ยักษ์ใหญ่AESสหรัฐฯผลิตไฟฟ้าเวียดนาม

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 กุมภาพันธ์ 2549 21:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บริษัทผู้นำทางด้านพลังงานของสหรัฐ AES และบริษัทอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ถ่านหินซึ่งดำเนินการโดยรัฐ คือ บริษัท Vinacomin จะร่วมกันรับผิดชอบโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนมงเดืองแห่งที่ 2ใน จ.กว๋างนิงแหล่งถ่านหินลิกไนต์ด้วยขีดความสามารรถในการปั่นไฟถึง 1,000 เมกะวัตต์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ผู้จัดการรายวัน- บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ AES จากสหรัฐฯ กำลังหาลู่ทางเข้าลงทุนก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังความร้อนจากถ่านหินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเวียดนาม ด้วยเงินลงทุนถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยร่วมทุนกับบริษัทท้องถิ่นเวียดนามในรูปแบบ BOT (build-operate-transfer)

บริษัทผู้นำทางด้านพลังงานของสหรัฐ และบริษัทอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ถ่านหินซึ่งดำเนินการโดยรัฐ คือ บริษัท Vinacomin จะร่วมกันรับผิดชอบโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนมงเดืองแห่งที่ 2 (Mong Duong 2) ใน จ.กว๋างนิง (Quang Ninh) แหล่งถ่านหินลิกไนต์ขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของประเทศ และด้วยขีดความสามารรถในการปั่นไฟถึง 1,000 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะเป็นแห่งที่ใหญ่ที่สุดของประเภทเดียวกันในเวียดนาม

ตามรายงานของนิตยสาร Vietnam Investment Review ของกระทรวงแผนการและการลงทุน โรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนแห่งนี้มีกำหนดเปิดใช้ในปี 2553 เพื่อช่วยลดการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าภายในประเทศ

ตามประมาณการของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ในปี 2549 นี้ ทั่วประเทศจะขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 1.1 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง และจะเพิ่มขึ้นเป็น 10.3 พันล้านกิโลวัตต์ ในปี 2552 ก่อนที่จะลดลงเหลือประมาณ 7.2 พันล้านกิโลวัตต์ ในปี 2553

รองผู้อำนวยการบริษัท Vinacomin นายเหวียน ดึ๊ก จาง (Nguyen Duc Trang) กล่าวว่าบริษัท AES และบริษัท Vinacomin ได้เซ็นข้อตกลงหลักการในการลงทุนรูปแบบ BOT โดยฝ่ายสหรัฐฯ จะถือหุ้น 90% และหุ้นส่วนที่เหลือถือโดยบริษัท Vinacomin

"เราประเมินว่า การก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าจะใช้เงินลงทุนที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยที่เงินลงทุน 80% จะได้จากการกู้ยืมจากต่างประเทศ" นายจาง กล่าว

บริษัท AES จะเสร็จสิ้นการศึกษาประโยชน์จากการก่อสร้างโรงไฟฟ้ามงเดืองแห่งที่ 2 (Mong Duong 2) แห่งนี้ ภายในกลางปี 2549 เพื่อให้มั่นใจว่าการก่อสร้างจะสามารถเริ่มต้นได้ภายในเดือน ก.ค. ปี 2550 "เราหวังว่าขั้นตอนทั้งหมดของโครงการจะดำเนินตรงตามกำหนดที่ตั้งไว้" นายจาง กล่าว

ที่มงเดืองจะมีโรงไฟฟ้าจำนวน 2 สถานี ที่มีขนาดความสามารถรวมทั้งหมด 2,000 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้ามงเดืองแห่งที่ 1 จะใช้เงินลงทุนในการก่อสร้าง 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะได้รับการพัฒนาโดยรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าเวียดนาม และจะได้รับการช่วยเหลือด้านเงินทุนจาก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) โดยแหล่งพลังงานแห่งนี้จะใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 6 ล้านตันต่อปี

บริษัท Vinacomin เป็นการรวมตัวกันระหว่างบริษัท ถ่านหินเวียดนาม (Vietnam Coal Corporation) และบริษัทเหมืองแร่เวียดนาม (Vietnam Mineral Corporation) โดยเป็นบริษัทที่จัดหา และขนส่ง ถ่านหิน แร่บ๊อกไซต์ และพลังงาน

บริษัท AES เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านพลังงานของโลก ที่จัดตั้งขึ้นในปี 2524 ได้จัดส่งพลังงานให้แก่ผู้คนหลายล้านคนใน 27 ประเทศทั่วโลก ใน 5 ทวีป ทั้ง อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ เอเชีย ยุโรป และแอฟริกา

บริษัทนี้เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้ารวม 123 แห่งในประเทศต่างๆ สามารถผลิตไฟฟ้ารวมกันได้มากกว่า 44,000 เมกะวัตต์ สำหรับบ้านเรือน ร้านค้า และโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 11 ล้านแห่งในโลก.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>