เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 5 กรกฎาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพกลายเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง เนื่องเพราะว่าใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ จึงต้องโดนกักตัวอยู่ต่างหาก แต่ว่าก็ยังคงทำงานไปเรื่อย

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าลูกสาวมูเซอ คือ มิติ (นางสาวภัทรวรรณ จะหวะ) ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ทั้งแผนก..! รวมทั้งตนเองด้วย แต่ยังไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ

    เมื่อเห็นว่าไม่สบาย กระผม/อาตมภาพกับน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปดูแล ปรากฏว่าเช้านี้พอที่จะเดินทางไหว คุณเธอก็กลับไปโรงพยาบาล ปรากฏว่าผลการตรวจ ATK ระบุชัดว่าติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ จึงทำให้ทั้งตัวผู้ป่วยและผู้ใกล้ชิดโดนกักตัวอยู่ในสถานที่เดียวกัน

    ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะว่าการกักตัวนั้นไม่ได้เข้มงวดอะไร เพียงแต่พยายามมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วก็รอดูอาการว่า อีก ๓ วัน ทางคณะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำตำบลท่าขนุนก็จะระดมกันมาทำการตรวจ ATK ให้กับทางพระภิกษุสามเณร และผู้ที่อยู่อาศัยในวัดท่าขนุนทั้งวัด เพื่อความสบายใจของทุกท่าน

    ในเรื่องของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นั้น กระผม/อาตมภาพไม่ได้หนักใจ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ามีความเชื่อมั่นในคุณพระศรีรัตนตรัยที่ยึดถืออยู่เป็นหลัก ซึ่งศรัทธาหรือว่าความเชื่อนี้ สามารถที่จะแบ่งออกได้เป็นหลายประการด้วยกัน

    ประการที่ ๑ ก็คือ เชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย เพราะเห็นชัดว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นั้น สามารถช่วยกำจัดทุกข์ กำจัดภัยได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะนำบุคคลให้หลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน

    ประการที่ ๒ คือ ความเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาจจะเป็นวัตถุมงคลหรือว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บูชาต่อเนื่องกันมา ไม่ว่าจะเป็นส่วนตัวหรือว่าส่วนรวมก็ตาม

    ตรงจุดนี้นั้น กระผม/อาตมภาพเจอมาตั้งแต่เด็ก อย่างเช่นว่าทางครอบครัวของกระผม/อาตมภาพนั้น โยมพ่อและโยมแม่มักจะต้องไปขอยันต์จากศาลเจ้าจีนที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อที่จะนำกลับมาคุ้มครองบ้านตนเองทุกปี

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าร่างทรง หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ม้าทรงนั้น เมื่อถึงเวลาเข้าทรงแล้ว ก็ใช้มีดตัดลิ้นของตนเองออกมา หยิบเอาลิ้นที่ตัดออกมานั้นเขียนยันต์บนแผ่นกระดาษสีเหลือง เมื่อเขียนเสร็จสรรพเรียบร้อย จะกี่ร้อยกันแผ่นก็ตาม ม้าทรงหรือว่าร่างทรงก็โยนลิ้นตนเองกลับเข้าปากไป ก็เห็นติดเป็นปกติดีทุกครั้ง..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าบอกว่าเป็นการเล่นกล แล้วเล่นกลแบบไหนถึงสามารถตัดลิ้นตนเองออกมาถืออยู่ในมือ แล้วเขียนอักขระเลขยันต์เป็นร้อยเป็นพันแผ่นได้ ? โดยอาศัยเลือดซึ่งอยู่ที่ลิ้นนั่นเอง เขียนเป็นตัวเลขยันต์ขึ้นมา

    เมื่อเห็นความศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้น จึงทำให้แต่เดิมนั้น ทางด้านครอบครัวของกระผม/อาตมภาพก็นับถือเจ้าจากศาลเจ้าจีนก่อน หลังจากนั้น เมื่อกระผม/อาตมภาพฝึกมโนมยิทธิได้ตอนช่วงก่อนอายุ ๒๐ มีความเข้าใจเรื่องของผี เรื่องของเทวดา เรื่องของพรหม เรื่องของพระบนพระนิพพานแล้ว จึงมาเคารพในพระรัตนตรัย เชื่อมั่นในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง

    ประการที่ ๓ ความเชื่อมั่นนั้นคือเชื่อมั่นในผู้นำ คำว่า เชื่อมั่นในผู้นำ ก็คือ ศรัทธาเชื่อมั่นว่าผู้นำนั้นสามารถนำพาเราไปในทางที่ถูกที่ควร ถ้าหากว่านำพาเราออกศึกออกสงคราม ก็สามารถที่จะนำพาเราให้รอดพ้นจากศึกสงครามนั้น ๆ มาได้ ทำให้เราสามารถที่จะมอบกายถวายชีวิต ทำตามคำสั่งของผู้นำโดยที่ไม่หวาดกลัวต่อความตายที่จะมาถึง

    ประการสุดท้าย คือ ความเชื่อมั่นในตนเอง ซึ่งเกิดจากการสั่งสมใน ศีล สมาธิ ปัญญา ขึ้นมาตามลำดับ ๆ จนกระทั่งมีความแก่กล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเองขึ้นมา ซึ่งจะแสดงออกชัดทางบุคลิกภาพต่าง ๆ

    โดยที่กระผม/อาตมภาพเองนั้น เมื่อตอนที่เข้าสอบโครงร่างวิทยานิพนธ์สมัยที่เรียนปริญญาโทอยู่ ท่านอาจารย์ซึ่งปัจจุบันก็คือ รศ.ดร.ธัชชนันท์ อิศรเดช ท่านได้ทักขึ้นมาว่า "หลวงพ่อรู้ตัวไหมว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูงมาก ?" ได้เรียนท่านอาจารย์ไปว่า "ไม่ทราบเหมือนกัน แต่เห็นว่าการที่เรามาสอบโครงร่างนั้น คือนำเสนอในหัวข้อที่คิดว่าใช่สำหรับเรา ถ้าหากว่าไม่ใช่ ครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้ฆ่าไม่ได้แกงเราสักหน่อย หากแต่ท่านจะพยายามบอกกล่าวหรือว่าปรับเปลี่ยนในส่วนที่ไม่ใช่ ให้ใช่เฉพาะเราขึ้นมา" ในเมื่อมีทัศนคติในลักษณะอย่างนี้ จึงไม่ได้คิดที่จะเกรงกลัวต่อคณะกรรมการทั้ง ๕ ท่าน ยังคงทำตัวเป็นปกติ

    ท่านอาจารย์จึงได้ปรารภว่า "บางทีบุคคลที่เป็นนักปฏิบัติธรรมก็มีแนวคิดในทางบวก ที่สามารถรักษากำลังใจตนเองไม่ให้หวั่นไหวไปกับสภาพรอบข้างได้"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    ดังนั้น...ในเมื่อกระผม/อาตมภาพมีความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย โดยเฉพาะมีวัตถุมงคลบางชิ้น ซึ่งประกอบไปด้วยธาตุปรอท ไม่ว่าจะเป็นปรอทป่าก็ดี หรือว่าเป็นธาตุปรอทที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุจนเป็น "ปรอทสำเร็จ" ก็ตาม ซี่งโลหะธาตุชนิดนี้นั้น มีความสามารถพิเศษคือแผ่รังสีออกรอบด้าน ทำให้ป้องกันได้ในอาณาเขตหนึ่ง ๆ

    ส่วนที่ป้องกันอย่างหนึ่งก็คือป้องกันบรรดาเชื้อโรคต่าง ๆ เนื่องเพราะว่าเวลาเราเดินทางเข้าป่าเข้าดงนั้น มีเชื้อโรคบางอย่างที่เกิดจากการหมักหมมอยู่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณป่าดงดิบก็ดี ใกล้แหล่งน้ำก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเราไม่รู้ตัว ได้รับสะสมเข้าไปมาก ๆ ก็ก่อให้เกิดโรคภัยได้ง่าย

