ใต้ตุนเสบียง รับมือน้ำท่วม อุตุฯเตือนพรุ่งนี้ ฝนถล่ม3จ.

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 10 ธันวาคม 2005.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    [​IMG]
    <!-- CENTER ZONE -->
    สงขลายังอ่วม ประกาศพื้นที่เสี่ยงภัย 5 อำเภอ เตือนประชาชนเตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง 24 ชม. คลองอู่ตะเภาเข้าขั้นวิกฤติ ระดับน้ำใกล้ล้นตลิ่ง ชาวบ้านแห่กักตุนอาหาร หวั่นวิกฤติซ้ำรอยปี 43 ด้านปศุสัตว์จังหวัดสั่งอาหารสำเร็จรูปอัดแท่ง 200 ตันให้โคกิน อุตุฯ เตือนซ้ำ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส 12-13 ธ.ค.นี้ รับมือฝนตกหนักอีก ขณะที่ปัตตานี ชาวบ้านกว่า 5,000 ครัวเรือนเดือดร้อน เด็กชายวัย 6 ขวบสังเวยชีวิตแล้ว 1 ราย


    ภัยพิบัติอันเกิดจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้หลายจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ออกมาเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง อีกทั้งปศุสัตว์สงขลา ถึงกับสั่งสำรองอาหารสำเร็จรูปอัดแท่งให้เกษตรกร 30 ตัน ไว้เลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังเตือนอีกว่า ฝนจะยังคงตกติดต่อกันไปอีก 1-2 วัน อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้
    นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า หลังจากฝนตกตลอดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ของ จ.สงขลาเกิดน้ำท่วมขัง โรงเรียนหลายแห่งสั่งปิดเรียนแล้ว ล่าสุดมีพื้นที่น้ำท่วมไปแล้ว 8 อำเภอ ซึ่งสำนักงานบรรเทาและสาธารณภัยได้ประกาศให้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว 5 อำเภอ คือ เทพา สะเดา จะนะ นาทวี และ สะบ้าย้อย ในเบื้องต้นสำนักงานได้ประสานกับจังหวัดเพื่อเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว โดยเฉพาะการจัดส่งเรือท้องแบนและกองกำลังทหารเพื่อให้การช่วยเหลือในการขนย้ายสิ่งของ
    นายวิจิตรยังฝากเตือนไปยังประชาชนที่อยู่ใกล้ริมแม่น้ำว่า ขอให้สังเกตธงที่อยู่บนสะพานใกล้ที่ทำการอำเภอหาดใหญ่ ว่า จะมีด้วยกัน 3 สี โดยแต่ละสีจะมีความหมายดังนี้คือ สีเขียว หมายถึง สภาวะยังคงปกติ สีเหลือง หมายถึง เข้าสู่สภาวะวิกฤติ สีแดง หมายถึงสภาวะขั้นวิกฤติ และให้เตรียมรับมือกับเหตุน้ำท่วมด้วย สำหรับพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนั้น ขอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งอย่างใกล้ชิด โดยธงที่ติดไว้บนสะพานใกล้ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่นั้น อยู่ในระดับสีเหลืองแล้ว
    คนหาดใหญ่ตื่นกักตุนอาหาร
    ประชาชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.เมือง จ.สงขลา เกิดความหวาดกลัวว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2543 จึงพากันออกจ่ายตลาดเพื่อกักตุนข้าวสาร อาหารแห้ง ตลอดจนถ่านไฟฉายและเทียนไข
    นายเกียรติพงษ์ สิริธนวงศ์สกุล ผู้จัดการทั่วไป ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค แอนด์ เค ซุปเปอร์ค้าส่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เช้าวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ แห่กันมาจับจ่ายซื้อของกักตุนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม โดยสินค้าที่มียอดขายสูงก็คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ข้าวสาร ถ่านไฟฉาย และเทียนไข ซึ่งนับได้ว่าเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในการบริโภคเพื่อความอยู่รอดในภาวะน้ำท่วม
