สวยเกลื่อนแบบเกาหลี ปีใหม่นี้ไม่ต้องก็ได้!

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย Likely, 3 มกราคม 2010.

  1. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821
    สวยเกลื่อนแบบเกาหลี ปีใหม่นี้ไม่ต้องก็ได้!

    <table cellpadding="1" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td> [​IMG]
    </td> </tr> </tbody></table> นนบทภาพยนตร์ของหนังเรื่อง "ทวิภพ" หลายปีก่อน มีตอนที่นางเอกเล่าถึงเรื่องราวในยุคปัจจุบันให้คนในอดีตฟังว่า คนไทยอยากเป็นและทำตามอย่างชาติอื่นๆ ได้หมด แต่ปฏิเสธที่จะเป็นตัวเองและไม่นับถือตัวเอง

    ถึงตอนนี้ ค่านิยมนี้ก็ยังมีอยู่ รวมถึงเรื่องความสวยความงาม แม้จะเปลี่ยนจากสไตล์ฝรั่ง มาคลั่งแนวเคป๊อปและเจป๊อป ในเอเชียด้วยกัน

    กลยุทธ์โฆษณาที่เชียร์ให้สาวๆ คลั่งสวยแบบสาวเกาหลี ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม จรดไปถึงรองเท้า ยังคงเป็นไม้เด็ดที่ดึงดูดใจ คาดว่าจะมีต่อไปตลอดปีใหม่นี้

    สารพัดเทคนิคความงามต้องเดินตามเกาหลี ทั้งปัด ขัด ทา แต่งแต้ม ทำหน้าใส ตากลมโตประกายวิ้งๆ ติดขนตาเด้งดึ๋ง บางรายกระเป๋าตุงพึ่งมีดหมอ ทั้งกรีด เจาะ เฉาะ สารพัดงามตามสั่ง สวยเกลื่อนจนหน้าตาแนวเดียวกันหมด

    น.พ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า ค่านิยมที่สาวๆ อยากสวยแบบสาวเกาหลี สาวญี่ปุ่นเป็นเรื่องปกติ มีมานานแล้ว ถือว่าเป็นกระแส แต่ก่อนเราอยากสวยแบบฝรั่งต่างชาติ ก็จะทำตาโต จมูกโด่งแหลมเปี๊ยบ เห็นได้จากคนรุ่นก่อน อายุประมาณ 40-50 ปี แต่เมื่อยุคหนึ่งผ่านไปก็อยากสวยแบบสาวญี่ปุ่น ด้วยมีชาวอเมริกันเข้ามาทำให้ลูกครึ่งญี่ปุ่นสวย ต่อมาก็อยากสวยแบบสาวจีน และตอนนี้ก็อยากสวยแบบสาวเกาหลีอีก ซึ่งมักเป็นเด็กยุคนี้ ที่มีอารมณ์อ่อนไหวและที่ได้รับอิทธิพลจากการดูหนัง ฟังเพลงและคลั่งดารา

    ความจริงคนไทยสวยตามธรรมชาติอยู่แล้ว คนไทยมีผิวสีนิดๆ ไม่ได้ขาวจั๊วะ ตาโต จมูกปานกลาง ปากนิด และมีกิริยามารยาทงามอย่างไทย สูง 165-170 เซนติเมตร ก็ถือว่าสูงมากแล้ว ส่วนญี่ปุ่นจะตาหยี จมูกไม่โด่งมาก ขนเยอะดกดำ ตัวเล็ก น่องสั้น ซึ่งคล้ายกับเกาหลี ซึ่งมีโครงสร้างไม่สวย หน้าไม่สวย แต่ทั้งคู่เขาเมกอัพกันเก่ง ทำผมรุงรัง ใส่เสื้อหนาเพราะอากาศหนาว แต่ด้วยอิทธิพลของสื่อและกระแสทำให้เราอยากเหมือนเขา โดยที่เราไม่รู้ตัวว่าเราสวยกว่าเขา คาดว่ากระแสนี้คงอยู่สักพัก 3-5 ปี

