♠:แสวงบุญ"พุทธภูมิ"เห็นอย่างที่เขาเป็นดูอย่างที่เราเห็น:♠

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 13 ธันวาคม 2008.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>แสวงบุญ" พุทธภูมิ"เห็นอย่างที่เขาเป็นดูอย่างที่เราเห็น
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ในปีหนึ่งๆมีผู้ศรัทธาเลื่อมใสจาริกไปแสวงบุญตามพุทธสถานเป็นจำนวนมาก นับเป็นบุญชีวิตของชาวพุทธที่ยากจะพรรณนา เรียกว่า ได้เห็นก็เป็นบุญตาได้สวดมนต์ภาวนาก็เป็นบุญปาก ยิ่งเดินทางลำบากยิ่งเป็นบุญใจ ทั้งนี้เพราะความศรัทธาต่อพระบรมศาสดาโดยแท้




    ผู้มาจาริกแดนพุทธภูมิมากันหลายหลากมากประเภทมีความประสงค์เป็นของตัวเองค่อนข้างสูง ด้วยศรัทธาต่อพระบรมศาสดาเป็นหลักในความเลื่อมใสที่แตกต่างกัน พอจะสรุปเป็นวัตถุประสงค์ที่คล้ายๆ กันของการเดินทางมาอินเดีย ดังนี้

    ๑.มาไหว้พระ เพราะเป็นเมืองกำเนิดพระและเจ้า
    ๒.มาพบปะสิ่งต่างๆ เพราะเป็นศูนย์รวมแห่งความหลากหลาย
    ๓.มาเปิดกว้างทางความคิดเพราะเป็นตะกร้าแห่งความคิด
    ๔.มาตั้งจิตปฏิบัติธรรมเพราะป็นโรงเรียนเตรียมอริยะ
    ๕.มาน้อมนำสิ่งที่ดีกลับไปเพราะเป็นที่ให้โอกาสแก่ผู้แสวงหาและ
    ๖.มาทำใจให้ถึงพระนิพพานเพราะเป็นที่พบบรมธรรม


    การได้ไปกราบไหว้สังเวชนียสถาน๔ ตำบล นั้นพระราชรัตนรังษี เจ้าอาวาสวัดไทยกุสินารา ประเทศอินเดีย รักษาการเจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กทม.บอกว่า จะต้องมีสิ่งนำพาคือ

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    ๑.สถานที่ประสูติ: ลุมพินีวัน ได้ชีวิตดี มีหลักประกัน, ได้ความเป็นเลิศประเสริฐสุด, ได้ความก้าวหน้ายอดเจริญ
    ๒.สถานที่ตรัสรู้: พุทธคยา ได้ปัญญาเป็นอาวุธ, ได้รับความรู้แจ้งแทงตลอด, ได้ชัยชนะด้วยบารมีไม่มีแพ้
    ๓.สถานที่แสดงปฐมเทศนา: พาราณสี ได้บริวาร เปิดมิตร ปิดศัตรู, ได้ความไม่วุ่นวายไม่ขัดข้อง, ได้ดวงตาเห็นธรรมล้ำเลิศ

    และ

    ๔.สถานที่ปรินิพพาน: นครกุสินารา ได้อายุยืนยาว ป่วยหาย หน่ายรัก, ได้มรดกยกฐานะ มีทรัพย์นับไม่ถ้วน, ได้พ้นจากเครื่องเสียดแทนการทำร้ายทั้งปวง มีสติปัญญาควบคู่กับศรัทธาจึงจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ตลอดการเดินทางจาริกแสวงบุญตามรอยบาทพระศาสดา
    [​IMG]




    ผู้เดินทางมาบูชากราบไหว้พระพุทธเจ้าตามพุทธสถานในพุทธภูมิ ล้วนมากันด้วยพลังศรัทธา อันเกิดจากพุทธวจนะ ที่ทรงชี้นำทางเหมือนว่าเชื้อเชิญ หรือกวักพระหัตถ์ให้โอกาสทองมาได้รับสิ่งดีๆ แก่ชีวิต โดยนำสังเวชนียสถาน ๔ แห่งมาเป็นสื่อการเข้าถึงพระรัตนตรัย ตามที่พระอานนท์ทูลถาม ก่อนเสด็จปรินิพพาน ณ ที่สาลวโนทยานในกรุงกุสินาราว่า
    เมื่อกาลก่อนพุทธบริษัทในทิศทั้งหลาย ต่างพากันมาเพื่อเฝ้าพระตถาคต ย่อมได้เห็น ได้เข้าไปนั่งใกล้ภิกษุผู้ใหญ่ เจริญใจเหล่านั้น ก็แต่ว่า เมื่อกาลล่วงไปแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า จักไม่ได้เห็น ไม่ได้เข้าไปนั่งใกล้ภิกษุผู้ใหญ่เจริญใจเหล่านั้นอีก

