ไม่เชื่อไม่ว่า แต่อย่ามาบ้าให้เห็น (สิ้นปี 2554-2555)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย mojito544, 24 ตุลาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    เริ่มกันเลยคับ
    ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็เชิญลงเลยนะครับ



    [​IMG]
    เรื่องที่ 1 ยานอวกาศต่างดาวขนาดยักษ์สามลำ กำลังมุ่งตรงมายังโลก !!!
    นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ยานเหล่านั้นจะมาถึงโลกในเดือนพฤศจิกายน 2011 ปัจจุบันการเผชิญหน้ายาน UFO เริ่มมีเพิ่มมากขึ้น – ตามที่มีรายงานเอกสารใน WWN และนักวิทยาศาสตร์ที่สถาบัน SETI( Search for Extraterrestrial Intelligence) องค์กรอิสระมิใช่เชิงพาณิชย์ ได้ประกาศอย่างจริงจังว่า




    “ ยานอวกาศขนาดยักษ์สามลำ กำลังเดินทางตรงมาสู่โลก ลำที่ใหญ่ที่สุดกว้างถึง 300 ไมล์ อีกสองลำเล็กลงกว่าเล็กน้อย ปัจจุบันวัตถุทั้งสามดังกล่าวกำลังโคจรผ่านดาวพฤหัสบดีเข้ามา เมื่อดูจากความเร็วของยานทั้งสาม มันคงจะมาถึงโลกในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2011 “ ผู้รายงานข่าวนี้คือ John Malley ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุนอกโลกชั้นนำที่สถาบัน SETI





    ยานอวกาศทั้งสามลำถูกจับได้โดยระบบสอดส่ายหาของ HAARP ระบบข่ายงานตั้งอยู่ที่ Alaska ถูกจัดตั้งเพื่อศึกษาปรากฎการณ์แสงเหนือ ตามผู้วิจัยของ SETI วัตถุที่เห็นคือยานอวกาศนอกโ,ก พวกยานเหล่านี้จะมองเห็นได้ด้วยกล้องโทรทัศน์เลนส์กระจก ทันทีที่มันมาถึงเส้นทางโคจรของดาวอังคาร( Mars) -- ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2011 รัฐบาลสหรัฐได้รับการบอกกล่าวให้ทราบเกี่ยวกับปรากฎการณ์นี้แล้ว



    ไม่ใช่ข่าวล้อเล่น แต่เป็นเรื่องความเป็นความตายของมนุษย์บนโลกที่ชื่อ Earth ใบนี้ และขอให้ติดตามตอนต่อไป อย่าได้กระพริบตา

    จะบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ข้อมูลนี้ไปตรงกับคำทำนายของนาย Harold Camping ที่ทำนายว่าจะเกิดวันสิ้นโลกจริงในวันที่ 21 ตุลาคม 2011 นี้

    มิหนำซ้ำข่าวร้อนที่ NASA ยืนยันว่า ยานอวกาศต่างดาวขนาดยักษ์สามลำ กำลังมุ่งตรงมาสู่โลกเรา ทำท่าคุกคามขนาดไหนไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้พวกเขาอาจกำลังเตรียมปกป้องโลกจากการโจมตีของมนุษย์นอกโลกแล้ว - แน่นอน

    เรื่อง2 น่าซ่าออกมาเตือน
    [​IMG]

    [​IMG]



    [​IMG]





    1. NASA บอกอย่างมีนัยยะว่า NASAไม่ได้ดูแลแค่ประชากรของอเมริกาและไม่ได้ดูแลแค่โลกใบนี้อย่าเดียว
    2. NASA บอกอย่างมีนัยยะว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นให้พวกเราเตรียมตัวไว้
    3. NASA บอกอย่างมีนัยยะว่า สิ่งของที่พวกคุณต้องเตรียมทั้งหมดอยู่ใน list ต่อไปนี้
    4. NASA บอกวอย่างมีนัยยะว่า ควรจะเริ่มนัดหมายกับครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติมิตรได้แล้วว่า หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เราจะไปพบกันได้ที่ไหน หรือ ติดต่อกันได้ทางไหนบ้าง


    เอาล่ะ.. ตอนนี้ทุกหน่วยงานต่างๆ ใน USA ต่างออกมาเตือนในทิศทางเดียวกันคือ ให้เก็บของชุดฉุกเฉินและนัดหมายกับครอบครัวไว้

    ดังนั้น... นี่คือการเตือนอย่างไม่เป็นทางการครั้งสุดท้ายแล้วนะครับ

    ต่อนี้ไปหากมีการเตือนอย่างเป็นทางการ นั่นหมายถึงหายนะมาถึงแล้วครับ

    โชคดีทุกท่าน...


    อุปกรณ์ทั้งหมดควรจะเก็บไว้ติดตัวและติดรถไว้ด้วยนะครับ
    เรื่อง3 ข่าวเพิ่มเติมจากพระอาจารย์

    [​IMG]


    พระอาจารย์บอกว่า น้ำจะเข้ากทม.เห็นชัดๆ ประมาณวันที่ 25 ตุลาคม
    และสูงมากๆ 28-29 ตุลาคม

    น้ำเหนือ จะมาประมาณ 2 เมตร
    น้ำทะเลหนุน เพิ่มมาอีกอาจถึง 5 เมตร


    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman
    ข่าวเพิ่มเติมจากพระอาจารย์

    พระอาจารย์บอกว่า น้ำจะเข้ากทม.เห็นชัดๆ ประมาณวันที่ 25 ตุลาคม
    และสูงมากๆ 28-29 ตุลาคม

    น้ำเหนือ จะมาประมาณ 2 เมตร
    น้ำทะเลหนุน เพิ่มมาอีกอาจถึง 5 เมตร
    แล้วทางชายฝั่งให้ระวังสตอมเสริช

    จบข่าว

    ไปเก็บของต่อก่อนนะ


    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman
    เมื่อก่อนตอนได้ฟัง ว่า น้ำจะท่วมขังกรุงเทพเป็นเวลานาน ยังสงสัยว่ามันจะเป็นอย่างไรหนอ แล้วก็ยังทราบอีกว่า น้ำจะขังได้ไม่ใช่น้ำที่มาจากที่เดียว คือ มาจากหลายๆ น้ำ น้ำฝน น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน น้ำอื่นๆ อีกที่ยังคิดไม่ได้ฯลฯ ก็ยังสงสัยอีกว่ายังจะมีน้ำอะไรจากไหนอีกหล่ะ ตอนนี้พอจะเข้าใจแล้ว

    ปล.อันนี้พระอาจารย์บอกว่า เป็นการท่วมเทียม (จำลอง) ก่อนที่ของจริงจะมา อันนี้จะท่วมจนชาวกรุงเทพจะรู้ว่ากรุงเทพอยู่ไม่ได้แล้ว เค้าจะหาทางอพยพออกจากกรุงเทพเอง แล้วอีกพักของจริงจะตามมา อันนี้แหล่ะหายนะของจริง อาจมีการสูญเสียครั้งใหญ่ ชีวิตและทรัพย์สิน


    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ST_seed
    ผมได้รับการสื่อสารมาอย่างนี้ครับ

    1.ประมาณวันที่ 5/10/11 ได้รับการส่งสารมาว่า น้ำจะท่วมภายใน 100 วัน (นับดูล่ะครับ 5/10/2011-6/1/55)
    2.วันที่ 7/10/11 ให้ผมออกจากเขตเมืองหลวงเพราะน้ำจะท่วมครับ (ผมอยู่รังสิต) น้ำท่วมถึงหอพักหลังจากผมออกมาประมาณหนึ่งอาทิตย์
    3. วันที่ 19/10/11 จะมีน้ำหลากจากภาคเหนือน้ำจะเข้าท่วม กทม ภายในวันที่ 25/10/11 ขอให้ออกจาก กทม ก่อนวันอังคารที่ 25 ครับ

    ภาพที่เห็น
    มีน้ำเป็นผืนมาจากที่ตะวันออกของ กทม
    มีน้ำเหมือนการทะลักหรือสิ่งก่อสร้างบางอย่างพัง ทางทิศเหนือ

    ขอทุกท่านพิจารณาตามสมควรครับ
    หากท่าใดยืนยันอยู่ กทม ก็เตรียมการกักตุนสำหรับ 100 วันครับ

    (ธาตุ4)
    เรื่อง4 นายทอง ใบคำสี
    [​IMG]
    บ้านเลขที่ 234/2 หมู่ 1 บ้านตามูล ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี


    วันที่ 28 กันยายน 2554


    สวัสดีครับ ผู้ที่รักผืนแผ่นดินไทย ทุกท่าน

    กระผมชื่อนายทอง ใบคำสี เกิดวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2481 อายุ 73 ปี เป็นชาวอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี กระผมมีลูกทั้งหมด 5 คน เป็นผู้หญิง 4 คน ผู้ชาย 1 คน บุตรชายของผมคนเดียวชื่อ “ปลาบู่” ซึ่งได้เสียชีวิตมาแล้ว 37 ปี ตอนเขามีอายุได้ 5 ปี 8 เดือน กับอีก 15 วัน



    ก่อนตายบุตรชาย บอกกับผมว่า อีก 15 วันหนูจะตายแล้ว หนูอยากคุยกับพ่อ และให้ผมไปซื้อเทปมาบันทึกเสียงเขา แต่ผมไม่ได้ทำตาม เพราะไม่เชื่อว่าเขาจะตายจริง ๆ

    กระผมได้ฟังหลาย ๆ เรื่อง แต่เขียนเพียงบางตอนที่บุตรชายได้เล่าเมื่อ วันที่ 23-25 มิถุนายน พ.ศ.2517 เป็นเวลา 37 ปีมาแล้ว เรื่องสำคัญ ๆ ที่เขาเล่าคือ เรื่องอดีตชาติของเขา และบุคคลสำคัญ ๆ เรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยและโลกในอนาคต เรื่องราวในอนาคตของประเทศไทย เรื่องสงครามโลกครั้งที่ 3 เรื่องดวงอาทิตย์ โลก จักรวาล ธาตุ เหล็กไหล มีความเป็นมาอย่างไร เรื่องขุมทรัพย์ในแผ่นดินที่พระแม่ธรณีเก็บเอาไว้หลาย ๆ แห่ง ฯลฯ

    รวม ถึงต้องการให้พ่อเป็น"ทูต" หรือ "สื่อ"ให้มีการเตรียมการป้องกันเขื่อนที่จะพังจากแรงแผ่นดินไหว การวางท่อใหญ่ ๆ เพื่อระบายน้ำจากตัวเขื่อนลงทะเลเพราะน้ำเมื่ออยู่ในท่อจะสามารถควบคุมได้ และเรื่องการขุดคลองลัดคอคอดลูกน้ำเต้าเพื่อระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ ไหลเร็วขึ้น (ปัจจุบันเป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว)

    ในเรื่องอดีตชาติของเขา เขาบอกว่า หนูระลึกชาติได้จริง ๆ เป็นปู่ของปู่ทวด เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้มั้ย ตาเป็นทิพย์ หูเป็นทิพย์ หมดทั้งตัวเป็นไพฑูรณ์ เมื่อชาติก่อนโน้นหนูเคยเกิดเป็นพระชื่อ “อชิตะ” ตอนพระพุทธเจ้ายังมีชีวิตได้บอกว่าหนูจะได้เป็น “พระศรีอาริยเมตไตรย” ไง ไม่ต้องมีตำรา ไม่ต้องมีคัมภีร์ก็เทศน์ได้

