สื่อต่างประเทศ เข้าชม"พระเมรุ"

สื่อต่างประเทศ เข้าชม"พระเมรุ"

ปิดถนน16เส้นทาง วันซ้อมใหญ่ขบวน



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ชมพระเมรุ- กรมประชาสัมพันธ์นำสื่อมวลชนจากต่างประเทศกว่า 30 คน เข้านำชมพระเมรุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ส่วนรูปล่าง สำนักพระราชวังแถลงเปิดตัวเครื่องแต่งกายตามโบราณราชประเพณี สำหรับใช้ในริ้วขบวนพระอิสริยยศ เมื่อวันที่ 29 ต.ค.

</TD></TR></TBODY></TABLE>สื่อมวลชนต่างประเทศ จาก 35 สำนัก เข้าชมราชรถ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ "พระพี่นาง" รวมทั้งเข้าชมพระเมรุ ต่างชื่นชมในความสวยงาม และโบราณราชประเพณีอันยิ่งใหญ่ เตรียมนำเผยแพร่ไปทั่วโลก ด้านกรมประชาสัมพันธ์เผย มีหลายสำนักข่าวทั่วโลก แจ้งความจำนงทำข่าวพระราชพิธีสำคัญ ขณะที่ทหารม้ารักษาพระองค์ จัดซ้อมขบวนทหารม้ากองเกียรติยศ อัญเชิญพระสรีรางคาร บรรจุ ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธฯ ด้านสำนักพระราชวัง จัดทำเสร็จแล้ว เครื่องแต่งกายโบราณ ในริ้วขบวนพระอิสริยยศ มีทั้งสิ้น 16 แบบ 18 ชุด บช.น. ประกาศปิด 16 เส้นทางในเกาะรัตนโกสินทร์ ในวันซ้อมใหญ่ริ้วขบวน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ต.ค. นางลดาวัลย์ บัวเอี่ยม ผอ.สำนักการประชาสัมพันธ์ต่างประเทศ กรม ประชาสัมพันธ์ นำคณะสื่อมวลชนจากต่างประเทศ 35 แห่ง จำนวนกว่า 100 คน เข้าเยี่ยมชมโรงราชรถ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมีนายสมชาย ณ นครพนม ผู้เชี่ยวชาญ 9 ชช.กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะดูแลการบูรณะราชรถ พระยานมาศ และเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร นำชมราชรถ ราชยาน ที่ใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบด้วย พระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ ราชรถน้อย 3 องค์ พระยาน มาศสามลำคาน และพระที่นั่งราเชนทรยาน รวมทั้งพระโกศจันทน์ทรงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนคริน ทราบรมราชชนนี ที่ใช้เป็นต้นแบบจัดสร้างพระโกศจันทน์ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิ วัฒนาฯ

ต่อมาเวลา 10.00 น. คณะสื่อมวลชนต่างประเทศ เดินทางไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อเข้าชมพระเมรุ โดยมี น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะกรรมการออกแบบจัดสร้างพระเมรุและสิ่งปลูกสร้างประกอบพิธี ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ นำชมและบรรยายถึงความเป็นมาในการจัดสร้างพระเมรุ

น.อ.อาวุธ กล่าวว่า สื่อมวลชนต่างประเทศต่างให้ความสนใจ และซักถามถึงการจัดสร้างพระเมรุตามโบราณราชประเพณีของไทย ว่ามีความเป็นมาอย่างไร อธิบายไปว่าเป็นคติความเชื่อไตรภูมิพระร่วง เมื่อเจ้านายสิ้นพระชนม์ จึงต้องสร้างพระเมรุขึ้นที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อถวายเพลิงพระศพเจ้านายสู่สรวงสวรรค์ อีกทั้งยังสอบถามถึงพระจิตกาธานที่วางพระโกศ ว่าเมื่อพระราชทานเพลิงพระศพแล้ว ไม้จิตกาธานจะไม่ไหม้เพราะเหตุใด ก็ตอบว่าใช้หยวกกล้วยหุ้มจิตกาธาน ทำให้ไฟที่เผาพระศพเป็นเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ไม่สามารถไหม้จิตกาธานได้ เพราะหยวกกล้วยสดมีคุณสมบัติอมความชื้นของน้ำไว้หล่อเลี้ยง ทำให้สื่อต่างชาติทึ่งมาก และบอกว่านี่เป็นภูมิปัญญาของคนไทย จะได้นำเรื่องราวพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ไปเผยแพร่ให้ประชาชนในประเทศของเขาและทั่วโลก ได้รับรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมราชประเพณีของไทย

ด้านนางลดาวัลย์ กล่าวว่า ขณะนี้สื่อมวลชนหลายสำนักจากต่างประเทศ แจ้งความจำนงที่จะเดินทางมาทำข่าวพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ จำนวน 35 สำนักข่าว อาทิ รอยเตอร์ เอพี, เอเอฟพี, เอบีซี, บีบีซี ไทม์แม็กกาซีน, สำนักข่าวจากประเทศรัสเซีย, ญี่ปุ่น, สเปน, ฝรั่งเศส, จีน, อินเดีย, และ สิงคโปร์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสื่อมวลชนของไทยอีก 600 คน รวมแล้วกว่า 700 คน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ซ้อมริ้วขบวน- กองพลทหารม้าที่ 2 รอ. ซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศในพระราชพิธีพระ ราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เป็นการซ้อมริ้วขบวนที่ 6 อัญเชิญพระสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังสุสานหลวง

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ส่วนนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ว่า กรมศิลปากรรายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานในส่วนที่รับผิดชอบ ทั้งการจัดสร้างพระเมรุ หนังสือที่ระลึก และการจัดงานมหรสพสมโภช ซึ่งจัดทำเสร็จเรียบร้อย และเตรียมพร้อมเกือบทุกอย่างแล้ว ส่วนการส่งมอบพระเมรุให้แก่สำนักพระราชวังนั้น น.อ.อาวุธ แจ้งกับทางกรมศิลปา กรว่า จะอยู่ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย.นี้

จากนั้นเวลา 15.00 น. กองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์ จัดซ้อมขบวนทหารม้ากองเกียรติยศ ที่ร่วมในริ้วขบวนพระอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีพระราช ทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ริ้วขบวนที่ 6 โดยมี พล.ต.วิลาศ อรุณศรี ผบ.กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ นำกำลังพลเข้าฝึกซ้อม เป็นขบวนทหารม้ากองเกียรติยศ อัญเชิญพระสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตน ศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่งไปบรรจุ ณ อนุสรณ์สถานรังษีวัฒนา สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยตั้งแถวรูปขบวนกองทหารม้า จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง ออกทางประตูวิเศษไชยศรี เข้าถนนหน้าพระลาน ถนนสนามไชย ถนนกัลยาณไมตรี ถนนอัษฎางค์ และถนนราชบพิธ ก่อนเข้าสู่สุสานหลวง วัดราชบพิธฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในริ้วขบวนที่ 6 เป็นขบวนม้ารักษาพระองค์มีทั้งหมด 77 ม้า ใช้กำลังพล 208 นาย เริ่มที่หัวขบวนเป็นกองทหารม้าอิสริยยศ 44 ม้า ตามด้วยรถยนต์พระที่นั่งของพระบรมวงศานุวงศ์ ก่อนปิดท้ายริ้วขบวนด้วยกองทหารม้าอิสริยยศ 33 ม้า เมื่อเดินทางมาถึงวัดราชบพิธฯ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้ซักซ้อมเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน บริเวณภายใน เพื่ออัญเชิญพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ บรรจุที่อนุสรณ์สถานรังษีวัฒนา สุสานหลวง วัดราชบพิธฯ

ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ทางสำนักพระราชวังนำเครื่องแต่งกายตามโบราณราชประเพณี สำหรับใช้ในริ้วขบวนพระอิสริยยศ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ได้ชมเป็นครั้งแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องแต่งกายมีทั้งสิ้น 16 แบบ 18 ชุด โดยผู้ที่เดินริ้วขบวนพระราชพิธีฯ เป็นผู้สวมมาแสดง ได้แก่ แบบที่ 1 ชุดนำริ้ว สำหรับหน่วยงาน สำนักพระราชวัง ประกอบด้วย หมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดเกี้ยว, เสื้ออัตลัดสีแดง, นุ่งผ้าเกี้ยวลาย, รัดประคดโหมดเทศ, ถุงเท้ายาวสีขาว, และรองเท้าหนังสีดำ แบบที่ 2 ชุดธงสามชาย สำหรับหน่วยงาน กรมพลาธิการทหารบก ประกอบด้วย หมวกหูกระต่ายขลิบลูกไม้ใบข้าว, เสื้ออัตลัดสีแดง, นุ่งผ้าเกี้ยวลาย, รัดประคดโหมดเทศ, ถุงเท้ายาวสีขาวและรองเท้าหนังสีดำ แบบที่ 3 ชุดประตูหน้า และชุดประตูหลัง สำหรับหน่วยงานสำนักพระราชวัง ประกอบด้วย หมวกทรงประพาสกำมะหยี่สีดำยอดเกี้ยว, เสื้อนอกขาวแบบราชการแขนทุกข์, รัดประคดแดงดอกขาว, ผ้าเกี้ยวลาย, ถุงเท้ายาวสีขาว, และรองเท้าหนังสีดำ

