เรื่องเด่น เปิดตำนาน "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" เรื่องลี้ลับที่เล่าขานกันมาในอดีต เรื่องราวที่ผ่านการค้นหา..สุดท้าย ลงเอยอย่างไร???

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 14 เมษายน 2017.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    เปิดตำนาน "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" เรื่องลี้ลับที่เล่าขานกันมาในอดีต เรื่องราวที่ผ่านการค้นหา..สุดท้าย ลงเอยอย่างไร???

    68229_1268.jpg


    ตำนานปู่โสม เฝ้าทรัพย์

    กรุงศรีอยุธยาอดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่ของไทย ครั้งที่บ้านเมืองยังสงบอาณาประชาราษฎร์ล้วนมีชีวิตที่สุขสบาย ขุนนาง ขุนศึก พ่อค้าและชาวบ้านทั้งหลายยิ้มย่องผ่องใสมีชีวิตรุ่งเรืองถึงขีดสุด จึงต่างเก็บหอมรอมริบ สะสมแก้วแหวนเงินทองมีค่าไว้มากมาย

    จนกระทั่ง เกิดสงครามถึงคราวพ่ายแพ้แก่พม่า กรุงศรีอยุธยาต้องล่มสลาย ผู้คนและเหล่าทหาร ช้าง ม้า วัว ถูกฆ่าตายกลาดเกลื่อน สมบัติมากมายที่สะสมกันไว้จึงถูกซุกซ่อนฝังไว้ตามจุดต่างๆ

    ขุนนาง คหบดีและเจ้านายบางพระองค์ นอกจากจะฝังสมบัติไว้แล้ว ยังถึงกับฆ่าบริวารหรือทหารของตนให้ตายโหงอยู่ตรงที่ฝังสมบัติ เพราะหวังจะให้วิญญาณของผู้ตายกลายเป็นผี "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" เฝ้าสมบัติของตนก็มี

    เมืองกรุงเก่าอยุธยานับแต่อดีตถึงปัจจุบันจึง ขึ้นชื่อลือชานักในเรื่องของวิญญาณ ที่มักมาปรากฏตามสถานที่โบราณต่างๆ หลายเรื่องน่ากลัว หลายเรื่องฟังแล้วน่าตื่นเต้นดีและทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ดังเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้...

    เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้น จริงในอดีตเกี่ยวกับลายแทงสมบัติอันบ่งบอกจุดที่ซ่อนของขุมทรัพย์มากมาย ภายในอาณาบริเวณอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ลายแทงนั้นบอกว่า พระนครศรีอยุธยามีสมบัติโบราณถูกฝังเอาไว้ถึง 303 แห่ง โดยเฉพาะที่ "วัดกุฏิดาว" มีขุมทรัพย์ฝังอยู่ถึง 16 แห่ง

    ลายแทงขุมทรัพย์มีค่า มหาศาลนี้ผู้ที่ได้ครอบครองไว้เป็นเจ้านายระดับพระองค์เจ้า พระองค์หนึ่ง การได้มาของลายแทงนี้ไม่ทราบชัดว่าท่านได้มาอย่างไร...จากใคร...แต่พิสูจน์ ได้แน่ชัดว่า ต้องมีทรัพย์มีค่าฝังอยู่ใต้ดินจริงๆ

    เพราะพระองค์ เจ้าพระองค์นี้ กับพระสหายชาวต่างประเทศได้นำเอาเครื่อง "ไมน์ดีเทคเตอร์" ซึ่งเป็นเครื่องสำรวจหาวัตถุธาตุมาสำรวจตรวจดูแล้ว และปรากฏว่าเครื่องมือดังกล่าวนี้ระบุว่าจุดที่ตรวจค้นมีสมบัติล้ำค่าถูกฝัง อยู่ใต้ดินจริงๆ

    วัดกุฏิดาวเป็นวัดร้าง มีร่องรอยว่าเคยเป็นวัดที่ใหญ่โตสวยงามในสมัยอยุธยาในลายแทงขุมทรัพย์บอกว่า ที่วัดแห่งนี้มีสมบัติล้ำค่าถูกฝังไว้รอบอุโบสถถึง 16 แห่ง ดังนั้นพระองค์เจ้าพระองค์นี้และพระสหายหลายคน

