พุทธภูมิ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ธรรมะ

7. โรงครัว


ภายในโรงครัวเดิม

ด้านหลังโรงครัวเดิม



โรงครัวในปัจจุบัน



ภายในโรงครัวใหม่



ภาพเพิ่มเติม 1 , 2 , 3
สร้างทางขึ้นใหม่เพิ่มเติมด้วย
​

 

8. ถนนลูกรังเข้าสู่ภูดานไห ระยะทางรวมประมาณ 2 กม.
สภาพถนนทางเข้าวัดยามหน้าฝน

ช่วยกันซ่อมแซม



ยามหน้าแล้ง


ยามหน้าหนาว

ระหว่างการสร้างใหม่ :ถมดินให้เสมอกัน




จากนั้นปูด้วยลูกรัง

สภาพถนนหลังสร้างเสร็จ





ภาพเพิ่มเติม 1 , 2 , 3 ​

 

9. ไฟฟ้า
เดิมทีทางวัดใช้แบตเตอรี่ธรรมดา 2 ก้อน นำมาชาร์ตในตัวเมือง
จากนั้นทางญาติธรรมได้น้อมถวายแผงพลังงานแสงอาทิตย์

ณ ปัจจุบันนี้สามารถใช้ไฟฟ้าหม้อแปลงพิเศษแบบไม่มีบ้านเลขที่
โดยการปักเสาไฟฟ้า แล้วลากสายไฟฟ้าขนาดใหญ่เข้ามา หลังจากการสร้างถนนเสร็จ


ภายในบริเวณวัดส่วนใหญ่เป็นหิน จึงใช้เสาเหล็กปลอดสนิม ปักกระจายตามจุดต่างๆไปทั่วบริเวณวัด
ใช้เวลาสร้างและระดมทุนสร้างถนนและไฟฟ้าประมาณ 1 สัปดาห์เศษ (เสร็จพร้อมใช้ 2 เม.ย.55)

สรุปผลตามนี้​

 

บารมีเหลือล้น

 

10. กุฏิกาลิกองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ :
หรือที่เก็บอัฐบริขาร เครื่องใช้ขององค์ท่าน เป็นห้องทำงานและรับแขกทางไกลด้วยครับ

กุฏิหลังเดิมก่อนปรับปรุงเป็นกุฏิกาลิก (มุมล่างซ้าย)
เดิมทีกุฏิหลังนี้เป็นที่ทำความเพียรขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์มาตั้งแต่ยุคแรกๆ
ต่อมาเมื่อปีที่แล้ว จึงได้ขออนุญาตฯสร้างกุฏิหลังปัจจุบันนี้น้อมถวายแทนหลังนี้

ตามปกติกุฏิที่มุงด้วยสังกะสี อากาศภายใจจักร้อน แต่กุฏิหลังนี้...
โดยเฉพาะห้องฝั่งทิศตะวันตก (ฝั่งห้องน้ำ) จะรู้สึกได้ว่าเย็นเป็นพิเศษ


ห้องฝั่งทิศตะวันตก

ห้องนี้แหละครับที่รู้สึกได้ถึงความเย็นสบาย
เพราะอะไรหรือ? ญาติโยมที่เคยมาพักที่นี่ น่าจะพอหาคำตอบได้
​

 

11. กุฏิคุณแม่บุญชม:
หลังเดิมอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมากๆ (โครงการสร้างกุฏิมอบแด่คุณแม่บุญชม)


หลังใหม่:สร้างขึ้นคู่กับหลังเก่าครับ


ภายใน

มองออกไปด้านนอก...​

 

12. ศาลาปฏิบัติธรรม:กำลังดำเนินการ
หลังเก่า






ศาลาหลังใหม่


เนื่องจากติดฤดูทำนา จึงขาดแคลนช่างครับ​

 

13. ลานปฏิบัติธรรม :
ลานธรรมเดิมของภูดานไห มีอยู่ 3-4 จุด ซึ่งดีอยู่แล้ว
1. ด้านล่างกุฏิองค์พ่อแม่ครูอาจารย์


2. ตรงด้านข้างหอฉัน



ตอนปฏิบัติธรรมข้ามปี 54-55
(ภาพเพิ่มเติม)
3. ในป่าทางทิศตะวันตก



และ 4. ที่แห่งใหม่นี้องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้นำพาสร้างขึ้นมาใหม่
พร้อมกับแท่นประดิษฐานบูชาพระนาคปรกด้วย


เพิ่มเติม 1 , ​

 

พระพุทธรูปปางสมาธินาคปรก 9 เศียร

(องค์ต้นแบบ)
พระพุทธรูปนาคปรก ปางสมาธิ ประทับนั่งขัดสมาธิราบอยู่บนฐานพญานาค 3 ชั้น มี 9 เศียร
หน้าตัก 40 นิ้ว แกะสลักจากศิลาสีเหลืองอ่อน
ที่คณะญาติธรรมจักอัญเชิญมาน้อมถวายแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
ประดิษฐานเป็นองค์พระประธาน ณ ลานธรรม พุทธสถานภูดานไห
เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ปี 2555 (ตรงกับวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2555)
ขอเชิญร่วมงานบุญฯหรือร่วมโมทนาสาธุการครับ


ท่าน พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย จรัสบุญประชา เจ้าภาพหลัก
ณ ตอนนี้ท่านศักดิ์ชัย กับญาติธรรมรวบรวมปัจจัยเกินกว่าค่าเช่าองค์พระฯแล้ว​

