อยากทราบพลังจิตของผมใครรู้บ้าง

พลังจิตของผมเท่าที่จำได้ใช้ครั้งแรกตอนป.2 ตอนนั้นผมกับเพื่อนๆ กำลังจะหาเพื่อนอีกกลุ่มนึง(2-4คน) ผมบอกเพื่อนว่าตามผมมาผมก็เดินไปตามสัญชาตของผมแค่2นาทีก็เจอแล้วทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเพื่อนของผมอีกกลุ่มนึงอยู่ตรงนี้มาก่อน และผมก็เพิ่งคิดได้ เมื่อตอนม.2ปลายๆ ว่า ตัวเองเดาอะไรจะถูกเสมอจริงๆเป็นมานานแล้วแตาก็ยังควบคุมไม่ได้บางครั้งผมเล้นกับเพื่อนโยนเหรียญ กันก็เดาถูกตลอดทั้งๆที่ไม่รู้แต่จะเห็นเหมือนภาพเหรียญที่จะออกมา จนตอนนี้ผมก็เห็นภาพ เหมือนทั้งอดีต และอนาคตมากสุดอนาคตที่ผมเห็รและเป็นจริงคือตอนกำลังกลับบ้าน ผมคิดว่ารถที่สวนกลับมานั้นจะเป็นรถอะไรผมก็นึกเล่นๆแต่ก็เห็นลางๆว่ารถTaxiสีชมพู พอลืมตาขึ้นมาก็ไม่มี แต่พอผ่านไปสัก 10-15วิ กับมีรถคันที่นึกขึ้นมาจริงๆ

ผมอยากรู้วิธีฝึกมากกว่านี้อะครับใครที่มีแบบผมช่วยสอนหน่อยนะครับอยากเก่งมากกว่านี้(f)

 

สายเดียวกับผมเลย ต้องหัดเรียนโหราศาสตร์อะ แต่ผมเดาไม่ค่อยจะถูกอะ
บารมีน้อยเกิน ระวังใช้มากพลังหมดนะ

 

ผมก็เป็นนะ แต่แบบบางทีเคยเห็นในความฝันมาแล้ว(มันเลยคุ้นๆ พอเดาได้) เลยเหมือนคล้ายแบบ เดจาวู อะนะ ซึ่งเป็นทั้งแบบไม่ฝันกับฝัน...เลยพอเจอจริงๆ มันเลยคุ้น มากๆอะ

 

ผมว่าน่าจะไปฝึกมโนมยิทธิ กรรมฐานตามแนวปฏิบัติของหลวงพ่อวัดท่าซุงครับ

 

ตรงข้ามกับผมเลยนะ อะไรที่ผมคิด ผมเลือก ผมตัดสินใจ และคิดว่าดีว่าถูกนั้น มักจะผิดหมด
ไม่เคยอยู่ฝั่งเดียวกับความถูกต้องเลยสักครั้ง นึกคิดอะไร คาดการณ์อะไร ผิดตลอด

 

ไม่ใช่กำลังจิต เค้าเรียกว่าสัมผัสภายในครับ..
ถ้าอยากพัฒนาต่อ จะทำอะไรก็ตามห้ามใช้
กำลังใจตัวเอง(ย้ำว่าห้ามนะครับ และต้องไม่ใช้
ในเรื่องอกุศลกรรมทุกๆกรณี และใช้แต่ในเรื่อง
ที่มีประโยชน์ทางธรรมและมีประโยชน์ต่อผู้อื่น
เพื่อการหลุดพ้น เพื่อความสว่าง เพื่อความไม่มี
ของบุคคลอื่นๆเท่านั้นนะครับ)
และให้เข้าถึงครูบาร์อาจารย์ไว้ก่อนทุกครั้งครับ
ถ้าจะพัฒนาต่อ แล้วทำอย่างที่เล่าให้ฟังได้ไม่เป็นไรครับ
ไม่ว่าจะใช้งานด้านอะไรก็ตามนะครับ

