ร่วมทำบุญบูชา นัยน์ตาพระธรณีเจาะจำเพาะมหาถอดแสนมนต์(องค์ปฐมเปลื้องผ้ากาสา) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    เย็นนี้ติดตามกันดีๆกับเหรียญที่พ่ออาจารย์ท่านรับรองเอาไว้ว่าไม่เป็นสองรองใคร แม้แต่ตัวท่านยังต้องเลี่ยมทองใส่ในฐานะเหรียญประจำองค์(เพราะดีมากดีเหนือดีจนต้องเอามาใช้เอง) จะน่าสนใจยังไงติดตามกันนะครับแรงครูสูงมากๆ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    รายการที่จะเปิดจองวันนี้พ่ออาจารย์ท่านให้เลื่อนเป็นพรุ่งนี้รอบเย็นนะครับ ท่านว่าจะลงวิชาจารกำกับเอาไว้ให้ทุกเหรียญก่อน เอาให้ดีที่สุด
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    พรุ่งนี้ติดตามกันดีๆนะครับ นานๆจะเห็นตะกรุดโทนแบบพิเศษเช่นตะกรุดเนื้อเงินฝังเอาไว้ในเหรียญซักรุ่น...ไม่ต้องบรรยายใดๆเลย
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    ธรรมค้ำจุนมนุษย์

    สติสัมปชัญญะ หมายถึง ความระลึกได้และการรู้สึกตัวอยู่เสมอทั้งในขณะคิด ขณะพูด และในขณะกระทำสิ่งใดๆ ด้วยความระลึกในขณะนั้นว่าสิ่งใดควรท สิ่งใดไม่ควรทำโดยมิให้ความคิด และการกระทำมัวเมาอยู่ภายใต้ความประมาท

    สติ หมายถึง ความระลึกหรือนึกคิดในกิริยาหรือสิ่งที่ตนกระทำอยู่

    สัมปชัญญะ หมายถึง ความรู้ตัวหรือรู้ในกิริยา รู้ในการกระทำของตนทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว กำลังเกิดขึ้น และที่กำลังเกิดในอนาคต


    สติกับสัมปชัญญะ ธรรมะ 2 ประการนี้ ต่างกันตรงที่
    1. สติระลึกถึงเรื่องที่ล่วงมาแล้วและที่ยังมาไม่ถึง (อดีตกาลและอนาคตกาล)
    2. สัมปชัญญะ รู้ตัวในขณะที่กำลังทำ พูด คิดอยู่ในปัจจุบัน

    ทั้งนี้สติและสัมปชัญญะต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คือเมื่อสติระลึกขึ้นมาแล้วว่าจะทำอะไร จะพูดอะไร จะคิดอะไร ก็ลงมือกระทำ,พูดและคิดในสิ่งนั้นด้วยความรู้ตัวอยู่เสมอ เช่นเราจะหยิบปากกามาเขียนหนังสือการนึกหรือการระลึกขึ้นมาได้ว่าปากกามีรูปร่างอย่างนั้นตัวหนังสือหรือข้อความที่จะเขียนต่อไปจะว่าด้วยเรื่องนั้นๆแล้วก็ไปหยิบปากกามาได้ถูก และเขียนหนังสือการนึกหรือการระลึกขึ้นมาได้ว่าปากกามีรูปร่างอย่างนั้นตัวหนังสือหรือข้อความที่จะเขียนต่อไปจะว่าด้วยเรื่องนั้นๆแล้วก็หยิบปากกามาได้ถูกและเขียนได้ถูกต้อง ขณะที่กำลังหยิบปากกามาก็รู้ว่าตนกำลังหยิบปากกามาเมื่อกำลังเขียนอยู่ก็รู้ว่าตนกำลังเขียนเรื่องอะไรอยู่

    ดังนั้นสติกับสัมปชัญญะจึงเป็นธรรมที่เป็นเครื่องค้ำจุนกัน และเป็นธรรมที่ช่วยค้ำจุนมนุษย์ให้คิด พูดและกระทำในสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยความไม่ประมาท หากขาดธรรมใน 2 ประการนี้แล้ว มนุษย์ก็จะกระทำในสิ่งใดไม่สำเร็จไม่ต้องตามจิตประสงค์และอาจส่งผลเสียย้อนกับสู่ตนได้

    ฉะนั้นพระพุทธองค์จึงทรงสอนให้กระทำ ให้พูด ให้คิด ด้วยการมีสติและไม่ประมาทคือให้พึงระลึกได้ และสัมปชัญญะคือให้พึงรู้ตัวอยู่เสมอว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ แต่จะทำอะไรก็ตามนั้นสิ่งนั้นไม่ควรรีบร้อนหรือเร่งด่วนจนเกินพอดี ควรไตร่ตรองให้รอบคอบทำด้วยความสุขุมรอบคอบและมั่นใจจึงจะทำให้มีผลที่ดีตามมา

    สติและสัมปชัญญะนี้ เมื่อกล่าวโดยสรุปก็คือความไม่ประมาทนั้นเอง และคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ทั้งหมดล้วนรวมลงในความไม่ประมาทคือการมีสติรอบคอบนั้นเอง ชีวิตของผู้ไม่ประมาทมีสติรอบคอบระมัดระวังในทุกสถานแล้ว ชีวิตก็จะดำเนินด้วยความสุขสงบมากขึ้น

    ลักษณะผู้ที่มีสติสัมปชัญญะ
    1. รู้ตัวว่า สิ่งนั้นที่ตนกำลังทำอยู่จะเป็นประโยชน์หรือไม่
    2. รู้ตัวว่า สิ่งนั้นที่ตนกำลังทำอยู่จะเหมาะกับตนหรือไม่
    3. รู้ตัวว่า สิ่งนั้นที่ตนกำลังทำอยู่จะเป็นความทุกข์หรือสุขอย่างไร
    4. รู้ตัวว่า สิ่งนั้นที่ตนกำลังทำอยู่จะเป็นความงมงายหรือไม่
    5. รู้ตัวว่า สิ่งนั้นที่ตนกำลังทำอยู่จะสำเร็จหรือไม่ หรือเป็นเรื่องเลื่อนลอยไร้สาระ

    557000001349001.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    วันนี้ไปรษณีย์หยุดวันพืชมงคล รายการที่โอนไว้จัดส่งให้รอบพรุ่งนี้นะครับ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญข้ามโลกสัปตภูมิพระเจ้าข้ามเจ็ดมหาทุกข์ (เหยียบสวรรค์หริรักษ์จักรแก้ว)

    " เมื่อชีวิตผู้ใดตกอยู่ในมหาทุกข์ ก็ค่อยอาราธนาเหรียญก้าวข้ามสัปตภูมิภูมิอันจะคลี่คลายต้นเหตุแห่งกองทุกข์ในชีวิตทั้งสิ้น "

    " เราคือเจ้าของทุกสรรพสิ่ง
    เราคือนายเหนือหัวที่เต็มไปด้วยอำนาจในการควบคุมธรรมชาติของเราเอง
    เราได้ใช้อานุภาพของเรา เนรมิตให้เราได้เกิดมา
    เมื่อใดที่ความถูกต้องเสื่อมลงและความไม่ถูกต้องเจริญขึ้น เราจะกลับมาเกิดอีกครั้ง
    เพื่อปกป้องผู้ที่กระทำถูกต้องและเพื่อทำลายผู้กระทำไม่ถูกต้อง
    เราจะนำสิ่งที่ถูกต้องกลับมาและให้ตั้งอยู่เช่นเดิม....เราจะกลับมา "

    เพื่อหวังผลในการเนรเทศเคราะห์หามยามทุกข์ทั้งหลายให้พ้นตัวทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าครูท่านกำหนดไว้ชัดเจนต้องทำสิ่งแทนองค์พระนารายณ์เท่านั้น ตัวพ่ออาจารย์ท่านก็เห็นว่าเป็นโอกาสอย่างดีจะได้ทำเครื่องมงคลแทนครูองค์พระวิษณุเจ้าให้ผู้มีศรัทธาทั้งหลายได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ตนปรารถนาไปพร้อมกันทีเดียว เช่นนั้นท่านจึงหล่อพระนารายณ์สำคัญชุดนี้ไว้เป็นอาถรรพ์ด้วยพระนารายณ์เป็นมหาเทพผู้ปราบยุคเข็ญ เพราะเหตุนี้ท่านจึงได้สร้างพระนารายณ์เพื่อไถ่ถอนกลียุคในกาลข้างหน้า เพราะพระนารายณ์นับเป็นเทพเจ้าสูงสุดที่มีเทวฤทธิ์เหนือเทพเจ้าอื่นโดยมีหน้าที่ปราบปรามจักรวาลทั้งเป็นมหาเทพผู้อำนวยความสุข,ความสงบ,ความสบายให้ถึงพร้อมแก่ผู้บูชา แม้คราวใดที่โลกหรือศิษย์มีทุกข์เดือนร้อนจะถึงกาลแตกดับ พระนารายณ์ก็จะอวตารลงมาปราบปรามสร้างความสงบสุขแก่โลกทุกครั้งไป เรียกว่าเมื่อเดือดร้อนคราใดก็มีท่านนี่แหละคอยคืนความสุขให้ครานั้น...เช่นนี้คนที่เดือดร้อนก็ต้องพึ่งท่านเท่านั้น นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ธำรงค์รักษาจักรวาล สถาปนาระบบคุณธรรมขึ้นในโลกให้มนุษย์และเทวดามีแนวทางการบำเพ็ญบุญเป็นกุศโลบายก็ว่าได้ เหรียญนี้จึงศักดิ์สิทธิ์เสมอด้วยองค์พระอวตารนั้นอยู่กับเรา

    ด้วยอาถรรพ์พระเวทย์โบราณนั้นของ # เหรียญพระเป็นเจ้าข้ามโลกสัปตภูมิ...ชีวิตจะจำเริญซึ่งเกียรติยศอย่างยิ่ง

    ปฐมพรหมท่านโองการให้พ่ออาจารย์สร้างเหรียญนี้เพื่อข่มอาถรรพ์และล้างอาถรรพ์ที่กัดกินต่อต้านกระแสบุญของชีวิตมนุษย์ โดยใช้รูปของพระนารายณ์เป็นเจ้าปางข้ามสัปตภูมินั้น...เพราะการย่างก้าวของพระภควาณเป็นเจ้านั้นท่านข้ามซึ่งภูมิทั้งเจ็ดด้วยการย่างพระบาทสามก้าว พระองค์ทรงทอดร่มเงาผ่านภูมิทั้งเจ็ดและมหาจักรวาลไว้ ดุจในเวลานั้นพระเป็นเจ้าท่านบังเงาปกคลุมทั้งพรหมโลก,สวรรค์,มนุษย์,บาดาล,นรกภูมิ..แม้อากาศและห้วงอวกาศน้อยใหญ่ทั้งสิ้นเสมอด้วยร่มเงาของพระองค์ห่อหุ้มสรรพสิ่งทั้งปวงไว้เช่นนี้แล พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยอาถรรพ์แห่งพระเวทย์และองค์ศรีหริการย่างก้าวสัปตภูมินี้ของท่านจึงเป็นกำลังขององค์แห่งแสงสว่างที่ปรากฏขึ้นฉับพลัน(เป็นองค์แห่งแสงเฉพาะของพระเป็นเจ้า)เหนือกว่าองค์แห่งแสงใดๆที่ปกคลุมทั้งเจ็ดภูมินั้นไม่ว่าจะองค์แห่งพระอัคคี,พระสุริยาทิตย์หรือองค์แห่งแสงในมหาจักรวาลก็ตาม เมื่อตกอยู่ใต้รัศมีและร่มเงาของท่วงทำนองแห่งการข้ามสัปตภูมิในองค์ศรีหริแล้วก็เสมือนทิ้งชีวิตไว้ในบารมีพระองค์นั่นเอง ด้วยโองการแห่งปฐมพรหมวิชาย่างก้าวผ่านสัปตภูมินี้มีอาถรรพ์เสมอด้วยการก้าวล่วงเหตุที่จะก่อให้เกิดทุกข์ทั้งเจ็ดประการ(สัปตะก็คือเจ็ด ท่านว่าเจ็ดภูมิ เจ็ดทุกข์)
    - เวทนาทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในอนิจจังแห่งเวทนา
    - วิบากทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในวิบากกรรมแต่หนหลังที่ต้องรับ
    - กิเลสทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในโทษแห่งกิเลส
    - ตัณหาทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในโทษแห่งความอยากเกินพอดีที่ไม่อาจหยุดได้
    - อุปทานทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในโทษแห่งความยึดมั่นถือมั่น
    - สัญญาทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในโทษแห่งสัญญาความจำได้หมายรู้
    - อวิชชาทุกข์ อันมีสาเหตุมาจากจิตไม่รู้แจ้งในท้ายที่สุดแห่งสรรพสิ่ง
    ด้วยมหาทุกข์ทั้งเจ็ดนั้นเป็นบ่อเกิดเป็นโคตรเหง้าแห่งกองทุกข์ทั้งปวงที่ชีวิตต้องผ่านไปให้ได้ เพราะชีวิตต้องก้าวต่อไป ต้องก้าวไปข้างหน้าและจะยิ่งจำเริญเกียรติยศหากก้าวหน้าได้เร็วไว เมื่อฝากชีวิตไว้กับองค์ศรีหริ ..ใช้การย่างพระบาทเหยียบพรหมโลกผ่านสัปตภูมินี้เป็นอาถรรพ์ดันชีวิตตน เหรียญนี้ท่านว่าเพียงยกขึ้นจบหัวนึกถึงคุณองค์นารายณ์ชีวิตจะถอยหลังไม่ได้ จะหลับตาลืมตาตื่นวันใดมีแต่ต้องก้าวหน้าต่อไปทุกวันไม่หยุดอยู่กับที่หรือถอยลงเหว เพราะศรีหริท่านรับเป็นภาระในการสงเคราะห์เราไว้ใต้ร่มเงา ทั้งการย่างพระบาทผ่านเจ็ดภูมินั้นเป็นการประกาศชัยชนะต่อท้าวมหาพลี(ยอดอสูรผู้มากบารมีที่จะได้ขึ้นเป็นพระอินทร์องค์ต่อไป) เหรียญนี้จึงนำชัยส่งพลังนำพาตัวเราพุ่งสู่ชัยชนะไม่ว่าจะทำอะไรทั้งสิ้นเอาว่าต่อไปนั้นแพ้ไม่เป็น ...ขอให้มีคู่แข่งและเราหมายตาสิ่งใดเป็นคู่แข่งแล้วท่านว่าจะชนะทั้งหมดเห็นชัยชนะตั้งแต่ยังไม่เริ่มทีเดียว
    เหรียญข้ามสัปตภูมินี้ตกแก่ใครดุจตัวเขาเดินเหยียบอยู่ใต้ร่มเงาแห่งศรีหริ(วิษณุเจ้า)จะปิดกั้นตัวเขาออกจากเรื่องวุ่นวายต่างๆทั้งหลายทีเดียว เพื่อให้คนใช้มีชีวิตที่ขยับเยื้อนเคลื่อนไหวได้แบบก้าวกระโดด ด้วยปัจจุบันท่านเห็นว่าคนเริ่มน้ำตาตกในเจ็บช้ำน้ำใจจากภัยรอบด้านด้วยไม่อาจต่อต้านหรือเปลี่ยนแปลงวงจรชีวิตของตนให้ดียิ่งๆขึ้นไปได้ ท่านจึงทำอาถรรพ์ "วิชาข้ามโลกสัปตภูมิ" นี้ขึ้นเพื่อประสงค์จะชะลอกรรมเก่า..ทั้งหยุดวิบากใหม่ด้วยวิชาและแรงองค์ศรีหรินั่นเองดุจท่านย่างเท้าก้าวเข้ามาในชีวิตเรายื่นขาเดินเข้ามาร่วมชะตากรรมอยู่กับเราเรียกว่าตกบันไดพลอยโจนทิ้งตัวลงมาอยู่กับเราเต็มขั้นแล้วเช่นนั้นก็ว่าได้ เช่นนี้แรงครูจะช่วยให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่แย่กลับเป็นรุ่ง จากดวงที่ตกต่ำกลับได้ดีเจริญด้วยธนสารสมบัติ ทั้งยังปราบศัตรู ปราบทุกข์เข็ญพิชิตมาร ทำให้สิ่งที่ข้องขัดและแน่นิ่งไปแล้วไหลลื่นสามารถก้าวต่อไปได้เรื่อยๆไม่หยุดอยู่กับที่และไม่ถอยหลังลงด้วยอาถรรพ์คุณวิชาข้ามโลกสัปตภูมิ เช่นนั้นจึงมีคติไว้ว่าผู้ใดรับไปอาราธนานั้นต้องมีบุญสัมพันธ์กับองค์ศรีหริโดยแท้จริงเพราะเขาจะใช้ชีวิตดุจเดินเหยียบอยู่ในร่มเงาของพระเป็นเจ้าเพื่อหวังอานิสงส์ให้กำราบทุกข์เข็ญ,ความอดอยาก,แห้งแล้ง และโรคภัยนานาประการที่กำลังเป็นอยู่ เพื่อประโยชน์ใหญ่ที่จะเห็นแจ้งแก่ตนเองว่าไม่ช้าไม่นาน ทั้งอาเพศ,ภัยร้าย,ทุกข์เข็ญ,ความอดอยาก,สิ่งอันขาดแคลนและโรคที่ย่ำยีทั้งหลายจะค่อยๆหมดไปอย่างน่าอัศจรรย์ ให้ผู้ใช้อยู่รอดปลอดภัยจากทั้งภัยของมนุษย์ที่พยายามคุกคาม,ทั้งภัยจากอมนุษย์,ภัยจากธรรมชาติและภัยที่มีอันตรายจนอาจทำให้เจ็บให้ตายได้ เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยมีกินมีใช้ต่อเนื่องไปจนถึงกาลดับซึ่งธาตุสังขาร ทั้งยังส่งเสริมให้มีวาสนาและบารมีเหนือผู้อื่นๆแลมีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพหน้าที่การงานที่คิดจะทำ ได้เป็นเจ้าคนนายคนหรือประสบความเจริญรุ่งเรืองในกิจธุระแห่งตนมีชีวิตขยับเยื้อนเคลื่อนไหวได้แบบก้าวกระโดด