แต่เนื่องด้วยกระผมปรารถนาจะมีส่วนร่วมในการสร้างองค์พระฯ จึงขออนุญาตร่วมบุญและขอบอกบุญ
แด่ญาติธรรมทั้งหลายที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมบุญฯในการถวายองค์พระ ณ วันดังกล่าวได้
ปัจจัยร่วมสร้างองค์พระฯในส่วนที่เกิน ท่านศักดิ์ชัยจักน้อมถวายเพื่อสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรมครับ
โดยท่านสามารถโอนปัจจัยร่วมสร้างองค์พระพุทธรูปปางนาคปรก 9 เศียร

(กรุณาร่วมบุญฯภายในวันที่ 2 สิงหาคม 2555)​

ขอกราบโมทนาสาธุในบุญกุศลนี้กับท่านเจ้าภาพทุกๆท่าน
ขอบุญกุศลนี้จงดลบันดาลให้ท่านจงประสบแต่ความสุขความเจริญทั้งทางโลก ทางธรรม
มีกำลังสติปัญญาญาณ รู้แจ้งเห็นจริงในพระธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จนเข้าถึงความพ้นทุกข์ทุกท่านเทอญฯ​

IT Man/24.07.55​

อานิสงค์การสร้างพระพุทธรูป
การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้
1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย
3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้ว ก็จะเลิกเว้นการจองเวร
4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษ เสือร้าย ไม่อาจเป็นภัย
5. จิตใจสงบ ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล
6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฎเกินความคาดฝัน ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7. คำกล่าวเป็นสัตย์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา
8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชาย
9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาเลิศล้ำ บุญกุศลเรืองรอง
10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญอย่างอเนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิด จะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า ปัญญาในธรรมแก่กล้า สามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ
การจัดสร้างพระพุทธรูปและสิ่งพิมพ์เป็นกุศลดังกล่าว ฉะนั้น ในงานวันเกิด งานมงคลต่าง ๆ การฉลองยศหรือตำแหน่ง การทำบุญสะเดาะเคราะห์ หรือขอพร การขอขมาลาบาปตลอดจนการอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นต้น หากได้สละทรัพย์สินเงินทองเพื่อจัดกิจการดังกล่าวด้วย ก็จะเป็นผลานิสงส์สืบต่อไป
อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป
พุทธะบูชา มหาเตโช
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆบูชา มหาโภคาวะโต
อานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูปนั้น จะสร้างด้วยวัตถุใด ๆ ก็แล้วแต่ ย่อมมีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ จะเกิดในภพใดภูมิใดไม่ว่ามนุษย์และเทวดา อินทร์พรหมทุกหมู่เหล่าจะได้เป็นประมุข ประธาน มียศ วาสนา อำนาจ และบริษัทบริวารมาก เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ จะได้เกิดเป็นบรมกษัตริย์ สมบูรณ์ด้วยสมบัติบริวาร และจะได้เกิดเป็นพระบรมจักรพรรดิติดต่อกันถึง 10 ชาติ บริบูรณ์ด้วยลาภยศสรรเสริญทุกประการ จะไปในทิศหนตำบลใดย่อมมีเทวดาและมนุษย์บูชาในที่ทั้งปวง ถ้าปราถนาเป็นสาวกบารมีญาณ สาวิกาบารมีญาณ ปัจเจกภูมิและพระพุทธภูมิสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมสัมฤทธิ์สำเร็จตามความปราถนาทุกประการ ย่อมเป็นผู้มีผิวพรรณอันงดงาม เหมือนทองคำชมพูนุท เป็นผู้มีเสียงไพเราะ เป็นผู้มีทรวดทรงดี เป็นผู้มีรูปสวยงาม เป็นใหญ่ในที่ทั้งปวง ไม่ว่าจะเกิดเป็นเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้มีบริวารมากและบริวารเคารพในที่ทุกสถานในกาลทุกแห่ง เป็นพระราชามหากษัตริย์ เป็นพระเจ้าบรมจักรพรรดิ เป็นพระราชาแห่งเทพยดาในเทพนิกายทั้งหลาย เป็นท้าวสักกะเทวราชและท้าวมหาพรหม สมบัติอันพึงรื่นรมย์ในเทวโลกและมนุษย์โลก ความที่อาศัยคุณเครื่องถึงพร้อมด้วยมิตรแล้ว เป็นผู้มีปัญญาตั้งมั่นในสัมมาทิฎฐิ เป็นผู้ชำนาญในวิชาและวิมุติ มีปฏิสัมภิทาญาณทั้ง ๔ และวิโมกข์ ๓ และสาวกบารมีญานสาวิกาบารมีญาณ ปัจเจกโพธิญาณ พุทธภูมิ อิฐผลทั้งปวงนั้น เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย ย่อมได้ด้วยบุญนิธินั้น คุณเครื่องถึงพร้อมคือบุญนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ใหญ่อย่างนี้
Link เพิ่มเติม 1,2​

รายนามผู้ร่วมบริจาคปัจจัยร่วมสร้างพระพุทธรูปปางสมาธินาคปรก 9 เศียร
น้อมถวายแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช พุทธสถานภูดานไห​