    เมื่อถามคุณค่าที่แท้จริงของคำว่า "งาม" น.พ.ชลธิศ ให้ความเห็นว่า ความงามคือความพอดี เป็นตัวของตัวเอง คนไทยต้องสวยแบบคนไทย มีบุคลิกดี อย่าไปเลียนแบบเหมือนใครอื่น จะเขียนคิ้ว ทาปากอย่างไร แต่สวยจริงๆ ก็คือสวยธรรมชาติ บนความพอดี ตามเชื้อชาติ ไม่ว่าชาติไหนก็สวยแบบฉบับของเขา เช่น พอนึกถึงมิสอินเดีย ก็ต้องผิวสี ตาโต จมูกโด่ง ผมดกดำคมเข้ม จะหน้าแบบจีนก็ไม่ใช่หรือจะสวยแบบอเมริกัน ตาสีฟ้า ตัวขาว ผมบลอนด์ก็ไม่ถูก นางสาวไทยหรือมิสสยาม เราต้องมีเอกลักษณ์ชาติพันธุ์ที่เราเป็นเรา ที่มีรูปร่างหน้าตาแบบไทย
    <table cellpadding="1" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td> [​IMG]
    </td> </tr> </tbody></table>

    "การทำศัลยกรรมเพียงช่วยเสริมจุดเด่น ลบจุดด่างออกนิดหน่อย แต่ขอให้อิงธรรมชาติ การส่งเสริมคนไทยให้มองเห็นคุณค่าและความงามนั้น ต้องส่งเสริมให้คนไทยฉลาด มีความสามารถ มีบุคลิกและกิริยามารยาทที่เป็นเอกลักษณ์คืออ่อนหวาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติของกุลสตรีไทยที่ขาดไม่ได้ และต้องมีสมบัติผู้ดีที่เราเคยอ่านกันมา แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วต้องรื้อฟื้นใหม่ คือ รักนวลสงวนตัว มีสัมมาคารวะ ยิ้มแย้มแจ่มใส ว่านอนสอนง่าย ขยัน สะอาด ใจบุญสุนทาน ผู้หญิงทุกคนมีความงามเฉพาะตัว เป็นผู้มีบุคลิกภาพ ทางโครงสร้างที่ดีตามธรรมชาติ ไม่ได้สวยเลิศเลอผิดธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเอง ไม่หลงกระแส แต่ด้วยวงการบันเทิง เหล่าผู้ควบคุมธุรกิจต่างๆ ทำให้เด็กๆ กลายเป็นเหยื่อ" น.พ.ชลธิศ กล่าว

    วน น.พ.กษิดิศ ประภายสาธก แพทย์ประจำราชเทวีคลินิก และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการแพทย์ กล่าวว่า กระแสอยากสวยแบบสาวญี่ปุ่นหรือสาวเกาหลี ที่รุกเข้ามาบ้านเรานั้น เกิดจากสื่อภาพยนตร์ ละคร โฆษณาที่มีการโปรโมต ผ่านสาวๆ หน้าตาจิ้มลิ้มและวัฒนธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวบ้านเขา เป็นจุดขายที่มุ่งหวังผลทางธุรกิจเป็นหลัก

    สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบกับคนไทยพอสมควร ที่เห็นเขาสวย ขาว ตรงใจกับสิ่งที่เราต้องการ ซึ่งจริงๆ หญิงไทยสวยไม่แพ้สาวเกาหลี และแต่ละภาคก็มีความงามต่างกันเป็นลักษณะเฉพาะ เพียงแต่ตัวเราไม่ได้มองว่าตัวเราเองสวย

