เรื่องเด่น “ท่านเจ้าคุณนรฯกระซิบบอก ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ว่า…ไอ้บ้า”(เล่าโดย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 19 กันยายน 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    234-1พลังจิต.jpg

    เรื่อง “ท่านเจ้าคุณนรฯกระซิบบอก ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ว่า…ไอ้บ้า”

    (เล่าโดย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช)



    ผมเพิ่งได้ทราบข่าวเดี๋ยวนี้เองว่า พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต ได้มรณภาพเสียแล้วที่วัดเทพศิรินทร์ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2514 เมื่อเวลาหลังเพลเล็กน้อย

    นามฉายาของท่านคือ “ธมมวิตกโก ภิกขุ”

    ตอนนี้ท่านอายุ 20 กว่า เป็นพระยาและได้สายสะพายแล้วด้วย ท่านรับราชการกรมมหาดเล็กหลวง และมีตำแหน่งเป็นต้นห้องพระบรรทม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าที่ของท่าน คือ อยู่รับใช้ใกล้ชิดพระองค์ในที่รโหฐาน และเป็นผู้บังคับบัญชามหาดเล็กพระบรรทมคนอื่นๆ ซึ่งมีอยู่หลายคน

    เจ้าคุณนรรัตนฯสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนข้าราชการพลเรือนที่หอวัง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเรียนสำเร็จแล้วก็ต้องเข้าไปรับราชการในกรมมหาดเล็ก เพื่อศึกษาราชการตามระเบียบ ก่อนที่จะไปรับราชการกรมกองอื่นๆ

    แต่เจ้าคุณนรรัตนฯ คิดอยู่ที่กรมมหาดเล็ก และอยู่ที่ห้องพระบรรทมอยู่จนตลอดรัชกาล ความจำของเด็กเล็กๆ ซึ่งบัดนี้แก่แล้ว จะต้องกระจัดกระจายเป็นธรรมดา ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ผมนึกออกเกี่ยวกับเจ้าคุณนรรัตนฯ ครั้งหนึ่งเห็นท่านกำลังติดพระตรากับฉลองพระองค์ ซึ่งสวมไว้กับหุ่นช่างตัดเสื้อ ท่านติดจนเสร็จแล้วท่านก็ถอยออกมานั่งดูอยู่นาน ไม่พูดจากับใคร

    อีกครั้งหนึ่งเห็นท่านนั่งชุนกางเกงจีนเก่าๆของใครอยู่ เสือกเข้าไปถามท่านตามวิสัยของเด็กทะลึ่ง ว่าท่านชุนกางเกงของท่านเองหรือ ท่านบอกให้ผมลงกราบกางเกงที่ท่านกำลังชุนอยู่นั้น แล้วบอกว่าเป็นพระสนับเพลาจีนของพระเจ้าอยู่หัว แล้วท่านก็บ่นอุบอิบอยู่ในคอว่า “เป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน แต่ก็ชอบนุ่งกางเกงขาดๆ เก่าๆ อย่างนี้แหละ หาใหม่ให้ก็ไม่เอา ครั้นจะปล่อยให้นุ่งกางเกงขาดก็ขายหน้าเขา”

    จำได้ว่าเวลาท่านพูดกับเด็กอย่างผม แล้วท่านใช้วาจาหยาบคายสิ้นดี พูดไม่เว้นแต่ละคำ แต่ท่านมีทอฟฟี่แจก เด็กก็เมียงเข้าไปบ่อยๆ เด็กที่วิ่งๆอยู่ในวังสมัยนั้นมีมากและบางคน(อย่างผม) ก็เป็นเด็กที่ซุกซน ขนาดเหลือขอจริงๆทีเดียว บางครั้งเข้าไปซุกซนใกล้ที่ประทับจนถูกกริ้วต้องพระราชอาญา มีรับสั่งให้เจ้าคุณนรรัตนฯ เอาไปตีเสียให้เข็ด