1. คุณ IT Man 3,159 บาท
2. ท่านผศ.ดร.ณัฐนนต์ สิปปภากุล 1,000 บาท (25.07.55)
3. คุณประจักษ์ วินิจฉัยภาค 1,209 บาท (25.07.55)
4. ท่านพิธิชัย 1,000 บาท (25.07.55)
5. ท่านณฐนน สุดใจ 2,000 บาท (ทำบุญที่วัด)
6. ท่านฉันทะธรรม 7,400 (27.07.55)
7. ท่านสมาชิกธรรมและครอบครัว 3,459 บาท (ทำบุญที่วัด)
8. คุณหนุ่ม จักรพรรดิ์และภรรยา (มส.) 2,000 (28.07.55)
9. คุณ.... 500 บาท (28.07.55)
10. คุณแม่ประมวล แพรขาวพร้อมครอบครัว 2,000 บาท (28.07.55)
11. ท่านภูเบศวร์ เพชรภู่ 1,000 บาท (ทำบุญที่วัด)
12. คุณนาถธรรม หนูทอง 1,000 บาท (29.07.55)
13. ท่านนครและครอบครัว 5,009 บาท (30.07.55)
14. ท่านชูเกียรติกับครอบครัวและคณะ 1,090 บาท (31.07.55)
15. คุณมาลัย ขจรบุญรัตนะและครอบครัว 509 บาท (31.07.55)
16. ท่านสันติ คุณมล บ้านสวนสันติธรรม 2,000 บาท (31.07.55)
17. คุณถวัลย์ 2,000 บาท (31.07.55)
18. คุณนงค์เนตร ต๋าคำ 300 บาท (31.07.55)
19. คุณ.... 2,000 บาท (31.07.55)
ยอดรวม 38,635-​

 

ต้องขอกราบโมทนาสาธุกับคณะเจ้าภาพที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (28.07.55) ได้ไปอัญเชิญพระพุทธรูป เพื่อน้อมนำมาถวายฯ ในวาระเดียวกันนี้
สรุปว่าวันอาสาฬบูชาที่จะถึงนี้จักมี การถวายพระพุทธรูปจำนวนทั้งสิ้น 10 พระองค์ทีเดียว สำหรับท่านที่ยังลังเลไม่ไปไม่ได้แล้วนะครับ

ส่วนผม แม้ที่ทำงานเขาไม่หยุดให้เลยสักวัน เนื่องจากต้องเฉลี่ยวันหยุดไปให้เพื่อนศาสนาอื่นด้วย จึงต้องลางานติดต่อกันถึง 3 วัน (1-2-3 ส.ค.55)
เดินทางไป 1 วัน เดินทางกลับอีก 1 วัน ระยะทางไปกลับกว่า 1,500 กม. (Link) แต่ก็เต็มใจพร้อมลุยครับ

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สาวกธรรม1
วันนี้ไปกราบพ่อแม่ครูอาจจารย์มาครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>
โมทนาสาธุครับ งานนี้ต้องขยาย...

งดงามดุจดั่งเนรมิตให้เป็น"พระแท่นปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์"ก็มิปาน สาธุ


ศาลาปฏิบัติธรรมหลวงปู่ศรีสุทโธก็คืบหน้าไปมากแล้ว (เห็นแว่บๆด้านหลังน้องชาย น้องสาว)
น่าจะพร้อมรับญาติโยม หากมีจำนวนมากได้<!-- google_ad_section_end -->

 

ปาฏิหาริย์พระเจ้าเปิดโลก​

จำพรรษาชั้นดาวดึงส์
พระศาสดาเมื่อกระทำยมกปาฏิหาริ<WBR>ย์แล้ว ทรงพิจารณาว่าพระพุทธเจ้าในอดี<WBR>ตเมื่อทำปาฏิหาริย์นี้แล้<WBR>วจำพรรษาที่ไหน ทรงทราบว่าพระพุทธเจ้าทุ<WBR>กพระองค์จำพรรษาในดาวดึงส์แล้<WBR>วแสดงอภิธรรมโปรดพุทธมารดา
เมื่อทรงทราบดังนี้แล้ว จึงแสดงปาฏิหาริย์ย่างพระบาท ๓ ก้าว ก้าวแรกทรงเหยียบเหนือยอดเขายุ<WBR>คันธร ก้าวสองเหยียบเหนือยอดเขาสิเนรุ และก้าวสามย่างพระบาทลงสู่ดาวดึ<WBR>งส์พิภพ การย่างพระบาทของพระศาสดารั้งนี้<WBR>ทรงก้าวไปเหมือนเสด็จดำเนิ<WBR>นตามปกติ ไม่สั้นไม่ยาว และยอดเขาก็ไม่ได้น้อมลงมา เป็นการย่างพระบาทที่สุดมหั<WBR>ศจรรย์
ท้าวสักกเทวราชทอดพระเนตรเห็<WBR>นพระบรมศาสดาเสด็จมา ก็ทรงทราบว่าพระศาสดาจั<WBR>กจำพรรษาบนบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ แต่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์นั้<WBR>นยาวถึง ๖๐ โยชน์ กว้าง ๕๐ โยชน์ และหนา ๑๕ โยชน์ พระศาสดาประทับนั่งใช้ที่เพี<WBR>ยงนิดหน่อย บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์คงคล้<WBR>ายพระแท่นว่างเปล่า
พระศาสดาทรงทราบอัธยาศัย จึงโยนผ้าสังฆาฏิของพระองค์<WBR>ไปแผ่คลุมแผ่นศิลาไว้ทั้งหมด ท้าวสักกเทวราชดำริต่อไปว่าแม้<WBR>สังฆาฏิจะคลุมพระแท่นได้ทั้งหมด แต่พระศาสดาก็คงประทับนั่งในที่<WBR>เพียงนิดหน่อย พระศาสดาทรงทราบอัธยาศัยของท้<WBR>าวสักกะ จึงประทับนั่งทำบัณฑุกัมพลศิ<WBR>ลาอาสน์ไว้ภายในขนดจีวร ประหนึ่งประทับนั่งบนตั่งเตี้<WBR>ยอย่างอัศจรรย์

