เด็กนักเรียนหญิงวัย13ขวบหกล้ม เสียชีวิตปริศนา?

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 มกราคม 2549 16:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายพรพจน์ ร่ำไห้ลูบหัวลูกสาว</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นางแดง แม่ของน้องเอิน ร่ำไห้เมื่อเห็นศพลูก</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายพรเทพ อาสาสมัครตำรวจบ้าน ชี้บริเวณจุดเกิดเหตุ </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เกิดคดีปริศนาขึ้นอีกคดี เมื่อเด็กหญิงวัย 13 ขวบ เดินไปโรงเรียนแล้วหกล้มธรรมดา จากนั้นมีผู้นำส่งโรงพยาบาล ทว่าเด็กกลับเสียชีวิตก่อนถึงมือหมอ ทั้งพ่อแม่ แพทย์ และตำรวจมึน ต้องรอพิสูจน์สาเหตุอีกราว 1 สัปดาห์จึงจะรู้ผล

วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.ท.สราวุธ แก้วใส ร้อยเวร สน.บางกอกน้อย รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลศรีวิชัย 1 ว่ามีเด็กนักเรียนประสบอุบัติเหตุลื่นหกล้ม เข้ามารักษาและเสียชีวิตลงโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์นิติเวช จาก ร.พ.ศิริราช

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบศพ ด.ญ.นฤมล หรือ น้องเอิน จันทร์แสง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนวัดปากน้ำวิทยาคม สภาพศพยังสวมชุดนักเรียน มีบาดแผลรอยถลอกที่บริเวณใต้คาง มือขวา และ หัวเข่าทั้งสองข้าง

จากการสอบสวนนายสมพจน์ จันทร์แสง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/62 ม.10 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. อาชีพขับรถแท็กซี่และเป็นพ่อของน้องเอิน ให้การว่า มีลูกสาวอยู่ 2 คน คนโตอยู่ชั้น ม.3 ส่วนน้องเอิน เป็นลูกคนเล็ก เมื่อประมาณ 08.00 น.ที่ผ่านมา หลังจากที่เลิกขับรถแท็กซี่เดินทางกลับมาบ้าน ญาติๆ แจ้งให้ทราบว่า น้องเอินหกล้มที่บริเวณข้างโรงเรียน และถูกนำตัวส่ง ร.พ.ศรีวิชัย จึงรีบมาดูที่โรงพยาบาล แต่เมื่อมาถึง แพทย์ก็แจ้งว่า น้องเอินเสียชีวิตขณะกำลังนำส่ง ร.พ.

นายสมพจน์ ให้การต่อว่า เมื่อสอบถามจากผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านนั้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 07.15 น.เห็นลูกสาวตนเดินมาตามทางเดินข้างวัดปากน้ำ เมื่อมาถึงบริเวณด้านหน้าวิหารของวัดซึ่งอยู่ก่อนถึงโรงเรียนเล็กน้อย ลูกสาวได้หกล้มหน้าคว่ำคางกระแทกพื้น จากนั้นก็รีบนำไปปฐมพยาบาลที่ศูนย์บริการสาธารณสุข ที่อยู่ใกล้ๆ ได้สักประมาณ ครึ่งชม.ทางโรงเรียนก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อมาถึง ปรากฏว่า ลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว

"ปกติเอินเป็นเด็กร่าเริง เรียนเก่งได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่าๆ ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เล็กจนโต ร่างกายเขาก็แข็งแรงมาตลอด ไม่เคยมีโรคประจำตัวหรือเป็นลมจนหกล้มแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อเช้าก็ยังดีๆอยู่เลย ก็ไม่รู้ว่าทำไมหกล้มเพียงแค่นี้รุนแรงถึงขนาดเสียชีวิตได้" นายสมพจน์ กล่าวด้วยความเศร้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น นางแดง ปั้นทอง อายุ 35 ปี แม่ของน้องเอินพร้อมด้วยญาติๆ ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลศรีวิชัย 1 ซึ่งเมื่อมาถึง นางแดงถึงกับร่ำไห้ กอดศพลูกตัวเองทันที

