อุตุฯ เตือนพายุถล่มไทย

<SCRIPT language=JavaScript src="/includes/inc_popup_news.js"></SCRIPT><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left> </TD></TR></TBODY></TABLE>

สั่ง 16 จว.อีสาน-ตอ. รับมือท่วมฉับพลัน

พายุดีเปรสชันถล่มไทย อุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนด่วน 16 จังหวัด ภาคอีสาน-ตะวันออก พึงระวังน้ำท่วมฉับพลัน อุบลราชธานีเป็นด่านแรกที่รับผลกระทบไปเต็ม ๆ เตรียมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือเป็นการด่วน รัฐจัดงบฯ 50 ล้านช่วยเหลือประชาชน พ่อเมืองเบิกจ่ายได้ทันที

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 13 ก.ย. ที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือน เรื่องพายุดีเปรสชันในทะเลจีนใต้ ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามระหว่างเมืองนาตรัง กับเมือง กวีนอน เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ มีจุดศูนย์กลางห่างประมาณ 300 กม. ทางตะวันออกของ จ.อุบลราชธานี หรือละติจูด 13.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางประมาณ 50 กม.ต่อชม. คาดว่าศูนย์กลางของพายุจะเคลื่อนตัวเข้าประเทศ ไทยในแนว จ.อุบลราชธานี ในวันนี้

ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง จะทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก จนอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ อุบลราชธานี มุกดาหาร สกลนคร ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ นครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดดังกล่าว เตรียมความพร้อมในการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ส่วนทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในวันพรุ่งนี้ ขอให้ชาวประมงในอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วง 2-3 วันนี้ และขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ภายหลังฝนตกหนักในพื้นที่ 3 อำเภอ ตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำยวมได้เอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง เมื่อเวลา 05.30 น. ของเช้าวันนี้ น้ำได้เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรไปแล้วกว่า 5,000 ไร่ บ้าน เรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ 2 หมู่บ้านคือ บ้านพะมะลอ บ้านทุ่งแล้ง กว่า 20 หลังคาเรือน นอกจากนี้ โรงเรียนศรีมูลเมือง ต.แม่คง ที่ตั้งอยู่ห่างจากริมฝั่งน้ำยวม 500 เมตร ได้สั่งปิดเรียนแล้ว ขณะที่ระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งสูง 10-30 ซม. แต่ยังไม่มีความเสียหายกับทรัพย์สินของประชาชน เพราะได้มีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ทางฝ่ายปกครองได้ออกประกาศเตือนให้ราษฎรเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีแนวโน้มว่าระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น ยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.แม่ลาน้อย

ทาง พันเอกพิชิต พินิตตานนท์ ผบ. หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นำเครื่องจักร และกำลังพลเข้าช่วยเหลือราษฎรบ้านดง คะปวง ในการขนย้ายทรัพย์สินเตรียมรื้อบ้านที่ปลูกอยู่ริมน้ำ เนื่องจากน้ำในลำน้ำยวมได้กัดเซาะ ตลิ่งเป็นทางยาวกว่า 200 เมตร เกือบจะถึงตัวบ้านอย่างเร่งด่วน จนเมื่อเวลา 06.00 น. ได้เกิดเหตุดินสไลด์ปิดทับเส้นทางสัญจรภายในหมู่บ้านพะมะลอ มีทางยาว 10 เมตร กว้าง 6 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ฝ่ายปกครอง และหมวดการทางแม่สะเรียง เทศบาลแม่สะเรียง ได้เร่งระดมกำลังคนและเครื่องจักรเปิดเส้นทางเพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้อย่างเร่งด่วน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

ด้านความคืบหน้า การเปิดเส้นทางสู่ 6 หมู่บ้านชายแดน ต.เสาหิน ล่าสุดยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากการคมนาคมเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับตลอดเส้นทางมีดินสไลด์ ไหล่ทางทรุด ถนนมีรอยแตกร้าวเป็นทางยาว ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเปิดเส้นทาง และซ่อมแซมเส้นทาง จึงเป็นเหตุให้การทำงานล่าช้า เครื่องจักรใช้เวลาในการเดินทางถึง 2 วัน

ที่ จ.เชียงใหม่ น้ำท่วมเข้าสู่สภาพปกติแล้ว ยังคงเหลือที่ อ.แม่แจ่ม น้ำจากแม่น้ำหยอด แม่น้ำซา ไหลลงสู่แม่น้ำแม่แจ่ม ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม 2 ตำบล คือ ต.ช่างเคิ่ง ต.ท่าผา ถนนถูกตัดขาดไม่สามารถติดต่อภายนอกได้ ทางเจ้าหน้าที่ อปพร. เทศบาลแม่แจ่ม กำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนเป็นการด่วนแล้ว พร้อมทั้งมีการแจ้งเตือนประชาชนที่พักอาศัยตามลุ่มแม่น้ำให้ระวังอันตรายจากน้ำท่วม รายงานแจ้งว่ามีระดับน้ำ ในลำน้ำแม่แจ่ม เข้าท่วมหมู่ 1-2 ต.หางดง อ.ฮอด เพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นท่วมถนนหลวงสาย 108 แม่สะเรียง-เชียงใหม่ ระหว่างหลัก กม. 9-17 สูงกว่า 1.30 เมตร ทำให้ป้อมจุดตรวจอบหลวงจมอยู่ใต้น้ำ รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้