    จึงได้ทำเรื่องเสนอ ต่อกรมศิลปากร ขออนุมัติดำเนินการขุดค้นหาขุมทรัพย์ดังกล่าว โดยขอแบ่งทรัพย์ที่ขุดขึ้นได้เพียง 10% และอีก 90% จะมอบให้เป็นสิทธิ์ของกรมศิลปากร เมื่อกรมศิลปากรอนุมัติ ท่านจึงเริ่มดำเนินการขุดค้นที่วัดกุฏิดาวเป็นแห่งแรกในปี พ.ศ.2503

    images(33).jpg



    น่าประหลาดที่การขุดสมบัติที่วัดกุฏิดาว เมื่อขุดลงไปตรงจุดที่ลายแทงระบุว่ามีสมบัติซ่อนอยู่ กลับไม่พบสิ่งใดเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ทั้งที่ก่อนลงมือขุดได้ใช้เครื่องไมน์ดีเทคเตอร์ตรวจสอบดูก่อนแล้ว เครื่องก็ส่งสัญญาณว่ามีสิ่งมีค่าฝังอยู่แน่นอน แต่พอขุดลงไปกลับไม่มีอะไรเลย

    การขุดค้นหาสมบัติโบราณที่วัดกุฏิดาว ในครั้งนั้น นอกจากจะพบความผิดหวังแล้ว พระองค์เจ้าฯ และพระสหายยังพบกับเหตุการณ์อัศจรรย์ที่น่ากลัวอีกหลายอย่าง

    นั่นก็ คือท่านและพระสหายเห็น "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" มาปรากฏต่อหน้าต่อตากลางวันแสกๆ เป็นร่างของนักรบไทยโบราณ ร่างใหญ่โต แต่ไร้หัว นอกจากนี้ภายในวังของท่านก็ยังมีเสียงคล้ายคนขุดดินตลอดเวลา เสียงนั้นดังชัดเจนได้ยินกันหลายคน

    เหตุการณ์น่ากลัวที่เกิดขึ้น ทำให้พระองค์ต้องเชิญอาจารย์ที่นั่งทางในเก่งๆ มาช่วยดู อาจารย์ที่ท่านนั้นก็บอกว่า วิญญาณที่ปรากฏเป็น "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" เขาเป็นเจ้าของสมบัตินั้น และโกรธแค้นมากที่เจ้านายพระองค์นี้ มาทำการขุดค้นสมบัติของเขา จึงมาสำแดงกายให้เห็นทั้งยังสาปแช่งพวกที่มาขุดสมบัติของเขาทุกคน

    คำ สาปแช่งนั้นต่อมาก็เป็นจริง เพราะพระสหายคนหนึ่งที่ร่วมทีมขุดสมบัติกับท่านได้เสียชีวิตกระทันหัน ทั้งๆ ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงทุกอย่าง ส่วนประสหายอีกคนก็หายสาบสูญไป โดยไม่ทราบชะตากรรม ส่วนตัวท่านเองทำธุรกิจอะไรก็ขาดทุน

    ขุมทรัพย์ โบราณที่วัดกุฏิดาว ปัจจุบันก็ยังคงอยู่ที่เดิม เพราะยังไม่มีใครกล้าหาญไปขุดค้น เพราะเกรงว่าวิญญาณที่ยังคงวนเวียนเฝ้าสมบัติ จะมาหลอกหลอนและสาปแช่ง

    วัด กุฏิดาวเป็นวัดเล็กๆ ป้ายชื่อวัดไม่มีบอก ต้องอาศัยถามจากชาวบ้าน แถวใกล้วัดกุฏิดาวยังมีวัดใกล้เคียงหลายวัด รวมถึงวัดมเหยงค์ซึ่งขึ้นชื่อว่า "ผีดุ" อีกวัดหนึ่ง