แบบที่ 4 ชุดกลองชนะ, ชุดฉุดชักลากราชรถพระนำ, ชุดฉุดชักพระมหาพิชัยราชรถ, และชุดพนักงานลากเกรินหางนาค สำหรับหน่วยงานกรมสรรพาวุธทหารบก และโรงเรียนเตรียมทหาร ประกอบด้วย หมวกกลีบลำดวนแดงขลิบเหลือง, เสื้อปัสตูแดงขลิบเหลือง, กางเกงปัสตูแดงขลิบเหลือง, ถุงเท้าสีดำ, และรองเท้าหนังสีดำ แบบที่ 5 ชุดจ่าปี่ และชุดจ่ากลอง สำหรับหน่วยงานสำนักพระราชวัง ประกอบด้วย หมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดจุก, เสื้อเข้มขาบไหม, กางเกงมัสรูไหม, เข็มขัดแถบทองหัวครุฑ, ถุงเท้าสีดำ, และรองเท้าหนังสีดำ

แบบที่ 6 ชุดสารวัตรกลอง, ชุดสารวัตรแตร, ชุดคนคุมเสลี่ยงกลีบบัวพระนำ, ชุดคนกำกับฉัตรเครื่องสูง, ชุดกำกับคนหามเสลี่ยงกลีบบัวพระนำ, ชุดคนคุมเครื่องสูงหักทองขวาง, ชุดผู้กำกับและผู้ควบคุมพระยานมาศ สามลำคาน, ชุดผู้ควบคุมคนหามพระยานมาศสามลำคาน, ชุดคนคุมฉัตรเครื่องสูงหักทองขวาง, ชุดผู้กำกับคนฉุดชัก, ชุดผู้ควบคุมราชรถพระนำ, และชุดผู้ควบคุมพระมหาพิชัยราชรถ สำหรับหน่วยงานสำนักพระราช วัง, กรมศิลปากร, กองทัพเรือ, กรมสรรพาวุธทหารบก, กรมพลาธิการทหารบก, กรมการขนส่งทหารบก, และโรงเรียนเตรียมทหาร ประกอบด้วย หมวกทรงประพาสกำมะหยี่สีดำยอดเกี้ยว, เสื้อนอกขาวแบบราชการแขนทุกข์, นุ่งผ้าเกี้ยวลายรัดประคดแดงดอกขาว, ถุงเท้ายาวสีขาว, และรองเท้าหนังสีดำ

แบบที่ 7 ชุดสังข์, ชุดแตรฝรั่ง, และชุดแตรงอน สำหรับหน่วยงาน กองทัพเรือ ประกอบด้วย หมวกปัสตูแดงพู่ขาว, เสื้อปัสตูแดงแขนบาน, กางเกงปัสตูแดงขลิบเหลือง, ถุงเท้าสีดำ, และรองเท้าหนังสีดำ แบบที่ 8 ชุดเครื่องสูง และชุดฉัตรเครื่องสูงทองแผ่ลวด, ชุดเครื่องสูง และชุดฉัตรเครื่องสูงหักทองขวาง สำหรับหน่วยงานกรมพลาธิการทหารบก และหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก ประกอบด้วย หมวกกลอมพอกหางเหยี่ยวแดง, เสื้อเข้มขาบไหม, กางเกงมัสรูไหม, รัดประคดโหมดเทศ, ถุงเท้าสีดำ, และรองเท้าหนังสีดำ

แบบที่ 9 ชุดสนมเชิญพัดยศพระนำ สำหรับหน่วยงานสำนักพระราชวัง ประกอบด้วย หมวกทรงประพาสกำมะหยี่สีดำยอดเกี้ยว, เสื้อนอกขาวแบบราชการแขนทุกข์, นุ่งผ้าเกี้ยวลาย, รัดประคดแดงดอกขาว, ถุงเท้ายาวสีขาว และรองเท้าหนังสีดำ แบบที่ 10 ชุดคนหามเสลี่ยงกลีบบัวพระนำ, ชุดคนหามพระยานมาศสามลำคาน, ชุดคนหามพระที่นั่งราเชนทรยาน, ชุดคนหามพระวอสีวิกากาญจน์, ชุดผู้บังคับราชรถพระนำ, และผู้บังคับพระมหาพิชัยราชรถ สำหรับหน่วยงานกรมศิลปากร, กรมสรรพาวุธทหารบก, กรมพลาธิการทหารบก, และกรมการขนส่งทหารบก ประกอบด้วย หมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดจุก, เสื้อเข้มขาบไหม, กางเกงมัสรูไหม, รัดประคดโหมดเทศ, ถุงเท้าสีดำ, และรองเท้าหนังสีดำ