เสียงจากสวรรค์
พระศาสดาประทับนั่งบนพระแท่นบั<WBR>ณฑุกัมพลศิลาอาสน์ แผ่พระรัศมีสว่างรุ่งเรืองเหนื<WBR>อเทพยดาทุกหมู่เหล่าจากทั้งหมื่<WBR>นจักรวาลที่มาแวดล้อมฟังธรรม
ครั้งนั้นมีเทวดา ๒ องค์มาก่อนนั่งอยู่แถวหน้า คือ อินทกเทพบุตรนั่งอยู่เบื้องขวา อังกุรเทพบุตรนั่งอยู่เบื้องซ้<WBR>าย เมื่อเทวดาศักดิ์ใหญ่เข้ามาถึ<WBR>งภายหลัง อินทกเทพบุตรยังคงนั่งอยู่ที่<WBR>เดิม แต่อังกุรเทพบุตรต้องถอยร่<WBR>นออกไปไกลถึง ๑๒ โยชน์เพื่อหลีกให้เทวดาที่มีศั<WBR>กดิ์ใหญ่กว่า พระศาสดาประสงค์จะแสดงอานิสงส์<WBR>ของทานให้ปรากฏแก่ชาวมนุษย์ จึงแสดงปาฏิหาริย์ตรั<WBR>สถามเทวดาทั้งสองให้ได้ยินถึ<WBR>งมนุษย์โลกว่า อังกุรเทพบุตร ไฉนเธอจึงถอยร่นไปอยู่เสียไกล
อังกุรเทพบุตรกราบทูลว่า ข้าพระองค์เกิดเป็นมนุษย์สมัยที่<WBR>โลกว่างจากพระศาสนา มีใจเป็นกุศลตั้งเตาให้ทานแก่<WBR>คนยากจนยาว ๑๒ โยชน์ ตลอด ๑๐,๐๐๐ ปี ทานนั้นมีผลเพียงนิดหน่อยได้<WBR>มาอุบัติเป็นเทวดาศักดิ์น้อย ต้องถอยร่นให้แก่เทวดาศักดิ์<WBR>ใหญ่ผู้ให้ทานมามากกว่าพระเจ้<WBR>าข้า
พระศาสดาตรัสถามอินทกเทพบุตรบ้<WBR>างว่า อินทกะ ไฉนเธอจึงไม่ต้องถอยร่นออกไปเล่<WBR>า อินทกเทพบุตรกราบทูลว่า ข้าพระองค์ใส่บาตรทัพพีหนึ่งแก่<WBR>พระอนุรุทธเถระ ด้วยผลของทานนี้จึงได้มาอุบัติ<WBR>เป็นเทวดาศักดิ์ใหญ่พระเจ้าข้า
พระศาสดาจึงตรัสว่า

"อังกุระ ทานนั้นเป็นดุจพืชที่หว่<WBR>านลงในนา หากหว่านพืชในนาดีพืชย่อมให้<WBR>ผลมาก แต่หากหว่านพืชลงในนาไม่ดีพืชย่<WBR>อมให้ผลน้อย ฉันใด
การเลือกทักขิไณยบุคคลเสียก่<WBR>อนให้ทานจึงสมควร ทานนั้นย่อมมีผลมากดุจพืชที่หว่<WBR>านในนาดีฉันนั้น
นาทั้งหลายมีหญ้าเป็นเครื่<WBR>องประทุษร้าย ส่วนหมู่สัตว์มี ราคะ โทสะ โมหะ เป็นเครื่องประทุษร้าย เพราะเหตุนั้น ทานที่ให้แล้วแก่ทักขิไณยบุ<WBR>คคลผู้ปราศจากราคะ โทสะ และโมหะ จึงให้ผลมากดุจเดียวกับการหว่<WBR>านพืชในนาที่ปราศจากหญ้า ฉันนั้น”

จบเทศนานั้นแล้ว อังกุรเทพบุตรและอินทกเทพบุตร ได้เป็นพระโสดาบัน

โปรดพุทธมารดา
พระศาสดาประทับจำพรรษาที่ ๗ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทรงแสดงอภิธรรมแก่มายาเทพบุตรพุ<WBR>ทธมารดาซึ่งเสด็จมาจากดุสิ<WBR>ตสวรรค์ ทรงแสดงต่อเนื่องพิสดารแม้<WBR>ในเวลาภิกขาจารก็ทรงเนรมิตพระพุ<WBR>ทธนิรมิตไว้ให้แสดงธรรมต่อ ส่วนพระองค์จริงเสด็จไปบ้<WBR>วนพระโอษฐ์ที่สระอโนดาต บิณฑบาตที่อุตตรกุรุทวีป และมาประทับนั่งทำภัตกิจในป่าหิ<WBR>มพานต์
เมื่อพระศาสดาทรงทำภัตกิจอยู่<WBR>พระสารีบุตรจะมาคอยอุปัฏฐากให้ จนเมื่อเสร็จภัตกิจแล้<WBR>วพระศาสดาก็จะทรงแสดงอภิ<WBR>ธรรมโดยย่อแก่พระสารีบุตร ตรัสว่าให้นำไปแสดงแก่ภิกษุ ๕๐๐ ที่มีศรัทธามาบวชในสำนั<WBR>กของพระสารีบุตรเถระหลังจากได้<WBR>เห็นยมกปาฏิหาริย์
พระศาสดาทรงแสดงอภิธรรมอยู่ ๓ เดือนนับเป็นเวลาในโลกมนุษย์ เมื่อแสดงพระอภิธรรมจบแล้ว ธรรมาภิสมัยได้มีแก่เทวดา ๘๐,๐๐๐ โกฏิ ส่วนพระมหามายาเทพบุตรได้ตั้<WBR>งอยู่ในโสดาปัตติผล
พระอภิธรรมนี้เป็นธรรมอันลึกซึ้<WBR>ง เป็นปรมัตถธรรมแสดงเฉพาะธรรมะล้<WBR>วน ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล พระศาสดาทรงแสดงเพียงครั้งเดี<WBR>ยวบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แก่<WBR>เทวดาและพระพรหมจากหมื่นโลกธาตุ ส่วนบนโลกมนุษย์นั้นพระสารีบุ<WBR>ตรเถระเป็นผู้แสดงอภิธรรมนี้แก่<WBR>ภิกษุสัทธิวิหาริก ๕๐๐ รูป ต่อมาภายหลังได้มี<WBR>การรวบรวมพระอภิธรรมนี้ได้ ๗ คัมภีร์ เรียกว่า สัตตปกรณ์ ประกอบด้วย ธัมมสังคณี วิภังค์ ธาตุกถา ปุคคลบัญญัติ กถาวัตถุ ยมก และปัฏฐาน