    %B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C.jpg


    "วัดมเหยงค์" นี้เคยเป็นวัดร้าง ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังของอุโบสถซึ่งกระเทาะหลุดร่อนเหลือแต่อิฐ แดงๆ แต่ก็ยังมีเค้าโครงให้เห็นว่าเคยเป็นศาสนาสาถนที่สวยงามในอดีต

    วัดมเหยงค์แห่งนี้เคยมีผู้เล่าให้ฟังว่า มีคนเคยได้ยินเสียงสวดมนต์ในท่วงทำนองอันไพเราะ ดังแว่วมาจากอุโบสถ เสียงสวดนั้นดังพร้อมเพรียงเป็นหมู่คณะ สวดช้า และเยือกเย็น ทำนองสวดไม่เหมือนปัจจุบัน และจะดังขึ้นในเวลาเช้าตรู่ ซึ่งพอเดินไปดูที่ต้นเสียงกลับไม่มีใครเลย แล้วเสียงนั้นมาจากไหน ยังเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้...


    คำว่าปู่โสมนี้ ได้ยินมาบ่อยๆ ที่เรียกว่าปู่นี้คงเพราะมักมาเป็นรูปอย่างคนเฒ่าคนแก่ คงเป็นชายเสียส่วนมากจึงได้เรียกว่าปู่ ไม่เคยได้ยินว่ามีย่าโสมที่ไหน ส่วนคำว่าโสมนั้นคงเป็นคำโบราณ แปลว่าอะไรไม่แน่ใจ โดยรวมปู่โสมก็เป็นผีชนิดหนึ่ง เชื่อว่ามีหน้าที่คอยเฝ้าสมบัติต่างๆที่คนโบราณแอบเอาไว้ตามถ้ำหรือกรุ สมบัติ ที่จริงเรื่องปู่โสมนี้เป็นเรื่องที่ดูยังคาบเกี่ยวกับวิชามารยาศาตร์(ฝังอาถรรพ์)อยู่มากในที่นี้เป็นการกล่าวถึงแต่คติเรื่องผีจึงขอคัด เอาแต่คติที่ดูจะเกี่ยวกับผีๆสางๆสักหน่อย

    การอุบัติของปู่โสมนี้อาจ แยกเป็นสองอย่างหลักคือ เกิดจากอำนาจทางมารยาศาสตร์ ผูกขึ้นมาให้เป็นตัวตน คงคล้ายๆกับการผูกหุ่นพยนต์ กับอีกอย่างหนึ่งคือเกิดจากคนตายคือผีตามความเข้าใจของคนทั่วไป ซึ่งอย่างหลังนี้ดูจะเกี่ยวกับปู่โสมที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่หน่อย ปู่โสมที่เกิดจากอำนาจคนตายนี้ ก็ยังแยกออกเป็นแบบอีกคือ เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติกับเขาทำให้เกิด

    อย่างแรกที่ว่าเกิดกันตาม ธรรมชาตินี้คือเกิดจากคนที่เป็นจ้าวสมบัติเมื่อตาย ลงจิตยังคงหลงยึดมั่นในสมบัตินั้นเลยทำให้ไม่ได้ไปเกิด กลายเป็นผีเฝ้าสมบัติ เรื่องอย่างนี้ได้ยินกันบ่อยไป เช่นเคยได้ยินว่ามีนักเล่นของเก่าไปหาซื้อเตียงโบราณมาพอจะเอาเตียงมานอน เข้าจริงๆก็โดนเจ้าของเตียง(ผี)มาเล่นงานตั้งแต่คืนแรก อย่างนี้คงเป็นเพราะวิญญาณยังคงหวงเตียงนั้นอยู่เลยไม่อยากให้ใครมาเกาะแกะ ฟังดูอาจตลกดีแค่เตียงเก่าๆยังหวงอะไรหนักหนา แต่มาคิดดูเรื่องการหวงข้าวของนี้เป็นอัตตาที่เข้มข้นอย่างหนึ่ง เช่นของของเราๆก็ไม่อยากให้ใครมาแอบใช้ คนรักของเราๆก็ไม่อยากให้ใครมาเกาะแกะ แต่อย่างนี้ยังดูไกลจากผีปู่โสมของเราอยู่สักหน่อย