    เคยเกิดเป็นพระมหา กษัตริย์ไทยในอดีตหลายพระองค์จนถึงพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์คือ สมเด็จพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธเจ้าหลวง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ตายแล้วเกิดเป็นหนู ตามหาพ่อมาเกิด อยากให้พ่อช่วยเป็นทูตทางวิญญาณบอกให้ท่านทราบ จะได้ป ้องกันไว้ก่อนที่เขื่อนจะพังเพราะแรงแผ่นดินไหว "แผ่นดินแยก เขื่อนแตกขาด" เขื่อนกักเก็บน้ำที่จังหวัดตาก (เขื่อนภูมิพล) จะพังเสียก่อนจะแก้ไขไม่ได้ โดยการเอาเหล็กรางรถไฟไปหุ้มให้แข็งแรงเป็นเขื่อนเหล็ก จะได้พังไม่มาก จากหนักจะได้เป็นเบา

    "หนูมองเห็นความเสียหาย มีคนตายมากมาย อำเภอสามเงา ตากนครสวรรค์ อโยธยา ปทุมธานี นนทบุรี โรงพยาบาลศิริราช ท่าเรือคลองเตย เครื่องบินโดยสารไอพ่นจมน้ำด้วย"

    เขาถามผม ว่า " รถไฟลอยฟ้ามันเหาะได้มั้ยพ่อ?" " รถไฟใต้ดินมันมุดน้ำได้มั้ยพ่อ?" (ปี พ.ศ.2517 ยังไม่มีรถไฟลอยฟ้าและรถไฟใต้ดิน) ใต้กรุงเทพฯ- ธนบุรีไม่มีลูกรัง-หิน มีแต่ทรายทับถมโคลนตมอยู่ลึกๆ คนโบราณก่อสร้างเมืองไม่ต้องตอกเสาเข็ม เอาซุงมาทำแพบก จึงทำได้มั่นคงแข็งแรง

    แม่น้ำเจ้าพระยาถูกขุดลอกให้ลึก ๆ เป็นอันตรายมาก ๆ เพราะทรายทับถมตมเลนเหลือบางมาก ๆ ทำให้ตมเลนปูดทะลักขึ้นมาในแม่น้ำเจ้าพระยา ตึกรามบ้านช่องสิ่งก่อสร้างที่มีน้ำหนักมาก ๆ จมดินยังไม่พอ เพราะเสาเข็มยังจมยังไม่ถึงดินดาน รถไฟยังวิ่งสะเทือนเขย่าเม็ดทรายที่หุ้มเสาเข็ม ทำให้เสาเข็มทรุดตัว

    หนู อยากให้รัฐบาลทำเขื่อนใต้น้ำ ดักทรายเป็นระยะเพื่อให้แม่น้ำเจ้าพระยาตื้นขึ้นเหมือนเดิม เพราะเมื่อขุดแม่น้ำเจ้าพระยาลึก ๆ ก้นแม่น้ำก็จะมีแต่ตมเลนน้ำหนักของสิ่งก่อสร้างริมแม่น้ำจะกดตมเลนในแม่น้ำ ให้ปูดขึ้นมา ทำให้เกิดการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้างริมแม่น้ำ

    ตึกราม บ้านช่อง สิ่งก่อสร้างต่างๆ จะพังเพราะแรงแผ่นดินไหว น้ำในตัวเขื่อนที่พังยังไหลมาท่วมซ้ำเติม ทุกข์ยาก ลำบากมาก ๆ การสร้างเขื่อนใหญ่อยู่เหนือพระนคร เป็นอันตราย เพราะแรงแผ่นดินไหวแรงมาก เหมือนเมื่อก่อน ครั้งนาน ๆ โน้น ที่ไดโนเสาร์ตายหมด !!

    เขียนถึงตรงนี้เด็กอายุเพียง 5 ขวบ 8 เดือน 15วัน บ่นว่า เขื่อนที่สร้างเสร็จแล้วยังไม่สมบูรณ์ เพราะไม่ได้วางท่อใหญ่ ๆ เพื่อเอาน้ำออกสู่ทะเล ไม่มีท่อปล่อยน้ำออกจากเขื่อน เพราะถ้าระดับน้ำในเขื่อนเต็มขึ้นมา ก็จะมีการปล่อยน้ำออกจากตัวเขื่อน น้ำก็จะท่วมบ้านเรือนที่อยู่ใต้ตัวเขื่อน แต่ถ้ามีการวางท่อใหญ่ ๆ จากตัวเขื่อนลงสู่ทะเลเลย น้ำก็จะระบายลงท่อไปสู่ทะเล ไม่ท่วมบ้านเรือนและแผ่นดินที่อยู่ข้างบน น้ำเมื่ออยู่ในท่อจะสามารถควบคุมได้ และจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ในระยะยาว

    ปลาบู่ถามผมว่าอีก 27 ปี พ.ศ.อะไร ? (2544) จะมีเครื่องบินชนตึก อีก 30 ปี พ.ศ.อะไร ? (2547) จะเกิดคลื่นยักษ์คนจะตายกันมาก อีก 35 ปี พ.ศ.อะไร? (2552) จะเกิดแผ่นดินไหวในต่างประเทศ แต่อีก 38 ปี (2555) จะเกิดอาเพศรุนแรง แผ่นดินไหวรุนแรงเกือบทั่วโลก จะโดนทั้งไทย พม่า ฯลฯ กรุงเทพฯจมดินจมน้ำ เขื่อนที่จังหวัดตากก็พัง "ในเวลายามสองในคืนปีใหม่ คนไทยฉลองกันสนุกสนาน เกิดแผ่นดินไหวมีคนตายมากมาย" (ยามสอง คือประมาณเวลา 22.00 –24.00 น.)

    กระผม ได้ฟังหลาย ๆ เรื่อง แต่เขียนเพียงบางตอน ตามเรื่องที่ปลาบู่เล่าเป็นเวลา 37 ปีมาแล้ว ปัจจุบันนี้กระผมอายุ 73 ปีแล้ว เป็นห่วงประเทศชาติ เชื่อว่าต้องเป็นความจริงตามที่ปลาบู่เล่า เพราะที่ผ่านมาเกิดขึ้นมาหมดแล้ว เหลือแต่ที่ยังไม่ถึง

    ปลาบู่บอกว่า พ่อครับที่ดินแปลงนี้ยกให้หนูนะ (ที่สวนศรีมหาโพธิ์ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ได้ปลูกต้นโพธิ์ตามที่ลูกชายขอไว้กว่า 200 ต้น เป็นเวลา 36 ปีแล้ว) และให้ทำถนนให้รอบเหมือนกับสนามหลวง ให้ปลูกต้นโพธิ์ให้ด้วย หากหนูตายไปแล้วพ่อจะรู้เอง.. ให้จำปานของหนูไว้ให้ดี.. หนูจะกลับมาเกิดอีกครั้งเป็นลูกของ...... ตัวโตเท่านี้จะบวชเณร ออกธุดงค์มาช่วยพ่อสร้างวัด “สุทัศน์เทพไพฑูรย์” (สวนศรีมหาโพธิ์) พร้อมกับแม่ใหม่ จะมาทำปาฏิหารย์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา (ลูกชายบอกว่าต่อไปประเทศไทยจะเป็นตัวอย่างแก่ประเทศอื่น ๆ ต่างประเทศจะมาพึ่งพาประเทศไทย และพระพุทธศาสนาจะเป็นอันดับหนึ่งของโลก ขณะที่ประเทศอื่น ๆ จะเสียหายเพราะภัยพิบัติและการสู้รบจากสงคราม) จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ในปีที่ 40 หลังจากเสียชีวิต (ตรงกับ พ.ศ. 2557)

    ที่ สวนศรีมหาโพธิ์จะเป็นสถานปฏิบัติธรรมของผู้หญิง และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและคนชรา (ในยุคที่เกิดความทุกข์ยากเพราะภัยพิบัติ) บนเขาลับแล(โครงการจัดตั้งฯ วัดป่าร่มโพธิ์ศรีฯ) จะเป็นวัดที่อยู่ของพระภิกษุและสามเณร จะมีพระองค์หนึ่งมีบุญบารมีมาก จะมาช่วยพ่อสร้างวัด จะมีคนมาถวายให้สร้างโน่นสร้างนี่จนสร้างไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งในปัจจุบันผมได้สร้างรอลูกชายตามที่สัญญาไว้ว่าจะมาหาทั้งสองที่ และได้เฝ้ารอคอยการกลับมาของบุตรชายในชาติใหม่มาเป็นเวลา 37 ปีแล้ว

    กระผม ขอวิงวอนรัฐบาลและผู้ที่รับผิดชอบช่วยพิจารณาเรื่องการนำรางรถไฟที่ไม่ใช้ แล้วเพราะสับเปลี่ยนเป็นรางใหม่ (ซึ่งปัจจุบันวางกอง ๆ ไว้มากมายตามสถานีรถไฟ) นำไปเสริมตัวเขื่อนภูมิพลที่จังหวัดตาก และเขื่อนเจ้าพระยา ที่จังหวัดชัยนาท เพื่อให้มีความแข็งแรง เพียงพอที่จะรับแรงแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักในการเขียนจดหมายของกระผมในครั้งนี้ และท่านคงทราบดีว่าในปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงในด้านธรณีวิทยาทำให้เกิด แผ่นดินไหวบ่อยครั้ง และสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงทั่วทั้งโลก การป้องกันเตรียมการไว้ก่อน เมื่อเกิดปัญหาจะได้ผ่อนหนักให้เป็นเบา


    ขอแสดงความนับถือ

    ทองใบ คำสี
    เรื่อง5 โสรัจจะ นวลอยู่...คำทำนายปี 2554 กระต่ายไฟ
    [​IMG]



    กันยายน

    ทางใต้ขอแบ่งแยกเพื่อปกครองตนเอง ดีเปรสชั่น ผ่านตอนเหนือของประเทศอย่างรุนแรง น้ำป่าเริ่มไหลบ่า จากทางภาคเหนือและอีสาน ลงมาทางใต้ ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่พังทลาย (ยังไม่ใช่เขื่อน แต่เป็นพวกประตูระบายน้ำบ้าง พนังกั้นน้ำบาง คันดินกั้นน้ำบ้าง)

    เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหาร เสียหายหนักยิ่งกว่าครั้งใด มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน (ยังไม่ใช่ใจกลางกรุงเทพฯ โดยตรง แต่เป็นชานเมืองรอบๆ อย่างมีนบุรีบ้าง เมืองนนท์บ้าง ฝั่งธนบ้าง)

    ภัยธรรมชาติยังคุกคามต่อไปอีก ทั้งภาคเหนือ อีสาน และทางภาคใต้ โดยเฉพาะทางภาคใต้จะโดนอย่างหนัก

    ถือได้ว่าเป็นวาตภัยครั้งร้ายแรงที่สุด ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย บ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง และผู้คนที่อาศัยอยู่ติดทะเล จะถูกพายุร้ายหอบตกทะเล แทบไม่เหลือหลอแม้แต่รายเดียว เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ (ต้นปีมีพายุทางใต้ หอบขนำหมู่บ้านประมง ตกทะเลไปจำนวนหนึ่ง แล้วก็มีคลื่นแรง กัดเซาะหาดทรายชายฝั่ง มีพายุแถวแสมสารชลบุรีด้วย ซัดบ้านประชาชนพังไปอีกหน่อย)