มหาชนเฝ้ารอพระศาสดา
ฝ่ายมหาชนที่ได้<WBR>ชมพระศาสดาแสดงยมกปาฏิหารย์ เมื่อพระศาสดาเสด็จขึ้นสวรรค์ชั้<WBR>นดาวดึงส์ลับสายตาไปแล้ว ก็ยังอยู่เฝ้ารอพระศาสดาเสด็<WBR>จกลับจำนวนมากเป็นปริมณฑล ๓๐ โยชน์ มีจุลอนาถบิณฑิกะจัดข้าวต้ม ข้าวสวย มาเป็นอาหารบำรุงเลี้ยง และมีพระโมคคัลลานะเป็นองค์<WBR>แสดงธรรมทุกวัน
ใกล้วันออกพรรษา มหาชนถามไถ่กันว่าเมื่<WBR>อไรพระศาสดาจึงจะเสด็จกลับ พระโมคคัลลานะเถระจึงขึ้นไปทู<WBR>ลถามพระศาสดาว่าจะเสด็จกลับเมื่<WBR>อไร ที่เมืองไหน เพราะมีมหาชนจำนวนมากรอรับเสด็<WBR>จอยู่
พระศาสดาตรัสว่า นับจากนี้ไปอีก ๗ วัน เป็นวันมหาปวารณา พระองค์จะเสด็จกลับโลกมนุษย์ที่<WBR>ประตูเมืองสังกัสสะ แคว้นปัญจาละ ห่างจากกรุงสาวัตถีไปประมาณ ๓๐ โยชน์ ให้พระโมคคัลลานะไปแจ้งข่<WBR>าวมหาชนเหล่านั้น บอกมหาชนเหล่านั้นว่าไม่ต้<WBR>องเตรียมเสบียง เพียงแต่ให้รักษาอุโบสถ และไปรอพระองค์เหมือนไปวิหารเพื<WBR>่อฟังธรรม

ปาฏิหาริย์เปิดโลก
ถึงวันออกพรรษา พระศาสดาตรัสบอกท้าวสั<WBR>กกเทวราชว่าพระองค์จะเสด็จกลั<WBR>บเมืองมนุษย์ ท้าวสักกเทวราชจึงเนรมิตบันไดทิ<WBR>พย์ เบื้องขวาเป็นบันไดทองคำ เบื้องซ้ายบันไดเงิน ตรงกลางเป็นบันไดแก้วมณี ทอดยาวจากยอดเขาสิเนรุมาศสู่เมื<WBR>องมนุษย์ที่ประตูเมืองสังกั<WBR>สสนคร
พระศาสดาประทับยืนเหนือยอดเขาสิ<WBR>เนรุ ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์อีกครั้ง ทรงเปิดสวรรค์ พรหมโลก ลงไปถึงอเวจีมหานรกให้มองเห็นกั<WBR>น ครั้งนั้นเทวดาก็เห็นมนุษย์ มนุษย์ก็เห็นเทวดา เหมือนมาอยู่ที่ตรงหน้า
พระศาสดาทรงเปล่งพระฉัพพรรณรั<WBR>งสี ๓๖ โยชน์ เสด็จพุทธดำเนินลงบันไดแก้วมณี เหล่าท้าวมหาพรหมตามเสด็จทางบั<WBR>นไดเงิน เทวดาตามเสด็จทางบันไดทอง ปัญจสิกขเทพบุตรบรรเลงพิณอยู่<WBR>เบื้องขวา มาตลิสังคาหกเทพบุ<WBR>ตรโปรยของหอมและดอกไม้บูชาอยู่<WBR>เบื้องซ้าย ท้าวมหาพรหมกั้นฉัตร ท้าวสุยามะถือพัดวาลวิชนี ขบวนเสด็จพระศาสดาประกอบด้<WBR>วยพระสิริและพระยศอันยิ่งใหญ่ท่<WBR>ามกลางมหาสมาคมที่เกิดขึ้นเป็<WBR>นครั้งที่สาม มนุษย์และสัตว์ทุกรูปนามเมื่<WBR>อแลเห็นพุทธบารมีดังนั้น ชื่อว่าผู้ไม่ชื่นชมและไม่<WBR>ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้ามิ<WBR>ได้มีเลย
เมื่อเสด็จกลับโลกมนุษย์แล้วที่<WBR>ประตูสังกัสสนคร พระศาสดาได้ทรงแสดงธรรมโปรดพุ<WBR>ทธบริษัทที่มาชุมนุมกันถึง ๑๒ โยชน์ เป็นเวลานาน ๓ เดือน โอกาสนั้น พระศาสดาดำริว่าเหล่าพุทธบริษั<WBR>ทประจักษ์แล้วว่าพระโมคคั<WBR>ลลานะเป็นผู้เลิศทางฤทธิ์ พระอนุรุทธเป็นผู้เลิศทางทิพยจั<WBR>กษุ พระปุณณะเป็นผู้เลิศทางแสดงธรรม แต่ไม่รู้ว่าพระสารีบุตรเป็นผู้<WBR>เลิศด้วยคุณอะไร พระพุทธองค์ประสงค์จะแสดงคุ<WBR>ณของพระสารีบุตรให้ปรากฏจึง

