หาดใหญ่เขตวิกฤตอุทกภัย สั่งเจาะทางรถไฟระบายน้ำ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 ธันวาคม 2548 00:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> น้ำทะลักท่วมเมืองหาดใหญ่โกลาหล พร้อมประกาศเป็นพื้นที่ "วิกฤตอุทกภัย" ประชาชนอพยพข้าวของ-หนีตายกันอลหม่าน ย่านธุรกิจการค้าสำคัญจมบาลดาล รถไฟสายใต้งดบริการชั่วคราว ขณะที่ประชาชนในอำเภอรอบนอกของสงขลาถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เริ่มขาดแคลนอาหาร-น้ำ ตาย 5 สูญหายอีก 3 ถ้าฝนไม่หยุดตกวิกฤตหนักแน่ "นายกฯ" สั่งขุดเจาะทางรถไฟให้น้ำไหลผ่านระบายน้ำท่วม ฝ่ายค้านรุมจวกแก้ปัญหาล้มเหลว จี้เจียดงบกลางลงไปช่วยเหลือด่วน

สถานการณ์น้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 04.00 น.วานนี้ (18 ธ.ค.) ฝนได้ตกหนักอีกระลอกในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และอำเภอรอบนอกของ จ.สงขลา ส่งผลให้น้ำจากคลองอู่ตะเภา ฝั่งขวาทะลักเข้าท่วมในเขตเศรษฐกิจของเทศบาลนครหาดใหญ่ ตั้งแต่ช่วงเวลา 04.00-06.00 น. ทำให้ถนนนิพัทธ์อุทิศ 1-2-3 บางส่วน ถ.เพชรเกษม, ถ.ศุภสารรังสรรค์, ถ.สามสิบเมตร, ถ.รัถการ และ ถ.ศรีภูวนารถ มีน้ำท่วมสูง 30-80 เซนติเมตร ประชาชนต้องเร่งเคลื่อนย้ายรถไปอยู่ในที่สูง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

***ย่านธุรกิจสำคัญหาดใหญ่เดี้ยง

ขณะที่ห้างสรรพสินค้า และผู้ประกอบร้านแผงขายสินค้ากว่า 3,000 แห่งในย่านดังกล่าว ต้องประกาศปิดกิจการชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะท่วมใหญ่เช่นเดียวกับปลายปี 2543 ขณะที่โรงแรมทุกแห่งที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองนครหาดใหญ่ ต่างอพยพแขกที่มาพักออกจากโรงแรมในทันทีเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

ขณะเดียวกันเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้เร่งระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่เศรษฐกิจเพื่อป้องกันมิให้น้ำท่วมสูงขึ้นอีก แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากพื้นที่รอบนอก คือ หาดใหญ่ใน ชุมชนวัดโคกสมานคุณ ชุมชนย่านสาครมงคล ชุมชนบางหัก ชุมชนหลังที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ หมู่บ้านจันทร์วิโรจน์ ถูกน้ำท่วมทั้งหมดระดับน้ำสูง 1-1.5 เมตร ในขณะที่น้ำจาก อ.สะเดา อ.เพทา อ.จะนะ และ อ.นาทวี ต่างทะลักเข้ามายัง อ.หาดใหญ่เพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะ อ.สะเดา ซึ่งมีน้ำท่วมหนัก ใน ต.ปริก ต.ทุ่งหมอ. ต.ท่าโพธิ์ ต.สำนักแต้ว และเขตเทศบาลสะเดา และน้ำจาก ต.พะตง ต.ทุ่งลาน ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ และน้ำจาก อ.คลองหอยโข่ง ต่างทะลักลงคลองอู่ตะเภา โดยผ่ากลางเทศบาลนครหาดใหญ่ ทำให้ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภา ยังไม่ลดลง

***หลายหมู่บ้านถูกตัดขาด-ไร้อาหาร

สำหรับพื้นที่รอบนอกของ จ.สงขลา ที่มีน้ำท่วมหนักมากที่สุด คือ อ.กระแสสินธุ์ โดยเมื่อเวลา 17.00 น.โรงพยาบาลกระแสสินธุ์ ถูกน้ำไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว จนต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ให้ทำการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเป็นการด่วน พร้อมทั้งแจ้งขอยารักษาโรค และเวชภัณฑ์ จากสำนักงานสาธารณสุข เป็นการด่วน เนื่องจากมีผู้ป่วยจากการถูกน้ำท่วมเป็นจำนวนมาก ถนนทุกสายที่ใช้ติดต่อกับอำเภอต่างถูกตัดขาด