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    พระพุทธเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา ด้วยระลึกว่า

    พระตถาคตประสูติในที่นี้ ๑
    พระตถาคตตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้
    พระตถาคตยังธรรมจักรให้เป็นไปแล้วในที่นี้
    พระตถาคตเสด็จปรินิพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้

    ดูก่อนอานนท์ ชนเหล่าใด เที่ยวจาริกไปยังเจติยสถานเหล่านั้นแล้ว มีจิตเลื่อมใส ชนเหล่านั้นทั้งหมด เบื้องหน้าแต่ตายมลายไป จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

    คนที่มาอินเดียมาเองก็มี เพื่อนชวนมาก็มี ถูกหลอกให้มาก็มี พระแนะนำมาก็มี ล้วนแต่มีที่ไปที่มาต่างกัน คิดดูให้ดีๆ แล้ว ศรัทธานี่เองพาเรามา กัลยาณมิตรช่วยให้เราได้มา คนเราเมื่อทำอะไรด้วยศรัทธาแล้ว เหมือนมีแก้วสารพัดนึก มีกุญแจไขตู้สมบัติ

    ขอให้มีศรัทธาเถิด ประเสริฐทุกเรื่อง เพราะมีศรัทธา คือ มีความเชื่อมั่นในตนเอง, คือมีความเชื่อมั่นในงานที่ทำ, คือมีความเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมงาน, คือมีความเชื่อมั่นในอุดมการณ์

    คนเราเมื่อศรัทธาจะทำ ทำสิ่งใดก็ไม่จำใจทำ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและในความศรัทธา ยังมีความสงบเยือกเย็น เป็นวิตามินหล่อเลี้ยงอีกด้วย นี่คือเหตุผลของการเดินทามาแสวงบุญที่พุทธภูมิในมุมของพระราชรัตนรังษี


    พร้อมกันนี้พระราชรัตนรังษี ยังอธิบายให้ฟังด้วยว่า การมาอินเดียเราต้องดูความเจริญในความเสื่อม หมายความว่า เมื่อเราดูสถูป วิหาร เจดีย์ ผู้คนยากจน แต่งตัวมอมแมม กระท่อมดินเล็กๆ ถนนหนทางหลุมบ่อล้าหลัง เหล่านี้คือเรื่องความเสื่อมถอยทั้งสิ้น แต่กลับมาดูจิตใจเราเหมือนเจริญขึ้น ภูมิใจกับตนเอง ภูมิใจในประเทศของตนมากขึ้น คิดว่าอย่างไรเสีย เรายังดีกว่าเขาอีกมากหลาย

    ในขณะที่เราไปประเทศอื่นๆ ไปดูความเสื่อมในความเจริญ เช่น เห็นบ้านเรือนเขาเจริญ มีรถ มีบ้าน มีที่ทำงาน ผู้คนแต่งตัวหน้าตาสวยๆ งามๆ หันกลับมามองที่ตัวเรา บ้านก็ไม่หรู ตู้ก็ไม่สวย รถก็ตกรุ่นไปแล้ว อะไรๆ ก็สู้เขาไม่ได้ นี่เองที่เรียกว่า ความเสื่อมในความเจริญ สิ่งที่เรียกกันว่า ความเจริญ เจาะให้ลึกจะเห็นความเสื่อมกำลังตามมา

    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    นอกจากนี้แล้วอินเดียมีกฎอยู่ ๓ กฎ คือ

    ๑.กฎศาสนา
    ๒.กฎวัฒนธรรม และ
    ๓.กฎหมาย

    กฎใหญ่สุด คือ กฎศาสนา ยังเป็นสื่อนำในการสร้างสรรค์สังคมได้อย่างแนบแน่นและสนิทเป็นภาพรวมของจิตใจ ส่วนวัฒนธรรม ครอบครัวเป็นภาพรวมของสังคม ซึ่งเป็นกฎย่อยในศาสนา และกฎหมายเป็นวัฒนธรรมของความขัดแย้ง ถ้าไม่มีความขัดแย้งกฎหมายก็ไม่เกิด เพราะฉะนั้น การปกครองโดยกฎหมายมากๆ เราอย่าคิดว่าดีนะ เพราะมันเกิดจากความขัดแย้งแต่วัฒนธรรมเกิดมาจากความคิดร่วมกัน วัฒนธรรมของศาสนามาจากความปลงใจร่วมกัน