ไม่งั้นลักษณะสัมผัสภายในแบบนี้เป็นอะไรที่
ทำให้เราหลงได้ง่ายๆเลยครับ แรกๆจะถูก
ต่อไปพอใช้กำลังใจตัวเอง มันจะเริ่มเฝื่อ
(คือทุกสิ่งทุกอย่างมีกิเลสตัวเองเข้าไปปน)
นานไปนานมา จะหลงตัวเองอย่างคาดไม่ถึง
แบบใครบอกไม่ได้ คิดว่าตัวเองเก่งมาก
ทั้งที่ความสามารถในการทำได้ แสดงได้ไม่มี
รู้เองเห็นเองสัมผัสเองได้เองคนเดียว
แนะหรือสอนใครก็ไม่ได้ ใครเห็นต่างก็ไม่ได้
มั่นใจตนเองสูงในสิ่งที่ตนเองรับรู้
ซึ่งมีความ อันตรายมากนะครับ...
มีอย่างมากไม่ถึง ๑๐ เปอร์เซนต์นะครับให้เต็มที่เลย
ที่ไปทางวิชาพิเศษแล้วจะไม่หลงตัวเอง
หรือทำตาม ปฏิธานที่ หลวงพ่อเจ้าของวิชา
ท่านได้ตั้งไว้ครับ นอกนั้น ไม่เอาไปดูดวง
ก็ไปทำนายทายทักในเรื่องที่ทำให้คนยึดมั่นถือมั่น
ชอบอ้างว่าที่ไม่เหมือนตน เพราะเค้าบารมีน้อย
บุญน้อย วาสนาน้อยไปเรื่อยเปื่อย
หนักเข้า ไปติดในลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
หนักกว่านี้ก็เพี้ยนๆไปเลยก็มีเยอะแยะครับ...
ปล.แค่ความเห็นหนึ่งนะครับ

 

สาธุครับ

 

ขอสอบถามเพิ่มเติมว่า...การเข้าถึงครูอาจารย์มีความหมายอย่างไรคะ และต้องทำอย่างไร....
เพราะตัวเองมีลักษณะคล้ายจขกท. จะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าของตัวเอง คนที่จิตเราผูกพันธ์ด้วย หรือคนที่เอาจิตส่งมาถึงเราทั้งดีและไม่ดี
ตอนนี้ใช้วิธีสวดมนต์สม่ำเสมอเพราะเป็นจริตที่ชอบ และจะทบทวนสิ่งที่ทราบเสมอว่าไม่ใช่จิตเราโน้มน้าวไปเอง จึงอยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ

 

อาจารย์นพตอบมีเหตุผลครับสาธุ

 

ยังไม่สดวก เด่ว
ว่างจะมาตอบให้คับ

 

เข้าถึงคือ ระลึก นึกขึ้นได้ ผุดขึ้นได้
ตัวจิต ส่งกระแสไปเชื่อมกับ กระแสท่าน
หรือดวงจิตท่านได้ ภายในเวลาเสี้ยววินาที แต่ไม่ใช่ยึดถืออยู่ตลอดเวลานะครับ วิธีที่ดีที่สุด ในการเอื้อให้ตัวจิต
เข้าถึงได้ดีที่สุดคือการปล่อยวางครับ
ให้เครารพนับถือแต่ไม่ยึดถือนะครับ
เวลาที่เราระลึกถึง ตัวจิตถึงจะเป็นอัตโนมัติได้ของมันเองครับ

ถ้าจิตเรามีต้นทุนทางด้านสัมผัสภายในแต่เดิมมาเยอะด้วยนะครับ
ปกติจิตแบบนี้ รักษาคนได้ด้วยนะครับ
แต่ควรสังเกตุนะครับว่า สัมผัสที่มีในจิตนั้นมันจะมี
ในเรื่องของการเข้าถึงพลังงานภายนอกเป็นตัวหนุน คือไปโน้นนี่นั้น
จะรู้สึกสัมผัสอะไรรอบๆได้ดีนั่นเองครับ หรือแม้แต่มีกระแสอะไรเข้ามา
มันก็สัมผัสได้ดีครับ
แต่ว่ากระแสที่เชื่อมกับครูยังไม่
นิ่งครับ แต่ดีอย่างว่า ไม่ยึดมั่นถือ
มันจนกลายเป็นตัวเอง......

การสร้างความดีต่างๆ ทำไปเลยครับ
ทำแบบเบื้องหลังไม่หวังผลจะยิ่งดีครับ พัฒนาการของเราจะขึ้นอยู่กับว่าเราใช้สิ่งที่เรารับรู้สัมผัสได้ไปในทาง
ที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้อื่นๆและทางธรรมโดยไม่หวังผลกับตัวเองหรือไม่

และในเวลาปกติต้องปล่อยวางสัมผัส
การรับรู้ทุกๆเรื่อง พอสัมผัสแล้วรู้แล้วก็ให้แล้วไปนะครับ

เกือบเก้าสิบเปอร์เซนต์ที่เจอ
จะมีท่านหนึ่ง ที่ท่านเป็นผู้รักษา
พระพุทธฯองค์ปัจจุบัน
ที่ คนชอบเรียก ว่า พ่อปู่ ชีฯฯ
เป็นเบื้องหลังทุกดวงจิตครับ
สงสัยอะไรเพิ่มเติม
ถามในอีกกระทู้ ที่มีชื่อ นี้นะครับ