ทรงแสดงปัญจกปัญหา
ครั้งแรก ตรัสถามปัญหาในวิสัยของปุถุชน มหาชนทั้งหลายสามารถตอบได้
ครั้งที่สอง ตรัสถามปัญหาในวิสั<WBR>ยของพระโสดาบัน ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปตอบได้ ส่วนปุถุชนนิ่งอยู่เพราะเกินวิ<WBR>สัย
ครั้งที่สาม ตรัสถามปัญหาในวิสัยของพระสกิ<WBR>ทาคามี ตั้งแต่พระสกาคามีขึ้นไปตอบได้ ตั้งแต่พระโสดาลงมานิ่งอยู่<WBR>เพราะเกินวิสัย
ครั้งที่สี่ ตรัสถามปัญหาในวิสัยพระอนาคามี ตั้งแต่พระอนาคามีขึ้นไปตอบได้ ตั้งแต่พระสกิทาคามีลงมานิ่งอยู่<WBR>เพราะเกินวิสัย
ครั้งที่ห้า ตรัสถามปัญหาในวิสัยของพระอรหั<WBR>นต์ พระอรหันต์ทั้งหลายตอบได้ แต่ต่ำกว่าพระอรหันต์นิ่งอยู่<WBR>เพราะเกินวิสัย
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัสถามปัญหาที่ยิ่<WBR>งขึ้นไปอีกจนแม้พระอรหันต์ทั่<WBR>วไปก็ตอบไม่ได้ เว้นแต่พระอรหันต์ปฏิสัมภิ<WBR>ทาญานจึงตอบได้
ลำดับต่อไปเป็นปัญหาที่พระอรหั<WBR>นต์ปฏิสัมภิทาญาณก็ตอบไม่ได้ มีพระโมคคัลลานะกับพระสารีบุ<WBR>ตรเท่านั้นที่ตอบได้
และในที่สุดเป็นปัญหาที่มี<WBR>พระสารีบุตรรูปเดียวเท่านั้นที่<WBR>ตอบได้
พระศาสดาตรัสถามปัญหาต่อไปอีก แต่เป็นปัญหาที่เกินวิสัย พระสารีบุตรจึงนิ่งเงี<WBR>ยบเพราะไม่สามารถตอบได้
มนุษย์ เทวดา ยักษ์ นาค และสุบรรณ ทั้ง ๘ ทิศ จึงพากันประคองอัญชลีกราบทูลว่า ปัญหานี้ไม่มีใครในสมาคมนี้<WBR>ตอบได้ ขอให้พระองค์ทรงอธิบายด้วยเถิ<WBR>ดพระเจ้าข้า
พระศาสดาตรัสว่านี่เป็นปัญหาที่<WBR>เป็นพุทธวิสัย แต่สารีบุตรเธอก็ตอบได้ ครั้นแล้วก็ทรงแนะนัยของปั<WBR>ญหาให้ เพียงเท่านั้นพระสารีบุตรก็<WBR>ตอบปัญหานั้นได้
ด้วยการแสดงปัญจกปัญหานี้ ธรรมาภิสมัยจึงได้บังเกิดแก่สั<WBR>ตว์ ๓๐ โกฏิ และภิกษุ ๕๐๐ สัทธิวิหาริกของพระสารีบุ<WBR>ตรเถระสำเร็จเป็นพระอรหันต์

ที่มา
- อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พุทธวรรค เรื่องยมกปาฏิหาริย์<!-- google_ad_section_end -->

 

ข้าพเจ้าขออนุโมทนากับทุกๆคน ทุกๆท่าน ทุกรูปทุกผู้ทุกนาม ที่มีส่วนร่วมในบุญทั้งหลายเหล่านี้ตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

สวัสดีค่ะ

วันนี้ เวลา 06.49 น.
ได้โอนปัจจัยร่วมสร้างองค์พระพุทธรูปปางนาคปรก 9 เศียร
จำนวนเงิน 500.90 บาท
เข้าบัญชี คุณสมบัติ แล้วค่ะ

ขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

ด้วยความเคารพ

มาลัย ขจรบุญรัตนะและครอบครัว

 

ขอเชิญร่วมถวายพระพุทธรูป 10 พระองค์

พระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ในภัทรกัปป์ปัจจุบันที่จักร่วมน้อมถวาย

และพระพุทธรูปนาคปรก 7 เศียรอีก 4 พระองค์
รวมพระพุทธรูปนาคปรก 9 เศียร (หลวงปู่ศรีสุทโธ) ก็เป็น 10 พระองค์เต็มพอดี

องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้เมตตาไปพิจารณาให้ด้วย

พระศรีอริยเมตไตรยบรมโพธิสัตว์​

ต้องขอกราบโมทนาสาธุกับคณะเจ้าภาพที่ได้ไปอัญเชิญพระพุทธรูป เพื่อน้อมนำมาถวายฯ ในวาระเดียวกันนี้
สรุปว่าวันอาสาฬบูชาที่จะถึงนี้จักมี การถวายพระพุทธรูปจำนวนทั้งสิ้น 10 พระองค์ทีเดียว​

 

