สยดสยองสองเหตุ!?! พ่อพิการจมน้ำอนาถ ลูกชั่วฟันพ่อมือขาด

ใครที่ยังไม่ได้ไหว้พ่อ กราบพ่อให้รีบทำเสีย เพราะไม่รู้วันไหน อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น!!

เหมือนกับเรื่องเศร้าที่เกิดกับครอบครัว "มูลสุรินทร์" ที่ลูกสาวพาพ่อแก่ชรา พิการเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็นอยู่ตลอดเวลา มาพักผ่อนที่บ้านซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารริมบ่อตกปลา

ด้วยความที่ลูกอยากจะทำเซอร์ไพรส์พ่อในวันพ่อ จึงพาพ่อไปนั่งเล่นรับลมริมบ่อแล้วหันไปกดข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ อวยพรพ่อผ่านจอทีวี พอหันไปอีกทีก็พบว่ารถเข็นของพ่อลื่นไหลจมลงไปในน้ำแล้ว

หมดโอกาสไหว้พ่ออย่างน่าเศร้าใจ



เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนสายวันที่ 5 ธ.ค. พ.ต.ท.พรเทพ มีใยเยื่อ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองเชียงราย รับแจ้งมีเหตุคนจมน้ำตายในบ่อปลาร้านอาหาร "ชานเมืองฟิชชิ่งปาร์ค" ตั้งอยู่เลขที่ 238 หมู่ 6 ต.รอบเวียง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์แผนกนิติเวชฯ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

เมื่อไปถึงพบว่ามีการกู้ศพขึ้นมาแล้ว

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในร้านอาหาร มีซุ้มนั่งทานอาหารไว้คอยให้แขกนั่งตกปลาได้รอบบ่อปลากว้างประมาณ 2 ไร่ พบชาวบ้านกำลังมุงดูศพนายเพ็ญ มูลสุรินทร์ อายุ 69 ปี เสียชีวิตในสภาพศพมีแผลฟกช้ำที่ศีรษะ ใกล้ศพพบรถเข็นสำหรับคนพิการซึ่งเป็นของผู้ตายตกอยู่ในน้ำ จึงนำขึ้นมาตรวจสอบ

ทุกคนสุดเศร้าใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>



จากการสอบสวนทราบว่า ร้านดังกล่าวเป็นของนายชาญณรงค์ มณีรัตน์ อายุ 41 ปี และนางศิริพร มณีรัตน์ อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 44/1 ซอย 2 ราษฎรโยธา ถนนสันโค้งน้อย ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งนายเพ็ญผู้เสียชีวิตเป็นพ่อของนางศิริพร

นางศิริพรละล่ำละลักให้การว่า พ่อป่วยเป็นโรคชราและสมองฝ่อเดินไม่ได้ ต้องใช้รถเข็นมานานประมาณ 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาอาศัยอยู่กับน้องชายของตน โดยน้องชายจะเป็นคนดูแลตลอด แต่ระยะนี้เป็นช่วงวันพ่อพอดี น้องชายเลยไปบวชให้กับพ่อที่วัดป่าเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อ 3 วันก่อน เพื่อทำบุญให้กับพ่อ เพราะเชื่อว่าจะทำให้พ่อกลับมาเดินได้เหมือนปกติ ตนจึงไปรับพ่อมาพักผ่อนที่นี่

"ก่อนเกิดเหตุพาพ่อไปนั่งผิงแดดยามเช้าที่ลานหน้าร้านตามปกติ โดยสามีเดินเข้าไปทำอาหารในครัว เพื่อเตรียมรับแขก ปล่อยพ่อให้นั่งเล่นอยู่ตรงนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ดิฉันเข้าบ้านไปดูโทรทัศน์ช่อง 3 ซึ่งพบว่ามีการเปิดให้ส่งข้อความไปอวยพรเนื่องในวันพ่อ จึงทดลองกดส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือว่า รักพ่อทุกวัน อยากให้พ่อเดินได้ เมื่อส่งเสร็จจึงเดินออกมาหาพ่อ แต่ปรากฏว่าไม่พบ จึงวิ่งไปเรียกสามีให้ช่วยออกติดตาม จนมาพบรถเข็นของพ่อตนตกอยู่ในบ่อน้ำ สามีจึงกระโดดลงไปงม ก็พบว่าพ่อจมน้ำเสียชีวิตแล้ว" นางศิริพรกล่าวทั้งน้ำตา <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

คดีนี้ไม่มีใครติดใจเอาความใดๆ เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

เป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น!!