    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญพระนารายณ์ฉันรุ่นนี้
    ไม่ได้ทำไว้ให้ใครเอาไปออกรบตามความเข้าใจผิดๆของคนว่าท่านเป็นพนักงานบู๊ล้างผลาญเช่นนั้น แต่เหรียญนี้เป็นย่างก้าวที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในสังสารวัฏ เพื่อข้ามไปให้พ้นผ่านปัญหาทุกสิ่งไม่ว่าจะปัญหารัก,ปัญหาชีวิต,ปัญหาครอบครัว,ปัญหาสุขภาพ,ปัญหาการทำกิน,ปัญหาดวงตกดวงแตก,ปัญหา...ทุกสิ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปัญหาล้วนข้ามพ้นทั้งสิ้นไม่ต้องเสียเวลาไปแก่งแย่งแข่งขันเลย *** เหรียญนี้เอาเร็วเข้าว่า พูดกันด้วยเวลา เห็นๆอยู่ว่าปัญหามันมีก็แค่ก้าวข้ามมันไปเพียงเท่านี้ไม่ต้องเปลืองตัวลงไปแก่งแย่งแข่งขันกับใคร

    หากชีวิตยังไม่มีที่เหยียบที่ยืนจะทำอะไรก็ยากลำบาก ลงทุนลงแรงเหนื่อยปานจะตาย ไม่มีฐานให้ยึดไม่มีหลักให้เกาะ..ให้ก้าวได้มั่นคง ชีวิตที่ต้องกะโดดบ้าง มีสะดุดบ้าง มีล้มลุกบ้างต้องเจ็บตัวเปล่าเพราะขาดความมั่นคง เหรียญอาถรรพ์วิชาย่างสัปตภูมินั้นย่อมแก้ไขได้ให้เราก้าวขึ้นไปอย่างมั่นคงบนเส้นทางซึ่งมีแรงครูคอยกำหนดชี้ช่องทางตามฉากลีลาแห่งโลกธาตุทั้งหลายจะได้สำเร็จทุกกิจทุกความปรารถนา..เสมอด้วยองค์พระศรีหริย่างพระบาทหนึ่งก้าวก็กวาดผ่านสวรรค์แตะพรหมโลกในร่างพราหมณ์แคระตัวสั้นขาสั้น (นั่นคือทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ทำสิ่งที่ใครๆก็คิดว่าเราทำไม่ได้แม้ใครๆก็ดูถูกเราขนาดคนแขนขายาวดีๆก็ยังทำไม่ได้..แต่องค์นารายณ์ท่านทำได้ ทำให้เกิดขึ้นรวดเร็วทันตาฉับพลันทันที *** ไม่ต้องเปลืองแรงหรือใช้ความพยายาม) เพื่อแก้กฏของกรรมให้คนมีที่ยืนมีชีวิตที่ก้าวหาความสูงส่งได้ด้วยตนเอง เหรียญคุณวิชานี้แม้รับไปก็จะค่อยๆคลายกฏของกรรมออก กฏใดที่ผูกมัดรัดตัวจะย่อหย่อนลงพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ได้ไปทำลายหรือริดรอนเขานะเพราะผิดกฏมหาวัฏจักรหากแต่จะคลายตัวลงจนสิ้นกำลัง อะไรที่ว่ายากในชีวิต ไม่เคยได้รับ ไม่เคยสำเร็จ ต้องเหนื่อยน้ำตาเป็นสายเลือดก็ยังไม่ได้รับ เมื่อกฏของกรรมที่ผูกมัดคลายตัวก็จะได้ขึ้นมาทันที นี่คืออาถรรพ์การก้าวข้าม..ก้าวพ้นเหตุแห่งมหาทุกข์ทั้งเจ็ดแม้ภพภูมิทั้งหลายก็ยังข้ามมาแล้วนับประสาอะไรกับเคราะห์กรรมและอุปสรรค เพื่อให้สาวกคนที่ระลึกถึงองค์ศรีหริทำอะไรก็สำเร็จโดยง่ายเปลี่ยนชีวิตคนได้ง่ายๆทำให้ฐานะเปลี่ยนแปลงทำอะไรต้องได้ผลไม่เหนื่อยและไม่ต้องลงแรงมาก ด้วยการมาปรากฏขององค์ศรีหริคือการสิ้นสุดของกลียุคสิ้นสุดความเดือดร้อนทุกข์ยากความลำบากทั้งหลาย ท่านว่าสรรพชีวิตนั้นล้วนจะเวียนว่ายไปตามกระแสโลกแลกฏแห่งกรรมของตน แต่เมื่อนารายณ์มาทุกข์ต้องไปแม้กลียุคอันชนต้องประสบกันทั้งโลกยังแก้ไขได้เช่นนั้นมหาทุกข์ใดๆในชีวิตเราย่อมถึงจุดสิ้นสุดได้ ###..นี่คือประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าศรีหรินะบอกได้เท่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจุดนี้เราต้องสำรวจตนเองว่ชีวิตเรานั้นผจญอยู่ในมหาทุกข์หรือไม่ โดนใครคดโกงหรือเปล่า ตกอยู่ในความเสื่อมทั้งตัวเราเองที่เสื่อมหรือสังคมรอบข้างที่เสื่อมหรือไม่..มีชีวิตมืดมนหรือไม่..มีชีวิตสับสนวุ่นวายหรือไม่ ซึ่งความมืดมนทั้งหลายนี้เองมักจะมาในเรื่องของการงาน,ความรัก,ปากท้อง,ฐานะ,ปัญหาครอบครัวหรือสังคมแวดล้อม ถ้ารู้ว่าชีวิตหนีจากเรื่องเหล่านี้ไม่พ้นก็ยกให้เป็นเรื่องขององค์ศรีหริพาเราก้าวข้ามไปโดยฉับพลันทันที เพราะพระองค์ลงมาปราบยุค,ล้างอธรรมเป็นหน้าที่ตายตัวที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับมวลมนุษย์

    นอกจากนี้ปกตินั้นพระนารายณ์ตำรับพ่ออาจารย์ก็มีเทวคุณคุณสูงอยู่แล้ว เป็นที่รู้กันว่าใช้ได้ทุกทาง ทั้งหนุนดวง เสริมดวง และยังมีคุณด้านมหาปราบ ปราบสิ่งเลวร้าย ขจัดทำลายอุปสรรคขวากหนามเคราะห์กรรมต่างๆแม้คนทำมาหากินประกอบอาชีพกิจการงานใดๆ พระนารายณ์ของท่านก็จะช่วยเสริมดวงชะตาและหนุนกิจการงานต่างๆให้ดีขึ้น เช่นนั้นคนที่รู้ว่าพระนารายณ์ของพ่ออาจารย์ท่านให้คุณมากจึงมักนิยมกันอยู่มากถึงขนาดว่าแม้ท่านจะแกะสลักองค์ใหญ่เท่าโทรศัพท์ไอโฟนก็ยังมีผู้มีอันจะกินยอมห้อยบูชาไม่ห่างตัว เมื่อพระนารายณ์เสด็จปราบจักรวาลถือเป็นมหาปราบชั้นสูงเหนือเทพ,พรหม,ยม,ยักษ์ทั้งปวง ทั้งคนที่บูชาพระนารายณ์ของท่านถึงมีศัตรูหมู่มารก็จะถึงกาลพ่ายแพ้แก่บารมี มีชัยชนะ มีเดช มีศรี มีตบะเดชะ เป็นมหาอำนาจแก่ผู้พบเห็น เป็นทั้งมหาปราบ มหาอำนาจชั้นสูง ด้วยแรงครูจะผลักให้ชีวิตเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ใช้ป้องกันได้สารพัด แม้นึกคิดสิ่งใดก็สมใจปราถนา กลับดวงจากร้ายกลายเป็นดีได้ จากดีก็ดีมากขึ้นเป็นทวีคูณ รู้ๆกันว่าขอแค่เป็นคนที่เดือดร้อนได้ใช้พระนารายณ์ตำรับพ่ออาจารย์แล้วที่เห็นๆมาก็ได้ผลดีชีวิตก้าวหน้าไม่ตกยากทุกราย พลิกดวงชะตาให้ดีขึ้นได้หมด ดุจพระนารายณ์อวตารลงมาปราบยุคเข็ญให้แผ่นดินร่มเย็นทั้งพลิกฟ้าหนุนดวงชะตาชีวิตให้ดีขึ้นได้ ซึ่งก่อนหล่อเหรียญนี้พ่ออาจารย์ท่านต้องหลอมรีดธาตุกายสิทธิ์ลงคาถา"นารายณ์ก้ามข้ามสัปตภูมิ" เป็นประธานแก่วิชานารายณ์ทั้งหมดก่อนจะลงแผ่นชนวนนารายณ์อวตารทั้งสิบปางใหญ่เป็นชนวนสำคัญในการหล่อรูปครูเพื่อจะทำพระนารายณ์ตำรับฮินดูอย่างแท้จริง ทั้งยังเตรียมมวลสารที่เกี่ยวเนื่องด้วยการทำวิชาของพระนารายณ์ทั้งสิ้นเอาไว้เป็นการเฉพาะด้วยได้แก่แผ่นชนวนที่ได้การถอดยันต์นารายณ์อวตาลทั้งร้อยแปดปางลงจารลงถมย่อสูตรพิศดาร,ชนวนนารายณ์เปิดโลก,ชนวนแผ่นจารนารายณ์ปราบเก้าโลก,ชนวนวิชานารายณ์สิบปาง,ชนวนวิชานารายณ์เบิกฟ้า,ชนวนวิชานารายณ์เบิกป่า,ชนวนนารายณ์เบิกบาดาล,ชนวนโองการพินธุนารายณ์,ชนวนนารายณ์ปราบไตรจักร,ชนวนนารายณ์พลิกแผ่นดิน,ชนวนนารายณ์กลึงจักร,ชนวนนารายณ์เกลื่อนสมุทร,ชนวนนารายณ์ตวาดป่าหิมพานต์,ชนวนนารายณ์เตล็ดไตรจักร,ชนวนนารายณ์ขว้างจักร,ชนวนนารายณ์ทรงเมือง,ชนวนนาราย์ถอดรูป,ชนวนนารายณ์แปลงรูป,ชนวนนารายณ์บันลือสีหนาท..ท่านได้นำชนวนสำคัญนี้มาหล่อหลอมเป็นแท่งก่อนจะแช่น้ำมนต์ปลุกเสกวาระหนึ่งก่อนพ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อทำพระนารายณ์แล้วจะให้ชีวิตคนใช้ร้อนเกินไปไม่ได้ จะดุเกินไปก็ไม่ได้ เพราะคติแต่โบราณเจ้านายเหนือหัวก็เชื่อกันนักหนาว่ารูปพระนารายณ์นี้เป็นของร้อน พ่ออาจารย์ท่านว่าหากทำเป็นจะไม่ร้อนเลยซ้ำด้วยคุณพระนารายณ์จริงๆนั้นเป็นเทวะกษัตริย์ที่มีทุกสิ่งบริบูรณ์เพียบพร้อมจนหาสิ่งใดเสมอไม่ได้ ท่านว่าเสกประจุคุณตั้งแต่เป็นแท่งชนวนเพื่อจะทำรูปพระนารายณ์อวตารให้เกิดคุณสูงสุดกับมนุษย์เท่านี้องค์นารายณ์ก็จะบรรดาลให้สิ่งที่พวกเธอปรารถนาสำเร็จประสงค์
    *** พ่ออาจารย์ท่านเสกชนวนจนท่านได้รับข่าวจากองค์ศรีหริแจ้งมาว่า ยุคนี้โลกตกต่ำลงสู่กลียุคอย่างรวดเร็วฉับพลัน วิชาทั้งหลายนั้นได้สถาปนาไว้ในการณ์ปกติไม่สามารถจะใช้ระงับเหตุหรือจะคุ้มโทษโทสาได้ มีแต่เราเท่านั้นที่จะนำแสงสว่างมาแทนที่ความมืดและสถาปนาความสุขนิรันดร์ให้เกิดแก่สรรพชีวิตได้ ว่าพลางก็เกิดรูปข้ามโลกสัปตภูมิขึ้นมาโดยการนิรมาณกายของพระผู้เป็นเจ้า พ่ออาจารย์ท่านจึงปั้นหุ่นเทียน..และเททองหล่อองค์พระ

    ด้านหลังองค์พระฝังตะกรุดโทนเนื้อเงินอันมีนามว่า.."ตะกรุดเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพู"

    ที่สุดแห่งตะกรุดครูตำรับพระวิษณุนารายณ์ที่พ่ออาจารย์ท่านได้เพียรสร้างและเสกเอาไว้เป็นอย่างดี โดยเน้นให้เฉพาะคนที่มีความทุกข์เผชิญหน้าอยู่ในกาลแห่งทุกข์เท่านั้นได้เอาไปบูชาถึงขนาดที่ว่าคนสิ้นไร้ไม้ตอก..ไม่มีเรือนคุ้มหัว..ไม่มีที่อยู่อาศัย..บ้านจะโดนยึดอยู่แล้วนั่นแหละยังพลิกร้ายกลับกลายเป็นความสุขได้มีกิจการใหญ่โตได้ ท่านจึงว่าวิชานี้ช่วยให้เจริญรุ่งเรืองได้ไวที่สุด .....ย้อนหลังไปเมื่อสามปีก่อนนั้นพ่ออาจารย์ท่านมีนิมิตรถึงครูสมเด็จโตได้แนะนำวิชาพระเจ้าเสี่ยงบารมี ท่านจึงจดจำไว้ด้วยว่าเป็นวิชาสำคัญในองค์สมเด็จบรมครูท่าน หลังจากนั้นท่านจึงได้ลงตะกรุดขึ้นมาแต่ตะกรุดชุดนั้นขรัวโตได้นิมิตรบอกท่านเสมอว่ายังไม่สมบูรณ์ยังใช้ไม่ได้พ่ออาจารย์ท่านจึงนำตะกรุดเหล่านั้นไปเป็นชนวนหล่อพระต่อไป จนกระทั่งท่านได้ลงตะกรุดเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพูนี้ท่านจึงนำวิชาพระเจ้าเสี่ยงบารมีมาลงเสริมเข้าไปจึงเป็นอันว่าใช้ได้และสอดรับกันอย่างถึงที่สุด

    ตะกรุดเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพูนี้เป็นเวทย์วิชาหนึ่งที่พ่ออาจารย์อธิบายว่า พระนารายณ์นั้นท่านเป็นใหญ่ในตรีโลก เวลาโลกไหนเขามีเรื่องเดือดร้อนปั่นป่วนจะเป็นธุระท่านต้องไปแก้ไขคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆเสมอ แม้จะร้ายแรงถึงขั้นปราบปรามก็ทรงต้องทำเอาว่าเรื่องร้าย,กาลแห่งทุกข์,ความเดือดร้อน,กลียุคทั้งหมดทั้งสิ้นฉิบหายหมด เหลือแต่ความสุขสงบและสันติภาพด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้อวตารลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อจะล้างโคตรยักษ์มารและอสูรใจพาลทุจริตทั้งหลายตนแล้วตนเล่าให้สิ้นโลก พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าวิชานี้ไม่มีคนทำและท่านอยากให้ผู้ที่มีบุญญาบารมีคู่ควรแก่กันได้ใช้เป็นของคู่กาย จึงได้เสี่ยงสัตย์ขอองค์ศรีหริวิษณุนารายณ์เสียซักหนซึ่งท่านก็ได้อนุญาติให้พ่ออาจารย์ทำไว้เพื่อใช้ฝังเหรียญย่างก้าวสัปตภูมิอีกครั้งหนึ่ง

    ตะกรุดเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพูนี้ด้วยอาศัยคุณแห่งศรีหริวิษณุเทพเป็นปฐม มีคุณยิ่งใหญ่สามารถเบิกฟ้าเบิกดินเปลี่ยนชีวิตที่มืดมิดก็ให้พลันสว่าง
    ที่ว่าอับเฉาแห้งเหี่ยวไปก็ให้กลับอุดมสมบูรณ์เรียกว่าเปลี่ยนฟ้าเปลี่ยนชีวิตกันทีเดียว ที่แล้วก็แล้วกันไป..ดุจว่าเบิกฟ้าใหม่..รับอรุณดวงใหม่..มีชีวิตใหม่ ซ้ำยังมีอานุภาพเป็นมหาปราบคือปราบหมดซึ่งเสี้ยนหนามอุบาทวอันตรายทั้งปวง ท่านว่าทั้งสกลชมพูทวีปนี้หามีใครเอาชนะเราได้ไม่ ป็นที่สุดแห่งชัยชนะ จะทำการณ์กิจสิ่งใดแพ้ใครเขาไม่เป็นปราบทั่วทั้งชมพูมีชัยทั่วพื้นพระธรณีด้วยอานุภาพแห่งตะกรุดนั้นพ่ออาจารย์ได้ชักยันต์ลงวิชาโดยที่ระหว่างลงนั้นท่านได้กลั้นใจทำคาบสมาธิร่ายประสิทธิ์ด้วยเวทย์วิษณุมนต์เพื่อให้ตะกรุดนี้เป็นมากกว่าวิชานารายณ์หรือเป็นเพียงวิชาสามัญธรรมดาทั่วไป แต่ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเปรียบเสมือนหนึ่งเป็นครูพระนารายณ์โดยแท้จริงที่ผู้บูชาสามารถเข้าถึงได้ด้วยศรัทธา เมื่อลงรูปปลุกยันต์นั้นท่านได้ลงจารเป็นนารายณ์สะกดมารไว้ใต้ฝ่าเท้าซึ่งท่านว่าวิชานี้มีอาถรรพ์แรงนักแต่โบราณครูบาอาจารย์จึงไม่นิยมลงปลุกกันเพื่อมอบให้ศิษย์หากไม่รักและเชื่อใจกันจริง ด้วยท่านว่ายักษ์นั้นเป็นตัวแทนของความทุกข์อวิชชา ความตกต่ำยากแค้นลำบากจะเรียกว่าตัวนนทกหรือนนทุกข์ก็ได้ ไอ้ตัวทุกข์หรือเจ้าแห่งความทุกข์นี่แหละที่พระนารายณ์ท่านเหยียบท่านสะกดไว้เป็นอุบายที่ความทุกข์ยากลำบากทั้งหลายแต่นี้ต่อไปอย่าได้บังเกิดมี เพราะท่านข่มท่านระงับไว้เสียหมดเช่นนั้นซ้ำยังเป็นมหาอำนาจที่ตัวเราเองนั้นจะยิ่งใหญ่อยู่จุดสูงสุด ท่านว่าต่อให้มีผู้เรืองอำนาจเพียงไหนเราเหยียบหัวคนเขาอื่นขึ้นไปหมดเขาจะเคารพเทิดทูนเรานัก

    ตะกรุดดอกนี้เป็นตะกรุดสำคัญเนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านได้ลงวิชาพระเวทย์วิษณุมนต์ไว้
    ปลุกพระนารายณ์ให้ตื่นให้ท่านข่มท่านต่อต้านความทุกข์ตลอดเวลา *** ซ้ำด้วยอานุภาพแห่งพระนารายณ์นั้น โดยปกติยังได้ชื่อว่าเป็นอริกับดาวบาปเคราะห์ทั้งหมดด้วย ก็พระนารายณ์นี่เองที่ขว้างจักรตัดกายพระราหูขาดดังนั้นพระราหูจึงเกรงกลัวพระนารายณ์มากใครมีตะกรุดนี้อยู่ท่านว่าราหูเขาหนีไกลร้อยโยชน์พันโยชน์ ยิ่งดาวบาปเคราะห์ที่ทรงอานุภาพสูงสุดอย่าพระเสาร์หรือศนิเทพก็ยังเป็นศิษย์ให้ความเคารพสูงสุดแก่พระนารายณ์เมื่อเห็นคนที่มีญาณแห่งพระนารายณ์แฝงและคุ้มครองแล้วแม้จะเป็นศนิเทพก็ย่อมจะอวยชัยให้พรไม่เข้ามาทำร้ายด้วยเคารพในครูพระนารายณ์นั่นเอง ใครที่กลัวดวงจะตกจะต้องเคราะห์กรรมคอยเป็นกังวลกับชะตาชีวิตปีนี้ดาวไหนจะจรดวงจะตกไหมจะชงไหมจะแก้อย่างไร จุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ลงวิชาพิเศษกำกับไว้เสริมให้ตะกรุดนั้นมีคุณยิ่งขึ้นไปอีกในทางต้านเคราะห์กรรมด้วยวิชาพรหมหนุนดวง อาศัยบารมีพรหมในปัญจสุทธาวาสมหาพรหมชักยันต์เชิญครูประสิทธิ์วิชา ถึงขนาดที่ท่านบอกเอาไว้ว่าวิชานี้ติดตัวไว้สบายไปเจ็ดชั่วชีวิตเพราะว่าทุกข์มันหนีไกล ช่วยไม่ได้อย่างเดียวคือตอนถึงที่ตายหากไม่ถึงคราวตายอะไรก็ทำลายเราไม่ได้ ท่านว่าวิชานี้สำคัญเพราะคนใช้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียวไม่มีตกต่ำ แต่คนใช้อย่าใช้ในทางที่ผิดอย่าทำลายตนเองก็พอมีข้อห้ามอยู่สองอย่างคืออย่าทำลายตนเองและก็อย่าตายนอกนั้นถือขึ้นหมด

    ท่านว่าตะกรุดดอกนี้สำคัญนัก
    เพราะเป็นเมตตาแห่งครูบาอาจารย์ที่ประสงค์จะช่วยสัตว์อันผจญเวรผจญกรรมหลงอยู่ในห้วงวัฏสงสารในทั้ง 31 ภพภูมิให้หลุดออกจากทุกข์ด้วยกรุณาแห่งพระวิษณุนารายณ์ โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ลงวิชาไว้สองส่วนผสานกันกลืนกันทั้งพุทธศาสตร์และไสยศาสตร์ ด้วยว่าจะทำให้ผู้บูชานั้นเจริญรุ่งเรืองอย่างที่สุดซ้ำยังไม่ตกไปในอวิชชาความเลวร้ายมายาภาพทั้งหลายอันจะเป็นเหตุให้ตกสู่อบายภูมิด้านในตะกรุดท่านจึงลงวิชาเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพูไว้และกำกับด้วยพระเจ้าเสี่ยงบารมี
    - วิชาพระเจ้าเสี่ยงบารมีนั้นเป็นวิชาสำคัญ อาศัยเหตุที่พระมหาโพธิสัตว์จะได้ตรัสพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าและจะได้มีชัยแก่กองทัพของพญาวสวัตตีมาราธิราช ซึ่งเป็นกองทัพใหญ่ที่แม้แต่จอมเทพอย่างพระอินทร์หรือท้าวมหาพรหมทั้งหลายก็ยังหวาดกลัวได้หนีการอารักขาออกไปไกลเสียขอบจักรวาฬ เป็นเหตุให้พระมหาโพธิสัตว์เจ้าได้อธิษฐานเสี่ยงบารมีจนพระแม่ธรณีได้หลั่งอุทกธารามาพัดพากองทัพพญามารนั้นหายไปสิ้น วิชานี้ที่ว่าสำคัญนั้นเพราะท่านว่าเป็นปกติที่คนเกิดมามีชีวิต จะเป็นที่พึงรักพึงชังกับสัตว์ทั้งหลาย ที่รักก็ดีไป แต่ที่ชังนั้นด้วยจิตใจมนุษย์ในปัจจุบันนี้ มีแต่จะอิจฉาริษยากันรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกคราวไป ท่านว่าต่อไปใจมนุษย์นั้นจะหยั่งยากเสียยิ่งกว่ายาก น้ำใจนิสัยก็จะพาลอำมหิตขึ้นกว่าแต่เก่าก่อน ความอาฆาตริษยามาตรร้ายจ้องแต่จะทำลายซึ่งกันและกันจะมีปรากฏไปทั่ว แม้แต่มิตรหรือญาติสนิทก็จะทำลายกันด้วยเหตุของผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย ท่านว่าสังคมอยู่ยากขึ้นกว่าเดิม วิชาพระเจ้าเสี่ยงบารมีนั้นเป็นวิชาที่เราไปอาราธนามหาบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในนิพานทุกพระองค์มาเกื้อกูลผู้บูชา ไม่เพียงแต่ศัตรูผู้คิดร้ายจะทำร้ายเราไม่ได้ ซ้ำยังจะแพ้ภัยตนเองและตกไปอยู่ในห้วงกฏแห่งกรรมต่อไป ซ้ำวิชานี้ยังสำคัญนักเมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน ปรารถนาจะเสี่ยงโชคลาภหรือปรารถนาจะเสี่ยงดวง จะแข่งขัน จะสอบ จะเข้าหาผู้ใหญ่ จะไปเผชิญอันตราย หรือทำสิ่งใดที่เราคิดว่ายากนะ มันไม่สามารถเป็นไปได้นะ มันไม่น่าจะสำเร็จนะ ท่านว่าให้ยกมือไหว้ตะกรุด นึกถึงคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์และสมเด็จโตเป็นที่สุดเถิด อธิษฐานขอบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อน จะให้ท่านช่วยอะไรเหตุผลไหนเพราะอะไรก็กล่าวไปท่านว่าสำเร็จทั้งสิ้น

    ตะกรุดดอกนี้แม้อาราธนาไว้กับตัวจะเป็นตบะเดชะ กันโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายและกันคุณไสยอวิชชาการกระทำย่ำยีทั้งปวง อาราธนาไปที่แห่งใดท่านว่าเราชนะเขาทั้งสิ้นตรงนี้สำคัญนัก *** พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้อยากให้เป็นเสน่ห์ท่านว่าจะเป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุดเหลือประมาณ โดยให้ผู้บูชาตั้งใจระลึกถึงคุณของพระวิษณุนารายณ์อาราธนาตะกรุดลงแช่น้ำ แล้วเอาน้ำนั้นมาสระหัวเสียท่านว่าใครเห็นใครก็รักเป็นเสน่ห์เมตตา แม้นั่งภาวนานึกถึงผู้ใดแบบเฉพาะเจาะจงท่านว่าคนผู้นั้นรักเราจนโงหัวไม่ขึ้นด้วยคุณแห่งพระนารายณ์ การใช้วิธีนี้ท่านว่าไม่จำเป็นต้องใช้ทางเสน่ห์กับเพศตรงข้ามเสมอไปจะใช้ให้เจ้านายรักเอ็นดูก็ได้ ท่านว่าแม้ทำผิดมีโทษหนักถึงตายยังอภัยได้เพราะเอ็นดูเรานัก แม้คนอื่นจะโหดร้ายคลุ้มคลั่งอย่างไรก็กลับกลายเป็นรักใคร่เราได้ เชื่อมั่นและภักดีกับเราแบบไม่เสื่อมคลายเป็นความรักแบบพิเศษเพราะเป็นรักที่ให้ความเคารพนั่นเอง

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงวิชาเต็มสูตรแล้วท่านต้องประกอบพิธีปลุกเสกแยกกันถึงสามวาระ โดยวาระแรกท่านชุมนุมครูบาอาจารย์อธิษฐานจิตตามพุทธศาสตร์เชิญองค์สมเด็จโตบรมครูมาช่วยเปิดและครอบวิชาทำทีละดอกทีละแผ่น หลังจากนั้นจึงบวงสรวงพระวิษณุนารายณ์ปลุกเสกตามพระเวทย์คติฮินดูจนมั่นใจว่ามีบารมีมีญาณของพระวิษณุนารายณ์สถิตย์อยู่แล้ว จึงนำมาอธิษฐานจิตรวมปลุกวิชาต่างๆอีกคำรบหนึ่ง ถือเป็นครั้งแรกที่พ่ออาจารย์ท่านได้มีการจัดสร้างตะกรุดวิชาครูพระนารายณ์แบบลงพระเวทย์สองสายผสานเต็มสูตร


    พ่ออาจารย์ท่านเชิญคุณพระนารายณ์ประสิทธิ์ไว้จนบริบูรณ์แล้ว ท่านว่าเมื่อโลกเดือดร้อนคนก็นึกถึงพระนารายณ์ให้มาแก้ไขทุกครั้งไป แต่ครานี้ฉันขอเอาไว้ไม่ใช่ให้ท่านแก้ไขโลกหากแต่ให้มาแก้ไขชีวิตพวกเธอ ใครที่กรรมหนักก็เอาท่านไปช่วยสะเดาะเคราะห์ เพราะท่านจะปรากฏรูปมาขับไล่ความชั่วร้ายเลวทรามทั้งหลาย ให้สังเกตดูตัวเองเลยว่าที่ผ่านมานี้มีเคราะห์ โทษ ทุกข์หรือยัง มองให้ออกว่าชีวิตตัวเองสิ่งเหล่านี้เข้ามาหาหรือยัง ที่บ้านมีความสุขดีไหม ครอบครัวมีความอบอุ่นดีหรือเปล่า ทำมาหากินสะดวกสบายเหมือนก่อนหรือเปล่า ครอบครัวทะเลาะกันบ่อย ไม่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อน การงานมีปัญหาโน่นปัญหานี่จุกจิก ทั้งเจ้านายลูกน้องไม่เกื้อกูลอุดหนุนเราทำมาค้าขายทำธุรกิจการงานเงียบเหงาซบเซามีปัญหาแล้วทำมาหากินไม่ขึ้น...ทำอะไรไม่เจริญ นั่นแหละท่านว่าให้เอาองค์นารายณ์นี้สะกดทุกข์ไว้ ความทุกข์ที่ทำให้ใครตกต่ำย่ำแย่ไปตามๆกันจะไม่เกิดขึ้นแก่เราเลยถ้าเราอยู่ในความคุ้มครองของพระนารายณ์