    การเกิดผีปู่โสม อีกอย่างหนึ่งก็คือเป็นการกระทำให้เกิดคือเจ้าตัวก็ไม่ได้ อยากเกิดเป็นผีปู่โสมแต่มีใครบางคนทำให้เป็น ไม่ว่าเจ้าตัวจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม อย่างนี้เองจึงเป็นผีปู่โสมเฝ้าสมบัติของแท้ เรื่องเอาคนมาฆ่าแล้วตรึงวิญาณให้เฝ้าสมบัตินี้มักได้ยินบ่อยๆ เป็นความเชื่อของลัทธิมารยาศาสตร์

    8c(1).jpg

    ที่มา http://thaimysterious.blogspot.com



    เรียบเรียงโดย

    ศักดิ์ศรี บุญรังศรี : สำนักข่าวทีนิวส์

    http://www.tnews.co.th/contents/310932


     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    ต้องรอจนกว่า ดวงจิตที่เป็นเจ้าของวนกลับมาเกิด
    อีกครั้ง แล้วต้องลุ้นว่าจะสนใจหรือเปล่า
    ถ้าสนใจแล้วสามารถนำขึ้นมาเพื่อต่ออายุพุทธศาสนาได้
    ถ้าไม่สนใจหรือไม่รู้ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอดีตไปครับ...
    หรือถ้ารู้และปล่อยวางไป ก็จะสามารถที่จะเริ่มขุด
    หรือโผล่ขึ้นมาให้เห็นได้ครับ แต่บางทีบางสถานที่
    มักไม่ได้มีเจ้าของเดียว การที่จะรอให้วนมาเกิดพร้อมๆกัน
    จะเป็นเรื่องยากหน่อยโดยเฉพาะทางเหนือมากๆ
    จะเป็นอย่างนี้เยอะครับ แต่เหนือกลางๆมักจะมีเจ้าของท่าน
    เดียวที่เป็นใหญ่ยังมีโอกาศมากกว่าครับ
     
  3. นายธนาคาร

    นายธนาคาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +111
    แล้วปู่โสม จะสามารถกลับไปเกิดเป็นมนุษย์เหมือนเดิมได้ไหมหรอครับ
    หรือว่าจะต้องเป็นปู่โสมที่ดูแลสมบัติตลอดไปเลยหรือครับ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    ปกติรอเจ้าของมาเกิด
    แล้วก็รู้และวาง
    เพื่อปลดปล่อย
    เอาไปใช้ในทางที่ดีๆ
    ที่เฝ้าๆก็จะหลุดพ้นได้เองคับ
    และไปตามวิถีแห่งจิตตน


    แต่ถ้ากรณีเจ้าของมากบารมี
    แต่เป็นปู่โสมเอง(ตายไม่ธรรมชาติ)
    อย่างนี้ นานนนนนนนนน
    แสนนนน นานนานนนนน
    จนนึกเวลาไม่ออก
    อย่างกรณีแรกข้างบน หลักร้อยปี
    พอมีให้เห็นบ้าง
    แต่อย่างหลัง ตอบไม่ได้จริงๆ

    ยกเว้นจะเจอระดับผู้โปรดผ่านมา
    แล้วมาลุ้นอีกทีว่าจะปล่อยวางได้ไหม
    ต้องเข้าใจนะครับว่า
    ก่อนตายมีสติแค่ไหนก็แค่นั้น
    ถ้ายึดแล้วพอตายไปไม่มีกาย
    มันก็คลายยากหน่อยคับ
     