    ปัญหาของประเทศมีมาก ผู้เป็นใหญ่ บุคคลสำคัญ จักล้มเจ็บอย่างกระทันหัน (มีหลวงปู่ หลวงพ่อ อาพาธหนัก มีเชื้อพระวงศ์สิ้นพระชนม์)

    ตุลาคม

    เกิดปัญหาทางภาคใต้ ทำให้ทั่วโลกตกตะลึง เกิดการจลาจลนองเลือด บุคคลในเครื่องแบบจะมีบาทบาททันที (ภาคใต้มันมีผู้ก่อการเลว คอยป่วน คอยสร้างปัญหา กันอยู่ทั้งปีทั้งชาติอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ทำนายแบบนี้ มันก็หนีความวุ่นวายรายวันไม่พ้น)

    เกิดการจลาจล รัฐประหารครั้งใหญ่ เกิดการนองเลือด ผู้คนล้มตายเป็นเบือ

    เติมอีกนิด ตามความเห็นของตัวเอง ว่า พอน้ำเริ่มลด จะมีแผ่นดินยุบ แผ่นดินถล่มไปทั่ว เพราะดินที่แช่น้ำนานๆ มันจะทั้งยุ่ยทั้งซุย ไม่เกาะตัวกัน

    ยิ่งแถวไหน ที่ชอบโหมปลูกยางพรารา ปลูกปาลม์ ปลูกกะหล่ำปลี ปลูกยูคา อาจจะยิ่งเสี่ยงหนัก เพราะพืชเศรษฐกิจพวกนี้ ไม่มีรากแก้วไว้เกาะยึดดิน อย่างพืชท้องถิ่น ที่ชอบพากันโค่นทิ้ง

    พฤศจิกายน

    เป็นเดือนสุดโหดสุดวิปริตที่แท้จริง สำหรับคนไทย เพราะจะเกิดภัยธรรมชาติครั้งรุนแรง แหล่งน้ำทั้งเล็กและใหญ่พังทลาย น้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ตำบลและอำเภอ

    เกิดไต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี หนักกว่าพายุเกย์ คนตายนับพัน (ข้อนี้ อุตุฯ บ้าง นักวิชาการสิ่งแวดล้อมบ้าง เตือนกันตั้งแต่ต้นเดือนตุลา ว่าล็อตต่อไป ทางใต้จะอ่วมบวมน้ำ หลังจากภาคกลางค่อยยังชั่วแล้ว)

    หุ้นตกอย่างรุนแรง การเมืองของไทยเต็มไปด้วยความผันผวน เผชิญกับวิกฤตการณ์อย่างหนัก ข้าวยากหมากแพง (ของแพงนี่ มันแพงมาตั้งแต่กันยาแล้ว ยิ่งน้ำท่วมวิกฤติ ยิ่งฉวยโอกาสแพงหนัก)

    มีการประท้วง ลุกลามกลายเป็นการชุมนุมใหญ่ จากบุคคลทุกสาขา เกิดการจลาจล มีการเผาผลาญทำลายสถานที่สำคัญ รัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ต้องเสียเลือดเสียเนื้ออีกครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้ดูจะรุนแรงกว่าเมื่อครั้ง 14 ตุลาคม 2516

    วิกฤตทางภาคใต้ ได้ลุกลามเข้ามาถึงกรุงเทพฯ มีผู้คนเสียชีวิต

    ธันวาคม

    "เขื่อนยักษ์แตก" น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน อำเภอ หลายจังหวัด พื้นที่ไร่นา สัตว์เลี้ยง สิ่งก่อสร้าง ผู้คนที่อพยพหนีไม่ทัน ล้มตายมหาศาลอย่างอเน็จอนาถ สร้างความเสียหายไปทั่วประเทศ น้ำอาจลงมาถึงกรุงเทพฯ เราต้องขอความช่วยเหลือจากองค์การต่าง ๆ จากต่างประเทศโดยด่วน (อันนี้ไม่รู้ว่าเขื่อนจีนหรือเขื่อนไทย เพราะถ้ามันจะแตกก็หลักๆ 2 สาเหตุ คือ 1. แผ่นดินไหวแรงจัด 2. ฝนตกหนักมาก น้ำในเขื่อนล้นหลาม ทำเอาเขื่อนรับน้ำไม่ไหว แตกกระจาย)

    เกิด "หิมะตกในกรุงเทพฯ" และปริมณฑล เป็นอาเพศ ที่ทำให้คนตกตะลึงไปทั่วโลก
    (นี่ก็ต้องรอดู เพราะเมื่อหน้าร้อน ปี 53 ยังหนาวจัด ยังกะอยู่ดอยอ่างขาง ตั้งหลายวัน ประหลาดดีแท้)

    มีการลอบวางเพลิง วางระเบิด การเมืองระส่ำระสาย และภัยรอบข้าง ทำให้ดูเหมือนเกิดความคับขัน

    ทางใต้วิกฤตสุด หาทางแก้ไขไม่ได้

    เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ อย่างหนัก สงครามอาจยืดเยื้อต่อไป จนกลายเป็นสงครามโลกครั้งใหญ่ที่สุด ที่เคยมีมา

    ปลายเดือน เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เข้าถล่มชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย กวาดผู้คนและทรัพย์สิน สิ่งก่อสร้าง ลงสู่ทะเลจนเกือบหมดสิ้น โดยที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าจะเกิดขึ้น
    (อันนี้ ดร. สมิธ ท่านเตือนล่วงหน้ามาเป็นปีๆ ว่า อ่าวไทยมีสิทธิ์เกิดสึนามิ)

    [​IMG]

    เรื่อง 6 บันทึกลุงเชียงใหม่
    http://palungjit.org/threads/บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ-เรื่องภัยพิบัติ.311084/


    เรื่อง7 ค.ศ 2012

    สัญญาณอันตราย :
    1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้วนะครับ อย่านิ่งเฉยเชียวนะ โลกเริ่มเอาคืนแล้ว ว
    2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน
    3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ชำระล้างเป็นเวลา 7 วัน)
    *ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน (เกาหลีใต้รึป่าวน้อ)

    ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
    2. พายุถล่ม
    3. แผ่นดินแยกและแผ่นดินไหว (เริ่มมีแววให้เห็นกันแล้ว)
    4. ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก,ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก,อีกทั้งที่จังหวัด ราชบุรี น่าน แพร่ อ.ร้องกวาง)
    5. คลื่นยักษ์จากทะเล(เกิดไปแล้ว ว)
    6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ Virusteria,อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันทีภายใน 6 วัน (โรคเริ่มถี่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เห้ออ~~)
    7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตยังไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมากก่อน (อันนี้น่ากลัว ไม่รู้จะหนียังงัยพ้น)
    8. อดอยากขาดแคลนอาหาร


    การเตรียมตัวเตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว
    1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3-6เดือน
    2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
    3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
    4. ที่อยู่อาศัย
    5. ยารักษาโรค
    6. ด่างทับทิมและคาราไมล์(จำเป็นมาก) ห้ามกินอาหารที่มาได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี ส่วนอาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
    7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
    8. เครื่องช่วยชีวิต
    9. แสงสว่างเช่น เทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้นท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
    10. เครียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง


    วิธีการดูแลตัวเองในช่วงวิกฤติ
    1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิทหรือคนที่เรารู้จักก็ตาม (เหตุผลอยู่ในข้อ 4 ครับ)
    2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรคและสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น มลภาวะที่ขึ้นไปติดค้างอยู่ตามชั้นบรรยากาศจะลงมาพร้อมกับฝน
    3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลียงไม่ได้ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง (ตอนนั้นคงขึ้นราคาอ่ะนะ ฮ่าๆๆ)
    4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้นประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพ จะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มาเยือนอาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดนเด็ด ขาด
    5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
    6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม เพื่อป้องกันสารพิษตกค้างครับ
    7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
    8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
    9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษเช่น งูพิษ จระเข้
    10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง





    เตรียมไว้ต้อนรับปีใหม่

    อุปกรณ์สำหรับยังชีพต่อ 1คน ที่ต้องมี ต่อไปนี้ สำหรับ10วันนะ ของที่ทุกคนต้องแบกไปเวลาหนีภัยเตรียมไว้เลยเมื่อภัยมา คว้ากระเป๋าแล้ววิ่ง

    1.กระเป๋าเป้
    2.ข้าวสาร5กิโล 1ถุง
    3.เนื้อแดดเดียว 1-2กิโล น้ำพริก ปลากะป๋อง
    4.หม้อสนาม
    5.ไฟแช็ค สำคัญมาก
    6.เทียนไข ใหญ่ๆนะ
    7.แอลกอฮอล์ เจล สำหรับจุดไฟ
    8.ช้อน
    9.ถ้วย
    10.น้ำดื่ม 1ขวดเอาเยอะไม่ได้หนัก เอาขวดลิตรไปสัก5ขวด ขวดเปล่า
    ทำความสะอาด
    1.น้ำยาบ่วนปาก
    2.ถุงขนาดเล็ก ถุงดำ ยางรัด
    3.สบู่
    เครื่องนุ่งห่ม
    1เสื้อกันฝน
    2.เสื้อผ้า เสื้อกันหนาว อากาศอาจหนาวมากๆ
    3.ผ้าห่ม
    4.ยากันแมลง
    5.มุ้ง
    6.ผ้าเช็ดตัว
    ยาสามัญประจำบ้าน
    ควรสำรวจเส้นทางหนีว่าเราจะไปที่ไหนเวลาเิกิดเหตุ กระเป๋ายังชีพของเราควรหยิบฉวยได้สะดวก อย่าได้ประมาท คนที่เชื่อก็เตรียมไว้ ไม่เชื่อก็เฉยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  2. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    จ๊ากกกกกกก:cool:
     
  3. somkun62

    somkun62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +766
    โสรัจจะ นวลอยู่

    อ่านคำทำนายของท่าน โสรัจจะ แล้วปวดตับ ท่านน่าจะทำนายว่าประเทศไทย ปี54 จะถูกอุกกาบาตลูกใหญ่ถล่มให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย อ่านแล้วไม่มีเรื่องดีๆให้ฉ่ำปอดบ้างเลย
     
  4. chang938

    chang938 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +451
    แล้วเราจะทำอย่างไรดี.....แห่นางแมวขอฝนซะเลยดีไหม ให้เทวดาท่านตลึงบ้าง
     
  5. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่าวันฟ้าดับก็แล้วกัน
    เพราะในยามนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท
    แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก
    ลุงบันทึกหลังจากอธิฐาน
    ไปยังวันก่อนหน้า ที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3วันเจ็ดวัน
    ก่อนหน้านั้นลุงเห็น คนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ
    ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี
    (ลุงจึงคาดว่าเหตุการจะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่ )
    ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก
    แต่มีความแตกต่างและเห็นได้เจนทั้งขนาดและความสว่าง
    (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญานเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน)
    ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน
    แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้ เงียบจนไม่ฟลิกใบ
    ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบบหมอบ

    [​IMG]
    สัตว์มีอาการตกใจกลัว

    ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคนเห็นมาก่อน
    ( ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมณู )
    ในยามที่เกิดแสงสว่างลุงเตือนหลานและทุกคน
    อย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง
    เพราะหลังจากนั้นลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอดเนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา
    แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้วหลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่างๆจะตื่นกลัววิ่งหนีแบบไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม่แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ๆกับมนุษย์
    ในยามนี้ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ที่มีการเตรียมการและปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และชุดยังชีพให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อกันแม้แต่อยู่ใกล้ๆกัน
    [​IMG]
    แสงที่ทำให้ตาบอด
    ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัยและ ที่มีมีการเตรียมการอพยพขอให้หลานๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่หลังจากที่เห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป
    หลังจากที่มีแสงจักรวาลเข้ามาแล้ว หลังอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเราเหมือกับชนกับอะไรซักอย่าง คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บนรถขนาดใหญ่ที่มีการชน ภาพคนคนล้มไถล ไปกับพื้น ตึกพังทลายราบ ลงมาทันที ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะมีเสียงดังเหมือนวัวยักษ์ครางอือๆๆๆๆๆ ขอให้หลานและทุกคนห้องแข็งแรงของเรา หรือคนที่อยู่นอกพื้นที่ให้เข้าไปยังที่มีหลังคาแข็งแรงและปิดหูด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่ลุงได้ให้เตรียมไว้แล้ว เพราะพอเสียงวัวยักษ์ร้องเงียบลง ไม่กี่อึดใจ
    ลุงเห็นภาพผู้คนวิ่งออกจากตึกเพราะกลัวแผ่นดินไหวที่จะตามมา หลังจากนั้น จะมีเสียงดังที่สุด ซึ่งลุงก็บอกไม่ได้ว่ามันดังแค่ใหน แต่หลังจากนั้นลุงเห็นผู้คนเลือดออกจากรูหูนอนกลิ้งเกลือกไปตามพื้น ตาเถลือกถลน คนที่เอามืออุดหูทันนั้น ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลุงเห็นคนที่พยายามสื่อสารกัน แต่เหมือนกับว่าคนในโลกนี้แก้วหูขาดไปหมดสิ้นแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง
    ลุงจึงขอย้ำเตือนหลานตรงนี้เรื่องการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหู ให้ดีที่สุด อาจจะทำให้หนักเป็นเบา ได้
    หลังจากนั้นลุงเห็นภาพที่ทุกคนกลับมาตื่นกลัวอีกครั้งจากแผ่นดินไหวรุนแรงและสั่นต่อเนื่องกันผิดจากครั้งแรกที่เหมือนจะชนโครมเดียวแล้วหยุด แต่คราวนี้เป็นเหมือนมีคนจับเอาเราอยู่ในกระด้งแล้วเคาะขอบมันอย่างแรงอย่างต่อเนื่อง เสียงหวีดร้องตื่นกลัวดังไประงม แต่ในยามมนั้นนิมิตลุงอาจจะมีเพียงลุงในจุดนั้นที่ได้ยินเสียงเพราะภาพคนที่วิ่งไปมามีเลือดไหลออกจากหู ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนาที่ลูกหลานที่พ่อแม่หอบออกมาจากอาคารบ้านเรือนที่กลัวแผ่นดินไหว มาเจอเสียงดังก็วิงกลับไปในที่คิดว่าปลอดภัย และพอแผ่นดินไหว ก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิง อออกมาอีก
    หลานวิกรม ลุงเห็นภาพที่สร้างความน่าเวทนาสงสารสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าชีวิตมนุษย์มีเพียงแค่นี้เอง ยังไม่จบสิ้นแค่นี้นะ ภาพผู้คนที่วิ่งหลบแผ่นดินไหวออกมา นั่งกอดกัน ร้องไห้ เป็นกลุ่มๆ มีควันไฟ ที่เกิดจากไฟไหม้ลอยคละคลุ้งไปหมด หลายคนที่เสียสติเริ่มต้นร้องไห้ ภาพพ่อแม่พยายามค้นหาลูกหลานที่ ติดอยู่ในซากปรักหักพัง ต่างคนต่างฟูทฟายร้องไห้ ไม่มีใครสามารถช่วยใครได้
    [​IMG]

    ในตอนค่ำลุงเห็นคนมารวมกันมีการก่อกองไฟ อากาศหนาว แต่ลมสงบนิ่ง ตอนนี้ลุงเห็นขอฟ้าแดงจ้า
    จนน่ากลัว แล้วสิ่งที่ลุงเรียกว่าวันฟ้าดับก็เกิดขึ้น ลุงเห็นมีแสงสีแดงพุ่งมาจากพระอาทิตย์ วาบหนึ่งจากนั้นแสงทั้งหมดก็จะม้วนเข้าไปในรูปทรงกลม ลูงไม่รู้จะเรียกอะไร น่าจะเป็นพระจันทร์ดำ เพราะเป็นสีดำๆเหมือนจันทรุปราคาที่มาบดบังพระอาทิตย์แต่เล็กกว่ามาก แต่ตอนนั้นพระจันทร์ก็ยังเห็นอยู่ แล้วบรรยากาศที่เหมือนเราดับเทียนในห้องมืดที่สุดก็เกิดขึ้น พรึบเดียวแสงทั้งหมดจะหายไป แม้แต่ดวงดาวและพระจันทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ความมืดในขณะนั้นลุงเห็นคนพยายามยกมือของตนเองขึ้นมาดูก็ยังไม่สามารถเห็นได้
    ความตื่นกลัวก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง คนจะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วร้องไห้ระงม คนที่อยู่ห่างจากคนอื่นแม้แต่วาเดียวก็ไม่สามารถหากันเจอ จนกว่าจะคลำหากันเจอ ช่างเป็นภาพที่น่าเอน็จอนาจมาก คนส่วนใหญ่ ที่หูจะแตกดับ หรือคนที่อุดหูทันก็จะมีอาการหูอื่ออึงอยู่ แต่ก็พอยังมองเห็นกัน แต่ในยามมืดสนิทแล้ว เสียงคนพยายามตะโกนหากัน เสียงหวีดร้อง โหยหวนด้วยความกลัว แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ยิน ได้แต่สะเปสะปะไขว่คว้าหากัน อย่างนี้เองลุงถึงได้ย้ำกับหลานว่าให้แยกเป้ที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับแต่ละคน และเมื่อเข้าไปอยู่ในที่ห้องปลอดภัยที่ได้เตรียมสร้างไว้ ขอให้หลานสร้างตามแปลนที่ลุงได้เขียนไว้ให้ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมทั้งตู้อาหาร ตู้ปลอดภัย และโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ด้วย
    ตอนนี้ดึกมากแล้ว ลุงง่วงแล้วแต่ ยังอยากบันทึกให้หลานไว้ให่เสร็จก่อนที่เดินทางไปหาพระอาจารย์
    ภาพที่เกิดมาลุงรู้สึกเศร้า ใจกับญานทัศนะที่ลุงได้เคลื่อนไปในยามที่เด่นชัดกับเจอภาพภัยพิบัติที่หนักหนาสาหัญกว่าที่ลุงเตรียมการไว้ จนเกิดเวทนาในสัตว์โลก และเห้นการคร่ำควรญของคนที่ไม่เคยศึกษาทางธรรม และไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและ เตรียมมรณะสติ ไว้เลย
    ในส่วนที่ลุงบันทึกนี้คนที่มีกรรมและไม่เคยฝึกสมถะกรรมฐานผ่านในขั้ขรูปญานและอรูปญาน4 นั้นหลานอย่าไปอธิบายเขาเลย เพราะจิตเขาหยาบกว่าที่จะเข้าใจ
    ในวันฟ้าดับยังมีเรื่องเอน็จอนาจซ้ำเติมมนุษย์ที่ไม่ได้เตรียมการอีก หลังจากที่มืดมิดแล้วลุงยังเห็นภาพคนคลานหนีหรือกอดกันร้องไห้เพราะยังมีอาการแผ่นดินไหวเป็นระยะๆ มากบ้างน้อยบ้างภาพเพดาน สิ่งของเท่าที่คนไปแอบซุกอยู่หล่นลงมา มีคนเจ็บคนตายร้องครวญคราง
    [​IMG]

    แต่วิกรมมีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ คนที่รอดตายขณะนั้นจะตายมากอีก ลุงเห็นภาพ น้ำแข็งก้อนเท่าทีวี เท่าบาตร หรือบางก้อนขนาดเท่าตู้เย็นเล็ก ทะยอยตกลงมาจากฟ้า ส่วนก้อนขนาดกำปั้น ตกกระจายไปทั่ว คนที่หลบหนีหลังคนที่หักโครมครามออกมาท่ามกลางความมืดนั้น มาอยู่ในที่โล่ง ต้องมาตายกับฝนลูกเห็บยักที่มีความเย็นจัดมาก เพราะลุงเห็นภาพคนแข็งตายอยู่กราดเกลื่อน เต็มไปหมด
    แต่ภาพที่เกิดหลังจากนี้ที่หลานคงคิดว่ามนุษย์ชาติจะอยู่อย่างไร เมื่อลุงอธิฐานไปยังหลังจากนี้แล้วกลับเน็จอนาจยิ่งกว่า ลุงจะได้พยายามทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่ลุงเห็นมา บันทึกให้หลานๆได้นำไปเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
    ทั้งหมดในสิ่งที่ลุงเห็นมานั้นไม่เคยแจ่มชัดเท่านี้มาก่อน แต่สิ่งที่ลุงได้อธิฐานว่าถ้าลุงมีบารมี และมีบุญที่เกี่ยวเนื่องกับพระอาจารย์โสณะ ขอโปรดเมตตา ให้ญานทัศนะของลุงชัดเจนแจ่มใส จนได้เห็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา

    ขอพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ได้โปรดเมตตาสรรพสัตว์ และหลานๆด้วย
    ลุงหมอ
    ****************************************
    Postโดย วิกรม หลานพระคุณลุง
    ในส่วนที่เหลือผมจะทะยอยนำมาโพสส์ต่อครับ

    ขอโปรดเมตตาอโหสิกรรมด้วยหากบันทึกของพระคุณลุงสร้างความทุกข์แก่ผู้ใด
    แต่ ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
    ขออย่าได้ประมาทกับชีวิตนะครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  6. pathawut333

    pathawut333 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +284
    ผมเริ่มคุยกับครอบครัวแล้วครับว่า ช่วงสิ้นปีจะไปพักที่บ้านน้องสาวที่เขาสอยดาว
    จันทบุรี ตอนนี้เริ่มสะสมของจำเป็น อาหาร ข้าวสาร กระสุน ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าไปพักผ่อน ถ้าเกิดขึ้นจริง ๆ ก็มีโอกาสรอด
     
  7. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    เมื่อ 4 ปีก่อนเราเคยฝันว่า...น้ำไหลบ่าเข้ามาท่วมรอบ ๆ องค์พระปฐมเจดีย์ค่ะ....หลังน้ำลดแล้ว ทั้งเมือง เกือบจะเป็นเมืองร้าง...แต่ไม่รู้ว่าความฝันนี้จะเป็นจริงไหม...ก็ลอลุ้นอยู่ค่ะ แต่ขอให้เป็นเพียงแค่ฝันไป...
     