    เจ้าคุณนรรัตนฯ ก็ลากตัวเข้าไปในห้องซึ่งอยู่ใกล้ที่ประทับ แล้วเอาไม้เรียวซึ่งเตรียมไว้แล้วมาหวดซ้ายป่ายขวา ลงไปกับเก้าอี้บ้างกระดานบ้างให้มีเสียงดัง “ร้องให้ดังๆ นะ ไม่ร้องพ่อตีตายจริงๆ ด้วยเอ้า” เด็กก็ร้องจ้าขึ้นมา และก็จะได้ยินพระสุรเสียงดังมาจากที่ประทับทันที “พอทีข้าสั่งให้ตีสั่งสอนมันเพียงหลาบจำ เอ็งตีลูกเขาอย่างกับตีวัวตีควาย ลูกเขาตายไปข้าจะเอาที่ไหนไปใช้เขา” เจ้าคุณนรรัตนฯ ก็กระซิบบอกเด็กว่า “ไหมล่ะ !”

    เด็กก็พ้นพระราชอาญาเพียงแค่นั้น และความรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ก็จะติดอยู่ในตัวในใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่มีวันที่จะลืมเลือนได้ ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าคุณนรรัตนฯได้อุปสมบทหน้าพระเพลิง อย่างที่สามัญชนเรียกว่าบวชหน้าไฟ และท่านก็ได้ครองสมณเพศตลอดจนจนถึงมรณภาพ เป็นเวลา46ปีเต็ม สี่สิบหกปีแห่งความกตัญญูอันมั่นคงหาที่เปรียบได้ยาก ความจริงเมื่อเสด็จสวรรคตนั้น เจ้าคุณนรรัตนฯ มีทั้งฐานะ ทั้งทรัพย์ และโอกาสที่จะหาความเจริญในโลกต่อไปอย่างพร้อมมูล

    ในทางชีวิตครอบครัวท่านก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่ท่านก็ได้สละสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดออกอุปสมบท และอยู่ในสมณเพศ ตลอดชีวิต เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระคุณแก่ท่าน นับว่าเป็นตัวอย่างแห่งความกตัญญูซึ่งควรจะจารึกไว้

    เมื่ออยู่ในสมณเพศนั้น เจ้าคุณนรรัตนฯ ฉันอาหารวันละหนเท่านั้น อาหารที่ท่านฉัน มีข้าวสุก มะพร้าว กล้วย เกลือ มะนาว และใบฝรั่ง ท่านลงไปโบสถ์ทำวัตรเช้าและเย็นวันละสองครั้ง ไม่เคยขาด จนมรณภาพ ดูเหมือนจะขาดอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถระ ขณะที่ท่านยังมีชีวิตและเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์อยู่ สั่งให้อยู่ที่กุฏิเพราะท่านอาพาธ

    ท่านเป็นพระที่สงบสงัดจากโลกแล้ว ไม่เคยโด่งดัง แม้แต่ธรรมที่ท่านได้แสดงไว้เมื่อพิมพ์แล้ว ก็ได้เป็นสมุดเล่มเล็กๆ มีเนื้อความเพียง 22 หน้ากระดาษ และแบ่งออกเป็นเรื่องสั้นๆ ได้ 8 บท บทที่ 7 นั้นมีเพียงเท่านั้น แต่ก็ขอให้ท่านอ่านเอาเองเถิดว่าเป็นความจริงเพียงไร และน่าประทับใจเพียงไร

    ครั้งหนึ่งมีคนเขาไปลือว่า ท่านสำเร็จพระอรหันต์แล้ว ผมพบท่านโดยบังเอิญที่วัดเทพศิรินทร์ก็เข้าไปกราบท่าน แล้วกราบเรียนถามท่านว่า เขาลือกันว่าใต้เท้าสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วจริงหรือครับ ท่านดึงหูผมเข้าไปใกล้ๆ แล้วกระซิบว่า “ไอ้บ้า”




    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กันยายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...