    "สินค้าทุกสาขาของห้างหุ้นส่วนจำกัด เค แอนด์ เค ซุปเปอร์ค้าส่ง มียอดขายสินค้าประเภทข้าวสาร อาหารแห้งสูงมาก โดยเฉพาะสาขาเขต 8 และสาขาท่าเคียน มีชาวบ้านจำนวนมากแห่กันมาซื้อของเพื่อเก็บกักตุนไว้ ทั้งนี้ ในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดน้ำท่วมได้ อย่างไรก็ตาม อยากจะฝากถึงผู้ประกอบการอย่าได้ฉวยโอกาสในช่วงเวลาดังกล่าวขึ้นราคาสินค้า เพราะจะทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน" นายเกียรติพงษ์ กล่าว
    ด้านผู้จัดการร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น รายหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และล่าสุดยังมีการประกาศเตือนจากกรมอุตุฯ อีกว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่อีก 2-3 วันนั้น และจากการสำรวจครั้งล่าสุดพบว่า มีประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษาที่อยู่หอพัก ได้เข้ามาซื้อสินค้าประเภทอาหาร อาทิ ปลากระป๋อง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไปเก็บไว้บริโภคเป็นจำนวนมาก จนยอดการจำหน่ายสินค้าประเภทดังกล่าวสูงขึ้นถึงเท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
    ด้าน น.ส.นวลจันทร์ สุวรรณรัตน์ พนักงานบริษัทเอกชนใน อ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน และตกหนักเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ จึงตัดสินใจซื้ออาหารแห้งตุนไว้ ประกอบด้วย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำนวน 50 ซอง ปลากระป๋อง 2 โหล ผัดกาดดอง 1 โหล ไข่ไก่ 30 ฟอง ข้าวสาร 30 กิโลกรัม
    "เมื่อปี 2543 ที่เกิดน้ำท่วมหนัก อ.หาดใหญ่ ตอนนั้นไม่ได้ซื้ออะไรเตรียมไว้ แต่ปีนี้ไม่ประมาท เพราะดูเหตุการณ์แล้วฝนยังตกต่อเนื่อง ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด อีกทั้งปริมาณน้ำในคลองสำคัญต่างๆ ระดับน้ำก็เพิ่มสูงขึ้น"
    น.ส.นวลจันทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับอาหารที่ซื้อตุนไว้จะเพียงพอสำหรับระยะเวลา 4-5 วัน เนื่องจากเมื่อปี 2543 น้ำท่วมหาดใหญ่ประมาณ 4 วัน และนอกจากซื้ออาหารตุนแล้ว ยังซื้อแก๊สถังขนาดเล็กสำรองไว้สำหรับใช้ประกอบอาหาร เทียนไข รวมทั้งการเคลื่อนย้ายสิ่งของภายในบ้านไว้ที่สูง

    แขวงการทางยันถนนในสงขลายังใช้ได้
    หลังจากน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.เมือง อ.หาดใหญ่ อ.นาหม่อม อ.สะเดา อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.คลองหอยโข่ง จนเกิดน้ำท่วมขัง เนื่องจากระบบการระบายไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ส่งผลให้ถนนสายกาญจนวนิช บริเวณ ต.น้ำกระจาย อ.เมือง มีระดับน้ำสูงเกือบ 50 เซนติเมตร ทำให้รถเล็กสัญจรไปมาด้วยความลำบาก และเชื่อว่าหากยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง อาจจะทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ
    น.ส.จุราภรณ์ อรวิเชียร นักสถิติ 6 หัวหน้างานสถิติ แขวงการทางสงขลา เปิดเผยว่า แขวงการทางสงขลาได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา เพื่อขอความร่วมมือกับผู้นำท้องถิ่นในการแจ้งระดับน้ำที่อาจจะท่วมสูงถึงระดับถนน จนทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ จากนั้นจะมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบลงพื้นที่ไปคลี่คลายสถานการณ์

    เทศบาลหาดใหญ่สั่งเฝ้าระวังน้ำท่วมเต็มที่
    นายพฤกษ์ พัฒโน รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ กล่าวว่า สภาวะน้ำในคลองต่างๆ ที่ไหลผ่านเทศบาลนครหาดใหญ่ คลองอู่ตะเภา ล่าสุดระดับน้ำที่บริเวณที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 1 เมตร และหากไม่มีฝนในพื้นที่ ต.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ และ ต.คลองแงะ อ.สะเดา คาดว่าน้ำอาจจะไม่ล้นตลิ่ง ส่วนที่บริเวณสี่แยกถนนธรรมนูญวิถี การสัญจรยังใช้การได้ตามปกติ
    ในช่วงเช้าวันที่ 9 ธันวาคม ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาอยู่ที่ประมาณ 30 เมตร และถือว่าอยู่ในขั้นที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ เทศบาลได้เตรียมความพร้อม โดยเฉพาะได้จัดกระสอบทรายไว้แล้ว และเชื่อว่าหากฝนไม่ตกเพิ่มลงมา คาดว่าปริมาณน้ำในคลองอู่ตะเภาคงไม่ล้นตลิ่งอย่างแน่นอน ส่วนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ บริเวณถนนราษฎร์ยินดี ถนนธรรมนูญวิถี และพื้นที่ระหว่างคลองอู่ตะเภา และคลอง ร.1
    "เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์ เทศบาลนครหาดใหญ่จำเป็นต้องสั่งปิดโรงเรียนเทศบาลทั้ง 5 แห่ง นอกจากนี้ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์จากเทศบาลในทุกๆ ระยะ โดยเทศบาลจะประกาศให้ทราบทุกๆ 3 ชั่วโมง ผ่านทางสื่อประชาสัมพันธ์ของเทศบาล และรับฟังได้จากทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 88, 99.5, 94.5, 96.5, 107.75, 101.75 และ 95.25" นายพฤกษ์ กล่าว
    สำรองอาหารอัดแท่ง 200 ตันเลี้ยงสัตว์
    ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสงขลา รถบรรทุกอาหารสำเร็จรูปอัดแท่งสำหรับโค กระบือที่ใช้เป็นอาหารแทนหญ้าทั้งหมด 30 ตัน ได้เดินทางมาถึง จ.สงขลา แล้ว โดยนำมาลงไว้ที่ อ.ระโนด จำนวน 15 ตัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่เลี้ยงโค กระบือ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมไม่มีหญ้าให้โค กระบือ กินในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ และ สิงหนคร
    ส่วนอีก 15 ตัน ได้นำมาลงไว้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสงขลา เพื่อให้เกษตรกรมารับไปแจกจ่ายในพื้นที่อำเภอที่เหลืออีก 12 อำเภอ และอาหารสำเร็จรูปอัดแท่งอีก 30 ตันจะทยอยเข้ามาอีกในวันที่ 11 ธันวาคม ซึ่งใน จ.สงขลา คาดว่าต้องใช้อาหารนี้ถึง 200 ตัน เนื่องจากมีการเลี้ยงโค กระบือ แพะ เป็นจำนวนมาก หากเกษตรกรผู้ใดต้องการที่จะรับอาหารสำเร็จรูปอัดแท่งนี้ก็นำรถยนต์มารับได้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสงขลาได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
    โรงแรมหาดใหญ่อ่วมนักท่องเที่ยวหนี
    นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า ปัญหาฝนตกหนักส่งผลให้ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวมีนักท่องเที่ยวยกเลิกห้องพักส่วนหนึ่ง ขณะที่กลุ่มลูกค้าประจำที่เดินทางโดยรถส่วนตัวจากประเทศมาเลเซีย ผ่านเข้ามาทางด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา ยกเลิกการเดินทางเข้ามาทันที เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่หาดใหญ่ เช่นเดียวกับช่วงปลายปี 2543 และจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากสภาพอากาศในขณะนี้ทำให้นักท่องเที่ยวลดหายไปประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ย จากอัตราปกติช่วงสุดสัปดาห์วันศุกร์-เสาร์ จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ต่างชาติ เดินทางเข้ามา อ.หาดใหญ่ ประมาณ 5,000 คน
    "สัปดาห์นี้เราประสบปัญหาจากภาวะฝนตกหนักอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะความกดอากาศต่ำดังกล่าวเคลื่อนตัวมาจากประเทศมาเลเซีย ฉะนั้นนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้รู้ดีว่า หากฝนตกหนักติดต่อกันเกิน 2 วัน อ.หาดใหญ่ มีโอกาสเกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลันสูง จึงงดการเดินทางเข้ามาในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกัน กลุ่มที่เดินทางเข้ามาแล้วก็ยกเลิกห้องพักแล้วบางส่วน ทำให้สูญเสียรายได้หลายล้านบาท" นายสมชาติ กล่าว
    สนามบินหาดใหญ่ยันไม่ลดเที่ยวบิน
    น.ท.ประทีป วิจิตรโท ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุและมีกลุ่มเมฆบดบังเส้นทางการบิน ทัศนวิสัยในการลงจอดไม่ดี ทำให้เครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย เส้นทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ไม่สามารถลงจอดที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้ จึงต้องนำเครื่องกลับไปลงจอดที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ แต่ขณะนี้สภาพอากาศเป็นปกติแล้ว สามารถให้บริการเที่ยวบินได้ตามปกติแล้วทุกเที่ยวบิน
    สำหรับพื้นที่บริเวณท่าอากาศยานหาดใหญ่นั้น อยู่ในระดับที่สูง จึงไม่มีน้ำท่วมขังแต่อย่างใด รวมทั้งยังเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของทุกเที่ยวบินให้ผู้โดยสารมั่นใจว่า นักบินจะต้องตรวจสอบสภาพอากาศก่อนขึ้นบินทุกรอบ หากสภาพอากาศแปรปรวน หรือส่งผลกับการบินจะไม่นำเครื่องขึ้นบินเด็ดขาด
    ปัตตานีอ่วมเด็ก 6 ขวบสังเวยชีวิต
    หลังเกิดฝนตกหนักทั้ง 12 อำเภอของ จ.ปัตตานี ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักทุกอำเภอ บ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลังคาเรือนถูกน้ำท่วม ถนนสายหลักและในหมู่บ้าน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ยกเว้นรถขนาดใหญ่ สภาพริมถนนกระแสน้ำแรงถูกกัดเซาะเสียหาย ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนต้องขนของมาอยู่ที่สูง ส่วนสัตว์และพาหนะต้องนำไปตั้งไว้บนถนนนอกหมู่บ้าน
    รายงานจากศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี แจ้งว่ามีเด็ก 3 คนจมน้ำในแม่น้ำปัตตานีที่เกิดความเชี่ยวกรากและมีฝนตกหนัก แต่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ 2 คน คือ ด.ช.อับดุลฮาซิ มามะ อายุ 3 ขวบ และ ด.ช.ซูเฟีย เจ๊ะซอ อายุ 3 ขวบ ส่วน ด.ช.อับดุลการิม มามะ อายุ 6 ขวบ ได้จมน้ำเสียชีวิต ซึ่งล่าสุดนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้นำเงินไปช่วยเหลือครอบครัวแล้ว ล่าสุดใน จ.ปัตตานี พบว่ามีราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 5,000 ครัวเรือน
    ชาวบ้านอ่วม-ร.ร.สั่งปิดทั้งจังหวัด
    ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงายว่า ล่าสุดปริมาณน้ำฝนได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะสวนยางพาราและนาข้าวในพื้นที่ 10 อำเภอกับ 1 กิ่งอำเภอ ของ จ.พัทลุง ได้รับความเสียหาย โดยโรงเรียนทั้งจังหวัดได้หยุดทำการเรียนการสอน ส่วนในพื้นที่ อ.เมือง กระแสน้ำได้ไหลผ่านถนนสายราเมศว์ ซึ่งเป็นสายหลัก ทำให้การจราจรในช่วงเช้าติดขัด ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปรางหมู่ ต.ชัยบุรี อ.เมือง ต.พนางดุง ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน ต้องใช้เรือในการสัญจรระหว่างบ้านกับถนน
    ส่วนในด้านความช่วยเหลือ ขณะนี้จังหวัดได้จัดส่งเรือท้องแบบ 40 ลำ แจกจ่ายให้ราษฎรในพื้นที่เสี่ยงภัย และได้เปิดศูนย์การช่วยเหลือที่ศาลากลางชั้น 3 พร้อมกันนี้ นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยแล้ว สำหรับผู้ประสบภัยหากต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรศัพท์ไปได้ที่ 0-7462-0300 หรือ สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    ยะลา 132 หมู่บ้านอ่วม
    สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ยะลา ล่าสุดฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางดึกวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ซึ่งไหลผ่านเขต อ.เมือง จ.ยะลา เพิ่มสูงขึ้นและไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตพื้นที่ ต.ลิดล ต.ตาเซะ ต.ท่าสาป ต.ยุโป ต.พร่อน ต.เปาะเส้ง ต.หน้าถ้ำ ต.สะเตงนอก โดยบางแห่งน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร นอกจากนั้น เส้นทางสัญจรสายยะลา-บ้านเนียง และสายยะลา-โกตาบารู มีรายงานน้ำท่วมขังสูงรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้
    ด้านศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัยวาตภัย จ.ยะลา ได้สรุปความเสียหายครั้งนี้ว่า มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวมทั้งสิ้น 36 ตำบล 132 หมู่บ้าน ถนนเสียหาย 69 สาย สะพาน 10 แห่ง โรงเรียน 31 แห่ง มัสยิด 2 แห่ง บ้านเรือนราษฎร 5,740 ครัวเรือน และมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 20,107 คน ทรัพย์สินของประชาชนโดยเฉพาะไร่นาได้รับความเสียหายประมาณ 1,300 ไร่ ด้านการประมงบ่อเลี้ยงปลาของเกษตรกรได้รับความเสียหายจำนวน 24 บ่อ โดยที่ อ.ยะหา และ อ.รามัน ได้รับความเสียหายมากที่สุด
    ขณะที่ นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือในขณะนี้ ได้อพยพประชาชนจากหมู่บ้านที่ประสบภัย 5 จุด ราษฎรได้รับการช่วยเหลือกว่า 1,000 คน พร้อมทั้งได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว รวมทั้งได้จัดงบประมาณให้กับพื้นที่ที่ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือประชาชนแล้ว 3 ล้านบาท
    อุตุฯ เตือน 12-13 ธ.ค.ฝนกระหน่ำอีก
    นายคทาวุฒิ มาลัยโรจน์ศิริ หัวหน้าเวรพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในหลายจังหวัดของภาคใต้ขณะนี้ เป็นผลมาจากอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดเอาความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาทางภาคใต้ตอนกลางตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ตรัง กระบี่ ภูเก็ต ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมใน จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ส่งผลให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะตามแนวเทือกเขาสันกาลาคีรี ทำให้บริเวณดังกล่าวเสี่ยงเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และอาจเกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ นายคทาวุฒิ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 12-13 ธันวาคม จะเกิดฝนตกหนักลงมาอีกในสาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึง จ.สงขลา และสตูล ปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องอาจทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมขัง ชาวประมงควรงดนำเรือเล็กออกจากฝั่ง ประชาชนควรเตรียมข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้เพียงพอสำหรับ 4-5 วัน เนื่องจากเป็นไปได้ที่ในหลายพื้นที่อาจถูกน้ำท่วมขังจนตัดขาดจากโลกภายนอก และให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด


    ที่มา : คมชัดลึก
     

แชร์หน้านี้

Loading...