เจออีกรูปพระกตัญญูเลี้ยงพ่อพิการ

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
อีกรูป-พระบุญเรือง อตตสิโน พระวัดบ้านงิ้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ป้อนข้าวนาย หล่อ ศูนย์ตะขบ พ่อที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ มีความกตัญญูเหมือนกับพระอภิรักษ์ อภิญญาโณ จ.ศรีสะเกษ ที่ต้องดูแลแม่พิการทั้งที่บวชเป็นพระ

</TD></TR></TBODY></TABLE>จากเรื่องราวของพระภิกษุยอดกตัญญู พระอภิรักษ์ อภิญญาโณ อายุ 41 ปี พระลูกวัดบ้านสังกัน ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ บวชมา 22 พรรษา ยอมทิ้งตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านหัวช้าง ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง ที่เป็นมานานกว่า 9 ปี มาเป็นพระลูกวัด เพื่อจะได้ดูแลนางตู๊จ ศรีสัจจา แม่วัย 74 ปี พิการเป็นโรคอัมพฤกษ์ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้มานานกว่า 3 ปีแล้ว และยังมีหนี้สินจากการเอาที่ดินไปจำนองกับเจ้าหนี้เพื่อนำเงินมารักษามารดาเป็นเงิน 30,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยที่ยังไม่ได้ใช้หนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว หลังจากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป มีประชาชนคนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เสนอความช่วยเหลือช่วยไถ่ถอนที่ดินของพระอภิรักษ์ และช่วยเหลือเรื่องการรักษานางตู๊จ ล่าสุดกลุ่มแม่บ้านไทยในสหรัฐเตรียมโอนเงินผ่านธนาคารมาให้อีก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากเรื่องราวของพระอภิรักษ์ อภิญญาโณ อายุ 41 ปี กกตัญญูดูแลแม่พิการ แล้ว ยังมีพระกตัญญูอีกรูปหนึ่งที่วัดบ้านงิ้ว ต.งิ้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เดินบินฑบาตข้าวปลาอาหาร มาเลี้ยงพ่อที่พิการเป็นโรคอัมพฤกษ์ โดยคอยป้อนข้าว เช็ดตัว และดูแลทุกอย่าง เนื่องจากพ่อไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มานานกว่า 3 ปีแล้ว และต้องมานอนเฝ้าดูแลพ่อที่พิการทุกคืนอีกด้วย อีกทั้งมีฐานะยากจน แม่เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 7 ขวบ พี่น้องก็ไม่เหลียวแล

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 15 ต.งิ้ว อ.ปักธงชัย เป็นบ้านของพระบุญเรือง อตตสิโน อายุ 29 ปี กำลังนั่งป้อนข้าวที่คลุกกับไข่ต้มให้นายหล่อ ศูนย์ตะขบ อายุ 59 ปี พ่อกินประทังชีวิต สำหรับสภาพบ้านใต้ถุนสูง มุงสังกะสี อยู่ในสภาพทรุดโทรม

พระบุญเรือง กล่าวว่า บวชที่วัดงิ้วมาเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว ก่อนบวชเป็นยามอยู่ในตัวเมืองนครราชสีมา ชอบดื่มสุราและเที่ยวเตร่เป็นประจำ จึงตัดสินใจเลิกอบายมุขและบวชเป็นพระ ส่วนพ่อมีอาชีพทำนา แม่เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 7 ขวบ หลังจากที่บวชแล้วเมื่อประมาณปี 2545 ขณะที่พ่อรอใส่บาตรพลัดตกจากเก้าอี้ลุกไม่ขึ้น และก็พูดไม่ได้ จึงพาพ่อไปรักษาที่ร.พ.ปักธงชัย และกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพ่อเป็นอัมพฤกษ์และพูดไม่ได้ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีกเลย อาตมาต้องคอยมาดูแลพ่อทุกวัน ถึงจะบวชเป็นพระก็ตาม

พระบุญเรืองกล่าวต่อว่า ส่วนพี่ชายและน้องสาวมีครอบครัว และย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมด เหลือเพียงอาตมาเท่านั้นที่จะต้องดูแลพ่อ ทุกครั้งจะขออนุญาตหลวงพ่อที่วัดก่อนจะมาดูแลพ่อ หลวงพ่อก็อนุญาตและไม่ได้ว่าอะไร ส่วนข้าวปลาอาหารต่างๆ ก็ต้องอาศัยข้าวจากชาวบ้านที่ใส่บาตร คอยตักแบ่งใส่ถุง หรือไม่ก็ใส่ปิ่นโตเก็บไว้มาให้พ่อ หลังจากที่ฉันอาหารเสร็จสิ้นในมื้อเช้า ก็จะนำข้าวมาป้อนให้พ่อกิน เสร็จแล้วเช็ดตัว และดูแลเรื่องขับถ่าย โดยทำช่องพื้นกระดานไม้ไว้ให้พ่อถ่ายลงไปใต้ถุน จากนั้นจะเอาเสียมมาตักอุจจาระที่พื้นดินใต้ถุนบ้านออกไปฝังทุกวัน และได้ปัดกวาดเช็ดถูบ้าน

พระบุญเรืองกลอีกว่า พอตอนเที่ยงก็จะเข้ามาดูพ่ออีกครั้ง และกลับเข้าวัด ในตอนเย็นเวลาประมาณ 4-5 โมงเย็นก็จะกลับมาที่บ้าน เพื่อมาดูแลป้อนข้าวพ่ออีกครั้ง จะมานอนเฝ้าดูแลพ่อทุกคืน เพราะพ่อช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถ้าหากช่วงเข้าพรรษาก็จะมาจำวัดที่บ้านแทน จะลุกกลับเข้าวัดก่อนตี 4 เพื่อป้องกันการอาบัติ ส่วนที่สาเหตุไม่ยอมสึกออกมาดูแลพ่อ เพราะมีความตั้งใจที่จะบวช เพื่อศึกษาธรรมะ หากต้องสึกออกมาก็ต้องไปทำงาน อาจจะไม่มีเวลากลับมาดูพ่อ และอีกอย่างต้องอาศัยข้าวที่บิณฑบาตมาแบ่งเก็บไว้ให้พ่อกิน ทำให้มีเวลามาดูแลพ่อมากกว่า

ด้านนายอยู่ ครกสระน้อย ผู้ใหญ่บ้านบ้านงิ้วเหนือ หมู่ 15 ต.งิ้ว อ.ปักธงชัย กล่าวว่า จะประสานแจ้งนายอำเภอปักธงชัย และเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา หาทางช่วยเหลือ และนำนายหล่อไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือครอบครัวของพระบุญเรือง สามารถแจ้งความจำนงมาที่ตนเอง หมายเลขโทรศัพท์ 0-7243-9725 หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของพระบุญเรือง อตตสิโน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาอำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา เลขที่บัญชี 304-1-66264-7