ส่วนพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย น้ำในเขตเทศบาลสูง 1-5 เมตรต้องอพยพประชาชนไปอยู่ที่สูง ขณะที่ตำบลรอบนอกมีประชาชนประมาณ 500 หลังคาเรือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ เนื่องจากถนน สะพานขาด และระดับน้ำสูงถึง 1.5 เมตรถนนสายหลักระหว่าง ลำไพล-สะบ้าย้อย-ยะหา ถูกตัดขาด ระดับน้ำสูง 1.3 เมตร รถทุกชนิดผ่านไป-มาไม่ได้ และมีบ้านเรือนประชาชนในเขต ต.ธารคีรี ต.เขาแดง ถูกดินถล่มและน้ำท่วมได้รับความเสียหายบ้านพัง 50 หลังคาเรือน มีผู้ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตแล้ว 5 ราย และหายสาบสูญ อยู่ระหว่างการค้นหา 3 ราย ส่วนพื้นที่ อ.เทพา ถนนเชื่อมระหว่าง เทพา-ลำไพล ถูกตัดขาดมีประชาชนจำนวนมากติดอยู่ในบ้าน และขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ส่วน อ.บางกล่ำน้ำท่วมสูง 1-1.5 เมตรทั้งอำเภอประชาชนได้รับความเดือดร้อนขาดความช่วยเหลือเพราะขาดแคลนอาหาร และน้ำดื่ม เช่นเดียวกับ อ.ควนเนียง อ.รัตภูมิ ที่อยู่ในสภาพเดียวกัน

***ประกาศหาดใหญ่เป็นเขตวิกฤต

เวลา 10.30 น. นายสมพร ใช้บางยาง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ออกแถลงการณ์ "ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ทั้งหมด" โดยให้เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยและให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ต่ำไปยังพื้นที่สูง รวมทั้งสัตว์เลี้ยงและข้าวของเป็นการด่วน

ต่อจากนั้นเทศบาลได้ทำรถติดเครื่องขยายเสียงออกประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ทราบ ทำให้เกิดความโกลาหลทั้งเมือง มีการเก็บข้าวของ และนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ยังที่ปลอดภัย เช่น สถานีขนส่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ บนสะพานลอยทุกแห่ง เช่น สะพานสัจจกุล สะพานลอยหาดใหญ่ ถนนหน้าศูนย์การค้าบิ๊กซี สะพานลอยคลองหวะ เต็มไปด้วยรถยนต์

ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายกเทศบาลนครหาดใหญ่ และหน่วยบรรเทาสาธารณภัย ทั้งของรัฐ และเอกชน ได้นำอาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูปและน้ำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนตามหมู่บ้านต่าง ๆ กว่า 20 หมู่บ้าน ในเขตเทศบาลที่ติดอยู่ในบ้านและเดือดร้อนจากการขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งหลายหมู่บ้านต้องการไฟฉาย และเทียนไข เนื่องจากสำนักงานไฟฟ้า อ.หาดใหญ่ ได้ทำการตัดไฟแล้วหลายหมู่บ้าน เนื่องจากระดับน้ำสูงจนอยู่ในขั้นอันตรายจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้หากฝนยังไม่หยุดตกในอีก 1-2 วันนี้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จะต้องพบกับความวิกฤตอย่างหนักเพิ่มขึ้นแน่นอน

***รถไฟสายใต้หยุดเดินรถชั่วคราว

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วม อ.หาดใหญ่ครั้งนี้ ทางการรถไฟต้องจำหน่ายตั๋วรถไฟให้กับผู้โดยสารที่ต้องการจะเดินทางจากรุงเทพฯมายังภาคใต้ได้แค่ถึงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เท่านั้น ส่วน 3 จังหวัดภาคใต้ขบวนรถไฟไม่สามารถแล่นผ่านได้ จึงประกาศหยุดการเดินรถไฟชั่วคราว เช่น สายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ และสุไหงโกลก -นราธิวาส เนื่องจากทางรถไฟบริเวณสถานีรถไฟเทพา และสถานีรถไฟตาแปด อ.เทพา ถูกน้ำท่วม 30 เซนติเมตร ในระยะ 1 กิโลเมตร อีกทั้งยังต้องเฝ้าระวังบริเวณสถานีรถไฟจะนะ และสถานีรถไฟบ้านดินลาน อ.บางกล่ำ ที่ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

นายนพพล ประกิตวัฒนากูล ประธานชมรมผู้ค้าปลีกหาดใหญ่ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ว่า น้ำได้ไหลเข้าท่วมขังพื้นที่ถนนนิพัทธ์อุทิศ 1-3 ตั้งแต่เวลา 04.00 น.ทำให้บริเวณตลาดสันติสุข กิมหยง แผงทอง ยงดี รวมถึงตลาดสดพลาซ่าที่มีผู้ประกอบร้านแผงขายสินค้ากว่า 3,000 แห่งต้องทยอยขนของหนีน้ำกันตั้งแต่เช้ามืด ส่วนความเสียหายเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินได้ แต่คาดว่าน่าจะน้อยกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 43 เนื่องจากประชาชนได้รับการแจ้งเตือนและเตรียมความพร้อมล่วงหน้าหลายวัน