    คาถาบูชา
    โอม นารายะนายะ วิทัมเห วาสุเทวายะ ธีมะหิตันโน วิษณุ ประโจทะยาต
    โอม สะศางขะจักรัม สะกิริฏะกุณตะลัม สปิตะวัสตรัม สะระสีรูเหกษณัม สะหาระวักษะสถะละ เกาสตุภะศริยัม นะมามิ วิษณุม ศิระสา จตุรภุซัม


    เหรียญข้ามสัปตภูมินี้เมื่อเสกท่านได้นำไปแช่ในน้ำทิพมนต์ โดยใช้น้ำที่ผุดขึ้นตามถ้ำ ตามเศียรพระ และบ่อศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาประกอบพิธีปะสระโลหิตอีกหนหนึ่ง ซึ่งท่านได้ทำวิชาปะสระโลหิตตามธรรมเนียมการสงเคราะห์สัตว์ของพระมหาโพธิสัตว์ในสายพุทธภูมิเพื่อให้เครื่องมงคลนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด และที่สำคัญท่านว่าจะได้ช่วยขนถ่ายความทุกข์นำสัตว์ที่ได้ทุกข์ออกจากทุกข์อย่างฉับไวเสริมส่งกันไปด้วยคุณวิชาเสริมทับลงไปอีก พ่ออาจารย์ท่านรับรู้ได้ว่ายุคสมัยนี้คนที่ดีก็จะดียิ่งๆขึ้นไป ส่วนที่ร้ายก็จะเกิดทุกข์ภัยลำบายากจน เป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ท่านว่าต่อให้ขยันอย่างไรก็มีแต่หน้าจะดำคล้ำหมองลงไม่สามารถยืนหรือตั้งตัวได้เพราะไม่มีอะไรจะไปสู้เขาได้ เช่นนั้นท่านจึงพิจารณาให้นำเหรียญสำคัญนี้ออกให้บูชาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ให้เจ้านายรัก-ลูกน้องหนุน แก้ทุกข์ภัยจากดวงตก ดวงไม่ดี เคราะห์ภัยเวรกรรมให้บรรเทาลงโดยพลัน ทั้งจะได้ก้าวขามมหาทุกข์ทั้งหลายในหนึ่งย่างก้าว

    ท่านว่าตอนเสกนั้นท่านทำพิธีปลุกเสกใหญ่ต้องขึ้นครูด้วย หัวหมู บายศรี ค่าครู หมากพลู บุหรี่เปิดทั้งสิบหกชั้นฟ้า สิบห้าชั้นดิน สิบสี่ชั้นบาดาล เชิญครูทุกทิศทุกทางมาช่วยเสก ต่อไปคนใช้ชีวิตเขาจะได้เปิดทั้งหมดไม่มีสิ่งใดมาปิดกั้นเอาไว้ได้...หากจะบนบานศาลกล่าวองค์พระศรีหริท่านพ่ออาจารย์ท่านว่าให้บนง่ายๆ โดยบนด้วยดอกดาวเรืองเก้าดอก(ชีวิตจะได้รุ่งเรืองเหมือนชื่อ) และเหรียญสำคัญนี้ท่านว่าเวลาเอาติดตัวไว้ ***เมื่อเรามีภัยเขาจะจะขยับสั่นเตือนเป็นการบอกกล่าวเราล่วงหน้า พ่ออาจารย์ท่านว่าหากวันไหนเหรียญสั่นก็ให้รู้ไว้ว่าวันนั้นจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างใดอย่างหนึ่งกับชีวิตเราแน่นอน ให้แก้กันล่วงหน้าด้วยการอธิษฐานเอาเหรียญทำน้ำมนต์ดื่มกินลูบหน้าลูบตถ้าจะให้ดีก็อาบไปเลยอธิษฐานให้ชีวิตก้าวพ้นอุปสรรคทั้งหลาย แล้วค่อยออกไปทำงานไปใช้ชีวิตตามปกติ หากทำได้ดังนี้จากภัยก็จะเปลี่ยนเป็นโชคเป็นความสุขความสำเร็จเช่นนั้น ด้วยชีวิตคนนั้นก็เป็นเสมือนดอกบัวพ่ออาจารย์ท่านว่าให้เลือกเอาเองว่าจะอยู่ในโคลนในตมหรือเลือกที่จะเป็นบัวซึ่งโผล่พ้นโคลนตมขึ้นมาแล้ว เพราะเหรียญนี้ที่ครูท่านให้ทำไว้ก็ด้วยเหตุที่ว่าจะได้เป็นทุกอย่างให้กับคนใช้ เป็นทั้งวาสนาบารมีให้กับบุคคลที่ไร้วาสนา แม้มีกาลทุกข์กาลร้อนหรือมีเหตุอาเพทใดกับชีวิตก็ให้ตั้งจิตบอกครูท่านเถิด ให้จำไว้ว่าเธอจะไม่มีวันตกอับตกต่ำกว่าใคร คำว่าอดอยากยากจนหม่นหมองสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ให้อธิษฐานเอาให้ดีจะได้ผลยิ่งกว่าถือแก้วมณีโชติแก้วสารพัดนึกเหล่านั้นเสียอีก จำเอาไว้ให้ดีว่าเหรียญนี้ปราบได้ทั้งหมด เราพูดมากไปกว่านี้ไม่ได้แต่เอาว่าปราบได้ทั้งสิ่งที่ตาเธอมองเห็นแล้วก็มองไม่เห็นก็แล้วกัน

    *** พ่ออาจารย์ท่านทำวิชาลงจารอาถรรพ์พระเจ้าข้ามโลกให้ทุกเหรียญเพื่อเบิกชีวิตผู้อาราธนาให้ก้าวข้ามอุปสรรคใดๆได้ฉับพลันทันที รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วยท่านจะเจิมประสิทธิให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญข้ามโลกสัปตภูมิพระเจ้าข้ามเจ็ดมหาทุกข์ (เหยียบสวรรค์หริรักษ์จักรแก้ว) บูชา 2,500 บาท

    95675360-2638009889860129-1955916647625654272-n.jpg 97535449-2607230916266545-5461701308056600576-n.jpg
    97028936-313210306327868-1867351136332152832-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำเอาไว้ว่าวิชาก้าวข้ามโลกสัปตภูมินี้มีอาถรรพ์มากดุจการเหยียบสวรรค์ก็ลำบากเพียงยกขาแล้วก้าวข้ามเพียงข้างเดียว(อุปมาถึงเหยียบจุดสูงสุดในชะตาชีวิตตนได้ไว) วิชานี้ท่านว่าทำได้แค่หนเดียว ทั้งตะกรุดเบิกฟ้าบรมครูพระนารายณ์ปราบชมพูปกติก็ดอกนึงตกสี่พันแล้วทั้งยังหมดไปนานหลายปีหนนี้ท่านลงจารย่ออักขระใช้ความเพียรมากจึงมั่นใจได้ว่าต้องเป็นตะกรุดที่ใช้ใจใช้พลังจิตทำสูงกว่าปกติแน่นอน *** บอกได้แค่ว่ารุ่นนี้ถ้าไม่ดีจริงท่านไม่เอามาห้อยเอง
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    พระนารายณ์

    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็มาทำความรู้จักพระนารายณ์กันคร่าวๆก่อนนะ

    พระนารายณ์หรือพระวิษณุหนึ่งในมหาเทพแห่งตรีมูรติ เทพผู้ปกป้องโลกและสวรรค์ให้พ้นจากภยันอันตรายทั้งปวงเป็นผู้ทรงเทวานุภาพในการกำจัดความชั่วร้ายทั้งหมด อสูรทุกตนต่างเกรงกลัวพระนารายณ์ขึ้นสมอง
    *** ชนทั้งหลายมักนิยมขอพรพระองค์ให้ชีวิตมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข ประสบความสำเร็จในการศึกษาวิชาการต่างๆ หากผู้บูชาพระองค์เป็นคนดีจะทรงประทานโชคลาภวาสนาอย่างอัศจรรย์ รวมทั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์อัปมงคลควรจะทำการบูชาพระนารายณ์เพื่อแก้เคล็ดลบล้างสิ่งชั่วร้ายนั้นและเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล โดยจะต้องจัดทำพิธีบูชาภายใน 10 วันนับจากเกิดเหตุนั้นๆ

    หน้าที่สำคัญของพระนารายณ์คือการอวตารลงมาปราบทุกข์เข็ญบนโลกให้หมดสิ้นไป โดยจะจุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์หรือเข้าไปอยู่ในร่างของมนุษย์ การอวตารของพระองค์จะเป็นไปตามโองการของพระศิวะหรือการอัญเชิญขอร้องจากหมู่เทวดา การอวตาร 1 ครั้งเท่ากับ 1 ปางและพระองค์มีหลายปางเกินจะนับได้ซึ่งปางสำคัญที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันคือรามาวตารอวตารเป็นพระรามมาปราบทศกัณฐ์และกฤษณาวตารอวตารเป็นพระกฤษณะเพื่อขับรถม้าให้พระอรชุนในศึกมหาภารตะ

    เชื่อกันว่าพระวรกายของพระนารายณ์จะเปลี่ยนสีไปตามยุค ฉลองพระองค์เยี่ยงกษัตริย์มีมงกุฎทองอาภรณ์สีเหลือง มี 4 กร ถือ สังข์ จักร ตรี คทา แต่ที่พบเห็นบ่อยที่สุดคือถือ จักร สังข์ และคทาส่วนอีกกรจะถือดอกบัวหรือเป็นท่าประทานพรโดยไม่ถืออะไรเลย โดยปกติพระองค์จะทรงประทับอยู่ที่เกษียรสมุทรทรงบรรทมอยู่บนหลังอนันตนาคราชมี“พระลักษมีมหาเทวี”เป็นพระชายาคู่ใจคอยดูแลปรนนิบัติอยู่ข้างๆเสมอ และพาหนะของพระนารายณ์ก็คือพญาครุฑ

    *** พระวิษณุหรือพระนารายณ์เป็นเทพเจ้าแห่งความรุ่งเรือง ทั้งยังมีความเมตตา กรุณา มีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองโลกมนุษย์สรรพสิ่งทุกชีวิตให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย และพระองค์ยังปรารถนาให้มนุษย์อยู่กันอย่างเป็นสุข ตามความเชื่อของชาวฮินดูโดยส่วนมากผู้คนมักไปกราบไหว้สักการะขอพรจากพระวิษณุหรือพระนารายณ์ให้ช่วยปกป้องคุ้มครองให้ตัวเองร่มเย็นเป็นสุขและให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง

    6a0120a900565d970b01310f674941970c.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่กีรติศักดิ์ EI 8931 9325 4 TH

    พี่กษิดิ์เดช EI 8931 9326 8 TH

    พี่ศิระ EI 8931 9327 1 TH
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    คนที่ฝากเลี่ยมไว้วันนี้มีฝากเลี่ยมกันหลายชิ้น อาจจะส่งของรอบบ่ายๆหรือถ้าไม่ทันก็ต้องพรุ่งนี้นะครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรหมพล EI 8931 8701 5 TH

    พี่วุฒิชัย EI 8931 8702 4 TH

    พี่วรธัช EI 8931 8703 8 TH

    พี่ณธพรหม EI 8931 8704 1 TH
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    ใครชอบเครื่องมงคลประเภทแกะสลักทีละชิ้น ที่ได้ชื่อว่าทำยากที่สุดและทรงคุณค่าที่สุดเพราะท่านไม่ค่อยทำออกมาให้ใช้กันมากเท่าไหร่ใครชอบของพิเศษแบบที่พ่ออาจารย์ท่านนั่งแกะเองทีละชิ้นพรุ่งนี้รอไว้ได้เลย ยิ่งท่านแกะขึ้นจากของหายากที่เคลื่อนไหวย้ายหนีอยู่ใต้ดิน(กว่าจะเอาขึ้นมาได้วุ่นวายเอาเรื่อง) และของเช่นนี้ทำได้ไม่มากเลย
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ใครชอบงานฝีมือแบบสร้างยากๆ วันนี้ติดตามกระทู้รอบเย็นกันดีๆนะครับ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นถ่ายกรรมเพิ่มบุญสอดประสานแบ่งเบามหันต์โทษ (สูบแสนฟ้าลบถ่ายบรรจุกรรม)

    วิชาทำหุ่นถ่ายกรรมของพ่ออาจารย์นั้น นอกจากวัตถุประสงค์หลักตามชื่อหุ่นแล้วท่านยั่งเน้นให้เป็นพยนต์ใช้เฉพาะทางที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วย ท่านว่าพยน์ถ่ายกรรมนอกจากจะใช้ถ่ายถอนกรรมได้ยังต้องใช้ทางดับทุกข์ ดับภัย ดับเคราะห์กรรม ระงับเหตุร้าย ระงับอันตราย ระงับเรื่องไม่ดีทั้งหลาย ทั้งยังใช้กันภัย กันความเดือดร้อนได้ทุกอย่างปราบเขาได้ทั่วสยบเขาได้ทั้งโลกเช่นนี้จึงจะครบสูตรย่อมระงับดับพิษ,ดับภัย,ดับอุปสรรคปัญหาอันตรายใดๆไม่ให้เข้ามาใกล้ชีวิตได้เช่นนั้น เมื่อได้เอาติดตัวไว้ชีวิตก็จะสดใสทุกข์ภัยไม่มีเขาจะแก้กันปัญหาให้ทั้งหมดแรงกรรมจะเสื่อมถอยคราเคราะห์จะหมดไป ระงับดับเรื่องร้อนเรื่องร้ายเรื่องไม่ดีทั้งสิ้น จะใช้ปราบใช้ข่มคู่แข่งขันก็ทำได้ทุกด้านไม่ว่าจะเรื่องรัก,เรื่องงาน,เรื่องส่วนตัวสารพัดเรื่องเรียกว่าช่วยถึงใจช่วยในทุกช่วงทำนองแห่งชีวิตไม่ทิ้งกันเพราะพ่อหุ่นเขาเก่งนักสยบได้ทั้งหมดทั้งมายาศาสตร์แลเวทย์มนต์กลใดย่อมไม่มีผลแก่เราทั้งสิ้น มีอานุภาพทางป้องกันอันตรายทั้งบนบกในน้ำและอากาศและยังเป็นมหาอำนาจข่มศัตรูทุกกรณีเป็นเดชเดชะชนะไพรีได้ทั้งปวง *** ท่านว่าหุ่นถ่ายกรรมนี้เน้นไปที่พวกมีบารมีมาก มีบุญเยอะ มีวาสนาสูงให้ถ่ายของเขามาส่วนหนึ่งสะสมซึมซับเข้าตัวเรา ปกติเวลาชีวิตไปเจอดาวข่มเจอพวกที่มียศมีบารมีมากกว่าข่มจะทำตัวกันไม่ถูกท่านจึงทำหุ่นนี้ขึ้นด้วยว่าผ่านไปทางไหนเจอใครก็เอาดีเข้าตัวเราเสียให้ได้ทั้งหมด

