ในหลวง-ราชินี พระราชทานของแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 13 ธันวาคม 2005.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    ในหลวง-ราชินีทรงห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วม ให้ทหารนำวิ่งของพระราชออกแจกจ่ายราษฎรภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม เผย "ยะลา-นราธิวาส-ปัตตานี-สงขลา" ยังจมใต้น้ำ ขณะราคาอาหารทะเลพุ่ง 2 เท่าตัว เพราะเรือไม่สามารถออกหาปลา อุตุณ ยัน 13-16 ธันวาคม ยังน่าวิตก

    ในขณะที่ประชาชนหลายพื้นที่ในภาคใต้กำลังเผชิญกับปัญหาน้ำท่วม แต่คนไทยที่ประสบภัยเหล่านั้นก็ยังโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยพสกนิกร
    โดยเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ร.ท.ภัทรพงษ์ วรวัลย์ ผู้บังคับหมวดปืนเล็กที่ 3 ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ร้อย ร.ฉก.1034 พร้อมด้วย ร.ต.นิติพัทธ์ ทองเล็ก ผู้บังคับหมวดปืนเล็กที่ 1 ได้นำสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ราษฎรในพื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 6 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม
    ในส่วนของราษฎรใน อ.เบตง ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมนั้น ด้วยความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงทรงมอบหมายให้ชุดร้อย ร.ฉก.1034 นำสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ราษฎร เพื่อบรรเทาทุกข์กับอากาศที่หนาวเย็นเนื่องจากมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเบตง ได้ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการรักษาพยาบาลประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมด้วย
    ยะลายังจมหลายจุด
    ขณะเดียวกัน การเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในภาคใต้ตอนล่างเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ใน จ.ยะลา ต้องประสบภัยน้ำท่วมอีกครั้ง โดยเฉพาะใน อ.เมือง และ อ.รามัน โดยนายสำเริง วงศ์มณีวรณ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.เมือง และ อ.รามัน บางพื้นที่รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หลังกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าจะมีฝนตกหนักอีกระลอกในวันที่ 13-16 ธันวาคมนี้
    "ในระหว่าง 1-2 วันนี้ หากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากเขื่อนบางลางยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกถึง 25%" นายสำเริง กล่าว
    ส่วนผลการสำรวจความเสียหายในเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่แขวงการทางยะลา และทางหลวงชนบท จ.ยะลา สำรวจพบว่า มีถนนและสะพานหลายแห่งได้รับความเสียหายรวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 9 ล้านบาท ซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้เร่งทำการซ่อมแซมถนนและสะพานที่ได้รับความเสียหายให้กลับสู่ภาวะปกติอย่างเร่งด่วนแล้ว
    นราธิวาสจมน้ำรอบ 2
    ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมใน จ.