***ย่านธุรกิจนครยะลาเสียหายหนัก

ส่วนในเขตเทศบาลนครยะลา น้ำได้ไหลเข้าท่วมบริเวณถนนพิพิธภักดี ซึ่งเป็นย่านธุรกิจการค้า และชุมชนตลาดเก่าตั้งแต่คืนที่ผ่านมา โดยมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลา 02.00 น.วานนี้ น้ำได้ไหลเข้าท่วมบริเวณถนนพิพิธภักดี ถนนรถไฟ ถนนศรีบำรุง ถนนเทศบาล 3 นอกจากนี้ระดับน้ำยังเพิ่มตัวสูงขึ้นในเขตชุมชนตลาดเก่า ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก โดยที่หน้าโรงแรมยะลารามาน้ำสูงประมาณ 1 เมตร รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะที่นายบุณสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ประกาศขอรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยผู้ประสบภัยในจังหวัด โดยเฉพาะน้ำดื่มและข้าวสาร อาหารแห้ง

เช่นเดียวกับ จ.นราธิวาส น้ำป่าได้ทะลักเข้าท่วม 13 อำเภอ ทำให้น้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกล้นตลิ่ง บ้านเรือนราษฎรกว่า 4,000 ครอบครัวจมอยู่ใต้น้ำ ถนนหลายสายถูกน้ำท่วม เส้นทางเชื่อมระหว่างอำเภอถูกตัดขาด มีน้ำท่วมสูง 1.5 เมตร รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้

ส่วนที่บ้านรือซอ เขตติดต่อ อ.แว้ง และสุคิริน ถูกตัดกระแสไฟฟ้า โดยมีรายงานผู้สูญหาย 1 คน นอกจากนี้ น้ำป่าที่ไหลอย่างเชี่ยวกรากยังได้พัดพาดินภูเขาที่ตั้งอยู่ในบ้านสายเอก ม.6 ต.มาโมง อ.สุคิริน ลงมาทับอาคารเรียนของโรงเรียนตาดีกายามีอุนอิสลาม จมอยู่ใต้ดินโคลนได้รับความเสียหายทั้งหลัง พร้อมอุปกรณ์การเรียนการสอน โชคดีที่เป็นวันหยุด ทำให้นักเรียนและครูไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต

***นายกฯสั่งเจ้าทางรถไฟแก้น้ำท่วม

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการสัมมนาพรรคไทยรักไทยถึงสถานการณ์น้ำท่วมหนักในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาว่า ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ไปแล้วโดยให้เจาะเส้นทางรถไฟ เพราะหากเจาะทันก็จะมีทางน้ำไหล แต่รถไฟอาจจะต้องหยุดเดินรถก่อนเข้า อ.หาดใหญ่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รมช.คมนาคม กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหานี้ คือ ให้ขุดเส้นทางรถไฟที่ขวางทางน้ำ 3-4 จุด เพื่อเร่งระบายน้ำออกไปจากเขตเมืองหาดใหญ่ เพราะตอนนี้รถไฟไม่สามารถเดินรถได้อยู่แล้ว สำหรับน้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ครั้งนี้ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก ซึ่งตนได้ประสานและสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไปแล้วว่าให้ดำเนินการทันทีและคิดว่าน่าจะลงมือได้ในวันนี้

***ฝ่ายค้านจี้นายกฯเร่งช่วยคนใต้

ขณะที่นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงข่าวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลงไปบัญชาการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ทางภาคใต้ด้วยตัวเอง เนื่องจากขณะนี้มีช่องว่างในการใช้อำนาจให้ความช่วยเหลืออยู่มาก เพราะมีการแบ่งอำนาจไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯซีอีโอ หรือการใช้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้าไปดูแลแก้ปัญหา ประกอบกับการสั่งการโดย รมว.มหาดไทย มีอุปสรรคในการสั่งงานข้ามกระทรวง ทำให้ความช่วยเหลือเข้าไปไม่ถึงและไม่ทันกับเหตุการณ์
เช่นเดียวกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้ให้นายกรัฐมนตรีช่วยอนุมัติงบกลาง ซึ่งมีอยู่จำนวนมากเป็นกรณีเร่งด่วนเพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้สั่งให้ ส.ส.ในพื้นที่การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่แล้วโดยสัปดาห์หน้าหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค จะนำคณะกรรมการบริหารพรรคแบ่งสายนำสิ่งของลงไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจคนในพื้นที่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>