    นอกจากหุ่นจะถ่ายกรรมหนักเบาให้กับเราแล้วยังสะกดข่มเรื่องราวและปัญหาที่เข้ามาถึงตัวเราสารพัดเรื่องเป็นประจำทุกเช้าค่ำด้วย โดยเฉพาะคนที่ต้องเผชิญเคราะห์ภัย,ทุกข์เข็ญ,เวรร้าย,คนที่ดวงไม่ดี,โชคชะตาอับ,ราศีเศร้าหมองไม่ผ่องใส เน้นว่าคนที่ชีวิตเรื่องหนักๆ ### พวกมีกรรมมาก มีเรื่องทุกข์มาก หุ่นถ่ายกรรมที่รับแทนตัวเราก็จะยิ่งมีฤทธิ์มากเป็นเงาตามตัว เรียกว่ายิ่งอกุศลกรรมแรง กรรมไม่ดีส่งผลแรงมากกับชีวิตเท่าไหร่หุ่นก็จะยิ่งมีฤทธิ์มากเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าให้อาราธนาติดตัวไว้เถิดชีวิตจะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บและเคราะห์หามยามร้ายทั้งปวงเรื่องร้ายก็จะกลายเป็นดี..เคราะห์หนักก็จักเบาบาง...เคราะห์ดีก็จะยิ่งดีทวีขึ้นแบบฉับพลันทันใด

    ด้วยเป็นหุนที่ใช้เป็นพยนต์คุ้มกายได้จึงใช้ปราบศัตรูหมู่มารปราบสิ่งชั่วร้ายสิ่งไม่ดีกันคุณไสยได้ทั้งสิ้นสุดแต่จะบอกกล่าวพ่อหุ่น นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังเน้นลงวิชาทางโภคทรัพย์ให้เราใช้หุ่นหาเงินได้คล่องมือเพื่อเน้นขับเคลื่อนพลังให้คนใช้มีชัยชนะทางทำมาหากิน,ชนะคน,ชนะจน,ชนะชีวิตทั้งใช้ทางโภคทรัพย์เรียกทรัพย์ได้ตามต้องการ หุ่นนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นของวิเศษสามารถนำพาให้ผู้อาราธนาฟันฝ่าอุปสรรคเคราะห์กรรมที่ไหลเข้ามารบกวนได้อยู่กับผู้ใดนอกจากเปลี่ยนชีวิตให้เจริญในลาภยศมิขาดแล้วยังคุ้มกันสรรพเสนียดจัญไรอีกสารพัดแม้นำติดตัวไปทิศทางใดข้าศึกศัตรูก็จะพ่ายแพ้ไปสิ้นมิอาจทำอันตรายแก่เราได้เลยซ้ำยังเป็นที่รักใคร่แก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง...หากจะใช้พ่อหุ่นหาทรัพย์หาชะตาวาสนาอันมีมากมายในแผ่นดินทรัพย์สมบัติก็จะงอกเงยเพิ่มพูนขึ้นมาจะได้เงินทองมีวาสนามิขาดเลย

    " หุ่นถ่ายกรรมเราจะช่วยทำไว้ให้ตกแก่คนที่สมควร " วิชาทำหุ่นชุดนี้เป็นวิชาที่ครูพระศรีอาริย์เมตตาสอนให้ท่านลงไว้ โดยใช้รากไม้ค้ำฟ้าต้นพิเศษที่ท่านชี้ให้ขุดให้ถอนขึ้นมาซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะรากนี้มีอาถรรพ์เขาเคลื่อนไหวเลื้อยหลบไปมาใต้ดินยากที่จะขุดเจอได้ด้วยเป็นรากที่มีเทพารักษ์รักษามีตบะจากการบำเพ็ญเพียร *** พ่ออาจารย์ท่านว่าของมีจิตมีกายสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัวเองจนถึงขั้นแสดงฤทธิ์ได้เช่นนี้เมื่อทำสำเร็จแล้วจะช่วยคนไปได้ตลอดชีวิตทั้งต้องให้องค์พระศรีท่านมาชี้ให้ขุดเท่านั้นด้วยเราไม่มีทางรู้เลยว่าอยู่ตรงไหนรากไหนที่มีตบะมีเทพารักษ์บารมีมากปานใดรักษา กว่าจะได้มาจึงหัวหมุนวุ่นวายพอสมควรต้องตั้งเครื่องเซ่นสรวงขอแก่เทพารักษ์ที่รักษาควบคุมเขา ทั้งโดยตัวไม้ค้ำฟ้าเองแล้วก็วิเศษเหนือไม้ชนิดอื่นเพราะไม้นี้ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดในป่าลึกสักเพียงไหนหรือในบริเวณรอบๆจะมีต้นไม้ใหญ่มากมายปกคลุมมากสักเท่าใดแต่ไม้ค้ำฟ้าจะไม่ยอมอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใดๆทั้งสิ้นเรียกว่าเป็นอาถรรพ์ที่ต้องอยู่เหนือผู้อื่นทั้งหมดตลอดกาล ท่านเอาไม้มาลงวิชาเสริมดวงต่อวาสนาเขียนยันต์ปลุกเสกรากไม้คำรบหนึ่งก่อนด้วยถือเคล็ดว่าจะได้ต่อดวงชะตาค้ำชะตาให้สูงขึ้นมีแต่ขึ้นสูงดังดวงตะวันจันทรา..สูงค้ำฟ้าไม่มีทางลงมาได้ไม่ร่วงหล่น ก่อนจะนำไปตั้งขันธ์ห้าบูชาครูทำพิธีชุบไม้อีกหนหนึ่ง ท่านแช่น้ำมนต์ที่ใส่หนามมัยราพปลุกเสกอีกคำรบหนึ่งด้วยองค์พระศรีท่านแนะให้ว่าเป็นเคล็ดโสรจสรงเพิ่มกฤติยาคมแฝดด้วยน้ำแช่หนามไมยราพนี้สิ่งอันไม่เป็นมงคลทั้งหลายภัยพิบัติทั้งปวงจะได้ราบคาบไปทั้งอุปสรรค์ขวากหนามใดๆก็ไม่อาจมาขวางกั้นได้ ทุกอย่างต้องทำในฤกษ์อย่างเคร่งครัดทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องให้องค์พระศรีท่านมาลงอาถรรพ์ทำวิชาให้เองทุกขั้นตอนเพื่อให้ไม้นั้นมีอาถรรพ์เสริมดวงพลิกชะตากลับจากร้ายกลายเป็นดีจากเนื้อในอย่างแท้จริง ทั้งยังขจัดปัดเป่าชำระภัยพิบัติได้ทั้งปวง

    ### หุ่นถ่ายกรรม พ่อเพิ่มบุญ

    หุ่นนี้สร้างขึ้นโดยวิชาเฉพาะในสมเด็จพระศรีอาริย์นอกจากจะมีอานุภาพดังกล่าวไว้ข้างต้นแล้ว
    ยังจะช่วยเพิ่มบุญเน้นหนักให้ผู้ครอบครองถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ทั้งบันดาลทรัพย์เพิ่มลาภยศสักการะศฤงคารปรากฏศักดิ์ศรีเกียรติยศเพิ่มพูนข้าทาสบริวาร เอาว่าสิ่งใดที่ไม่เคยมีต่อไปก็จักได้มี ผู้คนจะเคารพนบไหว้ยำเกรงเรานักหนาดุจท้าวพระยามหากษัตริย์ทีเดียว เพราะพ่อหุ่นเค้าถ่ายกรรมจากเราโดยตรงลงที่ตัวเองแปลงเป็นพลังงานบันดาลด้วยวิชาเพิ่มบุญเติมเต็มสิ่งที่เราขาดเช่นนั้น...พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าหุ่นนี้อยู่ที่ไหน..จะทำอะไร..แม้เธอคิดการณ์ใหญ่เพียงใดก็สำเร็จไร้คนต่อต้าน แม้ชีวิตถูกป้ายสีมีชะตาเลวร้ายก่อนหน้าอย่างไรก็ผ่านไปได้ด้วยพ่อหุ่นจะป้องกันอันตรายอันจะเกิดขึ้นแก่ตัวเธอถึงเป็นภัยพิบัติก็ยังป้องกันได้ให้อยู่รอดเป็นปรกติสุขแต่ฝ่ายเดียว ด้วยว่าใครชีวิตตกอยู่ในคลื่นลมคลำทางไม่เห็นหาทางไม่เจอกาลอันมืดบอดอับจนหนทางนั้นก็จะเสื่อมสูญไปเพราะเขาเป็นหุ่นเพิ่มบุญโดยถ่ายกรรมร้ายในตัวเราเพื่อเปลี่ยนเป็นกรรมดีเข้าตัวเราตามพื้นฐานของกรรมเช่นนี้ ยิ่งมีใครคิดร้ายกับเรามากเท่าไหร่กรรมทั้งหลายจากภายนอกก็จะไปรวมที่ตัวหุ่นนั้นเปลี่ยนให้กลายกลับเป็นเรื่องดีแก่ตัวเราและคนเหล่านั้นก็จะแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด

    แม้เคราะห์กรรมทำให้ชีวิตเราอยู่ผิดที่ผิดทาง เ
    จ้ากรรมนายเวรจะทำให้ดวงชะตาเราพลิกกลับผิดฝาผิดตัวไปโดนเศษกรรมแทนผู้อื่นหรือบททดสอบอันแสนยาวนานของพญามาราธิราชและคณะเทวปุตมารก็ดี...เมื่อมีหุ่นเพิ่มบุญนี้ข้อผิดพลาดและด่านทดสอบทั้งหลายย่อมสงบระงับไปเพราะว่าสิ่งเลวร้ายแม้จะจะรุนแรงเพียงใดจะแกล้งเราอย่างไรทดสอบเราเช่นไรหากผ่านหุ่นนี้ต้องกลับเป็นดีทวิทวีมากขึ้นเท่านั้น ดังนี้ชีวิตที่ถึงคราวเคราะห์ไปติดร่างแหใช้กรรมเเทนคนอื่นก็ดีพ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเหล่านี้แก้ง่ายๆ ..ถ่ายกรรมลงพ่อหุ่นเพิ่มบุญเสีย
    - คนที่ประสบเคราะห์ภัยจากชะตาลิขิตที่เบี่ยงเบน หันเห ผันผวน
    - คนที่เคราะห์กรรมที่ไม่ตรงดวงชะตาหรือฟ้าลงผิดที่ผิดทาง
    - คนที่ถูกให้ร้ายในเรื่องอันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
    - คนที่ชะตาเล่นตลกทุกข์โทษไม่เกี่ยวกับเราแต่ไปๆมาๆแจคพอตมาตกที่เรา
    - คนที่กลับซวยแทนคนอื่นรับกรรมแทนคนอื่นซวยแทนชาวบ้าน
    - คนที่เคราะห์กรรมผกผันมากปมมากเรื่อง สะสมพอกพูนแก้ปมยาก
    - คนที่ชำระเศษกรรมกับคู่กรรมสัมพันธ์ด้วยบททดสอบอย่างหนักหน่วง
    พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างไว้คร่าวๆแต่เอาให้จริงแล้วมีอีกหลายกรณี ท่านว่านี่แหละยิ่งกรรมมาแรงหุ่นเพิ่มบุญก็ยิ่งตอบสนองแรงให้คุณแรงแก่เรามากเท่านั้น เช่นนั้นเราจึงรู้ตัวเองที่สุดว่าตัวเรามีกรรมแรงแค่ไหน ท่านว่ากาลข้างหน้าจะยิ่งหนักกันมากขึ้น วาสนาคนจะลดลง โรคภัยจะก่อตัวรุนแรง อายุขัยคนจะถดถอยลงไปเรื่อยๆเช่นนี้องค์พระศรีท่านจึงให้ทำหุ่นถ่ายกรรมขึ้นมา

    เมื่อมีหุ่นนี้อยู่กับตัวแม้ใครจะเล่นงานเราก็เข้าผิดที่ผิดทาง ทำอะไรเราก็ทำผิดตัวผิดตนวนอยู่แบบนั้นไปลงกับพ่อหุ่นทั้งหมด(พ่ออาจารย์ท่านว่าพวกที่ปล่อยของนี่ไม่ได้กินเลยตะปูอะไรต่อมิ้อะไรที่เขาปล่อยกันในอากาศรอคนดวงตกวาสนาตกจะเข้ามาซ้ำเติมตกลงมาเต็มไปหมดตอนเสกหุ่น)เพราะเคราะห์หามยามซวยมันเกิดขึ้นไม่ได้ด้วยหุ่นไปเปลี่ยนวงจรชีวิตเราทั้งหมด ท่านจึงอุปมาว่าหุ่นนี้เป็นเสมือนตัวตายตัวแทนที่เป็นผู้ดูแลวงจรกรรมและชาตาของเราหากมีสิ่งรบกวนใดๆเขาจะรองรับเคราะห์กรรมแทนเราทั้งสิ้น และย้อนสนองคืนการกระทำไปตามเจตนาและชะตาฟ้าที่ควรจะเป็นเช่นนั้น

    ### เมื่อหุ่นถ่ายกรรมหรือพ่อเพิ่มบุญทำงานแม้เศษกรรมทั้งหลายเขาก็ไม่เว้นเพราะเขาชำระทิ้งตั้งศูนย์ให้ชีวิตเราใหม่ทั้งหมด ไอ้เศษที่ว่านี่แหละเป็นปัญหาใหญ่ของชะตาวาสนามนุษย์ เพราะมันเป็นเศษบางทีจึงไม่ได้ปรากฏในชะตาลิขิตทำให้อ่านอย่างไรก็อ่านไม่ออกจากเรื่องเล็กน้อยเมื่อลุกติดไฟแล้วมันก็กลายเป็นชนวนเผาผลาญตัวเองเผาไปลึกจนถึงจิตวิญญาณ ซ้ำเศษกรรมทั้งหลายร้อยทั้งร้อยล้วนแต่มีคู่กรณีที่ผูกมันเอาไว้ด้วยแรงอาฆาตพยาบาททั้งสิ้นดังนั้นพอเกิดผลมันจึงแรงบางคนชีวิตมาดีๆจึงไม่แปลกที่จะรู้สึกว่าถึงคราวซวยแทนคนอื่น บางคนก็โดนฉกฉวยชะตาวาสนาที่ควรจะเป็นของตัวเองทั้งชีวิตไปอย่างโจ่งแจ้ง บางครั้งมีวาสนารู้ว่าเป็นของตัวเองก็เอามาไม่ได้กลับกลายเป็นเราไปใช้หนี้กรรมให้คนอื่นแทน ซ้ำเศษกรรมทั้งหลายยังพร้อมขยายผลผูกพันธ์กับกรรมใหม่เสมอๆกลายมาเป็นกรรมปัจจุบันติดตามตัวเองไปอีกหลายภพชาติ เช่นนี้หุ่นถ่ายกรรมนอกจากจะช่วยให้คราวเคราะห์ระงับไปยังเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีอีกด้วย แม้มีเศษกรรมใดๆต่อแถวรอซ้ำเติมเรามากมายเพียงใดพ่ออาจารย์ท่านว่าก็ปล่อยให้มันเข้ามา หุ่นนี้ไม่ได้ไปหยุดวงจรเขาหากแต่จะเปลี่ยนวงจรใหม่ นี่แหละคือพระเวทย์วิชาในสมเด็จพระศรีอาริย์ท่าน