นราธิวาส นั้น หลังจากฝนหยุดตกติดต่อ 2 วัน ล่าสุดได้มีร่องความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ตั้งแต่เช้าวันที่ 12 ธันวาคม เกิดฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนักถึงหนักมาก กระจายปกคลุมทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลให้ระดับน้ำที่ท่วมขังบ้านเรือนของราษฎรใน 4 อำเภอ คือ ตากใบ สุไหงโก-ลก แว้ง และ รือเสาะ ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบ้านปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ในที่ราบลุ่มริมตลิ่งของแม่น้ำสายหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก และแม่น้ำสายบุรี 3,128 หลังคาเรือน ใน 17 ตำบล 13 หมู่บ้าน ท่วมสูงขึ้นจากระดับเดิมเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมประมาณ 10-20 ซม. ทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังสูงใน 4 อำเภอ ประมาณ 60-170 ซม. ชาวบ้านต้องสัญจรด้วยเรือเพื่อซื้ออาหารแห้งไปเก็บกักตุนไว้บริโภค เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะเกิดน้ำท่วมอีกระลอก
    ส่วนพื้นที่ราบลุ่มอีก 9 อำเภอ คือ ยี่งอ บาเจาะ ศรีสาคร ระแงะ สุไหงปาดี สุคิริน จะแนะ เจาะไอร้อง และ อ.เมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำที่ท่วมขังบ้านเรือนของชาวบ้านและพื้นที่เกษตรกรรมได้เริ่มคลี่คลายกลับคืนสู่สภาพปกตินั้น ปรากฏว่าหลังจากเกิดฝนตกรอบใหม่ก็เกิดน้ำท่วมขังขึ้นอีกรอบ โดยสูงขึ้นจากวันที่ 11 ธันวาคม ประมาณ 10-20 ซม. ทำให้ราษฎรที่อพยพกลับไปอาศัยอยู่ในบ้านพักเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา ต้องเตรียมขนย้ายสัมภาระที่จำเป็นหนีน้ำอีกครั้ง
    ชาวปัตตานีเดือดร้อน 5 หมื่นราย
    เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าฯ ปัตตานี ได้มาที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมทั้ง 12 อำเภอ ซึ่งนายภิญโญ ปานนุ้ย หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี สรุปว่า สถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 12 อำเภอนั้น ล่าสุดหลายอำเภอระดับน้ำได้ลดลงบ้างแล้ว แต่บางตำบลระดับน้ำยังคงที่ มีน้ำท่วมขังสูง 1-2 เมตร ประชาชนยังได้รับผลกระทบ และยังต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางออกหมู่บ้าน เพื่อรับอาหารแห้งจากหน่วยงานราชการที่นำมาแจกจ่าย
    อย่างไรก็ตาม ขณะที่ปริมาณน้ำตามอำเภอต่างๆ เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ปรากฏว่าเมื่อคืนวันที่ 11 ต่อเนื่องวันที่ 12 ธันวาคม มีน้ำไหลทะลักเข้าท่วมในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยเฉพาะเขตรอบนอกคือ ต.ปะกาฮะรัง ต.รูสะมิแล ซึ่งถนนเข้าออกหมู่บ้านทุกสายถูกน้ำที่เอ่อล้นจากแม่น้ำปัตตานีไหลเข้าท่วม ทำให้ประชาชนเริ่มอพยพออกจากหมู่บ้านไปอาศัยอยู่ในเต็นท์ริมถนน และบางรายอาศัยเกาะกลางถนนเป็นที่อาศัยชั่วคราว ขณะที่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ที่ ต.จะบังติกอ ซึ่งอยู่ใกล้กับแม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 50 ซม. ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้
    สำหรับพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนักทั้ง 12 อำเภอ ล่าสุดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี ได้รายงานถึงสถานการณ์ว่า ใน อ.โคกโพธิ์ ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น 12 ตำบล 80 หมู่บ้าน 6,363 ครัวเรือน ราษฎร 22,367 คน นาข้าว 4,146 ไร่ พืชผลการเกษตร 834 ไร่ สัตว์เลี้ยง 3,545 ตัว บ่อปลา 324 บ่อ ถนน 42 สาย สะพาน 4 แห่ง อ.หนองจิก 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน 325 ครัวเรือน ราษฎร 372 คน อ.มายอ 7 ตำบล 26 หมู่บ้าน 575 ครัวเรือน ราษฎร 1,087 คน ถนน 9 แห่ง นาข้าว 250 ไร่ บ่อปลา 35 บ่อ
