เรื่องเด่น พระแนะ”เหลียวหลังแลหน้าสร้างคุณค่าวัยเกษียณ”

พระแนะ”เหลียวหลังแลหน้าสร้างคุณค่าวัยเกษียณ”

พระแนะแนว “เหลียวหลังแลหน้าสร้างคุณค่าวัยเกษียณ” ยกพระพุทธเจ้าไม่เคยเกษียณชีวิตการทำงาน แม้นจบประโยชน์ตนนึกถึงประโยชน์คนอื่น พร้อมแนะเจริญสติเป็นวาระแห่งชีวิตของการเกษียณ

วันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2560 ที่โรงแรมเฮมริเทจ บางแสน จ.ชลบุรี พระปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) วิทยากรกระบวนการธรรมะโอดี ได้เป็นพระวิทยากรบรรยายธรรมเรื่อง “เหลียวหลังแลหน้า สร้างคุณค่าวัยเกษียณ” ให้กับบุคลากรทางศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 ภายใต้คำว่า ” ร้อยรัก ถักศรัทธา ร้อยบูชา กษิณาลัย ” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจกำลังใจในการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข โดยยกพระพุทธเจ้าเป็นต้นแบบของบุคคลผู้ไม่เคยเกษียณชีวิตการทำงาน แม้จะใกล้ปรินิพพานพระองค์ยังทำงานเพื่อคนอื่น เรียกว่า เกษียณก็ต่อเมื่อตายแล้ว พระองค์ใช้ ” จบประโยชน์ตน นึกถึง ประโยชน์คนอื่น ” เพราะการเกษียณอย่างมีสุขนั้น ต้องเป็นชีวิตที่ “สงบ เย็น เป็นประโยชน์”

วัยเกษียณจึงต้อง ” เหลียวหลัง แลหน้า ” เหลียวหลังถึงชีวิตที่ผ่านมาว่าผิดพลาดหรือประสบความสำเร็จอะไร เพราะเป้าหมายสูงสุดของมนุษย์ คือ ” ความสำเร็จ และ ความสุข ” ความสุขจึงเป็นที่มาของความสำเร็จ เวลาใดเรามีความสุขนั่นคือ ความสำเร็จของชีวิต วัยเกษียณจึงเป็นวัยที่สูง 4 ประการ คือ

1) “สูงด้วยประสบการณ์” คือ ผู้เกษียณล้วนมีประสบการณ์มามากมาย เพราะท่านลองผิดลองถูก และบริหารชีวิตผิดพลาดและสำเร็จ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นประสบการณ์ ซึ่งหาซื้อจากที่ใดไม่ได้เลย ท่านจึงเป็นผู้มากด้วยประสบการณ์ชีวิตและการทำงาน

2) “สูงด้วยการเข้าใจชีวิต” คือ เมื่อเกษียณแล้วต้องเข้าใจชีวิตว่าเราถอดหน้ากากแล้ว ถอดหัวโขนแล้ว จึงฝึกความเข้าใจต่อกฏของไตรลักษณ์ คือ ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่ได้ดั่งใจทุกเรื่อง ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ เมื่อเข้าใจต้องทำตัวง่ายๆ ทำใจร่มๆ มองโลกกลมๆ เป็นธรรมะ

3) “สูงด้วยความสงบ” คือ ชีวิตในวัยเกษียณต้องไปถึงความสงบจึงพบความสุขที่ยั่งยืน เพราะปัจจุบันผู้คน ” ฉลาดแต่ขาดความสงบ ” พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ” สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี ” สิ่งที่เป็นเครื่องมือไปสู่ความสงบคือ การภาวนา ให้นำไปสู่การสติทุกย่างก้าวในการดำเนินชีวิต วัยเกษียณการเจริญสติจึงเป็นวาระแห่งชีวิต

๔) “สูงด้วยคุณธรรม” คือ เมื่อเกษียณอย่างคุณภาพ ต้องเป็นผู้สูงอายุ อย่าให้สูงแค่ “วันเดือนปี” แต่ต้องสูงด้วย “คุณความดี” ที่ฝากให้แก่อนุชน เป็นแบบให้กับลูกหลาน เรียกว่า ” เกษียณอย่างมีคุณค่า ชราอย่างมีคุณธรรม “

“ฉะนั้น จึงขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต 1 และรองผู้อำนวยการเขตผู้ประสานงานรวมถึง ผู้อำนวยการรุ่งทวี พรรณา ในการเสริมสร้างความดีงามให้ผู้เกษียณด้วยการฟังธรรม สวดมนต์ ภาวนา ถือว่าเป็นมิติใหม่ของการเกษียณให้กับครูในเขตพื้นที่การศึกษา” พระปราโมทย์ กล่าว

ขอขอบคุณที่มา
http://www.banmuang.co.th/news/education/91877