    อินเดียยังนิยมในการใช้กฎศาสนามากกว่าคือ ถ้ามีความขัดแย้งปั๊บ สร้างความเข้าใจ อย่างเช่นปากีสถานจะสร้างนิวเคลียร์ นายกฯ อินเดียบอกว่าต้องสร้างความเข้าใจ <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    การที่นางโซเนียไม่รับตำแหน่งก็มาสร้างความเข้าใจกัน ทำให้การเมืองดูไม่แข็งกร้าว นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นสิกข์ ประธานนาธิบดีอับดุล กาลัม เป็นมุสลิม ประธานพรรคคองเกรส โซเนีย เป็นคาทอลิก
    อยู่กันได้อย่างไรเพราะกฎศาสนา กฎของศาสนาทำให้คนเข้าใจกันกฎวัฒนธรรม ทำให้คนเห็นใจกัน กฎหมายต้องพูดเบาๆ เพราะทำให้คนกินใจกัน



    อย่างไรก็ตามพระราชรัตนรังษี พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า ธงชาติอินเดียมี๓ สี สีแสด คือ สีนักบวชของศาสนาฮินดู สีเขียว คือ เกษตร และสีขาว คือศาสนา ตรงสีขาวมีธรรมจักรอยู่ ดังนั้นคนอินเดียเขามีศาสนาที่เกิดในประเทศของเขาเป็นศาสนาประจำชาติหมด เพราะว่าศาสนาก็คือชาติ ชาติก็คือศาสนา จนแยกกันไม่ออกเลย ทั้งชาติศาสนา ประชาชน ปนอยู่ในคำว่าอินเดียทั้งหมด


    0 เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู / ภาพ บันลือศักดิ์ บุญเรืองขาว 0
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ----------
    [​IMG]
    http://www.komchadluek.net/2008/12/13/x_phra_j001_324018.php?news_id=324018
     
  2. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,683
    ค่าพลัง:
    +9,239
    "๑.สถานที่ประสูติ: ลุมพินีวัน ได้ชีวิตดี มีหลักประกัน, ได้ความเป็นเลิศประเสริฐสุด, ได้ความก้าวหน้ายอดเจริญ
    ๒.สถานที่ตรัสรู้: พุทธคยา ได้ปัญญาเป็นอาวุธ, ได้รับความรู้แจ้งแทงตลอด, ได้ชัยชนะด้วยบารมีไม่มีแพ้
    ๓.สถานที่แสดงปฐมเทศนา: พาราณสี ได้บริวาร เปิดมิตร ปิดศัตรู, ได้ความไม่วุ่นวายไม่ขัดข้อง, ได้ดวงตาเห็นธรรมล้ำเลิศ
    ๔.สถานที่ปรินิพพาน: นครกุสินารา ได้อายุยืนยาว ป่วยหาย หน่ายรัก, ได้มรดกยกฐานะ มีทรัพย์นับไม่ถ้วน, ได้พ้นจากเครื่องเสียดแทนการทำร้ายทั้งปวง
    มีสติปัญญาควบคู่กับศรัทธาจึงจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ตลอดการเดินทางจาริกแสวงบุญตามรอยบาทพระศาสดา"
    ขออนุโมทนาค่ะ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PIC_1625.JPG
      PIC_1625.JPG
      ขนาดไฟล์:
      383.5 KB
      เปิดดู:
      121
    • PIC_1252.JPG
      PIC_1252.JPG
      ขนาดไฟล์:
      630.4 KB
      เปิดดู:
      142
    • PIC_1389.JPG
      PIC_1389.JPG
      ขนาดไฟล์:
      499.3 KB
      เปิดดู:
      125
    • PIC_1720.JPG
      PIC_1720.JPG
      ขนาดไฟล์:
      861.7 KB
      เปิดดู:
      144
    • PIC_1743.JPG
      PIC_1743.JPG
      ขนาดไฟล์:
      824.2 KB
      เปิดดู:
      132
  3. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    อยากไปสังเวชนียสถาน๔ ตำบล มากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...