 

รู้สักแต่ว่ารู้
เห็นสักแต่ว่าเห็น
ไม่ต้องปรุงแต่ง
ทำให้เป็นธรรมชาติ
และธรรมดา
นี่คือวิธีฝึกต่อยอด
เคยสังเกตมั้ยว่าเสียงนกเสียงการ้อง
แต่พวกเรากำลังเล่นเว็บนี้
จึงไม่ได้ใส่ใจเสียงนกกา
ต้องทำให้เกิดความธรรมดาอย่างเป็นธรรมชาติ
นี่แหละธรรมมะ

 

อัสดงฝึกกุฑาลิณีหรืองูไฟ
จนธาตุไฟแตก
ต้องอาบน้ำแข็ง
จึงได้คิด
ว่าเราต้องการวิชาสามทางลัด
เน้นอภินิหาร
จึงอยากมาเตือน
ว่าอย่าหลงผิดอย่างอัสดง
หากอยากลองวิชา
อัสดงจะโยนหลุมดำให้ฝึกแบบลัด
ซึ่งคุณจะธาตุไฟแตกเสียสติหากคุมไฟไม่ได้
แต่หากคุมได้ก็จะกลายเป็นตงฟังปึกป้าย
นี่คือตัวอย่างภาพแบลคโฮลที่หม่าซันโยนให้อัสดง จนเกือบตาย

 