  8. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ผมฝันโคตรแม่นเลยว่า 1+1=2 ไม่เชื่ออย่าลบหลู่น๊ะสิบอกไห่
     
  9. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อีกไม่นาน....ฝันของท่านอาจจะเป็นจริง...:mad:
     
  10. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    เรื่องเด็กชายปลาบู่ผมว่าเิกิดแน่ แล้ว เรื่องบันทึกลุงเชียงใหม่ ลองคิดดูอยู่คนละจังหวัด เหตุการณ์ช่างบังเอิญ เิกิดในคืนปีใหม่ตรงกัน ลักษณะเหตุการณ์ยังคล้ายๆกันอีก จะเป็นอะไรไม่ได้นอกซะจาก มันคือความจริง ใครจะว่าอะไรไม่ต้องสนใจ สนใจแต่ตัวเรากับครอบครัวของเราพอ ขอทุกคนจงเตรียมพร้อม
     
  11. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    เด็กชายปลาบู่บอกว่าประมาณยามสอง คือ 4ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน
    ส่วนลุงเชียงใหม่บอกว่า มีการจุดพลุเฉลิมฉลอง ก็คือเวลาเค้าดาวน์ 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 ตูมจุดพลุคับแล้วเหมือนมีอะไรบางอย่างชนโลก แล้วเิกิดแผ่นดินไหว อะไรต่อมิอะไรอ่านเองนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  12. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ ทาน ศีล ภาวนา อย่าให้ขาดตกบกพร่อง อนุโมทนา
     
  13. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    เรื่องที่ 8 ที่จะเกิดเร็วๆนี้ (ขออนุญาตท่านเจ้าของข้อความเดิมคุณปูด้วยนะครับ)
    1. เป็นเหตุการณ์ที่ บริษัทยักษ์ใหญ่ และปานกลาง จะล้ม ...ซึ่งเค้าจะทำ ดังนี้ คือ ปลดคนงานออก ร่วมหุ้นกะอีกบริษัท และอาจประกาศขายกิจการ ล้มละลายไป ซึ่งจะเป็นทั่วโลก
    2. แผ่นดินไหวถี่ขึ้น อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน
    3. พายุต่างๆ พัดบ้านเรือนพัง เสียหาย โดยเฉพาะแถวบ้านเราในปีหน้า
    4. การชุมนุมเรียกร้องต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ
    5. ของแพงขึ้นอย่างไำม่น่าเชื่อ ทั้งแก๊ส น้ำมัน ของกิน จนหลายๆ ประเทศขาดแคลนอาหาร

    ขอเพิ่มข้อที่ 6 บริษัทประกันในเมืองไทย ทั้งของในและของนอกจะล้มตามระเบียบ

    ดังนั้นรีบสำรองอาหาร นำเศรษฐกิจแบบพอเพียงของในหลวงมาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต และหาที่หลบภัยพร้อมอาวุธป้องกันตนและคนรอบข้าง ท่านพร้อมแล้วยัง ....และที่แน่นอนที่สุดไม่ได้จบปริญาเอกไม่มีอภิญาก็บอกได้.... ว่าคิวต่อไปคือภาคใต้ต้องถูกน้ำถล่มแน่นอน
    ประสบการณ์เกี่ยวกับน้ำที่เคยประสบมา(จากการเคยเป็นชาวนา) ยิ่งกั้นยิ่งแรง ยิ่งกักยิ่งเพิ่ม เห็นไหมว่า กทม.นำหลักการนี้มาใช้แล้วเป็นไง....สุดท้ายถูก TSUNAMI น้ำจืดถล่ม ขอทุกท่านโชคดี
     
  14. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    [​IMG]
    นี่คือวัดเขาถ้ำเกาะพงัน พอที่จะหลบภัยจากน้ำได้

    [​IMG]

    ศาลเจ้าแม่กวนอิมก็เป็นอีกหนึ่งที่ปลอดภัย

    ทั้งสองสถานที่ อยู่เกาะพงัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  15. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    เพิ่มข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ให้เราได้รับทราบเกี่ยวกับภัยพิบัติอย่างคลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิด ซึ่งเมื่อเกิดปรากฏการณ์เหล่านี้ นกจะพากันบินหนี สุนัขหอนโหยหวน ฝูงสัตว์จะวิ่งแตกตื่น ไปหาสถานที่ปลอดภัยก่อนที่ภัยพิบัติจะมาเยือน

    สังเกตสัตว์ที่อยู่ใต้ดินเช่น หนู ถ้าหากสัตว์เหล่านี้แตกตื่นออกมาวิ่งเพ่นพ่านข้างบนพื้นดินอย่างโกลาหลแล้ว สิ่งที่ตามมาคือแผ่นดินไหว ดังนั้น ถ้าหากพบเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นขอให้รู้ไว้มันอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยแผ่นดินไหวจากสัตว์ใต้ดินก็ได้


    ก่อนพายุใหญ่จะมา มีเครื่องวัดลมสำคัญอีกอย่างหนึ่ง

    "ดูมดส้ม (มดแดง) ถ้ามันทำรังสูงๆ พายุจะมาบริเวณนั้น แต่ไม่น่าห่วง ลมไม่แรง ถ้ามดส้มทำรังอยู่กลางๆ ต้นไม้ พายุจะพัดกลางๆ ไม่รุนแรงมาก ถ้ามดส้มทำรังเตี้ยๆ ใกล้พื้นดิน พายุลมจะแรงมาก ให้ระวัง มดล้มรู้ล่วงหน้าก่อนพายุมา 3 เดือน"

    "มดส้มจะเปลี่ยนรังทุกปี ถ้าไม่เปลี่ยนที่ แสดงว่าลมพัดเหมือนเดิม เรื่องมดส้มแน่นอนมาก ดูได้เลย ไม่ผิดพลาด"

    ถาม "สัญญาณเตือนภัยที่เกี่ยวกับลม ยังมีอีกไหม๊"

    "ดอกไม้รัก ถ้าปีนั้นออกดอกเยอะลมพัดแรง"

    มาถึงเครื่องมือวัดฝนให้ดูที่ "หางแลนหรือหางตะกวดนี่แหละ ดูหางแลนที่เกิดในปีนั้น ถ้าเราจับได้ ดูหางมัน พบหางดำจะมีฝนเอยะ หรือสีดำมีอยู่สีห้าที่ ก็มีฝนเยอะ ดำๆ มืดๆ เป็นฝนแน่ ถ้าหากมีสีแดงสีดำอยู่สลับกัน แสดงว่าปีนั้น ฝนแล้งบ้าง ตกบ้าง สองอย่างมาด้วยกัน ถ้าหากสีแดงสีเหลือง ปีนั้นไม่มีฝน ฝนทิ้งช่วง"

    "ลูกมะเดื่อก็บอกฝน" พ่อจอนิเริ่มบทเรียนต่อไป "ถ้ามันออกลูกตรงปลายกิ่งเยอะ จะมีฝนปลายปี ถ้ามันออกลูกกลางต้น แสดงว่ามีฝนกลางปี ถ้ารวมอยู่ตรงโคนต้น หมายถึงมีฝนตกต้นปี"

    เสียงลมฟ้าอากาศ คงไล่สั่นสะเทือนลงตามก้านกิ่ง ไหวลึกไปถึงราก เป็นเมนูใบสั่งจากดินฟ้าอากาศ เป็นเมนูอากาศที่สอนให้คนไม่ประมาท รู้คาดการณ์ล่วงหน้า พร้อมให้ทำใจรับสภาพกับเพทภัยที่อาจจะเกิดขึ้น อย่างน้อยได้เตรียมใจหยั่งรู้ไว้ล่วงหน้า

    เครื่องมือวัดฝนอีกอย่างคือ การล้างหน้าตอนเช้า "ตื่นขึ้นมาล้างหน้า รู้สึกหน้าลื่นๆ วันนั้นฝนจะตก"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2011
  16. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman
    วันที่ 25 ตุลาคม พบจุดดับ 1330กำลังเข้ามาเรียงตัวกับโลกซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 28-29 ตุลาคม และอาจมีปฏิกริยาขึ้นในช่วงนั้น



    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]

    นับจากนี้ภัยพิบัติจะเริ่มเลวร้ายมากยิ่งขึ้น!!! เพราะประเทศไทยโดนรังสีเต็มๆ
    เขียนให้อ่านง่ายๆ นะ

    มองไปที่จุดดับ 1330 สีส้มแล้วเปรียบเทียบกับรูปใหญ่ ซึ่งเป็นรูลึกลงไปเลย แล้วขณะขณะนี้ 26 ตุลา มันมีประสิทธิภาพที่ก่อให้เกิด solar flare class M ได้ หรือ อาจจะแรงกว่านั้น

    ทีนี้อะไรจะเกิดขึ้น

    ในวันที่ 28 ตุลาคม คือ ศุกร์นี้ เจ้าจุดดับใหญ่กลวงโบ๋ 1330 นี้ มันจะหมุนมา (ซ้าย-->ขวา) จากรูป แล้วมันก็จะมาอยู่ประมาณกึ่งกลาง แนวตรงกับโลก ในวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม

    ยิ่งไปกว่านั้น ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ มีการเรียงตัวของดวงอาทิตย์ ดาวพฤหัส และโลก --> ผลคือ เวลามีการเรียงตัวมันก็จะทำให้ดวงอาทิตย์ จะปะทุพลังงานออกมา

    แล้วอย่างไรต่อ เจ้าจุดดับใหญ่ 1330 นี้ มันมีพลังงานที่จะก่อให้เกิด solar flare ขนาดปานกลาง (Class M) หรืออาจจะมีพลังทำให้เกิด solar flare ขนาดใหญ่ (Class X) ได้ คราวนี้มันมีการส่งเสริมกันไง (พร้อมที่จะระเบิด มีตัวเร่งให้ระเบิด แล้วระเบิดตรงกับโลกเรา)

    ก็จะทำให้ดวงอาทิตย์ มีโอกาสที่จะระเบิด แรง(โดยเฉพาะ ตรงจุดดับ 1330 ใหญ่กลวงโบ๋) อันนั้น แล้ววันนั้นมันก็มาตรงกับโลกพอดี แบบว่าถ้าระเบิดมาก็พุ่งตรงๆ มายังโลกเราเลย

    คล้ายกับตอนที่จุด 1283 ระเบิด Class X มา จุดดับ 1283 ตรงกับโลก แล้วมันก็พาอะไรต่อมิอะไรเข้ามาทำปฏิกิริยากับโลกเรา ผสมโน่นผสมนี่ก่อเกิดน้ำจำนวนมหาศาล ที่กำลังเข้ามาหาเราชาวกทม.อยู่ขณะนี้ไง

    ถ้ามีการระเบิดจริงวันที่ 28 ตุลาคม แรงๆ ผลจะเป็นอย่างไร
    ผลก็คือ
    1 - อากาศแปรปรวน และอาจทำให้เกิดฝนมหาศาล อภิมหาฝน มาอีกแล้วครับท่าน
    2 - แผ่นดินไหว
    ฯลฯ อื่นๆ ที่อาจไม่รู้

    และเท่าที่เห็นๆ ถ้าให้ทายมันจะอยู่พิกัดทางใต้ของเรา (โอกาสน่าจะเป็นมาก)
     
  17. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    อากาศ 7 วันข้างหน้า 26 ต.ค. 54 - 01 พ.ย. 54
    คาดหมาย
    ในช่วงวันที่ 26-30 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากบริเวณตั้งแต่ชุมพรลงไป ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ออกประกาศ 26 ตุลาคม 2554
     
  18. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    แล้วเราจะรอดได้อย่างไร

    [1.*ภัยจากดิน*/ถ้าเกิดแผ่นดินไหวให้ออกจากบ้านมาอยู่ที่โล่งๆเพราะโครงสร้างอาจจะไม่แข็งแรงพอ อาจทรุดตัวลงมาได้
    [​IMG]

    2.*ภัยจากน้ำ*/ถ้าเิกิดคลื่นสึนามิเราควรรีบไปที่สูงๆ ถ้าหนีไม่ทันควรอยู่บนตึกมากกว่า 2ชั้นขึ้นไปแต่ที่ดีที่สุดก็คือบนเขาสูงๆ
    [​IMG]

    3.*ภัยจากลม*/ถ้าเิกิดพายุที่ๆปลอดภัยที่สุดควรอยู่ในบ้าน ถ้าหนีออกจากบ้านหวังจะไปหลบที่อื่น อาจโดนเศษไม้ หรือสิ่งที่ปลิวมากับลมทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ หรือต้นไม้ล้มทับ ควรหลบให้ชิดกับกำแพงบ้าน เพราะหลังคาอาจต้านลมไม่ไหว
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2011
  19. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    ภัยที่ควรรู้
    สึนามิ
    [​IMG]
    สึนามิ เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่า Harbour Wave คำแรก สึ แปลว่า harbour คำที่สอง นามิ แปลว่า คลื่น ปัจจุบันใช้เป็นคำเรียก กลุ่มคลื่นที่มีความยาวคลื่นมากๆขนาดหลายร้อยไมล์ นับจากยอดคลื่นที่ไล่ตามกันไป เกิดขึ้นจากการที่น้ำทะเลในปริมาตรเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ถูกผลักดันให้เคลื่อนที่ในแนวดิ่ง ด้วยเหตุมาจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกส่วนที่อยู่ใต้ทะเลลึก บางครั้งก็เรียกว่า seismic wave เพราะส่วนใหญ่เกิดจากการเคลื่อนไหวดังกล่าว เรามักจะสับสนกับคำว่า สึนามิ กับ tidal wave ซึ่งเกิดจากน้ำขึ้นน้ำลง แต่ สึนามิ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการขึ้นลงของน้ำเลย

    [​IMG]


    สึนามิ ส่วนใหญ่ เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกใต้ทะเลอย่างฉับพลัน อาจจะเป็นการเกิดแผ่นดินถล่มยุบตัวลง หรือเปลือกโลกถูกดันขึ้นหรือยุบตัวลง ทำให้มีน้ำทะเลปริมาตรมหาศาลถูกดันขึ้นหรือทรุดตัวลงอย่างฉับพลัน พลังงานจำนวนมหาศาลก็ถ่ายเทไปให้เกิดการเคลื่อนตัวของน้ำทะเลเป็น คลื่นสึนามิ ที่เหนือทะเลลึก จะดูไม่ต่างไปจากคลื่นทั่วๆไปเลย จึงไม่สามารถสังเกตได้ด้วยวิธีปกติ แม้แต่คนบนเรือเหนือทะเลลึกที่ คลื่นสึนามิ เคลื่อนผ่านใต้ท้องเรือไป ก็จะไม่รู้สึกอะไร เพราะเหนือทะเลลึก คลื่นนี้ สูงจากระดับน้ำทะเลปกติเพียงไม่กี่ฟุตเท่านั้น จึงไม่สามารถแม้แต่จะบอกได้ด้วยภาพถ่ายจากเครื่องบิน หรือยานอวกาศ

    นอกจากนี้แล้ว สึนามิ ยังเกิดได้จากการเกิดแผ่นดินถล่มใต้ทะเล หรือใกล้ฝั่งที่ทำให้มวลของดินและหิน ไปเคลื่อนย้ายแทนที่มวลน้ำทะเล หรือภูเขาไฟระเบิดใกล้ทะเล ส่งผลให้เกิดการโยนสาดดินหินลงน้ำ จนเกิดเป็นคลื่น สึนามิ ได้ ดังเช่น การระเบิดของภูเขาไฟ คระคะตัว ในปี ค.ศ. ๑๘๘๓ ซึ่งส่งคลื่น สึนามิ ออกไปทำลายล้างชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนในเอเชีย มีจำนวนผู้ตายถึงประมาณ ๓๖,๐๐๐ ชีวิต


    โคลนถล่ม
    [​IMG]

    โคลนถล่ม เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามเชิงเขา โดบอาจจะเป็นการถล่มของโคลน น้ำ สิ่งปฏิกูล เศษขยะ ดินเปียก ฝุ่นผง เถ้าภูเขาไฟ ต้นไม้ และท่อนซุง

    โคลนถล่มอาจเกิดหลังจากฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หรือการเกิดแผ่นดินไหว สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโคลนถล่มก็คือ การตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ไม่มีรากไม้ที่จะยึดดิน ทำให้ดินถล่มได้ง่าย

    กระบวนการเกิดดินหรือโคลนถล่ม
    หลังจากฝนตกหนัก น้ำจะซึมลงไปในดินอย่างรวดเร็ว จนดินอุ้มน้ำเกิดการอิ่มตัวทำให้แรงยึดเกาะระหว่างมวลดินลดลง ส่วนระดับน้ำใต้ผิวดินก็สูงขึ้น และไหลมาตามช่องว่างระหว่างดินตามความลาดชันของภูเขา และเมื่อมีการเปลี่ยนความชันจนเกิดเป็นน้ำผุด จะป็นจุดแรกที่มีการเลื่อนไหลของดิน หลังจากนั้นดินจะเลื่อนไหลต่อเนื่องไปตามลาดเขา

    ข้อสังเกตุหรือสิ่งบอกเหตุที่สำคัญได้แก่

    ฝนตกหนักถึงหนักมาก (มากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวัน) นานหลายวัน
    น้ำในลำห้วยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนเป็นสีของดินภูเขา
    มีเสียงดังอึ้ออึง ผิดปกติมาจากภูเขาและลำห้วย
    โคลนถล่นในประเทศไทย

    เหตุการณ์โคลนถล่มที่มีความรุงแรงในประเทศไทย ที่มีการบันทึกไว้ได้แก่

    วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้มีดินโคลนถล่มในพื้นที่ อ.ลับแล จ.อุดรดิตถ์ เสียชีวิต ๘๗ คน สูญหาย ๒๙ คน
    วันที่ ๑o สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๔ น้ำป่าโคลนถล่มที่ ต.น้ำก้อ ต.น้ำชุน ต.หนองไขว้ ใน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ บ้านเรือนเสียหาย ๕๑๕ ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า ๑๓o คน
    วันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๔ น้ำป่าทะลักจากอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ถล่มใส่หลายหมู่บ้านใน อ.วังชื้น จ.แพร่ มีผู้เสียชีวิต ๒๓ คน สูญหาย ๑๖ ราย บาดเจ็บ ๕๘ ราย
    วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๑ ที่ ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิตถึง ๗oo คน


    พายุหมุนเขตร้อน

    [​IMG]



    พายุหมุนเขตร้อนเป็นคำที่ใช้เรียกพายุหมุนหรือไซโคลนที่มีถิ่นกำเนิดเหนือมหาสมุทรในเขตร้อนแถบเส้นรุ้งต่ำใกล้เขตศูนย์สูตร มีการหมุนเวียนของลมพัดเวียนทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือและพัดเวียนตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้พายุหมุนเขตร้อนเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่มีอนุภาพรุนแรงและมีผลกระทบต่อลักษณะอากาศในเขตร้อน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย เช่น ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และเกิดคลื่นสูงในทะเล พายุหมุนเขตร้อนนี้เมื่อมีกำลังแรงสูงสุดมีชื่อเรียกแตกต่างออกไปตามแหล่งกำเนิด เช่น พายุที่เกิดในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า “ไซโคลน” เกิดในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลแคริเบียน อ่าวเมกซิโกและทางด้านตะวันตกของแม็กซิโกเรียกว่า “ไต้ฝุ่น” และเกิดแถบทวีปออสเตรเลียเรียกว่า”วิลลี่-วิลลี่”

    พายุหมนเขตร้อนทีมีแหล่งกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตกและทะเลจีนใต้ มีการแบ่งเกณฑ์ความรุนแรงของพายุตามข้อตกลงระหว่างประเทศโดยใช้ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางพายุกำหนดมีดังนี้

    พายุดีเปรสชั่น : มีความเร็วลมไม่เกิน ๓๓ นอต (๖๑ กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
    พายุโซนร้อน : มีความเร็วลม ๓๔-๖๓ นอต (๖๒-๑๑๗ กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
    ไต้ฝุ่น : มีความเร็วลม ๖๔ นอต (๑๑๘ กิโลเมตรต่อชั่วโมง)


    ประเทศไทยตั้งอยู่ระหว่างบริเวณแหล่งกำเนิดของพายุหมุนเขตร้อนสองด้าน ด้านตะวันออกคือมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ ส่วนด้านตะวันตกคืออ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน โดยพายุมีโอกาสเคลื่อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้เข้าสู่ประเทศไทยทางด้านตะวันออกมากกว่าทางด้านตกวันตก ปกติประเทศไทยจะมีพายุเคลื่อนผ่านเข้ามาได้โดยเฉลี่ยประมาณ ๓-๔ครั้งต่อปี บริเวณที่พายุมีโอกาสเคลื่อนผ่านเข้ามามากที่สุดคือภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค ซึ่งในระยะต้นปีระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมเป็นช่วงที่ประเทศไทยปลอดจากอิทธิพลของพายุ จนถึงเดือนเมษายนนับเป็นเดือนแรกของปีที่พายุเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทางภาคใต้ได้ แต่ก็มีโอกาสน้อยและเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ ๕๑ ปี ผ(พ.ศ. ๒๔๙๔-๒๕๔๔) ซึ่งพายุเริ่มมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและโดยส่วนใหญ่เป็นพายุที่เคลื่อนมาจากด้านตะวันตกเข้าสู่ประเทศไทยทางตอนบน และตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไปพายุส่วนใหญ่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทางด้านตะวันออก โดยช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมพายุยังคงเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบน ซึ่งบริเวณตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ที่พายุมีโอกาสเคลื่อนผ่านเข้ามามากที่สุด และเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมพายุมีโอกาสเคลื่อนเข้ามาได้ในทุกพื้นที่ของประเทศ โดยเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตั้งแต่เดือนกันยายน ในสองเดือนนี้เป็นระยะที่พายุมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยได้มาก โดยเฉพาะเดือนตุลาคมมีสถิติเคลื่อนเข้ามามากที่สุดในรอบปี สำหรับช่วงปลายปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนพายุจะเคลื่อนเข้าสู่ปะเทศไทยตอนบนน้อยลงและมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้มากขึ้น เมื่อถึงเดือนธันวาคมพายุมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้เท่านั้น โดยไม่มีพายุเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอยบนอีก

    พายุที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบนส่วนใหญ่เป็นพายุดีเปรสชั่น เพราะพื้นดินและเทือกเขาของประเทศเมียนมาร์ เวียดนาม ลาว และกัมพูชา ที่ล้อมรอบประเทศไทยตอนบนเป็นปัจจัยที่ช่วยลดความรุนแรงของพายุก่อนที่จะเคลื่อนมาถึงประเทศไทย ดังนั้นความเสียหายที่เกิดจากลมแรงจึงน้อยกว่าภาคใต้ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นพื้นที่สู่ทะเล พายุที่เคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยและขึ้นฝั่งภาคใต้ขณะมีกำลังแรงขนาดพายุโซนร้อนหรือไต้ฝุ่นจะมีผลกระทบเป็นอย่างมากจากคลื่นพายุซัดฝั่ง ลมพัดแรงจัด และฝนตกหนักถึงหนักมากจนเกิดอุทกภัย รวมทั้งคลื่อลมแรงในอ่าวไทย ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้น ๓ ครั้งในอดีย ได้แก่พายุโซนร้อน “แฮเรียด” ที่เคลื่อนเข้าสู่แหลมตะลุมพุกจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ ๒๕-๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕o๕ พายุไต้ฝุ่น “เกย์” ที่เคลื่อนเข้าสู่จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๒ และพายุไต้ฝุ่น “ลินดา” ที่เคลื่อนเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันต์ขณะมีกำลังเป็นพายุโซนร้อนเมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔o

    อุทกภัย
    [​IMG]

    กรณีเกิดน้ำท่วมใหญ่ในเขตชุมชน หรือท่วมพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรแล้วทำให้ทรัพย์สินและพืชผลจำนวนมาก ตลอดจนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้รับความเสียหาย เราเรียกว่า “อุทกภัย” เช่น อุทกภัยเนื่องจากน้ำป่าไหลหลากจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ที่บ้านน้ำก้อ-บ้านน้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และอุทกภัย เนื่องจากน้ำท่วมใหญ่บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างและที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งได้ทำความเสียหายอย่างมากมายมาแล้วหลายครั้งในอดีต

    สาเหตุของการเกิดน้ำท่วมและอุทกภัย
    เนื่องจากความวิปริตผันแปรของธรรมชาติ และบางท้องที่การกระทำของมนุษย์ก็มีส่วนสำคัญทำให้ภาวะการเกิดอุทกภัยมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

    โดยธรรมชาติ ได้แก่

    การเกิดฝนตกหนักจนทำให้เกิดอุทกภัย ส่วนใหญ่เป็นฝนอันเกิดจากอิทธิพลของพายุหมุนเขตร้อน
    ลักษณธและส่วนประกอบตามธรรมชาติของพื้นที่ลุ่มน้ำ มีขนาดพื้นที่ลุ่มน้ำ ความลาดชัน ชนิดของดิน สภาพพืชต่างๆ
    น้ำทะเลหนุน
    โดยการกระทำของมนุษย์ ได้แก่

    การบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำ
    การใช้ที่ดินโดยไม่มีการควบคุม การทำลายระบบระบายน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติ การขยายตัวของชุมชนจนทำลายแก้มลิงธรรมชาติ
    การก่อสร้างบ้านเรือน ถนน และสิ่งก่อสร้างต่างๆ กีดขวางทางน้ำไหล
    แม่น้ำลำธารมีสภาพตื้นเขินหรือถูกบุกรุก
    แผ่นดินทรุด เนื่องจากมีการสูบน้ำบาดาลไปใช้เกินสมดุลย์ จนแผ่นดินมีการทรุดตัวลงเป็นบริเวณกว้าง
    อุทกภัยในอดียที่ทำความเสียหายให้อย่างรุกแรง
    ได้มีการบัยทึกในระยะ ๑o ปีเศษที่ผ่านมามี ดังนี้
    พ.ศ.๒๕๓๘ พายุดีเปรสชั่นพัดเข้าสู่ประเทศไทย บริเวณภาคเหนือหลายลูก ทำให้เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมรุนแรงทั่วประเทศจากภาคกลางตอนบนถึงภาคกลางตอนล่าง ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่าน และลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตกจังหวัดนครศวรรค์ถึงกรุงเทพมหานคร ได้รับผลกระทบ พื้นที่เกษตรกรรมและชุมชนบ้านเรือน ถูกน้ำท่วมรุนแรงนานหลายเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเทพมหาครและปริมณฑลอยู่ในอิทธิพลน้ำทะเลหนุนซ้ำเติม ถูกน้ำท่วมหนักที่สุด หลังจากปีน้ำท่วมใหญ่ พ.ศ.๒๔๘๕ ทีเดียว


    แผ่นดินไหว

    [​IMG]
    
    แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล ประวัติการเกิดแผ่นดินไหวในอดีตที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตนับแสนคนในประเทศที่อยู่ในเจตแผ่นดินไหว เช่น จีนและญี่ปุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ได้เกิดความเสียหายรุนแรงต่ออาคารบ้านเรือน ทางด่วน และระบบสาธารณูปโภคมากกว่าที่คาดไว้ แม่ว่าได้ออกแบบก่อสร้างให้เผื่อรับแรงแผ่นดินไหวตามที่กฏหมายบังคับไว้แล้วก็ตาม

    ถึงแม้ประเทศไทยจะไม่ได้อยู่ในบริเวณแผ่นดินไหวใหญ่ของโลก แต่จากการเกิดแผ่นดินไหวขึ้นหลายครั้งที่มีศูนย์กลางทั้งในและนอกประเทศ จะเห็นได้ส่าบางครั้งสามารถส่งแรงสั่นสะเทือนที่รู้สึกได้โดยทั่วไปและก่อให้เกิดความเสียหายเล็กน้อยต่ออาคาร เช่น แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๘ ขนาดความแรง ๕.๖ ริคเตอร์ ที่จังหวัดตาก , เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๒๖ ขนาดความแรง ๕.๙ ริคเตอร์ ที่จังหวัดกาญจนบุรี และครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๓๗ ขนาดความรุนแรง ๕.๑ ริคเตอร์ ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งทำให้อาคารโรงพยาบาลพาน ที่อ.พาน เสียหายค่อนข้างหนักถึงขั้นระงับการใช้อาคาร สำหรับโรงเรียนและวัดหลายแห่งเสียหายเล็กน้อยจนถึงปานกลาง

    ปัจจุบันประเทศไทยมีการก่อสร้างอาคารสูงและสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่มากมาย ตลอดจนมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเพิ่มของจำนวนประชากรของประเทศอย่างรวดเร็ว มำให้ประเทศไทยมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดภัยจากแผ่นดินไหวสูงขึ้น ดังนั้น การศึกษาสถิติข้อมูลแผ่นดินไหวและการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นแหล่งกำเนิดของแผ่นดินไหวได้

    นอกจากนั้น การศึกษาความรุนแรงของแผ่นดินไหวในอดีต จะเป็นแนวทางในการจัดทำแผนที่แบ่งเขตแผ่นดินไหว และแผนที่นี้จะเป้นตัวกำหนดค่าความเสี่ยงภัยจากแผ่นดินไหวในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ สำหรับที่จะนำไปใช้ในการออกกฏกระทรวงว่าด้วยแรงแผ่นดินไหว เพื่อควบคุมการก่อสร้างต่างๆให้สามารถต้านทานแรงแผนดินไหวได้อย่างเหมาะสม

    ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว
    ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในอดีตที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นบทเรียนสำคัญในการวางแผนป้องกันและบรรเทาภัยผ่นดินไหวในอนาคต กล่าวได้ว่า พ.ศ.๒๔๑๙ เป็นปีของภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวของโลก เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง ๓oo, ooo คน โยเกิดขึ้นที่ประเทศต่างๆ เช่น กัวเตมาลา อิตาลี อิหร่าน จีน ฟิลิปปินส์ และตุรกี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผ่นดินไหวที่เมืองตางชาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีผู้เสียชีวิตกว่าสองแสนคน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายแสนคน ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

    แผ่นดินไหวในปี ๒๕๑๙ นี้ มิได้เกิดขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยของแผ่นดินไหวที่เคนเกิดในปีอื่นๆเลยจากสถิติแผ่นดินไหวทั่วโลก แต่ละปีจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง ๖ ริคเตอร์ ประมาณ ๑oo ครั้ง และขนาดความรุนแรง ๗ ริคเตอร์ประมาณ ๒o ครั้ง ตัวเลขนี้แสดงให้เหน็นว่า ทุกๆปี จะมีการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ แต่ในปี ๒๕๑๙ นี้ เป็นปีที่โชคร้ายที่เผอิญเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้นที่บริเวณเมืองและชุมชน ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น

    ความเสียหายจากแผ่นดินไหวส่วนใหญ่เกิดจากการพังทลายของบ้านเรือนและอาคารที่ไม่แข็งแรงการสั่นสะเทือนของพื้นดินยังทำให่สภาพดินหรือทรายที่อยู่ใต้อาคารมีสภาพคล้ายของเหลว เกิดปรากฏการณ์ที่เรื่อกว่า Liquefaction โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเสณที่มีดินอ่อน เช่น แผ่นดินไหวที่แม็กซิโกซิตี้ ในปี ๒๕๒๘ และแผ่นดินไหวที่โกเบในปี ๒๕๓๘ จะเห็นอาคารบางแห่งเอียงหรือตะแคงล้มลง

    นอกจากความเสียหายที่เกิดกับอาคารแล้ว ยังมีภัยอื่นที่ตามมาหลังเกิดแผ่นดินไหว เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินถล่ม บางครั้งอาจก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่าการสั่นไหวโดยตรงเสียอีก ตัวอย่างเช่น แผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโก ปี ๒๔๔๙และแผ่นดินไหวที่โตเกียว ปี ๒๔๖๖ ทำให้เกิดไฟไหม้ติดต่อกันนานถึง ๓ วัน บ้านเรือนกว่า ๗o% ถูกไฟไหม้เนื่องจากขาดอุปกรณ์ในการดับเพลิงและไม่มีน้ำสำหรับดับไฟ เพราะท่อประปาแตกจากการเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวที่โตเกียวนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง ๑๔o, ooo คน

    สำหรับภัยที่เกิดจากน้ำท่วมฉับพลันนั้น มักเกิดเนื่องจากคลื่อใต้น้ำที่เรียกว่า “คลื่นสึนามิ” ซึ่งเคลื่อนเข้าหาใงทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณชายฝั่งและทำความเสียหายแก่เรือที่จอดอยู่ บางครั้งคลื่นมีความสูงมากสามารถทำให้ผู้ที่อยู่บริเวณชายฝั่งจนน้ำตายได้ แต่คลื่นใต้น้ำนี้สามารถทำนายได้ว่าจะเคลื่อเข้าหาฝั่งเวลาใด หากทราบตำแหน่ง ขนาด และความลึกของแผ่นดินไหว ศูนย์การเตือนภัยคลื่นสึนามินี้ตั้งอยู่ที่ฮาวาย สหรัฐอเมรกา มีหน้าที่เตือนภัยให้กับประเทศต่างๆ ที่อยู่บริเวณชายฝั่งรอบๆ มหาสมุทรแปซิฟิก โดยได้รับความร่วมมือจากประเทศต่างๆ มีเครือข่ายการตรวจแผ่นดินไหว