    ปัจจุบันคนให้ความใส่ใจเรื่องของผิวมากขึ้น โดยเฉพาะคนในเมืองใหญ่ และปัญหาผิวของคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้านเรา ก็ไม่เหมือนกับสาวญี่ปุ่น บ้านเราอากาศร้อนชื้นจะมีปัญหามากเรื่องหลักๆ คือ สิว และรูขุมขนเปิดกว้าง ซึ่งเป็นที่กังวลของสาวๆ คนที่เดินเข้ามายังคงที่และเพิ่มมากขึ้น ส่วนคนทำศัลยกรรม มีเปอร์เซ็นต์เพิ่มมากขึ้น เพราะคนกล้ายิ่งขึ้นเช่นกัน
    <table cellpadding="1" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td> [​IMG]
    </td> </tr> </tbody></table>

    ขณะเดียวกัน หมอกษิดิศพบว่า ปัญหาเรื่องผิวทำให้คนไข้ขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าเขาจะสวยอยู่แล้วหรือไม่สวยก็ตาม ซึ่งการมองคนนั้นควรมองจากข้างในไม่ได้มองจากรูปลักษณ์ภายนอก การสร้างความมั่นใจในตัวเองต้องเริ่มจากความภูมิใจในตัวเรา โดยตื่นนอนมาให้บอกกับตัวเองว่า ฉันสวยและฉันสวย เพื่อเพิ่มพลังทางใจ เรียกความเชื่อมั่น นอกจากนี้ความสวยจากการปรุง แต่งภายนอกที่เชื่อมโยงเรื่องเครื่องสำอาง การเลือกใช้ต้องมีสติ วิจารณญาณและคนที่มีปัญหาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีที่สุด และท้ายสุดก็ต้องสวยจากข้างใน คือมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี

    ดท้ายที่ พ.ญ.พักตร์พิไล ทวีสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพผิวพรรณและเวชศาสตร์วัยยุวัฒน์ ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง "เอส เมดิคัล สปา" ให้ความเห็นว่า ทุกคนก็สวยตามธรรมชาติด้วยตัวเอง ในแง่การทำศัลยกรรมตกแต่งนั้นพื้นฐานจริงๆ เป็นเรื่องการแก้ไขความผิดปกติ เช่น เกิดมาปากแหว่งเพดานโหว่ ตาเหล่ไม่เท่ากัน หนังตาตก ทำให้มองไม่เห็น หรือประสบอุบัติเหตุ กรามหักแก้มยุบเข้าไป ก็ต้องทำศัลยกรรม แต่ระยะหลังนำมาใช้ในเรื่องคอสเมติก ซึ่งการทำศัลย กรรมไม่ได้ต่อต้านว่าทำไม่ได้ ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่นจะทำไม่เห็นด้วย เพราะวัยนี้มีความสดใส สวยงามตามธรรมชาติอยู่แล้วถ้าทำมากจะเพี้ยนไปจากธรรมชาติ แต่ถ้าอายุมากหรืออาชีพการงานที่มีความจำเป็นที่ต้องหน้าสวย ทำพอสมควรก็โอเค แต่อยู่ในขอบเขตของความพอดี พองามและไม่มากเกินไป

    พ.ญ.พักตร์พิไล กล่าวต่อว่า หน้าตาคนไทยเป็นแบบผสม จมูกไม่โด่งมาก ตาไม่โตมาก แต่มีความจิ้มลิ้ม มีผิวสีแทนซึ่งเป็น ที่อิจฉาของฝรั่งที่คิดว่าไปทำแทนนิ่งซาลอน แต่สวยแบบไทยไม่ใช่เรื่องของรูปร่าง หน้าตา เป็นเรื่องของกิริยามารยาทที่แสดง ออกมาซึ่งผู้หญิงไทยไม่ว่าจะเดิน พูดจะมีความนุ่มนวล ไปที่ไหนก็จะดูรู้ กิริยามารยาทที่แสดงออกมานั้นเป็นความงาม ไม่ใช่สวยแต่เป็นความงามของบุคลิกและลักษณะมากกว่า