เหมือนเห็นใน ตาในไงเราก็เป็นแต่แค่บางครั้งบางคราว ทั้งฝันได้คาถามาฝึกใช้ในชีวิตจริง ฝันเห็นนิมิตลางบอกเหตุ ของบุคคลคนนึง เราเคยฝันถึงหมอดูผญท่านนึงที่ดังอยู่ตอนนี้ด้วยนะ และก็เคยทักบอกหมอดูท่านนั้นไปด้วย แกเลยไปบวชละมั้ง แต่ถ้าเราทักใครเราจะป่วยหนักทันที เลยเลี่ยงไม่ทักใครละ แต่ล่าสุดที่เราเป็นๆหนักกว่าเรื่องเอื่นเยอะเลย เวลาที่ใครก็ไม่รู้จักและรู้จักเข้าทักเรา แล้วอยู่ๆพูดมาว่าถ้าวันที่นั้นๆเราจะได้นั้นได้นี้ขึ้นมาอ่ะ แล้วตัวแกเองจะตาายในวันนั้นทันที อยู่ๆก็มาพูดแบบนี้ให้เราฟัง เราตกใจนะ แล้วพอเวลาผ่านไปเมื่อเราได้นั้นได้นี้แบบที่แกทัก แกตายจริงๆ เราตกใจมาก เพราะในวันที่แกเข้ามาพูดกับเราภรรยาและลูกๆแกก็อยู่ได้ยินกันหมด คือเขาโทรมาบอก คิดในใจนี่เราตัวต้นเหตุหรือป่าวนะ แต่ทางครอบครัวเขาบอกว่าคงเป็นเรื่องบังเอิญละมั้ง ต่อมายังไม่จบนะ เวลาเราไปเยี่ยมใครที่ป่วยๆอ่ะ พอเห็นหน้าคนนั้น เราจะรู้สึกได้เลยว่าคนนๆนี้จะอยู่ได้ไม่นานแล้วนะ แบบเราพูดบอกเพื่อน ไม่กี่วันเพื่อนวิ่งตาตื่นมาบอกคนที่แกพูดกูอ่ะ คือแกตายแล้วนะ คือเอาจริงๆไปเยี่ยมใครคือเห็นเกือบทุกคนเลย แล้วข่าวมันก็ลือจากเพื่อนตัวดีนั้นละ ว่าเวลาเราไปเยี่ยมใครคนนั้นก็จะตายทันที ทำให้แรกๆเราคิดหนัก เพราะตอนเราไปเยี่ยมคนป่วยคนนั้นๆ เขาพูดอวยพรเรา ถ้าวันนั้นถึงวันที่แกตาย เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้นให้เราสู้ๆให้มากๆ ทุกอย่างจะผ่านไปได้เสมอเวลาเจอปัญหาอะไรก็ตามม หรือบางคนเรียกให้เราไปฟังในสิ่งที่เขาอยากระบายออกมา เราก็ฟังแล้วก็ได้แค่ปลอบให้กำลังใจเท่านั้น หลังจากนั้นคือเสียกันเปนแถว พ่อกับแม่พอรู้ข่าวลืมนั้น ก็ให้กำลังใจเราตลอดว่ามันคงเป็นเรื่องบังเอิญ มันถึงเวลาสำหรับเขาแล้ว ต่อมาล่าสุดเดือนที่ผ่านมาเราไปทวงค่าติดที่บ้านเพื่อนปากดีนั้นแหละ เราไม่รู้ว่ายายของเพื่อนป่วยอยู่ ไปเจอแกนอนอยู่ในบ้านคนเดียว พอแกเห็นเราคือแกตกใจ พอแกเห็นว่าเราเงียบ แกก็ชวนคุยแล้วพูดขึ้นมาว่า มึงใช่ไหมเวลาไปเยี่ยมใครเวลาใครอวยพรหรือพูดอะไรกับมึงไว้ก่อนนั้นคือคนนั้นก็จะตายเกือบทุกคนพอมึงได้ในสิ่งที่เขาอวยพรให้มึง แล้วเราก็เงียบไม่กล้าพูดอะไรไป แล้วแกบอกว่าแกไม่เชื่อหรอก แกว่าแกอยากตายๆมานานแล้วมีลูกๆก็ปล่อยให้อยู่ในบ้านคนเดียว ให้แกนอนติดเตียงอยู่ในบ้านทำอะไรไม่ได้ เหมือนคนซ้อมตาย สักพักเพื่อนตัวดีมา แล้วลูกๆแกกลับมาจากที่ทำงานพอดี แล้วยายแกพูดขึ้นมาว่า ถ้าพูดกับมึงแล้วตายจริงเหมือนคนอื่นที่อวยพรให้มึงอ่ะ มึงจำปากกูไว้นะ พอวันไหนกูตายวันนั้นชีวิตมึงจะดีขึ้นๆจากที่ลำบากก็ดีขึ้นทันตาเห็น ใครที่เคยว่ามึงดูถูกมึงมันจะชิบหายหมดทันตาเห็น แล้ววันนั้นมึงจะรวยทันที อย่าลืมพอกูตายแล้วมึงได้คำพูดของกูไปจริงอย่าลืมทำบุญไปให้กูด้วยเว้ย แล้วช่วยต่อเติมบ้านนี้ให้เสร็จๆเสีย พอยายแกพูดแบบนั้น เราได้แค่นิ่ง แล้วลูกๆแกกลัวกันแล้วบ่นด่าแกกันยกใหญ่ว่าแกแช่งตัวเอง ถ้าแช่งตัวเองแบบนั้นก็ตายๆไปเถอะ เราได้ยินแบบนั้นก็สงสารยายแกนะ แต่ทำอะไรไปไม่ได้ๆแค่ให้กำลังใจแกเท่านั้น จากนั้นไม่นานแกตายจริงๆ ตกใจมากๆเพื่อนตัวดีคนโทรมาบอกให้ฟัง แล้วชีวิตก็ดีขึ้นจริงๆแบบที่ยายพูดทั้งหมด เราทำตามที่ยายพ๊ดขอไว้ก่อนตายเรียบร้อย แล้วลูกแกก็มาขอโทษเรารวมทั้งเพื่อนที่เคยว่าให้ร้ายเรา คิดว่าเราเป็นตัวประหลาดเวลาไปเยี่ยมใครคนนั้นจะตาย แต่ตามจริงเขาโดนกำหนดไว้แล้ว เราจะหลีกหนียังไงก็ไม่ได้หรอก เพราะยังมีอีกหลายคนที่เราไปเยี่ยมเขาไม่ตาย แถมอาการเขาดีขึ้นเยอะด้วย
เรารู้มาจากคนนึงๆที่มีอายุ 90 ปี มาว่า คนที่ได้คำอวยพรจากคนก่อนจะตายอ่ะคือเรื่องดีมากๆ แกก็อยากเป็นแบบเราเหมือนกัน แต่แกไม่ใช่คนที่ถูกเลือก

 

