เวียดนามน่ากลัวกว่าที่คิด

หนังสือพิมพ์สยามรัฐ คอลัมน์ คิดระหว่างวัน 27/4/2548
จากรายงานของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก องค์การสหประชาชาติ (UNSCAP) ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ปี 2005 ว่า ภาวะเศรษฐกิจคงไม่แข็งแกร่งเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวและราคาน้ำมัน รวมทั้งมูลค่าพลังงานต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับ โดยยังไม่มีท่าทีว่า จะชะลอตัวลงได้เมื่อใด

ในปีที่ผ่านมา มีปัจจัยราคาน้ำมันแพงเป็นประวัติการณ์ ไข้หวัดนก และภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2004 แต่เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็ยังสามารถเติบโตได้ถึงระดับ 7.2%

นายคิม ฮัก ซู เลขาธิการของ UNSCAP กล่าวในการแถลงรายงานประจำปีของภูมิภาค ซึ่งประกอบด้วย 60 เขตเศรษฐกิจพิเศษว่า เมื่อปีที่ผ่านมาภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอัตราการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 การขยายตัวดังกล่าวเชื่อมโยงกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 30 ปีอันเนื่องมาจากการส่งออกที่ดี ความต้องการบริโภคสินค้าภายในประเทศในแต่ละประเทศ ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อต่ำ และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย

ในรายงานฉบับดังกล่าวยังระบุว่า การขยายตัวส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกินความคาดหมาย โดยอยู่ที่ระดับ 9.5% ในปีที่แล้ว และ 9.3% ในปี ค.ศ.2003

อย่างไรก็ตาม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจการเงินในปี ค.ศ.1997 นำโดยประเทศสิงคโปร์ ขยายตัวถึง 8.4% ตามด้วยมาเลเซีย และเวียดนามที่อยู่ในระดับ 7.0%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ได้มีการประกาศออกมาแล้ว จะปรากฏภาพชัดเจนว่า ประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจการเงินที่แข็งแกร่ง มักจะเป็นประเทศที่มีระบบการปกครองที่เป็นเอกภาพ เพราะคงไม่มีใครปฏิเสธใช่หรือไม่ว่า ประเทศจีน ยังคงปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนเพียงพรรคเดียว เช่นเดียวกับประเทศเวียดนาม ในขณะที่ประเทศสิงคโปร์และประเทศมาเลเซีย ก็พูดไม่ได้เต็มปากว่า เป็นประชาธิปไตยเต็มใบเหมือนอย่างประเทศไทย แต่ก็ปรากฏว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจของทั้ง 4 ประเทศนี้ มีอัตราการเจริญเติบโตดีกว่าประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชียแปซิฟิก ซึ่งหมายรวมถึงประเทศไทยด้วย

ประกอบกับ การได้ผู้นำประเทศของทั้ง 4 ประเทศ เขาพยายามคัดสรรผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล เล็งเห็นประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติเอาไว้ล่วงหน้า ไม่มีการดึงแข้งดึงขากันเหมือนอย่างประเทศไทย เศรษฐกิจของทั้ง 4 ประเทศโดยเฉพาะประเทศเวียดนาม จึงรุดหน้ามาเป็นลำดับ และกำลัง