เรื่องเด่น ภารกิจ “คลินิกพระพุทธเจ้า” ตรวจรักษาชุมชนชาวเนปาล

หลากหลายกิจกรรม หลากหลายโครงการถูกกำหนดออกมา เพื่อเติมเต็มให้กับ ชาวพุทธไทย ชาวพุทธทั้งมวล และ มวลชนในท้องถิ่นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา


พระศรีโพธิวิเทศ (สุพจน์ กิตฺติวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี เจริญพระพุทธมนต์ โดยมีพระสงฆ์เนปาลและคณะจักษุแพทย์เนปาล ร่วมพิธีเปิดสถานพยาบาล “คลินิกพระพุทธเจ้า”.

นอกจากภารกิจหลักอันได้แก่การเผยแผ่ธรรมแล้ว การเข้าถึงจิตใจของ ชุมชนท้องถิ่น การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ไปแสวงบุญได้ดำเนินการควบคู่กันไป เพื่อให้ชาวพุทธได้ไปปฏิบัติธรรมอย่างมีความสุข

การเดินทางไปแสวงบุญ สิ่งหนึ่งซึ่งสำคัญยิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมไว้รองรับคือ เรื่องการเจ็บป่วย ส่งผลให้โครงการจัดสร้าง โรงพยาบาล และ สถานพยาบาล “พระพุทธเจ้า” บังเกิดขึ้นจากแนวคิดของ พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ)

แห่งแรกอยู่ที่ วัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร แห่งที่สอง อยู่ที่ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย และแห่งที่ 3 อยู่ที่ วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล


พระศรีโพธิวิเทศ (สุพจน์ กิตฺคิวณฺโณ) แจกยาและอุปกรณ์ดูแลดวงตาให้แก่ชาวเนปาลที่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจก ก่อนจะกลับบ้าน.

ทั้ง 3 แห่งนอกจากสร้างขึ้นเพื่อดูแลพระภิกษุ สามเณร และผู้แสวงบุญชาวไทยด้วย ทีมแพทย์ พยาบาล จาก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตามจุดมุ่งหมายเดิมแล้ว ยังได้ขยายขอบเขตการดูแลไปยัง ชุมชนชาวอินเดีย และ เนปาล อีกด้วย

วันนี้มาพูดถึง สถานพยาบาลพระพุทธเจ้า ของ วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล ที่ตั้งอยู่ในปริมณฑลสังเวชนียสถานที่ประสูติของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริเวณ สวนลุมพินีวัน


ทีมแพทย์และจักษุแพทย์ไทยและเนปาล ร่วมกันตรวจรักษาชาวเนปาลที่เป็นต้อกระจก และเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก รวมทั้งอาการป่วยต่างๆ.

วัดไทยลุมพินี สร้างขึ้นด้วยศรัทธาของ พุทธบริษัทชาวไทย และ งบประมาณแผ่นดิน เพื่อเป็นการบูชาคุณพระพุทธศาสนาและร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี

คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้สร้าง วัดไทยลุมพินี ขึ้น เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2535 โดยมอบหมายให้ กระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งคณะกรรมการก่อสร้างเพื่อทำหน้าที่ในการออกแบบและควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามเป้าหมาย


ชาวเนปาลที่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจก ต่างดีใจที่สามารถมองเห็นได้ปกติ หลังจากได้รับการผ่าตัดและปิดตา ที่คลินิกพระพุทธเจ้า.

ที่ประกอบด้วยการส่งเสริม เผยแผ่พระพุทธศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมไทย ตามข้อตกลงระหว่าง รัฐบาลไทย กับ รัฐบาลเนปาล ใน โครงการพัฒนาลุมพินีสถาน เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเผยแผ่ และสืบสานพระพุทธศาสนาต่อไป

การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นในปี พ.ศ.2538 โดยพระเมตตาของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2538


จักษุแพทย์ไทยตรวจดวงตาชาวเนปาลที่มารับการตรวจรักษา ก่อนได้รับการผ่าตัด.

ปัจจุบันมี พระศรีโพธิวิเทศ (สุพจน์ กิตฺคิวณฺโณ) เป็นเจ้าอาวาส ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์ ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ตามแนวทางของ คณะพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล มาโดยตลอดทุกด้าน

โดยเฉพาะการร่วมมือกับ Universal College of Medical Sciences เปิดคลินิกพระพุทธเจ้าขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกผู้แสวงบุญ สัปดาห์ละ 2 วัน ทุกวันอังคาร เปิดตรวจทั่วไป และทุกวันเสาร์ เปิดคลินิกฟัน


ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้อกระจกได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจนหายดี.

ต่อมาได้ร่วมมือกับ รัฐบาลเนปาล, สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานกรุงกาฐมาณฑุ

จัดโครงการ “Brightness to Nepalese’s Eyes” เพื่อผ่าตัด ต้อกระจกให้แก่ชาวเนปาลผู้ด้อยโอกาสทุกเชื้อชาติทุกศาสนาในเขตชุมชนรอบ วัดไทยลุมพินี ทั้งเมืองลุมพินี กบิลพัสดุ์ และเทวทหะ

โดยร่วมกับ จักษุแพทย์ท้องถิ่น จาก Tilganga eye hospital, Kathmandu นำโดย ดร.ซันดุค รุยต์ ผอ.โรงพยาบาลตาติลกังกา จักษุแพทย์ชาวเนปาล ผู้ที่เคยได้รับรางวัลเจ้าฟ้ามหิดลมาแล้ว


ทีมทันตแพทย์ไทยและเนปาลร่วมกันตรวจรักษาฟันให้แก่ชาวเนปาล ที่คลินิกพระพุทธเจ้า.

ส่วน ทีมจักษุแพทย์ไทย จาก ราชวิทยาลัย จักษุแพทย์แห่งประเทศไทย นำโดย นพ.พรชัย สิมะโรจน์ เริ่มจัดโครงการครั้งแรกเมื่อปี 2554 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

อีกทั้งเพื่อสนับสนุนงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา การเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเนปาล พร้อมทั้งส่งเสริมบทบาทพระธรรมทูตไทยให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นในระดับนานาชาติ


พระศรีโพธิวิเทศ (สุพจน์ กิตฺคิวณฺโณ) ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับทีมแพทย์ไทย ไปร่วมตรวจรักษาและผ่าตัดต้อกระจกให้กับชาวเนปาล.

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2554-2562 มีผู้เข้ารับการผ่าตัดตา 4,732 ราย เข้ารับการตรวจรักษาตากว่า 30,000 ราย เฉพาะในเดือน ธ.ค.2562 ได้ผ่าตัดตาช่วยเหลือผู้ป่วยถึง 955 ราย และมีผู้เข้ามารับการตรวจตาอีกกว่า 5,000 ราย และปีนี้ก็ยังดำเนินการตรวจรักษาอยู่

โดยมี กองทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์ และ พุทธศาสนิกชนผู้แสวงบุญ ร่วมกันบริจาคให้ดำเนินโครงการจนประสบความสำเร็จท่ามกลางความปลาบปลื้มของชาวเนปาลทั้งมวล ถือเป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่นัก

ขอขอบคุณที่มา
https://www.thairath.co.th/news/society/1794966