แบบที่ 11 ชุดบังพระสูรย์พระนำ, ชุดสัปทนตาด, ชุดพัดโบก, ชุดภูษามาลาประคองพระโกศ, ชุดพระ กลดถวายพระโกศ, ชุดบังพระสูรย์หักทองขวาง, ชุดสารถีถือแพนหางนกยูงนั่งหน้าราชรถพระนำ, และสารถีถือแพนหางนกยูงนั่งหน้าพระมหาพิชัยราชรถ สำหรับหน่วยงานสำนักพระราชวัง และกรมพลาธิการทหารบก ประกอบด้วย หมวกกลอมพอกขาวมีดอกไม้ไหว, เสื้อนอกขาวทับด้วยเสื้อครุยแถบใหญ่, นุ่งผ้าเกี้ยวลาย, ถุงเท้ายาวสีขาว, และรองเท้าหนังสีดำ แบบที่ 12 ชุดอินทร์ และชุดพรหมเชิญจามร สำหรับหน่วยงานกรมพลาธิการทหารบก ประกอบด้วย หมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดเกี้ยว, เสื้ออัตลัดสีเขียวใช้กับอินทร์, เสื้ออัตลัดสีแดงใช้กับพรหม, กางเกงมัสรูไหมนุ่งทับด้วยผ้าเกี้ยวลาย, รัดประคดโหมดเทศ, ถุงเท้ายาวสีขาว, และรองเท้าหนังสีดำ

แบบที่ 13 ชุดผู้บอกกระบวน สำหรับหน่วยงานสำนักพระราชวัง ประกอบด้วย หมวกทรงประพาส เยียรบับยอดเกี้ยว, เสื้อเยียรบับ, รัดประคดโหมดเทศ, นุ่งผ้าเกี้ยวลาย, ขัดกระบี่หลัง, ถุงเท้ายาวสีขาว, และรองเท้าหนังสีดำ แบบที่ 14 ชุดมหาดเล็กหลวงคู่แห่, ชุดมหาดเล็กหลวงเชิญพระแสงหว่างเครื่องหน้า-หลัง, ชุดมหาดเล็กหลวงเชิญพระแสงรายตีนตอง, และผู้ควบคุมเชิญพระแสง สำหรับวชิราวุธวิทยาลัย ประ กอบด้วย หมวกทรงประพาสกำมะหยี่สีน้ำเงินยอดเกี้ยว, เสื้อนอกขาวแบบราชการแขนทุกข์, นุ่งผ้าม่วงเชิง, รัดประคดน้ำเงินดอกขาว, ถุงเท้ายาวสีขาว, และรองเท้าหนังสีดำ

แบบที่ 15 ชุดอินทร์ และชุดพรหม เชิญพุ่มต้นไม้เงิน/ต้นไม้ทอง สำหรับหน่วยงานกรมพลาธิการทหารบก ประกอบด้วย หมวกกำมะหยี่สีเขียวทรงเทริดใช้กับอินทร์, หมวกกำมะหยี่สีแดงทรงเทริดใช้กับพรหม, เสื้อกำมะหยี่สีเขียวคอบัวติดขลิบ ใช้กับอินทร์, เสื้อกำมะหยี่สีแดงคอบัวติดขลิบ ใช้กับพรหม, สนับเพลานุ่งทับด้วยผ้าเกี้ยวลาย, ถุงเท้ายาวสีขาว, และรองเท้าหนังสีดำ แบบที่ 16 ชุดตำรวจหลวงคู่แห่พระศพ สำหรับวชิราวุธวิทยาลัย ประกอบด้วย หมวกทรงประพาสกำมะหยี่สีดำยอดแหลม, เสื้อสักหลาดสีน้ำเงิน, เข็มขัดแถบทองพู่ไหม, สายกระบี่, ถือกระบี่, นุ่งผ้าเชิงม่วง, ถุงเท้ายาวสีขาว, และรองเท้าหนังสีดำ

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร กล่าวว่า การซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศฯ ในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. จะเป็นการซ้อมใหญ่เหมือนจริง ทาง บช.น.จึงกำหนดปิดเส้นทางการจราจรในเกาะรัตนโกสินทร์ 16 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 2 พ.ย. จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ เช่น ถนนราชดำเนินใน ถนนราชินี ถนนพระจันทร์ ถนนหลักเมือง และถนนท้ายวัง เป็นต้น ส่วนประชาชนที่ต้องการเดินทางมาชมพิธีซ้อมใหญ่ ทางตำรวจอนุญาตให้ดูการซ้อมได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนผ่าน แต่ต้องอยู่ด้านหลังรั้วเหล็กกั้นเท่านั้น ทั้งฝั่งถนนหน้ากระทรวงกลาโหมเดิม และถนนราชดำเนิน ใน ด้านหน้าศาลหลักเมือง และศาลฎีกา จะไม่อนุญาตให้ไปอยู่ฝั่งติดกำแพงพระบรมมหาราชวังเด็ดขาด

http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHhNQzB6TUE9PQ==