ที่ จ.ตาก จากฝนที่ตกหนักทำให้ระดับน้ำที่เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง ต้องระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวัง รวมถึงมีน้ำป่าจากห้วยลงมาสมทบทำให้มีน้ำไหลลงแม่น้ำวังจำนวนมาก ขณะที่รับน้ำได้เพียง 200 ลบ.ม./วินาที ทำให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร อ.สามเงา อ.บ้านตาก ได้รับความเสียหาย 2,000 ไร่ ทางนายสุรชัย พึ่งจิตต์ตน รอง ผวจ.ตาก เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเตือนจากเขื่อนกิ่วลม มีความจำเป็นต้องระบายน้ำลงสู่แม่น้ำยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องประสานหน่วยงานใน พื้นที่ออกประชาสัมพันธ์ประชาชนในการเคลื่อนย้ายสิ่งของไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงเสริมคันดินตลอดแนวแม่น้ำวังและเร่งแจกจ่ายกระสอบ ทราย 1,000 ใบให้ประชาชน จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชม. คาดว่าน้ำในลำน้ำวังจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ที่ จ.สุโขทัย ในหลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ต่ำต้องใช้เรือท้องแบนเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน เขตเทศบาลเมืองสวรรคโลกน้ำในแม่น้ำยมเริ่มทรงตัวลดระดับลงทำให้เขตเทศบาลเข้าสู่ภาวะปกติ ทางเทศบาลได้ระดมทำความสะอาดพื้นที่ อ.ศรีสำโรง น้ำได้ลดลงแล้วเช่นกัน ส่วน อ.เมืองสุโขทัย หมู่ 2 ต.ปากแคว ติดริมฝั่งแม่น้ำยม ถนนเข้าหมู่บ้านพังชำรุดน้ำยังคงท่วมพื้นที่ต่ำตลอดเวลา จนทำให้โรงงานน้ำปลาได้ รับความเสียหาย ด้านนายสุกิจ เจริญรัตนกุล ผวจ. สุโขทัย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบทันที

ส่วน จ.พิษณุโลก พบว่าสถานการณ์น้ำ ท่วมใน อ.บางกระทุ่ม อ.เนินมะปราง มีน้ำเพิ่มขึ้นในคลองเนินกุ่ม และยังมีน้ำป่าไหลจากยอดเขาชมพูเข้าท่วม ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมฝั่งถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ด้าน อ.บางระกำ น้ำจากแม่น้ำยมได้ไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตร จำนวน 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 85 ครัวเรือน ถนนถูกน้ำท่วม 13 สาย พื้นที่นาเสียหาย 1,802 ไร่ และที่ อ.ชุมแสง จ.นคร สวรรค์ น้ำยมได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน 30 หลัง คาเรือน พื้นที่เกษตรกรรมใน 5 หมู่บ้าน ต.ท่าไม้ ทางชาวบ้านต่างช่วยกันนำกระสอบทรายอุดประตูระบายน้ำ ปิดกั้นน้ำทะลักท่วมสวนกล้วยไข่ พร้อมทั้งเตือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำยมเตรียมรับสถานการณ์

ทาง จ.อำนาจเจริญ ได้เกิดพายุฝนตกหนักในพื้นที่ จนเกิดน้ำกัดเซาะถนนหลายสายพังเสียหาย ทางสำนักงานแขวงการทางอำนาจเจริญ ได้นำกระสอบทรายไปปิดทางน้ำไหลจาก อ่างน้ำพุทธอุทยาน ซึ่งชาวบ้านหวั่นเกรงว่าอ่างจะแตก จึงฝากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบด้วย นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผวจ.อำนาจเจริญ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกช่วยเหลือประชา ชน โดยเฉพาะ อ.ชานุมาน พื้นที่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขงพบว่าน้ำท่วมต้นข้าวเสียหายกว่า 1,000 ไร่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ว่า ในขณะนี้ได้ประกาศเตือนประ ชาชนว่าอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลับจากพายุที่จะพัดเข้าเวียดนามในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ได้ให้เจ้าหน้าที่เตรียมแผนอพยพคนและสิ่งของไว้แล้ว รวมถึงตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชน มีการเพิ่มกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม และเตรียมถุงยังชีพ อาหาร ยารักษาโรค ส่วนงบประมาณของผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะดำเนินการช่วยเหลือนั้น กระทรวงการคลังได้ตั้งระเบียบให้ผู้ว่าฯ สามารถ เบิกจ่ายงบประมาณกรณีเกิดภัยธรรมชาติได้ครั้งละ 50 ล้านบาท ถ้าจำเป็นก็สามารถขยายวงเงินได้ และหากเกิดความเสียหายมากก็จะใช้งบ กลาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทั้งหมด และได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ รวมถึงให้ผู้ว่าฯ ติดตามข่าวจาก กรมอุตุนิยมวิทยา. </TD></TR></TBODY></TABLE>