2ขี้เมาคะนอง ปาดคอแท็กซี่จนมุมอ้างสนุก

2ขี้เมาคะนอง ปาดคอแท็กซี่จนมุมอ้างสนุก
"สองหนุ่มใหญ่" เมาคะนองริเป็นโจรตอนแก่รวมหัว จี้แท็กซี่ในซอยเปลี่ยว สบโอกาสล็อกคอชักมีดขู่เอาทรัพย์สิน ยัวะโชเฟอร์ควักเงินให้ 500 ใช้มีดฟันหน้าแหก ยังไม่หนำใจจับเชือดคอซ้ำ แต่โชคดีพลเมืองดีขับรถผ่านเห็นเหตุการณ์ สองคนร้ายรีบเผ่นหนีเข้าป่า ตำรวจปิดล้อมนาน 2 ชั่วโมง ลากคอ 1 ใน 2 คนร้ายทันควัน สารภาพสิ้นนึกสนุกอยากรู้ว่าตำรวจะจับได้มั้ย

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ประเสริฐ พิมเสน สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีแท็กซี่ถูกคนร้ายปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่คนร้ายได้หลบหนีซ่อนตัวอยู่ในป่าหญ้าหลังโรงงานจิงโก๊ะ หมู่ 5 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผกก. พ.ต.ท.พีรพล โชติกเสถียร สวป. พ.ต.ท.จีรวัฒน์ แนวจำปา สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง พบรถแท็กซี่จอดนับสิบคัน มีคนขับแท็กซี่และชาวบ้านต่างช่วยกันออกตามหาตัวคนร้าย จึงสั่งกระจายกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัย กว่า 40 นาย ปิดล้อมตรวจค้น ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

พบหนึ่งในคนร้ายซ่อนตัวอยู่ร่องน้ำในป่าหญ้า ห่างจากจุดเกิดเหตุ 800 เมตร สภาพเสื้อผ้าเปียกโชกไปทั้งตัว เมื่อคนขับแท็กซี่และชาวบ้านที่มาช่วยกันค้นหาเห็นคนร้าย ต่างพากันเข้ารุมประชาทัณฑ์ ตำรวจต้องช่วยปัดป้องเป็นพัลวัน และรีบนำตัวคนร้ายขึ้นรถมาสอบสวนดำเนินคดีทันที

ส่วนเหยื่อเคราะห์ร้ายรายนี้ ทราบชื่อคือ นายละหม้าย ปานกลิ่น อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 330 ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. คนขับรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มข 8850 กรุงเทพมหานคร ซึ่งพลเมืองดีได้นำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลปทุมธานี มีบาดแผลถูกอาวุธมีดปาดเข้าที่ลำคอ เป็นแผลยาว 3 ซม. และที่ใบหน้าเป็นทางยาว ตั้งแต่หูซ้ายไปถึงหูขวา อาการสาหัส ต้องเย็บบาดแผลที่บริเวณใบหน้าถึง 30 เข็ม

เหยื่อเคราะห์ร้าย ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ได้รับผู้โดยสาร เป็นชาย 2 คน จากบริเวณปากทางเข้าวัดมะขาม หมู่ 10 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ไปส่งหน้าโรงงานจิงโก๊ะ เขต ต.บางคูวัด ขณะขับรถเข้ามาในซอยใกล้จะถึงโรงงานจิงโก๊ะ ชาย 2 คนได้บอกให้จอดรถ จากนั้นคนที่นั่งทางขวาด้านหลังได้ล็อกคอตน แล้วใช้อาวุธมีดจี้ที่ลำคอ พร้อมบอกว่า ส่งเงินและของมีค่าในตัวมาให้หมด ซึ่งตนก็รีบทำตาม โดยส่งเงิน 500 บาทที่มีติดตัวให้

เมื่อคนร้ายอีกคนเห็นว่ามีเงินแค่นี้ จึงชักอาวุธมีดสปาร์ต้าฟันที่ใบหน้าของตน ทำให้ได้รับบาดเจ็บ และกำลังจะฟันซ้ำ แต่ช่วงนั้นมีรถยนต์วิ่งเข้ามาพอดี คนร้ายทั้งสองคนจึงวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหญ้า เมื่อคนร้ายวิ่งไปแล้วจึงลงจากรถด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด แล้วไปขอความช่วยเหลือจากโรงงานจิงโก๊ะทันที

จากการสอบสวน นายไกรสร ภาพกลาง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185/3 แขวงและเขตพญาไท กทม. อาชีพรับจ้าง หนึ่งในคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุปล้นทรัพย์นายละหม้าย ให้การว่า ตนกับเพื่อนไปนั่งกินเหล้าที่หน้าวัดมะขาม พอเมาได้ที่ก็ชวนกันไปโบกรถแท็กซี่เพื่อปล้นทรัพย์ ส่วนสาเหตุที่ตนกับเพื่อนทำไปนั้น เพียงแค่นึกสนุกและอยากรู้ว่าตำรวจจะตามจับได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง

ด้าน พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าวว่า จากการสอบสวนนายไกรสร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนก่อเหตุปล้นทรัพย์รถแท็กซี่จริง จึงดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้เจ้าทรัพย์ได้รับบาดเจ็บแก่ร่างกายและจิตใจ ส่วนผู้ต้องหาอีกคนที่ยังหลบหนี ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว กำลังขออนุมัติหมายจับเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป