"แม้ว" ทูลเกล้าฯ ถวาย พ.ร.ฎ.บำเหน็จบำนาญนักการเมืองแล้ว

<!--detail--><!--images--><!--images-->

<CENTER>
</CENTER>
<!--images-->"แม้ว" ทูลเกล้าฯ ถวาย พ.ร.ฎ.บำเหน็จบำนาญนักการเมืองแล้ว "ทรท." ไม่สนเสียงค้านชาวบ้าน ไล่ไปเสนอแก้ไข รธน. ตัดมาตรานี้เอง "วิปรัฐบาล" ชี้ ถ้าไม่มีใครถวายฎีกาคัดค้าน ก.ม. ผ่านฉลุยแน่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุม ครม. ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าที่ประชุมใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง และเสร็จสิ้นในเวลา 10.30 น. ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ โดยปรับเพิ่มเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญอีก 5 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สอดคล้อง กับการปรับปรุงเงินเดือนข้าราชการ และสภาวะเศรษฐกิจ ให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2548 เป็นต้นไป

นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า รัฐบาลได้นำร่าง พ.ร.ฎ. บำเหน็จบำนาญฯ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาแล้ว และขณะนี้ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมา ส่วนจะทรงโปรดเกล้าฯ เมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจ

วิปรัฐบาล กล่าวอีกว่า ขั้นตอนการออก พ.ร.ฎ. ไม่มีเงื่อนไขเรื่องระยะเวลา 90 วันกำหนดเหมือนกับการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) และ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพราะถือเป็นการใช้อำนาจ ของฝ่ายบริหารเช่นเดียวกับการแต่งตั้งโยกย้ายทั่วไป อย่างไรก็ตามหากในระหว่างนี้มีคนถวายฎีกาคัดค้านคงต้องมีการชี้แจงกัน

นายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคไทยรักไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากได้เงินบำเหน็จบำนาญ เนื่องจากคนที่จะได้รับ จะต้องเป็นคนที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ส่วนเสียงคัดค้านที่เห็นว่าไม่ควรออกกฎหมายในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีนั้น ตนอยากให้สังคมเข้าใจว่าเป็นการทำตามรัฐธรรมนูญ ถ้าสังคม ไม่อยากให้เราได้เงินส่วนนี้ต้องไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ที่มาจากหนังสือพิมพ์