  5. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ว้าว เรื่องปู่โสมนี่ทำให้นึกถึงตำนานที่วัดเล็กๆแห่งนึงคะ ชื่อเขาน้อย
    ตอนนั้นยังวัยสะออน14-15 คะนองตามเพื่อน ไปเที่ยววัดนี้
    พอกลับมาบ้านโดนคุณยายชีดุอีก
    มึงไปทำไมที่เขาน้อย(เง่อะ ก็อยากไปเที่ยวบ้างไรบ้างง่ะ)
    มึงรู้มั้ย(หนูไม่รู้)ที่นั่นมีงูเจ้าเฝ้าอยู่ สีขาวตัวใหญ่(แต่ไม่มีใครมองเห็น) จะอ้าปากค้างใครหรือสัตว์ไหนถึงฆาตก็จะเดินเข้าปากไปให้เขากิน เขาไม่ออกล่าหาเหยื่อ แต่ถ้าเดินหลงเข้าปากก็กลายเป็นอาหารให้เขา
    มึงอยากตายเหรอเด็ก(โดนด่าตามระเบียบ)

    ที่นั่นเขามีสมบัติมีคนเฝ้า(เอาเข้าจริงมิใช่คน) แต่ใครก็เอาไปไม่ได้ คนที่จะเอาต้องเป็นเจ้าของเดิม เป็นเด็กหญิงอายุ7ขวบชื่อมาลี(หรือมาลัยจำไม่ได้)ไปแสดงตัวกับเขาถึงเอาได้ เขารอเด็กมาเอาไป ถ้าใครจะเอาต้องหาเด็กหญิงชื่อนี้อายุ7ขวบเท่านั้นถึงเอาได้

    จำไม่ได้ว่างูนี่เป็นปู่โสมรึเปล่า
    แต่ถ้าใครจะเอาก็ยากอีก
    เด็กสมัยนี้จะมีใครชื่อโบราณๆแบบมาลีมาลัยคงไม่มี แถมอายุไม่ขาดไม่เกินอีก
    เขาว่าเขาให้ได้ง่ายๆแต่ต้องมีเจ้าของตามเกณฑ์มาแสดงตัวขอรับของ
     
  6. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ว้าว เรื่องปู่โสมนี่ทำให้นึกถึงตำนานที่วัดเล็กๆแห่งนึงคะ ชื่อเขาน้อย
    ตอนนั้นยังวัยสะออน14-15 คะนองตามเพื่อน ไปเที่ยววัดนี้
    พอกลับมาบ้านโดนคุณยายชีดุอีก
    มึงไปทำไมที่เขาน้อย(เง่อะ ก็อยากไปเที่ยวบ้างไรบ้างง่ะ)
    มึงรู้มั้ย(หนูไม่รู้)ที่นั่นมีงูเจ้าเฝ้าอยู่ สีขาวตัวใหญ่(แต่ไม่มีใครมองเห็น) จะอ้าปากค้างใครหรือสัตว์ไหนถึงฆาตก็จะเดินเข้าปากไปให้เขากิน เขาไม่ออกล่าหาเหยื่อ แต่ถ้าเดินหลงเข้าปากก็กลายเป็นอาหารให้เขา
    มึงอยากตายเหรอเด็ก(โดนด่าตามระเบียบ)

    ที่นั่นเขามีสมบัติมีคนเฝ้า(เอาเข้าจริงมิใช่คน) แต่ใครก็เอาไปไม่ได้ คนที่จะเอาต้องเป็นเจ้าของเดิม เป็นเด็กหญิงอายุ7ขวบชื่อมาลี(หรือมาลัยจำไม่ได้)ไปแสดงตัวกับเขาถึงเอาได้ เขารอเด็กมาเอาไป ถ้าใครจะเอาต้องหาเด็กหญิงชื่อนี้อายุ7ขวบเท่านั้นถึงเอาได้

    จำไม่ได้ว่างูนี่เป็นปู่โสมรึเปล่า
    แต่ถ้าใครจะเอาก็ยากอีก
    เด็กสมัยนี้จะมีใครชื่อโบราณๆแบบมาลีมาลัยคงไม่มี แถมอายุไม่ขาดไม่เกินอีก
    เขาว่าเขาให้ได้ง่ายๆแต่ต้องมีเจ้าของตามเกณฑ์มาแสดงตัวขอรับของ
     

แชร์หน้านี้

Loading...