    ซ้ำหุ่นนี้สมเด็จพระศรีท่านยังโองการให้พ่ออาจารย์แกะเป็นหุ่นทรงมนต์(ขัดสมาธิพนมมือ) เพื่อให้เหมาะแก่การลงวิชาพระเจ้าทรงมนต์เสริมกำลังในตัวหุ่นด้วย เช่นนั้นหุ่นนี้จึงจะเสริมกำลังเครื่องมงคลวัตถุอาถรรพ์ทั้งหลายตลอดจนคนที่มีลอยสักอักขระเลขยันต์พระคาถาอยู่กับตัวหรือแม้แต่คนที่ท่องบ่นมนตราใช้พระคาถาก็ตาม พ่อหุ่นเขาจะทรงไว้ให้ทุกอย่างเป็นผล..สัมฤทธิ์ผล..ใช้ได้ผล ไม่มีการเสื่อมถอยในคุณวิชา เป็นการทวิบารมีให้กับสิ่งดีๆที่อยู่ในชะตาครอบครองของตนเอง ท่านว่าพลังตั้งต้นดีอย่างไรแรงอย่างไรพอตัวเรามีพ่อหุ่นเสริมเข้ามาเขาจะฟื้นฟูพลังงานของเวทย์มนต์คาถาอักขระทั้งหลายหนุนไปอีกชั้นหนึ่งเรียกว่าอะไรอยู่กับตัวเราถือว่าดีหมด ใครเคยรับอะไรใช้อะไรทำอะไรไม่ได้ดั่งใจไม่เห็นผลให้บอกแก่พ่อหุ่นท่านจะเห็นผลทันตา แม้โดนคนดีคนวิเศษจากไหนกลั่นแกล้งจะกระทำข่มอำนาจวาสนาบารมีคนใหญ่คนโตที่มีอำนาจล้นฟ้าล้นเมืองพ่ออาจารย์ท่านว่าขอแค่บอกพ่อหุ่นจะกลายกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ คนที่เคยแกล้งจะไม่กลั่นแกล้งเราอีกซ้ำยังมีแต่จะคอยช่วยเหลือ ...จะใช้พ่อหุ่นท่านข่มใครก็เปลี่ยนน้ำใจเขาให้กลับตาลปัตรดั่งหนูกลัวแมว หากจะขอวาสนาทางโชคลาภจากพ่อหุ่นด้วยตบะบารมีเทพารักษ์ที่รักษาหุ่น(พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาชอบให้โชคนัก) เมื่อจะเข้าที่นิทราในราตรีให้เอาพ่อหุ่นใส่ไว้ใต้หมอนที่หนุนนอน จะขอหวยขอโชคลาภหรือจะสอบถามสิ่งใดให้อธิษฐานบอกตัวพ่อหุ่นแล้วจะรู้เองเห็นเองอยากรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอะไรท่านจะเปิดนิมิตให้รู้ให้เห็นทุกประการ นอกจากนี้ยังเป็นพยนต์ชั้นยอดมีจิตวิญญาณขอได้ไหว้รับตามไปทุกที่ไม่ต้องเลี้ยงดูแต่อย่างใด ท่านว่าแล้วแต่เราจะอธิษฐานเลยอยู่ในเคหะสถานบ้านเรือนเขาก็คอยเฝ้าบ้านให้ หากเราไปไหนเค้าก็เดินตามเราไปหมดเข้าได้ทุกที่ทุกทาง ติดอยู่กับเราตลอดเวลาเสมอด้วยมีเทพยดาประจำกายคอยช่วยเหลือเรา ซ้ำยังมีอานุภาพเด่นด้านกันเสนียดจัญไร คุณไสยสิ่งอัปมงคล ภูติผีปีศาจ ลมเพลมพัดทั้งมวล ป้องกันอันตรายที่จะมาสู่ตนเองจะมาสู่สถานที่พักอาศัยได้ทุกสิ่ง แม้มีภยันตรายเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยอานุภาพทางมายาศาสตร์ศัตรูจะเห็นเรามีพวกมากมายหลายร้อยคน

    หุ่นถ่ายกรรมนั้นทำยากพ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากต้องได้วิชาขององค์พระศรีแล้วยังต้องคุยกับเทวดาเขารู้เรื่องต้องรู้ภูมิเทวดาเพื่อคนใช้จะได้สบายยิ่งกว่าคำว่านั่งกินนอนกิน เรียกว่าต้องหาพวกก่อนทำมันยุ่งแบบนี้ ยุ่งตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำโดยท่านต้องคุยกับเทวดาบอกว่าเทวดาจ๋าอยากจะทำบุญร่วมกันกับมนุษย์มั๊ย...*** ท่านว่าเพื่อให้หุ่นมีฤทธิ์มากจะต้องใช้เทพที่มีศักดิ์ใหญ่สุดแห่งฉกามาพจรภูมิมาช่วยทำโดยองค์พระศรีจำเพาะให้เลือกนิมมานรดีเทวภูมิและปรนิมมิตวสวัตตีเทวภูมิ ท่านว่าต้องเป็นสองภพภูมินี้เท่านั้น เมื่อจะเสกต้องเข้าไปขออนุญาติท้าวสุบินมิตรเทวราชซึ่งเป็นจอมภพของนิมมานรดีเพื่อจะขอบารมีท่านส่วนปรนิมท่านก็ขอบารมีท้าวมาลัยมาช่วย ท่านว่าที่ต้องใช้บารมีจอมภพของสองภพนี้เท่านั้นก็เพราะเค้ามีหน้าที่เกื้อหนุนกัน ท้าวสุบินมิตรนั้นเป็นเทวดาที่มีอานุภาพมาก อยากได้อะไรจะสนุกสนานเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายชนิดไหนเหนือไปกว่าห้วงคิดคำนึงของเรา(ความสุขของจอมภพ) ไม่ว่าจะสุขอันปราณีตล้ำค่าอย่างใดท่านก็ล้วนแต่เนรมิตได้เองเสมอใจตนเช่นนั้นเรียกว่าปรารถนาอะไรก็สร้างขึ้นมาเองแบบนี้ ซ้ำท้าวมาลัยนั้นอยากได้อะไรคิดอะไรเพียงแค่คิดก็สำเร็จได้เองดังพระประสงค์ เนื่องจากจะมีเทวดาของท้าวสุบินมิตรจากนิมมานรดีคอยตามอ่านใจตามเนรมิตสิ่งต่างๆให้เรียกว่าสบายที่สุดในหกภพสวรรค์ทีเดียว เมื่อขอบารมีของสองจอมเทพลงหุ่นถ่ายกรรมนั้นสมเด็จพระศรีอาริย์ท่านบอกพ่ออาจารย์ว่า " ต่อไปนี้จะกลายเป็นหุ่นเสมอใจ เพราะคิดสิ่งใดก็เสมอใจด้วยสิ่งนั้น "

    หุ่นทุกตัวให้มัดด้วย "ตะกรุดบารมีพระเจ้าห้าสิบหกชั้น"

    ตะกรุดบารมีพระเจ้าห้าสิบหกชั้นนั้น
    เป็นธรรมเวทย์ที่เน้นใช้ทางหนุนธาตุต่างๆในร่างกายตนทั้งยังคอยแบ่งเบาโรคภัยไข้เจ็บสาเหตุเพทภัยต่างๆทั้งภยันตรายทั้งปวงจากตัวเราส่งเข้าตัวพ่อหุ่น ท่านว่าในชีวิตเราสิ่งใดที่มันยังขาดไปมันก็จะเต็ม สิ่งใดที่มันเกินไปคุณของตะกรุดก็จะลดทอนทั้งอุปัทวอันตรายเคราะห์กรรมโรคภัยทั้งหลายเช่นนี้จะลดทอนไป ท่านว่ามนุษย์ที่เกิดมาตามกฏแห่งกรรมนี้มีอยู่แค่สองอย่างในความรู้สึกตนคือไม่เกินไปก็น้อยไปไม่มีมากไปหรือน้อยไปกว่านั้น ด้วยหากมากไปนั้นก็ได้ชื่อว่าทุกข์น้อยไปก็ยิ่งทุกข์อีกไม่ขาดก็เกินเป็นเช่นนี้ทุกคน ตะกรุดนี้จึงช่วยสร้างความสมดุลเป็นวิชาสายกลางเป็นวิชาของความพอดี ซึ่งจะปรับสมดุลย์ธาตุตลอดจนวิถีชีวิตไม่ให้มีมากหรือน้อยเกินไป

    ท่านว่าที่ว่ามีพอดีนั้นคือมีความสุข แบ่งเบาทุกข์โศกและหนุนกลับความสุขสนองกับพ่อหุ่น ให้เราห่างไกลจากทุกข์หรือนิรทุกข์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้แม้ตกแก่ใครไม่เห็นเค้าว่าจะแย่ลงซักรายมีแต่กลายเป็นตัวตนที่คาดไม่ถึงไปแล้วทั้งนั้น ทั้งยังเป็นกำลังของพระพุทธเจ้าห้าสิบหกชั้น(เท่าคุณของพระพุทธเจ้า)อันได้ชื่อว่าสูงส่งเหนือกว่าคุณวิชชาหรือไสยเวทย์ทั้งหลาย ท่านว่ากำลังนี้แม้เพียงชั้นเดียวก็มีคุณมากประมาณยิ่งกว่าฝอยท่วมหลังช้างแล้วแต่นี่กลับมีถึง 56 พ่ออาจารย์ท่านทำการจารบีบอัดอักขระมากที่สุดเพื่อให้ได้ตะกรุดดอกเล็กๆที่บรรจุไว้แน่นด้วยคุณวิชาท่านว่าเป็นวิชาธรรมสูงส่งอันจะบันดาลให้เกิดความสำเร็จสมหวังด้วยอานุภาพแห่งอาถรรพ์ธรรมเวทย์ วิชาเช่นนี้เหนือกว่าคุณไสยอวิชชาทั้งปวงท่านว่าไม่มีใครเค้ามักใช้มักทำกันเพราะมันเหมือนเป็นดาวข่มสำหรับผู้ถือ ดุจว่าข่มและเหยียบวิชาไสยเวทย์และอาถรรพ์ฝ่ายต่ำฝฝ่ายอวิชชาทั้งหลายไว้ทีเดียว แม้ใครมีของดีหรือเล่นคุณไสยอย่างไรท่านว่าวิชานี้จะเสริมให้พ่อหุ่นข่มและกำราบเขาทั้งหมด ใครมาสายต่ำคนเหล่านั้นไม่มีที่ว่าจะชนะและอยู่เหนือกว่าเราเลยด้วยเป็นอาถรรพ์ที่เหนือกว่าวิชาอาถรรพ์ใดๆทั้งปวง เป็นการทำวิชาวาระสำคัญที่จิตวิญญาณเบื้องบนยังต้องน้อมเศียรนมัสการธรรมเวทย์นั้นเพราะธรรมเวทย์เหล่านั้นแม้แต่เหล่าองค์สมเด็จพระพิชิตมารพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังน้อมยึดถือไว้เป็นสรณะ ท่านว่าจะพูดมากก็ไม่ควรบอกได้คร่าวๆเพียงเท่านี้ เอาว่าห้าสิบหกชั้นนี้เมื่อเสริมกำลังกับพ่อหุ่นเพิ่มบุญเขาไอ้เรื่องแย่ๆร้ายๆต่างๆบรรดามีที่จะทำความเสียหายล่มจมพอมันว่าจะเกิดๆ มันก็กลับไม่เกิด กลับหน้ามือเป็นหลังมือไปหมด..เพราะตะกรุดเขาสูบมาลงที่พ่อหุ่นทันที พูดง่ายๆตัวเราก็คือไม่เหลือและไม่มีนั่นเอง คือไม่มีช่วงเวลาเสวยทุกข์เสวยเคราะห์กรรมเช่นนี้

    วิธีใช้
    เมื่อได้ไปบูชานั้นท่านว่าให้เอากระดาษมาเขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของตน แผ่นหนึ่ง อธิษฐานว่าพ่อพระศรีอาริย์อันทรงคุณไม่มีประมาณ ขอพ่อคุณโปรดเมตตาสูบแสนฟ้าลบถ่ายบรรจุกรรมเพื่อแบ่งเบามหันต์โทษของลูกแก่พ่อหุ่นด้วย ท่านว่าต้องเขียนเองทำเองนะทำแทนกันไม่ได้ตั้งจิตอธิษฐานให้ดีๆกระดาษแผ่นนี้สอดไว้ด้านในถาวรเลย

    ### และในกรณีที่มีปัญหาใหญ่มีเรื่องเดือดร้อนที่แก้ไม่ตกคิดว่าตึงมือหาทางออกใดไม่เจอแล้ว ท่านว่าให้นำกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง มาเขียนเรื่องเหล่านั้นแล้วอธิษฐานยัดใส่ลงไปในส่วนของตะกรุด ท่านว่าตั้งจิตตั้งใจกันดีๆเมื่อจะยัดลงไปให้สวดคาถาไปเรื่อยๆเหมือนเราขอความช่วยเหลือโดยตรงจากพ่อหุ่น กระดาษนี้เมื่อใช้เสร็จก็ดึงออกและเผาไฟเสีย พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะกระดาษคือความทุกข์เมื่อเผาแล้วก็สิ้นเชื้อหมดกำลังไปเช่นนี้ทุกข์จะคลายเคราะห์จะหมดกาลแห่งทุกข์นั้นจะคลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว ท่านว่าวิธีนี้ทำได้เรื่อยๆ

    หุ่นถ่ายกรรมนั้นทำยากมากใครได้ไว้ท่านย้ำว่าให้รักษากันให้ดี เพราะต้องเสกจนกระทั่งฟ้าผ่าผิดอุผมาดั่งว่ามีเรื่องเดือดร้อนจนพระอินทร์ร้อนอาสน์ แม้ฟ้ายังผ่าผิดที่ผิดตัว ด้วยสายฟ้านั้นพ่ออาจารย์ท่านเปรียบไว้กับการลงทัณฑ์ของสวรรค์ เป็นเคล็ดที่ว่าแม้ทัณฑ์สวรรค์ฟาดลงมาก็ยังไม่ถูกไม่โดนเนื้อตัวเสมอด้วยเคราะห์กรรมและเศษกรรมทั้งหลายก็เข้าไม่ถึงเนื้อตัวเราได้ ท่านว่าต้องเสกจนฟ้าผ่าฟ้าฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าฟาดอย่างไรก็ไม่ถูกไม่โดนพ่อหุ่นและมณฑลพิธี เช่นนี้กว่าจะเสกสำเร็จได้จึงนับว่าเป็นของที่เสี่ยงตายทำมาให้ใช้กันโดยเฉพาะ คิดแล้วก็ยังอดใจหายไม่ได้กว่าจะทำสำเร็จจนเสกเก็บไว้ยาวๆเพราะถ้าพลาดก็คือเราตายมันท้าทายถึงขนาดนั้นดังนั้นจึงพลาดไม่ได้เลย ท่านว่าต้องพิถีพิถันมากเพราะเคราะห์กรรมไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ดังจะเห็นว่าเราพูดมากก็ไม่ได้เพียงทำได้แต่อธิบายให้เธอเข้าใจเท่านี้ พยนต์หรือหุ่นถ่ายกรรมนี้ท่านทำให้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นท่านว่าเราทำให้เพราะมีกรรมร่วมกันแต่ตอนนี้ก็หมดภาระของเราแล้วใครเขาจะสำนึกรู้เห็นความสำคัญอย่างไรก็ให้มาเอาไป พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าพ่อหุ่นนี้เป็นของเฉพาะตัวและที่สำคัญเป็นของคู่บารมีที่เบื้องบนท่านได้บัญญัติไว้แล้วว่าตนไหนเป็นของใครองค์พระศรีอาริย์ท่านเลือกเจ้าของเอง ดังนั้นจะมีคนที่ทันบูชาไม่มากท่านว่าถ้าไม่ใช่คู่กันแล้วแม้ประสงค์ก็ไม่ได้บูชา ด้วยพระศรีท่านบอกเอาไว้เพียงว่า "สว่างไสวมาก ทางเปิดแล้ว เจ้าของเขามาครบแล้ว"

    คาถาบูชา
    นะสูบๆ พุทโธกโรนิ โอมสูบมหาสูบ พุทโธนะสุคโต โคตมะสูบมหาสูบสิทธิสหับ สิทธิกูจักเชิญเอาพระสังโฆมาทรงบ่าซ้าย กูจักเชิญเอาพระนารายณ์มาทรงบ่าขวา กูจักเชิญเอาพระคาถามาทรงเหนือหัว ยะสะปุริสะทาโส มหาลาภัง ปุริสังมิมิ มิ
    กาลทุกสิ่งสมปรารถนาเสมอใจแล และหากหมั่นสร้างกุศลสั่งสมบารมี ท่านว่ามีกินมีใช้จนสิ้นภพจบชาติทีเดียว