มงคลนิมิต 2 ประการ

เมื่อวานตอนเย็นก่อนที่จะทำวัตร ได้น้อมถวายดอกไม้หอม (ดอกจำปาสีเหลือง,ดอกพุทธรักษาสีขาว)
เพื่อบูชาพระพุทธรูปและพระบรมสารีริกธาตุ จากนั้นได้เตรียมภาชนะ เพื่อการบรรจุพระบรมฯ
เพื่อน้อมอัญเชิญไปถวายแด่องค์พ่อครูอาจารย์ เพื่อความเป็นสิริมงคลทั้งปวงในวาระพิเศษนี้

พระบรมสารีริกธาตุทั้ง 9 สัญฐาน

เนื่องจากเจดีย์บรรจุพระบรมฯนั้นมีสองชั้น จึงพิจารณาอัญเชิญพระโลหิตธาตุกับพระธาตุ
ของพระอัครสาวกทั้งสององค์ด้วย โดยอัญเชิญพระโลหิตธาตุของพระโมคคัลลานะเถระเจ้าไว้ด้านล่าง
จากนั้นอัญเชิญพระธาตุของพระสารีบุตรเถระเจ้าไว้ด้านบน ปิดภาชนะ
แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันประดิษฐานไว้ ณ เบื้องบนสุด
แล้วอัญเชิญขึ้นหิ้งบูชา เตรียมอัญเชิญต่อไป

จากนั้นเตรียมทำวัตรเย็น ก็ได้นึกขึ้นได้ว่าสายตาไปสัมผัสพระธาตุของหลวงปู่มั่นว่ามีขนาดขยายใหญ่ขึ้นชัดเจน
ก็เลยเดินไปดูบนหิ้งพระธาตุอีกครั้งดูพระธาตุของพระอรหันต์องค์อื่นๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ...
พระธาตุของพระสิวลีขนาดเล็ก เรายังไม่เคยเปิดดูเลย ลองเปิดดูซิว่ามีเพิ่มขึ้นมั๊ย พอเปิดผอบมาเท่านั้นแหละครับ
กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมา (เป็นมงคลนิมิตครั้งที่ 1) จึงได้ปิดภาชนะไว้ แล้วมาทำวัตรเย็น

พอทำวัตรเสร็จ คิดว่าน่าจะอัญเชิญพระธาตุของพระสิวลีไปด้วย เนื่องจากสัญฐานนี้ไม่เคยมอบให้ใคร
หรืออัญเชิญออกจากบ้านเลย ผมจึงอัญเชิญเพิ่มด้วย และอัญเชิญพระธาตุของพระราหุลเถระ
กับพระอัญญาโกณฑัญญะเถระไปด้วย สรุปรวมพระธาตุของพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล 5 องค์ด้วยกัน
****************************
เมื่อเช้าก่อนตื่นนอน ก็ได้ฝันว่า:
เมื่อตอนเป็นเด็กนักเรียน ได้มาศึกษาธรรมะกับองค์หลวงตามหาบัว (เป็นมงคลนิมิตครั้งที่ 2)
ภายในกุฏิชั้นเดียวที่มุงด้วยหญ้าคา (ทางบ้านผมเรียก"เถียงนา") ธรรมะต่างๆฟังดูคุ้นหูมาก องค์หลวงตาท่านก็รูปร่างผอม
ผิวขาวสว่างไสวเหมือนปกติขณะชราภาพ แต่ท่านสามารถเดินเหินได้โดยสะดวกสบาย ​

มีอยู่ตอนหนึ่ง ท่านเดินออกจากห้องเรียน ขึ้นไปยังกุฏิท่านฝั่งขวา (ยื่นออกมาเหมือนซุ้ม) ท่านลงมาแล้วเดินหารองเท้า
ปรากฏว่าท่านไปเจอรองเท้าท่านซึ่งงามมากอยู่อีกด้าน คือด้านซ้าย (น่าจะเป็นปริศนาธรรมสักอย่าง) จากนั้นท่านก็เดินผ่านหน้า
พวกเราที่นั่งรออยู่ด้านล่าง เมื่อท่านเดินผ่านก็พนมมือไหว้ตามปกติ อีกสักพักผมก็ตื่นนอนมาทำกิจวัตรและทำวัตรเช้าครับ ​

ก็เป็นเรื่องที่ผมปีติยินดีที่ถือว่าฝันเจอท่านเป็นครั้งที่สอง โดยครั้งแรกฝันเจอท่านก่อนที่จักอัญเชิญพระบรมฯไปถวายท่าน
(ก่อนท่านจะละสังขารเพียงไม่กี่เดือน) ตอนนั้นมีญาติโยมและพระแย้งว่าอย่านำไปถวายท่านเลย เดี๋ยวท่านก็ให้เอาคืนไป
แต่ครานั้นท่านก็เมตตารับไว้ ก็ซาบซึ้งในความเมตตาของท่านมากๆครับ

ขอนอบน้อม กราบ กราบ กราบ
คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระอริยะสงฆ์ ด้วยเศียรเกล้า​

IT Man/31.07.55​

 

