แปลก-จริง"ยิ่งกว่านิยาย"หนุ่มดวงซวยมีดฝังในร่าง

<TABLE width="98%" align=center><TBODY><TR><TD>





ไม่ว่าที่มาของ "มีด" ที่ฝังอยู่ในร่างของ นายทองดี เบ้าคำ อายุ 34 ปี ชาวขอนแก่น จะมาจากความเผอเรอของแพทย์ผู้ ทำการผ่าตัดเย็บแผลให้ในตอนแรก หรือเกิดจากการพยายาม "ปกปิด" ข้อเท็จจริงของคนไข้เอง แต่เรื่องราวของเขาก็นับว่า "แปลก" แทบจะนับเป็นหนึ่งใน ล้านก็ว่าได้
เรื่องราวพิลึกพิลั่นครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อคืนวันที่ 2 มกราคม 2549 เมื่อ นายทองดีไปหาพี่ชาย คือ นายจันที เบ้าคำ ที่ บ้านสร้อย ต.จานลาน อ.พนา จ.อำนาจเจริญ เพื่อร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่ โดยพี่ชายได้ชักชวน นายทองดีไปเที่ยวงานผ้าป่าสามัคคีที่จัดขึ้นในโรงเรียนบ้านสร้อย ซึ่งมีคณะ หมอลำแสดงอยู่
ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นกำลังเต้นตามจังหวะเสียงเพลงด้วยความ "เมา" และ "มัน" อยู่นั้น ก็เกิดเหตุ ชกต่อยอย่างชุลมุนเกิดขึ้นจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร จากนั้นไฟหน้าเวทีหมอลำก็ดับพรึ่บ และยิ่ง ชุลมุนมาก ขึ้นไปอีก วูบหนึ่ง นายทองดี รู้สึกเจ็บแปลบที่ชายโครงด้านซ้าย เมื่อจับดูพบว่ามีเลือด ไหลโชกออกมาจึง รู้ว่าถูกแทง รีบตะโกนบอกพี่ชายทันที ก่อนจะล้มฟุบหมดสติไป !!!
ต่อมาพี่ชายและหลานชายที่มาด้วย รีบพานายทองดีซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปส่งโรงพยาบาลพนา ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุดด้วยความทุลักทุเล โดยหลานชายเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนพี่ชายนั่ง ซ้อนท้าย หลังสุดคอยประคองร่างนายทองดี ส่วนคนเจ็บเริ่มได้สติ จึงเอามือกุมแผลที่เลือดไหลอยู่ตลอดเวลา
ขณะนั้นเวลาประมาณ 02.00 น. ในโรงพยาบาลมีผู้หญิงไม่ทราบว่าเป็นแพทย์หรือพยาบาลพา ไปตรวจ ดูบาดแผล และพบว่าแผลลึกเพียง 1 ซม. จึงฉีดยาชา เย็บแผลและฉีดยากันบาดทะยัก ก่อนจะจัดยาแก้ปวดให้ แล้วให้กลับบ้าน และจ่ายค่ารักษาไปทั้งหมด 625 บาท
"ตอนนั้นยังไม่เจ็บอะไร น่าจะเพราะยาชายังออกฤทธิ์อยู่ แต่พอกลับมานอนพักที่บ้าน 2 วันเริ่ม เจ็บแผลมาก หายใจเข้าออกเจ็บเหมือนมีอะไรเสียดแทงหัวใจ กินแต่ยาแก้ปวด ข้าวก็กินไม่ได้ รู้สึกเหนื่อยใจจะขาด จึงบอก พี่ชายว่าไม่ไหวแล้ว พี่ชายเลยพาไปส่งโรงพยาบาล" นายทองดี กล่าว
ต่อมานายทองดีเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ซึ่งใหญ่กว่าและอยู่ไม่ ไกลมาก แพทย์ได้ให้น้ำเกลือ และกดหน้าท้องดู ก่อนจะบอกว่า "แบบนี้ไม่ธรรมดาแน่"
จากนั้นหมอได้เอกซเรย์และต้องตกตะลึงกันทั้งหมอและคนไข้ เมื่อฟิล์มเอกซเรย์ฟ้องว่ามี ปลายมีดยาว ประมาณ 10 ซม. ฝังอยู่ที่ชายโครงซ้าย ห่างจากแนวกระดูกสันหลังเพียงนิดเดียว หมอรีบส่งนายทองดีไป โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อผ่าตัดเอามีดออก !!
หลังจากนั้นหนุ่มขอนแก่นรายนี้หายใจได้สะดวก กินข้าวและลุกนั่งได้ตามปกติ โดยไม่มีอาการเจ็บ ปวดใดๆ และนายทองดีบรรยายความรู้สึกหลังจากหมอผ่าเอามีดออกว่า
"มันเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ เพราะตอนที่มีดยังคาอยู่รู้สึกทรมานจนแทบขาดใจตาย แต่ เรื่องที่เกิดขึ้น คงไม่ติดใจเอาความกับใคร เพราะช่วงเกิดเหตุชุลมุนมากจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกแทงจน มีเลือดไหลออกมา ส่วนหมอที่ไม่ผ่าเอามีดออกก็ไม่ติดใจเอา ความอะไร แต่อยากขอให้ช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายรักษา พยาบาลเท่านั้น"
สำหรับเวลานี้ก็คืออยากจะหายโดยเร็วเพื่อกลับไปทำงานได้เหมือนเดิม เพราะยังมี "ภาระ" ที่ต้อง ดูแลครอบครัว
ด้าน น.พ.สุเมธ นิยกิจ ผอ.โรงพยาบาลพนาชี้แจงว่า จากการสอบถามแพทย์ทราบว่า ช่วงเกิด เหตุเวลาประมาณ 01.00 น. นายทองดี และเพื่อน รวมทั้งคู่กรณีกว่า 10 คน ต่างเข้ามารักษา ตัวพร้อมกัน
"ทุกคนอยู่ในอาการเมาพูดไม่รู้เรื่อง มีการทะเลาะวิวาทชกต่อยเป็นระยะ จนเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาล ต้องโทรศัพท์ ขอกำลังตำรวจ สภ.อ.พนา มาระงับเหตุ โดยระหว่างรักษาแพทย์ได้สอบถามอาการ แต่ทุกคนต่างปกปิดเรื่องทะเลาะ วิวาท บอกเพียงว่ารถล้ม เมื่อแพทย์ดูอาการเห็นมีเพียงบาดแผล เล็กน้อย จึงเย็บปิดปากแผลจ่ายยา และให้กลับบ้านไป" น.พ.สุเมธ กล่าว
น.พ.สุเมธ กล่าวอีกว่า จากนั้นคนไข้ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลใน จ.อุบลราชธานี และตรวจพบ ว่ามีมีดค้างอยู่ใน ท้อง พยาบาลได้ให้การช่วยเหลือทุกอย่าง และไม่โทษว่าใครผิดใครถูกแต่จะ รับผิดชอบ โดยจะช่วยดูแลนายทองดีอย่าง ดีที่สุด
ขณะที่ นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญยอมรับว่า รู้สึกตกใจที่เกิดเรื่อง เช่นนี้ขึ้นในพื้นที่ รับผิดชอบ แต่ถ้าคนไข้บอกความจริงตั้งแต่แรกว่าถูกทำร้ายหรือถูกแทง รวม ทั้งตำรวจที่เข้าระงับเหตุได้รายงานข้อเท็จจริง ให้ทราบตั้งแต่แรก เรื่องคงไม่เป็นอย่างนี้
"ผมสันนิษฐานว่า คนไข้อาจกลัวคู่กรณีถูกจับก็เลยไม่พูดความจริง จากนี้ผมจะเรียกผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จังหวัดอำนาจเจริญมาพบ เพราะกลุ่มวัยรุ่นอุกอาจมาก ไปก่อเหตุบนโรงพยาบาล จนแพทย์เวรและพยาบาลทำงานไม่ได้ จนเกิดความโกลาหล แต่ตำรวจก็ไม่ทำรายงานเข้ามา จังหวัดจะกำชับตำรวจทุกโรงพักให้ทำงานเข้มกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อย เลยตามเลย" นายสุรพล กล่าว
สำหรับความช่วยเหลือนายทองดีนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญและนายกเหล่ากาชาดได้ ไปพบนายทองดี เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา และรับปากว่าจังหวัดพร้อมจะให้ความช่วย เหลือทุกอย่าง
"เรื่องที่เกิดขึ้นขอให้เป็นอุทาหรณ์ เพราะถ้าคนไข้ไม่ปกปิดว่าถูกแทง คงไม่เกิดเหตุมีมีดฝังอยู่ ในท้องเช่นนี้" ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวทิ้งท้าย


วิชิต มีสวัสดิ์



</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE width="98%" align=center><TBODY><TR><TD align=right width="75%">ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เนชั่น เจาะข่าว ทั่วไทย
</TD><TD align=middle width="25%"></TD></TR></TBODY></TABLE>