    *** พ่อหุ่นถ่ายกรรมรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลและวันเดือนปิเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะเชิญสมเด็จพระศรีเพื่อบอกกล่าวพ่อหุ่นและทำการฝากฝังสายบุญต่อไป รายได้ร่วมสมทบทุนข้าวสารอาหารแห้งบริจาคเป็นทานบารมีให้แก่สงฆ์ในวัดที่ห่างไกลความเจริญสืบไป

    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นถ่ายกรรมเพิ่มบุญสอดประสานแบ่งเบามหันต์โทษ (สูบแสนฟ้าลบถ่ายบรรจุกรรม) บูชา 4,000 บาท


    98205627-601730653760769-6680206009790627840-n.jpg 96685949-542982649938775-2475295480678973440-n.jpg

    97101893-2030209830456602-7339548077444825088-n.jpg 96686862-240119730647956-5426416549697159168-n.jpg 98000818-284259555929335-7141118290562121728-n.jpg 96740527-2274562166172833-9111293258947887104-n.jpg
    96866342-243216440292101-3505557297747197952-n.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นถ่ายกรรมนั้นเป็นเรื่องของกรรมใครจะทันได้ "อยู่ที่วาสนาชะตาคนนะ" องค์พระศรีท่านว่ามาแบบนี้ ใครอ่านจบจะทันไม่ทันก็อยู่ที่บุญทำกรรมสร้างเค้า
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มีเรื่องมีดแหกมาเล่าให้ฟังกัน พอดีเมื่อคืนมีพี่ผู้หญิงสอบถามว่า
    *** มีดแหกต้องใช้บ่อยๆใช่มั๊ยคะ
    *** อะไรที่ยังตัดไม่ขาดถ้าตัดทุกวันจะขาดใช่มั๊ยคะ


    ก็ต้องเกริ่นก่อนว่าพี่เค้าตั้งใจจะตัดความสัมพันธ์เรื่องคู่บารมีแบบนี้ พี่เค้าเล่าว่าเมื่อเช้าลองใช้มีดแหกตัดเรื่องคู่บารมีดู เห็นเป็นโซ่หลายๆเส้นเชื่อมจาก 1 คนต่อ 1 โซ่มายังเรา มีหลายคนมาก มีหลายโซ่เชื่อมมายังเราด้วยยังตัดไม่ค่อยขาด แต่เมื่ออธิษฐานใช้ปฐมพุทธจักรเพชร(ตะกรุดที่ฝังกับมีด)ตัดก็ขาดไปหลายเส้น ยกเว้นตรงกลางเส้นเดียวโซ่สีแดงตัดยากมาก ตัดยังไงก็ไม่ขาดแล้วคิดให้โซ่สะบั้นออกจากกันแต่ก็มาต่อใหม่ แปลว่าต้องตัดเรื่อยๆทุกวันใช่มั๊ยคะ

    อันนี้ก็ต้องพูดไว้ก่อนว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ เรื่องของกรรมนี่ไม่ใช่ในมือเรามีของวิเศษอะไรแล้วนึกจะตัดให้ขาดก็จะขาดได้ทันที เพราะกรรมมันอาศัยระยะเวลาบ่มเพาะที่ยาวนานมาก ยิ่งมันเข้มแข็งมากชัดเจนมากก็นั่นแหละมันจะตัดยากขึ้นแต่ก็ยังถือว่าตัดได้ เพียงแต่ต้องทำบ่อยๆซ้ำๆใช้ความเพียรเข้าว่า พี่เค้าถามมาว่าโซ่แดงคืออะไร ในมุมของเราก็คือด้ายแดงคือโซ่ที่เชื่อมเราเค้าหาคู่บารมีนั่นแหละ แต่กว่าจะได้มาเป็นคู่กันเช่นนี้ต้องผ่านอะไรๆกันมาเยอะแทบจะนับชาติไม่ได้

    *** ดังนั้นเวลาอาราธนามีดแหกหากเหลือบ่ากว่าแรงและอยากเห็นผลไวก็เรียกใช้พุทธจักรเพชรแบบนี้ก็ได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ กรรมบางอย่างมันไม่เล็กแล้วก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นถ้าจะทำจริงๆก็ต้องหมั่นทำย่อมเห็นผล
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ EI 8931 9724 2 TH

    พี่พรเทพ EI 8931 9725 6 TH
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536

    คำว่าทาน แปลว่าการให้ การให้นี้มีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน ที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านตรัสไว้
    - ให้สรรพสิ่งของต่างๆอย่างนี้ พระพุทธเจ้าเรียกว่าอามิสทานได้แก่การให้วัตถุ จะเป็นเงินหรือวัตถุสิ่งของเครื่องใช้เครื่องบริโภคก็ตามเรียกว่าอามิสทานทั้งนั้น ให้ผลอย่างสูงก็แค่กามาวจรสวรรค์
    - ธรรมทาน ก็คือการบอกธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ การให้ธรรมทานเป็นสิ่งที่ดีเพราะบุคคลที่ได้อ่านหรือได้ฟังจะเกิดปัญญา สิ่งใดที่ไม่เคยรู้จะได้มีความรู้ เมื่อรู้แล้วจะเกิดความมั่นใจมีปัญญาเกิดขึ้น ถ้ามีปัญญามากก็หลีกหนีความทุกข์ได้มากปัญญาน้อยก็หลีกหนีความทุกข์ได้น้อยดีกว่าคนที่ไม่มีปัญญาเลยที่ต้องทนกับความทุกข์


    ธรรมทานอีกส่วนหนึ่งคือการให้อภัย จัดว่าเป็นทานที่ไม่ต้องลงทุนเป็นปรมัตถทาน ปรมัตคือความจริงแท้การให้ทานทั้งหลายเป็นปัจจัยไปสู่สวรรค์

    อภัยทานก็คือการให้อภัยซึ่งกันและกัน หมายความว่าคนใดก็ตามที่ทำให้เราขุ่นเคืองทำให้เราไม่ชอบใจไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ถ้าเขาด่าเราเราคิดว่าโอกาสสักวันหนึ่งข้างหน้าเราจะด่าตอบ เขาตีเรา เราคิดว่าเราจะตีตอบแต่โอกาสมันยังไม่มี คิดไว้ในใจว่าเราจะเอาคืนบ้างอย่างนี้พระพุทธองค์กล่าวว่าเป็นอาฆาตคือพยาบาทเป็นไฟเผาผลาญดวงจิต

    เพราะคนที่เราคิดจะด่าหรือประทุษร้ายก็ดีเขายังไม่ทันรู้ตัวเขามีความสุขดีอยู่ เราคนที่คิดจะทำเขานั่นแหละตั้งแต่แรกหาความสุขไม่ได้คบไฟแห่งความพยาบาทมันเข้าเผาผลาญโดยที่เราไม่รู้สึกตัว บางครั้งอาจคิดวางแผนการต่างๆนาๆเพื่อจะทำร้ายเขาโดยไม่ให้ผิดกฎหมาย อารมณ์อย่างนี้เขาเรียกว่าอำนาจโทสะเข้าสิงใจเป็นโทษแก่ร่างกาย

    การแก้อารมณ์นี้เราต้องมีเมตตาจิตเป็นที่ตั้ง คิดเสียว่าเป็นกรรมเก่าของเราเขามาทวงแล้วเราก็ชดใช้ให้เขาไป หรือถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับเราในการคบหาคนหรือหลีกหนีเขาเสีย หรือระวังในการพูดจาหรือคบหากับเขาพูดเท่าที่จำเป็น การอาฆาตพยาบาทใช่ว่าจะไปเปลี่ยนเขาได้ทุกอย่างล้วนมีเหตุปัจจัยจึงมีเกิดและเมื่อหมดเหตุปัจจัยจึงมีดับ

    การนั่งสมาธิแล้วแผ่เมตตาให้กับตัวเราเองก่อนจึงแผ่ให้กับคนที่เรารัก ตามมาด้วยบุคคลที่เป็นกลางๆ และศัตรูหรือผู้ที่ว่ากล่าวทำร้ายเราเป็นลำดับหลังสุดได้ผลดีทีเดียวไม่เชื่อลองทำดูสิ คนเราคบกันก็เพื่อจากไม่ช้าก็เร็ว เรื่องราวในชีวิตมีมากมายเราต้องรู้จักปล่อยวางไม่ปรุงแต่งต่อ ในขณะที่นั่งสมาธิหยุดอยู่กับองค์ภาวนาใดก็ได้อาจกล่าวได้ว่าขณะนั้นไม่ขอมีเหตุปัจจัยหรือภาษาพระเรียกว่านิพพานชั่วขณะหนึ่ง


    การให้ธรรมทานทั้ง 2 อย่าง กล่าวคือการให้ธรรมเป็นทานก็ดีหรือการให้อภัยทานก็ดีล้วนเป็นปัจจัยแห่งพระนิพพาน

    557000001349001.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ใครรอชุดหลักร้อยเย็นนี้ติดตามกันนะครับ ชุดนี้ค่อนข้างจะพิเศษจริงๆอย่าพลาดกันนะ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,145
    ค่าพลัง:
    +16,536
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสะกดทุกข์ (ชุดดับธาตุนิพพาน)

    เป็นที่จับตารอกันมายาวนานสำหรับตะกรุดสะกดทุกข์เพราะพ่ออาจารย์ท่านไม่ทำพร่ำเพรื่อนั่นเองพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดสะกดทุกข์นี้เป็นของสำคัญสายเสด็จพระใหญ่ เพราะต้องลงสูตรวิชาสะกดทุกข์จึงเรียกชื่อตะกรุดเช่นนี้ ทั้งนี้เมื่อลงสูตรสะกดทุกข์เสร็จแล้วจึงจะลงวิชาดับธาตุนิพพานเสริมไว้อีกชั้นหนึ่ง

    อันตะกรุดสะกดทุกข์นี้ท่านว่าใช้ได้สารพัดครอบฟ้าคลุมดิน อะไรที่เกี่ยวกับทุกข์มันสะกดไว้ได้ทั้งสิ้นเป็นการทำวิชาเพื่อข่มใส่ทุกข์..ให้หยุด..ให้รั้ง..ให้ชะลอไว้ ให้ทุกข์และความตึงเครียดตลอดจนความเศร้าหมองอาการไม่ผ่องใสในชีวิตเราทั้งหลายชะลอตัวลง ท่านว่าตะกรุดนี้ทำยากทำได้ไม่มากเพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสะกดทุกข์..ใช้เพื่อสะกดความทุกข์เข็ญทั้งหลาย วิชานี้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลองพกไปดูเถิดนอกจากสะกดทุกข์แล้วยังจะทำให้จิตใจสดชื่น ทำให้ใจสูงมีกำลังใจมากอย่างน่าประหลาด ซึ่งกำลังใจตัวนี้ก็คือที่มาแห่งพลังจิต พลังที่จะใช้เปลี่ยนชีวิตของเรานั่นเอง..ดังนั้นท่านจึงทำตะกรุดสะกดทุกข์ชุดพิเศษที่เรียกว่าชุดดับธาตุนิพพานไว้โดยมีคติว่าทำเพื่อใช้กันและแก้ได้แม้กระทั่งตัวทุกข์ของสรรพสัตว์เป็นตำรับที่ครบรสในดอกเดียว ท่านว่าจะได้ไม่ต้องห้อยกันหลายอย่างบูชากันหลายดอกเพราะท่านทำให้ยิ่งกว่าตัวสะกดทุกข์ธรรมดาเสียอีก เพราะใช้สะกดทุกข์,ภัย,โรค,เวร..ได้ทั้งสิ้นเป็นวิชาของเสด็จพระใหญ่ที่สำเร็จด้วยตัวธรรม วิชาธรรมขั้นสูง สำเร็จด้วยคุณแห่งองค์พระทั้งแสนโกฏิ การสำเร็จตะกรุดสะกดทุกข์ด้วยคุณแห่งองค์พระแสนโกฏิอันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นอาทินั้น นอกจากจะทำได้ยากและใช้เวลานานแล้ว..แต่ในผลที่ได้กลับคุ้มเกินคาด ท่านว่าก็คุ้มกับเวลาที่เสียไปหลายปี พ่ออาจารย์ท่านอธิบายให้เข้าใจกันแบบง่ายๆว่าให้ดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้เวลามีคนคิดร้ายหรือกระทำการณ์ใดๆหมายรังแกพระบรมศาสดา ท่านว่าสิ่งนั้นย่อมทำอะไรไม่ได้เลยทุกข์ทั้งหลายทำร้ายหรือทำลายคุณแห่งพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้ทั้งสิ้น ซ้ำไม่ต้องรอชาติหน้าฉันใดใครทำอะไรเอาไว้ผลกรรมนั้นเห็นคาตากันในชาตินี้ ดังนั้นตะกรุดสะกดทุกข์ที่สำเร็จด้วยบารมีองค์พระทั้งแสนโกฏิในนิพพานก็มีคุณเช่นนั้น..ท่านว่าบอกได้เท่านี้นะ

    เนื่องจากเป็นของสำคัญและทำได้น้อยพ่ออาจารย์ท่านว่าพูดมากไม่ได้ เพราะคนเอาไปได้ใช้เค้าก็รู้เองเห็นเองชื่อเขาก็บอกตรงๆอยู่แล้วว่าเป็นตะกรุดที่เอาไว้สะกดทุกข์ ### ดังนั้นคนมีความทุกข์ก็ต้องใช้ และคงเป็นครั้งเดียวที่เราจะทำตะกรุดสะกดทุกข์ร่วมกับวิชาดับธาตุนิพพานนี้เพราะว่าของแบบนี้เป็นของที่มีอาถรรพ์สูงครูแรงเป็นของที่มีเจ้าของทุกคน อย่าเห็นว่าดอกเล็กแล้วจะได้ปรามาสหรือดูถูกไปเขาเรียกว่านี่แหละเล็กดีแต่รสโตมีอานุภาพเกินตะกรุดสะกดปกติทั่วไปมากมาย ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาทำให้เองลำพังแค่สูตรสะกดทุกข์นี้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าเราขอองค์ปฐมท่านไว้ให้คนเอาไปใช้ได้มีวาสนาต่อเติมความสุข..ต่อชะตาความฝันแรงปรารถนาของตน
    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าให้จำเอาไว้อย่างเดียว คนที่บูชาตะกรุดสะกดทุกข์ชุดนี้เมื่อได้ดีแล้วจำใส่ใจเอาไว้ว่าเรามาถึงจุดนี้ก็ด้วยพระพุทธคุณท่านสงเคราะห์ อย่าเอาฐานะไปใช้รังแกใครอย่าเอาตะกรุดนี้ไปสะกดหรือกลั่นแกล้งใคร เพราะตะกรุดนี้นอกจากจะสะกดทุกข์แล้วมันยังสะกดได้ทุกสิ่งด้วยเช่นภยันตรายต่างๆแต่ตรงนี้เราจะไม่พูด เพราะพูดเยอะไปคนจะเอาไปเล่นไปทำโทษแก่ชีวิตสัตว์ทั้งหลายดังนั้นเพียงอาราธนาไว้คุณพระท่านสงเคราะห์เต็มที่เรื่องอื่นไม่ต้องพูดกัน

    ตะกรุดชุด "ดับธาตุนิพพาน"

    ที่ผ่านมาถือว่าน้อยนักที่พ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเครื่องมงคลอันมีอิทธิคุณเกี่ยงโยงกับเรื่องของ
    กรรมโดยตรง ท่านว่าสัตว์ทั้งหลายนั้นล้วนแต่ถูกผูกอยู่ในกฏแห่งกรรม มีเกณฑ์ชะตาที่จะเกิดสุขทุกข์ระคนกันไป ซึ่งเกณฑ์ชะตาเหล่านี้สามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยความประพฤติและการกระทำ หากแต่กฏแห่งกรรมนั้นแก้ไขไม่ได้ เพราะสัตว์ทุกรูปนามนั้นปรารถนาความสุข ซึ่งสุขนั้นก็มีทั้งสุขที่ฉาบฉวย..ปราณีต..ไปจนถึงบรมสุข ไม่ว่าจะสัตว์ชนิดใดหรือมหาสัตว์,โพธิสัตว์ก็ตามล้วนบำเพ็ญบารมีทนรับความลำบากอย่างยิ่งเพื่อไปให้ถึงความสุขนั้นนั่นคือพระนิพพาน