มียาแก้ไออยู่ตัวนึง เป็นสารสกัดจากฝิ่นที่สกัดเอาฤทธิ์เสพติดทางกายออกไป(ทำให้ไม่ลงแดง แต่จะติดทางใจแบบบุหรี่ คือติดใจในผลที่ได้) ขายอยู่เม็ดละบาท ขวดห้าร้อยเม็ดราคา450บาท
สมัยปี 55-57 ผมกินแรกๆก็ 20เม็ด หลังๆฟาดไปร้อยเม็ด จนมันส่งผลบางอย่าง ที่ทำให้สมองซีกขวาแปรปรวน มันทำให้ผมวนลูปวันเดิมอยู่หลายครั้ง เหมือนถ้าเมื่อวาน วันที่ 12 ผมเข้านอน ตื่นวันต่อไป มันต้องเป็นวันที่ 13 แต่นี่ตื่นมา เปิดมือถือ มันบอกว่าวันที่ 12(วนลูปตื่นมาวันเดิม) และมีข้อความ sms เข้ามา "ขออภัยระบบล่ม" พร้อมคืนเงินที่ใช้ไปเมื่อวานกลับมาหมด เมื่อออกไปข้างนอก พบว่า เหตุการณ์ซ้ำเดิมหมด และหลายครั้งที่แดรกยานี่ไปจนเต็ม จะรู้สึกเหมือนมีคลื่นไฟฟ้าเปล่งออกมาจากหัว ถ้านั่งตรงทีวี จอทีวีจะช็อตแบบมีคลื่นแทรกรุนแรง จนหน้าจอทีวีเป็นเหมือนไม่มีสัญญาณ มีเสียงซ่าๆแส่ๆออกจากลำโพงทีวีเหมือนช็อต มีหลายครั้งที่ลองเพ่งสมาธิในลักษณะเพ่งจุดใดจุดหนึ่งที่ตรงหน้า เพ่งพื้นที่ว่างๆ ข้างหน้าสายตาสักไม่เกินเมตร มันปรากฏจุดหมุนที่เหมือนดูดพื้นที่รอบๆไหลเป็นภาพเบลอๆเหมือนสายน้ำ ไหลเข้าไปที่จุดที่เพ่ง ถ้าเพ่งแรงแบบฮึดเพ่งสมาธิใส่จุดดังกล่าวหนักๆ มันจะเหมือนเราจุดชนวนให้เกิดหลุมดำเล็กๆตรงนั้น และเมื่อปล่อยการเพ่ง จุดนั้นจะกลายเป็นลมบ้าหมูเล็กๆที่เกิดการพัดของลมแรงๆ แม้ขณะทดลองจะทำในพื้นที่ปิดไม่มีลมพัด ### จากการทดลอง พบว่าสารเคมีที่ส่งผลเร่งการทำงานของสมองซีกขวา + ฝึกสมาธิ + ฝึกเพ่ง +โดยใช้ความคิดประสมจินตนาการว่ามีนั้นตรงนี้มีนี้ตรงนั้น ขณะสมองซีกขวาถูกเร่งปฏิกิริยาให้ทำงานมากขึ้น มันทำได้จริง มันเหมือนที่เรียกว่าพลังจิตแบบในภาพยนตร์
สารเคมีเหล่านี้ มีมากในยาบางชนิด เช่นยาที่ได้มาจากฝิ่น รวมถึง THC ที่พบมากในกัญชาฝรั่ง แต่ต้องควบคู่การฝึกสมาธิ ฝึกการใช้งาน ยิ่งได้ครูสอนที่ชำนาญจะดีมาก สามารถพัฒนาได้เร็ว แต่!!!!จนกระทั่งตอนนี้ ผมยังหาผู้ชำนาญการมาเป็นครูสอนไม่ได้ ทำได้เพียงลองผิดลองถูกเอง จดจำผลเองบันทึกเอง ..และอีกส่วน ไอเท็มเสริม สารกระตุ้นประสาท ซึ่งมันช่วยเพิ่มสมาธิได้ดีมาก ไม่ว่าจะ ชา กาแฟ กระท่อม(ต้องใช้เกิน8ใบจึงจะกระตุ้น ถ้าใช้น้อยใบจะกดประสาททำให้ง่วง) นิโคติน กาเฟอีน แอมเฟตามีน( ถ้าเป็นยาบ้าทั่วไป คุณจะได้รับสารแปลกปลอมที่หลอนประสาท เนื่องจากการผลิตที่ผู้ผลิตใช้สูตรของตัวเอง แอมเฟตามีนเกรด GMP(สะอาดปลอดภัย) มาตรฐานทางการแพทย์ ในเมืองไทยหาได้จาก เด๊กซ์โตแอมเฟตามีน ยาบรรเทาสมาธิสั้น ที่คลินิกจิตแพทย์ มักจะจ่ายให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคสมาธิสั้น) ไอเท็มที่ว่ามา จะเพิ่มระดับสมาธิได้เป็นเท่าตัว ซึ่งพบว่า นักวิปัสนากรรมฐานบางท่าน พระสงฆ์บางรูป ก็แอบใช้ไอเท็มนี้ในการทำสมาธิด้วยเช่นกัน
....