    แต่ว่าวัตถุมงคลที่ประกอบไปด้วยธาตุปรอทนั้น สามารถแผ่รังสีของตนเองออกมา ผลักดันสิ่งไม่ดีไม่งามต่าง ๆ ออกไปในรัศมีมากน้อย แล้วแต่ว่าวัตถุมงคลชนิดนั้นจะมีอานุภาพสักเท่าไร จึงทำให้กระผม/อาตมภาพเกิดความมั่นใจว่า โรคระบาดชนิดนี้ไม่สามารถที่จะทำอะไรเราได้

    แต่กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ตั้งอยู่ในความประมาท โดยเฉพาะได้กำชับต่อพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลายว่า ถึงแม้ว่า ศบค.หรือว่ารัฐบาลของเรา จะประกาศให้การสวมหน้ากากอนามัยนั้นเป็นไปโดยสมัครใจ ไม่ได้บังคับให้สวม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ว่าขอให้พวกเราทั้งหลายสวมหน้ากากอนามัยต่อไป อย่างน้อยก็ให้ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี ๒๕๖๖ เนื่องเพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นั้นยังคงอยู่กับพวกเรา ไม่ได้หายไปไหน ถ้าหากว่าประมาทเมื่อไร ก็อาจจะเกิดการติดเชื้อขึ้นมาได้อย่างที่เห็น

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การที่กักตัวเองนั้นก็เพื่อคนอื่น ก็คือป้องกันไม่ให้คนอื่นต้องมาคอยรังเกียจ หรือหวาดระแวงว่าตัวเรานั้นเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง อาจจะไปแพร่เชื้อต่อบุคคลอื่นเขา จึงต้องงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องเข้าร่วมกับคนหมู่มาก อย่างเช่นว่าการสวดมนต์ ทำวัตร และเจริญกรรมฐานเช้าเย็น ตลอดจนกระทั่งการไปร่วมฉัน ร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนพระภิกษุสามเณร ก็ต้องงดเว้นเอาไว้ ถ้าอีก ๒ วันผ่านไป ได้รับการตรวจ ATK เพื่อความมั่นใจแล้ว ก็ยังคงต้องกักตัวจนกว่าจะครบ ๗ วัน แล้วหลังจากนั้นถึงจะได้ทำกิจกรรมตามปกติ
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,527
    ค่าพลัง:
    +26,366
    แต่ว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้รับกิจนิมนต์เอาไว้ ก็จะไปร่วมงานด้วยความระมัดระวัง โดยตักเตือนผู้ที่เข้ามาใกล้ว่า เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ขอให้บุคคลอื่นระมัดระวัง อยู่ห่าง เว้นระยะเข้าไว้ และโดยเฉพาะก็คือ สวมหน้ากากอนามัยป้องกันเอาไว้ก่อน

    โดยเฉพาะบางสิ่งบางอย่างที่สามารถช่วยบรรเทาในเรื่องของการติดเชื้อได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เป็นยา เป็นสมุนไพร ก็จะพยายามที่จะฉัน หรือว่ารับประทานเข้าไป เพื่อไม่ให้เกิดอาการจนเป็นที่รังเกียจต่อผู้อื่น เนื่องจากว่าระยะนี้ แม้ว่าจะไอจะจามแม้แต่นิดเดียว ก็จะกลายเป็นความวิตกกังวลของคนอื่นว่าตัวเราติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เข้าไปแล้วหรือยัง ?

    ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณร แม่ชี ฆราวาส ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลายที่ฟังอยู่ว่า ชีวิตนี้เป็นของน้อย จะสิ้นลงไปเมื่อไรก็ไม่แน่ โดยเฉพาะมีทุกข์มีภัยรายล้อมอยู่ตลอดเวลา ทุกข์ภัยเหล่านี้อาจจะทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย ทุกข์ทรมานก็ดี หรือว่าถึงแก่ชีวิตลงไปก็ตาม

    ตราบใดที่เรายังมีร่างกายนี้อยู่ ตราบใดที่เรายังเกิดมาในโลกนี้ ก็ต้องเผชิญกับภัยอันตรายทั้งหลายเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา จนกว่าที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ จึงจะกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า พ้นทุกข์พ้นภัยไปอย่างสิ้นเชิง

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...