หายตัวนับเดือน สคบ.ตงฉินขัดอิทธิพลบ้านจัดสรร

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย paang, 4 พฤศจิกายน 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    ญาติหวั่นโดนอุ้ม"หนุ่มนิติกร"นักสู้เพิ่งช่วยผู้บริโภคได้เงินคืนซื้อบ้านรวมหลายสิบล้าน

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    หายลึกลับ - นายชลิต ศรีทองดี นิติกรฝ่ายคดีของสคบ. หายตัวลึกลับตั้งแต่ 26 ก.ย. ยังไม่รู้ชะตากรรม ญาติเกรงว่าจะได้รับอันตราย เพราะเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน อาจไปขัดแย้งกับนักธุรกิจที่โดนชาวบ้านร้องเรียน ตามข่าว

    </TD></TR></TBODY></TABLE>พี่ชายร้อง"หนุ่มนิติกร"สคบ.หายตัวไปลึกลับตั้งแต่ก.ย. แจ้งความตร.แล้วยังไม่คืบหน้า วันที่หายตัวจัดกระเป๋าเอกสารและเสื้อผ้าเตรียมไปราชการต่างจังหวัด จากนั้นไม่มีใครพบเห็นและติดต่อได้เลย ตรวจสอบพบมีการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มหลายครั้ง เผยเป็นคนทำงานตรงไปตรงมา ทำคดีช่วยเหลือประชาชนมามากมายนับไม่ถ้วน ล่าสุด ช่วยเหลือผู้บริโภคหลายสิบรายจนได้เงินคืนจากหมู่บ้านจัดสรรรายละ 2 ล้าน

    เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายกิตติชัย ศรีทองดี อายุ 45 ปี ทำงานอยู่องค์การเภสัชกรรม กระทรวงสาธารณสุข อยู่บ้านเลขที่ 49/1467 หมู่ 3 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เข้าร้องเรียน"ข่าวสด"ว่า นายชลิต ศรีทองดี อายุ 43 ปี น้องชาย ข้าราชการตำแหน่งนิติกร ฝ่ายคดี กองนิติกร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หายตัวออกจากบ้านไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร โดยญาติพี่น้องเกรงว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากหน้าที่การงานของน้องชายที่คอยช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภคที่ถูกเอารัดเอาเปรียบอาจทำให้ผู้อื่นเสียผลประโยชน์ เพราะปกติแล้วน้องชายมีนิสัยตรงไปตรงมา จริงจัง และรับผิดชอบต่องานสูง

    นายกิตติชัย กล่าวอีกว่า วันที่น้องชายหายตัวไปคือ เช้าของวันจันทร์ที่ 26 ก.ย. แต่งกายสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนสั้น กางเกงขายาวสแล็คส์สีดำ รองเท้าหนังสีดำ หิ้วกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ใบหนึ่งใส่เสื้อผ้า อีกใบเป็นเอกสารเกี่ยวกับงาน โดยบอกกับตนว่าจะเดินทางไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัดประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปจังหวัดไหนและทำงานเกี่ยวกับอะไร ปัจจุบันน้องชายยังเป็นโสด แต่มีแฟนแล้วทำงานเป็นนายหน้าขายบ้าน ลักษณะนิสัยเป็นคนเงียบขรึม ขณะหายตัวไปมีทรัพย์สินติดตัว ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท โทรศัพท์มือถือโซนี่ รุ่น 7701 หมายเลข 0-6505-4253 บัตรเอทีเอ็ม

    นายกิตติชัย กล่าวต่อว่า ปกติน้องชายไปไหนมาไหนโดยรถประจำทาง หลังจากหายตัวไปตนเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาตรวจสอบกับธนาคารพบว่ามีการนำบัตรเอทีเอ็มไปกดถอนเงินเมื่อวันที่ 27 ก.ย.จำนวน 3,000 บาท จากเครื่องของธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยทำเนียบรัฐบาล ห่างกันอีก 10 นาที กดเงินอีก 9,000 บาท จากเครื่องของธนาคารกรุงไทย สาขาแฮปปี้แลนด์ ถ.นวมินทร์ และกดเงินอีกครั้งที่เครื่องเดิม 100 บาทอย่างน่าสงสัย แต่เมื่อตรวจสอบบัญชีธนาคารอย่างละเอียดพบว่ามีการกดเงินไปกว่า 30,000 บาท

    นายกิตติชัย กล่าวอีกว่า น้องชายได้รับมอบหมายให้ทำคดีเกี่ยวกับการฟ้องร้องจากผู้บริโภคหลายคดี ล่าสุด ทราบว่าฟ้องร้องช่วยเหลือผู้บริโภคจนได้รับเงินคืนจากเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง รายละ 2 ล้านบาท จำนวนหลายสิบราย หลังจากหายตัวไปจนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครพบตัวเลย แม้จะพยายามโทรศัพท์ติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ตนไปให้ถ้อยคำไว้ที่ สคบ. ภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอความช่วยเหลือติดตามหาน้องชายด้วย

    นายกิตติชัย กล่าวด้วยว่า นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการ สคบ.แจ้งกับตนว่า น้องชายมีหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภค ตลอดจนบังคับคดีติดตามยึด อายัดทรัพย์สินของผู้ประกอบธุรกิจ (จำเลย) การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวถือว่าทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม เลขาธิการ สคบ.จึงประสานไปยัง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม และประสาน พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผบก.น.1 เพื่อช่วยคลี่คลายกรณีการหายตัวไปของน้องชายตนอย่างเร่งด่วน

    ทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติกร สคบ. เพื่อนร่วมงานของนายชลิต เปิดเผยว่า ปกติงานที่นิติกรจะมีงานบังคับคดีหลายคดีไม่ได้เจาะจงว่าเป็นคดีไหน แต่คดีที่สืบทราบปรากฏทรัพย์ก็ต้องไปดำเนินการ วันที่นายชลิตเดินทางไปนั้นยังไม่ได้แจ้งว่าจะไปที่ไหน โดยหายไปในช่วงเช้าของวันจันทร์ระหว่างเดินทางมาที่ทำงาน โดยทราบจากญาติว่าเตรียมกระเป๋าเอกสารและเสื้อผ้าเพื่อไปทำงานต่างจังหวัด แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาที่ทำงานก่อนหรือไม่ ปกตินายชลิตเป็นคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเพื่อนร่วมงาน และทำงานจริงจังเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ล่าสุดมีหลายคดีที่นายชลิตทำอยู่และหลายคดีที่เสร็จไปแล้ว ตอนนี้ผู้บริหาร สคบ.กำลังประชุมหารือถึงการหายตัวไปของนายชลิตเพื่อหาข้อเท็จจริงและหาแนวทางติดตามช่วยเหลือ

    ขณะที่พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น ผกก.สส.น.1 กล่าวว่า ได้รับประสานจากสภ.อ.ปากเกร็ดให้ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากตู้กดเงินอัตโนมัติภายในทำเนียบรัฐบาล แต่ตรวจสอบแล้วพบว่าตู้เอทีเอ็มดังกล่าวไม่มีกล้องติดตั้งไว้ จึงแจ้งข้อมูลกลับไปยัง สภ.อ.ปากเกร็ดแล้ว สำหรับการติดตามเบาะแสของนายชลิต ในชั้นนี้ยังอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.อ.ปากเกร็ด แต่กก.สส.น.1 พร้อมประสานการทำงานอย่างเต็มที่


    ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod
     

แชร์หน้านี้

Loading...