12 ส.ค.ชวนแม่ไปดูฝนดาวตก

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย paang, 5 สิงหาคม 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>ภาพถ่ายดาวตกจากปรากฏการณ์ฝนดาวตกเพอร์ซิอิดของ เจอร์รี ชาด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>บริเวณที่จะเห็นจุดกระจายของฝนดาวตกอยู่ทางทิศตะวันออกระหว่างกลุ่มดาวค้างคาว(แคสซิโอเปีย) และกลุ่มดาวเพอร์ซิอุส ซึ่งจะเห็นชัดในคืนวันแม่</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>วันแม่ (12 ส.ค.) ที่จะถึงนี้มีแผนพาแม่ไปเที่ยวที่ไหนกันหรือยัง ถ้ายังไม่มีก็พาแม่ไปดูดาวตกดีไหม เพราะเดือนสิงหาคมนี้จะมีปรากฏการณ์ฝนดาวตกที่ชื่อฝนดาวตกเพอร์ซิอิด (Perseid Meteor Shower) และจะเห็นได้ชัดในคืนวันแม่พอดีเนื่องจากเป็นคืนจันทร์แรมที่ฟ้ามืด



    ทั้งนี้เราจะเห็นฝนดาวตกเพอร์ซิอิดได้ในทุกพื้นที่ของประเทศ หากแต่ต้องเป็นพื้นที่ซึ่งไม่มีแสงไฟรบกวน โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออกระหว่างกลุ่มดาวเพอร์ซิอัสและกลุ่มดาวค้างคาว หรือที่เหล่านักดาราศาสตร์เรียกว่ากลุ่มดาวแคสซิโอเปีย อันเป็นจุดกระจายของกลุ่มดาวตก ซึ่งฝนดาวตกเพอร์ซิอิดจะเริ่มมีให้เห็นในวันที่ 7 ส.ค. แต่จะเห็นได้ชัดที่สุดในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนของวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งเป็นคืนจันทร์แรม จากนั้นจะเห็นได้มากฝนดาวตกมากที่สุดในเวลาประมาณ 2.30 นาฬิกาของวันที่ 13 ส.ค.

    จากข้อมูลของนายวรเชษฐ์ บุญปลอด ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของ สมาคมดาราศาสตร์ไทย อธิบายว่าฝนดาวตกดังกล่าวเป็นผลมาจากการเคลื่อนที่ของโลกผ่านฝุ่นของดาวหางสวิฟต์-ทัตเทิล ที่มีคาบโคจรรอบดวงอาทิตย์ทุกๆ 130 ปี โดยดาวหางดวงนี้ได้มาเยือนโลกเมื่อปลาย พ.ศ.2535 ทำให้เกิดฝนดาวจำนวนมากด้วยอัตรา 400 ดวง/ชั่วโมง และลดจำนวนลงในปีต่อๆ มา

    ข้อมูลของนายวรเชษฐ์ยังอธิบายอีกว่า ปรากฏการณ์ฝนดาวตกนั้นเกิดขึ้นเมื่อโลกเคลื่อนที่ผ่านฝุ่นของดาวหาง โดยฝุ่นดังกล่าวเกิดจากการเคลื่อนที่ของดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น รังสีจากดวงอาทิตย์จะทำให้ผิวของดาวหางระเหิดแล้วปลดปล่อยก๊าซและฝุ่นออกมา และฝุ่นเหล่านี้ผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศ จะทำให้เกิดความร้อนอันเป็นผลให้โมเลกุลของอากาศแตกตัวแล้วคายพลังงานออกมาในรูปของแสงสว่าง

    สำหรับปีนี้เรามีโอกาสจะได้เห็นฝนดาวตกเพอร์ซิอิด 60-100 ดวง/ชั่วโมง ซึ่งนายพรชัย รังษีธนะไพศาล เจ้าหน้าที่สมาคมดาราศาสตร์ฯ ยืนยันว่าเป็นปริมาณฝนดาวตกที่เห็นได้พอสมควร แม้ปริมาณฝนดาวตกจะไม่หนาตาเหมือนเมื่อครั้งดาวหางหางสวิฟต์-ทัตเทิลมาเยือนในช่วงปีแรก แต่ฝนดาวตกครั้งนี้ก็มีความสว่างพอๆ กับฝนดาวตกสิงโตหรือฝนดาวตกลีโอนิดส์เมื่อ พ.ศ.2544-2545 เลยทีเดียว

    อย่างไรก็ดีในวันที่ 12-13 ส.ค.นี้ ทางสมาคมดาราศาสตร์ได้ จัดกิจกรรมสังเกตปรากฏการณ์ฝนดาวตกขึ้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งจะมีกิจกรรมพิเศษคือสอนการดูดาว เดินป่า ดูนกและชมน้ำตกม่านฟ้าของอุทยาน พร้อมกันนี้จะมีการ พร้อมกันนี้จะมีการตั้งกล้องสำหรับดูดาวขนาด 3 นิ้วและ 8 นิ้ว โดยคิดค่าทะเบียนสำหรับผู้เลือกบ้านพักของอุทยานฯ ท่านละ 2,250 บาท และสำหรับผู้เลือกเต็นท์คนละ 2,100 บาท

    อุทยานทับลานนั้นมีป่าลานที่ขึ้นเองตามธรรมชาติแห่งสุดท้ายของประเทศไทย และมีพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลปาล์มที่หายากเหลืออยู่แห่งเดียว นอกจากนั้นยังมีพันธุ์ไม้หลายชนิดให้ศึกษา เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำหลายสาย อีกทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับดูดาวที่ดีแห่งหนึ่งเนื่องจากมีลานกว้างที่สามารถมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนได้โดยรอบ

    ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ น.ส.สุกัญญา พึ่งผลงาม 0-2381-7409-10, นายพรชัย รังษีธนะไพศาล โทร.0-1833-6511, นายกวี สุขะตุงคะ โทร.0-9005-1152 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเวบไซต์ของสมาคมฯ http://thaiastro.nectec.or.th/activity/index.html



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [music]http://palungjit.org/attachments/a.26977/[/music]



    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Attached Files</LEGEND><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ค่าน้ำนม_จักรพันธ์_อาบครบุรี.wma (764.6 KB, 63 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>กลับบ้านเกิดลูก_ชินกร_ไกรลาศ.wma (920.5 KB, 0 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>กลับบ้านเกิดลูก_ชินกร_ไกรลาศ.wma (920.5 KB, 0 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>พ่อแม่ใคร_ชินกร_ไกรลาศ.wma (855.4 KB, 0 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>แม่_คัมภีร์.wma (1.10 MB, 0 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>แม่_คีรีบูน.wma (920.1 KB, 1 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>แม่_เสก_โลโซ.wma (929.0 KB, 0 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>รางวัลแด่แม่_สมภูมิ_โฆษิตสัจจามร.wma (729.6 KB, 0 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>แว่วเสียงแม่_สมภูมิ_โฆษิตสัจจามร.wma (1.09 MB, 1 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>อ้อมอกแม่้.wma (984.2 KB, 5 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET> <!-- / attachments --><!-- sig -->____________________________
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2005
  2. Catwater

    Catwater เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2005
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +142
    เหอะ เหอะ เหอะ มีนิทานของฝนดาวตกครั้งแรกเล่าให้ฟัง


    ในครั้งที่พระศรีอารีย์ลงมาสร้างบารมีในครั้งที่ 9 เป็นผู้ไถ่บาป... ตอนนั้นพระเยซูต้องคลายสะกดตั้งแต่เด็ก เนื่องจากว่าถ้าเทพลงมาเกิดเป็นมนุษย์จะต้องทำสะกดเพื่อสะกดกายทิพย์สะกดปัญญาความทรงจำลงให้เท่ากับมนุษย์ธรรมดาทั่วไปเพื่อที่จะดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างสะดวก ( เพราะถ้ามีจุดเด่นจะถูกเพ่งเล็งจะถูกจ้องจับผิด )

    เมื่อทำสะกดแล้วกายทิพย์จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านสะกด ทำให้ในการสะกดกายทิพย์ครั้งต่อไปจะยากขึ้นและต้องใช้สะกดที่แรงขึ้น พระศรีอารีย์ที่ลงมาบ่อยมาก จึงทำให้สะกดของพระศรีอารีย์ต้องแรงขึ้นแรงขึ้นเรื่อยๆจนในครั้งที่ 9 นี้ได้กำหนดให้สะกดคลายตั้งแต่อายุยังน้อย ( เพราะถ้ามันจะจำได้แล้วก็ทำให้สะกดคลายเลยจะดีกว่าปล่อยให้มันจำได้ครึ่งๆกลางๆ ) เมื่อสะกดคลายแล้วพระศรีอารีย์ก็รู้ตัวว่าตัวเองจะต้องถูกฆ่าเพื่อล้างบาปให้กับคนทั้งโลก พระศรีอารีย์จึงกลัวมาก ดำรงชีวิตอยู่อย่างปลงชีวิต

    และเนื่องจากพระศรีอารีย์ชอบดูดาว ตอนกลางคืนจะออกมาดูดาวอยู่เป็นประจำ วันหนึ่งพระเจ้าก็บอกว่า " ชาตินี้เจ้าลงไปพ่อไม่ได้ทำอะไรให้ลูกเลย งั้นเอางี้ละกัน " ... ( เพราะปกติแล้วถ้าลงมาช่วยใครหรือรบกับใครพระเจ้าก็จะสร้างปาฏิหารย์ให้รบชนะเสมอ แต่ชาตินี้ไม่ต้องรบกับใครไม่ต้องช่วยใครแค่ลงมาแล้วก็ตายเฉยๆก็เลยไม่ต้องการปาฏิหารย์ )
    ตอนนั้นพระศรีอารีย์ก็มองดูท้องฟ้า แล้วก็เกิดดาวตกพุ่งข้ามฟ้าไป พระเจ้าก็ถามว่า " ไง.. สวยมั้ย " พระศรีอารีย์ก็บอกว่า " สวย... "
    พระเจ้าก็บอกว่า " ถ้าเจ้าอธิฐานขณะที่ดาวตกยังไม่หายไปล่ะก็ คำอธิฐานของเจ้าจะเป็นจริง "
    พระศรีอารีย์ก็ถามว่า " จริงเหรอ... " พระเจ้าก็บอกว่า " จริงสิ "
    พระศรีอารีย์ก็เลยบอกว่า " งั้นเราจะขอให้เขาไม่ต้องฆ่าเรา... "
    พระเจ้าก็ตวาด " ศรีอารย์... เนี่ยเจ้าไม่ได้กะเมียเจ้าซะที เจ้าก็ขอให้เจ้าได้กับเมียเจ้าสิ "
    พระศรีอารีย์เลยขอให้ได้กับเมียตัวเองไป
    เหอะ เหอะ เหอะ อันนี้เป็นนิทานหลอกเด็ก จะลองดูก็ได้นะไม่ว่าอะไร ( แต่ไม่รู้จะเวริค์ป่าวนะ แต่ประสพการณ์ส่วนตัวรู้สึกว่าจะไม่เวริค์ เอ้ยม่ายช่ายยยย 55555 )

    (*) (*) (*) :d
     

แชร์หน้านี้

Loading...