    ความเสี่ยงภัยจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย
    ประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าประเทศไทยตั้งอยู่บริเสณที่ปลอดภัยจากแผ่นดินไหวและเชื่อว่าแผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้นในอดีตนั้นมีขนาดไม่รุนแรงไม่เป็นอันตรายต่ออาคารสิ่งก่อสร้างและชีวิตของประชาชนบางครั้งอาจทำให้ผู้คนตกใจบ้างแต่ก็ไม่เป็นอันตรายซึ่งไม่น่าที่จะต้องมีมาตราใดๆสำหรับป้องกันและรับมือต่อภัยแผ่นดินไหวความเชื่อนี้มาจากความจริงที่ว่าในอดีตที่ผ่านมาประเทศไม่มีประวัติการเกิดแผ่นดินไหวที่ก่อให้เกิดความรุนแรงรวมทั้งการตรวจแผ่นดินไหวยังไม่ครอบคลุมและละเอียดเพียงพออีกทั้งยังไม่มีการศึกษาอย่างจริงจังถึงแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว อย่างไรก็ดี ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา การศึกษาวิจัยด้านแผ่นดินไหวในประเทศไทยได้ก้าวหน้าขึ้นมากมีการรวบรวมข้อมูลแผ่นดินไหวอย่างเป็นระบบและมีเครือข่ายสถานีตรวจแผ่นดินไหวมากขึ้น ทำให้สามารถตรวจจับการเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กและขนาดกลางได้จำนวนมากในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ รวมทั้งนักวิชาการจากหลายสถาบันได้ทำการวิเคราะห์และสร้างแผนที่ความเสี่ยงภัยขึ้นมาหลายชุดผลการวิเคราะห์บ่งชี้ว่า บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันตกมิได้ปลอดภัยจากภัยแผ่นดินไหว แต่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับปานกลาง

    หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความเสี่ยง คือ แผ่นดินไหวที่ อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อ ๑๑ กันยายน ๒๕๓๗ มีขนาดความแรง ๕.๑ ริคเตอร์ จัดได้ว่าเป็นแผ่นดินไหวขนาดกลาง ซึ่งแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดห่างจากตัว อ.พาน ประมาณ ๑๕ กิเมตร ก่อให้เกิดความเสียหายค่อยข้างรุนแรงต่อโครงสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น ของโรงพยาบาลพาน นอกจากนั้นยังมีอาคารเรียนและอาคารพานิชย์แตกร้าว อาคารเรียนหลายแห่งต้องย้ายนักเรียนหลายห้องออกมาเรียนในเต็นท์ชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย โดยโรงเรียนมากกว่า ๒o หลัง และวัดอีกว่า ๓o แห่ง มีความเสียหายเล็กน้อยถึงปานกลาง

    แผ่นดินไหวที่ อ.พานนี้ มิได้รุงแรงที่สุดจากที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยซึ่งข้อมูลในอดีตพบว่าในปี ๒๕๒๖ ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดความแรง ๕.๓ และ ๕.๙ ริคเตอร์ เมื่อ ๑๕ และ ๒๒ เมษายน ที่ จ.กาญจนบุรี มาแล้วโดยมีศูนย์กลางบริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ ประมาณ ๕๕ กิโลเมตร ระดับความรุนแรงก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ผู้ที่อยู่อาศัยอยู่บริเวณภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคเหนือของประเทศ รวมถงกรุงเทพมหานครซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ ๒oo กิโลเมตร เกิดความเสียหายเล็กน้อยแก่อาคารในกรุงเทพมหานคร

    แผ่นดินไหวที่มีอานุภาพรุนแรงถึงขั้นที่สามารถทำลายอาคารบ้านเรือนได้ เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า ๔ครั้ง ในบรเวณภาคเหนือและภาคตะวันตก แต่โชคดีที่แผ่นดินไหวเหล่านี้มีศุนย์กลางอยู่ไกลจากแหล่งชุมชน จึงไม่มีอาคารบ้านเรือนอยู่ในรัศมีการทำลายและการสูญเสียชีวิตของประชาชน ความไม่พร้อมในการเตรียมรับมือกับภัยพิบัติของเราที่สำคัญ คือ เรายังขาดแคลนการสนับสนุนด้านงบประมาณและบุคลากร เช่ร กรมทรัพยากรธรณ๊ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสำรวจรอยเลื่อน กรมอุตุนิยมวิทยาขาดผู้เชี่ยวชาญที่จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์หาความเสี่ยงภัยและจัดทำแผนที่เสี่ยงภัย หรือกรมโยธาธิการขาดผู้เชี่ยวชาญที่สามารถสร้างมาตรฐานการออกแบบอาคารต้านทานแรงแผ่นดินไหวให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น

    ในขณะนี้มีเพียง “โครงการลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย” ซึ่งเป็นโครงการสำรวจวิจัยขนาดใหญ่มีความเป็นไปได้ที่จะใช้ระยะเวลาดำเนินการ ๔ ปี โดยงบประมาณ ๗o ล้านบาท ซึ่งได้รับการเห็ฯชอบจากรัฐบาลให้ดำเนินการได้ระหว่างปี ๒๕๔o-๒๕๔๓ ถือเป็นโครงการนำร่องที่สำคัญต่อการศึกษาวิจัยด้านแผ่นดินไหวในอนาคต และมีความจำเป็นต้องว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ที่มีความรู้และประสบการณ์สูงในหลายสาขาของวิศวกรรมแผ่นดินไหวที่ประเทศไทยยังขาดแคลนอยู่ให้มาช่วยทำการศึกษา สำรวจ และวิจัย โดยกำหนดให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่บุคลากรไทยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถปฏิบัติได้องหลังจากสิ้นสุดโครงการแล้ว

    การเกิดคลื่นสึนามิเนื่องจากแผ่นดินไหวสำคัญของโลก

    พ.ศ.๒๔๗๒ ที่แกรนแบงค์ ประเทศแคนาดา จากการเกิดแผ่นดินไหว ๗.๒ ริคเตอร์ ความเสียหาย ๔oo, ooo เหรียญสหรัฐ
    พ.ศ.๒๔๘๙ ที่อลาสกา จากการเกิดแผ่นดินไหว ๗.๘ ริคเตอร์ความเสียหาย ๒๔ ล้านเหรียญสหรัฐ
    พ.ศ.๒๔๙๕ ที่รัสเซีย จากการเกิดแผ่นดินไหว ๘.๒ ริคเตอร์ ความเสียหาย ๑ ล้านเหรียญสหรัส
    พ.ศ.๒๔oo ที่อลาสกา จากการเกิดแผ่นดินไหว ๘.๓ ริคเตอร์ความเสียหาย ๕ ล้านเหรียญสหรัฐ
    พ.ศ. ๒๕oo ที่ประเทศชิลี จากการเกิดแผ่นดินไหว ๙.๖ ริคเตอร์ความเสียหาย ๑ ล้านเหรียญสหรัฐ
    พ.ศ.๒๕o๗ ที่อลาสกา จากการเกิดแผ่นดินไหว ๘.๔ ริคเตอร์ความเสียหาย ๑o๖ ล้านเหรียญสหรัฐ
    พ.ศ.๒๕๔๖ ที่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย จากการเกิดแผ่นดินไหว ๗.๙ ริคเตอร์ความหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า ๒๘o, ooo คน
    เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งสำคัญของประเทศไทย

    พ.ศ.๑oo๓ แผ่นดินไหวไม่ทราบความรุนแรง ที่นครโยนก (อำเภอพาน)แผ่นดินยุบที่ อ.เมืองพะเยา เมื่อวันเสาร์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๗
    ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๘ แผ่นดินไหว ๕.๖ ริคเตอร์ ที่ จ.ตาก
    ๒๒ เมษายน ๒๕๒๖ แผ่นดินไหว ๕.๙ ริคเตอร์ ที่ จ.กาญจนบุรี
    ๑๑ กันยายน ๒๕๓๗ แผ่นดินไหว ๕.๑ ที่ จ.เชียงราย
    [​IMG]
    [​IMG]
    อ้างอิง หนังสือกรมทรัพยากรธรณี/หนังสือแผ่นดินไหวภัยทั่วโลก เอกพร เทิดไทย


    [​IMG]


    [​IMG]


    ประเทศไทยมีรอยเลื่อนมีพลังจำนวน 45 รอยเลื่อนได้แก่ รอยเลื่อนเชียงแสน แม่จัน แม่อิง มูลาว หนองเขียว เชียงดาว เมืองแหง แม่ฮ่องสอน ขุนยวม แม่ลาหลวง แม่สะเรียง พร้าว ปัว ดอยหมอก วังเหนือ แม่งัด แม่ปิง ดอยปุย แม่ทา อมก๋อย เมืองปาน แม่หยวก แม่ทะ เถิน แม่วัง ท่าสี งาว แม่ติป สามเงา ผาแดง ดอยหลวง แม่ยม แม่กลอง แพร่ อุทัยธานี อุตรดิตถ์ น้ำปาด เขาดำ ท่าอุเทน ศรีสวัสดิ์ เจดีย์สามองค์ เขาราวเทียน ระนอง อ่าวลึก และ คลองมะรุ่ย

    ที่มา ... http://www.paipibut.org/view.php?dataid=5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2011
  20. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    เขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีน มหันตภัยใหญ่ของประเทศไทย !!!
    [​IMG]
    เขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีน

    รัฐบาลจีนมีนโยบายที่จะพัฒนาเขื่อนบนแม่น้ำโขงกว่า 20 แห่ง โดยในปัจจุบันได้สร้างเสร็จและดำเนินการแล้ว 2 แห่งได้แก่เขื่อนม่านวาน สร้างเสร็จในปี 2539 ขนาด 1,550 เมกะวัตต์ และเขื่อนต้าเฉาชาน สร้างเสร็จในปี 2546 ขนาด 1,350 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 เขื่อนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้แก่เขื่อนเสี่ยววาน คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2555 ขนาด 4,200 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิงหง คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2553 ขนาด 1,750 เมกะวัตต์

    [​IMG]
    Zone 1 คือปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่ถูกกักเก็บไว้ในเขื่อนเหนือประเทศไทย





    [​IMG]
    เส้นสีส้มคือเส้นทางที่แม่น้ำโขงจะทะลักเข้าไทย(ถ้าเขื่อนแตก)


    รัฐบาลจีนมีนโยบายที่จะพัฒนาเขื่อนบนแม่น้ำโขงกว่า 20 แห่ง โดยในปัจจุบันได้สร้างเสร็จและดำเนินการแล้ว 2 แห่งได้แก่เขื่อนม่านวาน สร้างเสร็จในปี 2539 ขนาด 1,550 เมกะวัตต์ และเขื่อนต้าเฉาชาน สร้างเสร็จในปี 2546 ขนาด 1,350 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 เขื่อนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้แก่เขื่อนเสี่ยววาน คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2555 ขนาด 4,200 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิงหง คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2553 ขนาด 1,750 เมกะวัตต์

    เขื่อนจิงหงนี้ก็คือเขื่อนที่ตั้งอยู่ที่เมื่องจิงหง หรือเชียงรุ่ง ในแคว้นสิบสองปันนา ซึ่งเดิมรัฐบาลจีนจะสร้างขึ้นเพื่อขายไฟฟ้าให้แก่ประเทศไทยเพราะมีระยะทางห่างจากชายแดนไทยเพียง 280 กิโลเมตร แต่เนื่องจากนโยบายของไทยขาดความชัดเจน รัฐบาลจีนจึงตัดสินใจเดินหน้าในการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองในประเทศจีน และหากต่อไปประเทศไทยยังมีความต้องการจะซื้อไฟฟ้าจากจีนจำนวน 3,000 เมกะวัตต์ตามข้อตกลง รัฐบาลจีนก็จะพัฒนาเขื่อนอื่นเพื่อผลิตไฟฟ้าขายให้ไทยต่อไป

    ที่มา.... มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...