รายนามผู้ร่วมบริจาคปัจจัยร่วมสร้างพระพุทธรูปปางสมาธินาคปรก 9 เศียร
น้อมถวายแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช พุทธสถานภูดานไห
1. คุณสมบัติ เพ็งพล 3,159 บาท
2. ท่านผศ.ดร.ณัฐนนต์ สิปปภากุล 1,000 บาท (25.07.55)
3. คุณประจักษ์ วินิจฉัยภาค 1,209 บาท (25.07.55)
4. ท่านพิธิชัย 1,000 บาท (25.07.55)
5. ท่านณฐนน สุดใจ 2,000 บาท (ทำบุญที่วัด)
6. ท่านฉันทะธรรม 7,400 (27.07.55)
7. ท่านสมาชิกธรรมและครอบครัว 3,459 บาท (ทำบุญที่วัด)
8. คุณหนุ่ม จักรพรรดิ์และภรรยา 2,000 (28.07.55)
9. คุณ...(ไม่แจ้งนาม) 500 บาท (28.07.55)
10. คุณแม่ประมวล แพรขาวพร้อมครอบครัว 2,000 บาท (28.07.55)
11. ท่านภูเบศวร์ เพชรภู่ 1,000 บาท (ทำบุญที่วัด)
12. คุณนาถธรรม หนูทอง 1,000 บาท (29.07.55)
13. ท่านนครและครอบครัว 5,009 บาท (30.07.55)
14. ท่านชูเกียรติกับครอบครัวและคณะ 1,090 บาท (31.07.55)
15. คุณมาลัย ขจรบุญรัตนะและครอบครัว 509 บาท (31.07.55)
16. ท่านสันติ คุณมล บ้านสวนสันติธรรม 2,000 บาท (31.07.55)
17. คุณถวัลย์ 2,000 บาท (31.07.55)
18. คุณนงค์เนตร ต๋าคำ 300 บาท (31.07.55)
19. คุณมานิตย์ (พิศดู) 2,000 บาท (31.07.55)
ยอดรวม 38,635 บาท
ยอดที่ต้องโอน 32,172 บาท (ณ. 31.07.55;15:45)
และ 20. คุณเสาวนีย์ สืบอ้าย 500 บาท (31.07.55) (ทำบุญที่วัด)​

หากปรารถนาในสิ่งที่ชอบอันใด ไม่เกินกรรม ขอทุกท่านโปรดอธิษฐานเอาเถิด

โมทนาสาธุครับ​

 

สรุปยอดปัจจัยทำบุญร่วมสร้างพระพุทธรูปปางสมาธินาคปรก 9 เศียร(สร.)

1.คุณพิเชฐ พันธุ์สุขและครอบครัว 3,459.-
2.คุณทวีสุข จิรันดรและครอบครัว 1,500.-
3.คุณแม่บุญมี แซ่โต๋ว 1,000.-
4.คุณภานิดา แอกทองและครอบครัว 1,000.-
5.พ.ต.ท.เฉลิมพล จุมปูอาและครอบครัว 1,000.-
6.คุณพิพัฒน์ เผ่าผุสดีและครอบครัว 1,000.-
7.คุณเยาวเรช หมู่ดี 1,000.-
8.คุณวสันต์ ขาวงามและครอบครัว 500.-

ปรับเป็นยอดเต็ม 10,500.-บาท

โมทนาสาธุในบุญกุศลกับทุกๆท่านนะครับ
สมาชิกธรรม/นรธ.พิเชฐ

 

วาระอาสาฬบูชา 2555

สวัสดีครับญาติธรรม,
ผมพึ่งเดินทางกลับจากภูดานไหเมื่อวาน(05.08.55)เวลา 12:12 ถึงแม่สอด 21:45
ไปภูดานไหวาระอาสาฬหบูชา ๕๕ ในปีนี้ถือว่าเป็นครบรอบ 1 ปีของนักรบธรรม
ที่เข้ามาศึกษาธรรมะจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
และมีความสำคัญมากถึง 4 ประการด้วยกันคือ ได้ร่วมกันน้อมถวาย
[FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?]1. [/FONT][/FONT][/FONT]พระพุทธปฐวีสิริเตโชชัยธรรม (หลวงปู่ศรีสุทโธ)




[/]

[]












[FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?]2. [/FONT][/FONT][/FONT]พระเจ้า ๕ พระองค์

[FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?][/FONT][/FONT][/FONT]
[FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?]3. [/FONT][/FONT][/FONT]หลวงปู่นาคปรกทั้ง ๗

[FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?][FONT=TH NiramitIT?]และ 4. เปิดเผย[/FONT][/FONT][/FONT]รอยพระพุทธบาทคู่ภูดานไห


[/]

[]เรื่องราวอัศจรรย์ปาฏิหาริย์จะเป็นอย่างไร คงต้องรอการคัดกรองรูปภาพ
ที่มีมากประมาณ 2,600 กว่าภาพ (จากกล้อง 5 ตัว)ก่อนแล้วค่อยทยอยลงให้ชมกัน


ปัจจัยที่ได้ร่วมสร้างพระพุทธรูปและน้อมถวายในวันนั้นประมาณ 123,057- (ไม่รวมที่โอนผ่านบัญชีธนาคาร)
ขอโมทนาสาธุกับท่านเจ้าภาพและญาติธรรมทุกท่านที่ได้มาร่วมงานอันเป็นมหากุศลในวาระสำคัญนี้ด้วยครับ

[]IT Man/06.08.55​

 

เรียน ญาติธรรมทุกท่าน,
เรื่อง ปัญหาการนำภาพขึ้นบอร์ดพลังจิต

พักหลังมานี้...การนำภาพขึ้นเวปพลังจิต ช้า และไม่ค่อย show รูปภาพ ทำให้บางครั้งเสียเวลามาก
ระหว่างนี้ผมจะลองหาเวปฝากรูปภาพแห่งใหม่ชดเชยร่วมด้วยนะครับ
อนึ่งหากท่านใดไม่สามารถชมภาพได้ กรุณาสมัครสมาชิกของพลังจิตแล้ว Login เข้าระบบก่อน จึงจะ show ภาพได้

ด้วยความเคารพและขอบคุณครับ<!-- google_ad_section_end -->