    พ่ออาจารย์ท่านได้ลง
    วิชาดับธาตุนิพพานเสริมลงไปโดยท่านได้ทำตามวิชาเฉพาะซึ่งสมเด็จองค์ปฐมได้ประทานให้แก่ท่านไว้ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาที่พิเศษมากเนื่องจากเกี่ยวเนื่องด้วยธาตุนิพพานอันต่างจากเครื่องมงคลใดๆที่จะพึงมีหรือปรากฏมี ซ้ำวิชาที่ใช้ลงนั้นก็เป็นของสูง เป็นวิชาชั้นสูงยิ่งกว่าตำรับใดๆท่านว่าไม่ว่าวิชาในมนุษย์โลกหรือเทวะโลกตลอดจนพรหมโลกก็ดีนั้นล้วนเทียบกันไม่ได้ เพราะวิชานี้มีเฉพาะเหล่าพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้แม้พระอริยสาวกผู้เป็นอรหันต์ขีณาสพก็ไม่สามารถรู้ได้จะมีที่รู้ก็คือเหล่าพระพุทธเจ้านอกจากนั้นก็คือผู้ที่รับวิชาจากเสด็จพระใหญ่ท่านโดยตรง

    สำหรับพ่ออาจารย์นั้นท่านพิจารณาเห็นแล้วว่า
    กระแสแห่งพระนิพพานนั้นนอกจากเหล่าพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์แล้วยากที่บุคคลทั้งหลายจะเข้าถึง ท่านจึงได้สร้างลงสูตรดับธาตุนิพพานนี้เสริมไว้ในตะกรุดสะกดทุกข์เนื่องจากวิชานี้มีอานุภาพต่อต้านกรรมโดยตรง ท่านว่าเหนือกว่าวิชาหนุนดวงหรือวิชาที่เสกโดยคุณแห่งวิปัสนาญาณทั้งหลาย กอปรกับอักขระเลขยันต์นั้นซับซ้อนต้องลงถึงสองชนิดด้วยกัน พ่ออาจารย์ท่านได้ประกอบวิชาลงอักขระเดินธาตุนิพพานโดยขอความอนุเคราะห์และสงเคราะห์จากเสด็จพระใหญ่โดยตรงได้จารตะกรุดชุดดับธาตุนิพพานขึ้นมา ท่านว่าวิชานี้เป็นของสำคัญนักแม้ตกในพรหมโลกหรือเทวโลกก็ดี ทั้งพรหมและเทพยดาทั้งหลายย่อมให้ความเคารพนบนอบดุจเข้าเฝ้าเบื้องหน้าสมเด็จพระชินสีห์เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าธาตุนิพพานในตะกรุดนี้มีผลเกี่ยวเนื่องกับบรมสุขโดยเฉพาะ เมื่อธาตุนิพพานอยู่กับผู้ใดก็ย่อมถือได้ว่าผู้นั้นถึงซึ่งบรมสุขอย่างแท้จริง เมื่อนั้นความทุกข์ทั้งหลายย่อมจะไม่มากล้ำกรายได้ แม้แต่กรรมเวรหรือภัยจากอมนุษย์ทั้งหลายก็ดี *** เช่นนี้จึงจะเรียกว่าสะกดทุกข์ทุกประการ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วแม้เหล่าสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อทรงตรัสรู้นั้นตลอดไปจนสิ้นอายุขัยแห่งพระชนม์ชีพท่านก็ยังรับผลของกฏแห่งกรรมอยู่ จวบจนท่านเข้านิพพานจึงจะพ้นกฏของสิ่งสมมติทั้งหลาย ดังนั้นธาตุนิพพานจึงเป็นสิ่งสำคัญวิชานี้จะลงจะเกิดขึ้นท่านว่าจะเกิดขึ้นในวาระสำคัญเท่านั้นแม้พระศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองหรือตกต่ำเพียงใดหากเสด็จพระใหญ่ท่านไม่เปิดให้แก่ผู้ใดแล้ววิชานี้ย่อมไม่เกิดขึ้นเลย
    เพราะมีผลใหญ่หลวงให้ล่วงกรรมได้โดยตรงท่านว่าแม้มีทุกข์เข็ญใดเป็นปัจจัยให้เผชิญอยู่ก็ดีให้ระลึกถึงองค์ปฐมเป็นที่สุด กาลแห่งทุกข์นั้นย่อมคลี่คลายและล่วงผ่านไปได้เสมอดุจว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลย แม้ทุกข์นั้นจะมีผลสืบมาจากกฏแห่งกรรมก็ตาม ### ท่านว่าตรงนี้ศรัทธามีส่วนมาก ยิ่งศรัทธามากก็ยิ่งได้ผลมาก พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาแล้วว่าเหตุในปัจจุบันนั้นคนลืมสุขตกทุกข์นั้นมีมาก ด้วยว่าวาระเวรกรรมนั้นหนุนสัตว์ให้โลกปั่นป่วนวุ่นวาย ผู้มีอำนาจล้วนทุศีลขาดความสุจริตยุติธรรมส่งผลตามมาถึงคนกลุ่มใหญ่ในทุกๆประเทศล้วนเดือดร้อนตามกันไปทั้งหมด ท่านจึงเสี่ยงสัตย์เพื่อลงวิชาดับธาตุนิพพานในตะกรุดสะกดทุกข์ขึ้นมาให้ผู้ที่มีบุญในศาสนาพระสมณะโคดมและมีบุญสัมพันธ์กับเสด็จพระใหญ่องค์ปฐมได้นำไปบูชา

    ดังที่กล่าวไปแล้วว่าวิชาชุดดับธาตุนิพพานนี้ต้องลงสองส่วน อีกส่วนหนึ่งจารด้วยวิชาพุทธพรหมกายสิทธิ์ท่านว่าวิชานี้ดีทางเสริมบารมี
    คนเราเมื่อสะกดทุกข์แล้ว..ปิดกรรมแล้ว..ก็ต้องเร่งสร้างบารมีหนุนชีวิตตัวเอง วิชานี้เป็นวิชาที่หนุนบารมีให้กุศลกรรมส่งผลท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ นอกจากเสริมบารมีแล้วยังเกี่ยวกับการสร้างฤทธิ์เป็นวิชาที่มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วจะหาวิชาใดที่จะเสริมส่งให้ผู้ครอบครองนั้นล่วงอิทธิฤทธิ์วิเศษได้ย่อมไม่มีอยู่เลย ท่านว่าฤทธิ์วิเศษนี้คือฤทธิ์ทางใจไม่ใช่จะไปดำดินเหิรฟ้าที่ไหน ท่านพิจารณาแล้วว่าเป็นของมงคลชั้นเลิศเอาไว้ติดตัวเอาไว้ใช้เดี๋ยวก้รู้เอง มันจะพอกพูนและเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณติดตัวไปถึงภพหน้าไม่ตายตามกายสังขารทั้งคนที่ไม่เคยมีสัมผัสพิเศษ,ไม่เคยมีลางสังหรณ์,ไม่เคยมีฤทธิ์ทางใจทั้งหลาย..ท่านว่าเดี๋ยวก็จะมีจะค่อยๆมีค่อยๆเกิดขึ้นค่อยๆเป็นค่อยๆไปและมากขึ้นแม่นยำขึ้นพอกพูนไปเรื่อยๆ ท่านว่านี่มันวิเศษถึงปานนั้น หากคนไหนใช้เป็นนำมาประกอบการทำสมาธิเข้าฌานหรือฝึกพลังทางจิตท่านว่านี่ยิ่งกว่าเสือติดปีก,จะไปชมป่าหิมพานต์,จะไปพิภพนาคาหรือจะไปคุยกับเทวดาหรือพรหมทั้งหลายก็ย่อมทำได้ทั้งสิ้น เช่นนี้มันจะสั่งสมพอกพูนขึ้นเองเวลาเราสร้างบารมีหรือนำมาใช้เวลานั่งสมาธิวิปัสนา แม้พกไว้ปกติก็ยังเป็นมหาอำนาจทำให้คนเคารพหวั่นเกรงมาจากจิตใจของเค้า

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดมาอุดคลุกมวลสารอันมีอิทธิมงคลอันมีพรรณคุณวิเศษอีกคำรบหนึ่งก่อนจะทาสีแดงทับไว้ ท่านว่าของที่คลุกไว้ก่อนลงสีนั้นแม้ไม่เสกก็ยิ่งกว่าขลังด้วยเป็นของที่มีอิทธิคุณสูง ดังนี้

    - สีผึ้งหลวงปู่ภูวัดอินทร์ ท่านว่าสีผึ้งนี้เป็นของโบราณสืบทอดมา อย่างที่ทราบกันว่าหลวงปู่ภูท่านเป็นพระทองคำเป็นศิษย์ในเจ้าพระคุณสมเด็จโต แต่น้อยคนนั้กจะรู้ว่าท่านมีวาจาสิทธิ์พูดอะไรก็เป็นไปตามปาก สำหรับสีผึ้งนี้เป็นของใช้แต่เดิมของท่านพ่ออาจารย์ว่าไม่รู้ท่านได้มาแต่ไหนหรือท่านทำขึ้นเองแต่เอาแน่ว่าเป็นของที่ท่านใช้ มันแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นของดีที่สุดไม่มีอะไรดีกว่านี้ท่านว่าคนจะเล่นทางมหานิยมหรือมหาเสน่ห์ควรมีไว้ ท่านว่าไม่ต้องดูไกลดูแค่องค์หลวงปู่ภูท่านมีคนรักคนเคารพกันทั่วเมืองมีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งนี้แต่ก่อนมีทั้งอาจารย์ทั้งคนมาขอบูชาท่านเขาว่าแค่เม็ดกลมๆเท่าปลายเข็มหมุดให้ก่อนละหมื่นถึงกระนั้นท่านก็ยังเงียบท่านยังไม่เคยนำออกมาให้ใครทั้งสิ้นด้วยเก็บเอาไว้รอเวลาเสด็จพระใหญ่ใช้งานแล้วจะนำออกมาทำของโดยครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ป้ายสีผึ้งนี่เป็นสื่อแรงครูที่ตะกรุดทุกดอก

    - ผงโพธิ์นิพพาน ท่านว่าผงนี้ท่านปรุงขึ้นจากไม้ที่มีพรรณคุณวิเศษหลายชนิดแต่เพื่อให้ตรงตามชื่อตะกรุดจึงเรียกว่าผงโพธิ์นิพพาน โดยท่านได้นำผงไม้โพธิ์นิพพานมาผสมกับผงไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง,ผงไม้กาตอมซาก,ผงไม้ตะเคียนหลักเมืองนคร,ผงไม้เสาตะลุงช้างโบราณ,ผงไม้เสาชิงช้าโบราณ ท่านว่าไม้แต่ละอย่างนั้นล้วนมีอิทธิคุณแฝดมีสิริมงคลและพุทธคุณอย่างสูงต่างกันไป ท่านว่าบางอย่างเป็นของโบราณอย่างไม้เสาตะลุงต้นนี้อายุกว่าสี่ร้อยปีนานกว่าอายุกรุงเทพเสียอีก ส่วนใหญ่เป็นของโบราณที่มีอำนาจลึกลับรักษาหวงแหนทั้งนั้นท่านพลีมาและก็เชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหล่านั้นมาช่วยหนุนช่วยเสริมผู้บูชาโดยเฉพาะโดยนำผงไม้เหล่านี้คลุกไว้ที่ตะกรุดก่อนจะลงสีแดงทับอีกชั้นหนึ่ง

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างตะกรุดสะกดทุกข์(ชุดดับธาตุนิพพาน)ขึ้น ท่านว่าไม่ต้องพูดกันมากเพียงมวลสารต่างๆที่นำมาใช้นั้นก็ดีในตัวอยู่แล้วด้วยแต่ละอย่างถ้านำมาบอกกล่าวกันจริงๆแล้วก็เป็นทั้งหนุนดวงอย่างที่สุด,เป็นของสูงที่สุด,เป็นเสน่ห์อย่างที่สุด,เป็นมงคลอย่างที่สุดทั้งสิ้น เมื่อได้ตะกรุดแล้วท่านว่าการเสกนั้นยากกว่า การจะเสกให้ได้ตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านมีบัญชาไว้ไม่ใช่ง่ายนอกจากเสกบนพื้นดินแล้วท่านยังให้เสกบนฟ้ากับใต้ดินอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าการเสกที่เสด็จพระใหญ่ท่านกำหนดเช่นนี้ย่อมเป็นอุบายธรรม หลังจากเชิญเสด็จพระใหญ่มาบรรจุวิชาแล้วท่านจึงดำเนินการณ์เสกให้ครบทั้งสามภพภูมิดังกล่าว โดยเสกบนฟ้าท่านก็นำตะกรุดนั้นขึ้นไปเสกบนยอดเขายอดภูเชิญเทพพรหมทั้งหลายมาเป็นสักขีพยาน,เสกใต้ดินท่านก็ปิดถ้ำทำเชิญพญานาคคนธรรพ์วิทยาธรมาเป็นสักขีพยาน ท่านว่าให้คิดกลับไปใหม่ ท่านว่าคงทำไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สองเพราะใช้เวลานานมาก...เสกแต่ละครั้งอย่างต่ำสามวันสามคืน ต่อไปคงทำไม่ได้อีก เพราะเทพพรหมและนาคราชทั้งหลายต้องลงมาช่วยหนุนช่วยกันทำอย่างต่อเนื่อง ท่านว่าทุกการกระทำไม่มีเสียเปล่าตะกรุดนี้มีฤทธิ์พิเศษอย่างแท้จริง

    คาถาบูชา
    นะมะพุทธัง นะพุทธะสังสะตะอุอิ ปาสุอุชาวิระสติ พุทธิจะติสิวังพุทธัง อิมังคะมังทิตวิสัง อรหังโลกะวิทู ยะวะโลกะวิทู สัพพะอะระหา พุทธะสังมิ พุทธะสังอิ อิสวาสุ สะระณะมะ ทุสะนิมะ ผะเวสัจเจเอหิ อะนิโสสะ เอตังสะตึง เยตะมังคะลัง


    ### เพราะเป็นธาตุนิพพานจึงสื่อกับจิตและศรัทธาจริตของผู้คนได้ง่ายที่สุดด้วยตัวรู้ในจิตของผู้บูชาที่จะสื่อกับนิพพานธาตุนั้นเป็นเรื่องอจินไตย คนไหนรู้ตัวว่าชีวิตมีทุกข์มาก-มีทุกข์น้อยต่างกันอย่างไรเขาก็ต้องใช้ตามจำนวนที่ใจเขาบอก(เพราะนั่นคือตัวเลขที่เสด็จพระใหญ่ท่านให้แต่ละคนรู้เห็นไม่ใช่ทุกข์น้อยใช้มากทุกข์มากใช้น้อย) ด้วยตะกรุดสะกดทุกข์เป็นของเฉพาะทาง..ใครที่มีกรรมหนัก..ยังไม่ลืมตาอ้าปาก..อยากสำเร็จ..อยากมั่นคงท่านว่าค่อยมานำไปบูชา ใช้ตัวรู้นั่นแหละที่ข้างบนเขาสื่อมาเพื่อจะบอกเราว่าใครควรอาราธนาไว้เท่าไหร่ให้เหมาะสมกับบารมีของเราตามภพชาติแต่ละคนเช่นนี้ รายการนี้นั้นรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสะกดทุกข์ (ชุดดับธาตุนิพพาน) บูชา 900 บาท

    97401699-654079618476559-6784947295633801216-n.jpg
    98205070-2842424775875117-1099390269180084224-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...