แฉแกนนำ โจรใต้ วางเครือข่ายเชื่อมโยงมุสลิมเขมร

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย paang, 1 ธันวาคม 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    แฉแกนนำ 'โจรใต้' วางเครือข่ายเชื่อมโยงมุสลิมเขมร

    [​IMG]


    หลังจาก พล.ต.คณิต สาพิทักษ์ ผบ.กองกำลังบูรพา มีคำสั่งให้กำลังพลตรวจตราเข้มงวดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันผู้ต้องสงสัยเดินทางเข้าประเทศ กระทั่ง พ.ต.นพดล นามนารถ ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 พร้อมกำลังตรวจพบชาวกัมพูชามุสลิม จำนวน 86 คน เดินทางมาจากฝั่งปอยเปต ผ่านด่าน ตม.อรัญประเทศ อย่างน่าสงสัยจึงเข้าตรวจค้นนำตัวไปสอบสวน ซึ่งแต่ละคนให้การมีพิรุธไม่ตรงกัน จึงคุมตัวไว้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

    ต่อมา นายดวง สุวรรณเรด ปลัดจังหวัดบันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วย โดยเปิดเผยว่าได้มีขบวนการออกกว้านซื้อชาวมุสลิมในกัมพูชาคนละ 50,000-100,000 บาท ให้ไปทำงานและเรียนศาสนาที่มาเลเซีย

    ด้าน พ.อ.สมควร แสงภัทรเนตร โฆษกกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) เผยว่าต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่าชาวกัมพูชามุสลิมดังกล่าวจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่

    หากพลิกแฟ้มขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น โคออดิเนต ภายใต้ผู้นำคนปัจจุบันคือ นายสะแปอิง บาซอ ซึ่ง นายมะแซ อุเซ็ง เป็นผู้ควบคุมเยาวชน เปอมูดอ ได้ดำเนินการนำเอาเยาวชนมุสลิมจากประเทศกัมพูชา เข้ามาอบรม ปลูกฝังให้เป็น นักรบจรยุทธ ตั้งแต่ปี 2542 โดยในครั้งนั้น ขบวนการฯ ได้จัดหาเด็กกำพร้า ที่เกิดจากสงครามกลางเมือง มาร่ำเรียนศาสนาในปอเนาะ และโรงเรียนสอนศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะใน จ.นราธิวาส มากเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ จ.ปัตตานี ยะลา สงขลา และพัทลุง

    สำหรับ ปอเนาะ ที่มีนักเรียนจากกัมพูชา เข้ามาร่ำเรียนด้านศาสนา รับสนับสนุนเงินทุนจากองค์กรต่าง ๆ ในรูปแบบของเงิน “ซากาต” เพราะเป็นการช่วยเด็กกำพร้า ในขณะที่หลาย ปอเนาะ มีการจัดทุนให้กับเด็กชาวเขมร ที่ต้องการเรียนศาสนา โดยหลังจากเรียนจบ ต้องเผยแพร่ศาสนาตามแนวทางที่เรียนมา

    แต่ปัจจุบันกัมพูชา ไม่มีเด็กกำพร้าเหมือนเมื่อ 15-20 ปีที่ผ่านมา ทางขบวนการก่อการร้าย จึงใช้วิธีการว่าจ้างเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 18-25 ปี ให้มาร่วมในขบวนการ มีการจ่ายค่าตอบแทนให้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ซึ่งบางรายอาจเข้าร่วมปฏิบัติการ แบ่งแยกดินแดนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

    ตามแนวทางการสืบสวน พบว่าเครือข่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดนได้เชื่อมโยงกับมัสยิดหลายแห่งในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา เช่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ หรือทางภาคเหนือ จ.ตาก เชียงราย โดยกลุ่มครูสอนศาสนาหรือ “อุสตาซ” จากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังมีบุคคลบางกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับขบวนการแบ่งแยกดินแดน เป็นผู้ดำเนินการในการสร้างเครือข่าย เพื่อให้เชื่อมโยงกับกัมพูชา

    เยาวชนกัมพูชา จ.บันเตียเมียนเจย ถูกนำเข้ามาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มากที่สุด โดยมีมัสยิดในเมืองปอยเปต เป็นศูนย์กลาง รวมทั้งที่ จ.เกาะกง และที่ จ.ไพลิน มีศูนย์กลางอยู่ที่หมู่บ้านมุสลิม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทุกแห่งมีแกน นำที่เป็น อุสตาซ จากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ปัตตานี เข้าไปดำเนินการอยู่


    [​IMG]

    ส่วน ปอเนาะ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเยาวชนจากกัมพูชาเข้ามาใน จ.นราธิวาส 30 แห่ง ใน จ.ปัตตานี 20 แห่ง ใน จ.ยะลา 15 แห่ง ใน จ.สงขลา 2 แห่ง ใน จ.พัทลุง อีก 2 แห่ง โดยคาดว่าตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมามีเยาวชนชาวเขมร ถูกนำเข้ามายังปอเนาะ ต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน โดยที่เจ้าหน้าที่เองก็ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าขณะนี้คนเหล่านี้อยู่ที่ไหน และเข้าร่วมกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนจำนวนเท่าไหร่ ที่สำคัญหลังจากเกิดเหตุปล้นปืน เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 47 เป็นต้นมา เยาวชนจากเขมรได้หายไปจากปอเนาะต่าง ๆ จำนวนมากอย่างมีพิรุธ

    นอกจากเยาวชนเขมรที่ตกเป็นเครื่องมือของขบวนการแบ่งแยกดินแดนแล้ว ยังมีเยาวชนชาวพม่าจำนวนไม่น้อยที่ถูกชักนำมาสู่ปอเนาะต่าง ๆ ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งทางการไทยเองก็ยังไม่มีข้อมูล โดยเพียงแต่สันนิษฐานว่าการก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นฝีมือของแนวร่วมชาวเขมร และพม่า รวมทั้งศพนิรนาม จำนวน 300 ศพ ที่ไม่มีญาติมารับที่เสียชีวิตจาก “ไฟใต้” น่าจะเป็นเยาวชนจากเขมรและพม่า

    จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหา เพราะหากเยาวชนจากประเทศเพื่อนบ้านถูกชักจูงเข้ามาร่วมสร้างสถานการณ์ในภาคใต้ ก็ต้องเร่งหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน.



    ที่มา http://www.dailynews.co.th/col/col.asp?columnid=14947
     

แชร์หน้านี้

Loading...