    "ความสวยความงามที่สุดนั้นมาจากจิตใจ บางคนทำศัลยกรรมจนสวย ตาโต จมูกโด่ง จิ้มลิ้ม ฉีดปากเหมือนแองเจลิน่า โจลี่ แต่ใจและสมองคิดเนกาทีฟทำให้เป็นหงุดหงิด ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ถ้าใจไม่งามต่อให้ข้างนอกสวยงามอย่างไรก็ดูไม่งาม ขณะที่บางคนไม่ต้องสวยเลิศแต่เขามีโพสิทีฟติงกิ้ง ทำให้อยากเข้าไปคุยด้วย อยากรู้จักที่เรียกว่า " เสน่ห์" ซึ่งความมีเสน่ห์อยู่ที่จิตใจด้วย ใจดี คิดบวก มองโลกในแง่ดี สนุกสนานร่าเริง ไม่เคร่งเครียดซีเรียสมาก สิ่งเหล่านี้จะฉายแววความงามออกมา ต่างจากคนสวยแต่รูปจูบไม่หอม"

    พ.ญ.พักตร์พิไล แนะการดูแลสุขภาพกายภายนอกว่า ในแง่ของผิวพรรณต้องเลี่ยงแสงแดด ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ไม่ต่ำกว่า 30 ที่สำคัญอย่ารบกวนรุนแรงกับผิว มีสิวก็อย่าบีบ แคะ แกะ เกา เพราะนั่นคือที่มาของหลุม แผลเป็นและรอยดำ รอยช้ำ ล้างหน้าเช้าครั้งเย็นอีกหน น้ำอุ่นน้ำร้อนไม่ต้องใช้ ไม่ต้องใช้อะไรมากยุ่งให้น้อยแล้วผิวจะดีที่สุด หมอเองล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า วันทำงานแต่งหน้ามีกันแดด เย็นใช้แค่สบู่เหลว เจลใสธรรมดา และสำคัญที่สุดต้องดื่มน้ำเยอะๆ หลับพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อสุขภาพร่างกายดี ความสวยงามออกมาทั้งหน้าตาและรูปร่าง ซึ่งหมอเน้นหลัก "5 อ." คือ อาหาร ควรรับประทานผักสด ผลไม้ให้ได้มากๆ เลี่ยงอาหารสำเร็จรูป กาเฟอีน กาแฟ แอลกอฮอล์ บุหรี่ ขนมกรุบกรอบ ถัดมา ออกกำลังกาย อากาศต้องได้ออกซิเจนบริสุทธิ์ เอนหลังคือการหลับพักผ่อน และที่สำคัญคือ อารมณ์จิตใจ ซึ่งอย่างไรก็หนีไม่พ้นตรงนี้

    สำหรับหมอศัลยกรรมจะเก็บไว้เป็นกระบี่ไม้สุดท้าย ที่อุปกรณ์การแพทย์ผิวหนังไม่สามารถช่วยได้เท่านั้น เพราะเรามีวิธีการและทางเลือกมากกว่า แต่ทั้งนี้เรื่องความสวยงาม ต้องช่วยกันหลายฝ่ายพ่อแม่ต้องช่วยปลูกฝังและทำให้ลูกเห็นว่า ความสวยที่ต้องกรีดตาแบบสาวเกาหลี ตัดกราม เสริมจมูก เป็นสวยข้างนอกหรือสวยเปลือก แต่คนเราต้องสวยจากข้างใน สวยจากใจ สวยจากบุคลิก สวยจากกิริยามารยาท รวมถึงสื่อที่มีบทบาทมาก ที่ทำให้ไหลไปตามกระแสสร้างบรรทัดฐานใหม่ว่า ต้องทำศัลยกรรมใบหน้าจึงออกมาเป็นบล็อกเดียวกัน และการเสพสื่อมากทำให้กิริยามารยาทที่เคยงดงามหายไป ซึ่งน่าเสียดายเสน่ห์ความงามแบบคนไทย

    ...เก็บเป็นแง่คิดไว้ตลอดปีใหม่นี้ได้เลย


    Fwdder.com - สวยเกลื่อนแบบเกาหลี ปีใหม่นี้ไม่ต้องก็ได้! - โพสเมื่อ 2010-01-02 11:24:35
     

แชร์หน้านี้

Loading...