ด้านนายพรเทพ ตาลานนท์ อายุ 26 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นน้องเอินเดินมาตามทางเดินข้างวัดปากน้ำฝั่งเหนือ เมื่อมาถึงบริเวณด้านหน้าวิหาร ก็ได้ยินเสียงคนเรียกให้ช่วย เมื่อหันไปดูก็พบว่า น้องเอินล้มอยู่ จึงรีบเข้าไปพยุง และขอยาดมมาให้ดม ก่อนที่จะรีบอุ้มไปส่งที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 49 สาขาบางเชือกหนัง ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อปฐมพยาบาล จากนั้นจึงนำส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา

"ก่อนหน้านี้ผมได้ยินชาวบ้านบอกว่า น้องเขาล้มมาแล้วครั้งหนึ่ง ตรงสะพานข้ามคลอง ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตรเห็นจะได้ แล้วเขาก็มาล้มอีกครั้งหนึ่ง" นายพรเทพ กล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 49 สาขาบางเชือกหนัง กล่าวว่า ช่วงเช้าก่อน 08.00 น.เห็นชาวบ้านช่วยกันอุ้มตัวน้องเอินมา ส่งที่ศูนย์ฯ โดยบอกว่าน้องเอินเป็นลมล้มลงไป เมื่อมาถึงน้องเอินก็ยังมีสติอยู่ สามารถพูดคุยตอบถามได้ จากนั้นก็ได้ก็รีบปฐมพยาบาลโดยให้ดมแอมโมเนีย และทำแผลที่หัวเข่า

เบื้องต้น น้องเอินบอกอาการว่า หายใจไม่ออก อยากอาเจียน ระหว่างนั้นก็พยายามติดต่อหาผู้ปกครองเด็ก และทางโรงเรียน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ก็ติดต่อทางโรงเรียนได้ จากนั้นก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

"ตอนแรกทางเราคิดว่าเด็กเป็นลมธรรมดา เพราะเมื่อดมแอมโมเนียแล้ว ก็พูดคุยได้ตามปกติ แต่เด็กบอกเบอร์พ่อผิด จึงทำให้ติดต่อที่บ้านไม่ได้ หลังจากนั้นก็ยังมีสติอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งรถโรงเรียนมารับไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางเราก็ไม่คิดว่า อาการของเด็กจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต" เจ้าหน้าที่ศุนย์ฯ กล่าว

ด้าน ศาสตราจารย์คลินิก น.พ.อำนาจ กุสลานันท์ นายแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เด็กเสียชีวิตไปแล้วก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุยังไม่สามาารถบอกได้ในขณะนี้ ต้องรอจนกว่าจะผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นบาดแผลที่พบนั้นมีบริเวณใต้คาง มือขวา และหัวเข่าทั้งสองข้าง

ศาสตราจารย์คลินิก น.พ.อำนาจ กล่าวต่อว่า ตอนนี้บอกได้แต่เพียงว่า บาดแผลที่ปรากฏภายนอกนั้น ถือว่าเป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อย แต่บางครั้ง บาดแผลที่เกิดขึ้นภายนอก และภายในอาจไม่สัมพันธ์กัน บางรายบาดแผลที่เกิดขึ้นภายนอกดูรุนแรง แต่ภายในไม่ได้รับการกระทบกระเทือน หรือ บาดแผลภายนอกดูเล็กน้อย แต่ภายในได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก จนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

น.พ.อำนาจ กล่าวต่อว่า การกระทบกระเทือนที่ถึงขั้นทำให้เสียชีวิตนั้น มักจะเป็นการกระทบที่ศีรษะ หน้าอก หรือ ช่องท้อง แต่สำหรับรายนี้นั้น มีโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก อย่างไรก็ตามแพทย์จะได้ผ่าพิสูจน์ศพอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะนำเลือด ปัสสาวะ และชิ้นเนื้อไปตรวจสอบอย่างละเอียดในห้องทดลอง ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 1 สัปดาห์ จึงจะสามารถบอกสาเหตุการเสียชีวิตได้

ด้าน ร.ต.ท.สราวุธ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์นิติเวชเสียก่อนว่า เด็กเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร ทั้งนี้จะได้เรียกพ่อของเด็ก รวมทั้งพยานแวดล้อม ที่เห็นเหตุการณ์ มาสอบปากคำว่า เด็กล้มอย่างไร ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>