    อ.ยะหริ่ง 5 ตำบล 11 หมู่บ้าน 256 ครัวเรือน ราษฎร 993 คน อ.กะพ้อ 3 ตำบล 14 หมู่บ้าน 600 ครัวเรือน ราษฎร 1,800 คน บ่อปลา 21 บ่อ อ.ปะนาเระ สถานการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย อ.ไม้แก่น 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน 171 ครัวเรือน ราษฎร 1,055 คน นาข้าว 113 ไร่ อ.แม่ลาน 1 ตำบล 6 หมู่บ้าน 698 ครัวเรือน ราษฎร 3,798 คน นาข้าวเสียหาย 300 ไร่ พืชผลการเกษตร 150 ไร่ อ.ยะรัง 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน 1,241 ครัวเรือน ราษฎร 4,855 คน อพยพราษฎรไปยังที่ปลอดภัย ต.เขาตูม 65 ครัวเรือน ต.คลองใหม่ 42 ครัวเรือน รวม 107 ครัวเรือน 672 คน
    อ.เมือง 6 ตำบล 16 หมู่บ้าน 1,174 ครัวเรือน ราษฎร 3,522 คน นาข้าว 880 ไร่ พืชไร่ 63 ไร่ พืชสวน 237 ไร่ อ.สายบุรี 6 ตำบล 11 หมู่บ้าน 1,558 ครัวเรือน ราษฎร 6,445 คน อ.ทุ่งยางแดง สถานการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างสำรวจสรุปความเสียหาย สรุปรวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมทั้ง 12 อำเภอ ทั้งสิ้น 52 ตำบล 193 หมู่บ้าน 12,961 ครัวเรือน 46,966 คน
    ส่วนการช่วยเหลือนั้น ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจนำได้ถุงยังชีพช่วยเหลือ 2,847 ถุง อาหารฮาลาล 9,768 กระป๋อง น้ำดื่ม 10,320 ขวด พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานีได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลแก่ผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว
    ชาวระโนดยังจมบาดาล
    ส่วนที่ จ.สงขลา เมื่อเวลา 09.30 น วันที่ 12 ธันวาคม ที่โรงเรียนวัดเกษตรชลธี หมู่ 1 ต.ตะเครียะ อ.ระโนด ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ สมาชิก อบจ.สงขลา เขตพื้นที่ อ.ระโนด พร้อมกำลังพลจากกองเรือภาคที่ 2 ได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคจาก อบจ.สงขลา 2,800 ชุด ออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.บ้านใหม่ ต.แดนสงวน และ ต.ตะเครียะ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น เนื่องจากพื้นที่ อ.ระโนด มีหลายตำบลติดทะเลสาบสงขลาที่มีน้ำทะเลหนุน ทำให้บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วม
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า สิ่งของที่นำไปช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้ยังไม่เพียงพอ ซึ่งอำเภอได้เตรียมงบประมาณฉุกเฉินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อจัดเครื่องอุปโภคบริโภคนำมาแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมในวันอังคารที่ 13 ธันวาคม สำหรับแจกจ่ายชาวบ้านในตำบลอื่นที่เดือดร้อนต่อไป
    ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู กล่าวว่า พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ นาข้าว และปัญหาเรื่องโค กระบือ ไม่มีหญ้ากิน เพราะหญ้าจมอยู่น้ำหมด ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสงขลาได้นำอาหารสำเร็จรูปประเภทหญ้าอัดแท่งมาแจกจ่ายให้แก่เจ้าของโค กระบือ แต่ปัญหาคือ โคพันธุ์พื้นเมืองกินอาหารสำเร็จรูปไม่เป็น จึงต้องเริ่มหัดให้โคกินอาหารสำเร็จรูปอัดแท่ง โดยการนำไปผสมกับหญ้าเพื่อให้เคยชินก่อน แต่เมื่อไม่มีหญ้าทำให้การแก้ปัญหายังทำไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่เจ้าของโคต้องใช้ความพยายามหัดให้โคกินอาหารสำเร็ปรูปให้ได้
    "ตอนนี้ต้องช่วยพื้นที่ล่อแหลมก่อน คือพื้นที่ที่ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบสงขลา และพื้นที่ที่อยู่ริมคลองระโนด โดยกองเรือภาคที่ 2 ได้นำเรือท้องแบน รถยนต์ กำลังพล และเครื่องอุปโภคบริโภคมาช่วยเหลือราษฎรตั้งแต่วันแรกที่ประสบเหตุแล้ว" ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู กล่าว
    อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ายังมีน้ำท่วมขังใน อ.ระโนด อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะริมทะเลสาบสงขลา ริมคลองระโนด และพื้นที่ที่ถนนกั้นขวางการไหลของน้ำจนทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ ทำให้น้ำท่วมขัง เช่น ต.คลองแดน ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.สงขลา กับ จ.นครศรีธรรมราช เพราะระดับน้ำในคลองแดนต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ทำให้น้ำทะเลทะลักเข้ามา
    ส่วนพื้นที่ด้านทะเลสาบสงขลาก็เจอปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงขึ้น เนื่องจากฝนตกเพิ่ม ไม่สามารถระบายน้ำออกได้ ทำให้บ้านเรือนในบ้านแค บ้านขี้นาก บ้านแม่ใหญ่ และบ้านมาบเตย เริ่มจมน้ำ ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้นทางการได้นำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือชาวบ้านในการเดินทางเข้าออกภายในหมู่บ้านเพื่อทำภารกิจประจำวันก่อน พร้อมนำสิ่งของไปแจกจ่ายช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
    อาหารทะเลราคาพุ่ง
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ยังขยายผลไปสู่กลุ่มบุคคลอีกอาชีพหนึ่งคือ กลุ่มชาวประมงขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถนำเรือออกไปหาปลาได้ตามปกติมานานกว่า 1 เดือนแล้ว นับตั้งแต่เกิดภาวะฝนตกและน้ำท่วมในระลอกแรก
    นายเจ๊ะโซ๊ะ เจ๊ะเลาะ ตัวแทนชาวประมงขนาดเล็กบ้านบาเร๊ะฮีเล อ.เมือง จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วที่ชาวประมงขนาดเล็กขาดรายได้ เพราะไม่สามารถนำเรือออกไปจับปลา เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี มีพายุลมแรงและคลื่นสูง จนอาจจะทำให้เรืออับปางและสูญเสียชีวิตได้ ซึ่งส่งผลให้เรือประมงขนาดเล็กกว่า 1,000 ลำ ที่เป็นพวกหาเช้ากินค่ำเริ่มเดือดร้อน เพราะขาดรายได้ และหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นก็อาจจะถึงขั้นอดตายแน่
    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการที่เรือประมงขนาดเล็กไม่สามารถออกไปจับปลาได้ ทำให้ราคาอาหารทะเลสูงขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า เช่น ปลาทู เดิมจำหน่าย กก.ละ 30-55 บาทตามขนาดตัวปลา ก็พุ่งขึ้นเป็น กก.ละ 50-80 บาท รวมทั้งขาดแคลนถึงขั้นต้องสั่งซื้อมาจาก จ.ปัตตานี จึงต้องบวกค่าขนส่งเข้าไป
    เอกชนเมืองคอนครวญ
    นางเบญจวรรณ กาญวัฒนะกิจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การที่เกิดปัญหาน้ำท่วมถึง 2 ครั้งในจังหวัด ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหามาก เพราะฝนตกหนักจนน้ำท่วมเส้นทางสายต่างๆ ทำให้ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่อยากที่จะออกจากบ้าน จนบรรยากาศการท่องเที่ยวของ จ.นครศรีธรรมราช ซบเซาลง
    ด้านนายวิศิษฐ์ อรุณสกุล ประธานชมรมธุรกิจโรงแรม จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ปกติภาพรวมคนเข้าพักในโรงแรมก็น้อยอยู่แล้ว และเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนก็ยิ่งไม่มีแขกเดินทางเข้ามาพัก ขณะที่แขกประจำ เช่น พนักงานขายของบริษัทต่างๆ ที่เคยเข้าพักโรงแรมก็หันไปหาอพาร์ตเมนต์อยู่กันหมด
     
  2. สมิทธิ์

    สมิทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +749
    .... ขอพระบรมราชานุญาต น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายอนุโมทนาในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงโปรดเกล้าฯ ช่วยเหลือพสกนิกรที่ประสบภัยมาโดยตลอด มา ณ ที่นี้ ....ขอทั้งสองพระองค์ ทรงพระเจริญ ยิ่งด้วยพระพลานามัย พระพุทธเจ้าข้า ....

    ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...