องบูชาเทวดานพเคราะห์ก่อนคือ
๑.ผ้าขาวและผ้าแดง ขนาด๙คูณ๙เซ็นติเมตร
๒.มะหร้าว ๒ ลูก
๓.กล้วยน้ำว้า ๒ผล
๔.เทียนสีผึ้ง หนัก สี่บาท ๑คู่
๕.ข้าวสาร ๑กระทง
๖.ข้าวตอกผสมกลีบดอกดาวเรือง ๑กระทง
๗.ขนมหวานตระกูลทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ๑ กระทง
๘.ถั่วห้าสี และเมล็ดธัญพืช ๑กระทง
๙. ธูปหอม จำนวน ๙ดอก
๑๐. เงินจำนวน ๑๐๘ (รวมกำลังวันนพเคราะห์)
เมื่อได้ของครบแล้ว ให้จัดของทั้งหมดยกเว้นธูป และเทียน ใส่ในถาด วางไว้หน้าพระประธานในบ้าน... -
หมดแล้ว หลวงพ่อบาทเดียว เกจิดังปาฏิหาริย์สองแผ่นดินไทย-ลาว
มีเสียงร่ำลือโจษขานมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ พลังศรัทธาที่เกิดขึ้นกับพระภิกษุรูปหนึ่งในจังหวัดหนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง ไม่เท่านั้นยังโด่งดังข้ามโขงไปยังนครเวียงจันทน์ และ สปป.ลาว เกือบทั่วแขวง แรงไม่หยุดทะลุไม่ยั้ง เวียดนาม, บรูไน, มาเลเซีย รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ประเทศ ของอาเซียน
หมายความว่าโด่งดังก่อนที่จะเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเมื่อปลายปีนี้เสียอีก โดยพลังศรัทธา!
ที่เกิดขึ้นนั้นแม้จะไม่โด่งดังเท่ากับลูกไฟที่โผล่จากลำน้ำโขงในช่วงเทศกาลออกพรรษาก็ตามเถิด (โยม) แต่ก็ได้สร้างความพิศวงให้แกผู้พบเห็นหรือผู้ที่ได้ประสบกับตัวเองเป็นจำนวนมาก จนเป็นกระแสที่ถูกถ่ายทอดปากต่อปากจากอดีตจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งจากปรากฏการณ์ดังกล่าวต่อมา ได้กลายเป็นวัฒนธรรมแห่งความเลื่อมใสศรัทธาในที่สุด
“หลวงพ่อบาทเดียว” คือที่มาแห่งความเลื่อมใส และได้มีการเล่าขานจนกลายเป็นตำนานอย่างที่เห็นนับเป็นปรากฏการณ์ ที่ได้เกิดขึ้นแล้วในแผ่นดิน แห่งความศรัทธาในพระพุทธศาสนา คือหลวงพ่อพระใสนั่นเอง และจากการที่จังหวัดแห่งนี้ถูกจัดให้เป็นจังหวัดที่มีความสุขในระดับต้นๆ ของเมืองไทย... -
ธูปเทียนในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร
✨ ธูปเทียนในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ✨
ถาม : ธูปเทียนที่ใช้ในการเป่ายันต์เกราะเพชรเอาไปจี้คนที่.. ❓
ตอบ : ถ้าใครผีเข้าก็ใช้ได้เลย
ถาม : ต้องจุดก่อนไหมคะ ❓
ตอบ : ไม่ต้อง...แค่แตะผีก็เผ่นแน่บแล้ว ‼️
ถาม : เอาไปแตะเฉย ๆ หรือคะ ❓
ตอบ : ถ้าจุดด้วย คนดี ๆ ก็เผ่น ..(หัวเราะ).. ไม่ต้องจุด ใช้แบบนั้นได้เลย
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ฯ
เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕
ที่มา : เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม
หน้า 383 ของ 412