อีกรายเกิดขึ้นกับพ่อเช่นกัน แต่คราวนี้พ่อเป็นฝ่ายถูกกระทำ โดนลูกชายซึ่งมีอาการเพี้ยนยาบ้า ใช้มีดสปาร์ตาไล่ฟันเป็นแผลเหวอะหวะทั้งตัว ข้อมือขาด

ต้องหามส่งร.พ.เป็นพัลวัน

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนเย็นวันเดียวกัน ร.ต.ท.เทวินทร์ นาจารย์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งเหตุจากโรงพยาบาลกำแพงเพชร ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกอาวุธมีดฟันมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดตรวจสอบ

พบนายอรุณ จันทร์ศิริ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ที่ 6 บ้านหนองทอง ต.คณฑี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ถูกฟันด้วยอาวุธมีดสปาร์ตา จำนวน 3 แผล เข้าที่บริเวณศีรษะด้านหลัง 1 แผล ปากด้านขวา 1 แผล ส่วนบริเวณข้อมือขวาถูกฟันจนขาดออกจากกัน นอนซมรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู

เสียเลือดมากอาการสาหัส

ส่วนคนร้ายรายนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนายณรงค์ จันทร์ศิริ อายุ 28 ปี ลูกชายนายอรุณนั่นเอง หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ แต่นายณรงค์ให้การไม่รู้เรื่อง พูดวกไปวนมา มีอาการคล้ายคนเมายา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้

ลงบันทึกประจำวันดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



นายเสวย จันทร์ศิริ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 078 หมู่ที่ 6 บ้านหนองทอง ต.คณฑี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร น้องชายนายอรุณ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและพี่ชายไปช่วยงานถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่วัด ส่วนตนกลับเข้าบ้านก่อนพี่ชาย จากนั้นเวลาประมาณ 17.00 น. พี่ชายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ซูซูกิกลับเข้าบ้าน

ขณะกำลังจะจอดรถ นายณรงค์ซึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งเดินเข้าไปหาพร้อมใช้อาวุธมีดสปาร์ตาที่ถือติดมือมาฟันนายอรุณผู้เป็นพ่อเข้าบริเวณศีรษะ และฟันซ้ำ แต่นายอรุณยกมือขวาขึ้นป้องกัน เลยถูกคมมีดจนข้อมือขวาขาดออกจากกัน หลังจากนั้นนายณรงค์จึงใช้มีดฟันเข้าที่ด้านหน้าอีกหนึ่งแห่ง ตนจึงเรียกให้เพื่อนบ้านเข้าทำการช่วยเหลือและรีบนำพ่อส่งโรงพยาบาล พร้อมกับช่วยกันจับตัวนายณรงค์ไว้ได้

งานนี้ไม่ว่าใครก็พากันสาปแช่งนายณรงค์เสียงดังขรม!!

เป็นอันว่าทั้งสองเหตุการณ์ เป็นเรื่องสลดที่เกิดขึ้นกับคนเป็นพ่อ โดยเหตุแรกลูกไม่ได้กราบพ่อ เพราะพ่อต้องมาเสียชีวิตลงแบบกะทันหัน ส่วนเหตุการณ์ที่สอง ถึงแม้พ่อจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ลูกก็ต้องเข้าไปชดใช้กรรมในคุก อันเนื่องมาจากผลแห่งการกระทำ

ทำได้อย่างดีก็แค่ไหว้พ่อผ่านห้องขังดัดสันดาน